คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
“อิ-นู-อิ!!!!!!!!”
เสียงตะโกนเรียกชื่ออย่างโมโหของเหล่านักกีฬาตัวจริงทีมเซงาคุทำเอาเจ้าของชื่อผวาไปเหมือนกัน
“ไอ้โปรแกรมฝึกนี่มันอะไรกันนะ Nyn”
“รุ่นพี่ บ้าไปแล้ว”
“อินูอิ นายจะโหดก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยเถอะ”
“ถึงจะดีต่อร่างกายแต่โปรแกรมของรุ่นพี่มันโหดเกินไปนะคร้าบ”
“กะอีแค่การฝึกแบบนี้ แกยังทนไม่ได้เลยหรอ ฟูว์”
“เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก”
ฯลฯ
ฟูจิยืนมองการจลาจลเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในคอร์ทเทนนิสด้วยรอยยิ้ม นี่คือสีสันที่เขาชอบ ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบที่ได้อยู่กับทุก ๆ คนโดยเฉพาะเทะสึกะแบบนี้ มันทำให้ชีวิตม.ต้นที่ดูเหมือนธรรมดากลับกลายเป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับเขา ก่อนเจ้าตัวจะเหลือบมองคนข้างตัวแล้วหลุดขำออกมาเมื่อทางนั้นขมวดคิ้วแน่นเสียจนกลัวว่ามันจะกลายเป็นเส้นเดียวกันไปเสียแล้ว
“ทุกคนวิ่งรอบสนาม 10 รอบ!!!”
เทะสึกะที่ยืนมองอยู่นานตะโกนสั่งขึ้น เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมาเกือบ ๆ 2 นาทีแล้วนะ เพราะว่าฟูจิขอไว้ว่าปล่อยให้พวกนั้นได้ระบายสักหน่อยก็ดี แต่ดันระบายกันไม่เลิกจนกลายเป็นความชุลมุนขึ้นแบบนี้เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วละ
“อึ้ย”
ทุกคนร้องขึ้นก่อนจะหันไปมองคนหน้าสวยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ร่างสูงของกัปตันที่ส่งสายตามาให้ประมาณว่า ‘ตามนั้นแหละ ฉันทำอะไรต่อไม่ได้แล้ว’ จึงต้องจำใจวิ่งตามคำสั่ง เพราะไม่งั้นจะโดนหนักกว่าเดิมนะสิ
“เทะสึกะ ใจร้ายจังนะ”
ฟูจิหันไปพูดกับอีกคนที่หันหน้าหนีมองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจเขา ก่อนจะขำออกมาเบา ๆ เรียกให้คนโดนขำหันมามองอย่างแปลกใจ
“ขำอะไรฟูจิ ไปซ้อมได้แล้ว”
“ครับ ๆ”
เทะสึกะมองตามร่างบางของ แฟน ที่วิ่งเข้าไปวอร์มยืดเส้นยืดสายในคอร์ทระหว่างรอคนอื่น ๆ วิ่งเสร็จ...ใช่แล้ว ฟูจิเป็นแฟนของเขาเอง แต่ว่าไม่มีใครรู้ และที่สำคัญก็เพิ่งตกลงคบกันได้แค่สัปดาห์กว่า ๆ เอง
“เหนื่อยจังเลย Nyn”
“แฮ่ก ๆ ๆ”
ฟูจิมองบรรดาเพื่อน ๆ ที่นอนแผ่หลาหมดสภาพอย่างขำ ๆ ก่อนจะไปช่วยพยุงทุกคนขึ้นมาซ้อม เพราะดูเหมือนเทะสึกะจะเริ่มเหล่มาแล้วละ
“ลุกเร็วเอจิ เทะสึกะเริ่มมองมาแล้วนะ”
“จริงหรอ Nyn ฉันไม่เป็นไรแล้วละฟูจิ โออิชิลุกเร็ว ไปซ้อม ๆ”
“ทุกคน รีบไปซ้อมกันเถอะ เทะสึกะมองแล้วนะ”
“จริงหรอครับรุ่นพี่ฟูจิ หวา...เอจิเซ็นไปซ้อมกันเร็ว”
“ไคโดไปซ้อมกันเถอะ...เบิร์นนิ่งงงง”
“ฟูว์”
“อย่าลืมฝึกตามโปรแกรมของฉันด้วยละ ฉันจะนั่งเก็บข้อมูลอยู่ตรงนี้นะ”
พูดจบทุกคนก็แยกย้ายกันไปทันทีปล่อยให้คนร่างบางยืนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่ตรงนั้น เทะสึกะมองแล้วยิ้มออกมาบาง ๆ ที่เห็นคนโดนเมินยืนขำตัวเองเบา ๆ ถึงได้เริ่มขยับตัวแล้วเดินไปหยิบแร็กเก็ตลงสนามซ้อม
“อ้าว...แล้วทำไมฉันถึงไม่มีคู่ซ้อมละเนี่ย”
ฟูจิบ่นกับตัวเองขำ ๆ อุตส่าห์ลงมารอก่อนใครเลยนะ แถมยังช่วยไปปลุกพวกนั้นด้วย แต่พอตื่นปุ๊บ ก็ไปซ้อมกับคนอื่นปั๊บ จะเรียกว่าทำคุณบูชาโทษดีไหมนะ สุดท้ายเลยได้แต่มองอีกคนที่เริ่มเดินไปหยิบแร็กเก็ตแล้วลงมาในคอร์ท
“ฟูจิ มาซ้อมกับฉัน”
“อืม”
เทะสึกะมองหน้าคนตัวเล็กก่อนจะเดินนำไปคอร์ทที่ว่างท่ามกลางการจับตามองของทุกคน เทะสึกะกับฟูจิ จะซ้อมด้วยกันละ อันดับหนึ่งและสองของเซงาคุจะซ้อมด้วยกัน หาดูได้ยากจริง ๆ แหะ
“งั้นฉันเริ่มก่อนนะเทะสึกะ”
“อืม”
ครืนนนนนนนน
ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะเริ่ม อยู่ ๆ ก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน แถมท้องฟ้ายังเริ่มมืดขึ้นเรื่อย ๆ แล้วฝนก็เทซ่าลงมาทีเดียวเลย เทะสึกะจึงต้องสั่งให้ทุกคนช่วยกันเก็บของเข้าห้องชมรมอย่างเร่งด่วน
“ฝนดันตกซะได้นะ”
ฟูจิบ่นขึ้นขณะช่วยคนอื่น ๆ เก็บลูกเทนนิสที่กระจายเกลื่อนพื้นอย่างรีบ ๆ และเพราะรีบ เลยไม่ทันได้หันไปมองข้างหลังว่ามีใครบางคนเหยียบลูกเทนนิสลื่นจนเสียการทรงตัว ถลาตัวเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“หวา รุ่นพี่หลบไปเร็วคร้าบ”
“อาราอิ...โอ้ย”
“ฟูจิ”
เทะสึกะรีบวิ่งเข้าไปดูคนเจ็บทันที ฟูจิล้มลงกระแทกเสาเนทด้วยเมื่อกี้นี้ เขาหันมาเพราะเสียงร้องของอาราอิพอดี
“รุ่นพี่ฟูจิ/ฟูจิ/ฟูจิโกะจัง”
“ฉันไม่เป็นไร”
เจ้าตัวบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนเกาะคาวามูระที่อยู่ใกล้ ๆ ไว้ เจ้าตัวหันไปมองเทะสึกะแล้วยิ้มให้บาง ๆ ก่อนจะเดินกะเพลกไปนั่งในห้องชมรม
“เป็นยังไงบ้างฟูจิ”
“ก็ไม่เท่าไหร่นะ”
โออิชิเงยหน้ามองคนที่นั่งยิ้มอยู่แล้วก็เริ่มลงมือทำแผลให้ ส่วนอาราอิก็มีอีกคนทำให้อยู่เหมือนกัน พวกที่เหลือก็ช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าห้องชมรมเพราะฝนเริ่มเทลงมาแล้ว
“เป็นยังไงบ้างโออิชิ”
เทะสึกะเดินเข้ามาถามโออิชิที่เก็บอุปกรณ์ลงกล่องปฐมพยาบาล ที่ไม่ได้เข้ามายืนดูเป็นเพราะเมื่อกี้เขาต้องไปคอยดูพวกลูกทีมช่วยกันเก็บของเข้ามาไว้ในห้องชมรม
“แผลไม่ลึกมากหรอก แต่ก็เรียกเลือดได้ไม่น้อยเลย สงสัย...ฟูจิคงลงซ้อมไม่ได้เป็นสัปดาห์เลยละ”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยว 2-3 วันก็หายแล้ว แผลแค่นี้ไม่ต้องหยุดเป็นสัปดาห์หรอกน่า”
ฟูจิพูดค้านขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าแฟนตัวเองยืนขมวดคิ้วอยู่ เขาไม่อยากจะหยุดเล่นเทนนิสหรอกนะ ไม่ใช่ว่ารักจนถึงขั้นตัดไม่ลง แต่ที่ต้องสนใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังมีค่าเมื่อมีเทนนิสอยู่ด้วย
“ไว้รอดูอาการอีกทีก็แล้วกัน ซ้อมได้ก็คือได้ ซ้อมไม่ได้ก็คือไม่ได้”
เทะสึกะพูดก่อนจะเดินไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชมรมที่ยืนมองนอกหน้าต่างอยู่ จังหวะที่กำลังจะก้าวขาเดินผ่านร่างใครคนหนึ่งเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นท่าทางพ่อแง่แม่งอนของเจ้าตัวกับคนรักที่นั่งอยู่ข้างกัน
“รุ่นพี่โมโมะจะเบียดทำไมนักหนาเนี้ย มันอึดอัดนะ”
“เอ้า ก็คนมันเยอะอย่างนี้นายจะให้ฉันไปยืนตรงไหนกันเล่า”
“ไปยืนห่าง ๆ สิไป”
“เดี๋ยวนายก็หึงฉันอีกหรอก”
“ไม่มีทาง”
“งั้นฉันไปยืนข้างรุ่นพี่ฟูจินะ จะได้ถือโอกาสไปดูแลแผลให้รุ่นพี่ด้วย”
“ลองไปซิ ตายแน่”
ใช่แล้ว เอจิเซ็นและโมโมชิโระเป็นคู่รักประจำชมรม ทั้งคู่ประกาศออกมาว่าคบกันอย่างเป็นทางการ โดยไม่สนใจว่าใครจะรับได้หรือไม่ได้ แต่แน่นอนว่าคนทั้งชมรมรับได้เพราะเรื่องชายรักชายแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับใคร แต่จะมีอยู่คนหนึ่งละที่รับไม่ได้กับเรื่องนี้ นั้นก็คือ...
...ตัวเขาเอง
เขาแอบชอบเอจิเซ็นตั้งแต่ที่เจ้าตัวเข้าชมรมมาแล้ว ชอบจนละสายตาไม่ได้ ชอบจนหันไปมองคนอื่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความชอบเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรักอย่างในทุกวันนี้ รักจนไม่สามารถตัดใจได้ และถึงแม้ตอนนี้เขาจะมีใครอีกคนที่อยู่ข้างกาย แต่ภายในใจก็ยังคงรักคน ๆ นี้ไม่แปรเปลี่ยน
“เทะสึกะ ครูว่าเราปล่อยทุกคนกลับบ้านเถอะ ดูท่าจะไม่หยุดตกง่าย ๆ หรอกนะเนี้ย”
“ครับ”
เทะสึกะขานรับก่อนจะหันไปบอกทุกคนในห้องชมรมว่าให้กลับบ้านได้ พอได้ยินแบบนั้นก็พากันถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนกันใหญ่จนกลายเป็นความโกลาหล ก็อย่างว่าห้องชมรมก็แค่นี้ คนก็ตั้งเยอะเลยต้องยืนเบียดกันไปเบียดกันมา
“โอ้ย อย่าเบียดฉันสิ Nyn แบบนี้จะถอดเสื้อผ้ายังไงละเนี้ย”
“โอ้ย รุ่นพี่โมโมะแบบนี้มันเบียดเกินไปแล้วนะ ผมถอดเสื้อผ้าไม่ได้”
“ฉันก็โดนเบียดมานายไม่เห็นหรอ...เจ้าอสรพิษ อย่ามาเบียดกันแบบนี้สิโว้ย”
“แกคิดว่าฉันอยากจะเบียดแกหรือไง ฟูว์”
ฟูจิยืนมองความวุ่นวายที่เกินขึ้นแล้วก็ขำออกมาเบา ๆ เจ้าตัวมายืนหลบมุมอยู่คนเดียว ปล่อยให้คนอื่น ๆ เบียดกันเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปก่อน ก็ตัวเขาไม่ต้องรีบกลับบ้านนี้นะ เพราะงั้นจะไปเบียดกับคนอื่นทำไม สู้ยืนดูอยู่แบบนี้จนคนน้อยลงแล้วค่อยเปลี่ยนก็ยังไม่สาย เจ้าตัวกวาดตามองไปทั่วห้องก่อนจะเห็นร่างสูงของคนที่คบกันอยู่กำลังจ้องไปยังจุด ๆ หนึ่ง เขาเลยมองตามไป
โมโมะกับเอจิเซ็น
ดวงตาสีฟ้าสวยหม่นแสงลงเมื่อมองไปยังจุด ๆ นั้น ยิ่งเห็นว่าคนที่เขารักกำลังยืนทำหน้านิ่งแต่แววตาสั่นไหวเขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ เป็นเพราะยังรักเอจิเซ็นอยู่ เป็นเพราะยังตัดใจไม่ได้ ถึงยังคงอาวรณ์อยู่แบบนั้น โดยไม่แม้แต่จะชายตามองเขาเลยสักนิด
“ไปแล้วนะครับ”
“ไปก่อนนะครับ”
“พรุ่งนี้เจอกันนะ”
“ไปก่อนนะ บ๊าย บาย”
เสียงบอกลาเริ่มดังขึ้นจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสามแล้วกลายเป็นเกือบทั้งชมรมเมื่อพวกนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จ เห็นแบบนั้นฟูจิเลยเดินเข้าไปที่ตู้ล็อคเกอร์แล้วถอดเสื้อเพื่อเปลี่ยนบ้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่เทะสึกะก็เดินมาเปลี่ยนเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งห้องเหลือเพียงตัวเขา เทะสึกะ แล้วก็คาวามูระที่กำลังจะออกไป นอกจากนั้นกลับกันหมดแล้วไม่เหลือแม้แต่อ.ริวซากิ
“ฉันไปก่อนนะเทะสึกะ ฟูจิโกะจังไปก่อนนะ กลับไปนอนผักพ่อนแล้วรักษาแผลดี ๆ นะ”
“ขอบคุณนะ คุณทากะก็กลับบ้านดี ๆ ละ”
เจ้าตัวหันไปยิ้มให้ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อเมื่ออีกฝ่ายออกไปแล้ว ตอนนี้ในห้องชมรมจึงเหลือเพียงเขาและเทะสึกะเพียงสองคนจริง ๆ
“แผลเป็นไงบ้าง”
เทะสึกะถามขึ้นหลังจากอยู่กันเพียงสองคนแล้ว เจ้าตัวหันไปมองคนข้าง ๆ ทั้งที่ตอนนี้ตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อ มือแกร่งดึงตัวอีกฝ่ายมาใกล้ ๆ แล้วก้มลงมองขาขวาที่มีผ้าพันแผลพันอยู่
“ก็อย่างที่เห็น ไม่เป็นไรมากหรอก”
“เจ็บมากไหม ยังปวดอยู่หรือเปล่า”
“ก็นิด ๆ นะ ตามประสา”
คนร่างบางบอกด้วยรอยยิ้มประจำตัว เห็นแบบนั้นเทะสึกะเลยหันไปใส่เสื้อผ้าต่อจนเสร็จ ฟูจิเองก็ใส่จนเสร็จแล้วเหมือนกันเลยหันไปถามอีกคนว่าเอาร่มมาหรือเปล่า แล้วก็แอบหวังไว้ลึก ๆ อยากให้เทะสึกะตอบว่าไม่เอามาจัง
“เทะสึกะเอาร่มมาหรือเปล่า”
“เอามา”
“งั้นหรอ งั้นก็กลับบ้านดี ๆ นะ”
ฟูจิบอกก่อนจะกางร่มแล้วเดินออกจากห้องชมรมมา คนหน้าสวยเดินคอตกอย่างหมดหวังในหัวก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่แล้วอยู่ ๆ ก็วกกลับมาที่เรื่องของตัวเองกับคนที่เขารัก ตอนนี้ตัวเขา...
...เป็นแฟนกับเทะสึกะ
แต่สิ่งที่แสดงให้กันมันเหมือนไม่ใช่ยังไงก็ไม่รู้เนาะ ตัวเขารู้ดีว่าทำไมเทะสึกะถึงได้มาคบกับเขา รู้ดีว่าคนที่เทะสึกะรักคือใคร แต่ถึงจะรู้ก็ต้องแกล้งไม่รู้อยู่แบบนี้เพราะเขาเองก็รักอีกฝ่ายมากเหลือเกิน รักมากจนปล่อยไปไม่ได้ คนร่างบางหยุดเดินอยู่แค่นั้นก่อนจะเงยหน้ามองหยาดฝนที่ตกลงมากระทบร่มสีใสที่ตัวเองกางอยู่ ตอนนี้บนทางที่เดินไม่มีใครอยู่เลย บนถนนก็ไม่มีรถแล่นผ่าน
ทำไมถึงได้ป่าวเปลี่ยวขนาดนี้กันนะ?
“ถ้าในตอนนี้ นายรักฉันบ้างก็คงจะดีนะ เทะสึกะ”
เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าคนพูดก่อนเจ้าตัวจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกมา เท้าเรียวก้าวพาตนเองกลับบ้านอย่างไม่มั่นคง ยิ่งคบกัน ยิ่งทรมาน แต่ทำไมฉันถึงเต็มใจที่จะทรมานกันนะ เป็นเพราะรักมากเกินไปใช่หรือเปล่า?
..........................................................................
Writer talk : สวัสดีคะ รอตอน 1 กันนานไหมเนี้ย วันนี้เอามาลงให้แล้วนะคะ แลดูเหมือนจะไม่เศร้า แต่ก็เศร้าเนาะ เอาไงดีหว่า เหมือนป๋าก็จะสนใจ แต่ก็ยังทำให้ชูจังเสียใจอยู่ดีละ...มีใครอยากรู้ไหมว่าทั้งคู่เขาคบกันได้ยังไง ถ้าอยากรู้ต้องตามอ่านต่อตอนหน้านะคะ เดี๋ยวไรท์เตอร์จะเฉลยให้ ^_^
ความคิดเห็น