คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สายฝนหลังไอเเดด
ตอนที่ 2
สายฝนหลังไอแดด
ซ่า.....ซ่า! เสียงที่คุ้นเคยดังมาประปรายให้ระคายหูเล่น อุณภูมิของเครื่องปรับอากาศในรถโดยสารประจำทางบอกกับความหนาวของฤดูทำให้เธอต้องเอามือมาลูบต้นแขนด้วยความหนาว
พรายฝน พิรุณฤดี หรืออีกชื่อคือฝน อายุ 14 ปี เด็กสาวในโลกไซเบอร์ เจ้าของนามปากกาสายฝน กำลังกลับบ้านหลังกิจกรรมของโรงเรียนที่ต้องซ้อมนานถึงตอนค่ำ เด็กสาวยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาสีดำ
21.53 น. .....สามทุ่มห้าสิมสามนาที คงจะกลับทันนะหวังว่า
เพราะฝนตกทำให้การจราจรเกิดติดขัดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เต่ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติของกรุงเทพและของหน้าฝนด้วย พรายฝนถอนหายใจเฮือก เธอชอบฝนเพราะมันเหมือนกับชื่อของเธอ
ชอบสายฝนที่เย็นฉ่ำ เธอไม่ชอบแดดแรงๆจึงชอบบรรยากาศสลัวๆของสายฝน ฤดูฝนถึงอะไรๆจะติดขัดไปบ้างแต่มันก็คือฤดูโปรดของเธอรองลงมาจากหน้าหนาว ถึงแม้ยูจะไม่ค่อยชอบหน้านี้เท่าไหร่ด้วยเหตุผลที่ว่ามันออกไปไหนไม่ได้ แต่เธอก็ยังชอบอยู่ดีน่ะแหล่ะ
เอี๊ยดดด! ฟู่! เสียงล้อฝืดๆเสียดสีกับถนน ตามด้วยเสียงพ่นลมของประตู เป็นสัญญาณว่ามันเปิดเพื่อรับผู้โดยสารขึ้นและลง
ร่างในชุดเดรสสีขาวลุกยืนขึ้นและเดินตามคนที่ทยอยลงในป้ายเดียวกันสวนกับคนที่ขึ้นมา เมื่อลงจากรถหยาดฝนที่เทกระหน่ำลงมาทำให้ตัวเปียก ผู้คนที่มีร่มก็กางกันวุ่น ในขณะที่คนที่ไม่มีก็วิ่งหาที่หลบฝนกันเอาเอง สถานที่สุดฮิตคงไม่พ้นป้ายรถเมล์ที่มีคนยืนกันพรึ่บ
เธอเองก็ไม่มีร่มเช่นกัน ปกติเธอชอบน้ำฝนมากที่สุด โดยเฉพาะเวลาที่มันกระทบตัว จนบางทีออกไปยืนตากฝนจนหวัดกินมานักต่อนักแล้ว แต่วันนี้เพราะมีซ้อมการแสดงของโรงเรียนเธอจึงใส่ชุดเดรสที่เป็นชุดซ้อมมา
ถ้าฝนตกคงจะแย่เพราะต้องเอาไปคืนที่ร้านด้วย...
เด็กสาวตัดสินใจยกกระเป๋าขึ้นบังศรีษะแล้วรีบวิ่งออกจาป้ายรถเมล์ไปตามทางกลับบ้านที่มีคนเดินอยู่บ้างเล็กน้อย ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดหมดแล้วเพราะเข้าเวลากลางคืน มีเพียงไม่กี่ร้านที่ไฟยังสว่างอยู่ เจ้าของชื่อบัญชีดำวิ่งผ่านมาไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่คิดเพียงแต่อยากหลบให้พ้นแล้วกลับไปนั่งคุยกับเพื่อนสาวเท่านั้น
ยูหรือยูกิ ยูกิเป็นชื่อในเว็บบอดร์ของยู มันแปลว่าหิมะ ดังนั้นจึงไม่แปลกกี่ภาพลักษณ์ของเธอจะดูเย็นๆและออกจะเรียบร้อยหน่อย ตัวจริงเองก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังกับความคิดนี้มากนัก ถึงแม้ความโหดจะมีมากด้วยก็เถอะนะ
ขาเรียวที่เลอะน้ำสีเทาเป็นจุดๆ วิ่งไปตามฟุ๊ตบาธ จนถึงสีแยกไฟแดง อีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึงซอยบ้านของเธอแล้ว พิรุณตัวดีหอบแฮ่กๆ ก่อนจะตัดสินใจเอากระเป๋าลงจากเหนือศรีษะแล้วเข้าไปหลบฝนใต้ชายคาร้านอินเตอร์เน็ตชั่วคราวก่อนเพราะความเหนื่อยที่วิ่งมาตลอดทาง
นัยน์ตาสีดำมองซ้ายมองขวาเพื่อสำรวจสถานที่ที่ตัวเองแอบมาขอพักพิงชั่วคราว ร้านอินเตอร์เน็ตขนาด 2 ห้องเปิดไฟสีส้มดูสว่างตา แต่ไม่ถึงกับสว่างจ้ามากเกินไป ด้านในมีเคาท์เตอร์กาแฟและโตะกับโซฟาอีกสองสามตัว ตู้ขนมตั้งห่างจากหมู่โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่อย่างเป็นระเบียบมาเล็กน้อย สถานที่นี้ลบภาพของร้านอินเตอร์เน็ตที่เล็กแคบ และร้อนอับ ติดฟิมล์มืดๆไปได้โดยสิ้นเชิง
สายตาพลันไปสะดุดกับสินค้าเล็กๆน้อยๆที่ตั้งอยู่ทางมุมร้าน
‘ดอกไม้อิเล็กทรอนิคส์’
ไวเท่าความคิด แขนที่เปียกฝนรับผลักเข้าไปทันที กระดิ่งสีทองส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งน่าฟัง พนักงานในชุดสีส้มโอโรสเดินเข้ามาถามพร้อมรอยยิ้ม
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ?”ผู้หญิงที่ดูจะเป็นนักศึกษามาหารายได้พิเศษถาม เมื่อเห็นเธอมองซ้ายมองขวาเหมือนจะหาอะไรบางอย่าง พรายฝนที่มัวแต่มองเจ้าดอกไม้พิลึก หันมาเจอก็อ้ำๆอึ้งๆไปเหมือนกัน
“อะ...อ๋อ คือเห็นป้ายเล็กๆเท่านี้เขียนว่าดอกไม้อิเล็กทรอนิคส์ มันคืออะไรเหรอคะ?”นิ้วเรียวตั้งฉากพยายามจะบอกขนาดป้าย พนักงานทำหน้าเข้าใจ ก่อนจะพาเดินมายังมุมเล็กๆของร้านที่โดนตู้เค้กบังอยู่
“นี่ค่ะ เป็นโปรแกรมสร้างเอฟเฟ็กในคอมพิวเตอร์น่ะค่ะ”มือที่ประดับด้วยเล็บสีชมพูหยิบซองแบนๆ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกะทัดรัดมาให้ อีกมือนึงรับต่อมาดู หูก็ฟังพนักงานสาวอธิบายต่อไปเรื่อยๆ
“สำหรับใช้สร้างพวกดอกไม้ แสง สี เอฟเฟ็กอื่นๆให้มันกระเด้งขึ้นมาที่หน้าจอค่ะ จะใช้ในเว็บบอร์ด หรือกับโปรแกรม msn ก็ได้นะ”ใบหน้าที่ซีดหน่อยๆเพราะความหนาวดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันที ชื่อของคนเกิดวันเดียวกันผุดขึ้นมาในหัว
“แล้ว...มีแบบเป็นหิมะตกอะไรแบบนี้มั้ยคะ?”คนขายลองหยิบขึ้นมาพลิกๆดูอยู่ซักพักก็ส่งซองขนาดเดียวกัน แต่คนละลายมาให้ เด็กสาวรับมาดูอีกครั้งก่อนจะพลิกไปด้านหลังที่เป็นรูปเกล็ดหิมะ
“แบบนี้ได้มั้ยคะน้อง?”นักศึกษาคนเดิมถามพลางจัดซองอื่นๆเข้าที่ ก่อนจะยิ้มเมื่อได้คำตอบเป็นการพยักหน้าจากลูกค้าตัวเปียก
“เท่าไหร่คะ?”มือเรียวเปิดกระเป๋าเงินสีดำออกมา ก่อนจะลองนับๆเงินดูว่าพอจะเหลือรึเปล่า เสียงแคชเชียร์กระเด้ง พร้อมเสียงติ๊ดๆ ของใบเสร็จแสดงว่าถูกคิดเงินไปแล้ว
“150 บาทจ้ะ”คนขายรับเงินมา ก่อนจะหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าถอนหายใจของเธอ ซองแบนๆถูกจับใส่ลงถุงสีขาวมีลายสวยงามพร้อมใบเสร็จ พรายฝนเปิดกระเป๋าแล้วเก็บเข้าไป ไม่ลืมหันมาขอบคุณพี่พนักงานทีนึงก่อนออกจากร้าน
“ขอบคุณมากค่ะ!”ร่างสูงเกินวัยยิ้มให้พร้อมเดินออกมา กระเป๋าสีดำถูกยกขึ้นบังศรีษะอีกครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นหันด้านที่มีแผ่นซีดีลงแทนแล้วเอาอีกด้านขึ้น นาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลา 22.20 นาที
สี่ทุ่มยี่สิบสอง หวาวิ่งนานขนาดนี้เชียว เดี๋ยวทำการบ้านกับทำอาหารเย็นด้วยวันนี้ไม่มีใครอยู่เลยนี่นา...จะทันมั้ยเนี่ย?! ขาสองข้างรีบเดินข้ามสี่แยกไฟแดงขนาด 6 เลน ที่ตอนนี้ไฟแดงสมชื่อ ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักทางม้าลายดูเหมือนจะยาวขึ้นอีกเป็นกอง
ด้านหน้ามีผู้ชายที่ดูเหมือนจะข้ามถนนเหมือนกัน ไฟยังไม่เขียวเขาจึงขยับเข้ามาใกล้ได้ไม่ยาก เธอไม่ได้สนใจซักเท่าไหร่ ถนน 6 เลนขนาดใหญ่ทำให้ระยะห่างมากพอสมควร แต่มันก็ยังทำให้เธอเห็นสีหน้าตกใจเขาได้
“น้องระวัง!!”นัยน์ตาสีดำหันไปมองด้านข้างอย่างตกใจ แสงสว่างสาดส่องเข้ามาในคองจักษุก่อนจะดับวูบลง
เปรี้ยง!! น้ำฝนที่ไหลนองพื้นถูกย้อมเป็นสีแดง นาฬิกาที่กระจกแตกบอกเวลา 22 นาฬิกา 22 นาที
แผ่นซีดีหลุดออกจากถุงลงมากองบนพื้นถนน เช่นเดียวกันของอื่นๆที่กระจัดกระจายเพราะตัวประเป๋าถูกฉีกขาด ด้านหลังของซองพลิกขึ้น เกล็ดหิมะสีเงินเปื้อนโลหิตสีแดงประปราย ก่อนจะเลือนหายไปภายใต้หยาดพิรุณ....
เชียงใหม่.....22 นาฬิกา 22 นาที
แปะ....แปะ!
“ฝนหยุดแล้ว!”เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองพลางเปิดหน้าต่างออก แล้วเดินไปปิดเครื่องปรับอากาศ นัยน์ตามองปฏิทินอย่างมีความสุข หน้าจอคอมพิวเตอร์สว่างจ้าบอกถึงการทำงานและการรอคอย วันที่ในปฏิทินสายชัดเพราะถูกวงไว้ด้วยสีแดง
วันที่ 1 กันยายน เวลา 22 นาฬิกา 22 นาที....
สายฝนหยุดลง....
ความคิดเห็น