ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิชิตรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 5 : คนใจร้าย {3}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.16K
      33
      29 พ.ค. 62


    ตอนนี้อัพให้อ่านกันยาวๆ ไปเลยค่า เพราะเมื่อวานเน็ตป่วยมากกกกก

    พยายามอยู่หลายรอบก็เข้าไม่ได้เลยจริงๆ 

    ไปค่ะ ความเหี้ยมของพี่ลุยซ์กำลังรอคอยคุณอยู่ววววววว




              ลุยซ์กระตุกยิ้มเหี้ยมเมื่อเห็นนัทชาวิ่งตรงมาที่รถ แต่เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามานั่งเคียงข้าง สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมอย่างเคย ชายหนุ่มขับรถไปยังเรือนรับรอง เมื่อถึงจุดหมายก็เหยียบเบรกกะทันหันอย่างต้องการกลั่นแกล้ง จนคนข้างๆ แทบพุ่งไปกระแทกข้างหน้า เธอหันขวับมามองอย่างไม่พอใจ แต่เขาใช้สายตาที่ดุกว่าเอาชนะ จนเธอต้องละสายตาแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถไปเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

              ทำไมวันนี้มาเร็วจังคะคุณลุยซ์นมถวิลเห็นชายหนุ่มกลับมาเร็วกว่าปกติจึงถามด้วยความแปลกใจ

              ป้าบัวเตรียมอาหารเที่ยงหรือยังครับนมชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ถามถึงแม่ครัวแทน

              ยังค่ะ แต่เดี๋ยวนมจะบอกแม่บัวให้รีบทำอาหารให้นะคะหญิงชราวางหนังสือในมือลงที่โต๊ะข้างเก้าอี้โยก กำลังจะประคองตัวเองลุกขึ้น นัทชาเห็นแบบนั้นก็รีบปราดเข้ามาช่วยทันที

              ไม่ต้องครับนม วันนี้ให้ป้าบัวพักหน่อยแล้วกัน ผมจะให้ยัยนี่ทำอาหารแทนครับ

              ฉันชื่อน่านค่ะ ไม่ใช่ชื่อนี่หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะสวนขึ้นมาทันควัน

              เงียบไปเลย ผู้ใหญ่พูดกันอยู่ เด็กอย่างเธออย่ามาพูดแทรก เสียมารยาท!” เขาดุใส่ ทำให้เธอต้องนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจเพื่อควบคุมปากของตัวเองเอาไว้ให้ได้

              จะเอาอย่างนั้นเหรอคะ?นมถวิลถามซ้ำ

              ครับ แต่ตอนนี้ผมยังไม่หิว เพราะฉะนั้นระหว่างที่รอให้ผมหิว ยัยนี่ก็ต้องไปทำความสะอาดบ้านให้ละเอียดทุกตารางนิ้วก่อน จากนั้นก็ลงไปรดน้ำต้นไม้ วันนี้ให้ป่านกับอานนท์พักสักวัน ถ้าอยากออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกก็ตามสบายเลย ผมอนุญาตลุยซ์หมายถึงสาวใช้วัยสามสิบปีที่ชื่อป่าน ซึ่งมีหน้าที่คอยทำความสะอาดและดูแลทุกอย่างภายในเรือนรับรองนี้ ส่วนอานนท์เป็นสามีของป่าน มีหน้าที่ดูแลสนามหญ้าและสวนรอบๆ บ้าน รวมถึงคอยขับรถให้ในเวลาที่ลุยซ์ต้องการ

              คุณลุยซ์...แม่นมขยับจะค้าน

              เธอทำได้ไหม ถ้าทำไม่ได้...แต่ชายหนุ่มตัดบทด้วยการหันไปถามกับนัทชา

              ทำได้ค่ะ ได้ทุกอย่างตามบัญชาเลยค่ะนายท่านหญิงสาวชิงตอบอย่างนุ่มนวล ยิ้มหวานกว่าที่ควรพร้อมย่อตัวให้เขาอย่างประชดประชัน ลุยซ์หน้าตึงอย่างไม่ชอบใจนัก แต่เธอยิ่งยิ้มกว้างขึ้น เมื่อพบว่ามันดีกว่าการต่อปากกับเขา

              ในเมื่อเขาต้องการกลั่นแกล้ง เธอก็จะตอบแทนด้วยการกวนประสาทกลับไปเช่นกัน อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำแบบนี้ต่อไปได้อีกสักกี่น้ำ นมถวิลมองสองหนุ่มสาวสลับกัน ลอบถอนหายใจหนักหน่วง แล้วทำตามความต้องการของลุยซ์โดยไม่คิดจะทัดทานอีก เพราะถึงอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่มีวันยอมฟังอยู่ดี

              ป่านบอกนัทชาว่าอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านถูกเก็บไว้ที่ไหนบ้าง ป้าบัวเองก็ชี้แจงทุกอย่างในครัวให้ฟังเรียบร้อยแล้ว เมื่อคนอื่นๆ หายหน้าไปออกไปหมด นัทชาก็เริ่มลงมือทำความสะอาดบ้าน เริ่มจากใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นที่แทบไม่เห็นเลยว่ามี จากนั้นก็นำผ้าเปียกมาเช็ดเครื่องเรือนและทุกอย่างที่ลุยซ์คอยชี้นิ้วสั่ง ลงมือปัดกวาดพื้นจนสะอาด ก่อนจะแยกตัวไปเตรียมไม้ถูพื้นกับถังน้ำยาถูพื้น

              ชายหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายใกล้จะจัดการกับงานของตัวเองเสร็จแล้ว จึงรีบลงบันไดไปในครัวชั้นล่างทันที เปิดหาตามตู้ต่างๆ อยู่ไม่นานก็เจอสิ่งที่ต้องการ เขากระตุกยิ้มพอใจในตอนที่เทแป้งสาลีใส่ลงในจาน จากนั้นก็เดินกลับขึ้นมาข้างบน เปิดหน้าต่างออกแล้วยื่นจานแป้งไปตรงนั้น ลมที่ค่อนข้างแรงในช่วงเวลานี้ ปัดเป่าแป้งสาลีในจานจนกระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้เครื่องเรือนและบนพื้นบ้านเต็มไปด้วยละอองสีขาว

              นี่คุณทำอะไรของคุณเนี่ย!” นัทชาถามด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นสภาพฝุ่นสีขาวที่เกาะอยู่ทั่วไปหมด หญิงสาวมองตัวต้นเรื่องที่ถือจานแป้งสาลีอยู่ในมือ ไม่คิดจะปกปิดการกระทำตัวเองด้วยซ้ำ ก่อนจะวางถังน้ำถูพื้นลงบนพื้นแรงๆ จนมันกระฉอกหกออกมาเล็กน้อย

              ตายจริง ฉันว่าจะให้เธอทำขนมให้กินหน่อย กำลังจะเอาแป้งสาลีลงไปให้ป้าบัวช่วยดูว่ามันยังใช้ได้อยู่ไหม แต่บังเอิญเดินผ่านตรงนี้มันก็เลย...เป็นอย่างที่เธอเห็นลุยซ์โกหกหน้าตาย

              พี่ป่านบอกฉันว่าครัวข้างบนเอาไว้ใช้เตรียมอาหารว่างง่ายๆ หรือพวกเครื่องดื่มเท่านั้นไม่ใช่เหรอคะ ถ้าทำอาหารต้องลงไปใช้ครัวใหญ่ชั้นล่าง เพราะอากาศถ่ายเทดีกว่า แล้วแป้งสาลีจะมาอยู่ในครัวข้างบนได้ยังไงกัน นี่คุณลงไปเอามาเพื่อแกล้งฉันใช่ไหม!”

              อย่ามาพูดจาส่งเดชนะ มีหลักฐานหรือเปล่าว่าฉันแกล้งเธอลุยซ์ทำหน้าดุ น้ำเสียงห้วนจัด

              ไม่ต้องมีหลักฐานก็พอเดาออกอยู่หรอก ทำแบบนี้ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย

              หุบปาก!” ชายหนุ่มตวาดลั่น พร้อมก้าวมาประชิดตัวด้วยท่าทีคุกคาม เธอเป็นใคร ถึงได้กล้ามาพูดจาแบบนี้กับฉัน! ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นคนให้ข้าว ให้น้ำ ให้ที่ซุกหัวนอน หรือว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้วฮะ!” ใบหน้าหล่อคมถมึงทึง ดวงตาสีเทาทอประกายกรุ่นโกรธชัดเจน จนนัทชาต้องถอยห่างออกไปสองสามก้าวเพื่อความปลอดภัย

              ฉัน...ฉันขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว ต่อไปฉันจะระวังคำพูดให้มากกว่านี้ค่ะแม้จะเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้ง แต่เธอก็ยังไม่อยากถูกไล่ตะเพิดออกไปจากที่นี่ จึงจำใจต้องก้มหน้าก้มตายอมรับผิด

              ดี!” ชายหนุ่มยกแขนขึ้นกอดอกแล้วเอ่ยต่อ เช็ดฝุ่นแป้งพวกนี้ออกให้หมด เอาให้เอี่ยมเหมือนเดิมเลย เข้าใจไหม!” เมื่อนัทชาพยักหน้ารับรู้ เขาก็เดินแยกจากไปอย่างผู้ชนะ ลอบยิ้มด้วยความสะใจและเกือบหลุดหัวเราะออกมา เมื่อหันหลังไปมองแล้วเห็นอาการคอพับไหล่ตกของอีกฝ่าย

              กว่านัทชาจะทำงานบ้านเสร็จก็จวนจะบ่ายหนึ่งแล้ว ลุยซ์หิวจนแสบท้องจึงเปลี่ยนใจยังไม่ให้หญิงสาวลงไปรดน้ำต้นไม้ที่สวนข้างล่างในเวลานี้ แต่สั่งให้เธอเข้าครัวไปทำอาหารแทน ใบหน้างามที่มีเหงื่อผุดพรายขึ้นตามไรผม มองคนที่เอาแต่ออกคำสั่งด้วยสายตาสงบนิ่ง ถ้าต้องการอยู่ที่นี่ต่อไป เธอก็ต้องก้มหน้ารับกรรมไปจนกว่าเขาจะพอใจ

              นัทชาถอยหายใจพรืดใหญ่ เมื่อมองไปรอบตัวแล้วพบว่าไม่มีสิ่งใดที่คุ้นเคยเลย แทบจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าต้องเริ่มทำจากอะไรก่อน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจว่าจะทำแกงจืดกับไข่เจียว เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเมนูที่ง่ายที่สุดแล้ว เมื่อได้ข้อสรุปตามนั้น เธอก็นำหมูสับ ผักกาดขาว และแครอทออกมาจากตู้เย็น ปั้นหมูเป็นก้อนกลมๆ ที่ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ก่อนจะเริ่มลงมือหั่นผักเป็นชิ้นๆ ในระหว่างที่รอน้ำในหม้อเดือดปุดๆ

              นัทชาเห็นน้ำเดือดได้ที่แล้ว จึงใส่หมูสับกับผักลงไปในหม้อ เมื่อถึงตอนปรุงรส เธอก็ลังเลเล็กน้อย แล้วเปิดกระปุกเกลือกับน้ำตาล ใส่ลงไปโดยใช้วิธีคาดคะเนเอา เมื่อชิมดูก็ยิ้มกว้างออกเพราะมันมีรสชาติที่ใช้ได้ ไม่ต่างจากที่สาวใช้ในบ้านเคยทำให้รับประทานนัก แต่มันคงกลมกล่อมกว่านี้ ถ้าใส่น้ำตาลเพิ่มควานลงไปอีกสักหน่อย โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังรีบร้อนจนหยิบผิด

              สิ่งที่เลือกใส่ลงไปเพิ่มนั้นไม่ใช่น้ำตาล แต่มันคือเกลือ...

              หญิงสาวปล่อยแกงจืดให้เดือดอยู่อย่างนั้น แล้วเริ่มลงมือตอกไข่ลงในชาม ใช้ช้อนคนมันไปมา แล้วเทไข่ใส่บนกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ รอคอยอยู่ เสียงดังฉ่าและกลิ่นที่หอมหวนทำให้เจ้าตัวหลงคิดไปเองว่าอาหารมื้อนี้คงอร่อยน่าดู เมื่อไข่ถูกตักไปใส่จานเรียบร้อยแล้ว เธอก็จัดการตักแกงจืดใส่ในถ้วยใหญ่ เตรียมอาหารและข้าวสวยร้อนๆ เรียงไว้ในถาด แล้วนำไปวางบนโต๊ะที่มีเจ้านายใจร้ายรอคอยอยู่

              หายไปตั้งนาน ได้แค่แกงจืดไข่เจียวเนี่ยนะ!” ลุยซ์มองอาหารบนโต๊ะแล้วส่ายหน้า

              ฉันทำได้แค่นี้แหละค่ะ ไม่ค่อยสันทัดเรื่องการทำกับข้าวนักเธอสารภาพตามตรง

              ลุยซ์ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะหิวจนต้องการพักรบก่อนชั่วคราว เขาตักไข่ไปวางบนข้าวแล้วส่งเข้าปากไป รสชาติที่จืดสนิททำให้ชายหนุ่มชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตากับเธอแล้วฝืนกลืนลงคอไป นัทชาหน้าเสียทันทีที่เห็นปฏิกิริยาของเขา และมั่นใจกว่าเดิมเมื่อเห็นเขาตักแกงจืดขึ้นมาซด

              บ้าเอ๊ย!” ชายหนุ่มแทบพ่นน้ำแกงจืดออกมา แต่ก็เลือกที่จะกลืนมันลงไปแทน เขากระแทกช้อนลงบนจาน คว้าแก้วน้ำมาดื่ม แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สีหน้าเหยเกและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

              เป็นอะไรไปคะคุณลุยซ์ ร้อนเหรอคะ!” นมถวิลที่นั่งอยู่ไม่ไกล แต่เห็นทุกอย่างในสายตารีบร้องถามขึ้น

              ไม่ใช่ครับนม แกงจืดบ้านี่ไม่ได้ร้อนอะไรขนาดนั้น แต่มันเค็มเหมือนใส่เกลือลงไปเสียหลายกิโล!” เขาตอบหญิงชราแล้วตวัดสายตามาจ้องหน้านัทชา นี่เธอจงใจแกล้งฉันใช่ไหมฮะ!”

              เปล่านะคะ ฉันก็ชิมดูแล้วนี่นาว่ามันอร่อย ฉันแค่เติมน้ำตาล…” หญิงสาวชะงักเพียงแค่นั้น เมื่อนึกได้ว่าตัวเองคงจะหยิบกระปุกน้ำตาลสลับกับกระปุกเกลือ แต่ก่อนที่จะได้อธิบายความผิดพลาดของตัวเอง เขาก็เดินอ้อมมาจากโต๊ะแล้วเอื้อมมือขึ้นบีบที่ต้นแขนกลมกลึง

              ไม่มีใครกล้าลองดีกับฉันแบบนี้!” 

              ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะดวงตากลมโตจ้องลึกลงในดวงตาสีเทาสวย หวังว่าเขาจะมองเห็นความไม่ตั้งใจของเธอ

              โกหก!” เขาตวาดและเผลอตัวบีบต้นแขนเธอแรงขึ้น

              โอ๊ย! ฉันเจ็บนะคุณลุยซ์!” คนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด

              ใจเย็นก่อนนะคะคุณลุยซ์ เดี๋ยวนมจะบอกแม่บัวจัดการอาหารให้ใหม่ค่ะนมถวิลแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไปกันใหญ่ นางพอมองออกอยู่เหมือนกันว่านัทชาไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด เธอเพียงแค่ทำพลาดเสียมากกว่า

              เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับนม ผมไม่มีอารมณ์จะกินอะไรแล้วลุยซ์พยายามควบคุมโทนเสียงให้สุภาพที่สุด เมื่อหันไปเอ่ยกับหญิงชรา แต่ทันทีที่หันมาสบตากับนัทชา เขาก็ตวาดลั่นจนเธอสะดุ้งโหยงไหนๆ เธอก็อุตส่าห์ทำแกงจืดเค็มๆ นั่นมาแล้ว กินเองให้หมดเดี๋ยวนี้!”

              อะไรนะคะหญิงสาวทวนถามด้วยความตกตะลึง

              กินให้หมด!” เขาโน้มตัวไปหยิบชามแกงจืดขึ้นมา แล้วยื่นให้เธอ

              ในเมื่อคุณบอกว่ามันเค็ม แล้วคุณจะให้ฉันกินทำไม

              ก็เธอแกล้งฉัน เธอก็สมควรได้รับในสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้น่ะสิ!”

              แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ทำไมคุณถึงไม่มีเหตุผลบ้าง ฉันจะไปแกล้งคุณทำไม!” เธอพยายามอธิบาย

              ก็เอาคืนที่เธอหาว่าฉันเอาแป้งไปโรยในห้องโถงนั่นไง!” แต่ลุยซ์โกรธเกินกว่าจะยอมรับฟัง

              ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้เอาเรื่องนั้นมาใส่ใจแล้วด้วยซ้ำ ฉันไม่ใช่พวกเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนคุณนี่

              ปากดีนักนะ! ฉันบอกว่าให้กินเข้าไป!” ยิ่งฟังเธอพูดเหน็บแนม เขาก็ยิ่งโกรธหนักขึ้น

              ไม่! ฉันไม่กิน!” นัทชายืนยันเช่นเดิม

              ต้องกิน!” ลุยซ์แสยะยิ้มเหี้ยม รีบขยับไปยืนข้างหลัง ตวัดแขนรอบต้นคอเธอ แล้วใช้มือตรึงคางไว้แน่น จากนั้นก็ใช้อีกมือเลื่อนชามแกงจืดไปจ่อตรงริมฝีปาก บีบบังคับให้เธอกินมันอย่างทุลักทุเล ซ้ำยังหกเลอะเปื้อนเสื้อผ้าเต็มไปหมด นัทชาขัดขืนในทีแรก แต่เมื่อรู้ว่ายิ่งดิ้นยิ่งเจ็บตัว จึงยอมเปิดปากกินเข้าไปแต่โดยดี โชคดีไม่น้อยที่น้ำแกงจืดไม่ได้ร้อนอย่างตอนแรก ไม่อย่างนั้นเธอคงปากพองไปหมดแล้วแน่ๆ

              อย่าทำแบบนั้นสิคะคุณลุยซ์!” นมถวิลร้องห้าม ยกมือทาบอกด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเห็นชายหนุ่มทำอะไรรุนแรงอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต ดูเหมือนเสียงห้ามนั้นจะทำให้ลุยซ์เกิดความเกรงใจขึ้นมาบ้าง เขาจึงปล่อยเธอห่างออกไป มองดูเธอสำลักน้ำแกงด้วยสายตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

              ลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้!”

              ไม่พูดเปล่า แต่มือใหญ่เอื้อมไปดึงที่ต้นแขน แล้วฉุดกระชากให้เดินตามลงไปข้างล่างทันที เมื่อลงมาถึงสวนหน้าเรือนรับรอง ลุยซ์ก็ผลักนัทชาอย่างแรงจนล้มไปกองอยู่บนพื้นหญ้า ชั่วขณะหนึ่งเขาคิดว่าตัวเองกำลังทำเกินไป แต่เมื่อนึกถึงถ้อยคำที่เธอเอ่ยถึงเขา กับความดื้อด้านที่ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไป เขาก็คิดว่าเธอควรโดนแบบนี้แหละถึงจะเหมาะสม

              ฉันเจ็บนะ!” นัทชาแหวใส่อย่างเหลืออด ดวงตาวูบไหวด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์จะคัดค้านการกระทำของเขา เพราะเวลานี้เธอต้องอาศัยฟาร์มของเขาเป็นที่พึ่งพิง แต่ดูเหมือนยิ่งยอม ลุยซ์ก็ยิ่งได้ใจ เขาทำเหมือนเธอไม่มีจิตใจ ไร้ความรู้สึก เขาทำแบบนี้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้อย่างไรกัน

              คนหน้าด้านอย่างเธอ เจ็บเป็นด้วยเหรอ!” เขาพ่นคำพูดทิ่มแทงไม่เลิก

              จังหวะนั่นเองที่กัมปนาทขับรถกลับมายังเรือนรับรอง เพราะต้องการแจ้งอาการของแม่โคที่ป่วย หลังจากที่ทั้งลุงจั่นและตัวเขาเองโทรศัพท์เข้ามาหลายสาย แต่เจ้าของฟาร์มวราทิตย์ก็ไม่มีวี่แววว่าจะยอมรับสายเสียที ประจวบเหมาะกับเห็นว่าบ่ายแก่แล้ว แต่ลุยซ์ยังไม่กลับเข้าไปในฟาร์ม กัมปนาทจึงตัดสินใจขับรถมาหาที่นี่เสียเลย ส่วนแพรสุดาเองก็เพิ่งเดินมาถึงเช่นกัน อาทิตย์รู้สึกตัวตื่นมาพักใหญ่แล้ว และบอกว่าต้องการใช้เวลาอยู่กับตัวเองตามลำพัง เพื่อทำใจยอมรับความจริงเรื่องอานิก้า จึงขอให้แพรสุดากลับไปที่เรือนรับรองเสีย 

              คุณจะให้ฉันเป็นอะไร ฉันยอมเป็นหมดนั่นแหละค่ะ แค่คุณก็ควรดูตัวเองด้วยว่ามีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า!” นัทชารู้ดีว่ากำลังใช้คำพูดที่รุนแรง แต่เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ คุณทำได้ยังไงคะคุณลุยซ์...คุณกรอกน้ำแกงใส่ปากฉัน คุณผลักฉันจนล้มไม่เป็นท่า ถามหน่อยเถอะ...คุณยังมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่บ้างไหม?สิ้นคำนี้ลุยซ์ก็ปราดเข้าไปกระชากคนบนพื้นให้ลุกขึ้นทันที เขารู้สึกชาไปทั้งหน้าราวกับถูกกระหน่ำตบจากมือปริศนา หลังจากถูกหญิงสาวเอ่ยถามด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ

              เธอกล้ามากที่พูดกับฉันแบบนี้...เขากระซิบลอดผ่านไรฟันที่ขบแน่น หายใจแรงและจ้องมองดวงตากลมโตที่ตอนนี้มีหยาดน้ำสีใสคลอรื้นขึ้นมาเต็มหน่วยตา ใบหน้างามซีดเผือด เต็มไปด้วยความผิดหวังเสียใจ ก่อนหน้านี้เธอคงตาบอดไปเองที่คิดว่าเขาเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ ทั้งที่ความจริงเขาเป็นเพียงแค่คนใจร้ายคนหนึ่งเท่านั้น

              ลองคิดดูแล้วกันค่ะ สิ่งที่คุณทำกับฉันมันสมเหตุสมผลแล้วหรือเปล่า ฉันแค่หนีตามคุณมาเพราะไม่มีทางเลือก ฉันไม่ได้ฆ่าใครตาย ทำไมคุณถึงต้องทำกับฉันขนาดนี้!” เมื่อความในใจพรั่งพรูออกมา หยาดน้ำตาก็ไหลรินไม่ขาดสายด้วยเช่นกัน ลุยซ์เห็นอย่างนั้นก็ปล่อยมือออกจากเธอ มองดูร่างเล็กบอบบางทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นหญ้า ใจหนึ่งบอกให้เขาออกไปจากตรงนี้เสีย แต่อีกใจกำลังบอกว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียงแค่มารยาหญิงเท่านั้น

              มารยาเหมือนตอนที่แม่ของเขาซมซานกลับมาหาพ่อไม่มีผิด!

              กลับขึ้นไปทำความสะอาดบนเรือนใหม่ทั้งหมดเสียงของเขาสงบนิ่ง ไม่มีความฉุนเฉียวเจือปนอีก ขัดพื้นเอาให้เงาวับไปเลย แล้วก็เปลี่ยนผ้าปูเตียงใหม่ให้หมดทุกห้อง ขนลงมานั่งซักที่ลานข้างหลัง ซักมือนะ ห้ามใช้เครื่อง แล้วถ้างานที่ฉันสั่งยังไม่เรียบร้อย คืนนี้เธอห้ามนอนสิ้นคำสั่งนั้น ลุยซ์ก็หมุนตัวเดินกลับขึ้นไปข้างบนทันที

              แพรสุดาลอบมองสบตากับกัมปนาท และนมถวิลที่ชะโงกหน้าดูเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ตรงระเบียงชั้นบน ความรู้สึกก่อนหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบใจ แปรเปลี่ยนเป็นความเวทนาสงสารอย่างไม่อาจควบคุมได้ หญิงสาวเดินเข้าไปหานัทชา ทรุดตัวลงนั่งในระดับเดี๋ยวกันแล้วยกมือลูบไหล่เบาๆ

              เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะแพรสุดาทอดน้ำเสียงห่วงใย

              มะ...ไม่ค่ะ ฉันสบายดีแม้ปากจะตอบอย่างนั้น แต่กลับร้องไห้หนักจนตัวโยน กัมปนาทอยากเข้าไปให้กำลังใจหญิงสาวในฐานะเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่ง แต่ลุยซ์กลับลงมาข้างล่าง แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้กลับเข้าไปในฟาร์มได้แล้ว หน้าที่ปลอบปะโลมนั้นจึงกลายเป็นของแพรสุดาและนมถวิลต่อไป








    โอ๊ยยยยย ผู้ชายอาไร้! ใจร้ายได้อีก ความสวยหวานน่ารักของยัยกวางน้อย

    ไม่ได้มีผลใดๆ ต่อหัวใจที่นิ่งสงบดุจหินผาของพี่แกเลย!!

    แต่อีกไม่นานก็จะคิดได้ค่ะว่าตัวเองทำเกินไป เพราะเนื้อแท้แล้วไม่ใช่คนร้ายกาจเลย

    แค่ 'หมั่นไส้' ที่สาวน้อยชื่นชมกัมปนาท แต่แอบนินทาตัวเองเสียๆ หายๆ เท่านั้นเอง

    กร๊ากกกกกกกกกก เหตุผลขี้เหวี่ยงไปอีกเนาะ 55555555+

    ยังไงก็ขอกำลังใจเป็นคอมเม้นต์ทวง + กดให้กำลังใจด้วยนะค้า 

    ปล. ท่านใดแวะเวียนผ่านเข้ามาฝากกดแอด fav. กันด้วยน้าาาาา

    ขอบคุณล่วงหน้าค่า จ๊วบบบบบบบบ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×