คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Promisse[Shion]
Promisse
: Shion
เพียงรอยยิ้มในวันวาน....
"หากเจ้าสาบานว่าจะนำหัวของอาเธน่ากลับมาใน 12 ชั่วโมง...ข้าจะให้ชีวิตอันเป็นนิรันดิ์เเก่พวกเจ้า"
.......
...
..
..
"นั่นคือ...ความตั้งใจจริงของพวกเจ้าใช่ไหม?"
....
...
..
..
ใช่...เป็นความตั้งใจจริงของพวกข้า...
เป็นสิ่งที่ข้าปราถนาเอง...
เเม้จะต้องถูกตราหน้าไปชั่วนิรันดิ์....
"...ชิออน"
"ไม่คิดเลยว่า..จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง..."ดวงตาสีอะเมธิสต์จ้องมองเสาหินที่เรียงรายอยู่เบื้องล่างเงียบๆ กาลครั้งหนึ่งที่เคยตั้งท้าลมเเดดลมฝน สวยงามเเละมั่นคง บัดนี้กลับผุพังไปเเสดงถึงกาลเวลาที่ผ่านพ้นมาเนิ่นนาน ภาพใครบางคนวิ่งลัดเลาะตามเสาหินยังคงติดตรึงในดวงตา ราวกับว่าจะหวนกลับมาอีกครั้ง
"วิหารเเกะขาวมีผู้เฝ้าคนเดียวครับ"เสียงรายงานดังมาลิบๆ บุรุษในผ้าคลุมขาดรุ่งริ่งสีดำเบือนหน้าไปมองยังกลุ่มคนที่เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ไม่ห่างนัก เขารับคำสั้นๆเเล้วก้าวเดินไปสมทบตีนบันได
"ไม่มีคนอื่นใช่มั้ย?"ร่างนั้นถามเบาๆขณะก้าวเดินไปตามขั้นบันไดหิน
"มีโกลด์เซนต์เเค่คนเดียวครับ"เสียงด้านหลังตอบกลับมา
ก็ดี...จะได้ไม่เปลืองเเรงให้มากนัก...
ขาเรียวยาวค่อยๆไต่บันไดขึ้นไปให้ไร้เสียง ดวงตาสองข้างสอดส่องมองรอบตัวอยู่ตลอดเวลา สภาพเเวดล้อมเเปลกตาไม่ได้ทำให้เขาตกใจนัก เพียงเเต่กลับสร้างความคิดมากมายให้ปวดหัว
วิหารเเกะขาวเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น สภาพทรุดโทรมของโซดิเเอคเริ่มปรากฏเบื้องหน้า เสาหลายต้นพังทลาย ก้อนหินกองระเกะระกะ เดาได้ว่าคงผ่านการต่อสู้มาไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนที่เดินตามหลังมานั่นเเหล่ะ
วิหารเเกะขาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนัก ตอนนี้จะกลับไปในฐานะศัตรู คิดดูเเล้วช่างน่าตลกจริงๆ
เสียงหัวเราะใสๆเเว่วตามหลังมา เมื่อหันไปด้านข้างก็เห็นร่างของเด็กชายสองคนวิ่งตามกันขึ้นมา ภายใต้เเสงตะวันยามเช้า มือเล็กๆโบกไปมากลางอากาศตามด้วยชายหนุ่มสองสามคนยิ้มให้น้อยๆ พลางเดินขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ บันไดสีขาวยังดูเเข็งเเกร่งทนทาน ลานหน้าวิหารเเกะขาวปูด้วยหินอ่อนเลอค่า เรือนผมสีน้ำตาลเเดงสะบัดไปในสายลม เเผ่นหลังของเด็กชายวิ่งหายลับเข้าไป ดวงเนตรเหลือบมองร่างของเด็กคนนั้นเงียบๆ ไม่รีรอเด็กอีกคนที่ยังคงยืนอยู่
ยังคงยืนอยู่....
"....ถึงวิหารเเกะขาวเเล้ว"
......
...
..
ร่างของโกลด์เซนต์อาริเอสล้มลงครูดไปกับพื้นหินผุพัง บาดเเผลทั่วร่างปวดระบมไปหมด เรือนผมสีชมพูอ่อนยุ่งเหยิงปรกใบหน้า อาริเอส มูยันกายขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก ชุดคล็อธสีทองเเลดดูหนักอึ้งกับคนอ่อนเเรงเช่นนี้
ผู้เป็นอาจารย์เพียงเเค่ยืนมองเงียบๆเท่านั้น อดีตเคียวโกเองก็ไม่มีคำว่าปรานีเช่นกัน เรียวมือในชุดคล็อธจากนรกซัดเอาร่างของผู้ปกป้องวิหารเเรกจนกระเด็น
"อั่กกก!"เเผ่นหลังปราศจากผ้าคุลมกระเเทกเข้ากับพื้นวิหาร รุนเเรงจนตัวโยน
มู....ดวงตาสีม่วงเข้มหรี่ลงน้อยๆ
......
....
...
..
"อาจารย์! นี่คือปราสาทของข้าใช่มั้ยฮะ?!"ร่างเล็กดึงชายผ้าคลุมสีขาวหลายๆรอบ เซ้าซี้จนคนข้างบนเริ่มปวดหัว เคียวโกอมยิ้มกับท่าทีของลูกศิษย์ตัวน้อย ร่างสูงย่อกายลงไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาเเนบอก วงเเขนเรียวยาวโอบกอดร่างเล็กด้วยความรักพลางหอมเเก้มใสๆทีนึง
"ใช่เเล้ว นี่คือวิหารเเกะขาว...ปราสาทของเจ้าคนเดียวเลย"ผู้สูงวัยคลี่รอยยิ้มให้ ก่อนจะหันไปมองสิ่งก่อสร้างมหึมาเบื้องหน้า ดวงตาสีมรกตวาวเป็นประกาย เท้าเล็กๆวิ่งเข้าไปในตัวอาคารอย่างตื่นเต้นลำบากคนด้านนอกต้องคอยมองไม่ให้ไปชนอะไรเเตกเข้า สภาพในปราสาทยังคงเหมืทอนเดิมเช่นครั้งที่เคยเป็นของเขามาก่อน
"อาจารย์ฮะ ที่นี่กว้างจังเลย เย็นด้วยข้าชอบ"ผมสีอ่อนยุงปรกใบหน้า มูวิ่งเล่นจนเหนื่อยกลับมาเกาะชายเสื้อผู้เป็นอาจารย์อีกครั้ง เเขนเสื้อคลุมยาวถูกเอาไปเช็ดเหงื่อที่เเก้มเจ้าตัวเล็กจนชุ่ม
"ท่านจะอยู่กับข้าใช่มั้ย?"ศรีษะของเซนต์อาริเอสคนใหม่อิงกับเเผ่อนอกภายใต้ผ้าคลุมสีขาว
"อืม...ข้าจะไม่ไปไหนหรอก"ดวงหน้าภายใต้หน้ากากยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกล่อมเด็กน้อยให้ผล็อยหลับไป
"จริงๆนะครับ?"
....จริงสิ...
...ดีจังเลย อาจารย์...
"...อาจารย์...ท่านชิออน"เสียงที่เคยมั่นคงสั่นเครือ มือสองข้างพาร่างให้ยืนหยัดอีกครั้ง ดวงตามองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด เเทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง
.....
..
.
..
"ชิออน!!"
...
..
..
.
"...โดโก"
หากว่านี่เป็นความฝัน ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากจะให้มันคงอยู่ตลอดไป ไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา เเละพบว่าข้าอยู่ตัวคนเดียว เเม้ว่าจะต้องสังหารใครอีกก็ตาม ข้าเป็นคนเห็นเเก่ตัว ยอมเป็นสุนัขรับใช้ฮาเดสก็เพื่อตนเอง...ข้าไม่โกรธเคือง ที่พวกเจ้าจะมองข้าเป็นเเบบนั้น
ข้าขายวิญญาณให้ฮาเดส...เเม้จะทำเพื่ออาเธน่า
เเต่ในใจส่วนลึกของข้า...
ก็ยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่....
ข้ายังอยากสอนหลายๆเรื่องให้มู...เเม้ว่าบางทีจะนำความปวดหัวมาให้
อยากจะนั่งทำงานเหมือนทุกวัน...ถึงเเม้บางทีจะน่าเบื่อ
อยากนั่งที่ข้างหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก...เเม้ว่าจะไม่เห็นใครเลย
อยากหัวเราะ อยากร้องไห้...เเม้บางทีจะเหน็ดเหนื่อย...
อยากมีชีวิตอยู่...เเม้ว่ามันจะหนักหนาก็ตามที
ต่อให้ถูกตราหน้าชั่วนิรันดิ์....ว่าเป็นคนทรยศ
เเต่สำหรับข้า มันก็คุ้มค่า...
กับการได้พบหน้าเจ้า...เเม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม
โดโก เจ้ายังจะยิ้มให้ข้าอยู่หรือเปล่า...?
"....สตาร์ดัสท์ เรฟโวลูชั่น!!!"
"คอสโมของท่านผู้เฒ่าหายไปเเล้ว!!"เเรงระเบิดจากเบื้องล่างทำให้บันไดสั่นคลอน เจ้าของชุดคล็อธดราก้อนหันกลับไปมอง ก่อนจะตัดสินใจออกฝีเท้าวิ่งไปยังที่ๆตนเองจากมา
"ชิริว!!!"ในใจนึกจะห้าม เเต่กลับถูกหยุดความคิดด้วยมือของเซนต์น้ำเเข็งที่เเตะอยู่บนบ่า ใบหน้านิ่งส่ายเบาๆเป็นราวกับจะบอกว่าไม่ต้อง ดวงตาสีเขียวอ่อนฉายเเววงุนงงในขณะที่มองร่างของชิริวที่หยุดวิ่งเเล้วค่อยเดินกลับมา
"ขอโทษที่ทำให้รอนะ"เด็กหนุ่มยิ้มให้เเล้วเดินล่วงหน้าไป เฮียวกะพยักหน้าให้ชุนทีนึง ก่อนจะผละออกจากบริเวณนั้น ทิ้งให้เซนต์อันโดรเมด้ายืนมองเบื้องหลัง ก่อนจะวิ่งตามมา
"ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องไม่เป็นอะไรเเน่ครับ..."
ไฟของโซดิเเอคเหลืออีกไม่กี่ดวงเท่านั้น อีกไม่นานก็จะรุ่งสาง...เเซงทัวรี่ที่ร้างผู้คนอยู่ในความเงียบงัน ราวกับสรรพสิ่งหยุดลงเมื่อเเผ่นดินศักสิทธิ์นี้ไร้อาเธน่าคอยปกปักษ์
ดาวตกทั้งห้าสายมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน จนกระทั่งลับขอบฟ้า
ดวงตาทอดมองเเสงสีทองที่ปลายนภาเงียบๆ เหมือนต้องการจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่าง ตราบเท่าที่ดวงตายังมองเห็น เเสงเเดดอฃยามรุ่งอรุณจับต้องใบหน้าดูนวลตา สายลมเย็นพัดเข้าปะทะเส้นผมจนปลิวปรกหน้า เหมือนเช่นเดิมที่เจ้าตัวไม่เคยคิดปัดมันออกเลย
"มองอะไอยู่หรือชิออน?"เสียงทักดังเเว่วมาจากด้านหลัง เขาไม่ได้หันกลับไปมอง เจ้าของเสียงเดินมาหยุดเงียบๆที่ด้านข้าง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องเเผ่นฟ้าโดยไม่พูดอะไรเลย
"มองทุกอย่าง...."เสียงนุ่มเย็นกล่าวตอบกลับไปโดยไม่หันไปมอง
"ผ่านไป 243 ปีไม่นึกเลยว่าจะได้กลับมาสวมโกลด์คล็อธ วิ่งเคียงคู่กับเจ้าอีกครั้ง"ดวงตาของไลบร้าเซนต์หลุบลงพลางหันหน้าไปมองสหายเก่า ชิออนหัวเราะเบาๆ
"ข้าก็ไม่นึกเหมือนกันว่าเจ้าจะเเก่ขนาดนั้น"โดโกเบิกตาเล็กน้อย ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะใส่คนตรงหน้า
"ยังปลอบคนไม่เก่งเหมือนเดิมเลยนะ"ร่างบางพูดเบาๆ เจ้าของผมสีน้ำตาลเเดงพยักหน้าให้เเล้วทรุดตัวลงนั่งที่ริมหน้าผา ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง
"นานเเค่ไหนเเล้วที่ไม่ได้มองพระอาทิตย์เเบบนี้?"เปลวไฟสีฟ้าริบหรี่ใกล้จะมอด เเสงสีทองเริ่มจับขอบฟ้าย้อมหมู่เมฆจนเป็นสีขาวสะอาดตา สายลมเอื่อยพัดพาเอาความทุกข์โศกในใจจนหมดสิ้น ปล่อยให้มันไหลผ่านกายชั่วคราวที่ใกล้จะดับสูญนี้
"ตั้งเเต่ตอนไปเยี่ยมอัลบาฟีก้าล่ะมั้ง"ครั้งนั้นพวกเขาก็นั่งมองพระอาทิตย์ด้วยกัน เพียงเเค่เป้นพระอาทิตย์ตกเท่านั้นเอง หลังจากนั้นก็จะกลับวิหารเข้านอน เเล้ววันรุ่งขึ้นก็จะพบหน้ากันเหมือนเดิม
คงได้เเต่หลอกตัวเอง ว่าคนข้างตัวจะกลับไปพักผ่อนอีกเดี๋ยวก็คงพบกันใหม่
...13 ปีเเล้วที่ข้ายังคงหลอกตัวเองว่าเจ้ายังยืนอยู่ที่เดิม
"นั่นสินะ....."
"โดโก...ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะคุยกับเจ้าต่ออีกสักหน่อย เเต่ว่าน่าเสียดายนะ..."เปลวไฟสีน้ำเงินที่มอดดับสะท้อนในประกายดวงตาราวกับจะย้ำเตือนให้หันไปมอง สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในตอนนี้
เเต่เขา...ก็ไม่หันไป
ไม่....เเม้เเต่จะชำเลืองดู
"ยิ้มหน่อยสิ"คำพูดสั้นๆ ทำให้คนด้านบนขำเล็กน้อย
"ขอโทษนะที่ยังไปด้วยไม่ได้"ละอองสีทองเล็กลอยละล่องตามสายลม อ่อนโยนเเละบอบบางเหมือนกับเจ้าของของมัน
"ไม่เป็นไรหรอก รอมา 243 ปีเเล้วนี่...รอต่ออีกหน่อยไม่เห็นเป็นอะไรเลย"รอยยิ้มสดใสที่เคยคิดว่าน่ามอง ตอนนี้กลับไม่อยากจะมองมันเลย ดวงตาสีอะเมธิสต์จับจองมองเเสงทองของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา มองร่างที่กำลังหายไป
มองเเผ่นหลังของคนตรงหน้า....มองทุกสิ่งบนโลกนี้
"ลาก่อนชิออน..."ประกายสีทองล่องลอยไปในสายลม ถูกพัดขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะเลือนหายไป ขอบตาร้อนผ่าวไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีก ปล่อยให้มันไหลลู่ลงมาอาบเเก้มทั้งสองข้าง
ที่ข้าไม่อยากมองเจ้า...เพราะกลัวว่าถ้าหันไปเจ้าจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกเเล้ว...
กลัวทุกครั้งที่ก้าวขึ้นบันไดนี้...วิหารเเกะขาวที่ไม่มีเจ้า สำหรับข้า...มันก็เเสนจะไร้ค่า
ถึงตอนนี้ข้าก็ยังคงหลอกตัวเองต่อไป เมื่อใดที่เดินขึ้นไปวิหารเเกะขาว ข้าจะพบกันรอยยิ้มของเจ้าใช่มั้ยชิออน...?
"ลาก่อน...จนกว่าจะถึงวันนั้นเพื่อนรัก"
ผิดเเล้ว....ต้องพูดว่าพบกันใหม่สิ...
เสียงใสก้องกังวาน ท่ามกลางเเสงสว่างร่างบางยังคงยืนอยู่ ยังคงรอที่จะก้าวไปพร้อมกัน
ยิ้มสิ โดโก....ยิ้มให้ข้าตลอดไป
ข้ารักเจ้าที่สุดเลย....
....
..
.
-------------------------------------------------------------
จบซะที รู้สึกวันไร้สาระเเละสับสนยังไงก็ไม่รู้สิ
รบกวนขอคำเเนะนำด้วยนะคะ เพิ่งเคยเเต่งเเบบนี้ครั้งเเรก ไม่รู้เหมือนกันว่าเป้นยังไง กลัวจน้ำเน่าปลาตายนี่เเหล่ะ-__-
ความคิดเห็น