คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 :๛FINIC๛ทดสอบ 100%
ตอนที่ 2
๛ทดสอบ๛
"คังอิน..."ทุกคนพร้อมใจกันพึมพำเบาๆเมื่อเห็นใบหน้าของบุคคลที่ 13 ที่เดินเข้ามาในโกดัง
"คร๊าบๆ นั่นชื่อผมเองคร๊าบ^_^"คังอินตอบรับกวนๆพลางยักคิ้วให้ทุกคน
"เอาล่ะๆ ทีนี้ก็ครบแล้ว"เรียวอุคพูดหลังจากที่คังอินเดินเข้ามาสมทบกับทุกคน
"แล้วนี่ต้องทำอะไรต่อเนี่ย"คิบอมเปิดปากพูดคำแรกตั้งแต่มาถึง
3%
"(-0- )(-0-)( -0-)"ทุกคนส่ายหน้าอย่างจนใจเพราะตนเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าต้องทำอะไรต่อ เลยได้แต่ยืน บื้อๆ ทื่อๆ อยู่อย่างนั้น
พรึ่บ!
ทันใดนั้นไฟบนเพดานทั้งหมดของโกดังก็ดับพรึ่บพร้อมกันโดยไม่มีใครได้ตั้งตัว
อ่อ เอาะ ออ เอ๊าะ ออ อ๊อ อ๊อ~~(เสียง?)
และอยู่ๆก็มีเสียงคล้ายเสียงดนตรีแปลกๆดังขึ้น
ยินดีต้อนรับท่านทั้ง 13 คนเข้าสู่บททดสอบในการเข้าสู่การเป็นสมาชิกแก๊งของพวกเรา ฟินิกซ์...
เสียงใสๆสุดไพเราะดังก้องกังวานไปทั่วทั้งโกดัง ทำให้ทั้ง 13 คนเริ่มจะเคลิ้มๆ แต่เมื่อตั้งสติได้ ทุกคนก็ยกมือขึ้นตั้งการ์ดป้องกันตัวทันที
"พวกเราอยู่รวมกันไว้"ชีวอนพูดพลางเดินขยับเข้าไปไกล้เพื่อนๆทุกคนให้มากกว่าเดิม แต่เพราะเค้าก้าวยาวมากไปจึงพลาดไปชนไหล่เพื่อนคนใดคนหนึ่งเข้า และทำให้คนๆนั้นล้มลง แต่ชีวอนที่ความรู้สึกเร็ว รู้สึกได้ว่าๆคนๆนั้นกำลังจะล้ม จึงรีบคว้าเอวของคนๆนั้นไว้ และนั่นก็ทำให้หน้าของเค้าไปซุกอยู่ตรงซอกคอของคนๆนั้นพอดี
"อ๊ะ!"เสียงหวานร้องอย่างตกใจ เมื่อในเวลาที่เค้ากำลังจะล้มลงกลับมีคนคว้าเอวเค้าไว้และเค้ายังรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ตรงซอกคอของเค้า จึงทำให้ร่างบางขนลุกซู่ทันที
"ขอโทษครับ พี่ฮีชอล"ชีวอนเอ่ยขอโทษทันทีที่รู้สึกตัวว่าตนนั้นอยู่ใกล้ร่างบางมากไป เค้าถอยออกมาพลางจับหัวใจตัวเองไว้ น่าแปลก...เพราะหลังจากที่คว้าเอวรุ่นพี่คนสวยไว้ หัวใจเค้าก็เต้นตึกตักๆอย่างรัวๆ แถมยังเหมือนมีความรู้สึกอะไรบางอย่างก่อขึ้นมาในจิดใจเค้าอีกด้วย
"อ่อ ชีวอนเหรอ เอิ่ม...เอ่อ..อ่า... อะ มะ..ไม่..ไม่เป็นไรๆ"ฮีชอลพูดติดๆขัดๆอยู่นานกว่าจะตอบออกมาได้
"ครับ งั้นเราเตรียมตัวทดสอบกันเถอะครับ"ชีวอนพูดแล้วหันกลับไปหาเพื่อนแล้วตั้งการ์ดซึ่งฮีชอลเองก็ทำเช่นเดียวกัน
"ผู้เข้าทดสอบทุกท่านจงคว้าใบไม้ที่ร่วงลงไปข้างล่างไว้คนละใบ จากนั้นประตูแห่งการทดสอบจะถูกเปิดออก การทดสอบเริ่มต้น ณ บัดนี้!!!"เสียงหวานยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่ดูกระชับขึ้น จึงทำให้คนฟังตื่นเต้นไปด้วย หลังจบคำพูด ใบไม้ประมาณสิบกว่าใบก็ร่วงลงมาตรงหน้าของทั้ง 13 คน
"ชั้นได้หมายเลข 2 อ่ะ ใครได้หมายเลขอะไรบ้าง"ฮีชอลเอ่ยขึ้นหลังจากคว้าใบไม้ไว้ได้ใบหนึ่งแล้วหันด้านที่มีหมายเลขขึ้นมาให้ทุกคนดู
"12"คิบอมตอบก่อนเพื่อน แต่น่าจะสั้นที่สุด
"ชั้นได้ 1"อีทึกตอบแล้วชูใบไม้ให้ทุกคนดู
"ชั้นได้หมายเลข 3"ฮันกยองบอกต่อ
"ผมได้ 4"เยซองจึงพูดต่อฮันกยองเมื่อเห็นว่าหมายเลขต่อกัน
" 5 ครับ^_^"คังอินชูใบไม้เช่นเดียวกับอีทึก
"ผมได้หมายเลข 6 อ่ะ"ชินดงพูด แล้วยกนิ้วโป้งขึ้น
"7 ครับ"ซองมินเอ่ยพลางยิ้มให้ทุกคน
"ผมได้เลขต่อจากซองมินครับ"อึนฮยอกบอกแล้วกอดคอซองมิน
"ผมได้เลข 9"ทงเฮตอบนิ่งพลางจ้องใบไม้อย่างพินิจพิเคราะห์
"ผมได้หมายเลข 10 ครับ"ชีวอนบอก
"ผมได้เลข 11"เรียวอุคบอกเสียงใส
"งั้นผมก็คนสุดท้าย 13"คยูฮยอนตอบพลางจ้องเกมกดในมือไม่วางตา ซึ่งหลายคนก็มองคยูฮยอนด้วยสายตาประมาณว่า'นี่ขนาดมาทดสอบยังจะเล่นอีกเรอะ!!'
ฟุ่บ!!! ฟึ่บ!!! วูบบบบบบบบบบบบบบบ
"เหวอออออออออออออออ"เสียงของหลายๆคนร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ พื้นที่ยืนอยู่รวมๆกลุ่มกันก็แยกออกจากกันเหมือนมีกลไก และทั้งหมดก็ตกลงไป ก่อนที่พื้นจะกลับมาสู่สภาพเดิมโดยไร้วี่แววการแยกตัวออกจากกันอย่างสิ้นเชิง....
ทางด้านหมายเลข 1 อีทึก...
ร่างบางเดินไปเรื่อยๆตามทางเดินของโกดังใต้ดินพลางมองซ้ายมองขวาเพื่อหาทางออก ดวงตาคู่สวยมองกระจกเงาตรงหน้าอย่างระแวดระวัง เพราะนี่เป็นการทดสอบเข้าแก๊งมาเฟีย มันต้องมีสิ่งที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ
"ปาร์ค จองซู KILLER CRISTAL"อยู่ๆก็มีเสียงดังก้องกังวานไปทั่วทางเดิน ร่างบางจึงหยุดเดินและปล่อยแขนให้ลู่ลงแนบลำตัว
"การทดสอบ... เริ่มแล้วสินะ"อีทึกพึมพำเบาๆ และแล้ว ดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนจะมีจำนวนมากซะด้วย
5%
ร่างบางค่อยๆหันกลับไปมองทางเดินด้านหลังที่เค้าเพิ่งเดินผ่านมา พบว่างูพิษจำนวนมากมายกำลังเลื้อยใกล้เข้ามาเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว มันแยกเขี้ยวแสดงความน่ากลัวออกมาให้ร่างบางเห็นเพื่อเป็นการขู่คนตาสวยให้กลัวมัน
แต่ทว่า....
"หวาววววววววว +0+ มีแต่งูหายากทั้งนั้นเลยนี่นา แง้ๆ อยากได้กลับไปเลี้ยงที่บ้านซัก 4-5ตัว จังเลย"อีทึกพูดออกมาด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า ร่าเริงไม่ได้มีท่าทางสำนึกระลึกได้เลยว่าตรงหน้าคือความอันตรายสำหรับชีวิตของเค้า เหล่างูมีพิษนับร้อยชนิดที่ๆบางสายพันธุ์ผู้คนคิดว่ามันสูญพันธ์ไปแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าเค้าโดนมันกัด เค้าอาจจะตายได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
"แต่น่าเสียดายนะ... น่าเสียดายจริงๆที่ชั้นต้องกำจัดพวกแก"อีทึกเปลี่ยนสีหน้าจากร่าเริงเป็นเย็นชาพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบวัตถุบางอย่างที่ใสจนมองไม่เห็นออกมา
ฉัวะ!! ฉับ!! ฟุ่บๆ!! ฟึบ!!
วัตถุนั้นเปล่งประกายงดงามน่าหลงไหล ร่างบางจับเจ้าวัตถุลักษณะเรียวยาวขึ้นมาให้อยู่ในระดับใบหน้าของเค้าและฟันไปมาอย่างรวดเร็ว จนตาเนื้อของมนุษย์ไม่สามารถจะจับภาพได้ เพียงไม่ถึง 10 วินาที งูพิษนับร้อยชนิดก็ขาดออกจากกันเป็นส่วนๆ และวัตถุเรียวยาวของร่างบางเปลี่ยนสีจากสีใสระยิบระยับเป็นสีเลือด และเมื้อวัตถุนั้นถูกอาบไปด้วยเลือดทั้งด้าม มันก็ปรากฏให้เห็นชัด ว่าสิ่งนั้นคือ อะไร....
มีดสั้น คริสตัล...
อาวุธที่อีทึกถือไว้อยุ่คือ มีดสั้น สีใสที่ทำมาจาก คริสตัล ความงดงามระยิบระยับที่ฉาบไปด้วยโลหิตสีแดงฉานจากตัวงูพิษนับร้อยชนิด มีดเล่มนั้นจึงทำให้ร่างบางที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากงูพิษนับร้อยชนิดที่ขาดออกจากกัน บวกกับสายตาที่เย็นชา ทำให้ร่างบางดูโหดร้ายและน่ากลัวจับใจ
7%
"ห๊ะ เนี่ยน่ะนะ การทดสอบเข้าแก๊งอ่ะ โธ่เอ๊ย! เอาให้ยากกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไงนะ ไอ้เรารึก็อุตส่าเอาคริสตี้มากินเลือดคนเล่นอะไรซะหน่อย นี่มันไม่ได้ใช้อะไรเล้ย ย ย"อีทึกบ่นไปมาหน้าเบ้ ก่อนจะเก็บมีดสั้นเข้าไปไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินต่อไป ตามทางเดินที่ทอดยาวซึ่งสะท้อนเงาร่างบางที่มีตาคุ่สวยจับจ้องไปรอบทิศทางอย่างระแวดระวังทุกฝีก้าวไปตลอดทาง
ทางด้านหมายเลข 2 ฮีชอล
"อะไรกันเนี่ยยยยยยยยยยยย"ร่างบางร้องลั่นอย่างขัดใจกับภาพตรงหน้า...
ห้องสีขาวโมโนโทน ทั้งห้องมีเพียงชุดโซฟากับชุดน้ำชาที่มีไอกรุ่นลอยอบอวลตั้งอยู่บนโต๊ะ
"ยินดีต้อนรับท่านเข้าสู่การทดสอบ KILLER BLACKROSE"เสียงใสเสียงเดิมที่เคยดังเมื่อตอนอยู่โกดังข้างบนดังขึ้นอีกครั้งเหมือนเป็นการต้อนรับ
"ชั้นล่ะเบื่อกับฉายาแบบนั้นจริงๆเล้ยยยย เลิกเรียกซะทีได้มั๊ยเนี่ย=_=,,"ร่างบางบ่นพลางบิดตัวไปบิดตัวมาอย่างขัดใจ ก่อนจะเดินหน้าเข้าไปหาโซฟา เพื่อจะหาที่นั่งเล่นรอการทดสอบ
เฟี้ยว! ฟึ่บ!
ทันใดนั้นร่างบางก็สะบัดแขนขึ้นมาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว และหลังจากมือของร่างบางหยุดนิ่งอยุ่ตรงสายตาของตน มีดสั้นด้ามทองก็ปรากฏขึ้นอยู่ตรงระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วนาง ซึ่งปลายคมมีดนั้นอยู่ห่างจากกลางหน้าของฮีชอลไปเพียงไม่ถึงเซนเท่านั้น!!!!
"อะไรกั๊นนนน>3< เดี๋ยวนี้การทดสอบเค้านิยมลอบกัดเหรอเนี่ย"ฮีชอลพูดเหมือนจงใจพูดให้ใครบางคนได้ยิน ก่อนจะเหวี่ยงมีดให้หมุนควงสว่านขึ้นไปข้างบนในแนวตรง ก่อนจะรับไว้ในมือแล้วหมุนควงไปมา
"หึหึ ขนาดเวลาอย่างนี้ คุณก็ยังคงออมมือ และลองเชิงคนดูก่อนเหมือนเดิมเลยสินะ นักฆ่ากุหลาบสีดำ"ร่างบางหน้าสวยกระโดดลงมาตรงหน้าของฮีชอล โดยที่ฮีชอลเองก็ยืนยิ้มรอให้ร่างหน้าสวยมานประชันกัน(จะประชันความสวยแทนฝีมือเหรอคะ??)
"นักฆ่าที่มีใบหน้าสวยงามราวกับนางฟ้า ดวงที่มองว่างเปล่าราวกับไร้หัวใจ เสร็จงานก็จากไปอย่างไร้ร่องรอย อย่างเดียวที่เหลือทิ้งไว้คือ กุหลาบสีดำ"ร่างบางหน้าสวยพูดขึ้นมาเรียบๆ แต่ฮีชอลก็ดูจะเบื่อหน่ายกับคำพวกนั้นซะเหลือเกิน
"เริ่มทดสอบเถอะน่า แจ.. อ๊ะ ไม่สิ อาจารย์แจจุง"ร่างบางเอ่ยขัดขึ้นแล้วเอ่ยชื่อ ของร่างบางหน้าสวยออกมาพร้อมกับหยุดควงมีดในมือ ซึ่งแจจุงยืนสะอึกไปนิดหน่อย เมื่อมีดนั้นก็หันคมเข้าหาเค้า
10%
"นั่นสินะ..."แจจุงพูด ทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันนิ่งๆ โดยไม่มีใครขยับเขยื้อนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายทั้งสิ้น บรรยากาศทั้งห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อสิ่งมีชีวิตในห้องทั้งสองไม่เคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น นอกจากลมหายใจที่เข้าออกช้าๆอย่างเป็นจังหวะ ราวกับทั้งคู่กำลังรอเสียงเปิดการประลองครั้งนี้อยู่
กริ๊งงงง~~
เสียงน็อตตัวหนึ่งตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงโลก ราวกับเป็นเสียงเปิดการประลองให้เริ่มขึ้น และทั้งสองคนก็ทำเหมือนการต่อถูกเปิดขึ้นแล้ว!!! ร่างบางทั้งสองพุ่งตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของทั้งสองดูเหมือนอะไรบางอย่างที่มนุษย์คุ้นเคยกับมันดี
คิมฮีชอล... ร่างบางที่มีใบหน้าสวยหวานงดงามเคลื่อนไหวร่างกายด้วยท่าทางดุจเปลวเพลิงที่สงบเยือกเย็นและดุร้าย
คิมแจจุง....ร่างบางหน้าสวยหวานอีกคน ซึ่งพุ่งตัวเข้าไปเช่นกัน แต่ท่าทางลักษณะการเคลื่อนไหวร่างกายช่างดูแตกต่างจากอีกคนอย่างสิ้นเชิง เมื่อแจจุงเคลื่อนไหวกายดุจสายน้ำที่เชี่ยวกราก ราวกับโมโหโกรธาใครอยู่
ฉัวะ!!!
แจจุงตวัดมีดอย่างรวดเร็วทันทีที่เค้าเข้าประชิดตัวฮีชอลจากด้านข้างได้ และรีบชักมือกลับด้วยความเร็วพอกัน ก่อนจะก้าวท้าวๆยาวออกมาห่างๆจากฮีชอล
"น้ำที่อ่อนแรง นำมาดับไฟน่ะ มันสูญเปล่าซะจริงนะ แจจุง..."ฮีชอลเอ่ยขึ้นเบาๆพลางยืนกอดอกจ้องหน้าแจจุงด้วยสายตายิ้มแย้มสดใสไม่เข้ากับคำพูด
"ถึงแม้น้ำจะอ่อนแอเช่นไร แต่ก็ยังคงต้องดับลงเมื่ออยู่ต่อหน้าน้ำศักดิ์สิทธิ์"แจจุงเอ่ยตอบเรียบๆ ก่อนที่บนใบหน้าของฮีชอลจะปรากฏของเหลวสีแดงเข้มไหลลงเป็นทางจากหางคิ้วซ้าย ลงมาเรื่อยๆคนเลือดค้างอยุ่ตรงคางมน ก่อนจะค่อยๆหยดลงพื้นใน ขณะที่ทั้งสองคนกำลังยืนจ้องหน้ากันเช่นเคย
ติ๊ง~
เสียงเลือดของฮีชอล หยดลงบนพื้นเบาๆ แต่ถึงแม้มันจะเบาเท่าใด มันก็ยังเปรียบเสมือนระฆังที่ดังขึ้นเพื่อเริ่มการต่อสู้ และทั้งสองร่างบางก็พุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
20%
ฉัวะ!!
เสียงของมีคมบาดเข้าบนใบหน้าเรียวสวยของฮีชอลอีกครั้ง คราวนี้มีดตวัดโดนข้างแก้มซ้ายเป็นรอยยาวทั้งๆที่ปกติใบหน้าเรียวสวยนี้แทบจะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนต่อสายตาผู้คนนัก ซึ่งครั้งนี้จึงทำให้ดูเหมือนฮีชอลจะไม่เอาจริงเอาจรังกับการต่อสู้ครั้งนี้
"นี่น่ะเหรอ ฝีมือการต่อสู้ของนักฆ่าในตำนาน... ทำไมคุณถึงทำแบบนี้!!!!"แจจุงตะโกนใส่หน้าฮีชอลอย่างแรง แต่ฮีชอลเองก็ไม่สะทกสะท้าน กลับมองตอบกลับมาด้วยสายตาเหมือนเอ็นดู แต่แวบเดียวเท่านั้น ดวงตานั้นก็ว่างเปล่าไร้หัวใจและความเป็นเด็กมัธยมปลายปกติไป....
"เด็กน้อย.. การยอมน่ะนะ นายควรจะรู้ไว้ว่าการยอมไม่ได้มีความหมายแค่คำว่าแพ้ การยอมน่ะ บางทีอาจจะทำให้ชนะซะด้วยซ้ำ จำไว้ให้ดี นายยังประมาทเกินไป..."ฮีชอลเอ่ยด้วยเสียงเรียบเหมือนผู้ใหญ่กำลังสอนเด็ก ซึ่งพอได้ฟังคำนั้น แจจุงเบิกตากว้างอย่างตกใจทันที
"คุณ.... นี่สินะฝีมือที่แท้จริงของคุณแกล้งยอมเพื่อลองเชิง ประเมินฝีมือคู่ต่อสู้ แล้วลงมือจัดการอย่างเยือกเย็น"แจจุงเอ่ยเบาๆตามคำล่ำลือที่ได้ยินมาเกี่ยวกับตัวร่างบางตรงหน้า ซึ่งฮีชอลเองก็ยิ้มให้น้อยๆ ซึ่งรอยยิ้มนั้นแทบจะมองไม่ออกว่ายิ้ม
ฟุบ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฟีด!
ฮีชอลพุ่งตัวเข้าหาแจจุงอย่างรวดเร็วซึ่งแจจุงเองก็พยายามจะหลบการโจมตีของอีกฝ่าย เหมือนว่าเค้าจะหลบได้ทันที แต่ในตอนที่ฮีชอลพุ่งตัวผ่านแจจุงไปนั้น รู้สึกเหมือนมีอะไรตวัดเข้าที่แก้มทำให้รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ
"ชั้นรอนายเสมอนะ..."ฮีชอลพูดขึ้นเรียบๆ ซึ่งแจจุงนั้น พอได้ฟังก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ปนเจ็บปวด เมื่อรู้สึกถึงรอยบาดที่ข้างแก้มซึ่งเริ่มมีเลือดไหลลงมาเป็นทาง
"เอาล่ะ~ ชั้นผ่านได้แล้วใช่ม้า อาจารย์แจจุงคนสวย งั้นผมไปก่อนน้า า า า"ฮีชอลเปลี่ยนโหมดอารมณ์กลับมาเป็นยิ้มแย้มสดใสอย่างรวดเร็ว แล้วหันมาถามคำถามโง่ๆ กับแจจุงที่ยืนอึ้งอยู่ ซึ่งร่างบางเองก็พยักหน้ารับ ฮีชอลจึงออกวิ่งไปทันที ลับไปจากสายตาของแจจุง
"รองั้นเหรอ... หมายความว่ายังไงกันนะ"แจจุงพึมพำเบาๆก่อนจะเดินหลบไปอีกทาง
ทางด้านหมายเลข 3 ฮันกยอง
ร่างสูงเดินไปตามทางเดินอย่างเอื่อยๆเฉื่อยๆ พลางยกมือหนาขึ้นมาลูบท้องแล้วบ่นไปบ่นมาเบาๆ หน้าเบ้
"เฮ้อ หิวๆๆๆๆ หิวชะมัดเลยย รู้งี้หน้าจะวานให้เจ้าเด็กนั้นซื้อ ไก่ต้มมาฝากบ้างก็ดีหรอก อยากกินไก่จังเลยแฮะ"ร่างสูงบ่นไป ลูบท้องไป พลางมองหาว่ามีอะไรจะกินได้บ้าง ซึ่งดูเหมือนมันจะไร้ประโยชน์มากเมื่อ บนทางเดินนั้นมีแต่ความว่างเปล่า (มันก็คงไร้ประโยชน์อ่ะแหละฮะป๋า=_=,,//:ไรเตอร์)
"หึหึ จะทดสอบเข้าแก๊งพวกเรา นายมาแบบนี้ ไม่ไหวหรอกมั้ง มังกรสายลม..."
เสียงหวานดังขึ้นมาจากข้างหลังของร่างสูง ทำให้ร่างสูงที่ยืนตัวงอกุมท้องหน้าเบ้ด้วยความหิวต้องยืดตัวขึ้นและหมุนตัวหันกลับไปมองบุคคลที่เดินเข้ามาหาเค้า
"การทดสอบครั้งนี้ถึงกับต้องใช้โลมาสายน้ำมาเองเลยเหรอนี่"ร่างสูงพูดด้วยท่าทางเหมือนแปลกใจซะเต็มประดา(จนน่าหมั่นไส้ จากไรเตอร์เอง^o^)
"คุณเองก็เหมือนกัน มังกรสายลม ถึงกับยอมเปลี่ยนถิ่นฐานมาถึงที่นี่ ทั้งๆที่แม้คนที่คุณรักมากที่สุดขอร้องขนาดไหนคุณก็ยังไม่ยอกจากมา คุณยอมมาได้ยังไงกัน มังกรสายลม..."ร่างบางตอบกลับอย่างเชือดเฉือน พลางดึงดาบดอกมาจากฝักช้าๆ ราวกับต้องการให้ร่างสูงจ้องมองมัน เพื่อดูความทรงอาณุภาพที่แข็งแกร่ง
"คิมจุนซู... เรามาเริ่มการทดสอบได้แล้วล่ะ"ฮันกยองเอ่ยออกมาอีกครั้ง
"ก็ดี.."
วูบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หลังขาดคำของจุนซู ทั้งสองคนก็พุ่งเข้าหากันทันทีด้วยความเร็วที่ไม่มีใครยอมใคร เร็วจนถึงขนาดที่ตาเนื้อของคนปกติยังไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ทันทุกรายละเอียด และถึงแม้จะมองทัน ถ้าสายตาไม่ดีจริงก็คงจะมองเห็นเป็นเพียงเงารางๆวูบไปมาเท่านั้น
50%....
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ตุ่บ!
ร่างสูงและร่างบางประดาบกันอย่างรวดเร็ว ดาบคมทั้งสองเล่มประกันถึงสิบครั้งในสองวินาที ร่างบางมองส่วนหนึ่งของร่างสูง ซึ่งร่างบางพอจะมองออกว่าในตอนนี้มันเป็นจุดอ่อนอยู่ จึงเตะปัดเท้าไปตรงส่วนข้อเท้าข้างซ้ายของร่างสูง ร่างสูงซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัว จึงล้มในท่าหงายหลังลงไปบนพื้น
"พลังที่แท้จริงของมังกรสายลมที่ผู้คนเค้าร่ำลือว่าเก่งกาจนักหนามีเพียงเท่านี้เองงั้นเหรอ ผมไม่เข้าใจว่าคุณจะออมมือให้ผมเพื่อเหตุใด"ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงอย่างไม่เข้าใจความคิดของคนตรงหน้า
ในขณะที่ร่างสูงไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น การแสดงออกของร่างสูงมีเพียงแค่ยืนกอดอกมองด้วยสายตาเรียบๆ
"ซีอา จุนซูพลังที่แท้จริงของผู้มีฝีมือน่ะ ควรจะเก็บเอาไว้ใช้เมื่อยามที่จำต้องใช้ และในสถาณการณ์ที่เหมาะสม มีคุณค่าพอที่จะใช้ ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่าใช้ตามความรู้สึกว่าอยากก็ใช้ๆ"ร่างสูงเรียกชื่อเต็มๆของร่างบาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนพี่กำลังสอนน้อง และหลังจากที่พูดจบร่างสูงก็พุ่งเข้าหาร่างบางด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น
เคร้ง! ฟุ่บ!
เมื่อดาบทั้งสองเล่มปะทะกันได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ดาบของร่างสูงก็ไปจ่ออยู่ตรงหน้าร่างบางทันที เมื่อในตอนที่ดาบกำลังจะปะทะกันครั้งแรกเท้าข้างขวาของร่างสูงก็ตรงเข้ามาเตะปัดขาซ้ายของเค้าทันที ร่างบางจึงล้มลง เป็นผลให้ดาบของร่างสูงมาจ่ออยุ่ตรงหน้าเค้าอย่างในตอนนี้
85%....
"ผมผ่านแล้ว ผมออกไปได้ใช่มั๊ย?"ฮันกยองเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และสายตาว่างเปล่า ร่างบางเมื่อเห็นว่าตนแพ้แล้วจึงพยักหน้าให้ตอบคำถามของร่างสูง ร่างสูงเห็นร่างบางพยักหน้าให้จึงเก็บดาบลงฝักแล้วหันหลังเดินกลับไป
"ฮันกยอง... ได้โปรดนะ ได้โปรดอย่าทำสายตาอย่างนั้นอีกเลย ที่ผ่านมาตลอดเวลาเค้าคนนั้นก็เจ็บมามากพอแล้ว มากเกินไปซะด้วยซ้ำอย่าทำสายตาอย่างนั้นอีกเลยนะ ชั้นกลัว...กลัวเหลือเกิน กลัวมากด้วย กลัวว่ามันจะทำให้ความเจ็บนั้นกลับมาทำร้ายเค้าคนนั้นอีกครั้ง ได้โปรดเถอะนะ อย่าใช้สายตาอย่างนั้นอีกเลย แม้จะแลกกับอะไรชั้นก็ยอม"ร่างบางยันตัวขึ้นมาจากพื้นก่อนจะเอ่ยประโยคที่ยืดยาวด้วยน้ำเสียงทีฟังดูทั้งเหงาและเศร้า และดวงตาก็มีน้ำใสๆคลอเคลียอยู่
ทางด้านหมายเลข 4 เยซอง
ตึก..ตึก...ตึก
ภายในห้องโถงอันโล่งกว้าง ซึ่งมีโทนสีเป็นสีขาวโมโนดทน มีร่างสูงอวบวิ่งวนไปมาอย่างร่าเริงใบหน้าดูสดใสราวกับเด็กตัวเล็กๆที่พบสนามเด็กเล่นก็มิปาน ก่อนที่การกระทำนั้นจะหยุดลง เปลี่ยนมาเป็นท่วงท่าการยืนที่ดูสง่างามราวกับเจ้าชาย ก่อนจะย่างก้าวไปตรงบริเวณกลางกห้อง
ตึง! ตึง! โครม!
เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนนับสิบ ดังขึ้นบริเวณประตูทางเข้าห้องโถง แต่ร่างสูงซึ่งยืนอยู่กลางห้องกลับนิ่งเฉย และดูเหมือนจะกำลังฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ
"ด๊น! ดน! โมดึนเกด๊นเซซัง วอนอาเนคัม ชินนอ what is your mine~"ร่างสูงอวบฮัมยังคงเพลงอย่างนุ่มนวลและเข้มแข็งโดยไม่สนใจเสียงของประตูที่กำลังคล้ายจะพังลงมาเต็มแก่
โครม!
ประตูบานแกร่งพังลงมาตามแรงปะทะจนล้มลงดังโครม จนเรียกสายตาของร่างสูงให้หันมามอง
"อ้ะ..อ่า หมาหมู่ซะงั้นน่ะ"ร่างสูงร้องอย่างประหลาดใจ(นิดหน่อย) แล้วจึงฮัมเพลงต่อไปอย่างสบายใจเฉิบ ชายฉกรรจ์ที่บุกเข้ามาทั้งกลุ่มมองหน้ากันนิดหน่อย ก่อนจะหยุดวิ่ง ยืนตัวตรงอยุ่ตรงรอบๆตัวร่างสูง
"กฏในการทดสอบครั้งนี้คือ..."ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพูดขึ้น
"บร่อแบร่ๆๆ ๆ พวกกลุ่มหมาๆ หมามาเป็นหลุ่ม ลูกเสือหมูหมา รุมคนๆคนเดียวด้วยคนเป็นสิบ ตุ๊ด..ป๊อด ด พ่อชื่อป๊อดๆ ๆ ๆ"ร่างสูงหยุดฮัมเพลงเปลี่ยนมาเป็นแลบลิ้นปลิ้นตาแล้วหมุนไปรอบตัวเพื่อเป็นการยั่วโทสะของคนทั้งหมดโดยไม่คำนึงถึงจำนวนคนที่เรียกได้ว่า 1:10
"หน็อย!!! มาด่าชื่อพ่อกู มึงตาย!!"ชายหนุ่มหนึ่งในคนทั้งหมดตะโกนขึ้นก่อนที่คนทั้งหมดจะกรูกันเข้าไปต่อย เตะ และทำร้ายร่างกายต่างๆนาๆ และถึงแม้ร่างสูงจะพยายามต่อสู้เพียงใดก็ไม่เป็นผลเมื่อกำลังทางฝั่งตนมีเพียงแค่ 1 และฝั่งตรงข้ามมีถึง 10 จนตอนนี้ร่างสูงลงไปกองอยุ่บนพื้นเรียบร้อย แต่แล้ว ...
ตุ่บ!
พลั่ก!
ผัวะ!
"โอ๊ย!"
"อั่ก"
กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดค่อยๆล้มลงไปกองกับพื้นทีละคนๆ พร้มกับเสียงของอะไรบางอย่างที่กระทบต่อร่างกายของชายทั้งหมด ทีล่ะคนๆไล่ไปเรื่อยๆเป็นวง จนตอนนี้กลุ่มชายฉกรรจ์ที่รุมทำร้ายร่างสูงอวบเมื่อกี๊ล้มลงไปกองบนพื้นอย่างน่าอนาถ แต่ก็ยังมีอยู่หนึ่งคนที่ยืนหยัดอยู่ได้
ร่างสูงอวบที่ชื่อว่า เยซอง..
"อะไรกันเนี่ย โง่ชะมัดเลย มัวแต่รุมซ้อมตุ๊กตาของเล่นอยู่ได้ ไม่มาสู้กับชั้นเลยซักคน"เยซองเอ่ยอย่างสมเพชเวทนาเหล่าคนทั้งหมดที่กองอยุ่ที่พื้น แล้วเดินจากไปตรงทางออกที่เปิดใหม่เหมือนกลไกเมื่อตอนที่ตกลงมาจากเบื้องบน
ชายฉกรรจ์ทั้งหมดค่อยๆยืนขึ้นและพยุงกันเดินออกไปจากห้องโถงเงียบๆ
หลังจากที่ทั้งห้องโถงเหลือเพียงความว่างเปล่ากลุ่มเขม่าควันกลุ่มหนึ่งค่อยๆลอยเข้ามาในห้องโถง ทั้งๆที่ข้างในห้องโถมไม่มีลมพัดซักแอะ!!!
เขม่าควันกลุ่มนั้นค่อยๆรวมตัวกันกลายเป็นก้อนอะไรกลมๆ ดุ๊กดิ๊กๆ และก่อตัวขึ้นเรื่อยๆจนดูคล้ายมนุษย์ จนเมื่อเขม่าควันรวมตัวกันจนกลายเป็นคนรูปร่างปกติธรรมดาเหมือนมนุษย์ธธรรมดาทั่วไป
"หย๋า~ ชั้นอยากได้หุ่นตัวนั้นอ่ะ เจ้าเปาพองลม แกนี่น่าตีจริงๆเลย ทีอยุ่ด้วยกันก็ไม่ยอมทำให้ชั้นบ้างจำชั้นได้เมื่อไหร่จะแกล้งให้เข็ดเลยคอยดู"ร่างมนุษย์ที่เกิดขึ้นจากเขม่าควันขยับริมฝีปากบางพูดอย่างอารมณ์ดีปนใส่จริตลงไปนิดนึง แล้วบิดตัวไปมาเหมือนเด็กโดนขัดใจ ก่อนจะแลบลิ้นล้อเลียนไปทางประตูบานหนึ่งที่ร่างสูงเพิ่งเดินจากออกไป และร่างกายก็ค่อยๆสลายกลายเป็นเขม่าควันอีกครั้งก่อนจะลอยหายไปกับสายลมที่พัดเข้ามาทั้งๆที่ในห้องนี้มีเพียงประตุสองบานที่ปิดสนิทมิดชิด....
100%
ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ฮะ
อัพทีไรก็ออกแนวขี้เกียจ
อัพได้ทีละนิดๆ
หรือเอาจริงๆตั้งใจให้คนอ่านค้างคา 555+
แต่ยังไงก็จะพยายามมาอัพต่อให้เร็วที่สุดฮะ^_^
ความคิดเห็น