ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] D18 Teacher's อาจารย์ที่ (ไม่) รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    Chapter 2

     

     

     

     

     

    “นี่เคียวยะ แกมีเรื่องอะไรกับเจ้าหัวดำคนนั้นหรอ”

     

    “เปล่า”

     

    “จะเปล่าอะไรเล่า ก็ฉันเห็นแกจ้องมันตาเขียวเลยไม่ใช่?”

     

    “แกเห็นตอนไหน ฉันหันหลังให้แกอยู่”

     

    ฮิบาริสวนขึ้นมาทำเอาโกคุเดระที่จะถามต่อชะงักไปเลย แล้วเจ้าตัวก็สะบัดหัวทีหนึ่งแล้วตั้งคำถามขึ้นมาใหม่ โดยมีสายตาสนใจของสึนะและมุคุโร่จ้องอยู่ด้วย

     

    “เออนั้นแหละ ตอนแกหันมาฉันก็เห็นแล้วกันละว่ามันกรุ่น ๆ อยู่นะ เอาเป็นว่า แกบอกพวกฉันมานะว่ามีเรื่องอะไรกับเจ้านั้น”

     

    “ไม่มีอะไร”

     

    “จะไม่มีได้ยังไงเล่า”

     

    สึนะที่ทนไม่ไหวตะโกนถามเสียงดัง ทำเอาทั้งโต๊ะสะดุ้งแม้เว้นแม้แต่ฮิบาริ แต่ก็นะ คนซึน ๆ แบบนี้มีหรือจะไหลต่อไปไม่ได้ ยิ่งซึนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปากไม่ตรงกับใจมากเท่านั้นแหละ

     

    “จะคิดยังไงก็ตามใจ ฉันจะไปเข้าห้องเรียน”

     

    ว่าจบร่างบางก็ลุกขึ้นเดินจากไป ทิ้งให้อีกสามที่นั่งรอฟังอ้าปากค้างแล้วรีบเก็บของวิ่งตามไปอีกที โดยที่มุคุโร่เองก็ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป พอวิ่งไปถึงตัวคนตอบปุ๊บ เขาก็ถามขึ้นมาอีก

     

    “นี่ สรุปแล้วแกมีเรื่องอะไรกับเจ้าหัวดำนั้นนะเคียวยะ”

     

    “ก็บอกว่าเปล่าไง”

     

    ฮิบาริตวัดสายตามองคนตาสองสี ทรงผมประหลาดด้วยความไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง ทำให้เจอเข้ากับสายตาคาดคั้นสีเขียวและน้ำตาลที่ส่งมา

     

    “ไปพร้อมใจกันทำเรื่องอื่นเถอะ ไม่ต้องมาส่งสายตาแบบนั้นให้ฉัน บอกว่าเปล่าก็คือเปล่า”

     

    โกคุเดระทำหน้าขัดใจนิด ก่อนจะกระฟัดกระเฟียดเดินกระแทกเท้าปึ้ง ๆ ไปทางห้องเรียน ฮิบาริขำออกมานิดกับท่าทางของเพื่อนสนิท ซึ่งอีกสองคนที่เหลือตอนนี้ก็มีอาการไม่ต่างกันหนัก ติดแค่ว่าเจ้าสองคนที่เหลือนี่มันแมน ๆ ก็เลยไม่ได้กระแทกเท้าไปแบบคนสวยอย่างโกคุเดระที่รูปร่างผอมบางอย่างกับผู้หญิง ซึ่งนั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากเขานัก หรือเรียกได้ว่าตัวเท่ากันนั้นแหละ ส่วนอีกสองคนมันสูงล้ำ กำยำ กันอยู่แล้ว สูงกว่าเขากับเจ้าหัวขาวเป็นฝ่ามือเลย...แล้วก็ที่เขาแซวไปเมื้อกี้นั้นมันก็เป็นเรื่องในกลุ่ม

     

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง โกคุเดระทะเลาะกับพี่สาวแล้วไปขอนอนกับสึนะ พอพี่สาวไปตามกับบ้านเจ้านั้นก็บอกว่านี่เป็นแฟนตัวเอง เพราะงั้นก็จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนเด็ดขาด แล้วเจ้าสึนะก็ดันไม่ท้วงอะไรขึ้นมาด้วย แต่พอโดนพี่สาวง้อเข้า ๆ ก็ใจอ่อนยอมกลับบ้านไป พวกเขาถึงได้แซวกันสนุกปากว่าสองคนนี้เป็นฮันนี่กับดาร์ลิ้งค์กัน ซึ่งรูปร่างก็สมกับเป็นคู่กันดี หนึ่งสูงกำยำ อีกหนึ่งก็ผอมบางน่าถนุถนอม

     

     

     

    “ฮิบาริ”

     

    “อะไร”

     

    “ขานครูนะ ให้มันมีหางเสียงหน่อย”

     

    ฮิบาริจ้องตอบนัยต์ตาสีฟ้าที่มองมาอย่างดุ ๆ ก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจ แต่ที่จริงแล้ว เพราะมองมากใจก็เต้นมากต่างหากไม่ใช่อะไรหรอก

     

    “ฮิบาริ”

     

    อเลาดิลงเสียงหนักขึ้นเมื่อเห็นคนโดนเรียกเมื่อกี้สะบัดหน้าหนีไปทางอื่น ถึงจะรู้ว่าร้ายแต่จะยังไงก็น่าจะต้องให้เกียรติคนอื่นบ้าง ถึงจะเป็นคุณหนูจากตระกลูใหญ่ แต่จะยังไงก็ต้องเรียนเรื่องมารยาทการเข้าสังคม

     

    “อะไร”

     

    ฮิบาริเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายลงเสียงหนัก ตัวเองก็ขานกลับไปเสียงแข็งเหมือนกัน ก่อนที่นัยต์สองสีจะสบมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั้งมุคุโร่ต้องท้วงขึ้นมา

     

    อาจารย์ครับ เสียเวลามากแล้วละ

     

    นัยน์ตาสีฟ้าสวยตวัดมองคนที่ท้วงขึ้นมาทันที ซึ่งคนตาสองสีนั้นก็มองตอบกลับมาแบบไม่ลดละเช่นกัน อเลาดิเลยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดตัดบทด้วยไม่อยากจะต่อความอีก

     

    ฮิบาริ ออกมาแก้โจทย์หน้ากระดาน

     

    ตอบเลยก็ได้ โจทย์หมู ๆ แบบนั้น ไม่ต้องใช้เวลาคิดหรอก

     

    บอกให้ออกมาเขียน

     

    อะ...ชิ

     

    ร่างบางผมดำสบถออกมานิดเมื่อคนผมสีฟางลงเสียงหนักกว่าตอนก่อนหน้า เจ้าตัวเลยจำใจเดินออกไปแก้โจทย์ที่เขียนไว้บนกระดานแบบไม่ต้องหยุดคิดเหมือนที่พูดออกไปเมื่อกี้แล้วตั้งท่าจะเดินกลับที่นั่งทันที

     

    ใครบอกให้เข้าไปนั่ง

     

    หืม?

     

    ฉันยังไม่ได้บอกให้เข้าไปนั่ง มายืนตรงนี้

     

    ฮิบาริมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินเข้าไปหาแล้วแสยะยิ้มให้ ดวงตาสีนิลสวยไล่มองคนตัวสูงกว่าแล้วเอ่ยคำพูดเสียงเบา กระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคนเมื่อเดินไปถึงตัวคุณครูคนสวย

     

    อาจารย์...อยากลองดีกับผมงั้นสินะ

     

    อเลาดิขมวดคิ้วก่อนจะก้มมองเจ้าลูกศิษย์ตัวดีที่ยังเงยหน้าฉีกยิ้มให้เขาอยู่ แต่คิดว่าคนอย่างเขาจะกลัวแค่การข่มขู่จากลูกศิษย์หรือไงกัน ไม่รู้หรอกหรอว่าก่อนจะย้ายมาญี่ปุ่นนะ...เขาปราบเด็กพยศมาตั้งกี่คนแล้ว

     

    งั้นมาดูกันไหมละ

     

    .....

     

    ว่าใครจะทนได้มากกว่ากัน

     

    หึ...อาจารย์ท้าผมเองนะ

     

    ฮิบาริขยับยิ้มชอบใจ ที่ผ่านมามีแต่พวกที่พอโดนเขาขู่หน่อยก็วิ่งหางจุกตูดไปขอย้ายห้องจากอาจารย์ใหญ่หน้าโหดคนนั้นซะแล้ว ยังไม่เคยมีใครกล้ามาท้าเขาแบบนี้...หึ ๆ แบบนี้ก็พอจะมีค่าควรแก่การให้เขาสนใจขึ้นมาอีกนิดแล้วสิ

     

    วันนี้เธอยืนเรียนอยู่ข้าง ๆ ครูนี่แหละ ฮิบาริ

     

    ได้ตามนั้นครับ

     

    อเลาดิมองเด็กผมดำที่ยิ้มกว้างให้เขาไม่หยุด เท่าที่เห็น ปกติเด็กคนนี้จะไม่ชอบยิ้ม แถมยังเป็นคนหยิ่ง ที่ยิ้มไม่หุบแบบนี้แสดงว่าคิดอะไรไว้แล้วสินะ

     

    ฮิบาริยิ้มให้อาจารย์คนใหม่ไม่หยุด แถมยังกว้างขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายหันไปมองหนังสือที่จะต้องใช้เรียนต่อเจ้าตัวก็หันไปมองเพื่อนสนิทอีกสามคนทันที พวกนั้นขยับยิ้ม แล้วจากนั้นการลงมือก็เริ่มขึ้น

     

    อะ...

     

    อเลาดิร้องอุทานขึ้นก่อนจะผงะห่างจากโต๊ะตัวเองมา ยกมือขยี้ตาแล้วลองมองใหม่ ซึ่งคราวนี้ไม่เห็นอะไรอยู่อีกแล้ว เจ้าตัวหันไปมองเจ้าเด็กผมดำที่ยังคงยิ้มให้เขาเหมือนเดิม ซึ่งนั้นก็เป็นเครื่องชี้ชัดได้แล้วว่านี่ก็คือฝีมือของเจ้าเด็กห้องนี้...ในเมื่อเมื่อกี้มันมี หัวกะโหลก โผล่ออกมาตอนที่เขาเปิดลิ้นชักนะสิ

     

    คึหึหึ อาจารย์คนใหม่ของเราหัวแข็งหน้าดูนะ เจอหัวกะโหลกเชียวน่า แต่ไม่ยักจะร้องเหมือนคนอื่นแหะ

     

    มุคุโร่พูดขึ้นมาอย่างเสียดาย ก่อนจะหันไปมองทางหน้าห้องอีกครั้ง เลยเห็นคนร่างบางทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่แว็บหนึ่งแล้วหันไปยิ้มให้อาจารย์คนเก่งต่อ

     

    ดูถ้าจะเคี้ยวยากหน้าดู

     

    โกคุเดระพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองสองคนตรงหน้าห้องที่คุยอะไรกันไม่รู้ แล้วหันกลับมามองเพื่อนสนิทอีกสองคนของตัวเองต่อ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงหัวเราะประหลาดก็ดังขัดขึ้นมาซะก่อน

     

    ชิชิชิ...เล่นอะไรกันไม่มีบอกเลยนะ เจ้าชายก็อยากเล่นบ้างเหมือนกันนะ

     

    นั้นสิ me เองก็อยากเล่นเหมือนกัน อาจารย์ บอกกันบ้างสิ

     

    มุคุโร่มองเจ้าเด็กหัวเขียวที่พูดขึ้นมา เจ้าเด็กนี่ชอบมาให้เขาสอนมายากลแบบที่เขาแสดงให้คนตาฟ้าดูแบบนั้นแหละ แล้วอยู่ ๆ ก็เรียกเขาว่าอาจารย์ซะงั้น

     

    ฮ่า ๆ ๆ พวกนายทำอะไรกันไม่บอกบ้างเลยนะ

     

    ท่านซาวาดะ ผมเองก็อยากเล่นด้วยนะครับ

     

    สึนะกวาดตามองทุกคนที่เริ่มหันมาหาเขา จริง ๆ พวกเราก็สนิทกันทั้งห้องนั้นแหละ แต่แล้วก็จะมีกลุ่มที่จัดย่อยลงมาอีกเหมือนอย่างพวกเขาสี่คนที่สนิทกันมาก แต่ไม่ว่าจะยังไงส่วนใหญ่พวกเขาก็จะทำอะไรกันเป็นทีมแบบทั้งห้องมากกว่า เพราะงั้นก็...

     

    หึ ๆ เดี๋ยวได้เล่นสนุกกันทุกคนแน่

     

    คำพูดของสึนะได้รับรอยยิ้มพอใจจากคนทั้งห้อง ก่อนที่แต่ละคนจะเริ่มคิดแผนการขึ้นมาในหัวว่าจะจัดการกับอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ทั้งสองคนยังไงดี

     

    อย่าคิดว่าของแค่นั้นจะทำอะไรฉันได้นะ...จะเล่นอะไรก็ให้มันมีรสนิยมหน่อย ไม่ใช่มาแบบโบราณขนาดนั้น

     

    อ้าว ไม่ชอบหรอกหรอครับ

     

    ฮิบาริถามกวน ๆ ก่อนจะยืนนิ่ง ๆ เมื่อเหลือบเห็นประกายแสงวิบวับบางอย่าง เจ้าตัวยิ้มชอบใจหลับตานิ่งแล้วเสียงดัง ฉึก ก็ตามมา

     

    อเลาดิตวัดมองไปทางที่มีดสั้นลอยมาทันที รอยยิ้มกว้างแบบโรคจิตนิด ๆ คือสิ่งแรกที่เขาเห็น ก่อนจะหันกลับมามองมีดสั้นที่ปักลงบนกระดานห่างจากหน้าเขาไม่ถึงคืบแล้วหันไปมองเจ้าคนที่ปามาใหม่

     

    เบลเฟกอล

     

    ชิชิชิ มีอะไรครับผม

     

    ใครอนุญาตให้เธอนำอาวุธเข้ามาในโรงเรียน

     

    ชิชิชิ ก็ทุกคนนั้นแหละ ไม่เห็นจะมีใครว่าเจ้าชายสักคน

     

    ก็ตอนนี้ฉันกำลังว่าเธออยู่

     

    เอ๋??

     

    เบลทำหน้างง ๆ ใส่อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะหันไปถามสึนะด้วยเสียงใสซื่อว่า...

     

    ชิชิชิ แล้วนี่เจ้าชายทำอะไรผิดกันเนี่ย

     

    ไม่ผิดเลยสักนิด

     

    อเลาดิหลับตานิ่ง ข่มอารมณ์ที่ชัดจะเดือดปุด ๆ กับเจ้าเด็กห้องนี้ แล้วเอ่ยถามเสียงเย็นจนคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ขยับยิ้มกว้างขึ้นอย่างถูกใจ...นอกจากจะไม่ตกใจแล้วยังกล้าว่าอีกแนะ น่าสนใจจริง ๆ

     

    กล้าปามีดเฉียดหน้าครูแบบนี้...ยังจะบอกว่าไม่ผิดอีกหรือไง

     

    ก็ me เห็นงูกำลังเลื้อยลงมา เลยสะกิดบอกให้เจ้าชายโรคจิตข้าง ๆ ทำอะไรสักอย่าง แล้วการช่วยอาจารย์แบบนั้นมันผิดตรงไหนหรอ

     

    อเลาดิสะบัดหน้ากลับไปมองทางกระดานที่มีมีดปักอยู่อีกครั้งแล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อมีงูเขียวอยู่ตัวหนึ่งโดนปักด้วยมีดสั้นห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้น มีงูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ก็เมื่อกี้...เจ้าพวกเด็กแสบ

     

    ชิชิชิ เห็นไหม บอกแล้วว่าเจ้าชายไม่ผิด

     

    หึ ๆ ๆ

     

    อเลาดิเหลือบมองคนที่ขำออกมาด้วยดวงตานิ่งเฉย ทำเอาฮิบาริถึงกับอึ้งจนแทบทำอะไรไม่ถูก...ทำไมต้องมองกันแบบนั้นด้วยละ ก็บอกว่าจะเล่นด้วยไม่ใช่หรือไง ฮิบาริก้มหน้านิ่งหลบซ่อนแววอ่อนไหวที่แสดงออกมาผ่านแววตา แถมยังมีความรู้สึกงอนเล็ก ๆ ปนออกมาด้วย

     

    ก็บอกว่าจะเล่นกันสักตั้ง ไม่เห็นต้องทำหน้าโกรธเลย

     

    ร่างบางบ่นกับตัวเองเบา ๆ ทั้งยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น ทำเอาอเลาดิถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งใหญ่ ๆ ยืนมือไปแตะไหล่คนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากบอกไปซะเลย

     

    วันนี้ ฉันจะไปเยี่ยมบ้านเธอ

     

    เอ๊ะ???

     

    ฮิบาริเงยหน้ามองอีกฝ่ายงง ๆ แต่เมื่อเห็นว่าใบหน้าดุดันเมื่อครู่แฝงแววอ่อนโยนขึ้นด้วย ก้อนเนื้อด้านในอกมันก็เต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เจ้าตัวเลยพยักหน้ารับแล้วขอตัวไปนั่งที่

     

    อืม...ผมจะกลับไปนั่งที่

     

    เชิญ

     

    อเลาดิบอกแล้วมองปฎิกิริยาที่แปลกไปของร่างบางของลูกศิษย์ ถึงจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าแปลกไปละนะ ตอนเดินกลับไปถึงจะดูหยิ่ง ๆ เหมือนเดิมแต่ก็แฝงแววน่ารัก ๆ สมวัยไว้ด้วย

     

     

     

    บ้านใหญ่ดีนี่

     

    อเลาดิบอกเมื่อเดินมาถึงบ้านของเด็กเจ้าปัญหาที่เขาบอกไว้ว่าจะมาเยี่ยมบ้าน เป็นเรือนญี่ปุ่นหลังใหญ่ที่มีข้าทาสบริวารเยอะที่เดียว ที่บอกว่าเดินมานั้น เดินจริง ๆ นะ ทั้ง ๆ ที่มีรถยนต์ของทางบ้านมารับ แต่เจ้าตัวดันบอกว่าอยากเดินกลับเอง แล้วหันมายักคิ้วกวน ๆ ให้เขาด้วย ซึ่งก็คงจะแกล้งเขาอีกนั้นแหละ ไม่รู้ว่าว่างจนไม่มีอะไรทำหรือไง ถึงได้คอยแกล้งคนอื่นเขาเล่นแบบนี้

     

    เข้าไปข้างในเถอะ

     

    ฮิบาริบอกก่อนจะพาคนร่างสูงโปร่งที่เดินตามมาเข้าไปข้างใน ตลอดทางที่เดินผ่าน เหล่าคนใช้ก็จะคอยก้มหัวให้จนอเลาดิที่เพิ่งเคยเจอแบบนี้ถึงกับทำหน้าไม่ถูกไปเหมือนกัน ต่างกับคนร่างเล็กที่เดินเชิดหน้าขึ้นอย่างทระนงตัว ไม่แม้แต่จะชายตามองใครทั้งนั้น ซึ่งท่าทางแบบนั้นสร้างความสงสัยให้อเลาดิไม่น้อย

     

    เท็ตสึ วันนี้จะมีแขกทานข้าวเย็นด้วย ไปแจ้งท่านพ่อที

     

    อเลาดิยิ่งมองการกระทำของลูกศิษย์ก็ยิ่งแปลกใจ ไม่ใช่ว่าเขาจะรู้ดีหรอกนะว่าคน ๆ นี้เป็นยังไง แต่เขาว่าการกระทำแบบนี้มันดูฝืน ๆ ยังไงชอบกล ถึงตอนอยู่ที่โรงเรียนจะดูร้ายและเจ้าเล่ห์ยังไง แต่การแสดงออกแบบนั้นก็ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าตอนนี้

     

    วันนี้นายท่านติดประชุมครับ คงกลับมาไม่ทันมื้อเย็น

     

    งั้นหรอ

     

    ฮิบาริพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเริ่มรับรู้ว่ากำลังโดนจ้องโดยนัยน์ตาสีฟ้าใสที่ทำเอาเขาใจเต้นเวลาได้มอง

     

    งั้นให้แม่ครัวเตรียมอาหารให้พร้อมด้วยละ ระหว่างนี้ก็ห้ามใครรบกวนฉันจนกว่าจะถึงเวลามื้อเย็น

     

    ครับ คุณเคียว

     

    ฮิบาริมองตามคนสนิทที่ออกจากห้องไปก่อนจะหันไปมองคนที่จ้องเขาไม่วางตา อะไรกันเล่า ถึงเขาจะเป็นพวกมั่นใจในตัวเอง แต่กับคนที่แอบชอบด้วยแบบนี้มันก็ประหม่าเป็นเหมือนกันนะ

     

    ดูเหมือนจะชอบนะ เวลาไม่มีใครอยู่บ้าน

     

    ไม่ใช่สักหน่อย

     

    หืม?

     

    อเลาดิขมวดคิ้วอย่างงง ๆ เมื่อเจอสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แล้วเหมือนทางนั้นก็เพิ่งจะรู้สึกตัว ถึงได้หันมายิ้มกว้างแบบกวน ๆ ใส่เขาได้อีกครั้ง

     

    ตรงกันข้าม ผมนะชอบที่จะมีคนอยู่ด้วยเยอะ ๆ เพราะเวลาที่ได้แกล้งคนพวกนั้นให้กลัวหางจุกตูดนะ มันมีความสุขอย่าบอกใครเลย หึ ๆ

     

    โกหก

     

    อะ...

     

    ฮิบาริชะงักกับถ้อยคำสวนกับที่อีกฝ่ายพูดออกมาแล้วก้มหน้าลง สองมือกำแน่นก่อนจะเงยหน้ามองอาจารย์ที่ปรึกษาอีกครั้ง ก่อนจะชวนเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่นแทน

     

     

     

    …………………………………………………….


     

    Writer talk : ฮะ ฮ้า มีใครอยากรู้เหมือนไรท์เตอร์ไหมว่า...โรงเรียนนี้มันอยู่ที่ไหน!!! โอ้ย ไรท์เตอร์อยากไปอยู่ห้องเรียนนี้บ้างจัง นักเรียนแต่ละคนก็น่ารักซะขนาดนี้ ถึงแม้จะโหด ป่วน กวน โรคจิต(?) แค่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากจะไปอยู่ด้วยอยู่ดี นี่นะวีรกรรมแบบเบาะ ๆ นะจ๊ะที่คุณครูอเลาดิคนสวยโดนนะ งั้นเรามารอดูกันต่อไปดีกว่าว่าแล้วอาจารย์สุดหล่อดีโน่จะโดนอะไรบ้าง อิ ๆ(ไปแอบส่องตัวละครต่ออย่างมีความสุข)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×