ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Saint seiya]::Thismoment and forever::

    ลำดับตอนที่ #4 : Promisse[Shion]

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 52


    Promisse
    : Shion






    เพียงรอยยิ้มในวันวาน....



    "หากเจ้าสาบานว่าจะนำหัวของอาเธน่ากลับมาใน 12 ชั่วโมง...ข้าจะให้ชีวิตอันเป็นนิรันดิ์เเก่พวกเจ้า"

    .......


    ...



    ..


    ..




    "นั่นคือ...ความตั้งใจจริงของพวกเจ้าใช่ไหม?"




    ....




    ...



    ..



    ..

    ใช่...เป็นความตั้งใจจริงของพวกข้า...

    เป็นสิ่งที่ข้าปราถนาเอง...

    เเม้จะต้องถูกตราหน้าไปชั่วนิรันดิ์....


    "...ชิออน"






    "ไม่คิดเลยว่า..จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง..."ดวงตาสีอะเมธิสต์จ้องมองเสาหินที่เรียงรายอยู่เบื้องล่างเงียบๆ กาลครั้งหนึ่งที่เคยตั้งท้าลมเเดดลมฝน สวยงามเเละมั่นคง บัดนี้กลับผุพังไปเเสดงถึงกาลเวลาที่ผ่านพ้นมาเนิ่นนาน ภาพใครบางคนวิ่งลัดเลาะตามเสาหินยังคงติดตรึงในดวงตา ราวกับว่าจะหวนกลับมาอีกครั้ง

    "วิหารเเกะขาวมีผู้เฝ้าคนเดียวครับ"เสียงรายงานดังมาลิบๆ บุรุษในผ้าคลุมขาดรุ่งริ่งสีดำเบือนหน้าไปมองยังกลุ่มคนที่เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ไม่ห่างนัก เขารับคำสั้นๆเเล้วก้าวเดินไปสมทบตีนบันได

    "ไม่มีคนอื่นใช่มั้ย?"ร่างนั้นถามเบาๆขณะก้าวเดินไปตามขั้นบันไดหิน

    "มีโกลด์เซนต์เเค่คนเดียวครับ"เสียงด้านหลังตอบกลับมา

    ก็ดี...จะได้ไม่เปลืองเเรงให้มากนัก...

    ขาเรียวยาวค่อยๆไต่บันไดขึ้นไปให้ไร้เสียง ดวงตาสองข้างสอดส่องมองรอบตัวอยู่ตลอดเวลา สภาพเเวดล้อมเเปลกตาไม่ได้ทำให้เขาตกใจนัก เพียงเเต่กลับสร้างความคิดมากมายให้ปวดหัว

    วิหารเเกะขาวเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น สภาพทรุดโทรมของโซดิเเอคเริ่มปรากฏเบื้องหน้า เสาหลายต้นพังทลาย ก้อนหินกองระเกะระกะ เดาได้ว่าคงผ่านการต่อสู้มาไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนที่เดินตามหลังมานั่นเเหล่ะ

    วิหารเเกะขาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนัก ตอนนี้จะกลับไปในฐานะศัตรู คิดดูเเล้วช่างน่าตลกจริงๆ 

    เสียงหัวเราะใสๆเเว่วตามหลังมา เมื่อหันไปด้านข้างก็เห็นร่างของเด็กชายสองคนวิ่งตามกันขึ้นมา ภายใต้เเสงตะวันยามเช้า มือเล็กๆโบกไปมากลางอากาศตามด้วยชายหนุ่มสองสามคนยิ้มให้น้อยๆ พลางเดินขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ บันไดสีขาวยังดูเเข็งเเกร่งทนทาน ลานหน้าวิหารเเกะขาวปูด้วยหินอ่อนเลอค่า เรือนผมสีน้ำตาลเเดงสะบัดไปในสายลม เเผ่นหลังของเด็กชายวิ่งหายลับเข้าไป ดวงเนตรเหลือบมองร่างของเด็กคนนั้นเงียบๆ ไม่รีรอเด็กอีกคนที่ยังคงยืนอยู่
     

    ยังคงยืนอยู่....


    "....ถึงวิหารเเกะขาวเเล้ว"





    ......



    ...



    ..




    ร่างของโกลด์เซนต์อาริเอสล้มลงครูดไปกับพื้นหินผุพัง บาดเเผลทั่วร่างปวดระบมไปหมด เรือนผมสีชมพูอ่อนยุ่งเหยิงปรกใบหน้า อาริเอส มูยันกายขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก ชุดคล็อธสีทองเเลดดูหนักอึ้งกับคนอ่อนเเรงเช่นนี้

    ผู้เป็นอาจารย์เพียงเเค่ยืนมองเงียบๆเท่านั้น อดีตเคียวโกเองก็ไม่มีคำว่าปรานีเช่นกัน เรียวมือในชุดคล็อธจากนรกซัดเอาร่างของผู้ปกป้องวิหารเเรกจนกระเด็น

    "อั่กกก!"เเผ่นหลังปราศจากผ้าคุลมกระเเทกเข้ากับพื้นวิหาร รุนเเรงจนตัวโยน 

    มู....ดวงตาสีม่วงเข้มหรี่ลงน้อยๆ

    ......


    ....


    ...


    ..

    "อาจารย์! นี่คือปราสาทของข้าใช่มั้ยฮะ?!"ร่างเล็กดึงชายผ้าคลุมสีขาวหลายๆรอบ เซ้าซี้จนคนข้างบนเริ่มปวดหัว เคียวโกอมยิ้มกับท่าทีของลูกศิษย์ตัวน้อย ร่างสูงย่อกายลงไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาเเนบอก วงเเขนเรียวยาวโอบกอดร่างเล็กด้วยความรักพลางหอมเเก้มใสๆทีนึง

    "ใช่เเล้ว นี่คือวิหารเเกะขาว...ปราสาทของเจ้าคนเดียวเลย"ผู้สูงวัยคลี่รอยยิ้มให้ ก่อนจะหันไปมองสิ่งก่อสร้างมหึมาเบื้องหน้า ดวงตาสีมรกตวาวเป็นประกาย เท้าเล็กๆวิ่งเข้าไปในตัวอาคารอย่างตื่นเต้นลำบากคนด้านนอกต้องคอยมองไม่ให้ไปชนอะไรเเตกเข้า สภาพในปราสาทยังคงเหมืทอนเดิมเช่นครั้งที่เคยเป็นของเขามาก่อน

    "อาจารย์ฮะ ที่นี่กว้างจังเลย เย็นด้วยข้าชอบ"ผมสีอ่อนยุงปรกใบหน้า มูวิ่งเล่นจนเหนื่อยกลับมาเกาะชายเสื้อผู้เป็นอาจารย์อีกครั้ง เเขนเสื้อคลุมยาวถูกเอาไปเช็ดเหงื่อที่เเก้มเจ้าตัวเล็กจนชุ่ม

    "ท่านจะอยู่กับข้าใช่มั้ย?"ศรีษะของเซนต์อาริเอสคนใหม่อิงกับเเผ่อนอกภายใต้ผ้าคลุมสีขาว

    "อืม...ข้าจะไม่ไปไหนหรอก"ดวงหน้าภายใต้หน้ากากยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกล่อมเด็กน้อยให้ผล็อยหลับไป

    "จริงๆนะครับ?"

    ....จริงสิ...

    ...ดีจังเลย อาจารย์...

    "...อาจารย์...ท่านชิออน"เสียงที่เคยมั่นคงสั่นเครือ มือสองข้างพาร่างให้ยืนหยัดอีกครั้ง ดวงตามองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด เเทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง



    .....


    ..


    .


    ..




    "ชิออน!!"


    ...




    ..




    ..



    .


    "...โดโก"











    หากว่านี่เป็นความฝัน ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากจะให้มันคงอยู่ตลอดไป ไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา เเละพบว่าข้าอยู่ตัวคนเดียว เเม้ว่าจะต้องสังหารใครอีกก็ตาม ข้าเป็นคนเห็นเเก่ตัว ยอมเป็นสุนัขรับใช้ฮาเดสก็เพื่อตนเอง...ข้าไม่โกรธเคือง ที่พวกเจ้าจะมองข้าเป็นเเบบนั้น

    ข้าขายวิญญาณให้ฮาเดส...เเม้จะทำเพื่ออาเธน่า

    เเต่ในใจส่วนลึกของข้า...

    ก็ยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่....





    ข้ายังอยากสอนหลายๆเรื่องให้มู...เเม้ว่าบางทีจะนำความปวดหัวมาให้

    อยากจะนั่งทำงานเหมือนทุกวัน...ถึงเเม้บางทีจะน่าเบื่อ

    อยากนั่งที่ข้างหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก...เเม้ว่าจะไม่เห็นใครเลย

    อยากหัวเราะ อยากร้องไห้...เเม้บางทีจะเหน็ดเหนื่อย...

    อยากมีชีวิตอยู่...เเม้ว่ามันจะหนักหนาก็ตามที


    ต่อให้ถูกตราหน้าชั่วนิรันดิ์....ว่าเป็นคนทรยศ

    เเต่สำหรับข้า มันก็คุ้มค่า...

    กับการได้พบหน้าเจ้า...เเม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม




    โดโก เจ้ายังจะยิ้มให้ข้าอยู่หรือเปล่า...?


    "....สตาร์ดัสท์ เรฟโวลูชั่น!!!"









    "คอสโมของท่านผู้เฒ่าหายไปเเล้ว!!"เเรงระเบิดจากเบื้องล่างทำให้บันไดสั่นคลอน เจ้าของชุดคล็อธดราก้อนหันกลับไปมอง ก่อนจะตัดสินใจออกฝีเท้าวิ่งไปยังที่ๆตนเองจากมา

    "ชิริว!!!"ในใจนึกจะห้าม เเต่กลับถูกหยุดความคิดด้วยมือของเซนต์น้ำเเข็งที่เเตะอยู่บนบ่า ใบหน้านิ่งส่ายเบาๆเป็นราวกับจะบอกว่าไม่ต้อง ดวงตาสีเขียวอ่อนฉายเเววงุนงงในขณะที่มองร่างของชิริวที่หยุดวิ่งเเล้วค่อยเดินกลับมา

    "ขอโทษที่ทำให้รอนะ"เด็กหนุ่มยิ้มให้เเล้วเดินล่วงหน้าไป เฮียวกะพยักหน้าให้ชุนทีนึง ก่อนจะผละออกจากบริเวณนั้น ทิ้งให้เซนต์อันโดรเมด้ายืนมองเบื้องหลัง ก่อนจะวิ่งตามมา

    "ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องไม่เป็นอะไรเเน่ครับ..."





    ไฟของโซดิเเอคเหลืออีกไม่กี่ดวงเท่านั้น อีกไม่นานก็จะรุ่งสาง...เเซงทัวรี่ที่ร้างผู้คนอยู่ในความเงียบงัน ราวกับสรรพสิ่งหยุดลงเมื่อเเผ่นดินศักสิทธิ์นี้ไร้อาเธน่าคอยปกปักษ์

    ดาวตกทั้งห้าสายมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน จนกระทั่งลับขอบฟ้า 


    ดวงตาทอดมองเเสงสีทองที่ปลายนภาเงียบๆ เหมือนต้องการจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่าง ตราบเท่าที่ดวงตายังมองเห็น เเสงเเดดอฃยามรุ่งอรุณจับต้องใบหน้าดูนวลตา สายลมเย็นพัดเข้าปะทะเส้นผมจนปลิวปรกหน้า เหมือนเช่นเดิมที่เจ้าตัวไม่เคยคิดปัดมันออกเลย

    "มองอะไอยู่หรือชิออน?"เสียงทักดังเเว่วมาจากด้านหลัง เขาไม่ได้หันกลับไปมอง เจ้าของเสียงเดินมาหยุดเงียบๆที่ด้านข้าง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องเเผ่นฟ้าโดยไม่พูดอะไรเลย

    "มองทุกอย่าง...."เสียงนุ่มเย็นกล่าวตอบกลับไปโดยไม่หันไปมอง

    "ผ่านไป 243 ปีไม่นึกเลยว่าจะได้กลับมาสวมโกลด์คล็อธ วิ่งเคียงคู่กับเจ้าอีกครั้ง"ดวงตาของไลบร้าเซนต์หลุบลงพลางหันหน้าไปมองสหายเก่า ชิออนหัวเราะเบาๆ

    "ข้าก็ไม่นึกเหมือนกันว่าเจ้าจะเเก่ขนาดนั้น"โดโกเบิกตาเล็กน้อย ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะใส่คนตรงหน้า

    "ยังปลอบคนไม่เก่งเหมือนเดิมเลยนะ"ร่างบางพูดเบาๆ เจ้าของผมสีน้ำตาลเเดงพยักหน้าให้เเล้วทรุดตัวลงนั่งที่ริมหน้าผา ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง

    "นานเเค่ไหนเเล้วที่ไม่ได้มองพระอาทิตย์เเบบนี้?"เปลวไฟสีฟ้าริบหรี่ใกล้จะมอด เเสงสีทองเริ่มจับขอบฟ้าย้อมหมู่เมฆจนเป็นสีขาวสะอาดตา สายลมเอื่อยพัดพาเอาความทุกข์โศกในใจจนหมดสิ้น ปล่อยให้มันไหลผ่านกายชั่วคราวที่ใกล้จะดับสูญนี้

    "ตั้งเเต่ตอนไปเยี่ยมอัลบาฟีก้าล่ะมั้ง"ครั้งนั้นพวกเขาก็นั่งมองพระอาทิตย์ด้วยกัน เพียงเเค่เป้นพระอาทิตย์ตกเท่านั้นเอง หลังจากนั้นก็จะกลับวิหารเข้านอน เเล้ววันรุ่งขึ้นก็จะพบหน้ากันเหมือนเดิม

    คงได้เเต่หลอกตัวเอง ว่าคนข้างตัวจะกลับไปพักผ่อนอีกเดี๋ยวก็คงพบกันใหม่ 

    ...13 ปีเเล้วที่ข้ายังคงหลอกตัวเองว่าเจ้ายังยืนอยู่ที่เดิม


    "นั่นสินะ....."


    "โดโก...ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะคุยกับเจ้าต่ออีกสักหน่อย เเต่ว่าน่าเสียดายนะ..."เปลวไฟสีน้ำเงินที่มอดดับสะท้อนในประกายดวงตาราวกับจะย้ำเตือนให้หันไปมอง สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในตอนนี้

    เเต่เขา...ก็ไม่หันไป

    ไม่....เเม้เเต่จะชำเลืองดู

    "ยิ้มหน่อยสิ"คำพูดสั้นๆ ทำให้คนด้านบนขำเล็กน้อย

    "ขอโทษนะที่ยังไปด้วยไม่ได้"ละอองสีทองเล็กลอยละล่องตามสายลม อ่อนโยนเเละบอบบางเหมือนกับเจ้าของของมัน

    "ไม่เป็นไรหรอก รอมา 243 ปีเเล้วนี่...รอต่ออีกหน่อยไม่เห็นเป็นอะไรเลย"รอยยิ้มสดใสที่เคยคิดว่าน่ามอง ตอนนี้กลับไม่อยากจะมองมันเลย ดวงตาสีอะเมธิสต์จับจองมองเเสงทองของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา มองร่างที่กำลังหายไป

    มองเเผ่นหลังของคนตรงหน้า....มองทุกสิ่งบนโลกนี้

    "ลาก่อนชิออน..."ประกายสีทองล่องลอยไปในสายลม ถูกพัดขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะเลือนหายไป ขอบตาร้อนผ่าวไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีก ปล่อยให้มันไหลลู่ลงมาอาบเเก้มทั้งสองข้าง

    ที่ข้าไม่อยากมองเจ้า...เพราะกลัวว่าถ้าหันไปเจ้าจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกเเล้ว...

    กลัวทุกครั้งที่ก้าวขึ้นบันไดนี้...วิหารเเกะขาวที่ไม่มีเจ้า สำหรับข้า...มันก็เเสนจะไร้ค่า

    ถึงตอนนี้ข้าก็ยังคงหลอกตัวเองต่อไป เมื่อใดที่เดินขึ้นไปวิหารเเกะขาว ข้าจะพบกันรอยยิ้มของเจ้าใช่มั้ยชิออน...?


    "ลาก่อน...จนกว่าจะถึงวันนั้นเพื่อนรัก"







    ผิดเเล้ว....ต้องพูดว่าพบกันใหม่สิ...


    เสียงใสก้องกังวาน ท่ามกลางเเสงสว่างร่างบางยังคงยืนอยู่ ยังคงรอที่จะก้าวไปพร้อมกัน


    ยิ้มสิ โดโก....ยิ้มให้ข้าตลอดไป






    ข้ารักเจ้าที่สุดเลย....




    ....



    ..



    .











    -------------------------------------------------------------
    จบซะที รู้สึกวันไร้สาระเเละสับสนยังไงก็ไม่รู้สิ

    รบกวนขอคำเเนะนำด้วยนะคะ เพิ่งเคยเเต่งเเบบนี้ครั้งเเรก ไม่รู้เหมือนกันว่าเป้นยังไง กลัวจน้ำเน่าปลาตายนี่เเหล่ะ-__-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×