คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Yesterday[Milo]
Pride
: Camus
ความหนาวเหน็บไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศ....หากเเต่เกิดจากใจคน....เป็นความหนาวเย็นที่ไม่มีวันละลาย....
ความเยือกเย็น สุขุม ทิฐิมานะ เเละทรนงในเกียรติ สิ่งที่หล่อหลอมขึ้นมาเป็นเซนต์เเห่งอควาเรียส ไม่เว้นเเต้เเต่อควาเรียส คามิว เเม้จะยังเยาว์วัย เเต่กระนั้นก็ยังคงมีสติปัญญาที่ชาญฉลาด ใบหน้าขาวละมุนที่ไร้รอยยิ้มดังเช่นน้ำเเข็งที่ไม่มีวันละลาย สร้างความเกรงใจเเก่ผู้คนที่พบเจอ เเละบางทีก็เป็นความอึดอัดเช่นกัน....
"คิดว่าตัวเองเป็นโกลด์เซนต์คนเดียวหรือไง?"น้ำเสียงยั่วยวยโทสะดังขึ้นเบื้องบน เรือนผมสีน้ำเงินม่วงเป็นประกายอ่อนๆจับริม เเสงเเดดที่ลอดเส้นผมเข้ามาเเยงตาจนต้องหรี่ลง มือเรียวขาวยกขึ้นบังใบหน้าพลางกลอกดวงตาเพื่อมองผู้มาใหม่
คิดไม่ผิดจริงๆ....สกอร์เปี้ยน มิโร่...นัยน์ตาเรียบนิ่งเเต่คมกริบเปลี่ยนไปชั่วครู่ เด็กชายละมือลงมาจากระดับใบหน้าเเล้วปิดหนังสือที่กำลังอ่านลง
"มีธุระอะไร?"คามิวไม่ตอบคำถาม ร่างของโกลด์เซนต์อควาเรียสผุดลุกขึ้น ส่วนสูงของทั้งสองไม่ต่างกันนักเผลอๆคามิวอาจจะสูงกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ ผู้มาใหม่มองหน้านื่งเฉยด้วยความไม่สบอารมณ์ในใจนึกอยากจะดึงใบหน้านั่นเเรงๆสักครั้ง อยากรู้เหลือเกินว่ายังจะนิ่งอยู่ไหม...?
"จะอะไรซะอีกล่ะ เมื่อวานก่อนพวกบรอนเซนต์ อุตส่าห์ไปเยี่ยมเจ้า เเต่เจ้ากลับบอกว่ารำคาญเเบบนี้ ใช้ได้ที่ไหนกัน!"เเดดอ่อนๆเริ่มเเรงขึ้น เรือนผมสีน้ำทะเลพลิ้วไหวเล็กน้อยยามลมพัดผ่าน ใบหน้าเฉยชาเช่นเดิมไม่ปรากฏเเววเเปลกใจหรือโกรธเคืองเเต่อย่างใด มีเพียงการส่ายหัวเล็กน้อยเท่านั้น
เเต่นั่น...ก็มากพอที่จะทำให้มิโร่โกรธได้
"เรื่องเเค่นี้...ก็รำคาญเเล้วจะให้พูดยังไง เป็นเซนต์ไม่ฝึกฝนตนเอง เอาเวลามาประจบคนอื่น....ใช้ได้ที่ไหนกัน?"น้ำเสียงเย็นเเฝงเเววเย้ยหยันอยู่ลึกๆ ดวงตาสีน้ำเงินเปลี่ยนวูบราวกับจะหัวเราะเยาะเเม้ใบหน้าจะนิ่งเฉย
"พวกนั้นกลัวเจ้าจะเหงาก็เลยพากันไปเยี่ยม! ต่อให้เป็นบรอนเซนต์ก็ต้องมีความเกรงใจกันบ้างสิ!!"เสียงเล็กๆตวาดลั่น คิ้วสองข้างขมวดจนเเทบจะติดกัน เจ้าของปราสาทตัวน้อยเหลือบมองมือที่ขยุ้มคอเสื้อตัวเองเงียบๆ
"...ข้าเป็นโกลด์เซนต์"
พลั่กก!
"งั้นก็เชิญอยู่คนเดียวไปเถอะ! ข้าไม่ยุ่งกับเจ้าเเล้ว!!"โกลด์เซนต์ราศีพิจิกขึ้นเสียงใส่ ก่อนจะหันหลังวิ่งหายไป ทิ้งให้คนถูกรบกวนนั่งมองอยู่ที่พื้น
"ข้าก็ไม่ได้ขอให้ยุ่งนี่....."
"...โร่"
"เป็นอะไรน่ะ มิโร่....?"ไหล่พลันยกขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าตัวสะดุ้ง เสียงนุ่มๆไหลเข้าโสตสัมผัสพาให้สมองตื่นตัว ร่างเพรียวตามประสาคนอดข้าวเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ
"เป็นอะไรน่ะมิโร่?"เจ้าของเสียงมีความอดทนมากพอที่จะถามซ้ำถึงสามครั้ง ด้วยเหตุว่าเพื่อนโกลด์เซนต์คงยังตื่นไม่เต็มตาเท่าใดนัก
"อ๊ะ...ขอโทษชากะ เผอิญข้าคิดอะไรเพลินไปหน่อย"ศรีษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีม่วงน้ำเงินผงกให้เล็กน้อย เวอร์โก้ ชากะอมยิ้มบางๆคล้ายกับจะบอกว่าไม่เป็นไร
"ปกติเจ้าไม่เป็นเเบบนี้นะ"เเสงตะวันยามเย็นย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีส้มเเดง ริ้วสีม่วงของเมฆเกาะกลุ่มกันประดับผืนนภาให้งดงาม สายลมเย็นๆพัดเอื่อยๆต้อนรับราตรีที่จะมาถึงในอีกไม่ช้า
"......"ความเเปลกใจเเล่นเข้ามาในห้วงคำนึง ใบหน้าอาบไล้เเสงสีส้มของเเสงอาทิตย์ในยามเย็นดูราวกับเด็กน้อยที่หงอยเหงาต่างกับเซนต์เเห่งสกอร์เปี้ยนผู้นั้น
"คิดเรื่องคามิวเหรอ?"เพียงเอ่ยถึงชื่อคู่กรณีก็ทำให้มิโร่สะบัดหน้ามามองได้ ดวงตาทรงรีเบิกกว้างเหมือนเห็นสิ่งเเปลกใหม่
"ข้าเห็นตอนพวกเจ้าทะเลาะกัน"คำตอบสั้นๆจากชากะพาให้วิหารเเมงป่องสวรรค์เงียบงันไป เวลาผ่านไปมากพอสมควรกว่าที่อีกฝ่ายจะยอมเอ่ยปากถึงเรื่องที่ตนกระทำ
"....เปล่า ข้าหาเรื่องคามิวเอง"น้ำเสียงสลดหดหู่ของเจ้าบ้านทำให้เเขกผมทองยิ้มได้เล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าใสเผยอมองภาพใบหน้าด้านข้างของโกลด์เซนต์ผู้ทรนงเเล้วอดขำมิได้....ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี
"เจ้าก็รู้นี่ ทำไมไม่ไปขอโทษซะล่ะ?"คำพูดง่ายๆตามประสาเด็กกลับไม่ทำให้มิโร่ขำ หรือสบายใจขึ้นมาได้ ร่างเล็กถอนหายใจก่อนจะตอบกลับไป
"ก็เจ้านั่นไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นนี่นา....เเล้วข้าก็..."
"เพราะคามิวไม่มีเพื่อน จึงไม่รู้ว่าควรวางตัวกับคนอื่นเช่นไร เมื่อไม่รู้ย่อมไม่ผิด เเต่เพราะไม่รู้จึงทำผิด เจ้ารังเกียจคามิวหรือเปล่ามิโร่?"ใบหน้าของเจ้าคนอวดดีพลนลอยเข้ามาในหัวเอาดื้อๆ เเทนที่จะเป็นหน้าคนพูด
"ก็ไม่นี่...."ต้องยอมรับว่ามิโร่นั้นเป็นคนใจร้อน กล้าได้กล้าเสีย เเต่ก็ใจกว้างเเละรักเพื่อนฝูง เเม้เเต่คามิวที่ไม่ค่อยพูดจาที่ยังเป็นห่วงอยู่เงียบๆ ไม่มีทางที่จะเกลียดใครลงอย่างสุดใจ เเม้เเต่ไอโอเรียคนนั้นก็ตาม
"งั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าเเล้วล่ะ"บุรุษผู้ใกล้เคียงพระเจ้ายิ้มให้เเล้วหันหลังเดินไป ไม่สนใจมิโร่ที่ยังคงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างศิลาบานใหญ่ทั้งๆที่ยังงุนงง
เสียงฝีเท้าเริ่มห่างออกไปด้านหลัง คิดๆไปทำไมวันนี้ชากะถึงได้ออกมาไกลจังน้า.....ฉับพลันสายตาที่ไร้จุดหมายก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง
"หนังสือ....?"มือเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มหนาที่วางอยู่ด้านข้างโดยไม่รู้ตัว ไม่มีคำตอบใดจากวัตถุที่ไม่ใช่ของตน มีเพียงเสียงที่ลอยมาของผู้ที่เพิอ่งจากไปเท่านั้น สันหนังสือตกกระทบพื้น โดยไม่รอให้มีคำพูดใดๆเพิ่มเติม ทิ้งไว้เเต่เสียงวิกลงส้นที่เริ่มเบาลง
"...ข้ายืมมาจากคามิว บอกว่ามีคนอยากอ่าน"
เเฮ๋ก เเฮ่ก....เสียงหอบหายใจดังขึ้นกลางความเงียบของยามราตรีที่เริ่มเยื้องกรายเข้ามา เบียดเอาดวงตะวันจนตกขอบฟ้าขาที่ไม่ยาวนักพาร่างตะกายขึ้นไปบันไดหินยืดยวของเเซงค์ทัวรี่เเบบไม่รู้จักเหนื่อย ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเเดนศักสิทธิ์นั้นสวยงามยากจะบรรยาย ความเก่าเเก่ของตัววิหารที่สะท้อนเเสงจันทร์ดูราวกับจะย้อนสู่ยุคเทพนิยาย
ผ่านไปวิหารเเล้ว วิหารเล่า จนมาถึงบันไดขั้นสุดท้ายที่กั้นตนเองระหว่างวิหารเเพะทะเลเเละไหสมบัติ ประตูบานใหญ่ปิดสนิทเป็นปรกติของเจ้าของปราสาทที่ไม่ปราถนาจะต้อนรับใคร
ร่างในชุดโกลด์คล็อธยืนเก้ๆกังๆอยู่ชั่วครู่ คล้ายคนเพิ่งได้สติ
"เจ้าชากะตัวเเสบ...."นี่สินะที่ไอโอเรียบ่นหนักหนาว่าร้ายเหลือเกิน ดูภายนอกก็ไม่มีอะไรเเท้ๆเชียว
เสียงครืดคราดดึงตนเองออกมาจากภวังด์ความคิด ดวงตาตวัดไปมองประตูสีเข้มที่เเง้มออก เเละมือขาวที่ขอบประตู รวมทั้งใบหน้าอ่อนวัยที่โผล่พ้นออกมา
".......ขอโทษ"
ดวงตานิ่งเรียบ เเต่เเววตากลับไหวระริก คำขอโทษอู้อี้ดังขึ้นเบาๆ พร้อมๆกับความประหลากใจของคนนอกปราสาท ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่ชั่วครู่ก่อนจะละหายไปเมื่อมิโร่เริ่มพูด
"เอ่อ.....ข้าก็ด้วย"มือเล็กๆเกาหัวเเกรกๆเเก้เขิน คารมิวหดใบหน้าเข้าไปหลังประตูเล็กน้อยเเต่ไม่ได้ละสายตาออกจากคนตรงหน้าเเต่อย่างใด"เล้วทำไมเจ้าถึงขอโทษข้าล่ะ?"
"ชากะบอก..."อืม....กลับไปข้าจะเอาจีวรเจ้าไปทำเป็นผ้าม่านชากะ
"ไม่ได้สิ เวลาจะขอโทษใครต้องมาจากใจรู้ไหม?"คราวนี้คำบ่นของมิโร่ไม่ได้มาพร้อมกับอารามโกรธ เเต่มาพร้อมกับรอยยิ้ม ร่างของผู้มาเยือนสาวเท้าไปยังเบื้อหง้นาบานประตู เเผ่นศิลาร่นเข้าไปอีกเล็กน้อย พร้อมกับจมูกเล็กๆที่หายไปด้านหลังมัน เหลือเเค่ดวงตากลมโตสองข้าง
"ไม่มีใครสอนเหรอ?"
"ไม่...."คำตอบที่หลุดออกมาทำให้เขาหัวเราะ ถึงตอนนี้เขาเลิกที่จะพยายามให้ร่างเพรียวออกมาด้านนอก มือข้างหนึ่งจับขอบประตูเเน่นส่งผลให้ใบหน้าของคามิวหายไปอีกนิดหน่อย
"ถ้างั้น...."ประตูที่ปิดสนิท...หากเจ้าไม่ยอมออกมา ข้าก็จะเข้าไปเอง...
"ข้าจะเป็นคนสอนเจ้าเอง"
"จะทำได้นานเเค่ไหนกันล่ะ...?"
สิ้นเสียงทัศนียภาพที่เหม่อมองอยู่ก็พลันถูกบดบังด้วยใบหน้าของใครบางคนที่พักนี้เห็นหน้าบ่อยเป็นพิเศษ มิโร่ฉีกยิ้มกว้างเท่าที่ปากจะกว้างได้ พาให้เกิดรอยยิ้มเล็กๆของคนไม่ค่อยยิ้มตามมา
"...จนกว่าจะตายเลย"
"ไม่สิ...ต่อให้ตาย ข้าก็ไม่เลิกหรอก"ร่างสูงสง่าของใครบางคนพึมพำอยู่เงียบๆ ร่างที่เเตกต่างจากเมื่อวันวานมีเพียงความมุ่งมั่นในจิตใจที่ไม่สั่นคลอน
"เจ้าเหงาไหม? สบายดีหรือเปล่า?"ช่อดอกไม้สีขาวถูกวางลงอย่างบรรจง มันถูกจัดอย่างเรียบง่ายผูกหลวมๆด้วยเชือกเส้นเล็กที่พยายามให้เป็นโบว์เท่าที่เขาจะทำได้ ด้วยชาติกำเนิดนั้นเป็นนักรบทำให้ขาดความละเอียดในหลายๆเรื่อง
ใบหน้าหยิ่งทะนงอ่อนลงมากนัก สายตาทอดมองไปยังเเผ่นหินเบื้องหน้าด้วยจิตใจเลื่อนลอย
ผ่านไปนานมากเเล้ว...นับตั้งเเต่วันเเรกที่เขาพยายามเปิดประตูบานนั้น เเละหวังว่าซักวันคงทำสำเร็จ...ใช่...เขาทำสำเร็จ ร่างที่นอนนิ่งนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุด เป็นเพื่อนร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ เป็นผู้ที่เติมเต็มชีวิตที่ยืนบนเหวเเห่งความตายนี้
ไม่ว่าในสถานการณ์ใด...
เเม้ผู้คนจะมองว่าคามิวนั้นเยือกเย็น เเต่สำหรับเขาเพียงเเค่เอ่ยชื่อก็สามารถสร้างความอบอุ่นให้ได้ ไม่มีวันใด...ที่เขาจะอยู่โดยปราศจากคามิว
น้ำเสียง ใบหน้า ท่าทาง อากัปกิริยาต่างๆ ล้วนตราตรึงในห้วงความทรงจำ...ทุกๆสิ่งที่หล่อหลอมเป็นอควาเรียส คามิว
เขาสอนให้คามิวยิ้ม...
ให้หัวเราะ...
ให้รู้จักให้อภัย...
ให้รู้จักโกรธ...
ให้รู้จักเศร้า...
ให้มีหัวใจ...
กระนั้นก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่คามิวทำไม่ได้....ทั้งๆที่เขาก็กระทำอยู่ตลอดเวลา...
เเต่กลับเพิ่งมารู้ตัว...รู้ในตอนที่ไม่มีคามิวอีกเเล้ว....
ข้ายัง...ไม่ได้สอนให้"รัก"ใครเลย...
ทั้งๆที่ตัวข้าเองก็รักเจ้าตลอดมา....
มันสายไปใช่ไหมคามิว...?
"มันสายไปเเล้วใช่ไหม...."
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
กลิ้ง....
เรื่องนึงคลองเเสนเเสบเรียกพ่อ อีกเรื่องใกล้ต้องเข้าศรีธัญยา เจริญจริงๆชีวิตนี้
ช่วงนี้ใครมีอะไรก็เลื่อนๆกันไปก่อนนะจ้ะ เเค่อยากบอกว่าหมดค่าโกลดคล็อธไป 1400 เเล้วขนาดยังซื้อของไม่หมดTT TT
ความคิดเห็น