ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิชิตรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 6 : กลั่นแกล้งจนได้เรื่อง {3}

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1K
      28
      2 มิ.ย. 62


    ฮัลโหล สวัสดีค่า มาอัพแล้วน้าาา

    กดติดตามกัน 95 คนแล้ว เหลืออีก 5 คนเองงงงง

    ครบแล้วเดี๋ยวไรท์จะคัดชื่อทั้งร้อยท่านไปสุ่มแจกนิยาย e-book ฟรีนะคะ

    โดยจะประกาศผลในตอนที่อัพนิยายเด้อ รอติดตามกันดีๆ น้าาา





                   กว่าจะทำงานตามที่เจ้านายใจร้ายสั่งเอาไว้จนเสร็จเรียบร้อย นัทชาก็เหงื่อไหลโซมกาย รู้สึกหน้ามืดวิงเวียนแปลกๆ นั่นคงเพราะตลอดทั้งวัน เธอได้รับประทานแค่มื้อเช้าเท่านั้น เวลาที่เหลือทั้งวันก็วุ่นกับการทำงานบ้าน แล้วก็หัดทำอาหาร จึงลืมจัดการมื้อเที่ยงไปเสียสนิท นมถวิลกับแพรสุดาพากันเดินลงมาข้างล่าง เพื่อเตือนให้เธอขึ้นไปหาอะไรใส่ท้องเสียบ้าง เวลานี้ใบหน้างามดูมอมแมม เสื้อผ้าก็เปื้อนดินและเศษหญ้าเต็มไปหมด

                   งานเสร็จแล้วก็ขึ้นไปทานข้าวกันเถอะจ้ะการได้เห็นลุยซ์ปฏิบัติกับนัทชาอย่างร้ายกาจ กลั่นแกล้งผู้หญิงตัวเล็กๆ โดยไม่ปราณี ทำให้แพรสุดาเกิดความสงสารจับใจ และตัดสินใจว่าจะไม่ทำท่าทีบึ้งตึงใส่นัทชาอีก อย่างน้อยก็ลูกผู้หญิงเหมือนกัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายลำบากก็ควรเห็นอกเห็นใจกันเสียมากกว่า

                   แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น...ลุยซ์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาจะไม่มีวันสนใจในตัวนัทชาแน่ๆ ออกจะเกลียดขี้หน้าเสียด้วยซ้ำไป ดังนั้นแพรสุดาจึงรู้สึกสบายใจขึ้น ไม่มีความจำเป็นต้องหวาดระแวง กลัวว่าความสวยใสน่ารักของอีกฝ่าย จะทำให้ลุยซ์หวั่นไหวเอาได้อีก

                   ไม่เป็นไรค่ะคุณแพร น่านยังต้องไปที่คอกม้าอีกนัทชาลุกขึ้นยืน โงนเงนเล็กน้อยแต่ยึดต้นไม้ข้างตัวไว้ทัน

                   ไหวไหมน่าน!” แพรสุดาปราดเข้ามาประคอง

                   วะ...ไหวค่ะ แค่หน้ามืดนิดเดียวเท่านั้นเอง

                   คุณยายบอกว่าเรียนจบพยาบาลมาไม่ใช่เหรอ อาการแบบนี้คงรู้ดีนะว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมหญิงสาวผู้พี่เอ่ยเสียงขุ่น จ้องมองคนที่ตัวเล็กกว่าแล้วส่ายหน้าในความดื้อรั้น

                   คือ...

                    ไม่รู้ล่ะ ก่อนไปที่คอกม้า น่านต้องขึ้นไปกินข้าวก่อน ไม่งั้นพี่ไม่ให้ไปหรอกแพรสุดารู้จากนมถวิลว่านัทชาอายุอ่อนกว่าเธอถึงสามปี จึงคิดว่าการแทนตัวเองอย่างนี้คงเหมาะสมกว่า อย่างน้อยมันก็ให้ความรู้สึกสนิทสนมมากขึ้น คนที่หนีออกจากบ้านมาจะได้เลิกคิดว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้อนรับเสียที

                   น่านไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะคุณแพรนัทชายืนยันเสียงแหบโหย

                   เรียกพี่ว่าพี่แพรก็ได้แพรสุดาบอก ถ้าไม่ยอมขึ้นไปกินข้าวเพราะกลัวเสียเวลา งั้นระหว่างตอนที่นั่งรถไปในฟาร์มก็ควรมีอะไรรองท้องเสียหน่อย รอพี่แป๊บนึงนะแล้วหญิงสาวก็ผละขึ้นไปข้างบน หายไปราวๆ ห้านาทีก็กลับลงมาพร้อมแก้วพลาสติกกับกล่องพลาสติกที่มีฝาปิด ยื่นมันส่งให้กับนัทชาแล้วหันไปบอกอานนท์ที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ในบริเวณนั้น

                   พี่นนท์ช่วยพาน่านไปส่งที่คอกม้าให้ด้วยนะจ๊ะ

                    ได้ครับคุณแพรเขาพยักหน้ารับอย่างสุภาพ พนักหน้าแล้วผายมือไปทางโรงจอดรถ

                     ขอบคุณนะคะนัทชายกมือไหว้ขอบคุณแพรสุดาที่อุตส่าห์มีน้ำใจ

                   ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ถึงยังไงตอนนี้เราก็กลายเป็นคนบ้านเดียวกันไปแล้วแพรสุดายิ้มน้อยๆ เอื้อมมือไปแตะที่ไหล่บอบบางของอีกฝ่าย พี่เตรียมน้ำส้มสดที่คั้นไว้เมื่อเช้ากับแซนวิชแฮมชีสไปให้ กินให้หมดล่ะก่อนย้ำอีกครั้งราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมแตะต้องอาหารที่เตรียมให้ 

                    นัทชาพยักหน้ารับรู้โดยไม่พูดอะไร ก่อนจะตรงไปยังรถที่อานนท์เคลื่อนออกมาจอดรอ ทันทีที่ขึ้นไปนั่งในรถเรียบร้อย หญิงสาวก็เปิดกล่องพลาสติกเพื่อหยิบแซนวิชส่งเข้าปากไปเคี้ยวตุ้ยๆ จนหมด แล้วยกน้ำส้มคั้นเย็นชื่นใจขึ้นดื่ม จนหมดเกลี้ยงเช่นกัน 

                    ท่าทางจะหิวมากเลยนะครับคุณน่านอานนท์เอ่ยขึ้นอย่างเป็นมิตร

                     ใช่ค่ะ หิวจนตาลายไปหมด

                   ตาคุณน่านกลายเป็นลายอะไรเหรอครับ ผมขอดูหน่อยได้ไหม ชายหนุ่มผู้พี่เย้าเล่น หวังจะให้คนข้างตัวรู้สึกดีขึ้นบ้าง หลังจากถูกใช้งานมาตลอดทั้งบ่าย

                   แหม พี่นี่อารมณ์ขันดีจังเลยนะคะเธอหัวเราะร่วน น่านเรียกพี่ว่าพี่นนท์ได้ใช่ไหมคะ น่านเห็นคุณ...เอ๊ย! เห็นพี่แพรเรียกพี่ว่าอย่างนั้นแล้วเอ่ยถามเขาทั้งที่สายตายังจ้องมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ

                   ได้สิครับชายหนุ่มบอกยิ้มๆ มีความเป็นมิตรและดูสุภาพ แตกต่างกับพวกคนงานในฟาร์มลิบลับ

                     ที่ดินผืนนี้ของฟาร์มวราทิตย์ดูกว้างใหญ่ไพศาลเป็นอย่างมาก มองกลับไปอีกทางที่ห่างกันเพียงแค่หนึ่งร้อยเมตรจะพบบ้านไม้เรือนไทยหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ อานนท์บอกให้ฟังว่านั่นคือเรือนใหญ่ เป็นที่ที่ลุยซ์อาศัยอยู่กับบิดามาตั้งแต่เกิด ขับรถไกลออกไปอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรก็พบรั้วไม้สีขาวที่ตีแนวกั้นไว้จนสุดสายตา พร้อมด้วยป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ฟาร์มวราทิตย์

                   นัทชารู้จากกัมปนาทแล้วว่าที่ฟาร์มแห่งนี้มีสัตว์เลี้ยงมากมาย ทั้งม้า โคนม แพะและแกะ มีโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้จากสัตว์ ซึ่งตั้งห่างออกไปจากตัวฟาร์มประมาณสองกิโลเมตร ชายหนุ่มเล่าให้ฟังอีกด้วยว่ามีสวนดอกไม้นานาชนิดถูกปลูกไว้ทางทิศตะวันออก และมีศาลาไม้สีขาวที่ทอดยาวไปกลางสระน้ำอันกว้างใหญ่ โดยสวนดอกไม้ที่ว่านั่นจะมีระยะทางห่างจากเรือนใหญ่และเรือนรับรองราวๆ ห้าร้อยเมตรเท่านั้น

                   น่าเสียดายที่ลุยซ์ตัดสินใจกั้นรั้วเอาไว้ พร้อมติดป้ายบอกว่าสวนดอกไม้นั่นเป็นเขตหวงห้าม ไม่อนุญาตให้บุคคลใดล่วงล้ำเข้าไปโดยเด็ดขาด ยกเว้นเพียงแค่คนงานที่มีหน้าที่ดูแลรดน้ำต้นไม้และดอกไม้เท่านั้น กัมปนาทเล่าว่าเคยถามอยู่เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด ลุยซ์จึงไม่เปิดยอมให้คนภายนอกเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติภายในฟาร์ม ทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยสร้างรายได้เหมือนอย่างฟาร์มอื่นๆ ซึ่งลุยซ์ตอบอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่ชอบความวุ่นวาย และยังไม่พร้อมที่จะปล่อยให้สถานที่ส่วนตัวกลายเป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของคนอื่น

                   เดี๋ยวผมรออยู่ตรงนี้จนกว่างานจะเสร็จนะครับอานนท์เสนอด้วยความหวังดี เวลานี้หกโมงเย็นแล้ว คนงานต่างก็พากันกลับบ้านพักไปหมด จะมีก็แค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าอยู่ตรงทางเข้าฟาร์มเท่านั้น หากจะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อยู่ตามลำพังอย่างนี้ เขาคิดว่ามันไม่เข้าเท่าเอาเสียเลย

                   ไม่ต้องหรอกค่ะ น่านอยู่ได้ พี่นนท์กลับไปกินข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ป่านจะรอแย่นัทชาหันมาบอกขณะกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ

                   แต่นี่มันช่วงฤดูฝนนะครับ ดูท้องฟ้าแล้วอีกหน่อยฝนน่าจะตกแรงทีเดียว อยู่คนเดียวจะไม่กลัวเหรอครับชายหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจ

                   ไม่กลัวหรอกค่ะ พี่นนท์กลับไปก่อนเถอะนะคะหญิงสาวยืนยันคำเดิม

                   ถ้างั้นเอาเบอร์โทรศัพท์ผมไว้นะครับ ถ้าเรียบร้อยให้โทร.หาผมได้เลยว่าแล้วอานนท์ก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ไล่กดหมายเลขตามที่นัทชาบอก แล้วกดโทรออกไปยังเครื่องของเธอเพื่อให้เธอบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเขาเอาไว้ เมื่อเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ยิ้มให้อย่างสดใส แล้วเปิดประตูลงจากรถมุ่งหน้าเข้าไปในคอกม้าทันที

                   อยู่ที่นี่มาเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยเห็นคุณลุยซ์ใจร้ายกับใครขนาดนี้มาก่อนเลยแฮะอานนท์พึมพำกับตัวเองพร้อมเกาหัวแกรกๆ ไม่เข้าใจจริงว่าผู้หญิงน่ารักจิ้มลิ้มอย่างนัทชามีอะไรให้น่าแกล้งนัก เธอออกจะสดใสแล้วเป็นมิตรถึงเพียงนี้ ถ้าลุยซ์ยอมลดความโกรธเรื่องที่เธอแอบหนีขึ้นรถตามมาที่นี่ อาจจะหลงเสน่ห์เธอจนถอนตัวไม่ขึ้นเอาก็ได้








    แหม่ ขนาดคนรอบตัวยังงงกับพฤติกรรมพี่ลุยซ์

    แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับใคร

    แต่ทำไม๊ทำไม!! ต้องมาเป็นกับน่านด้วยล่ะเนี่ยยยย 

    ว่าแต่จะมีอะไรในกอไผ่ และโชคชะตาจะเล่นกลหรือไม่

    รออ่านเลยจ้าาาาาาาา อัพให้ทุกวัน แต่ถ้ามีกิจด่วน อาจวันเว้นวันนะคะ

    ปล. ท่านใดแวะเวียนผ่านเข้ามาฝากกดแอด fav. กันด้วยน้าาาาา

    ขอบคุณล่วงหน้าค่า จ๊วบบบบบบบบ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×