ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] D18 Teacher's อาจารย์ที่ (ไม่) รัก

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 56


    Chapter 5

     

     

     

     

     

    ชิ...ไอ้เจ้าหัวทองบ้านั้น

     

    ร่างบางผมดำทิ้งตัวลงบนฟูกนอนพร้อมถอนหายใจยาว เจ้าตัวกลิ้งไปกลิ้งมาแล้วนึกไปถึงช่วงที่ทำความสะอาดด้วยกัน พอได้ยินแบบนั้นเขาถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย แล้วไหนจะตอนไปทำความสะอาดตัวและเสื้อผ้าที่บ้านอีกฝ่ายอีก

     

    โอ้ยยยยย

     

    ยิ่งคิด คนร่างบางยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเอง เจ้าตัวพลิกตัวบนฟูกนอนแถมยังเอามือขยี้ผมตัวเองอีกต่างหาก ยิ่งเห็นภาพเจ้าอาจารย์หัวทองบ้ายิ้มนั้นลอยเข้ามาในหัว เขาก็ยิ่งหงุดหงิดอย่างหาเหตุผลไม่ได้ แล้วพอยิ่งหงุดหงิดเจ้าตัวก็ยิ่งพลิกตัวไปมาเหมือนจะระบายอารมณ์ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านั้นประตูห้องนอนก็เลือนเปิดออก...

     

    เคียวยะ

     

    เสียงเรียกดุ ๆ ที่ดังขึ้นทำเอาคนหน้าสวยชะงักนิ่ง หน้าซีดเผือดไปเลย ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นนั่งทับเข่าวางมือบนตักทั้งสองข้างเรียบร้อย มองผู้มาใหม่ด้วยดวงหน้านิ่งไม่แพ้กัน

     

    ไอ้กิริยาที่ฉันเห็นนั้นมันมาจากไหน...ใครเขาสอน

     

    .....

     

    ถามให้ตอบ

     

    เสียงที่ดังขึ้นทำเอาร่างบางสะดุ้ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่เจ้าตัวต้องพยายามบังคับไม่ให้มันสั่นอย่างเต็มที่

     

    ไม่มีครับ

     

    ใบหน้าเคร่งขรึมยังคงเรียบนิ่งแต่ก็มีแววกรุ่นขึ้นมานิดเมื่อได้รับคำตอบจากลูกชาย ก่อนจะไพล่ถามไปอีกคำถาม ซึ่งคนหน้าสวยก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่เหมือนเดิม

     

    แล้วยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าแบบนั้น ใครใช้ให้ขึ้นไปกลิ้งอยู่บนที่นอน

     

    ไม่มีครับ

     

    เคียวยะ!!!”

     

    เสียงเรียกที่ดังขึ้นยิ่งทำให้คนหน้าสวยตัวสั่น แต่ก็พยายามจะเก็บความรู้สึกกลัวไว้ภายใต้หน้ากากแสนเย็นชาที่ปั้นออกมา เขาไม่รู้ว่าวันนี้ท่านพ่อจะอยู่บ้าน ปกติก็เห็นเอาแต่ทำงาน ถ้ายังไม่ได้เวลาอาหารเย็นก็จะไม่ออกมาจากห้อง

     

    .....

     

    เรียกให้ขาน

     

    ครับ

     

    ทำหน้าให้มันสำนึกหน่อยนะ อย่าให้ฉันหมดความอดทน

     

    ร่างบางก้มหน้ารับเพื่อซ่อนแววตาที่สั่นไหว บวกกับขอบตาที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อย ๆ ปกติเขาจะได้เจอท่านพ่อก็คือช่วงทานอาหารเช้า แล้วก็เวลาอาหารเย็นถ้าตัวเขากลับมาทัน นั่งทานข้าวด้วยกันเฉย ๆ ไม่พูดไม่คุยกัน จากนั้นท่านพ่อก็จะหายเข้าห้องทำงานไปไม่ออกมาอีก แต่ถ้าวันไหนออกมานั้นก็แสดงว่ามีเรื่องจะดุเขานั้นแหละ แล้วตอนเช้า พอทานข้าวเสร็จก็จะรีบออกไปทำงานโดยไม่มีแม้แต่การลากัน หรือบางวันก็ไม่ทานแล้วรีบออกไปเลย

     

    ตอนแรกความสัมพันธ์ระหว่างเขากับท่านพ่อก็เหมือนครอบครัวทั่ว ๆ ไป พูดคุย หัวเราะ ยิ้มแย้ม มีความสุข จนกระทั่งพวกเขาเสียท่านแม่ เสียผู้ที่มีรอยยิ้มมากที่สุดในบ้านไป ตั้งแต่วันงานวันสุดท้ายของท่านแม่จบลง จากนั้นเป็นต้นมา ท่านพ่อก็เริ่มเปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อย ๆ แย่ลง จนกลายเป็นเหมือนคนอื่นสำหรับกันและกัน และ ณ ตอนนี้ พวกเขาก็เหมือนไม่ใช่ครอบครับกันอีกแล้ว

     

    ครับ

     

    แล้วอย่าให้ฉันเห็นว่ามีกิริยาแบบนั้นอีกนะ บอกแล้วใช่ไหมว่าต้องทำตัวยังไง

     

    ครับ

     

    .....

     

    .....

     

    มีอาจารย์มาเยี่ยมบ้านทำไมถึงไม่บอกฉัน

     

    ผมก็เพิ่งรู้ อยู่ ๆ เขาก็จะมา

     

    ร่างบางตอบด้วยเสียงที่เริ่มสั่นเครือขึ้นเรื่อย ๆ แต่เจ้าตัวก็ยังพยายามบังคับไม่ให้คนเป็นพ่อจับได้ ดวงหน้าสวยสงบนิ่งเหมือนคนไม่มีความรู้สึก แต่ดวงตากับเริ่มคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ

     

    บ้านเราไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ทำไมไม่รู้จักปฎิเสธ

     

    ผมเห็นว่าไม่เสียหาย ก็เลย...

     

    จะก็เลยอะไร เคียวยะ หัดทำตัวให้มันดูมีสง่าราศีอย่างที่ฉันสอนหน่อยได้ไหม ไม่ใช่คนอ่อนแอปวกเปียกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

     

    .....

     

    คนหน้าสวยพยักหน้ารับเพราะเริ่มจะคุมเสียงยากขึ้นทุกที แต่นั้นกับทำให้เขาโดนดุมากขึ้น เมื่อในสายตาคนเป็นพ่อการไม่รับคำแบบนี้ถือเป็นการเสียมารยาทเหมือนกัน

     

    ทำไมไม่ขานรับคำ

     

    ครับ

     

    แล้วอาจารย์มาบ้านทำไม ไม่ใช่ไปทำเรื่องเดือดร้อนมาหรอกนะ

     

    เปล่าครับ

     

    ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ

     

    .....

     

    วันนี้เธอไม่ต้องทานข้าวเย็น นี่เป็นโทษสำหรับการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม แล้วก็อยู่ในห้องห้ามออกไปไหน นี่เป็นโทษสำหรับการทำตัวไม่เป็นที่น่าไว้ใจจนอาจารย์ต้องมาเยี่ยมบ้าน

     

    ครับ ท่านพ่อ

     

    ฮิบาริคนพ่อทิ้งคำพูดไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมจะเลือนประตูปิดด้วย ปล่อยให้ร่างบางที่นั่งอยู่ กำหมัดแน่น ตัวเล็ก ๆ สั่นสะท้าน ริมฝีปากสีสวยถูกฟันขาวขบจนเลือดไหลซิบ เปลือกตาบางปิดลงเพื่อกลั่นหยดน้ำที่กำลังจะไหลออกมา...ห้ามมีน้ำตา ห้ามมีน้ำตา ฮิบาริ เคียวยะ คนนี้ห้ามมีน้ำตาเด็ดขาด

     

    ฮึก

     

    เจ้าตัวเริ่มขบฟันลงไปแรงขึ้นเมื่อมีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ทำไมกัน กับอีแค่โดนว่าแค่นั้น ทำไมถึงต้องร้องไห้ ทำไมถึงต้องเสียใจขนาดนี้ ความรู้สึกเจ็บ ๆ ที่เกิดขึ้นในอกแบบนี้ จะบอกว่าเคียวยะคนนี้น้อยใจหรือไงกัน...โง่สิ้นดี ต่อให้นายเสียใจหรือน้อยใจแค่ไหน เขาก็ไม่เห็นหรอก มีแต่จะโดนโกรธ โดนว่ามากขึ้นเท่านั้นแหละ จำไว้ว่านายมันไม่มีค่า  ฮิบาริ เคียวยะคนนี้ไม่มีค่าพอจะให้ท่านพ่อมาสนใจความรู้สึกอะไรหรอก

     

     

     

    ทำไมพวกแกถึงมีสภาพแบบนี้กันวะ

     

    ฮิบาริถามขึ้นหลังจากเห็นสภาพแสนอนาจของเพื่อน ๆ ทั้งสามที่ดูท่าเหมือนคนจะไม่พ้นวันนี้ซะอย่างนั้น เจ้าตัวชะโงกหน้าไปมองโกคุเดระใกล้ ๆ

     

    แกก็พูดได้สิ แกไม่ได้โดนอาจารย์อเลาดิคุมอยู่เหมือนพวกฉันนี่

     

    อ้าว ไหนว่าพวกแกจะแกล้งเขาไม่ใช่หรอ

     

    ตอนแรกมันก็ใช่ แต่แล้วพออาจารย์โกรธ คนโดนแกล้งเลยกลายเป็นพวกเรานะสิ

     

    สึนะตอบทั้งที่ยังหลับตาอยู่ เจ้าตัวถอนหายใจแรง ๆ แล้วกางมือ กางขาแผ่หลาอยู่บนพื้นหญ้าซะเลย ตอนนี้พวกเขานั่งกันอยู่ที่สวนหลังโรงเรียนซึ่งเป็นที่ค่อนข้างปลอดคน

     

    อย่างนั้นเลยเชียว

     

    อย่ามาทำเสียงตกใจแต่ยิ้มสะใจแบบนั้นนะเคียวยะ ก็แกโชคดีนี่หน่าที่ได้ไปกับอาจารย์ดีโน่นะ ใครจะไปรู้ว่าเห็นสวย ๆ เงียบ ๆ แบบอาจารย์อเลาดิจะร้ายขนาดนั้น

     

    มุคุโร่บอกทั้งที่สภาพตัวเองไม่ต่างไปจากอีกสองคนที่นอนแผ่หลากันอยู่เท่าไหร่ ฮิบารินั่งมองพวกเพื่อนของตัวเองแล้วส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ

     

    เคียวยะ

     

    อะไร

     

    แกไปดีใจอะไรมา

     

    โกคุเดระกระโดดจากพื้นที่นอนอยู่มาเอามือคล้องคอจากด้านหลังซึ่งแตกต่างจากสภาพก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ก่อนเจ้าตัวจะถามขึ้นมาพร้อมกับเอาหน้ามาถู ๆ กับแก้มของเขา

     

    เปล่า

     

    จะเปล่าได้ไง เมื่อวานเพิ่งโดนพ่อทำโทษ มาวันนี้จะอารมณ์ดีได้ยังไง

     

    สึนะถามขึ้นมาบ้าง ก่อนจะจ้องหน้าคนผมดำอย่างคาดคั้นหมดสิ้นท่าทางเหมือนคนหมดลมเมื่อครู่ไปเลย นี่แสดงว่าเมื่อกี้ที่ทำท่าหมดแรงกันก็โกหกเขางั้นสิ เพราะตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งแข็งแรงดีกันแล้วนี่หน่า

     

    ท่านพ่อไปดูงานที่ต่างประเทศนะ เดินทางตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว อีกเป็นเดือนเลยกว่าจะกลับ

     

    จริงหรอแล้ว...

     

    เพิ่งรู้เมื่อเช้าเหมือนกัน ท่านก็ไม่ได้บอกฉัน...แต่ก็ช่างเถอะ ไม่อยู่ก็ดีแล้ว

     

    ฮิบาริว่ายิ้ม ๆ ก่อนที่อีกสามคนจะยิ้มตามไปด้วย พวกเขารู้กันดีว่าทุกคนในกลุ่มเป็นเหมือนเด็กมีปัญหากันทั้งนั้น จริง ๆ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น แต่เข้ากับคนทางบ้านไม่ค่อยได้

     

    งั้นก็ดี แต่ตอนนี้ไปเข้าเรียนกันดีกว่า จะได้เวลาโฮมรูมแล้ว

     

    พวกแกไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป

     

    อ้าว แกจะไปไหน

     

    เข้าห้องน้ำ

     

    อืม แล้วรีบตามมาละ

     

    เออ รู้แล้ว

     

    ฮิบาริพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปตามทาง จนกระทั่งถึงทางเลี้ยวลงบันได ด้วยความที่ไม่รู้และไม่ระวังว่าจะมีใครเดินมา จึงชนเข้ากับแผงอกกว้างของใครบางคนจนเซถอยหลังมา

     

    โอ้ย

     

    ร่างบางร้องขึ้นก่อนจะยกมือกุมจมูกตัวเองไว้ จากนั้นก็เงยหน้ามองคนที่เดินชนด้วยสายตาไม่พอใจ แต่พอรู้แล้วว่าเป็นใครเจ้าตัวก็ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดเข้าไปด้วย

     

    ฮิบาริ เคียวยะ

     

    ดีโน่ร้องอย่างตกใจ ไม่ใช่ว่าตกใจที่เดินชนกัน แต่ตกใจเพราะเหมือนจะเห็นอะไรแดง ๆ ภายใต้มือที่ปิดอยู่ต่างหาก...เลือดกำเดา?

     

    จะโวยวายทำไม...เอ๊ะ?

     

    ไม่ต้องมาเอ๊ะเลย เลือดกำเดาออกแบบนี้ แต่เมื่อกี้ก็ชนแรงจริง ๆ นั้นแหละ ขนาดฉันยังเจ็บเลย ไปห้องพยาบาลกันเถอะ

     

    ไม่ต้องมายุ่ง ผมไปเองได้

     

    ฮิบาริสะบัดมือคนที่จับข้อแขนตัวเองออกก่อนเดินลิ่ว ๆ ไปห้องพยาบาล แต่คนผมทองก็ยังไม่วายวิ่งตามมาส่งเสียงหน้ารำคาญใส่กันอีก เจ้าตัวถึงได้หันไปตะคอกใส่

     

    นี่เดี๋ยวฉันจะพาไปนะ เกิดอาจารย์ประจำห้องไม่อยู่ฉันจะได้ช่วยดูแทน...

     

    เลิกพูดหนวกหูน่ารำคาญสักทีเถอะน่า!!!!!!!”

     

    เธอ...

     

    .....

     

    ...ขาดแคลเซี่ยมนะรู้ไหม หัดกินนมเยอะ ๆ หน่อยสิ

     

    ดีโน่มองคนข้างตัวอย่างขำ ๆ ทั้งที่ยังก้มหน้าใช้มือบีบจมูกแล้วหายใจทางปาก แต่ก็สุดยอดเลยนะที่ยังจะแหงะหน้ามาตวัดตามองเขาอย่างโกรธ ๆ ได้

     

    อะไร

     

    ฮิบาริกระแทกเสียงถามอย่างไม่พอใจ ถึงจะรู้ว่าที่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้แบบนี้คงจะเป็นเพราะให้เขารองเลือดที่ไหลออกมาไม่ให้มันเปรอะพื้นด้วยความหวังดี แต่จะยังไงเขาก็ไม่ชอบใจอยู่ดีแหละ

     

    ผ้าเช็ดหน้า รองไว้หน่อยเถอะ สงสารภารโรง

     

    ร่างบางถลึงตามองก่อนจะกระชากผ้ามาจากมือแกร่งนั้น เสร็จแล้วเจ้าตัวก็รีบเดินไม่สนใจคนข้างหลังเลยแม้แต่น้อย ซึ่งฝ่ายตามก็ทำเพียงสาวเท้าให้เร็วขึ้นนิดแล้วส่งเสียงขำ ๆ ตามมาเท่านั้น

     

    อ้าว อาจารย์ประจำห้องพยาบาลไม่อยู่จริง ๆ นั้นแหละ

     

    ไปได้แล้วไป เดี๋ยวเลือดก็หยุดไหลเองนั้นแหละ

     

    เธอเป็นลูกศิษย์ของฉัน บาดเจ็บแบบนี้ฉันก็ต้องดูแลสิ

     

    นั้นสิ ถ้ารู้ว่าผมอยู่ใกล้อาจารย์แล้วผมจะบาดเจ็บ อาจารย์ก็ไม่ต้องมายุ่งกับผม...ออก ๆ ไปซะสิ

     

    เรื่องนั้นคงไม่ได้หรอกนะ

     

    ดีโน่บอกก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าลูกศิษย์ที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียง แล้วโป๊ะถุงน้ำแข็งที่เดินไปหยิบมาลงบนดั้งจมูกคนเจ็บอย่างแรงจนฝ่ายนั้นขมวดคิ้วมองพร้อมแผ่รังสีอำมหิตออกมา

     

    อาจารย์คิดจะลองดีกับผมใช่ไหม

     

    ฮิบาริถามลอดไรฟันอย่างโมโห แต่คนโดนถามกลับทำเพียงยักไหล่แล้วใช้มือข้างที่ว่างเลือนเก้าอี้ตัวใกล้ ๆ มานั่งต่อหน้าเขาเท่านั้น

     

    ฉันไม่คิดจะลองดีกับใครทั้งนั้นแหละ แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะพวกเธอนะ

     

    .....

     

    ทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กที่มีผลการเรียนดีกันทั้งนั้น แล้วทำไมถึงได้ทำตัวเหมือนกับจะเรียกร้องความสนใจกันแบบนั้นละ ไม่กลัวพ่อแม่เสียใจหรือไง

     

    ไม่มีใครมาเสียใจกับพวกผมหรอก อย่างอาจารย์จะไปเข้าใจอะไร พวกผู้ใหญ่ก็ห่วงแค่หน้าตากันเท่านั้นแหละ ต้องคอยบังคับให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้อย่างที่อยากให้เป็นโดยที่ไม่ถามเลยสักนิดว่าชอบไหม ไหวหรือเปล่า เกินกำลังไปไหม...ไม่เลย ไม่เคยเลย

     

    ฮิบาริ เคียวยะ

     

    ไม่ต้องเรียกเต็ม ๆ แบบนั้นได้ไหม ไม่ชอบ

     

    งั้นก็เคียวยะ

     

    อย่ามาเรียกชื่อผมแบบนั้นนะ เรียกนามสกุลเหมือนคนอื่นเขาสิ

     

    เพื่อนเธอยังเรียกได้เลย

     

    ก็แล้วอาจารย์เป็นเพื่อนผมหรือไง

     

    เอาเถอะน่า เคียวยะ เรียกแบบนี้ก็ดีออกจะตายไป

     

    ดีโน่ไม่สนใจสายตาดุ ๆ ของคนตรงหน้า แต่กลับคิดถึงคำพูดก่อนหน้านั้นของร่างบาง เขาจ้องเข้าไปในดวงตาสีนิลที่มองสบมาอย่างไม่กลัว แต่ทำไมเขาจะไม่เห็นถึงความสั่นไหว แม้จะเพียงน้อยนิดก็เถอะ เด็กคนนี้ เป็นเด็กขี้เหงา เสียงความคิดที่ดังขึ้นในใจของคนเป็นอาจารย์ ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาน้อย ๆ แล้ววางมือลงบนกลุ่มผมสีนิล ออกแรงขยี้เล่นเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยวแล้ววางค้างไว้แบบนั้น

     

    ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่สนใจลูกหรอกนะ แต่ทุกคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง มีวิธีการแสดงความรักเป็นของตัวเอง เพราะงั้น...เชื่อเถอะว่าพวกท่านรักเธอมาก และมากยิ่งกว่าใคร

     

    อาจารย์ไม่เข้าใจ...ผม...

     

    ใช่ ฉันอาจจะไม่เข้าใจเธอ ไม่เข้าใจพ่อแม่ของเธอ ไม่เข้าใจทุกคน...แต่ฉันรู้ รู้ว่าถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วละก็ ไม่มีทางที่จะไม่รักกันหรอกนะ

     

    โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่อาจารย์เห็น

     

    แล้วเธอเห็นว่ามันโหดร้ายตรงไหนบ้างละ

     

    อะ...

     

    ฮิบาริชะงักไปเมื่อเจอคำถามนี้ของอาจารย์ที่ปรึกษา เจ้าตัวประสานสายตากับดวงตาสีอำพันสวยที่ส่องประกายแวววาวพร้อมกับรอยยิ้มสดใส

     

    ฉันก็ไม่ได้จะบอกว่าโลกนี้มีแต่เรื่องดี ๆ หรอกนะ...แต่แค่อยากรู้นะว่าเธอเจอหรือผ่านอะไรมา ถ้ามันจะทำให้เธอกลับไปเป็นเด็กธรรมดา น่ารัก สดใสได้ ฉันจะทำ

     

    แล้วทำไมจะต้องมาทำเพื่อผม

     

    เพราะฉันชอบรอยยิ้ม รอยยิ้มนะเป็นสิ่งที่สวยงาม แล้วมันก็ทำให้ฉันสบายใจได้ทุกครั้งที่มองไม่ว่ามันจะเกิดจากใครก็ตาม

     

    งี่เง่า

     

    ฮิบาริสบถใส่ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเรื่องที่ดีโน่พูดนะเป็นความจริง ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอก ทุกคนย่อมมีวิธีแสดงความรักเป็นของตัวเอง...แต่แล้วพ่อของเขาใช้วิธีไหนแสดงออกมากันละ เขาถึงได้มองไม่เห็นสักที

     

    ฮ่า ๆ เธอคิดงั้นหรอกหรอ...แต่จะว่าไป เมื่อวานตอนเธอยิ้มนะ สวยมากเลยนะ

     

    ดีโน่ขำออกมากับท่าทางของลูกศิษย์ แต่เขาก็ดีใจนะที่อีกฝ่ายมีปฎิกิริยาเหมือนจะยอมรับฟังคำพูดของเขา ไหนจะแก้มที่ขึ้นสีเรื่อน้อย ๆ นี่อีก น่ารักดีจริง ๆ นะ เพราะอย่างนี้หรือเปล่า เขาถึงได้หลงใหลในตัวเด็กคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

     

    ติ๊ด ติ๊ด

     

    เอ๊ะ อเลาดิ

     

    ดีโน่ร้องขึ้นมาเบา ๆ เมื่อเห็นเบอร์โชว์ที่หน้าจอว่าเป็นใครโทรมา ก่อนจะเหลือบมองคนที่ขยับตัวน้อย ๆ แล้วจ้องโทรศัพท์เขาอย่างสนใจ เจ้าตัวเลยตัดสินใจรับมันซะตรงนั้นเลย

     

    ฮัลโหล

     

    ดีโน่ เห็นฮิบาริ เคียวยะบ้างหรือเปล่า

     

    ฮิบาริ เคียวยะ

     

    ใช่ ฉันมาโฮมรูมแต่ไม่เห็นเลย ไม่รู้หายไปไหน

     

    ดีโน่หันหน้ามองคนที่นั่งอยู่บนเตียง ถึงแม้จะทำหน้าเฉย ๆ แต่แววตาเป็นประกายอย่างอยากรู้นั้นก็ทำให้เขาขำออกมา

     

    อยู่ห้องพยาบาลนะ อยู่กับฉันนี่แหละ พอดีว่าเมื่อเช้าเดินชนกันแล้วเลือดกำเดาออกนะ ไว้หยุดไหลเมื่อไหร่ฉันจะพาไปส่ง

     

    อ๋อ...งั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน

     

    อืม วางใจได้

     

    พูดจบดีโน่ก็ตัดสายไป ก่อนจะหันไปพูดกับคนที่ยังนั่งมองหน้าเขาอยู่ด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ

     

    อเลาดิ หมอนั้นก็ดูห่วงนายมากเลยนะ

     

    จริงหรอ

     

    ฮิบาริถามด้วยดวงตาเป็นประกายก่อนจะนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว และนั้นก็ทำให้ดีโน่ต้องขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจหรือว่าเด็กคนนี้จะชอบอเลาดิงั้นหรอ ความไม่พอใจแล่นปราดไปทั้งตัว คิ้วเข้มขมวดจนเป็นปมแล้วจ้องคนตัวเล็กกว่าด้วยแววตาน่ากลัว

     

    เป็นอะไรอีกละเนี่ย

     

    ร่างบางถามก่อนจะเอามือที่กดถุงน้ำแข็งลงบนจมูกตัวเองออก เมื่อรู้สึกว่าเลือดกำเดาจะหยุดไหลแล้ว เจ้าตัวเดินไปที่อ่างล้างหน้าแล้วใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาดเลือดที่ไหลเปรอะอยู่ออกจนหมด

     

    เคียวยะ

     

    บอกว่าอย่ามาเรียกแบบนั้น

     

    ดีโน่มองคนที่ตวาดขึ้นมาทันทีหลังจากเขาเรียกเสร็จ ดวงตาสีนิลสวยที่มองมาเต็มไปด้วยรอยกรุ่นของอารมณ์ ทำไมกัน..เวลาที่มองเขาดวงตาคู่สวยนั้นจะเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ความกราดเกรี้ยว แต่พอพูดถึงอเลาดิขึ้นมา แววตานั้นก็จะเป็นไป เป็นแววตาที่อ่อนโยนขึ้นแถมยังแต้มไปด้วยประกายแห่งความสุข...ทำไมกัน

     

    เธอชอบอเลาดิหรอ

     

    อะ

     

    ฮิบาริถึงกับไปไม่ถูกเมื่อเจอคำถามนี้เข้าไป เจ้าตัวสะบัดหน้าหนีเมื่อไม่รู้จะตอบยังไง แต่ก็โดนอีกเข้ามาขวางทางไว้เมื่อเขาทำท่าจะก้าวออกจากห้อง

     

    เธอยังไม่ได้ตอบฉัน

     

    ผมจะชอบไม่ชอบแล้วมันเกี่ยวอะไรกับอาจารย์

     

    ไม่ปฎิเสธสินะ

     

    อะไรของอาจารย์เนี่ย

     

    ฮิบาริพยายามสะบัดตัวออกจากการจับกุมของคนร่างสูง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่ออีกฝ่ายใช้แรงที่เหนือกว่าผลักเขาเข้ากับกำแพง พอจะใช้มือผลักออกก็ถูกอีกฝ่ายรวบข้อมือทั้งสองข้างไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว พอจะใช้ขาเตะก็ถูกอีกคนใช้เข่าสอดเข้ามาตรงหว่างขา สภาพของเขาตอนนี้เลยตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด

     

    เธอชอบอเลาดิจริง ๆ ใช่ไหม

     

    ก็บอกแล้วไงว่าจะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับอาจารย์

     

    ฉันถามให้ตอบไม่ต้องมาย้อน

     

    แต่นี่มันเรื่องส่วนตัวของผ...อุ๊บ

     

    ดีโน่ประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากบางทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบ ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากเล็ก จัดการกวาดเลียอย่างหิวกระหาย ก่อนจะถอนออกแล้วเปลี่ยนมาดูดคลึงอยู่ที่ริมฝีปากสีหวาน มือข้างที่ว่างก็ล็อคคางอีกฝ่ายไว้ไม่ให้หันหนี

     

    ฮิบาริเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดจากการคุกคามนี้แต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าตัวจึงตัดสินใจกัดลิ้นอีกฝ่ายในตอนที่สอดเข้ามาอีกครั้ง

     

    โอ้ย

     

    ดีโน่ร้องก่อนจะถอนตัวออกมาอย่างตกใจ ใช้มือกุมปากตัวเองไว้แล้วเงยหน้ามองอีกคนที่ยืนหอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ ก็ไม่ใช่ว่าจะเจ็บอะไรมากมาย แต่เป็นเพราะตกใจไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกัดลิ้นเขาก็เท่านั้น

     

    ฮิบาริหอบหายใจอย่างหนักก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูด้วยความเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วไปกว่าคนร่างสูงที่ตามมาตะครุบตัวเขาทันแล้วกระชากเข้ามาข้างในก่อนจะเหวี่ยงลงกับเตียง

     

    ปล่อยนะ

     

    ที่ฉันถาม ได้ตอบหรือยัง

     

    ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม อาจารย์ไม่มีสิทธิ์จะมายุ่ง

     

    สิทธิ์ของฉันนะมีแน่ ๆ เพราะงั้นก็ตอบมาได้แล้ว!!!!!”

     

    อย่ามาสั่งนะ!!!!!”

     

    ฮิบาริตะคอกขึ้นมาบ้างอย่างโมโห อยู่ ๆ ก็มาเค้นคำตอบกับเขา แถมยังมาจูบกันแบบนี้ แม้แต่กับดันเต้ที่เคยคบกันมาก็ยังไม่ใช้วิธีรุนแรงแบบนี้กับเขาเลยนะ

     

    ดีโน่ชะงักไปเมื่อโดนตะคอกกลับ เจ้าตัวสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกมายาว ๆ เมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้วก็ปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระแล้วสั่งเสียงเบา

     

    ออกไปได้แล้ว

     

    อะ...ฮึ้ย

     

    ฮิบาริสบถเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องพยาบาลไปอย่างหัวเสีย ทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องบ้า ๆ แบบนี้แต่เช้าด้วยนะ

     

     

     

    ....................................................................................



     

    Writer talk : สวัสดีคะ เป็นยังไงบ้างเอ่ย เอาตอนของ D18 เต็ม ๆ มาให้ตามสัญญาแล้วนะคะ ออกจะรู้สึกงง ๆ ว่าสรุปแล้วเฮียโน่เขาจะดีหรือไม่ดีกันแน่ ตอนแรกมาสอนซะดิบดี แต่ตอนหลังนี้สิ มาขโมยจูบเคียว ๆ ไปซะได้

    ตอนนี้แอบมีชีวิตของเคียว ๆ เข้ามาด้วยละ คุณพ่อดุเนาะ น่าสงสารจังเลย ยังไงก็ฝากติดตามด้วยแล้วกันนะคะ ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องที่ 2 ของ D18 แล้ว แต่รู้สึกฝีมือจะยังไม่พัฒนาเลยแฮะ ยังไงก็ทนอ่านกันหน่อยแล้วกันนะคะ(อ้อนวอนเต็มที่)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×