ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิชิตรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 10 : เกือบพลาด! {3}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 949
      26
      14 ก.ค. 62





                   ทันทีที่ไปถึงฟาร์มวราทิตย์ ลุยซ์ก็พานัทชาขึ้นไปพักบนเรือนรับรอง ช่วยตรวจดูแผลให้ พบว่ามันบวมแดงขึ้นมากว่าเดิม จึงรีบให้เธอรับประทานยาลดปวด ลดบวม และแก้อักเสบ จากนั้นก็สั่งให้เธอไปพักผ่อนในห้อง ส่วนตัวเขาทำหน้าที่บอกกับทุกคนในเรือนรับรอง เรือนใหญ่ รวมทั้งคนงานบางส่วนที่มีหน้าที่อยู่นอกฟาร์ม ว่าถ้ามีใครก็ตามมาถามหานัทชา ให้บอกไปเลยว่าที่นี่ไม่มีคนชื่อนั้น ไม่เคยพบเห็น ไม่เคยรู้จักมาก่อน หากใครคนไหนคิดขัดคำสั่ง เขาจะลงโทษด้วยการไล่ออกสถานเดียว

                   แพรสุดายืนอยู่ตรงระเบียงด้านบน ได้ยินคำสั่งของลุยซ์อย่างชัดเจน ความไม่พอใจแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว นัทชาเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้แค่ไม่นาน แต่ลุยซ์กลับออกโรงปกป้อง จนถึงขั้นกล้าพูดว่าจะไล่คนงานออก มือบางกำแน่นเข้าหากัน กำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างใน ทว่านัทชากลับโผล่มายืนขวางทางไว้เสียก่อน

                   วันนี้ไม่ไปดูแลคุณท่านที่เรือนใหญ่เหรอคะพี่แพรหญิงสาวชวนคุย เพราะรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันที่เห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาบึ้งตึงมาตั้งแต่เมื่อวาน ซ้ำยังไม่ยอมออกจากห้องมารับประทานอาหารพร้อมกันอีกต่างหาก

                   กลับมาเอาของน่ะ กำลังจะกลับไปที่เรือนใหญ่อยู่พอดีแพรสุดาตอบเสียงห้วน ทำท่าจะเดินหนีไปอีกทาง

                   พี่แพรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ น่านว่าพี่แพรดูเหมือน...

                   เธอจะสนใจทำไม! ทุกคนที่นี่พะเน้าพะนอเธอกันทั้งนั้น หรือต้องให้ฉันทำแบบนั้นด้วยคน เธอถึงจะพอใจฮะน่าน!” แพรสุดาหันมาสบตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ

                   ถ้าน่านทำอะไรให้พี่แพรไม่พอใจ บอกมาตรงๆ ได้นะคะเธอไม่สบายใจเลยที่เห็นหญิงสาวผู้พี่มีท่าทีอย่างนี้

                   แน่ใจเหรอว่าถ้าพูดแล้ว เธอจะไม่วิ่งโร่ไปฟ้องคุณลุยซ์!”   

                   พี่แพร น่านไม่ใช่คนแบบนั้นนะคะ อีกอย่าง...น่านไม่กล้าไปวุ่นวายกับคุณลุยซ์หรอก แค่ทุกวันนี้ต้องกลายเป็นภาระ น่านก็รู้สึกแย่มากแล้ว

                   ให้มันจริงเถอะ ฉันไม่ยักมองออกเลยว่าเธอรู้สึกแย่แพรสุดาเบ้ปากใส่ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นบีบแน่นที่ต้นแขนของคนตัวเล็ก อย่าดีแต่ปากก็แล้วกันนะน่าน จำคำพูดของตัวเองเอาไว้ด้วยแล้วเธอก็ปล่อยมือออกห่าง ต้องการเดินไปให้พ้นจากตรงนี้ ก่อนที่โทสะจะทวีคูณจนเผลอพูดถ้อยคำไม่ดีออกไป

                   พี่แพร!” นัทชารั้งข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้ แพรสุดายอมหยุด แต่ไม่ได้สนใจหันกลับมามอง น่านไม่รู้ว่าทำอะไรให้พี่โกรธ แต่น่านขอโทษนะคะ น่านรู้ว่าน่านเป็นตัวปัญหา สร้างแต่เรื่องให้วุ่นวาย แต่น่านไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยถ้อยคำจริงใจเหล่านั้น สะกิดสามัญสำนึกของแพรสุดาให้กลับมาอีกครั้ง เธอหันมองนัทชาอย่างพิจารณา ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ

                   พี่...แพรสุดาถึงกับพูดไม่ออก เมื่อนึกทบทวนถึงอากัปกิริยาที่ไม่เหมาะสมของตัวเอง

                   อย่าโกรธอย่าเกลียดกันเลยนะคะ น่านเพิ่งมาอยู่ที่นี่ นอกจากคุณนมแล้ว น่านก็มีแค่พี่แพรกับทุกคนในเรือนหลังนี้เท่านั้นที่คอยเมตตานัทชามีปัญหาในชีวิตมากพอแล้วในเวลานี้ เธอไม่อยากให้แพรสุดามองเธอเป็นศัตรูไปด้วยอีกคน แม่ของเธอคอยบอกสอนเสมอว่า การทำตัวเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จะช่วยให้สามารถเข้ากับผู้คนได้ง่ายขึ้น

                   พี่...พี่ขอโทษด้วยนะที่พูดจาไม่ดี พอดีวันนี้พี่ปวดหัวน่ะ เลยหงุดหงิดนิดหน่อย

                   กินยาหรือยังคะ ถ้าพี่แพรไม่ไหว เดี๋ยวน่านไปดูแลคุณท่านให้แทนก็ได้นะคะเธออาสาด้วยความหวังดี

                   ไหวสิ พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก กินยาไปแล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้น ส่วนเรื่องดูแลคุณท่าน พอแผลที่ขาหายดี น่านก็คงได้ไปทำหน้าที่ตรงนั้นแทนพี่แพรสุดายิ้มบาง ไม่ได้โกรธเคืองอะไรนักที่รู้ว่ากำลังจะถูกนัทชาแย่งหน้าที่สำคัญไป เพราะตัวเธอเองก็จะได้กลายเป็นคุณครู ได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนสอนเด็กๆ ตามที่ใฝ่ฝันเสียที

                   เรื่องนี้หรือเปล่าคะที่ทำให้พี่แพรโกรธน่านนัทชาตัดสินใจถามตามตรง

                   ไม่ใช่หรอก

                   แล้วมันเรื่องอะไรคะ บอกน่านได้ไหม การไม่พูดกันมีแต่จะสร้างปัญหานะคะคำพูดนี้ทำให้แพรสุดาลังเลใจ เธอถอนหายใจแล้วเดินกลับไปยืนที่ระเบียง มองดูลุยซ์คุยกับกัมปนาท อานนท์และคนงานคนอื่นๆ ด้วยท่าทางตึงเครียด นัทชาไปยืนอยู่ข้างๆ เธอ มองไปยังร่างกำยำที่เงยหน้าขึ้นมามองแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปคุยกับกัมปนาทต่อ

                   เรื่องของคุณลุยซ์ต่างหากล่ะที่ทำให้พี่โกรธในที่สุดแพรสุดาก็ยอมพูดออกมา เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วหมุนตัวยืนหันหลัง ไม่ต้องการให้พวกผู้ชายที่อยู่ด้านล่าง มองเห็นดวงตาที่แดงก่ำและเศร้าหมอง ตอนแรกตั้งใจจะบอกความจริงว่าเธอหลงรักลุยซ์ แต่ลุยซ์ไม่เคยมองเห็นเธอในสายตา แต่เมื่อเห็นความใสซื่อของนัทชา แพรสุดากลับเลือกที่จะสร้างเหตุการณ์ให้ต่างออกไปจากความเป็นจริง

                   คุณลุยซ์ทำไมเหรอคะ

                   พี่...พี่กับคุณลุยซ์ เราสองคนแอบคบหากันมานานแล้ว แต่คุณลุยซ์ยังไม่พร้อมจะให้ใครรู้เรื่องนี้คำตอบนี้ทำเอานัทชาหน้าชาอย่างประหลาด พี่ไม่เคยร้องขออะไรเลยนะ พี่ยอมเป็นของคุณลุยซ์ไปเงียบๆ ไม่ว่าคุณลุยซ์จะสั่งให้ทำอะไร พี่ก็ยินดีทำทุกอย่าง แต่พอน่านเข้ามา คุณลุยซ์ก็ไม่ค่อยสนใจพี่เลย ทำตัวหมางเมินจนพี่เสียใจ พี่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดด้วยซ้ำ วันๆ คุณลุยซ์สนใจแต่น่านคนเดียว พี่ก็เลยพานโกรธน่านเอาแบบนี้

                   คุณลุยซ์กับพี่แพร...เอ่อ คือ...นัทชาจับต้นชนปลายไม่ถูก สมองรวนไปหมด หลังจากได้ยินความจริงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับหญิงสาวผู้พี่ พี่แพรเข้าใจผิดแล้วนะคะ น่านไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คุณลุยซ์เปลี่ยนไปหรอกค่ะ พี่แพรก็น่าจะรู้ดีว่าคุณลุยซ์ไม่ชอบขี้หน้าน่านมากแค่ไหน ที่ต้องมาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กัน เพราะคุณลุยซ์คิดว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้น่านบาดเจ็บก็เท่านั้นเองค่ะ

                   คุณลุยซ์บอกน่านแบบนั้นเหรอแพรสุดาหันมาสบตา ดึงมือเล็กไปกุมไว้แน่น

                   เอ่อ...ค่ะนัทชาจำเป็นต้องโกหก เพราะอย่างน้อยมันก็ช่วยให้อีกฝ่ายสบายใจ

                   แล้วน่านละ น่านได้คิดเกินเลยกับเขาไหม

                   โธ่ พี่แพร อย่างน่านเนี่ยนะคะจะไปคิดเกินเลยกับคุณลุยซ์นัทชายิ้ม แล้วถอนหายใจ น่านไม่ชอบผู้ชายแบบนั้นหรอกค่ะ ถ้าจะชอบใครสักคน น่านว่าคุณเก่งยังน่าสนใจกว่าอีก เขาทั้งยิ้มเก่ง ทั้งพูดจาดี ต่างจากคุณลุยซ์ลิบลับเชียวหญิงสาวดึงกัมปนาทเข้ามาเกี่ยวอย่างไม่นึกจริงจังนัก แต่นั่นกลับทำให้แพรสุดาชะงัก แต่แค่ครู่เดียวก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ

                   ขอบใจนะที่ทำให้พี่มั่นใจ แต่เรื่องคุณเก่ง น่านอย่าไปหวังมากละ รายนั้นเป็นคนบ้างาน ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่ไหนหรอกจ้ะ

                   น่านก็แค่เปรียบเทียบน่ะค่ะ ชีวิตข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ น่านยังไม่คิดเรื่องความรักหรอกพี่แพรประโยคนี้ทำให้แพรสุดายิ้มหวาน สบายใจขึ้นมากเมื่อได้ยินว่านัทชาไม่ได้คิดเกินเลยกับลุยซ์ รวมทั้งไม่ได้คาดหวังในตัวของกัมปนาทด้วยเช่นกัน

                   นมถวิลยืนอยู่ตรงประตูระเบียง ได้ยินทุกอย่างที่ผู้เป็นหลานสาวสร้างเรื่องขึ้น นางส่ายหน้าอย่างเอือมระอา พร้อมกับถอนหายใจ ความรักที่แพรสุดามีต่อลุยซ์เพียงข้างเดียว กำลังทำลายความบริสุทธิ์ในจิตใจให้หมดสิ้น สถานการณ์ตอนนี้เปรียบดั่งสุภาษิตที่ว่า น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือเข้าไปขวาง... คงป่วยการที่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เพราะถ้ามันได้ผล คำสอนที่ผ่านมาคงซึมซับเข้าสู่สมองของแพรสุดาไปนานแล้ว ต่อไปคงต้องปล่อยให้หลานสาวได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง นั่นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และในฐานะผู้ปกครอง นมถวิลคงทำได้แค่คอยดูแลไม่ให้แพรสุดาถลำลึก จนทำให้ตัวเองเสื่อมเสียมากไปกว่านี้เท่านั้น

     

                   ภานุเดชปาโทรศัพท์มือถือไปบนพื้นห้องจนมันพังยับคาตา ทรวงอกสะท้านจากการหายใจแรงด้วยความกรุ่นโกรธ หลังรู้จากคนสนิทว่ากล้องวิดีโอวงจรปิดจากห้างสรรพสินค้า ในบริเวณที่รถคันนั้นจอดอยู่ ใช้งานไม่ได้มาประมาณสามวันแล้ว และทางห้างฯ เพิ่งแจ้งช่างให้เข้าไปตรวจสอบในช่วงเย็นของวันที่เกือบได้ตัวนัทชานี่เอง นั่นหมายความว่าการคิดตามหาตัวเธอโดยค้นข้อมูลของรถยนต์คันหรูคันนั้น ล้มเหลวไม่เป็นท่า

                   ทุกอย่างที่คาดไว้ผิดแผนจนน่าโมโห!

                   เอกพลอึดอัดเหลือเกินที่ต้องคอยทำตัวเป็นพ่อพระ คอยปลอบพ่อเลี้ยงว่าให้ใจเย็นๆ เพราะความจริงเขาเองก็อยากทำทุกทางเพื่อหาตัวนัทชาให้พบเช่นกัน ตอนนี้เงินเริ่มขาดมือไปทุกวันแล้ว พักหลังภานุเดชเห็นว่ารายจ่ายภายในบ้านมากเกินกว่าปกติหลายเท่า จึงเปรยว่าต่อไปอาจจะต้องให้แม่บ้านทำบัญชีรายจ่ายให้ละเอียด ดังนั้นจึงหมายความว่ากานดาไม่สามารถยักยอกเงินมาให้เอกพลใช้จ่ายเหมือนใบไม้ได้อย่างแต่ก่อนอีกแล้ว

                   กานดาเองก็แสนจะอึดอัด เวลาที่ภานุเดชถามถึงธุรกิจจอมปลอมที่เอกพลทำอยู่ ราวกับเริ่มสงสัยบางอย่าง เธอต้องคอยอธิบาย สร้างเรื่องโกหกให้แนบเนียนอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยพอใจเหมือนกันที่เห็นสามีทุ่มเงินจำนวนมากไปกับการจ้างคนตามหาลูกสาว แม้ว่านั่นจะทำให้เธอเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์ก็ตาม แต่มันก็ต้องแลกด้วยความรำคาญใจ

                   วันๆ ภานุเดชเอาแต่เคร่งเครียด ไม่มีเวลามาเอาอกเอาใจเธอเหมือนก่อน นี่ถ้าเอกพลได้แต่งงานกับนัทชาล่ะก็ เธอจะให้ลูกชายรีบจัดการเอาทุกอย่างมาเป็นของตัวเองให้เร็วที่สุด จากนั้นเอกพลจะเฉดหัวแม่คนหัวแข็ง แล้วไปคบกับผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ไม่ใช่ปัญหา ส่วนตัวเธอเองก็จะพลอยสบายไปด้วย ทุกวันนี้เบื่อผู้ชายเรียบๆ อย่างภานุเดชจะแย่ ตั้งใจเอาไว้ตลอดเวลาว่าถ้าแผนหุบสมบัติเป็นไปด้วยดี

                   เธอจะรีบตีจากแบบไม่เหลียวหลังกลับมาเลยทีเดียว!

                   ภานุเดชจำเป็นต้องรีบกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นของวันนั้น เพราะเพื่อนสนิทประสบอุบัติเหตุ อาการไม่สู้ดีนัก แต่เขาก็ไม่ลืมกำชับกับพรรคพวกว่าให้ตามหาตัวนัทชาต่อไป พร้อมคิดว่าจะจ้างนักสืบเอกชนเพิ่มด้วย เผื่อจะได้เบาะแสเพิ่มเติมเร็วขึ้น ทันทีที่มาถึงบ้านแสนคำภา ภานุเดชก็แต่งตัวออกไปที่โรงพยาบาลทันที โดยไม่คิดจะเอ่ยปากชวนภรรยา เพราะกว่าอีกฝ่ายจะแต่งตัวเสร็จ เกรงว่าจะใช้เวลานานเกินไป

                   กานดามองตามสามีไปอย่างเบื่อหน่าย ถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินหายขึ้นไปบนห้อง อาบน้ำแต่งตัวอวดสัดส่วนโค้งเย้ายั่วยวน คืนนี้คิดว่าจะออกไปเปิดหูเปิดตาที่ผับเสียหน่อย แต่จะอ้างกับภานุเดชว่าไปพบปะสังสรรค์กับบรรดาคุณหญิงคุณนาย แน่นอนว่าเขาไม่คิดขัดข้องใดๆ อยู่แล้ว

                   นั่นแม่จะไปไหนครับ?เอกพลเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ เมื่อเห็นมารดาแต่งตัวสวยผิดหูผิดตา

                   ธุระกานดาตอบสั้นๆ

                   ธุระอะไรกัน...ที่ทำให้แม่ต้องแต่งตัวสวยเหมือนดาราแบบนี้ชายหนุ่มเย้าเสียงนุ่ม พร้อมปรายตาออดอ้อน

                   ชมแบบนี้อยากได้อะไรอีกล่ะสิเจ้าหล่อนรู้ทันลูกชาย บอกไว้ก่อนเลยนะตาเอก ช่วงนี้เพลาๆ เรื่องเข้าบ่อนเสียบ้าง คุณภานุเดชมัวแต่เครียดเรื่องยัยน่าน แม่ไปออดอ้อนขอเงินบ่อยๆ เหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นทำตัวขวางหูขวางตาน่าเบื่อเอาได้ พวกผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้นนักหรอก

                   ผมรู้น่าแม่ ผมก็แค่อยากออกไปดื่มกับเพื่อนๆ บ้าง ไม่ได้จะไปบ่อนเสียหน่อยเขาแก้ตัว

                   วันนี้แม่เองก็ต้องใช้เงิน แกเอาไปหมื่นหนึ่งก็แล้วกันกานดาเปิดกระเป๋าสะพาย

                   หมื่นเดียว! โธ่ แม่ครับ ให้ผมพกเงินแค่นั้น อายเพื่อนตายพอดีใบหน้าขาวคมเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

                   แล้วจะเอาไหม?ผู้เป็นมารดาถามเสียงกระด้าง มือชะงักค้างอยู่ในกระเป๋า

                   เอาก็ได้เมื่อมือหนาแบมารอตรงหน้า กานดาก็วางมือฟ่อนหนึ่งลงบนมือทันที

                   กานดาส่งข้อความในแอพพลิเคชั่นไลน์ ไปบอกกับสามีว่าคืนนี้คุณหญิงสมรอยากพบ เพราะต้องการชวนคุยเรื่องธุรกิจเพชรที่กำลังจะเปิดตัว ตัวเธอไม่ได้อยากออกไปนัก เพราะอยากพักผ่อน แต่รายนั้นรบเร้าหนักจึงจำเป็นต้องออกไปพบอย่างขัดไม่ได้ ภานุเดชตอบกลับมาแค่สั้นๆ ว่าไม่มีปัญหา เขาไม่ได้คนหวงเมียจนต้องสั่งแต่ให้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนอยู่แล้ว ดังนั้นกานดาจึงขับรถออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าเบิกบาน  

                   เป้าหมายของการคลายเครียดในคืนนี้คือผับเล็กๆ ซึ่งไม่เป็นที่นิยมของบรรดาไฮโซนัก เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเธอจะสนุกเต็มที่โดยไม่ต้องสนใจสายตาใคร กานดาเดินเข้าไปข้างใน มองไปรอบๆ อย่างพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะเลือกนั่งลงตรงโต๊ะเล็กๆ ตรงมุมอับ แล้วสั่งเครื่องดื่มและกับแกล้มง่ายๆ สองสามอย่าง

                   เสียงเพลงจังหวะนุ่มนวล ทำให้ความหนักอึ้งเบาบางลงอย่างที่คาดหวัง กานดานั่งดื่มอยู่คนเดียวได้ราวๆ สิบนาที จึงเริ่มรู้ว่ากำลังมีใครบางคนมองอยู่ เมื่อหันไปมองก็พบหนุ่มหล่อหุ่นล่ำนั่งยิ้มหวานอยู่ตรงนั้น เมื่อสองดวงตามองสบกัน เขาก็ชูแก้วเครื่องดื่มในมือตัวเองขึ้น แล้วพยักหน้าให้อย่างมีความหมาย กานดายิ้มตอบ หันกลับมามองแก้วตัวเอง แล้วกัดริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น ชั่วอึดใจหนุ่มหล่อคนนั้นก็ถือวิสาสะเข้ามานั่งด้วย

                   สวัสดีครับ ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหม

                   ได้สิคะ คืนนี้ฉันไม่ได้พ่วงใครมาด้วยหรอก กำลังอยากมีเพื่อนอยู่พอดีเลยกานดามองชายหนุ่ม ดวงตาพราวระยับ อยากดื่มอะไรก็ตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง

                   แหม ขอบคุณครับ แต่ให้ผมเป็นฝ่ายเลี้ยงน่าจะดีกว่า สำหรับผู้หญิงสวยๆ แบบนี้ ผมยินดีจ่ายตลอดทั้งคืนเลย

                   ใจป้ำจังเลยนะคะ ว่าแต่...คุณจะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอกานดายิ้มนิดๆ ขณะกวาดสายตามองไปทั่ว ผู้ชายคนนี้ดูแล้วคงอายุน้อยกว่าเธอมาก เขามีใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ หล่อเหลาถึงขั้นเป็นดาราได้สบายๆ ผิวพรรณและรูปร่างก็สุดแสนจะถูกใจ

                   ผมชื่อธีรนัยครับ เรียกว่าธีร์เฉยๆ ก็พอธีรนัยทำเสียงหวาน

                   ฉันกานดาค่ะหญิงสาวแนะนำตัวเองบ้าง แล้วยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสกันตามมารยาท

                   ผมขอเรียกคุณว่าคุณกานนะครับ ธีรนัยจับมือนุ่มนิ่มนั้นไว้นานกว่าปกติ นิ้วโป้งปัดไล้ไปมาเบาๆ

                   ยินดีค่ะกานดาตอบ รอยยิ้มแต้มขึ้นที่มุมปาก สื่อความหมายได้ดีพอๆ กับดวงตาที่ทอประกายแห่งความปรารถนา แน่นอนว่านักท่องราตรีด้วยกันย่อมมองออก รู้ความหมายนั้นเป็นอย่างดีว่าต่างฝ่ายต่างต้องการสิ่งใด หลังจากดื่มกันจนมึนเมาในระดับหนึ่งแล้ว เธอก็ปล่อยให้ธีรนัยหอบหิ้วออกไปข้างนอก และจบลงที่โรงแรมแห่งหนึ่งอย่างเร่าร้อน







    มาแล้วค่าาาาาาาาา กราบขออภัยที่หายไปหลายวันเลย 

    เข้าเรื่องนิยายกันเล็กน้อย ดูค่ะดู ดูความมโนโกหกเก่งของแพรสุดาซะก่อน

    ผู้หญิงอะไรน้อ ผู้ชายเขาไม่รักก็ยังดื้อด้านไม่เลิก ทำให้น่านมองลุยซ์เป็นผู้ชายเรี่ยราดอีกด้วย

    จะเป็นยังไงต่อเอาไว้พบกันตอนหน้านะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาาา 

    ท่านใดเพิ่งเข้ามาอ่าน เพื่อความต่อเนื่องกดแอด Fav. ที่แบนเนอร์เลยจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×