ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -Silent Night- แท็กซี่สายรัตติกาล [Boy's Love]

    ลำดับตอนที่ #3 : ความฝัน ความเป็นจริง

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 54




    เจ้า ของห้องคนใหม่ผลักกระเป๋าเดินทางไซส์เที่ยวรอบโลกเข้าไปใต้เตียงอย่างเอื่อย เฉื่อย ร่างที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้นปล่อยทิ้งมือสองข้างลงกับพื้น จ้องมองเสี้ยวของกระเป๋าที่โผล่ออกมาจากใต้โครงเหล็กของเตียงราคาย่อมเยาว์ อย่างเลื่อนลอย ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้


    การนั่งใคร่ ครวญปรัชญาชีวิตไม่ใช่อะไรที่เด็กวัยเห่อปาร์ตี้เเถมยังอาศัยอยู่ในหอพักมหา ลัยกับเเก๊งค์เพื่อนเป็นฝูงจะมานั่งทำเลย แต่ถ้าคุณตื่นมารับวันใหม่ด้วยบรรยากาศสดๆที่ไม่สดใส ได้รับการเทศนาข้ามมหาสมุทรเเปซิฟิกจากพี่ชายที่ไปทำงานเเถวนามิเบีย เเถมด้วยการรัวคำถามจากเพื่อนบ้านสอดรู้สอดเห็น จนมาจบลงที่เจอคนที่หน้าเหมือนกับฝันร้ายของคุณ

    คุณอาจจะมีวิธีเเก้ป ัญหาที่ดีกว่าการนั่งจมปลักอยู่กับเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ก็ได้....

    นี่ มันไม่ใช่หนังซอมบี้เสียหน่อย.....ทำไมเขาต้องมาคิดอะไรจริงจังขนาดนี้ด้วย

    ใบ หน้าหล่อเหลาแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันตรายกับกรอบเเว่นหนาเตอะเเละทรงผมรังนก ปรากฏขึ้นในมโนภาพ เเม้ว่าเขาจะไม่ชอบเจ้าสารถีชวนสยองนั่น แต่ชายหนุ่มก็หน้าตาดีกว่าไอ้คนติสเเตกข้างห้องนี่เป็นไหนๆ

    ก็เเค่ค นหน้าตาคล้ายๆกันเท่านั้นเองล่ะมั้ง.....ใช่ ก็เเค่คนที่หน้าเหมือนพระเอกในฝันร้ายที่ตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในเรสสิเด้นท์ อีวิลภาคไร้นางเอกสวยเซ็กส์อกเล็กตาคม อีกอย่างเรื่องผีสางนางไม้เเบบนั้นมันมีจริงซะที่ไหนกัน...

    นี่มัน อเมริกานะ นิวยอร์ก NY!!

    จะมีซอมบี้เดินพล่านขนาดนั้นได้ยังไงกัน สภาพผีดิบในความทรงจำเริ่มทำให้กระเพราะปั่นป่วนอีกครั้ง ทั้งเศษเนื้อ เครื่องใน เลือกน้ำหนองเหล่านั้น มันเหมือนจริงซะยิ่งกว่าที่เห็นในจอภาพยนตร์เสียอีก ไรขนลุกชันขึ้นเมื่อนึกถึงบรรยากาศในรถเบนซ์คันงามที่ถูกล้อมรอบด้วยซาก เนื้อเดินได้พวกนั้น

    "....เเอว่ะ..."

    เเค่คิดก็อยากจะอาเจียน กับความสมจริง....ที่สำคัญคือแสงที่ระเบิดขึ้นมาตอนนั้น มันอาจจะเป็นคำตอบว่าทำไมเขาถึงไปนอนเมื่อยขบรับเเสงตะวันอยู่บนโซฟาเเทนที่ จะในห้องนอนเหมือนปกติเเละมีส่วนประกอบของบ้านอยู่ครบ

    ถ้าเรื่องนั้น เป็นความจริงล่ะก็เท่ากับว่าหมอนั่นเป็นคนพังบ้านเขา คิ้วสีเพลิงขมวดจนหน้าย่นเพื่อจะนึกให้ออกถึงเหตุการณ์ที่ขาดหายไป จู่ๆเสียงทุ้มเย็นก็ดังขึ้นมาในห้องคำนึง

    อัฒรัตติสวัสดิ์ครับ

    เเก้ม ขาวซีดพลันขึ้่นสีจางระเรื่อ ผิวหน้าร้อนผะผ่าวไม่มีสาเหตุเพียงเเค่นึกถึงดวงตาคู่คมสีโกลด์เด้นวิสกี้ ที่ประดับใบหน้าหล่อเหลาอันตรายนั่น เเละริมฝีปากฉาบด้วยรอยยิ้มนุ่มลึกดุจรัตติกาล...ตามด้วยเหตุการณ์หลังจาก นั้นที่บางทีนึกไม่ออกอาจจะดีกว่า

    ริมฝีปาก....

    ขอเก็บ ค่าซ่อมไปล่ะนะ....คุณผู้โดยสาร


    "............................."

    ไนท์ อ้าปากค้างเหมือนพึ่งนึกอะไรออก ใบหน้าขาวผ่องเเดงซ่าน และเเดงเกินกว่าที่จะเป็นความเขินอาย มือที่ขาวอยู่เเล้วกำหมัดจนข้อนิ้วซีดกว่าเดิม ไอ้การถูกผู้ชายขโมยจูบเเล้วให้มานั่งเพ้อเเบบนางเอกในนิยายมันไม่ใช่วิสัย ของชายชาตรีชาติมะกันฟันสาวทุกสิ้นเดือนเลยสักนิด เเถม...เเถม....

    ก็ เพราะมันเป็นผู้ชายเเค่นั้นเเหล่ะ!!! ถ้ามีอะไรเเถมมามากกว่านี้เขาก็รับไม่ได้เเล้ว!!

    ร่างเพรียวนั่งนิ่ง ไปสักพัก

    "วันนี้มันวันอะไรกันวะเนี่ย!! เมื่อคืนต้องตะลุยกับซอมบี้เป็นฝูง สาวสวยฮอตกับปืนซักกระบอกก็ไม่มี พอตื่นมาบ้านก็พังไปเกือบครึ่ง! พี่ก็โทรมาด่าจากโมรอคโคจนต้องระเห็จออกมาอยู่หอพักเฮงซวยนี่เเล้วยังมีไอ้ ติสเเตกนี่เป็นเพื่อนข้างห้องอีก ทั้งๆที่คนที่หน้าตาเหมือนมันพึ่งจูบฉันไปเมื่อคืน!! กล้าดียังไงมาจูบฉัน!!"

    เสียงที่ปกติมักจะนิ่งเเละเเหบลึก อยู่เสมอตวาดลั่นเหมือนตัวการที่ทำให้เขาสติเเตกยืนรับหมัดฮุกซ้ายฮุกขวา อยู่ตรงหน้า ฟูกจากที่นอนเก่าตกทอดไหลลงมากองอยู่ที่พื้นจากฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือของ ไนท์

    ผีหลอก บ้านพัง เสียจูบ จะมีอะไรเเย่กว่านี้อีกไหม? ถามตัวเองเป็นร้อยที่ล้านของวัน ถามแล้วถามอีกว่าทำไมถึงต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ เรือนผมสีเเดงยุ่งกระเซิง เสียงหอบหายใจเบาๆดังมาจากแผ่นอกไหวกระเพื่อม .....แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือไม่มีอะไรแย่พอจะทำให้เขาลืมเรื่องที่แย่ ที่สุดได้เลย

    ก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ในอกเหมือนถูกบีบรัดจนเเทบปริ ด้วยเเรงมหาศาลเค้นขยำให้แหลกลานไม่เหลือชิ้นดี ในที่สุดมันก็ร่วงหายในไปความว่างเปล่าจนร่างกายรู้สึกโหวงๆ ราวกับว่าใต้ผิวหนังขาวผ่องนี้ไม่มีเคยมีอะไรเลยเเม้เเต่เลือดสักหยด กลายเป็นตุ๊กตาแข็งทื่อที่ไม่อยากขยับตัวไปไหน

    มีแค่สมองที่ยังย้ำ เตือนเรื่องที่เกิดขึ้นจากภาพถ่ายในความทรงจำที่ปวดร้าว

    เรื่องที่ ว่าซีนิธตายไปแล้ว...

    ตายไปต่อหน้า....

    ตัวท่อนบนทิ้งน้ำหนัก ไปด้านหน้า ปล่อยให้ศีรษะซุกอยู่กับฟูกนอนเย็นชืดจนเเสงเเดดสีส้มของยามเย็นส่องลอดโครง เหล็กสีขาวผ่านกระเป๋าเดินทางสีเทาที่กลายเป็นส้มหม่นๆ อีกไม่นานทิวาคงลาลับและตามต่อด้วยการเยี่ยมเยือนของราตรีกาล

    หาก แต่....ร่างเพรียวก็ยังนั่งอยู่เช่นนั้น ภาวนาให้ความฝันอันโหดร้ายหวนกลับมาอีกครั้ง หวังแค่ให้ลืมคนเมื่อวันวานได้สักวินาทีก็พอ

    อย่าง น้อยขอแค่หยุดน้ำตาที่ไหลอยู่ได้ก็พอ

    "ซีนิธ......."

    วัน ธรรมดาๆเหมือนทุกวันที่ได้พบซีนิธตอน กำลังจะเดินกลับบ้าน เดินไปด้วยกัน ฟังอีกฝ่ายเล่าเรื่องต่างๆนาๆที่ได้พบเห็นมาในวันนั้น สุดท้ายซีนิธก็จะถามที่ทางม้าลายก่อนไฟเขียวแค่ไม่กี่นาที

    "นาย จะกลับบ้านเลยรึเปล่า?"

    "ก็คงเป็นแบบนั้น แหล่ะ"น้ำเสียงเเหบลึกตอบอย่างเฉยเมยเหมือนปกติ ไนท์มองด้านหลังของคนที่เป็นทั้งเพื่อนและรุ่นพี่

    "เริ่ม ชินกับมหาลัยบ้างรึยัง? มีสอบบ้าง หรือเปล่า? ยังไงฉันก็เป็นรุ่นพี่นายปีนึงมีอะไรมา ก็ถามได้ล่ะ เออเเล้วก็หวังว่าเนเดอร์คงไม่วุ่นวายกับนายบ่อยๆหรอกนะ"

    หนุ่มร่าง สูงเบือนใบหน้าอ่อนโยนเปื้อนยิ้มมาให้ วิวคึกคักของถนนในนิวยอร์กซิตี้ทำให้ซีนิธดูร่าเริงผิดกับอีกคนที่ทำหน้า นิ่งอยู่ตลอดเวลา

    "อันนั้นเก็บไว้ถามน้อง นายเองดีกว่า"

    "งั้นฉันไม่ถามดีกว่ามั้ง เมื่อไหร่พวกนายจะหัดสมานฉันท์กันซะทีนะ"

    "อัน นั้นก็ไปถามน้องนายด้วย ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน"คู่อริเบอร์หนึ่งของเนเดอร์ทำหน้าบอกบุญไม่รับด้วย การกดหัวคิ้วลงสี่องศา

    "ฮ่า ฮ่าๆ เจ้าหมอนั่นมันก็แค่เด็กขี้โมโหเท่านั้นเเหล่ะอย่าไปกวนประสาทมากๆก็พอ เเล้ว"มิลเลอร์คนพี่หัวเราะกับสีหน้าของคู่สนทนา

    "เนเดอร์น่ะ จริงๆแล้วก็สนใจนายอยู่นะ"

    "หา?"

    "ก็ วุ่นวายกันมาตั้งเเต่ไฮสคูลเเล้วนี่นา"ยิ่งฟังคำพูดของซีนิธไนท์ก็ยิ่งงง เข้าไปใหญ่ สนใจเหรอ? สนใจหาวิธีฆ่าเขาเนี่ยนะ? ไม่ว่ามันจะเป็นความสนใจด้านไหนมันก็ไม่ปลอดภัยกับชีวิต เท่าไหร่หรอก

    "น่า จะเป็นเพื่อนกันได้นะ เจ้านั่นก็คงคิดแบบนั้นอยู่นั่นเเหล่ะ เเต่ถ้าจะเป็นมากกว่านั้นรีบบอกหน่อยละกัน ฉันจะได้ทำใจ"มุกแป้กขำไม่ออกเปลี่ยนสีหน้าของไนท์จากหงุดหงิดเป็นพะอืดพะอม

    "ฉันไม่ขำให้นะ"

    "เอา น่า เก็บไอ้นี่ไว้เป็นสินสอดก่อนละกัน"ว่าแล้วก็ยัดอะไรบางอย่างใส่มือร่าง เพรียวที่ต้องแว้ดจนหน้าขาวๆขึ้นสีเรื่อ

    "ซี นิธ!"เรือนผมสีแดงใกล้เคียงผิวแก้มถูกขยี้จนยุ่งปิดตา น้องใหม่ของเเซนเดิลเวสต์ส่งเสียงชิลอดไรฟันเมื่อคนให้สินสอดพูดเบาๆที่ข้าง หู

    "ล้อเล่นน่ะ ฉันให้นาย"

    ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง ผู้คนที่รอข้ามฝั่งอยู่ต่างก็สับขาเดินอย่างเร่งรีบ ซีนิธยิ้มให้ด้วยสีหน้าสดใสเหมือนเคย มือใหญ่ขยี้ศรีษะที่ปกคุลมด้วยเส้นผมยาวประบ่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโบกมือ ลา

    "งั้นฉันไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้ล่ะ"

    แผ่นหลังกว้าง เคลื่อนตัวห่างออกไป ทำให้ไม่เห็นดวงตาสีฟ้าครามที่เปี่ยมด้วยความตื่นเต้น ไวกว่าสมองจะสั่งการชื่อของคนที่ค่อยๆห่างออกไปก็หลุดออกมาจากริมฝีปากเเล้ว

    "ซีนิธ!"เสียงตะโกนทำให้เจ้าของชื่อหันกลับมา

    "อะไรเหรอไนท์?"

    ดวงหน้าขาวยังมีสีชมพูอ่อนเหมือนกับริมฝีปากที่ร่างเพรียวเม้มซะ แน่น ดวงตาสีครามเปล่งประกาบวาววับซ่อนอยู่ใต้ผมหน้าม้า

    เป็น ภาพที่เหมือนกับเด็กสาวที่กำลังเขินอายผิดจากหน้ากากตายด้านของไนท์ที่ได้ ฉายาว่าเป็นเจ้าชายน้ำแข็งโดยสิ้นเชิง ชั่วเวลาสั้นๆที่เสียงหัวใจดังเหมือนกลองรบ ร่างเพรียวหลับตาปี๋เมื่อตะโกนออกไป


    "......................."

    หากแต่คำถามที่ใช้ความ กล้าทั้งหมดส่งออกมาถูกกลบด้วยเสียงอึกทึก

    ไน ท์ ไม่รู้ตัวเลยว่านั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาได้พูดกับซีนิธ เมื่อเครื่องยนต์กระหึ่มกลายเป็นเสียงปะทะกันของวัตถุสองอย่าง ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงล้อยางบดเสียดสีกับถนน

    ดวงตาสีครามเปิดขึ้นก็เห็นแค่ของเหลวสีแดงสดสาดกระเซ็นและม้า เหล็กที่กำลังพุ่งหายไปจากสายตา ภาพที่เร็วจนมองไม่เห็นหยุดนิ่งสนิทเมื่อรถยนต์หมุนคว้างเสียหลักเข้าหาเสา ไฟฟ้าริมฟุตบาทควันจากเครื่องยนต์ลอยอยู่ใกล้จนรู้สึกได้ถึงไอร้อน

    เหงื่อของเขาหยดติ๋งในกลางฤดูหนาวของนิวยอร์ก มือยกขึ้นสัมผัสกับของเหลวที่คิดว่าเป็นเหงื่อ
    สี แดงสดของมันตัดกับผิวหนังขาวจัดจ้า ความอบอุ่นค่อยๆเย็นชืดลงแม้ว่าควันร้อนนั้นจะยังพ่วยพุ่งอยู่

    ไนท์ก้มลงมองแทบเท้าของตนช้าๆ จนได้รับรู้ว่าไอร้อนนั้นมาจากเลือดสีสดของร่างตรงหน้า ใบหน้าซีกที่ปรากฏให้เห็นดูเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง

    และร่างตั้งเเต่เอวลงไปของหุ่นขี้ผึ้งตัวนั้นบิดเบี้ยวไม่เหลือ รูปร่างเดิมเลย

    "....ซีนิธ
    ?"

    เสียงครางในความทรงจำแผ่วเบาไม่ต่างจากสติเลือนราง ศีรษะพิงกับฟูกเตียงแล้วผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า สิ่งเหล่านี้รับรู้ไปถึงแขกที่กำลังจะเคาะประตู เขาถอนหายใจเบาๆ โคลงศีรษะยุ่งฟูไปรอบๆ จำต้องรามือกลับไปก่อน

    แต่ก็ไม่รู้ว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญในห้องนั้นจะยอมกลับไปง่ายๆไหม?

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×