ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิชิตรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : บีบบังคับ {1}

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 62








    เช้านี้อากาศค่อนข้างเย็นจากการที่สายฝนตกกระหน่ำลงมาเกือบทั้งคืน แสงแดดยามเช้าที่ควรจะส่องผ่านเข้าทางหน้าต่างเพื่อรบกวนให้ร่างบอบบางที่นอนอยู่บนเตียงตื่นขึ้น จึงถูกก้อนเมฆดำทะมึนบนท้องฟ้าบดบังจนสิ้น ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสียงนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ช่วยฉุดกระชากสาวสวยวัยยี่สิบสองปีให้ลุกจากตื่นจากนิทราและเอื้อมมือไปตบนาฬิกาจนกระทั่งมันเงียบเสียงลงไป 

    นัทชา แสนคำภา ทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง อากาศดีแบบนี้เหมาะแก่การซุกตัวอยู่ในผ้าห่มมากกว่าถ่างตาตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ดูเหมือนสิ่งที่หวังจะไม่เป็นไปตามที่ปรารถนา เพราะอีกสิบนาทีต่อมาเธอก็ได้ยินเสียงทุบประตูโครมคราม บ่งบอกว่าเวลาแห่งความสุขสบายและเป็นส่วนตัวได้จบสิ้นลงแล้ว 

    ตื่น! ตื่นได้แล้วยัยน่าน คุณพ่อให้รีบลงไปพบข้างล่างเสียงตะโกนประกอบกับมือที่รัวอยู่ตรงประตู ทำให้นัทชาสะบัดผ้าห่มออกห่างตัวแล้วลุกขึ้นนั่ง สอดมือเรียวบางเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มแล้วขยี้มันอย่างหัวเสีย น่าเบื่อจริงเชียว แม้แต่ในวันหยุดอย่างนี้ ผู้เป็นบิดาก็ยังไม่วายส่งแม่เลี้ยงมาขัดขวางความสุขของเธออีก 

    ตื่นแล้วค่าคุณนาย ขออาบน้ำแปรงฟันก่อนคงไม่ว่ากันนะคะถ้อยคำประชดประชันโต้ตอบออกไป 

    อย่ามาเรียกฉันแบบนี้นะ! ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกฉันว่าคุณกานดา” 

    “ค่า คุณกานดาคนสวย” นัทชาทำตามอย่างว่าง่ายเพราะต้องการตัดรำคาญ แน่นอนว่านั่นทำให้กานดาหยุดพูดและเดินห่างออกไปจากประตูทันที เมื่อเสียงฝีเท้าเงียบไปจนไม่ได้ยินแล้ว หญิงสาวก็ก้าวลงจากเตียง คว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่บนราวหายเข้าไปในห้องน้ำ 

    ใช้เวลากับตัวเองเพียงสิบนาที ร่างบอบบางสมส่วนก็อยู่ในชุดเสื้อรัดรูปคอวีสีเหลืองกับกางเกงยีนขาสั้นโชว์เนื้อหนังมังสา เธอหมุนตัวไปมาในกระจก แล้วยิ้มหวานจนมองเห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง พักหลังมานี่ชอบการแต่งตัวแบบทะมัดทะแมง และเบื่อเหลือเกินที่จะต้องใส่ชุดกระโปรงให้สมกับที่เป็นลูกสาวพลตำรวจเอกภานุเดช รู้ดีว่าถ้าบิดาเห็นแต่งตัวอย่างนี้ เธอจะต้องโดนตำหนิยกใหญ่แน่ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อคนเรามีสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบแตกต่างกันไป ไม่ใช่ตุ๊กตาไร้ชีวิตที่ต้องรอให้ใครๆ มาจับแต่งตัวเสียหน่อย 

    นัทชาซอยเท้าวิ่งลงบันไดลงมาชั้นล่าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเดินอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นสายตาที่บิดามองมา หญิงสาวอยู่ในท่าทีสำรวม ขณะเดินไปนั่งที่โซฟาตัวหนึ่ง รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาด เพราะนานมากแล้วที่ทุกคนไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยสีหน้าตึงเครียดอย่างนี้

    เอ่อ...นัทชาอ้ำอึ้ง ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี

    วันนี้แต่งตัวน่ารักจังนะคะน้องน่าน สีเหลืองสดใสดีทีเดียวเอกพลลูกชายของผู้เป็นแม่เลี้ยง ทำลายความเงียบขึ้นก่อนด้วยการเอ่ยชม ดวงตาวาววับจ้องมองที่หน้าอกอวบอิ่ม ทำให้นัทชาชักหายใจไม่คล่องด้วยความอึดอัด นึกอยากข่วนหน้าคมคายนั่นให้ถลอกเลือดซิบ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ในความคิดเท่านั้น เพราะถ้าพลั้งมือทำลงไปจริงๆ เธอคงถูกทำโทษหนักแน่

    ในเมื่อพ่อของเธอเอาใจภรรยาใหม่กับลูกเลี้ยงอย่างกับอะไรดี!

    คิดยังไงถึงกลับบ้านได้คะ ปกติพี่เอกมักขลุกอยู่ในบ่อนหรือผับมากกว่าไม่ใช่หรือคะ?นัทชาตีหน้าซื่อถามออกไป นั่นทำให้เอกพลหน้าเสียและมองสบตากับมารดาอย่างขอความช่วยเหลือ

    พูดอะไรเรื่อยเปื่อย ตาเอกงานยุ่งจนไม่มีเวลากลับบ้านต่างหากกานดามองอย่างพอไม่พอใจ ก่อนจะเอนตัวไปกอดแขนสามี อย่าไปสนใจพวกปากหอยปากปูเลยนะคะคุณพี่ ตาเอกน่ะทำงานจนหัวหมุน ไม่มีเวลาไปทำเรื่องเหลวไหวพวกนั้นหรอกค่ะ พวกขี้อิจฉาก็พากันลือเสียๆ หายๆ ทุกวันนี้ตาเอกแทบไม่มีเวลาจะหายใจด้วยซ้ำ

    ระวังตายเอานะคะ ถ้าไม่มีเวลาหายใจเนี่ยนัทชาโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

    ยัยน่าน!” พลตำรวจเอกภานุเดชหันมาตวาดลูกสาวทันที อย่ามาก้าวร้าวพี่เขาแบบนี้นะ พ่อไม่ชอบ พี่เขาอายุมากกว่าแกตั้งแปดปี อย่ามาพูดจาไม่รู้ประสาอย่างนี้!” เขาเตือนด้วยสีหน้าดุดัน จ้องมองคนตัวเล็กที่ใบหน้าสลดวูบลงอย่างโกรธเคือง

    น่านขอโทษค่ะนัทชายกมือไหว้และเอ่ยเสียงนุ่ม

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้องน่านเอกพลลุกจากที่ของตัวเอง ขยับไปนั่งเบียดหญิงสาวอย่างจงใจ อย่าไปดุน้องเลยครับคุณพ่อ น้องคงแค่อยากจะล้อเล่นกับผมเท่านั้นเอง อีกหน่อยเราสองคนก็จะกลายเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว อะไรนิดอะไรหน่อยผมยินดีปล่อยผ่านครับชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่ถือสาหาความ ทั้งที่ในใจนึกอยากสั่งสอนแม่คนปากดีให้ขยาด วันข้างหน้าจะได้ไม่กล้าผยองใส่เขาอีก

    พี่เอกพูดอะไรคะ น่านไม่เห็นเข้าใจเลยเจ้าของร่างบางขยับออกไปเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างกัน ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินชัดเต็มสองหูในสิ่งที่เอกพลเอ่ยออกมาเมื่อครู่ อีกหน่อยเราสองคนก็จะกลายเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว ประโยคนี้มันหมายถึงอะไรคะ

    นี่เธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจกันแน่ยัยน่านกานดาขึ้นเสียงและยิ้มเยาะ

    มันก็หมายความอย่างที่เอกพลพูดนั่นแหละภานุเดชถอนหายใจอย่างรำคาญแล้วอธิบายต่อ ที่พ่อเรียกแกลงมาคุยกันในเช้าวันนี้ เพราะต้องการบอกเรื่องสำคัญให้รู้ แกจะได้เตรียมตัวทันชายวัยห้าสิบห้าปีเงยหน้าขึ้นสบตากับบุตรสาว รู้ดีว่าทันทีที่พูดออกไป นัทชาจะไม่มีวันนั่งนิ่งได้อีกแน่

    เรื่องอะไรคะ?เธอนิ่วหน้าและมองสบกับดวงตาเฉียบขาดของบิดา

    เอาละ ถ้าอย่างนั้นก็เข้าเรื่องเลยแล้วกันเขาสรุป พ่อจะให้แกแต่งงานกับเอกพล

    อะไรนะคะ!” เป็นไปตามคาด นัทชาลุกพรวดขึ้นยืนทันที

    แหม ไม่เห็นต้องตกใจเลยนี่คะน้องน่าน เราสองคนรู้จักกันมาตั้งหลายปีแล้ว ถ้าได้ร่วมหอลงโลงกันก็น่าจะดีกว่าไปเสียเวลาคบหาดูใจกับคนอื่น น้องน่านเองก็โสด พี่เองก็โสด เพราะฉะนั้นทำตามที่ผู้ใหญ่ตัดสินใจกันเถอะนะคะเอกพลหว่านล้อมหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจ แต่เปล่าเลย นัทชาโกรธจนหน้าแดงไปถึงหู ร่างบางสั่นเทิ้มอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ ดวงตากลมโตจ้องมองผู้ให้กำเนิดด้วยความผิดหวัง

    น่านไม่คิดเลยว่าคุณพ่อจะโดนครอบงำจนคิดเรื่องแบบนี้ได้!”

    อย่าก้าวร้าวพ่อนะยัยน่าน! ยังไงแกก็ต้องทำตามที่พ่อบอกภานุเดชลุกขึ้นและชี้หน้าลูกสาว

    ไม่ค่ะ น่านไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายคนนี้!” เธอยืนกรานเสียงแข็ง

    ต้องแต่ง! แล้วก็ต้องแต่งเดือนหน้านี้เลยด้วย!”

    ให้ตายน่านก็ไม่แต่ง!” นัทชาตะโกนลั่น ถ้าคุณพ่ออยากแต่งนักก็เชิญแต่งเองเลยสิคะ ยังไงน่านก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้ชายเสเพลคนนี้แน่

    นังเด็กเหลือขอ! นี่แกกล้าพูดแบบนี้กับฉันหรือฮะ!” ความเดือดดาลทำให้ภานุเดชเผลอใช้คำพูดร้ายแรง

    ใช่ค่ะ ในสายตาของคุณพ่อ น่านก็เป็นแค่เด็กเหลือขอ แต่อย่างน้อยเด็กเหลือขอคนนี้ก็ยังรู้ผิดชอบชั่วดี ต่างจากผู้ใหญ่บางคนที่แก่จนหัวหงอก แต่คิดได้แต่เรื่องแย่ๆท้ายประโยคเธอหันไปจ้องกานดาเขม็ง วันๆ คุณพ่อเอาแต่เชื่อฟังเมียตัวเอง เชื่อทุกอย่างที่เมียป้อนข้อมูลให้ ไม่เคยลืมหูลืมตารับรู้ความจริงเลยว่าสองแม่ลูกนี่ คิดแค่จะสูบเลือดสูบเนื้อคุณพ่อเท่านั้น!” สิ้นคำพูดนี้ ภานุเดชก็ปราดเข้ามาใกล้และสะบัดฝ่ามือหนาลงที่ข้างแก้มนุ่มทันที

    เพี๊ยะ!

    นัทชาซวนเซจากแรงปะทะ สะบัดหน้าหันกลับมามองบิดาด้วยความเจ็บปวด รู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวและความพร่ามัวจากม่านน้ำตา หญิงสาวเม้มปากแน่น ขณะหันกลับมาเผชิญหน้า ภานุเดชไม่มีความรู้สึกผิดปรากฏอยู่ในแววตาแม้แต่น้อย สิ่งที่เธอมองเห็นมีเพียงความกรุ่นโกรธเท่านั้น

    ขึ้นไปอยู่ในห้อง แล้วไม่ต้องเสนอหน้าลงมาอีก แกถูกกักบริเวณ!” เขาเอ่ยเสียงกร้าวกระด้าง แล้วไม่ว่ายังไงแกก็ต้องแต่งงานกับเอกพล ผู้หญิงที่ไร้ความเป็นกุลสตรีอย่างแก ไม่มีผู้ชายหน้าไหนจริงใจด้วยหรอก ฉันไม่อยากรอดูแกโดนทิ้งแล้วมาเป็นภาระของฉันในวันข้างหน้า เพราะฉะนั้นแกต้องแต่งงานกับคนที่ฉันเลือกให้ ฉันเชื่อว่าเอกพลจะดูแลแกได้ความเผด็จการนี้ทำให้น้ำตาหญิงสาวไหลริน

    นับตั้งแต่มารดาเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อน บิดาของเธอก็เลือกผู้หญิงร้ายกาจจอมมารยาอย่างกานดามาเป็นภรรยาใหม่ เอาใจใส่กันและหลงใหลกันราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ไม่เคยสนใจใยดีเลยว่าเธอจะมีชีวิตอย่างไร เคยมีหลายครั้งหลายหนที่เธอถูกเอกพลลวนลาม พยายามปลุกปล้ำขืนใจ แต่พอบอกกับผู้เป็นพ่อ กลับโดนดุด่าหาว่าสร้างเรื่องโกหก

    เธอต้องอยู่อย่างหวาดระแวง คอยระวังตัวอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้พลาดท่าเสียที จนกระทั่งสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วย้ายออกไปอยู่ที่หอพักกับเพื่อน นั่นแหละถึงได้รอดพ้นจากความคิดชั่วร้ายของเอกพล แต่มาถึงวันนี้ พ่อแท้ๆ ของเธอกลับกำลังยัดเยียดเธอให้ตกเป็นของคนเลวๆ โดยไม่คิดถึงจิตใจเธอเลยแม้แต่น้อย

    น่านไม่แต่งค่ะนัทชายืนยันคำเดิม เสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน อีกไม่วันน่านก็จะถูกเรียกตัวไปทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคงจะลงโทษน่านด้วยการกักบริเวณไม่ได้พูดแล้วหญิงสาวก็ตั้งท่าจะหมุนตัวเดินออกจากห้องโถงไป

    ลืมเรื่องงานพยาบาลอะไรนั่นไปได้เลยภานุเดชรั้งเธอไว้ด้วยคำพูด

    คุณพ่อ...นัทชาขยับจะถามว่ากำลังหมายความว่าอย่างไร

    อีกหน่อยพอแต่งงานกัน คุณพ่อก็จะให้ตาเอกเข้ามาดูแลรีสอร์ตแทน เธอก็ต้องช่วยสามีดูแลธุรกิจครอบครัว เพราะฉะนั้นเลิกคิดจะไปทำงานเป็นพยาบาลเสียยัยน่าน เงินเดือนแค่ไม่เท่าไร แถมยังต้องคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวคนอื่นอีก สกปรกจะตาย!” กานดาเป็นคนให้คำตอบ ถ้อยคำดูถูกนั้นทำให้นัทชาหันไปจ้องหน้า ขยับจะเถียงให้เจ็บแสบ

    ถ้าเข้าใจแล้วก็ขึ้นข้างบนซะ แล้วไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก เตรียมตัวให้พร้อมก็พอ แกมีเวลาอีกสองสัปดาห์สำหรับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวภานุเดชตัดบทก่อนที่ลูกสาวจะพ่นคำพูดร้ายๆ ใส่ภรรยาสุดที่รักอีก

    นัทชากำมือแน่น ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินรดแก้มนวล ตรงกันข้ามกับสีหน้าและแววตาที่ว่างเปล่า ยามจ้องมองบิดาผู้ที่เคยเป็นที่พึ่งพาสุดท้ายของชีวิต แต่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ทำลายชีวิต หญิงสาวฝืนยิ้มส่งให้กานดา และเผื่อแผ่ไปยังเอกพล ไม่พูดอะไรอีกเลยในตอนที่เดินเลี่ยงขึ้นไปบนห้องตามคำสั่ง

    แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม...การแต่งงานจะไม่มีวันได้เกิดขึ้นแน่!










    สวัสดีค่าาาา

    ลงตอนแรกให้อ่านกันแล้ว ปั่นไปอัพไปเลยทีเดียว

    ขอกำลังใจความขยันเป็นคอมเม้นต์และกดให้กำลังใจกันสักนิดนะคะ

    ที่สำคัญอย่าลืมแอดแฟนพันธุ์แท้เน้อ จะได้ติดตามกันแบบต่อเนื่องค่ะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×