คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 : บีบบังคับ {2}
คืนนี้มีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเพื่อนตำรวจที่สนิทสนมกัน ภานุเดชกับกานดาจึงควงกันไปร่วมงาน เอกพลปฏิเสธโดยการอ้างว่ามีงานรออยู่อีกกองพะเนิน และคืนนี้คงค้างที่คอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางเมือง ที่มารดาออดอ้อนขอให้ภานุเดชซื้อให้เขาเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสามปีก่อน แต่ความจริงแล้วนั่นเป็นแค่เรื่องโกหก
เขาไม่เคยทำงานและไม่คิดจะทำ
แค่ใช้เงินจากแม่กินเหล้าเข้าบ่อนอยู่อย่างทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว
ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด
เอาไว้แต่งงานกับนัทชาแล้วได้เป็นเจ้าของรีสอร์ตเมื่อไร
เขาจะหอบเงินเข้าบ่อนไปให้มากขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลย
เมื่อพ่อเลี้ยงกับมารดาพากันออกไปจากบ้านแสนคำภาแล้ว
พวกสาวใช้ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนยังเรือนคนใช้ด้านหลัง
ไม่ได้สนใจเรื่องของเจ้านายอีก นั่นจึงเป็นทางสะดวกสำหรับการทำเรื่องชั่วๆ
ตามที่เอกพลกับมารดาช่วยกันวางแผนเอาไว้
เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะได้เพชรน้ำงามอย่างนัทชา
รวมถึงทรัพย์สมบัติทุกอย่างของตระกูลแสนคำภามาครอบครอง
เอกพลย่องผ่านความมืดตรงไปยังห้องของนัทชา
เอากุญแจที่มารดาแอบหยิบฉวยออกมาจากพวงกุญแจสำรองมาสอดใส่ลงในลูกบิด
เมื่อได้ยินเสียงคลิกเบาๆ ที่บ่งบอกว่าสามารถผ่านเข้าไปได้แล้ว เขาจึงค่อยๆ
ดันประตูเปิดเข้าไป ภายในห้องไม่ได้มืดมากนัก
ยังมีแสงสว่างจากดวงจันทร์ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง
ชายหนุ่มมองเตียงนอนที่มีผ้าห่มคลุมอยู่
ย่นคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อพบว่านัทชาไม่ได้อยู่บนเตียง
เอกพลยืดตัวเต็มความสูง
หมุนตัวหันไปมองทางด้านหลังซึ่งเป็นห้องน้ำ
ยิ้มอย่างพอใจที่พบเจ้าของร่างเล็กยืนอยู่ตรงนั้น แต่กว่าสมองจะประมวลความหมายของสิ่งที่อยู่ในมือเธอว่ามันคือไม้เบสบอล
มันก็ลอยหวือปะทะเข้ามาที่ศีรษะของเขาเต็มแรงจนสลบเหมือดลงตรงนั้นทันที
“นึกแล้วเชียวว่าต้องคิดชั่วไม่เลิก
ฝันไปเถอะว่าจะได้เห็นขาอ่อนคนอย่างฉัน!” นัทชาพึมพำและเบ้ปากใส่
ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะข้างเตียง ต่อสายไปหาบิดา
คราวนี้เอกพลจะต้องดิ้นไม่หลุดแน่
ถ้าพ่อของเธอรู้ว่าลูกชายของกานดาคิดไม่ซื่ออย่างนี้
ท่านจะต้องตัดสินใจเรื่องที่จะจับเธอคลุมถุงชนใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน
เมื่อภานุเดชได้ยินจากลูกสาวว่าเอกพลบุกขึ้นห้องไปหวังจะข่มขืน
ก็รีบขอตัวกลับจากงาน มุ่งหน้าสู่บ้านแสนคำภาด้วยความร้อนใจทันที
ตลอดทางที่นั่งเคียงกันมา
กานดาก็พยายามเป่าหูตลอดว่านัทชาคงแค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้น คนอย่างเอกพลเป็นสุภาพบุรุษและไม่เคยคิดหักหาญน้ำใจผู้หญิง
แต่ในใจแอบนึกตำหนิลูกชายตัวดีอยู่เหมือนกัน ที่ทำอะไรไม่รอบคอบจนเรื่องเข้าหูภานุเดชเอาอย่างนี้
นายตำรวจยศพันโทรีบขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของลูกสาว
พบนัทชายืนกอดอกอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าราบเรียบ
ไม่ได้โผเข้ากอดพ่อด้วยความขวัญเสียอย่างที่ภานุเดชจินตนาการไว้ ถัดไปมีสาวใช้สองคนยืนอยู่
สายตากำลังมองผ่านประตูเข้าไปภายในห้อง เมื่อเห็นประมุขของบ้านกลับมาแล้ว ทั้งสองจึงถอยหนีไปยืนอยู่ห่างๆ
“เอกพล!” ภานุเดชมีสีหน้าตกใจ เมื่อพบร่างของเอกพลนอนนิ่งอยู่บนพื้น
“ว้าย! ตายแล้วตาเอก!” กานดาปรี่เข้าไปหาบุตรชาย ตบแก้มแรงๆ
หวังจะปลุกให้ได้สติ
“ยังไม่ตายหรอกค่ะ ก็แค่สลบไป”
นัทชาเอ่ยแทรก ดวงตาทอประกายสะใจ “น่านกำลังจะเข้านอนค่ะ
แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนไขประตูเข้ามา พอเปิดประตูเข้ามาข้างในได้ มันก็กระโจนมากอดจูบน่าน
พยายามจะปล้ำน่าน น่านตกใจก็เลยใช้ไม้เบสบอลตีหัวเอาเต็มๆ
พอเปิดไฟดูถึงรู้ว่าเป็นพี่เอกค่ะ” เธอเล่าให้ฟัง ไม่ลืมตีไข่ใส่สีด้วยเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเรื่องราว
“ไม่จริง! ตาเอกไม่ใช่คนแบบนั้น” กานดาเถียงพร้อมหันมาจ้องนัทชาตาขวาง
จากนั้นก็มองไปหาสามีที่ยืนตระหง่านอยู่ไม่ไกล “อย่าไปเชื่อนะคะคุณพี่
ยัยน่านแค่ไม่อยากแต่งงานก็เลยใส่ร้ายตาเอก คุณพี่ก็น่าจะพอรู้นิสัยลูกสาวตัวเองอยู่นี่คะ”
เจ้าหล่อนอธิบาย และไม่ค่อยสบายใจนักที่เห็นสายตาคลางแคลงใจของสามี
“อูย...” เสียงครางผะแผ่วของคนที่นอนอยู่บนพื้น เรียกทุกสายตาให้จ้องมองไป
“ตาเอก! เป็นยังไงบ้างลูก”
กานดาช่วยประคองลูกชายให้ลุกขึ้นนั่ง
“ผม...” เอกพลมองไปรอบๆ ห้อง รู้ดีแก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ที่ยังอ้ำอึ้งเพราะกำลังคิดอยู่ว่าควรพูดอย่างไรเพื่อให้ตัวเองไม่ใช่ฝ่ายผิด
เพราะดูจากสีหน้าของภานุเดช เขาก็พอเดาได้ว่ากำลังถูกเพ่งเล็งเต็มที่ “น้องน่าน ทำไมน้องน่านถึงทำกับพี่แบบนี้ละคะ” คนสมองไวในทางร้ายหันไปมองนัทชาด้วยสายตาผิดหวังเสียใจ
สมบทบาทจนเธอนึกอยากปราดเข้าไปทิ่มลูกตาให้บอดนัก
“ก็สมควรแล้วนี่!
คุณคิดจะปล้ำฉัน ฉันก็ถวายไม้เบสบอลให้ไปเต็มรัก
อยากได้อีกสักดอกไหมละ!” หญิงสาวทำท่าจะเหวี่ยงไม้เบสบอลเข้าใส่อีกรอบ
แต่บิดาคว้าตัวเอาไว้ได้ทันเสียก่อน “ปล่อยน่านนะคะคุณพ่อ!
ไอ้หมอนี่มันคิดจะปล้ำน่านมานานแล้ว วันนี้ขอฟาดให้หัวแบะสักหน่อยเถอะ!”
ร่างบางดิ้นขลุกขลัก ตะโกนใส่คนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างฉุนเฉียว
“หยุดนะยัยน่าน!
อย่าทำตัวใจร้อนแบบนี้สิ” ภานุเดชตำหนิแล้วดึงแขนลูกสาวไว้แน่นขึ้น
“อย่าไปเชื่อที่น้องน่านพูดนะครับคุณพ่อ
นั่นไม่ใช่ความจริงเลย!” เอกพลอาศัยจังหวะนั้นแก้ต่างให้ตัวเอง
“ผมขึ้นมาข้างบนเพราะได้ยินเสียงน้องน่านร้องขอความช่วยเหลือ
แต่พอเปิดประตูเข้ามา น้องน่านก็ใช้ไม้ตีหัวผม ถ้าการต้องแต่งงานกับผมมันทำให้น้องน่านต้องกลายเป็นคนเจ้าแผนการขนาดนี้
ผมว่าคุณพ่ออย่าบังคับน้องเลยนะครับ”
“แกนั่นแหละที่โกหก!
ฉันไม่เคยวางแผนอะไรทั้งนั้น มีแต่แกกับแม่ของแกนั่นแหละที่...”
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือของภานุเดชวาดออกไปกระทบที่แก้มเพื่อยุติความก้าวร้าวของนัทชา
เขาจ้องมองลูกสาวคนเดียวด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ฉุดกระชากแขนเรียวเสลาแล้วเขย่าตัวแรงๆ
จนหัวสั่นหัวคลอน หญิงสาวพยายามสะบัดตัวให้พ้นจากการเกาะกุม
แต่บิดายิ่งบีบต้นแขนแรงขึ้นจนปวดร้าวไปหมด
“นี่แกกล้าวางแผนแหกตาฉันอย่างนั้นเหรอ นังลูกไม่รักดี!” ภานุเดชเค้นเสียงต่ำ พลั้งมือผลักนัทชาเต็มแรงจนร่างบางล้มถลาไปกองบนพื้น หญิงสาวสะบัดหน้าหันกลับมามอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความอดสูใจ ไม่ว่าคนพวกนี้จะทำอย่างไรกับเธอ จะรังแกเธอกี่ครั้งกี่หน ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่พ่อจะเชื่อใจหรือรับฟังคำพูดของเธอ บางทีนัทชาก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า...
เธอใช่ลูกในสายเลือดของภานุเดชจริงหรือไม่!
ขออัพใหม่นะคะ เพราะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางจุดเพิ่มเติมค่ะ
ถ้าไม่แก้ไข อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดพลาดได้
จึงเรียนมาเพื่อทราบจ้าา จุ๊บๆๆๆๆ
ความคิดเห็น