คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 3 : ลักลอบหนีตาม {4}
นัทชาไม่อยากเสี่ยงอยู่แถวนี้ให้เส้นสายของพ่อตามมาจับตัวกลับไปได้
จึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะหนีตามชายหนุ่มไปให้สำเร็จ เธอย่อตัวต่ำลงแล้ววิ่งลัดเลาะผ่านรถคันแล้วคันเล่า
จนไปถึงรถคันที่เขากำลังใช้กุญแจกดเปิดประตู
ชายหนุ่มเปิดประตูด้านหลังเพื่อโยนกระเป๋าเป้ใบใหญ่ใส่เข้าไป
ขยับมาในตำแหน่งคนขับแล้วเปิดประตูออก
กำลังจะแทรกตัวเข้าไปแต่เสียงหนึ่งรั้งเขาเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม!” ลุงที่ลุยซ์ให้ความช่วยเหลือรีบตรงเข้ามาหา
นัทชาไม่สนใจการสนทนาหลังจากนั้น แต่รีบลัดเลาะไปทางประตูหลัง
เปิดมันออกอย่างระวัง ยัดกระเป๋าเข้าไปวางบนเบาะ
ก่อนจะพาตัวเองคลานขึ้นไปนั่งขดตัวอยู่ตรงที่พักเท้า
ดึงกระเป๋าสัมภาระของเขามาบังช่วงศีรษะเอาไว้ แม้จะอึดอัดแทบแย่ แต่เธอเลือกแล้วว่าจะหนีตามผู้ชายคนนี้ให้ได้!
“อย่ารีบเดินสิครับลุง เดี๋ยวก็ล้มกันก่อนพอดี” เขาเตือนด้วยความหวังดี
“ลุงอยากตอบแทนน้ำใจ แต่คนแก่จนๆ
อย่างลุงคงไม่มีอะไรให้ นอกจากพระเครื่ององค์นี้” ชายชรายื่นพระเครื่องที่สวมติดตัวให้กับชายหนุ่ม
ทีแรกลุยซ์ก็เกรงใจและไม่อยากรับมันเอาไว้นัก แต่พอเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี
เขาจึงรับไว้แล้วยกมือไหว้ขอบคุณ
“ขอบคุณนะครับลุง”
“เดินทางปลอดภัยนะพ่อหนุ่ม ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง”
ลุงอวยพรด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินแยกกลับไปยังม้านั่งตัวเดิมเพื่อรับประทานอาหารที่ลุยซ์ซื้อให้ต่อจนอิ่ม
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่น้อยมากจนแทบมองไม่เห็นมุมปากที่ยกขึ้น
อย่างน้อยในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด มันก็ยังมีเรื่องดีๆ
แวะเวียนผ่านมาให้ได้อุ่นใจบ้าง
ลุยซ์แทรกตัวเข้าไปในรถ เก็บพระเครื่องที่ดูเก่าแก่นั้นไว้ในลิ้นชัก
ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วขับแล่นฉิวออกไปจากสนามบิน มุ่งหน้ากลับไปยังฟาร์มวราทิตย์ในจังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งใช้เวลาราวๆ สองชั่วโมง โดยไม่รู้เลยว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง
กำลังซ่อนตัวอยู่ภายในรถคันเดียวกัน
นัทชานั่งขดตัวอยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ในตอนที่รถยนต์คันหรูเหยียบเบรกจอดรถ
เสียงเครื่องยนต์ดับลง ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูและปิดลงแรงๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านทางกระจกรถ
ชายหนุ่มเดินอ้อมมายังประตูที่เธอนั่งขดตัวอยู่
ยืนบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยขบอยู่ชั่วครู่ ใช้มือตบต้นคอเบาๆ
ก่อนจะดึงประตูรถให้เปิดออก และโน้มตัวเข้ามาหวังจะคว้ากระเป๋าสัมภาระ
ลุยซ์ชะงักนิ่ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตใสแป๋ว จ้องมองมาในระยะที่ใบหน้าห่างกันเพียงเล็กน้อย
ความตกตะลึงในชั่วขณะ แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจสุดขีด
ชายหนุ่มอุทานลั่นพร้อมกับผงะถอยออกจากรถไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ศีรษะกระแทกเข้าที่ขอบประตูด้านบนจนปวดมึนไปหมด
“เฮ้ย!
นี่เธอแอบขึ้นมาบนรถฉันตอนไหนเนี่ย!” ลุยซ์ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น
เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอผู้หญิงแปลกหน้านั่งขดตัวอยู่ตรงที่วางเท้าของเบาะหลัง
เขาแค่ตั้งใจจะหยิบกระเป๋าสัมภาระเพื่อขึ้นไปพักผ่อนเท่านั้น
“อ้าว พูดไทยได้ด้วยเหรอคะ
อุตส่าห์นั่งเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษมาตลอดทางเลย” เธอจ้องมองมาอย่างตกตะลึง
แล้วยิ้มร่าเมื่อพบว่าอีกฝ่ายพูดภาษาไทยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ “แหม อย่าโมโหสิคะลุง ไหนๆ หนูก็หนีตามลุงมาแล้ว
ช่วยรับผิดชอบชีวิตลูกแมวตาดำๆ อย่างหนูหน่อยเถอะนะ”
“บ้าไปกันใหญ่แล้ว ฉันไม่อยากติดคุกติดตารางเพราะคดีพรากผู้เยาว์หรอกนะ
เธอลงมาจากรถแล้วรีบไปให้พ้นจากที่นี่...เดี๋ยวนี้เลย!” ลุยซ์เสียหัวอย่างหนัก เขาตวาดไล่อย่างไม่คิดจะไยดี
ยังคงตกใจไม่หายที่จู่ๆ ก็พบเจ้าหล่อนอยู่ในรถของตัวเอง นี่ถ้าเป็นพวกผู้ร้ายฆ่าชิงทรัพย์แฝงตัวขึ้นมา
เขาคงถูกปาดคอตายแบบไม่ทันตั้งตัวไปนานแล้ว
“รับรองว่าไม่ติดคุกแน่ หนูไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ อายุยี่สิบสองปีบริบูรณ์
แล้วลุงละ หล่อคมเข้มขนาดนี้ คงยังไม่แก่มากหรอกใช่ไหม”
“ฉันอายุสามสิบห้า ไม่ใช่ห้าสิบ! เพราะฉะนั้นเลิกเรียกฉันว่าลุงเสียที! ที่สำคัญ...ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ใช่พี่ชายของพ่อเธอแน่!” ชายหนุ่มตะคอกลั่น ขบกรามแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ
อาจหาญแอบหนีขึ้นรถคนอื่นมาอย่างหน้าด้านๆ แล้วยังกล้าดีมาเรียกเขาว่าลุงอีก
“แล้วถ้าเรียกว่าพี่ จะยอมให้เค้าหนีตามไหมละตัวเอง” นัทชากะพริบตาปริบๆ พยายามทำใจดีสู้เสือ แม้จะกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้วก็ตาม
คำพูดจาออดอ้อนของเธอ ทำเอาคนที่ยืนตระหง่านค้ำอยู่ตรงประตูรถถึงกับพูดไม่ออก
เพราะไม่เคยพบเจอผู้หญิงอย่างนี้มาก่อนในชีวิต ลุยซ์ขบกรามแน่นก่อนจะปิดประตูลง
เด็กนี่หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าหนังควาย
แล้วเขาจะจัดการอย่างไรกับเจ้าหล่อนดี!
“เสียงเอะอะอะไรกันคะคุณลุยซ์” แพรสุดาเดินออกมาจากเรือนรับรอง
ประคองนมถวิลมาด้วย
“นั่นสิคะ นมได้ยินเสียงดังไปถึงข้างบนจนสะดุ้งตื่น”
หญิงชราเองก็อยากรู้เช่นกัน
“ผมขอโทษที่ทำให้นมตื่นมาตอนตีสามแบบนี้นะครับ
พอดีเกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้น ผมเลยสติแตกนิดหน่อย” ชายหนุ่มพยายามควบคุมน้ำเสียงที่พูดกับนมถวิลให้ฟังดูสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้
เขาสูดลมหายใจ มองที่ประตูรถอย่างชั่งใจแล้วกระชากมันให้เปิดออก
“ลงมา!” เป็นอีกครั้งที่เขาตะคอกเธอเสียงดังลั่น
“ละ...ลงไม่ได้ค่ะ ขาหนู...เอ้ย! ขาน่านเป็นตะคริวไปหมดแล้ว”
นัทชาแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นราวกับคุ้นเคยกับอีกฝ่าย
ลุยซ์นิ่วหน้าด้วยความไม่เข้าใจ เด็กบ้านี่มนุษย์สัมพันธ์ดีเกินไปหรือเปล่า
ถึงได้กล้าหนีตามคนแปลกหน้า แถมยังดูไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดเมื่อถูกจับได้
ซวยแล้วน่านเอ๊ยยยย หนีตามมาผิดคนแล้วล่ะคราวนี้
เห็นหล่อๆ ป๋าๆ ใจบุญสุนทาน แต่ไม่ใช่ผู้ชายนุ่มนวลอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย
งานนี้ลุยซ์จะจัดการอย่างไร กดแอด Fav. รอติดตามอย่างจดจ่อเลยเจ้าค่าา
ความคิดเห็น