คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
“งะ งั้นหรอกหรอ”
ดวงตาสีส้มแดงกวาดมองปฎิกิริยาของคนที่นั่งฟังเขาจนจบ ซึ่งเจ้าน้องชายตัวดีก็ถึงกับพูดติดอ่างไปด้วยความอึ้ง ก่อนเจ้าตัวจะตั้งสติใหม่แล้วเริ่มถามเขาด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“ดันเต้ ทำไมพี่ไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังเลยละว่ามันเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
“ก็บอกแล้วไงว่าตอนนั้นฉันอยู่ที่อังกฤษ ส่วนนายอยู่อิตาลี ไหน ๆ มันก็ไกลกันแล้ว ฉันก็เลยไม่คิดว่าควรจะบอกเรื่องนี้ของตัวเองให้ใครฟังผ่านโทรศัพท์หรอกนะ”
ดีโน่ขมวดคิ้วนิดกับเหตุผลของพี่ชาย ก่อนจะนึกไปถึงสายตาที่เด็กคนนั้นมองส่งมาให้ดันเต้ มันมีทั้งความโกรธ กราดเกรี้ยว โมโห และแรงแค้นที่รุนแรงจนถึงกับพูดแบบนั้นใส่ แต่ว่าอีกแววที่ส่งผ่านมาทำไมเขาจะไม่เห็น ว่ามันเป็นแววตาที่แสดงออกถึงความร้าวลึกที่เจ้าตัวคงเคยประสบพบมา แล้วยังมีความโหยหาแฝงออกมาด้วย แต่จะให้เป็นแบบนั้นไม่ได้...
“เอ๊ะ?”
คนผมดำหันมองอีกคนที่อยู่ ๆ ก็ส่งเสียงร้องออกมาซะจนเขาตกใจ ก่อนเจ้าตัวจะทำสีหน้าไม่เข้าใจออกมาด้วย ดันเต้เลยต้องถามออกมาเพราะคิดว่าคงสงสัยในเรื่องของตัวเอง
“สงสัยอะไรอีกละดีโน่”
“อะ ปะ เปล่าหรอกดันเต้ ฉันไม่ได้สงสัยอะไรแล้ว”
ดีโน่บอกปัดก่อนจะก้มหน้าลงขมวดคิ้วกับตัวเอง ความรู้สึกเมื่อกี้ ก็แค่นึกว่าเด็กนั้นคงจะรักพี่ชายของตัวเองอยู่เขาก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา ทำไมกันนะ จะบอกว่าเขาชอบเด็กคนนั้นอย่างนั้นหรอ ไม่เร็วไปหน่อยหรือไง
“ถ้าไม่สงสัยอะไรแล้วฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน”
“อืม”
“อะ...เดี๋ยวนะดีโน่ คนที่เจอกันเมื่อตอนกลางวัน เป็นคนรู้จักของนายหรอ”
ดันเต้ถามขึ้นมาด้วยแววตาตื้นเต้น และเมื่อสังเกตปฎิกิริยาของพี่ชายตัวเองแล้ว ดีโน่เลยนั่งยิ้มเพื่อรอให้พี่ชายนั่งลงฟังเขาเล่า เมื่อกี้เขาแอบเห็นดวงตาสีส้มแดงนั้นเป็นประกายสุกใสราวกับเด็ก ๆ คงเกิดตกหลุมรักคุณครูคนสวยผมสีฟางคนนี้ซะแล้ว...แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ความรู้สึกขมุกขมัวเมื่อครู่หายไปราวกับไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน เหมือนมีใครมายกภูเขาออกจากอก จะบอกว่า แค่คิดว่าพี่ชายตัวเองไปชอบคนอื่นที่ไม่ใช่เด็กคนนั้นเขาก็โล่งใจแล้วงั้นหรอ ดีโน่ นายชักจะบ้าไปใหญ่แล้วนะเนี่ย
“หมอนั้นชื่ออเลาดิ”
“.....”
“สนใจหรือไง”
“จะบ้าหรอ”
“อ้าว ก็เห็นออกจะดี๊ด๊ากว่าที่เคย ฉันก็เลยสงสัยไง”
“แล้วสรุปเขาเป็นใคร”
“เป็นคน”
ดันเต้มองหน้าน้องชายที่นั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ลอยหน้าลอยตาก็ได้แต่นึกคันไม้คันมือขึ้นมา ซึ่งดีโน่เองที่เห็นอาการแบบนั้นก็ได้แต่ขำก๊ากออกมามากกว่าเดิม
“สรุปเขาเป็นอะไรกับนาย”
“เป็นที่ปรึกษาห้องเดียวกับฉันนะ ห้องของเด็กคนนั้น ‘ฮิบาริ เคียวยะ’ นั้นแหละ”
ชื่อที่หลุดออกมาทำเอาดันเต้หน้าสลดลงไปอีกครั้ง ดีโน่ที่เห็นอาการแบบนั้นเลยพูดตัดบทขึ้นมาซะเลย เขาตามไม่ทันหรอกนะไอ้อาการเดี๋ยวสุขเดี๋ยวเศร้าที่พี่ชายแสดงออกมานะ เพราะงั้นไปอาบน้ำนอนเถอะ
“ดันเต้ ฉันว่าพี่ไปอาบน้ำนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมาคุยกันใหม่ดีกว่า”
“อืม”
“ไม่ต้องคิดมากละ”
ดีโน่ตะโกนไล่หลังก่อนจะหลับตาลงผ่อนคลายตัวเองหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นระหว่างพี่ชายตัวเองและลูกศิษย์จอมแสบ
“เฮ้อ...ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลยนะ”
ดีโน่พึมพำกับตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วลุกเดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำตามพี่ชาย
“หืม???”
“ก็อย่างที่บอกแหละครับ ผมกับพวกท่านซาวาดะกำลังเล่นกันอยู่ แล้วไม่คิดว่าอาจารย์จะเข้ามาเร็วแบบนี้ มันก็เลยพลาดแบบนี้นะครับ”
“ฮ่า ๆ ๆ แต่จะยังไงอาจารย์ก็ไม่บาดเจ็บนี่ครับ เพราะงั้นก็ไม่เป็นไรหรอกเนาะ”
ดีโน่กำลังยืนจ้องเจ้าลูกศิษย์สองคนที่ยืนยิ้มอยู่ต่อหน้าตัวเอง วันนี้ตอนช่วงเช้าเขาไม่ได้เข้าโฮมรูมเจ้าเด็กพวกนี้เพราะมันเป็นเวรของอเลาดิ แต่ใครจะรู้ว่าพอเขากำลังจะเข้ามาสอน อยู่ ๆ จะมีดาบจริงพุ่งมาปักอยู่ตรงประตูห้องที่เลือนเปิดออกตำแหน่งห่างจากหน้าเขาไปแค่คืบเดียว พอกวาดตาดูก็เห็นจะ ๆ ตาว่าเจ้ายามาโมโตะนั่งอยู่ในท่าขว้างดาบ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรลอยมาจากด้านหลัง ด้วยสัญชาตญาณเลยทำให้ก้มหลบอัตโนมัติ แล้วก็ได้เห็นว่ามีบูมเมอแรงอันหนึ่งลอยกลับเข้ามาในมือของเจ้าเด็กบาจิลที่นั่งยิ้มอยู่ใกล้ ๆ ซาวาดะที่ส่งยิ้มมาให้เขาพอกัน
“ถึงยังไงพวกเธอก็ผิด”
“พวกเราก็บอกแล้วไงครับว่าไม่ได้ตั้งใจ ใครจะไปรู้ว่าคุณครูคนใหม่จะรักการสอนขนาดเข้ามาก่อนเวลาเรียนกันละ”
สึนะพูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางนิ่ง ๆ และท่าทางนั้นก็ทำให้ดีโน่อารมณ์เดือดไม่น้อย ก่อนเจ้าตัวจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกมาช้า ๆ เป็นการผ่อนคลาย
“พวกเธอพกอาวุธเข้ามาในโรงเรียนกันได้ยังไง”
“ชิชิชิ ก็ตามปกตินั้นแหละ เมื่อวานเจ้าชายก็บอกอาจารย์อเลาดิไปแล้วนะ ไม่ได้คุยกันหรอกหรอ”
“นั้นสิครับ เมื่อวานท่านเบลก็บอกอาจารย์ที่ปรึกษาไปแล้วว่าในโรงเรียนนี้ไม่เห็นจะมีใครว่าพวกเราสักคนเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ไม่ใช่ไม่มีใครว่า แต่ไม่กล้าว่ากันมากกว่านะสิ...ร่างสูงคิดในใจเมื่อเจอเข้ากับพฤติกรรมที่เกินคาดของเด็กห้องนี้ ดีโน่ผ่อนลมหายใจออกอีกครั้งเพื่อดับอารมณ์ที่กำลังกรุ่นอยู่ในขณะนี้ เจ้าเด็กห้องนี้นี่เกินความคาดหมายของเขาไปไกลเลยนะ ไม่คิดว่าจะกล้าทำกันถึงขนาดนี้เลยจริง ๆ แสดงว่าทางบ้านคงจะใหญ่กันหน้าดู
“ครูไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านอื่นเขาทำยังไง แต่ถ้าเป็นครู...”
“อาจารย์จะทำยังไงหรือครับ”
เสียงถามที่แทรกขึ้นมาทำให้ดีโน่หันไปมองทางเจ้าของเสียง เด็กหนุ่มผมดำ รูปร่างบอบบางที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวสุดท้ายริมหน้าต่างกำลังยกยิ้มท้าทายมาให้เขา
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้องไว้เกือบห้านาที จนในที่สุดดีโน่ก็ส่งยิ้มเย็นตอบกลับไปให้คนที่ยังคงจ้องตากันอยู่อย่างไม่ลดละแล้วพูดด้วยเสียงดังฟังชัดว่า...
“ก็ต้องลงโทษกันนะสิ”
“งั้นพวกผมก็ขอรับผิดทั้งห้องครับ”
ฮิบาริต่อขึ้นมาทันควันโดยได้รับการพยักหน้าสนับสนุนจากทุกคน ดีโน่ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นนักเรียนทั้งห้องไม่มีใครว่าอะไรฮิบาริ หรือแม้แต่จะค้านก็ไม่มี ทำยังไงให้เจ้าพวกนี้ไม่กล้าหือกันนะ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะก่อนจะมาที่นี่ ตัวเขาเองก็ปราบเด็กพยศมาหลายคนแล้วเหมือนกัน กับแค่เด็กห้องเดียวนี่ ไม่คณามือหรอกนะ
“งั้นรอให้ผ่านคาบนี้ไปก่อน ครูไม่ต้องการใช้เวลาเรียนเป็นเวลาลงโทษ เพราะงั้นตอนเย็นหลังเลิกเรียนขอให้ทุกคนอยู่ในห้องนี้กันอย่างพร้อมเพรียง”
“รับทราบครับผม”
ทุกคนตอบขึ้นมาพร้อมกันด้วยใบหน้ามีความสุขเสียเต็มประดา บางคนถึงขั้นยิ้มโรคจิตออกมาเลย แถมยังมีเสียงหัวเราะแปลก ๆ ดังลอดออกมาคลอเป็นระยะ ๆ ด้วย...ดูท่าจะหนักเอาการแหะคราวนี้ ดีโน่คิดในใจก่อนจะเริ่มการเรียนการสอน แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค อยู่ดี ๆ ก็...
“งั้นเริ่มนะ เดี๋ยวทุกค...อะ”
ดีโน่ชักสีหน้าก่อนจะกระโดดหลบไปทางซ้าย เมื่ออยู่ ๆ ก็มีมือของหุ่นยนต์โผล่มาจากกำแพงเตรียมจะทุบหัวเขา เจ้าตัวตวัดสายตาไปมองทางเด็กหนุ่มผมดำทันที
“โอ๊ะโอ ทำได้ขนาดนี้แล้วนะ...อิริเอะ”
“คือ ขอโทษนะครับอาจารย์ ตอนนี้ผมกำลังทดลองหุ่นยนต์ตัวใหม่อยู่ แล้วก็กำลังสร้างโปรแกรมพลางตัวเอาไว้ด้วย แต่เสียดายที่มันพรางได้เร็วไปหน่อย ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้”
ดีโน่มองเด็กหนุ่มผมสีส้มสวมแว่นตาที่ก้มหัวให้เขาเป็นการขอโทษ แต่เผอิญเขาดันเห็นว่าเจ้าเด็กแว่นนี้หันไปส่งยิ้มแบบรู้กันให้ฮิบารินะสิ ไม่งั้นก็คงเข้าใจว่าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แล้ว
“งั้นก็เก็บไปซะ อิริเอะ”
“ครับ”
“ชิชิชิ งั้นเดี๋ยวเจ้าชายช่วยนะ”
“เอ่อ...ขอบคุณนะเบลคุง”
“นี่ จะไปช่วยให้เร็วขึ้นหรือช้าลงละ me ไม่เคยเห็นว่าจะมีงานไหนที่เจ้าชายโรคจิตทำแล้วจะดีเลยจริง ๆ”
“หุบปากไปเลยไอ้กบ”
ดีโน่มองการช่วยกันแยกชิ้นส่วนของเจ้าสองคนนี้แล้วก็เริ่มไล่สายตาไปกวาดมองเด็กคนอื่นต่อ แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรเหมือนเคย อยู่ ๆ มือของหุ่นยนต์ตัวนี้ก็เกิดลัดวงจรแล้วกระเด็นมาทางเขา
ตูมมมมมมมมมม
“หึ”
เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเรียกให้คนร่างสูงหันไปมอง เลยได้เห็นนักเรียนผมขาว ดวงตาสีเขียวยืนแสยะยิ้มอยู่ตรงนั้น เสียงตูมเมื่อกี้ก็เดาได้ไม่อยาก ในเมื่อเมื่อกี้เกิดระเบิดใกล้ ๆ หน้าของเขาเลยนะสิ ตอนที่แขนหุ่นยนต์ตัวนั้นลอยเข้ามา อยู่ ๆ เจ้าเด็กนี่ก็ยืนขึ้นแล้วก็ขว้างไดนาไมล์เข้ามาใส่จนแขนหุ่นยนต์ข้างนั้นระเบิดเป็นผุยผง และถ้าใกล้กว่านี้อีกนิดเดี๋ยว หน้าเขาเองก็คงจะเละไม่ต่างกัน
“โกคุเดระ ฮายาโตะ”
“ครับ”
“เธฮ...”
“ผมช่วยอาจารย์หรอกนะ ถ้าเมื่อกี้ผมขว้างออกไปไม่ทัน ป่านนี้หน้าอาจารย์คงจะแหกจากเจ้าแขนหุ่นยนต์นั้นแล้วก็ได้”
“ฉันต้องขอบใจเธอสินะ”
“หึ ๆ ๆ”
สึนะและฮิบาริหัวเราะออกมาพร้อมกันเลยได้รับสายตาเย็น ๆ จากดวงตาสีอำพันมาเป็นเครื่องปิดปาก ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมเงียบแต่ก็ยังไม่วายหันไปยิ้มให้กันอยู่ดี
“เริ่มเรียนกันได้แล้ว หวังว่าคงไม่มีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้นอีกหรอกนะ”
ฮิบาริยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นว่าอาจารย์คนเก่งชักจะยิ้มไม่ค่อยออกซะแล้วแหะ งานนี้ใครจะไปก่อนกันน้า...ระหว่างอาจารย์ผมสีฟางตาสีฟ้าคนนั้น กับอาจารย์ผมทองดวงตาสีอำพันคนนี้...หึ ๆ ชักสนุกขึ้นมาซะแล้วสิ
“หืม??”
เสียงร้องอย่างแปลกใจของฮิบาริดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอาจารย์ดีโน่ไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่กลับมีอาจารย์อเลาดิเดินเคียงกันมาด้วย ดวงตาสีดำสนิทสบเข้ากับดวงเนตรสีอำพันพอดี แววแห่งความไม่พอใจของคนตัวเล็กส่งให้เต็ม ๆ จนดีโน่ชะงักไปนิด ก่อนจะกลับมายิ้มพราวให้ได้เหมือนเดิม
“วันนี้เรามีกิจกรรมลงโทษแบบเบา ๆ นะทุกคน”
“กิจกรรม???”
“ลงโทษ???”
ทุกคนร้องขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนเสียงหวานจากคนผมดำจะถามขึ้น เรียกความสนใจจากคนหน้าห้องทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี
“กิจกรรมกับลงโทษ มันไปเกี่ยวกันได้ยังไง”
คนสองคนที่โดนถามกับหันไปมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา คิ้วบนใบหน้าของนักเรียนแต่ละคนชักจะขมวดเป็นโบ เมื่อเริ่มเห็นถึงเค้าลางอันตรายอะไรบางอย่างจากตัวคนสองคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง แม้พวกเขาจะเป็นเด็กร้าย ๆ แต่ดูจากสภาพการณ์ในตอนนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่าสองคนตรงหน้าร้ายกว่าหลายเท่า
“งั้นมาเริ่มกันเถอะ...”
“เด็ก ๆ ที่น่ารักทุกคน...”
........................................................................
Writer talk : ว้าว ๆ ปู่ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ม้าฟังแล้วนะ แล้วพี่ม้าก็ถึงกับเหวอไปเลยด้วย ทุกคนอยากรู้กันหรือเปล่าว่าสรุปแล้วปู่ม้ากับน้องเคียวมีเรื่องอะไรกันถ้าอยากรู้ต้องติดตามต่อไปนะคะ
แล้วเป็นไงบ้างคะกับการสอนการสอนของอาจารย์ดีโน่ เด็ก ๆ ก็ยังคงแสบสันกันไม่เปลี่ยนแปลง รู้สึกเหมือนเฮียโน่จะโดนมากกว่าย่านิดหน่อยหรือเปล่านะ แต่จะยังไงก็น่ารักอยู่ดีละ ถึงคราวนี้เคียว ๆ จะบทน้อยไปหน่อยก็ยังน่ารักอยู่ดี แล้วก็ใครที่รอฉากของพระนางคู่ D18 อยู่ก็ไม่ต้องเศร้าใจนะคะ เพราะตอนหน้าเดี๋ยวไรท์เตอร์จัดให้แบบเต็ม ๆ ตอนเลยละ
ความคิดเห็น