คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 1 ปฎิญญาซาตาน
“โอ๊ย!!!...น่าเบื่อจริงๆเลย ชีวิตฉันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นทำบ้างมั้ยเนี่ย” เด็กสาวผมลอนสีฟางข้าวยาวสลวย ตัดกับโบว์สีขาวจุดแดงอันใหญ่ กำลังบ่นพลางเดินเล่นไปตามถนน นี่ก็เป็นพฤติกรรมธรรมดาของเธอที่จะคอยสอดส่องหาเรื่องท้าทายมาทำ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเดือดร้อนถึงผู้ที่รับอาชีพที่เป็นพี่เลี้ยงของเธอ
“คุณหนู เรโอเนล ครับ กลับมาก่อน อย่าหนีออกจากบ้านแบบนี้สิครับ” เสียงแหบห้าวจากสาวหล่อแกมสวยเจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงซอยประบ่าดังไล่หลังมา
“พี่พัตร หนูบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกหนูว่า ‘คุณหนู’ ให้เรียกรีโอเนลเฉยๆ”
“ครับ คุณหนู เอ๊ย! รีโอเนล” สาวหล่อวัย 19 ปีนามว่า ภัทรมน ไพศาลนุวัติวงศ์ ก้มคำนับแสดงการขอโทษอย่างนอบน้อม ทั้งๆที่จริงแล้วและเธอเป็นคนที่ห้าวและใจร้อนเสียยิ่งกว่ารีโอเนลซะอีก แต่เพราะอาชีพ ที่เธอจำเป็นต้องมาเป็นพี่เลี้ยงกึ่งคนรับใช้ให้กับตระกูล เอส อาร์เทอเรีย เพื่อเอาเงินไปปรนเปรอพ่อขี้เหล้า
“แล้วตกลงพี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เห็นพูดครับๆอยู่เรื่อย”
“เอ่อ ผู้หญิงครับ เอ๊ย! ค่ะ”
“อยู่กับหนู ไม่ต้องใช้คำให้มันสุภาพนักหรอก ไป! ไปเที่ยวกัน”
“ตะ..แต่ คุณหนูกำลังจะโดดเรียน เดี๋ยวมาดามกับมิสเตอร์อาร์เทอเรีย จะโกรธเอานะคะ”
“โกรธเหรอ! หน้าตาของพ่อกับแม่เป็นยังไงแล้วนะ อยากถามว่าครั้งสุดท้ายที่เจอหน้ากันน่ะวันไหน และวันเกิดของหนูวันที่เท่าไหร่ พ่อกับแม่จะตอบได้รึเปล่า!”
“…”
“หนูเกลียดพ่อแม่ที่ไม่เคยมีเวลาให้กับหนูที่สุด!!!”
“แต่อย่างน้อย คุณหนูก็มีพ่อแม่ที่ดี ไม่เคยดุด่า หรือทำร้ายสักครั้ง นับว่าโชคดีกว่าใครๆอีกหลายคนแล้วล่ะ”
“แหมๆ พี่พัตรพูดอย่างกับว่าตัวเองเป็นคนพวกนั้นงั้นแหละ คนหล่อๆ เอ่อ… สวยๆและมีความสามารถอย่างพี่น่ะ คงไม่มีใครทำร้ายได้อยู่แล้ว”
“คิดอย่างนั้นเหรอ... ขอบใจนะ”
“วันนี้จะมีการเปิดตัวนิยายเรื่องใหม่ของนักเขียนชื่อดัง หนูจะต้องไปซื้อมาอ่านให้ได้ เรารีบไปกันเถอะ!”
รีโอเนลและภัทรมนเดินเบียดเสียดกับฝูงชนมากมายที่มางานเปิดตัวหนังสือเล่มนิ้
‘ปฎิญญาซาตาน’ นวนิยายสืบสวนสอบสวนของนักเขียนหน้าใหม่ แต่ก็โด่งดังมาด้วยการแต่งนิยายชื่อเรื่องเดียวกันมาหลายภาค และปัจจุบันก็เป็นเล่มที่ 4 ซึ่งก็ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
อินดิโก ซาร์เซ ชายหนุ่มวัย 21 ปี เจ้าของผลงานนวนิยายข้างต้น ได้มาแนะนำหนังสือและแจกลายเซ็นให้กับลูกค้า
รีโอเนลก็เบียดเสียดผู้คนเข้าไปรับลายเซ็นด้วยเช่นกัน ส่วนพัตรยืนรออยู่ด้านนอก
ขณะนั้นเด็กหนุ่มผมยุ่งสีเงินผู้มีดวงตาสีน้ำตาลเข้ม หอบหนังสือหลายสิบเล่ม เดินมาที่บริเวณนั้น พอดีกับที่รีโอเนลเดินอ่านนิยายเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มาอย่างใจจดใจจ่อ
ทั้งคู่จึงเดินชนอย่างแรง โครม! จนหนังสือของทั้งสองฝ่ายหล่นลงไปที่พื้น
“โอย!!! เจ็บชะมัดเลย ยัยบ้า เดินไม่ดูคนเลยรึยังไง!” เด็กหนุ่มผู้นั้นพูดขึ้น
“ใครกันแน่ที่เดินไม่ดูทาง! นี่แน่ะ!” เรโอเนลเยียบเท้าของเด็กหนุ่มผู้นั้นอย่างจัง
“อ๊าก!!! เจ็บนะเฟ้ย! ทำบ้าอะไรเนี่ย!!!” เด็กหนุ่มตะโกนเสียงดัง
“นายจะทำอะไรคุณหนูน่ะ!” พัตรรีบเข้ามาขวาง แล้วจ้องเด็กหนุ่มผู้นั้นตาเขม็ง
“แหม… พี่ชาย แค่นี้ทำมาเป็นเจ็บ ว้าว! หนังสือศาสตร์มืดนี่นา” เรโอเนลกำลังจะเอื้อมไปหยิบ
“ไม่ให้! พวกเธอเป็นใครกันเนี่ย ไม่รักตัวตายเลยรึไงกัน!” เด็กหนุ่มรีบคว้าหนังสือกลับไป
“ฉันชื่อรีโอแนล ส่วนนี่พี่พัตร”
“ฉันรีเบล อัลเบี้ยน แต่ฉันไม่ว่างจะมาเล่นกับพวกเธอหรอกนะ ฉันไปก่อนล่ะ”
“เดี๋ยวสิ! พี่ชาย จะยอมให้ไปง่ายๆได้ไง กว่าฉันจะเจอคนที่น่าแกล้งได้ขนาดนี้มันนานนะรู้ไหม?”
“เฮ้ย! เธอจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!!! ยัยเด็กบ้า!”
“เหมือนนายจะเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวกว่าซาตานซะแล้วนะเนี่ย” เสียงอันอ่อนโยนพร้อมด้วยรอยยิ้มละมุนจากชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีม่วงเป็นประกาย นัยน์ตาสีม่วงอเมทิสต์ดูงดงามเข้ากับริบบิ้นสีม่วง ทั้งสามหันไปมองที่ชายหนุ่มผู้นี้เป็นตาเดียว
“จำฉันได้ไหม รีเบล” ชายหนุ่มผู้นั้นถาม
“อเมทิสต์ เดอ ยอร์ค…” รีเบลตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เรียกเมทิสต์เฉยๆก็ได้ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีรึเปล่า?” เมทิสต์ยิ้มให้
“ก็สบายดี แต่ตอนนี้ไม่สบายแล้วล่ะ เพราะมีใครบางคนจับไว้” เรโอเนลได้ยินดังนั้นก็รีบปล่อยมือ
“เมทิสต์ ฉันว่าฉันจะไปแนะนำหนังสือที่ร้านข้างๆด้วยน่ะ อ้าว! นายคุยกับใครอยู่น่ะ”
“หึหึ มากันเกือบครบเลยนะ ทั้งพี่เมทิสต์ ทั้งพี่อินดิโก” รีเบลหันหน้าไปมองชายหนุ่มนักเขียน ผู้มีเรือนผมและนัยน์ตาสีคราม เขามักสวมผ้าพันคอสีเทาอยู่ตลอดเวลา
“ขาดก็แต่... เฮ...” รีเบลนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“ไม่อยากจะรื้อฟื้นก็อย่าฝืนเลยดีกว่านะ” อินดิโกว่า
“หนูว่าเรากลับกันดีกว่า พวกเขาดูไม่ค่อยอยากจะเล่นกับหนูสักเท่าไหร่”
“อืม… พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ”
แต่ก่อนจะไป เด็กสาวตัวแสบก็ยังไม่ละความพยายามที่จะแกล้งผู้อื่น จึงแอบหยิบหนังสือเล่มหนึ่งของรีเบลซึ่งหล่นอยู่บนพื้นไปด้วย ส่วนชายหนุ่มทั้งสามยังคงยืนคุยกันที่เดิม
“เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมเกลียดคำว่า ‘มิตรภาพ’ เป็นที่สุด!” รีเบลพูด
“พวกเราขอโทษนะ ถ้าทำให้นายต้องนึกถึงความหลังอันเจ็บปวด แต่พวกเราก็เป็นห่วงนายนะ” เมทิสต์กล่าว
“ถ้านายไม่มีที่ไป จะไปพักที่บ้านของพ่อบุญธรรมฉันก็ได้นะ” อินดิโกว่า
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ผมอยากอยู่คนเดียวแบบนี้แหล่ะ” รีเบลทิ้งท้าย ก่อนทั้งสามจะลากัน อินดิโกจับที่ผ้าพันคอของตนที่ดูเหมือนจะปกปิดสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้
“ไม่เพียงแต่รีเบลนะ ที่เปลี่ยนไปขนาดนั้น”
“โชคร้ายหน่อยนะอินดิโก ที่สัญลักษณ์นั่นบนตัวนายน่ะ อยู่ในที่ๆคนอื่นมองเห็นได้ชัดเจนกว่าฉัน” เมทิสต์ลูบที่ข้อมือด้านซ้ายภายใต้เสื้อแขนยาวที่ปกปิดสัญลักษณ์นั้นไว้เช่นกัน
“เด็กหญิงผู้ใส่ชุดโลลิต้าสีดำ…”
ความคิดเห็น