คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 14
“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยสิ”
“ดีพอไหม”
“เฮ้อ เธอเนี้ยนะ”
ดีโน่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่ออีกคนยกมุมปากขึ้นมานิดหนึ่งแต่สภาพหน้าโดยรวมแล้วเหมือนคนซังกะตายเบื่อหน่ายชีวิตเลย นอกจากทำหน้าบึง ทำหน้าไม่พอใจแล้วทำหน้าอย่างอื่นไม่เป็นหรือไงนะ
“ถ้ารำคาญนักก็พาผมกลับบ้านสิ ไม่ได้อยากจะมาสักหน่อย”
ฮิบาริบอกก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่น ตอนนี้เขาออกมาทานข้าวข้างนอกกับอาจารย์หัวทอง แถมออกมาแบบไม่เต็มใจด้วย โดนบังคับมาแบบนี้ใครมันจะไปทำหน้าระรื่นกันเล่า ถ้าไม่ติดว่ากลัวคำขู่ละก็ให้ตายเขาก็ไม่ออกมาหรอก
“ถ้าเคียวยะไม่ออกไปกินข้าวกับฉัน งั้นเปลี่ยนมาทำอย่างอื่นที่จะทำให้เธอลุกไม่ขึ้นไปทั้งวันแทนดีไหม”
...และเพราะอย่างนั้นเขาเลยต้องมานั่งทำหน้าบูดอยู่ในร้านอาหารของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแบบนี้นะสิ
“กับอีแค่พาออกมากินข้าวเนี้ย มันฝืนใจเธอขนาดนั้นเลยหรือไง”
ดีโน่ถามพลางขมวดคิ้ว เขาอยากให้อีกฝ่ายยิ้มให้เขาบ้างจัง ไม่ใช่เอาแต่นั่งทำหน้าบึ้งหรือไม่ก็ทำหน้าเบื่อใส่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
“ก็ผมไม่อยากออกมาแล้วอาจารย์ก็มาบังคับกันแบบนี้ จะให้ผมนั่งทำหน้ายิ้มได้ยังไงกันละ”
เจ้าตัวตอบก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่น เห็นแบบนั้นดีโน่เลยยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์แล้วชะโงกหน้ามาพูดเสียงเบาแต่เล่นเอาคนได้ยินหน้าร้อนรีบหันไปตวัดตามองแทบจะในทันที
“ฉันไม่ได้บังคับนะ แค่ถามว่าถ้าไม่อยากออกข้างนอกเรามาทำแบบนั้นกันไหม เพราะฉะนั้นฉันไปบังคับเคียวยะตอนไหน ใครจะไปรู้ละว่าไม่อยากมา ถ้ารู้ฉันก็จะพาทำอย่างอื่นตั้งแต่ที่บ้านแล้วละ”
ดีโน่พูดก่อนจะขำออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนหน้าแดงแปร๊ดเมื่อเขาพูดจบแถมยังก้มหน้างุด ๆ ไม่ยอมเงยขึ้นมองกันเลย
“เอ้า ๆ ลงมือกินกันดีกว่า อาหารมาแล้วเห็นไหม”
ดีโน่พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาได้เห็นหน้าแดง ๆ ตั้งสองรอบแหนะ ถือว่าเป็นกำไรชีวิตเลยนะเนี้ย เพราะปกติก็อย่างที่บอกถ้าไม่ทำหน้าเบื่อก็ทำหน้าบึ้งใส่ตลอดแหละ
“นี่ กินข้าวเสร็จแล้วกลับบ้านเลยนะ”
คนร่างบางที่กำลังทานอาหารอยู่พูดขึ้น ดีโน่ที่กำลังทานอยู่เหมือนกันเลยเงยหน้าขึ้นมอง หน้าตาซื่อ ๆ เป็นอย่างแรกที่เขาเห็น ให้ตาย เขาเพิ่งเคยเห็นเจ้าตัวทำหน้าปกติแบบเด็กทั่วไปก็วันนี้แหละ(หมายความว่าไงเนี้ย)
“ไม่อยากไปไหนต่อหรอ”
“ไม่ไป จะกลับบ้านไปนอน เย็นแล้ว”
“เธอเพิ่งนอนไปทั้งวันเองนะ อะไรจะง่วงอีกแล้ว”
“ปกติมีเวลาว่างผมชอบนอนอยู่แล้ว จะตอนไหนก็หลับได้ทั้งหมดนั้นแหละ”
เจ้าตัวว่าก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ แต่แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัยเมื่ออยู่ ๆ คนตรงหน้าก็ร้องออกมางง ๆ เป็นอะไรของเขากันนะ
“เอ๊ะ??”
“อาจารย์ เป็นอะไร”
ดวงตาสีดำสนิทหันไปมองข้างหลังตนเองที่อาจารย์หัวทองยังนั่งมองอย่างงง ๆ ต่อ แต่แล้วดวงหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้นมาฉับพลันพร้อมทั้งปล่อยรังสีดำมืดออกมาจนคนสองคนที่เป็นเป้าหมายต้องหันมามอง
“ฮิบาริ ดีโน่”
คนร่างบางผมสีฟางเรียกชื่ออีกสองคนอย่างงง ๆ เมื่อเขาหันมาตามจิตสังหารที่ถูกส่งมาชนตรง ๆ แล้วเจอกับทั้งคู่เข้า คิ้วเรียวบนใบหน้าสวยขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่าลูกศิษย์เอาแต่จ้องคนข้างกายเขาเขม็ง ซึ่งคนโดนจ้องเองก็เบือนหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่อยากสบตาด้วย
“ดันเต้ อเลาดิ มาด้วยกันได้ยังไงนะ”
ดีโน่ถามขึ้นมาทำลายบรรยากาศกดดันที่คนตัวเล็กสร้างขึ้น เขาลืมไปเลยว่าก่อนจะออกมาพี่ชายเขากับคน ๆ นี้มีเรื่องกันอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ตอนนี้เขาไม่อยากให้ทั้งคู่เจอกันเลยจริง ๆ เพราะยังจำได้ว่าตอนเข้าไปในบ้านลูกศิษย์ของเขากำลังร้องไห้
“ฉันพาอเลาดิมาเลี้ยงข้าวนะ”
ดันเต้หันมาตอบก่อนจะเหลือบตามองคนที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่โต๊ะเดียวกับน้องชาย แล้วในอกก็เจ็บแปลบเมื่อเจอกับคำเหน็บแนมจากคนร่างเล็กผมดำ
“หึ มีเวลาพาคนอื่นมาทานข้าวทั้ง ๆ ที่สมควรจะเอาเวลาไปดูแลคนที่ควรห่วง”
“พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงนะเคียวยะ”
ดีโน่หันไปถามคนหน้าสวยพร้อมทำหน้าดุใส่ด้วย แต่เจ้าตัวกลับทำเพียงเหลือบมองเขานิดแล้วหันไปจ้องตากับพี่ชายของเขาต่อ
“คนไม่มีความรับผิดชอบ”
“ฉันมีความรับผิดชอบพอเคียวยะ แต่ฉันจะรับเพียงเรื่องที่ฉันยอมรับได้เท่านั้น อะไรที่นอกเหนือและไม่เกี่ยวข้องกันฉันก็จะไม่เอาตัวเข้าไปยุ่ง”
“นั้นแหละที่เรียกว่าไม่มีความรับผิดชอบ อีกอย่างที่ไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องเลวร้ายที่ตัวเองทำไว้กับคนบางคนไงละ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเคียวยะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วมันอย่างไหน คุณยอมที่จะไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นและลูกเพียงเพื่อจะปกปิดความเลวของตัวเอง...ทำได้ยังไงกัน ดันเต้”
“เคียวยะ ทำไมถึงได้อยากยัดเยียดฉันให้กับผู้หญิงคนนั้น”
ดันเต้ถามอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคนรักของเขาถึงได้ไปเชื่อผู้หญิงคนนั้นมากกว่าเขา ทำไมถึงเชื่อคนที่ไม่รู้จักมากกว่าเขาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
“เพราะคุณทำเธอท้อง...ทำเธอท้องแล้วไม่รับผิดชอบ”
“ต้องให้ฉันไปรับลูกของเธอมาเลี้ยงไหมเคียวยะถึงจะพอใจ”
“ผมก็อยากให้คุณทำแบบนั้นอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เธอแท้งแล้ว”
เจ้าตัวพูดเสียงเรียบแต่ทำเอาอีกสามคนแสดงสีหน้าตกใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง สำหรับดีโน่และอเลาดิที่ถึงจะรู้เรื่องจากดันเต้แล้วแต่พอมาได้ยินแบบนี้ก็อดสงสารผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หรอกนะ ทางดันเต้เองก็เหมือนกัน ถึงผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใครไม่รู้แล้วมาทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน แต่พอได้ยินข่าวของเธอแบบนี้แล้วก็อดสงสารไม่ได้เหมือนกัน
“อ๊ะ...”
เสียงร้องอย่างตกใจที่ดังขึ้นเรียกให้คนทั้งสี่หันไปมอง แล้วดันเต้กับฮิบาริก็ต้องมองคนมาใหม่อย่างตกใจ เมื่อเธอคือ...
“แกรนด์เซีย”
คนร่างบางผมดำรีบวิ่งไปคว้าข้อมือเธอไว้ทันทีเมื่อเธอทำท่าจะวิ่งออกไปจากร้านเมื่อเห็นพวกเขาเข้า ตอนนี้ลูกค้าในร้านทุกคนต่างหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว แต่ว่าเขาไม่สนใจหรอก วันนี้จะต้องพูดกับดันเต้เกี่ยวกับเรื่องของเธอให้จบ ๆ ไป
“เข้ามานี่ มาคุยกันให้รู้เรื่องเถอะ”
“ตะ แต่ว่า...ฉันกลัวคะ”
“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่ข้างเธอ”
ฮิบาริเปลี่ยนจากจับข้อมือมาเป็นจับมือของเธอแทนแล้วบีบแน่นอย่างให้กำลังใจ ดีโน่มองภาพนั้นอย่างไม่พอใจ ดันเต้เองก็มองอย่างน้อยใจ แต่กับอเลาดิตอนนี้เขากำลังขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“ยังจำผู้หญิงคนนี้ได้ไหมดันเต้”
ดันเต้มองเธอแค่เพียงนิดเดียวแล้วหันไปจ้องตากับคนรักเก่าอย่างเจ็บปวด เจ็บปวดที่เห็นว่าดวงตาสีดำคู่นั้นกำลังสั่นไหว เขารู้ว่าตอนนี้เคียวยะเองก็เจ็บปวดที่ต้องพูดเรื่องนี้กับเขา แต่เคียวยะจะรู้ไหมว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่เขาเจ็บคือเจ้าตัวไม่คิดจะเชื่อใจเขาเลย
“ผมถามว่าคุณจำเธอได้ไหม หรือจะต้องให้ผมรื้อความทรงจำให้”
“ฉันจำได้ว่าเธอมาบอกกับฉันว่าเธฮท้องทั้ง ๆ ที่...ฉันไม่เคยรู้จักเธอเลย”
“ฮึก ฮือ ๆ ๆ”
เสียงร้องไห้ที่ดังขึ้นจากคนข้างกายยิ่งทำให้ฮิบาริโมโห เจ้าตัวรีบหันไปกอดเธอไว้แล้วตวาดใส่คนตรงหน้าอย่างไม่คิดรักษาน้ำใจกันจนดีโน่ต้องเดินมากั้นกลางระหว่างเขากับดันเต้ไว้
“คุณมันสารเลว!!!”
“อย่ามาลามปามพี่ชายฉันนะเคียวยะ”
“ผมไม่ได้ลามปาม ก็พี่ชายของอาจารย์นิสัยไม่ดีจริง ๆ นี่ ทำผู้หญิงเสียใจยังไม่พอ ยังมีหน้ามาทำให้เขาร้องไห้ต่อหน้าแบบนี้อีกหรอ เลวไม่มีที่เปรียบจริง ๆ”
“ฉันบอกว่าอย่ามาลามปามไง”
ด้วยความโมโหดีโน่เลยกระชากตัวคนร่างบางออกมาจากหญิงสาวคนนั้น มือแกร่งบีบต้นแขนอีกฝ่ายแน่นพร้อมทั้งจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง
“ดีโน่นี่ลูกศิษย์”
อเลาดิเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเข้าไปคว้าตัวลูกศิษย์ผมดำออกมายืนข้างหลังแทน แล้วตัวเองก็เป็นคนยืนเผชิญหน้ากับดีโน่ ทั้งคู่จ้องตากันจนเป็นดวงตาสีอำพันที่ต้องหันหลบไปก่อนจะสบถอย่างหัวเสีย
“แกรนด์เซีย ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้องแล้ว”
ฮิบาริโอบกอดตัวเธอไว้อย่างให้กำลังใจเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงร้องไห้ไม่หยุด ถึงแม้เขาจะตัวเล็กกว่าเธอ ถึงแม้จะอายุน้อยกว่าเธอ แต่เขาก็เข้าใจความรู้สึกของเธอว่ามันต้องเจ็บปวดมากขนาดไหน อีกทั้งยังสงสารลูกของเธฮที่จากไปแล้วด้วย เพราะเขารู้ว่าการไม่มีพ่อมันเป็นเรื่องที่โหดร้ายขนาดไหนอย่างตัวเขาเองถึงจะมีก็เหมือนไม่มี ถ้าไม่ได้มีเรื่องจะดุเขาท่านพ่อเองก็ไม่ได้คุยกับเขาเลย
“ผมจะพาฮิบาริกับผู้หญิงคนนี้กลับก่อน เรื่องกินข้าววันนี้คงไม่สะดวกแล้วละ”
อเลาดิบอกสองพี่น้องที่ยืนอยู่ตรงหน้านิ่ง ๆ แล้วหันไปพยักหน้าให้ฮิบาริที่กำลังกอดผู้หญิงคนนั้นอยู่ให้เดินนำไป ดันเต้และดีโน่มองตามสามคนนั้นไปด้วยแววตาคนละความหมาย ก่อนจะพากันเดินออกจากร้านไปขับรถกลับบ้าน
“ทำไมอาจารย์ถึงมากับดันเต้ได้ละ”
อเลาดิหันไปมองคนถามที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันนิดหนึ่งแล้วหันกลับมามองถนนต่อ ตอนนี้พวกเขาสามคนอยู่ในรถยนต์ของแกรนด์เซียโดยที่เขาเป็นคนขับ ฮิบารินั่งที่เบาะข้างคนขับส่วนเจ้าของรถนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ตากับจมูกยังแดงอยู่เลย บอกตามตรงตอนแรกที่เจอเธอตัวเขาเองรู้สึกขัด ๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่พอเธอร้องไห้ออกมาเขากับสงสารเธออย่างไม่รู้ว่าทำไม แต่จากความรู้สึกตัวเขาคิดว่าเธอไม่น่าจะโกหก แต่กับดันเต้เขาก็คิดว่าไม่น่าจะโกหกเหมือนกัน สรุปแล้วเขาควรจะเชื่อใครดีนะระหว่างผู้หญิงคนนี้กับดันเต้
“ถามทำไม”
ฮิบาริที่กำลังนั่งมองนอกหน้าต่างรถอยู่หันกลับมามองคนตอบที่กำลังมองถนนอยู่ก็ชักจะหน้ามุ่ย เขาถามแล้วทำไมจะต้องถามกลับด้วย จะตอบเลยไม่ได้หรือไงนะ
“ก็อยากรู้”
“โทรนัดกันมากินข้าวนะ”
“หึ”
คนร่างเล็กขำในลำคอก่อนจะแสยะยิ้มแล้วหันไปมองข้างทางต่อ ตอนนี้รถกำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านของเขาเพราะทั้งสองคนจะมาค้างด้วย ทางแกรนด์เซียหลังจากที่สอบถามแล้วปรากฏว่าเธอยู่บ้านคนเดียวเขาเลยชวนเธอมานอนที่บ้านของเขาก่อน สภาพจิตใจแบบนี้อยู่คนเดียวไม่เป็นผลดีแน่ แต่เจ้าอาจารย์ที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยนี่สิไม่รู้ว่าจะมาค้างกับเขาด้วยทำไม ไล่ก็ไม่ไป ไม่อนุญาตก็ไม่ฟัง สุดท้ายทนไม่ไหวเขาเลยต้องยอมจนได้เพราะขี้เกียจเถียงด้วย แต่จะว่าไป ณ ตอนนี้ อาการใจเต้นและความรู้สึกชอบแบบคนรักที่เขาเคยมีให้กับคน ๆ นี้มันหายไปแล้วละนะ แต่ดันเปลี่ยนเป็นความผูกพันไม่ทราบสาเหตุขึ้นมาแทนนี่สิ จะให้ทำความเข้าใจยังไงดี
“แล้วตัวเธอมากับดีโน่ได้ยังไง”
อเลาดิที่เห็นแบบนั้นเลยถามขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ตอนนี้จะมองถนนอยู่แต่หางตาเขาเห็นละว่าเจ้าตัวสะดุ้งก่อนจะทำท่าทางปกติแล้วตอบออกมา
“ก็เหมือนอาจารย์นั้นแหละ ไปกินข้าว”
“งั้นหรอ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น”
“ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ก่อนหน้านั้นฉันเห็นพวกเธอไม่คุยกัน”
ฮิบาริเลือกที่จะไม่ตอบแล้วปล่อยให้ความเงียบดำเนินต่อไป เรื่องอะไรเขาจะต้องเล่าให้ฟังละว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับอาจารย์หัวทองนั้น แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง จะให้พูดตรง ๆ คือเมื่อกี้ตอนที่โดนตะคอกใส่เขาแอบมีความรู้สึกน้อยใจด้วยนี่สิ จะบ้าหรือไง ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ก็แค่คนที่เผลอมีอะไรกัน แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปน้อยใจเขาละเคียวยะ
“เอ่อ คือ...”
แกรนด์เซียที่นั่งอยู่เบาะหลับพูดขึ้นทำลายความเงียบเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนคงไม่คุยอะไรกันต่อแล้ว เธอมองหน้าคนผมดำที่หันมามองเธอก่อนจะมองตากับคนผมสีฟางที่มองเธอผ่านกระจกหลัง
“ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้พวกคุณต้องลำบาก ทั้ง ๆ ที่กำลังมีความสุขกันอยู่”
“รู้ได้ยังไงว่ามีความสุข”
อเลาดิถามขึ้นเมื่อได้ยินแกรนด์เซียพูดออกมาแบบนั้น ตัวเธอเองก็น่าจะเห็นว่าตอนที่เข้ามาพวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่แล้วแบบนั้นมันมีความสุขที่ไหนกัน
“ก็เมื่อกี้พวกคุณคุยกัน...ทั้ง ๆ ที่จะไปทานข้าวกันทั้งสี่คนแท้ ๆ แต่เพราะเรื่องของฉันก็เลย...”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะก็กินกันแบบไม่เต็มใจ”
ฮิบาริพูดขึ้นบ้างเมื่อนึกไปถึงตอนที่นั่งกินข้าวกับดีโน่ ถึงจะโดนทำให้ใจเต้นบ้างแต่ก็ไม่ได้เรียกว่าความสุขสักหน่อย(ยังไม่รู้ตัวอีกนะคะ)
“แต่ฉันก็ทำให้คุณทะเลาะกับน้องชายของดันเต้”
“เหอะ นั้นมันเรื่องปกติอยู่แล้ว อีกอย่างเขาเป็นพี่น้องกันก็ต้องเข้าข้างกันสิ”
อเลาดิเหลือบมองคนทั้งคู่นิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่แล้วหน้าก็ต้องร้อนวูบเมื่อเจอคำถามถัดมาจากผู้หญิงคนเดียวในรถที่แม้แต่ฮิบาริยังสำลักลมหายใจตัวเองเลย
“ดันเต้เขาจีบคุณอยู่หรอคะ”
“ไม่ใช่ ก็แค่คุยกันเฉย ๆ”
แกรนด์เซียนั่งมองคนสองคนที่หนึ่งแกล้งทำเป็นขับรถต่ออย่างไม่สนใจใคร ส่วนอีกคนหนึ่งยังไอหน้าดำหน้าแดงอยู่เลย มือเรียวของหญิงสาวกำแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าไปในเนื้อแล้วจ้องคนผมสีฟางด้วยดวงตาไม่เป็นมิตรแต่ก็แค่แป๊บเดียวแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มให้เจ้าตัวผ่านกระจกมองหลังซึ่งทางนั้นมองมาพอดี
.................................................................................
Writer talk : มาแล้ว ๆ ตอนใกล้จบนี่ทุกคนคงรู้แล้วสินะคะว่าแกรนด์เซียเธอนิสัยเป็นยังไง เข้าใจกันแล้วใช่ไหมว่าเธอร้ายหรือดี...ไรท์เตอร์จะบอกว่า “เธอบังอาจมากนะแกรนด์เซียที่มาจ้องอเลาจังของฉันแบบนี้นะ” ตอนนี้ทั้งสองคนไม่ค่อยเชื่อใจพี่น้องคาวัลโรเน่แล้วด้วยอ่า ทำไงดีอะ ทำไงดี เอาเป็นว่าไรท์เตอร์จะไปช่วยเป็นแม่สื่อดีไหมนะ(โดนบาทาพิฆาตจากสองสวยปลิวลิ่วกลับมาตกที่เดิม) ชิ ไม่ช่วยก็ได้ อุตส่าห์หวังดี งั้นหาทางคืนดีกันเอาเองเถอะ เชอะ!!!(อารมณ์ไหนเนี้ย)
ปล.ไรท์เตอร์ส่งเมลล์ให้คนที่มาทิ้งเมลล์ไว้เพิ่มนะคะ ตามนี้เลย
1. eka20092009@msn.com S@_L@ve_ME
2. f_puccajung@hotmail.com กระต่ายสีน้ำตาล
3. shaconan_kung4ever@hotmail.com shaconankyoya
4. vanillajungja@hotmail.com vanillajungja
5. film_loveinfinite@hotmail.com filmmiy
6. White_devil18934@hotmail.com Blood of dark
7. fonptam@hotmail.com F★n PT∀M
8. scool1234@yahoo.com scool
9. pearry_1999@hotmail.com Pear Hikaru <Hika-chan>
10. voggolafamily_kyoya@hotmail.com Nell
11. My_chayanit@hotmail.com Kuruma*0*
12. morninges@hotmail.com iloveReborn
13. por_10069@hotmail.com pornarakorn
14.pomp.18@hotmail.com @@lovelove@@
ซึ่งรวมกับคราวที่แล้วอีก 4 ท่านก็เป็นทั้งหมด 18 ท่านนะคะ ใครไม่ได้ยังไงก็มาบอกนะคะไรท์เตอร์จะได้ส่งให้ใหม่ ส่วนใครอยากได้ก็มาทิ้งเมลล์ไว้นะ ไรท์เตอร์จะส่งให้คะ ^^
ความคิดเห็น