ลำดับตอนที่ #99
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #99 : บทที่เก้าสิบเอ็ด -- แผน
บทที่เก้าสิบเอ็ด
ตื่นขึ้นมารู้สึกปวดเมื่อยตัวไปหมด โดยเฉพาะช่วงล่างด้วยแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อคืนจะมีบทรักที่ร้อนแรงขนาดนั้นและยังจำนวนมากกว่าทุกครั้งด้วย พี่สนนะพี่สน...ไม่เห็นใจกันบ้างเลยหรือไง อะไรจะคิดถึงขนาดนั้น ต้องเจ็บ...ไปอีกหลายวันแน่เลยเนี่ย
พี่สนตื่นนอนตั้งแต่เช้า หอมแก้มกันเหมือนอย่างทุกครั้ง เขาโอดครวญสักหน่อยฝ่ายนั้นก็ขอโทษขอโพยพลางหัวเราะอย่างไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด แล้วก็ร่ำลาไปเรียนอย่างสบายใจเฉิบ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด ฝ่ายนั้นบอกเพียงแค่ว่าเดี๋ยวตอนเย็นจะรีบกลับ
เพราะตื่นไม่ไหวเขาจึงนอนต่อสักหน่อย ตอนพักเที่ยงรุ่นพี่โทรมาหาแต่กว่าเขาจะลุกจากเตียงได้ก็ปาเข้าไปบ่ายกว่าๆ อาบน้ำแต่งตัวแล้วจัดของเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เรียบร้อยเพราะเมื่อคืนยังไม่ได้ทำอะไรก็โดนจัดหนักเข้าซะก่อน พอว่างแล้วเขาจึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาเพื่อนสนิทสักหน่อย
เขากดสายโทรออกหาแพรทันที
“ ฮัลโหล ณัฐ ” เสียงใสเอ่ยรับโดยไม่ปล่อยให้รอนาน
“ แพร เป็นไงบ้าง ? ตอนนี้ณัฐกลับมาแล้วนะ ”
เธอกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น “ จริงเหรอณัฐ ! กลับมาตั้งแต่ตอนไหน ? ”
“ กลับมาเมื่อวานตอนเย็นๆน่ะ ”
“ แล้วทำไมถึงได้กลับมาเร็วนักล่ะ อีกสองอาทิตย์เลยนะ กว่าจะเปิดเทอมน่ะ ”
“ ก็...อยู่บ้านไม่ค่อยมีอะไรทำน่ะ ก็เลยอยากกลับมา แล้วแพรล่ะ อยู่บ้านหรือเปล่า ? ”
“ แพรอยู่บ้านนี่แหละ งั้นออกไปเจอกันกันมั้ย ? ไปกินข้าวกัน แพรอยากเจอณัฐด้วย ”
“ อืม ดีเหมือนกัน ”
“ งั้นโทรชวนไอ้จัมโบ้ด้วยเนอะ ”
“ เอาดิ ”
เขาโทรหาเพื่อนสนิทอีกคน เสียดายที่ไอ้จัมโบ้ยังไม่กลับมาจากบ้านที่อยู่ไกลถึงชานเมือง มันบ่นเสียดาย...บอกว่าทำไมไม่บอกก่อน เพราะมันเตรียมตัวไม่ทัน ครั้งนี้มันจึงขอปฏิเสธไปก่อน จึงบอกไปว่างั้นนัดเจอกันครั้งหน้าแทน
เพราะเขาไม่มีรถ แพรจึงมารับถึงหอพัก แล้วเราก็ออกไปเดินเล่นกันที่ห้างและหาร้านอาหารดีๆนั่งคุยกัน พวกเราเดินเข้าร้านสุกี้เพราะแพรบอกว่าอยากกินมากที่สุด
“ ณัฐน่ารักขึ้นนะเนี่ย ตอนแรกแพรเห็นไกลๆ นึกว่าใคร ? ขาวขึ้น ผมยาวขึ้น ดูดีกว่าเดิมอีก ” พอนั่งลงเธอก็เอ่ยชมทันที พูดแบบนี้ก็เขินเหมือนกันนะ
“ โหแพร พูดเหมือนพี่สนเลยอ่ะ ”
“ อ้าว ฮ่ะ ๆ ๆ พี่สนก็พูดแบบนี้เหรอ ? ”
“ ใช่ ”
“ แล้วตอนปิดเทอมณัฐไปเรียนวาดรูปเหรอ เป็นไงบ้าง ? ” เพราะปิดเทอมยังพอได้คุยโทรศัพท์หรือเอ็มเอสเอ็นกันบ้าง แพรจึงรู้เรื่องนี้
“ ก็ดีเหมือนกัน สนุกดี ได้ลองวาดภาพสีน้ำมันด้วย เพราะว่างๆจะได้ไม่เบื่อน่ะ แต่ณัฐก็ไม่ได้เรียนนานนะเพราะแค่อยากลองเรียนเฉยๆ ”
“ แล้วแพรล่ะ ไปเรียนเปียโนต่อ เป็นไงบ้าง ? ” เธอเคยบอกว่าไปเรียนเปียโนคอร์สสั้นๆที่โรงเรียนดนตรีในช่วงปิดเทอม คล้ายๆเขาเนี่ยแหละ ต่อยอดจากปิดเทอมคราวก่อน
“ อืม สนุกมากเลยล่ะ แพรอยากเรียนอีก นี่ก็ลงเรียนไว้ต่อเหมือนกัน ช่วงนี้ก็มีเรียนทุกวันตอนเช้าจนกว่าจะเปิดเทอมนู่นล่ะ ”
“ โห จะเรียนจริงจังเลยเหรอเนี่ย ดีจัง ”
เธอยิ้มกว้าง “ ก็เล่นได้เยอะมากขึ้นแล้ว ว่างๆก็เลยอยากเรียนต่ออีก สนุกดี ”
“ แต่ณัฐเนี่ยสิ อยู่เฉยๆตั้งสองอาทิตย์เลยแหละ ฮ่ะ ๆ ”
“ ณัฐไม่อยากเรียนบ้างเหรอ ? เปียโนอ่ะ ”
“ หือ ?? ” อันที่จริงเขาก็อยากลองเรียนเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้อยากมากขนาดนั้นนี่นา
“ ให้พี่สนสอนดิ ถ้าแพรเป็นณัฐนะ จะขอเรียนกับพี่สนเลย ให้แฟนสอนให้...ดีออก ”
“ ณัฐก็เคยขอเรียนเหมือนกันนะ แต่พี่สนก็ยังไม่ได้สอนจริงจังสักทีเลยน่ะสิ ”
“ แล้วช่วงนี้พี่สนเป็นไงบ้างเหรอ ? ”
“ หมายถึงเรื่องอะไรล่ะ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ก็เรื่องทั่วๆไป แหม...ถามแค่นี้ทำไมต้องยิ้มด้วยจ้ะ ? ” เธอเอ่ยแซวเขา นี่เขากำลังยิ้มอยู่เหรอ ?
“ ก็ขึ้นปีสี่แล้ว เห็นบอกว่าหนักมากเหมือนกัน ทั้งเรียนหนัก อยู่เวรหนัก ยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ”
“ งั้นพี่สนก็ได้ใส่เสื้อกาวน์แล้วดิ ”
“ อืม ใช่ ”
“ โห อยากเห็นอ่ะ ต้องหล่อมากแน่ๆ ”
ไม่อยากจะบอกเลยว่าใช่ แต่... “ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ”
“ เหรอ ? แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยจ้ะ ” เธอยิ้ม
“ ฮ่ะ ๆ ณัฐนี่น่ารักดีเนอะ พูดถึงพี่สนทีไรนี่มีอาการตลอดเลย ดีเหมือนกัน แพรจะได้รู้เรื่องด้วย ”
“ โห เพื่อนเรา ” เขายิ้มแบบเขินอาย เรื่องนี้พี่สนก็เคยบอกเหมือนกัน ว่าเขารู้สึกยังไงก็แสดงออกมาแบบนั้น ดูออกได้ง่ายมาก แต่...มันชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ? อายจัง
รู้สึกเหมือนถูกแพรจ้องมองบริเวณลำคอ เขาจึงถามกลับ
“ อะไรเหรอแพร ? ”
ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปากพลางหัวเราะคิกคักได้ใจ
“ นั่นๆๆ พึ่งมาถึงเมื่อวานเองไม่ใช่เหรอ ? พี่สนคงคิดถึงมากสินะ อิอิ ”
เขาก้มมองแต่ก็มองไม่เห็น พลางลูบลำคอเบาๆทำหน้างง
“ เอ่อ...ที่คอณัฐ...เป็นรอยน่ะ ” เธอบอกให้พลางยิ้ม
พอนึกได้ว่าเป็นอะไร คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขากระชับคอเสื้อให้ชิดมากขึ้น เมื่อเช้าตอนอาบน้ำก็แอบเห็นเหมือนกัน แต่รอยไม่ได้ชัดมากและคิดไว้ว่าผมที่ยาวและคอเสื้อคงจะพอปกปิดได้ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาแพรไปได้สิน่า
“ ไม่มีอะไรสักหน่อย ” เขาละล่ำละลักเสียงเบา
“ แหม ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า แพรไม่ถือ คนรักกันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ” เขามองอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไง บอกตรงๆว่า...อายมากกก
เธอหัวเราะคิกคัก แต่คงเห็นว่าเขาอายมาก จึงเปลี่ยนเรื่องคุยไปซะเฉยๆ เอาจนตั้งตัวไม่ทันเลย
“ แล้วณัฐได้เข้าไปดูในเว็บบ้างมั้ย ? กระทู้ของพี่สนกะณัฐอ่ะ ”
เธอเอ่ยถาม เขาจึงนึกขึ้นได้ เออ...เรื่องนี้ลืมไปเลย !!
“ ไม่ได้ดูเลยอ่ะ เป็นไงบ้างเหรอ ? ”
“ แพรเปิดเช็คทุกวันเลยนะจะบอกให้ ก็มีคนเข้ามาพูดถึงเรื่อยๆแหละ กระแสก็ค่อนข้างดี ถ้ากระทู้ตกไปล่างๆ แพรก็จะพยายามเม้นให้ขึ้นมาบ้างบนเหมือนเดิมแทน ฮ่ะ ๆ ”
“ โห...แต่ณัฐคงไม่ได้เข้าไปดูเท่าไหร่ งั้นณัฐกับพี่สนฝากแพรดูเลยละกันนะ”
เธอยิ้มกว้างแสดงความดีใจ “ อืม ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวทางนี้แพรจัดการให้เอง ! ”
เรากินอาหารและคุยกันไปอย่างสนุกสนานเหมือนเดิม เสร็จแล้วก็ไปดูหนังกันต่อ พาแพรเดินดูพวกเครื่องสำอางค์อีกสักหน่อย เขาเองก็ซื้อพวกของใช้และอาหารสดกลับห้องเผื่อจะได้ทำอาหารให้พี่สนกิน ไม่นานจึงกลับหอพัก กว่าจะกลับมาถึงก็หกโมงกว่าๆ...ดีนะที่โทรบอกพี่สนแล้ว
ฝ่ายนั้นพอมาเปิดประตูให้ก็ยิ้มหวานทันที
“ พี่อุตส่าห์รีบกลับ ออกไปเที่ยวเล่นกับแพรจนได้ ”
เขาเข้าไปกอดราวกับกำลังออดอ้อน
“ ออกไปกินข้าว ดูหนัง คุยกันนิดหน่อยเอง ก็ว่างๆนี่นา ไม่มีอะไรทำ ”
รุ่นพี่เข้ามาลูบหัว แล้วจุมพิตกระหม่อมเบาๆ
“ แล้วกินข้าวเย็นยังครับ หิวมั้ย ? ”
“ เริ่มหิวแล้วอ่ะ พี่สนล่ะ กินข้าวยัง ? ”
“ ยังเลย รอณัฐอยู่นี่แหละ ”
เขาแหงนหน้ามามอง “ งั้นเดี๋ยวณัฐทำให้กินนะ ”
ฝ่ายนั้นเข้ามาจุ๊บปากเบาๆ “ อยากได้ยินคำนี้แหละ ”
เขาหัวเราะ แล้วจึงเดินเข้าครัวทันที ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำเองคนเดียว เพราะมีพี่สนเป็นลูกมือด้วย ฝ่ายนั้นก็หั่นผักหั่นเนื้อไปตามประสา เขาทอดไข่เจียวหมูสับฟองใหญ่และผัดผักหมูใส่ข้าวโพดอ่อนเยอะๆอย่างที่ชอบ ทำแค่สองอย่างเพราะกินกันแค่สองคน เสร็จแล้วเราจึงมานั่งกินกันด้วยความหิวที่โต๊ะเตี้ยหน้าทีวีเหมือนอย่างทุกครั้ง
ได้ทำกับข้าวและนั่งกินด้วยกันเหมือนเดิมแบบนี้แล้วมีความสุขจัง
“ กินเยอะๆนะ ” รุ่นพี่ตักกับข้าวมาให้ เขาเองก็ตักให้อีกฝ่ายบ้าง แถมบริการพิเศษป้อนถึงปากด้วย
“ พี่สน...อยู่เวรอีกครั้งวันไหนเหรอ ? ”
“ อยู่วันพรุ่งนี้ ”
“ เลิกสี่ทุ่มเหมือนเดิมใช่มั้ย ? ”
“ ใช่ แปบเดียวเอง เดี๋ยวจะรีบกลับมาหานะ ”
“ ณัฐไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ”
รุ่นพี่ยิ้ม “ ที่จริงก็อยากอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนอ่ะแหละ ”
“ เหนื่อยมั้ย ? ” เขาถามพลางมองหน้าอีกฝ่าย
“ ตอนแรกก็เหนื่อย แต่ตอนนี้หายเหนื่อยแล้ว เพราะมีณัฐมาอยู่ใกล้ๆ ”
เขาอมยิ้ม “ กินไปเลย ไม่ต้องพูดแล้ว ”
“ ก็อุตส่าห์ได้อยู่ด้วยกันทั้งทีนี่นา ให้นั่งมองหน้าณัฐทั้งวันยังได้เลยนะ ”
“ จะบ้าหรือไง ใครจะนั่งให้มองทั้งวัน ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
พอกินกันเสร็จก็ล้างจาน แล้วอาบน้ำชำระร่างกายแต่งตัวเป็นชุดนอนด้วยกันทั้งคู่ เขาเองหยิบนิยายที่อ่านเป็นประจำมานั่งอ่านบนโซฟาทันที ส่วนรุ่นพี่ก็เอาหนังสือเรียนมานั่งอ่านด้านล่างพิงหลังกับโซฟาไว้เช่นกัน
เวลาอ่านหนังสือทีไรพี่สนจะใส่แว่นทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน บางครั้งเขาเองก็ชอบมองรุ่นพี่ในลุคแบบนี้บ่อยๆ ก็พี่สนน่ะ...ดูเท่มากเลยน่ะสิ
“ วันนี้ไม่ได้เขียนรายงานแล้วเหรอ ? ” เขาถามออกไป
“ พึ่งเขียนเสร็จเมื่อวานน่ะ วันนี้ได้เคสใหม่อีกเคสแล้ว ก็เลยต้องกลับมาอ่านเรื่องโรคนี้ก่อน แล้วค่อยจะเขียนอีก
ฉบับน่ะ ”
“ ต้องเขียนกี่ฉบับเนี่ย ? ”
“ สิบสอง...ตกประมาณสัปดาห์ละฉบับมั้ง ”
“ โห !! เยอะจัง...เหนื่อยแย่เลยเนอะ ทั้งต้องเรียน ต้องทำงาน แล้วยังเขียนรายงานอีก ”
“ อืม แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะมี...กำลังใจดี ”
เขายิ้มออกมาทันที “ งั้นนวดให้มั้ย ? ”
“ จริงนะ เอาสิ ” ฝ่ายนั้นไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย แถมยังขยับตัวมาจนชิดอีกต่างหาก เขาจึงจัดการนวดให้คนรักทันที
“ แล้วตอนนี้พี่สนเรียนอยู่ตึกไหนเหรอ ? แล้วอยู่เวรที่เดียวกันหรือเปล่า ? ”
“ อืมใช่ ตอนนี้พี่อยู่ Med (อายุรกรรม) ตึก AE3(ฉุกเฉิน3) น่ะ ”
“ เหรอ ? ”
“ ถามทำไมอ่ะ ? ”
“ เปล่า แค่อยากรู้เฉยๆว่าอยู่ส่วนไหนของโรงพยาบาล จะได้ส่งความคิดถึงไปถูก ”
ไม่ต้องบอกก็รู้เพราะฝ่ายนั้นยิ้มกว้าง “ เดี๋ยวนี้ปากหวานนะเนี่ย ไหนเอามาลองชิมดิ๊ ”
ฝ่ายนั้นแหงนหน้าขึ้น แล้วเกี่ยวลำคอให้ใบหน้าของเราทั้งสองมาชิดกัน จนริมฝีปากถูกประทับในที่สุด จูบที่แสนอ่อนโยนในทิศทางที่แปลกประหลาด อาจจะไม่ถนัดไปสักหน่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
เขาผละริมฝีปากออกก่อน อมยิ้มแล้วตีแขนอีกฝ่ายเบาๆ และจัดการนวดให้ต่อ
“ อ่านหนังสือต่อเลย ไม่ต้องมาทะลึ่งแล้ว ”
“ ได้ครับผม ”
แล้วฝ่ายนั้นก็ทำหน้าที่อ่านหนังสือไป เขาก็นวดไป สักพักโทรศัพท์ของรุ่นพี่ก็ดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปหยิบให้ ก็
พลันเห็นชื่อคนที่โทรมาหา
...พี่อ๊อฟ...
ใครกัน ? ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลย
พี่สนมองหน้าจอ แล้วหันมาบอก “ ณัฐรับให้หน่อยสิ ”
“ แต่ณัฐไม่รู้จักนะ ”
“ อืม นั่นแหละ รับให้หน่อย บอกว่าพี่เข้าห้องน้ำอยู่ ”
“ จะดีเหรอครับ ? ”
“ ดีสิ รับให้หน่อยนะครับ นะ นะ นะ ”
เขาจึงยอมกดรับแต่โดยดี
“ สวัสดีครับ ”
ฝ่ายนั้นเงียบเสียงสักพัก ก่อนที่จะเอ่ยออกมา
“ นี่โทรศัพท์น้องสนไม่ใช่เหรอครับ ? ”
“ อ๋อ ใช่ครับ คือพี่สนกำลัง ‘อาบน้ำ’ อยู่ ”
“ แล้วนี่ใครเหรอ ? ” ฝ่ายนั้นถามกลับ เขาเองได้แต่งงๆ อยากจะรู้จักเขาทำไม ก็โทรมาหาพี่สนเพราะอยากคุยกับพี่สนไม่ใช่เหรอ ?
พอดีรุ่นพี่ขึ้นมานั่งข้างกันและแนบหูฟังอีกข้างหนึ่งเหมือนกัน จึงทำปากพูดประมาณว่า ‘ บอก..ไป..เลย..ว่า..เป็น...แฟน ’
เขามองตาโตทำปากตอบออกไป ‘จะ..ดี..เหรอ..?’
ฝ่ายนั้นพยักหน้าอย่างหนักแน่น พอเขาตัดสินใจว่าจะเอ่ยปากบอก อีกฝ่ายก็ดันพูดขึ้นมาซะก่อน
“ อืม ไม่เป็นไร งั้นฝากบอกน้องสนหน่อยนะ ว่าพี่อ๊อฟโทรมา ”
“ อ๊ะ..อ๋อ ได้ครับ ”
แล้วฝ่ายนั้นก็กดวางสายไป เขาได้แต่มองหน้ารุ่นพี่อย่างงงๆ
“ ใครเหรอครับ ? ” เขาถามรุ่นพี่
“ พี่อ๊อฟ...เป็นพี่ dent’ med ที่อยู่กลุ่มเดียวกันกับพี่ตอนนี้นี่แหละ ” ฝ่ายนั้นบอก
“ เพียงแต่ว่า...ช่วงนี้จะชอบมายุ่งกับพี่มากไปหน่อย จนพี่รู้สึกอึดอัด ”
“ หมายถึง...มาชอบพี่สน งั้นเหรอ ? ”
ฝ่ายนั้นมองตา “ อืม คงประมาณนั้นแหละ แต่พี่ไม่ได้เล่นด้วยเลยนะ ไม่เลยสักครั้งเดียว ” พี่สนรีบโบกมือปฏิเสธเสียยกใหญ่
“ ณัฐก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนะ ”
“ แล้ว...เค้ามาทำอะไรกับพี่สนบ้างล่ะ ? ถึงบอกว่าอึดอัด ”
“ ก็ชอบมาพูดคุย มาใกล้ชิดมากผิดปกติน่ะ บางครั้งก็ชอบซื้อขนมมาฝากบ่อยๆแถมซื้อมาฝากพี่คนเดียวด้วยนะ ทั้งๆที่เพื่อนกลุ่มพี่ก็เยอะ และบางครั้งก็พาไปกินข้าวด้วย พี่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเหมือนกัน เพราะพี่เค้าก็ช่วยเหลือแล้วก็สอนพวกพี่เยอะเหมือนกัน ”
“ แล้ว...สองวันก่อน พี่อ๊อฟก็เริ่มโทรมาหา ไม่รู้ว่าไปเอาเบอร์พี่มาจากไหน วันแรกพี่ก็รับนะเพราะไม่รู้ว่าเบอร์ใคร แต่เมื่อวานพี่ก็ปิดเครื่องไปเลย และวันนี้...ก็โทรมาอีกแล้ว ”
“ พี่อ๊อฟก็เหมือนจะรู้นะ ว่าพี่มีแฟนแล้ว แต่...ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังทำแบบนี้อยู่ ”
เขาจับมือรุ่นพี่ทั้งสองข้าง “ ไม่เป็นไรหรอก ณัฐเชื่อใจพี่สน ”
ฝ่ายนั้นยิ้ม แล้วเข้ามาจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ
“ ขอบคุณมากนะครับ ณัฐไม่มีวันผิดหวังแน่นอน เพราะพี่รักณัฐแค่คนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่ได้สำคัญอะไรเลย ”
“ ครับ ”
แล้วเราก็โผเข้ากอดกันด้วยความรัก หลังจากนั้นก็เริ่มจูบ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหลังจากนั้นถึงได้รู้สึกว่า...เขากำลังถูกเล้าโลมอยู่อย่างนั้นแหละ เพราะเขากำลังถูกนอนคร่อมอยู่บนโซฟา ฝ่ายนั้นจูบอย่างดูดดื่ม ส่วนมือก็ลูบไล้ไปทั่วร่างกายอย่าเบามือ พรมจูบตามซอกคอและไล้เรื่อยลงบนแผ่นอก ฝ่ายนั้นละเลงลิ้นลงบนยอดอกทั้งสองข้าง จนเขาเผลอพ่นลมหายใจหนักและครางออกมา
“ อืมม...พี่สน ไม่เอานะ พอแล้ว ”
“ ก็ณัฐน่ารักนี่นา ใครจะไปอดใจไหวได้ล่ะ ”
“ แต่...พี่สนต้องอ่านหนังสือนะ ”
“ ไม่เป็นไรครับ เสร็จแล้วค่อยอ่านก็ได้ ”
“ แต่... ”
ฝ่ายนั้นเห็นเขาอิดออด จึงถามกลับ “ ทำไมเหรอ ? ”
“ ก็...เอ่อ...ตรงนั้น...ณัฐ...ยังเจ็บอยู่เลยน่ะสิ ” ก็เพราะเป็นผลมาจากเมื่อวานนั่นแหละ
“ อ้าว ยังเจ็บอยู่เหรอ ? เจ็บมากมั้ย ” รุ่นพี่ถามด้วยความเป็นห่วง
เขาส่ายหน้า ก็ไม่ได้เจ็บมากนักหรอก แต่มันก็ระบมนี่นา ยังไม่อยากมีอะไรตอนนี้
“ เหรอ ? งั้น...ช่วยข้างนอกได้มั้ยครับ คิดว่าคงไม่เจ็บนะ ”
เขาหลุบตาต่ำพลางหน้าแดง “ ก็...ไม่รู้สิ ”
จะปฏิเสธออกไปก็ไม่กล้า เพราะถูกอีกฝ่ายเล้าโลมจนมาถึงขนาดนี้แล้ว
ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปาก “ งั้นขอข้างนอกละกันนะ ไม่เจ็บหรอก ”
พูดเสร็จก็เข้ามาจูบอีกรอบ แต่ครั้งนี้ร้อนแรงมากกว่าเดิม เสื้อของเขาถูกเลิกขึ้นสูงและกางเกงก็ถูกถอดออกอย่างง่ายดายและวางลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายก็รีบถอดกางเกงนอนของตนออกเช่นกัน
*************************
ตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว รุ่นพี่ออกไปเรียนตั้งแต่เช้า และวันนี้ก็บอกว่าอยู่เวรเสียด้วยสิ ช่วงกลางวันเขาก็นั่งอ่านนิยายอยู่แต่ในห้องอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปไหน แต่พอตกเย็นรุ่นพี่ก็โทรมาหา
“ คิดถึงนะครับ ” นั่นเป็นประโยคแรกที่ได้ยิน
“ ฮ่ะ ๆ แล้วพี่สนไม่ได้ทำงานหรอกเหรอ ? อู้หรือเปล่าเนี่ย ”
“ เปล่าอู้สักหน่อย พึ่งจะได้พักเอง ก็เลยอยากโทรมาฟังเสียงที่รักไงครับ ”
“ แล้วพี่สนกินข้าวยัง ? ”
“ ยังเลย กว่าจะได้กินก็คงประมาณ ทุ่มกว่าๆนู่นแหละมั้ง ”
“ อยากกินอะไรมั้ย ? จะซื้อไปให้กิน ” เขาถามออกไป แต่อีกฝ่ายกลับเงียบ...ซะอย่างนั้น
“ อ้าว ไม่ได้หรอกเหรอ ? หรือปกติเค้าไม่ให้ซื้อเข้าไปให้งั้นเหรอ ? ”
“ ใครบอกล่ะ กำลังดีใจอยู่ต่างหาก !! ณัฐจะซื้อมาให้จริงๆเหรอ ? ”
“ อื้มม จริงสิ พี่สนอยากกินอะไรล่ะ ถ้าอยากกินจะซื้อเข้าไปให้ ”
“ อืมม เอาอะไรก็ได้ ที่รักซื้อมาเถอะ กินได้หมด ”
“ โห ยากจัง งั้นเอากาแฟกับเค้กมั้ย ? จะซื้อร้านประจำให้ ”
“ ก็ดีครับ พี่กินได้หมดแหละ ”
“ งั้นเดี๋ยวณัฐซื้อไปให้นะ เดี๋ยวโทรหาอีกที ”
“ ค้าบบบ ”
เพราะเห็นรุ่นพี่เหนื่อยๆเรียนก็หนัก ก็เลยอยากจะช่วยอะไรบ้าง เขาจึงออกไปร้านประจำแล้วสั่งกาแฟและเค้กอย่างที่รุ่นพี่ชอบกินบ่อยๆ แล้วไปหาที่โรงพยาบาลทันที
เดินไปตามทางพยายามหาตึกผู้ป่วยที่รุ่นพี่เคยบอกไว้ บางครั้งก็ถามทางกับเจ้าหน้าที่ไปเรื่อย หาอยู่นานพอเจอแล้วเขาก็โทรหาพี่สนทันที
“ ฮัลโหล พี่สน ณัฐมาถึงแล้ว อยู่ข้างหน้าแล้วอ่ะ ”
“ อืม ได้ ๆ เดี๋ยวพี่ออกไปหานะครับ ”
สักพัก เขาก็เห็นพี่สนเดินออกมา ยิ้มกว้างให้เขาใหญ่เลย ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาจับข้อมือทันที
“ ไปข้างในกันเถอะ ! ”
“ อ้าว ต้องเข้าไปด้วยเหรอ ? ” นึกว่าจะให้ขนมแล้วก็กลับเลยซะอีก แต่ฝ่ายนั้นกลับดึงเขาเข้าไปข้างในตึกแล้วน่ะสิ
เดินเข้ามาภายในตึกผู้ป่วย บริเวณโต๊ะใหญ่ตรงกลางก็เห็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อกาวน์เหมือนพี่สนอีกสามคน รวมถึงรุ่นพี่ที่เป็นแพทย์อีกหนึ่งคนนั่งรวมอยู่ด้วยกัน ท่าทางเหมือนจะกำลังนั่งติวกันอยู่แฮะ ทั้งหมดมองมาที่พวกเขาเป็นสายตาเดียว แต่พี่สนก็ยังจับมือเขาไว้แน่น แล้วพาเดินเลี่ยงไปอีกทาง ผ่านเตียงนอนรวมของผู้ป่วยไปเรื่อยๆ และเดินเข้าห้องหนึ่งที่เขียนด้านหน้าว่า ‘ห้องพักแพทย์’ ทันที
“ ต้องเดินเข้ามาถึงข้างในเลยเหรอ ? ” เขาถามรุ่นพี่
“ อืม พามาเดินโชว์ตัวไง ”
“ จะบ้าเหรอ ?! จริงน่ะ ”
“ ก็อยากอวดแฟนนี่นา ”
“ ไม่เอาแล้วพี่สน อ๊ะ !! นี่เค้ก แล้วก็กาแฟที่ชอบได้แล้วนะ น้ำแข็งจะละลายหมดแล้วเนี่ย ”
“ ขอบคุณมากค้าบบบ ที่รักน่ารักจังเลย ”
“ แล้วพี่สนกินข้าวยัง ? ”
“ กินแล้ว พึ่งกินเมื่อกี้เองแหละ ”
“ แล้ว...ออกมาแบบนี้จะดีเหรอ ? เหมือนข้างนอกกำลังนั่งติวกันอยู่เลยนะ ”
“ พอดีพึ่งว่างน่ะ พึ่งทำงานเสร็จ รุ่นพี่ก็เลยนั่งติวให้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ขอออกมาแค่แปบเดียวเอง ”
“ งั้นณัฐกลับก่อนละกัน พี่สนก็กลับไปอยู่เวรต่อเถอะ ”
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!!
ประตูถูกเปิดออก เห็นรุ่นพี่แพทย์คนหนึ่งที่เขาเห็นนั่งอยู่ที่ด้านนอกเมื่อกี้ มองมาที่พวกเรา และสุดท้ายสายตาก็จับ
จ้องไปที่พี่สน
“ น้องสน ไปติวต่อได้แล้วนะ”
“ อ๋อ ครับ ได้ครับ กำลังจะออกไป ” ดูท่าแล้วพี่สนเหมือนจะเกรงใจอีกฝ่ายมากอยู่เหมือนกัน
“ อีกสักหน่อย อาจารย์ก็จะมาแล้ว ถ้าไม่เข้าใจเคส...เดี๋ยวจะยุ่ง ” ฝ่ายนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่สายตากลับดูเหมือนกำลัง ‘ตำหนิ’ เขาอยู่อย่างนั้นแหละ
ฝ่ายนั้นเหมือนยืนรอรุ่นพี่ให้ออกไปพร้อมกัน พี่สนจึงมองมาที่เขาแล้วยิ้มให้
“ ขอบคุณมากนะ งั้นลงเวรค่อยเจอกัน..ที่ห้อง..นะ ” รู้สึกเหมือนพี่สนจะเน้นย้ำคำบางคำยังไงก็ไม่รู้สิ
เขาพยักหน้าตอบรับ “ ครับ ”
*******************************
โชคดีที่วันนี้ณัฐซื้อขนมมาให้ และโชคดีที่วันนี้เขาอยู่เวรกับ ‘พี่อ๊อฟ’ เสียด้วย อะไรจะแจ็คพอตขนาดนี้
พอณัฐบอกว่าจะซื้อขนมมาฝาก เขาก็นึกขึ้นได้ทันที...แผนง่ายๆแค่นี้ ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกกันนะ และพอณัฐมาถึงเท่านั้นแหละ เขาจึงปฏิบัติการณ์เดินจูงมือกันเล็กน้อยเรียกน้ำย่อยพอเป็นพิธี เพื่อนคนอื่นอาจจะพอรับได้เพราะรู้มาบ้างแล้ว แต่คนบางคนนี่สิ...ต้องบอกให้รู้สักหน่อย !
แล้วก็เป็นไปตามคาด พอพี่อ๊อฟเห็นเขากับณัฐเดินเข้ามาด้วยกัน ก็มองจนตาเขียวเลยน่ะสิ ถึงขั้นเข้ามาตามถึงห้องพักแพทย์ ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องมาตามก็ได้...สะใจดีจริงๆ แต่พี่เขาก็ถือว่าเก็บอาการได้ดีทีเดียว เพราะหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเด่นชัด จนเริ่มจะสี่ทุ่มและเป็นเวลาที่เขากำลังจะลงเวรเท่านั้นแหละ
“ น้องสน คนนั้นเป็นใครเหรอ ? คนที่เอาขนมมาให้ ” พี่อ๊อฟถามตอนที่เขายืนอยู่คนเดียว
ถามมาตรงๆอย่างนี้ก็ดีแล้ว จะได้ตอบตรงๆสักที
“ แฟนผมเองครับ ”
ฝ่ายนั้นเงียบเสียงไปสักพัก ดูแล้วไม่ได้ตกใจมากเท่าไหร่ เพราะคงจะเดาได้อยู่แล้ว
“ ใช่คณะเราหรือเปล่า ? ”
“ ใช่ครับ ”
“ เพราะถ้าเป็นคนนอก พี่ก็แนะนำว่าอย่าพาเข้ามาจะดีกว่า แต่ถ้าเป็นรุ่นน้องคณะเราก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะให้ดี...ไม่ต้องประเจิดประเจ้อมากก็ได้ เล่นเดินจูงมือกันแบบนั้น เดี๋ยวพี่พยาบาลหรือญาติคนไข้จะดูไม่ดีและนินทาเอาได้นะ ”
เขาพยักหน้ารับ “ ครับ ”
“ อืม งั้นก็ลงเวรเถอะ สี่ทุ่มกว่าแล้วนะ ”
แล้วเขาก็ถือกระเป๋าเดินออกมาจากตึกทันที พลางครุ่นคิดอย่างหนัก...เหมือนแผนนี้จะไม่ค่อยได้ผลอย่างที่คิดแฮะ แต่ช่างเถอะ ทนๆไป เพราะอาทิตย์หน้าก็จะสิ้นเดือนแล้ว จะได้..ย้ายกลุ่ม..สักที คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะนะพี่อ๊อฟ
*******************************
ตื่นขึ้นมารู้สึกปวดเมื่อยตัวไปหมด โดยเฉพาะช่วงล่างด้วยแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อคืนจะมีบทรักที่ร้อนแรงขนาดนั้นและยังจำนวนมากกว่าทุกครั้งด้วย พี่สนนะพี่สน...ไม่เห็นใจกันบ้างเลยหรือไง อะไรจะคิดถึงขนาดนั้น ต้องเจ็บ...ไปอีกหลายวันแน่เลยเนี่ย
พี่สนตื่นนอนตั้งแต่เช้า หอมแก้มกันเหมือนอย่างทุกครั้ง เขาโอดครวญสักหน่อยฝ่ายนั้นก็ขอโทษขอโพยพลางหัวเราะอย่างไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด แล้วก็ร่ำลาไปเรียนอย่างสบายใจเฉิบ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด ฝ่ายนั้นบอกเพียงแค่ว่าเดี๋ยวตอนเย็นจะรีบกลับ
เพราะตื่นไม่ไหวเขาจึงนอนต่อสักหน่อย ตอนพักเที่ยงรุ่นพี่โทรมาหาแต่กว่าเขาจะลุกจากเตียงได้ก็ปาเข้าไปบ่ายกว่าๆ อาบน้ำแต่งตัวแล้วจัดของเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เรียบร้อยเพราะเมื่อคืนยังไม่ได้ทำอะไรก็โดนจัดหนักเข้าซะก่อน พอว่างแล้วเขาจึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาเพื่อนสนิทสักหน่อย
เขากดสายโทรออกหาแพรทันที
“ ฮัลโหล ณัฐ ” เสียงใสเอ่ยรับโดยไม่ปล่อยให้รอนาน
“ แพร เป็นไงบ้าง ? ตอนนี้ณัฐกลับมาแล้วนะ ”
เธอกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น “ จริงเหรอณัฐ ! กลับมาตั้งแต่ตอนไหน ? ”
“ กลับมาเมื่อวานตอนเย็นๆน่ะ ”
“ แล้วทำไมถึงได้กลับมาเร็วนักล่ะ อีกสองอาทิตย์เลยนะ กว่าจะเปิดเทอมน่ะ ”
“ ก็...อยู่บ้านไม่ค่อยมีอะไรทำน่ะ ก็เลยอยากกลับมา แล้วแพรล่ะ อยู่บ้านหรือเปล่า ? ”
“ แพรอยู่บ้านนี่แหละ งั้นออกไปเจอกันกันมั้ย ? ไปกินข้าวกัน แพรอยากเจอณัฐด้วย ”
“ อืม ดีเหมือนกัน ”
“ งั้นโทรชวนไอ้จัมโบ้ด้วยเนอะ ”
“ เอาดิ ”
เขาโทรหาเพื่อนสนิทอีกคน เสียดายที่ไอ้จัมโบ้ยังไม่กลับมาจากบ้านที่อยู่ไกลถึงชานเมือง มันบ่นเสียดาย...บอกว่าทำไมไม่บอกก่อน เพราะมันเตรียมตัวไม่ทัน ครั้งนี้มันจึงขอปฏิเสธไปก่อน จึงบอกไปว่างั้นนัดเจอกันครั้งหน้าแทน
เพราะเขาไม่มีรถ แพรจึงมารับถึงหอพัก แล้วเราก็ออกไปเดินเล่นกันที่ห้างและหาร้านอาหารดีๆนั่งคุยกัน พวกเราเดินเข้าร้านสุกี้เพราะแพรบอกว่าอยากกินมากที่สุด
“ ณัฐน่ารักขึ้นนะเนี่ย ตอนแรกแพรเห็นไกลๆ นึกว่าใคร ? ขาวขึ้น ผมยาวขึ้น ดูดีกว่าเดิมอีก ” พอนั่งลงเธอก็เอ่ยชมทันที พูดแบบนี้ก็เขินเหมือนกันนะ
“ โหแพร พูดเหมือนพี่สนเลยอ่ะ ”
“ อ้าว ฮ่ะ ๆ ๆ พี่สนก็พูดแบบนี้เหรอ ? ”
“ ใช่ ”
“ แล้วตอนปิดเทอมณัฐไปเรียนวาดรูปเหรอ เป็นไงบ้าง ? ” เพราะปิดเทอมยังพอได้คุยโทรศัพท์หรือเอ็มเอสเอ็นกันบ้าง แพรจึงรู้เรื่องนี้
“ ก็ดีเหมือนกัน สนุกดี ได้ลองวาดภาพสีน้ำมันด้วย เพราะว่างๆจะได้ไม่เบื่อน่ะ แต่ณัฐก็ไม่ได้เรียนนานนะเพราะแค่อยากลองเรียนเฉยๆ ”
“ แล้วแพรล่ะ ไปเรียนเปียโนต่อ เป็นไงบ้าง ? ” เธอเคยบอกว่าไปเรียนเปียโนคอร์สสั้นๆที่โรงเรียนดนตรีในช่วงปิดเทอม คล้ายๆเขาเนี่ยแหละ ต่อยอดจากปิดเทอมคราวก่อน
“ อืม สนุกมากเลยล่ะ แพรอยากเรียนอีก นี่ก็ลงเรียนไว้ต่อเหมือนกัน ช่วงนี้ก็มีเรียนทุกวันตอนเช้าจนกว่าจะเปิดเทอมนู่นล่ะ ”
“ โห จะเรียนจริงจังเลยเหรอเนี่ย ดีจัง ”
เธอยิ้มกว้าง “ ก็เล่นได้เยอะมากขึ้นแล้ว ว่างๆก็เลยอยากเรียนต่ออีก สนุกดี ”
“ แต่ณัฐเนี่ยสิ อยู่เฉยๆตั้งสองอาทิตย์เลยแหละ ฮ่ะ ๆ ”
“ ณัฐไม่อยากเรียนบ้างเหรอ ? เปียโนอ่ะ ”
“ หือ ?? ” อันที่จริงเขาก็อยากลองเรียนเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้อยากมากขนาดนั้นนี่นา
“ ให้พี่สนสอนดิ ถ้าแพรเป็นณัฐนะ จะขอเรียนกับพี่สนเลย ให้แฟนสอนให้...ดีออก ”
“ ณัฐก็เคยขอเรียนเหมือนกันนะ แต่พี่สนก็ยังไม่ได้สอนจริงจังสักทีเลยน่ะสิ ”
“ แล้วช่วงนี้พี่สนเป็นไงบ้างเหรอ ? ”
“ หมายถึงเรื่องอะไรล่ะ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ก็เรื่องทั่วๆไป แหม...ถามแค่นี้ทำไมต้องยิ้มด้วยจ้ะ ? ” เธอเอ่ยแซวเขา นี่เขากำลังยิ้มอยู่เหรอ ?
“ ก็ขึ้นปีสี่แล้ว เห็นบอกว่าหนักมากเหมือนกัน ทั้งเรียนหนัก อยู่เวรหนัก ยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ”
“ งั้นพี่สนก็ได้ใส่เสื้อกาวน์แล้วดิ ”
“ อืม ใช่ ”
“ โห อยากเห็นอ่ะ ต้องหล่อมากแน่ๆ ”
ไม่อยากจะบอกเลยว่าใช่ แต่... “ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ”
“ เหรอ ? แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยจ้ะ ” เธอยิ้ม
“ ฮ่ะ ๆ ณัฐนี่น่ารักดีเนอะ พูดถึงพี่สนทีไรนี่มีอาการตลอดเลย ดีเหมือนกัน แพรจะได้รู้เรื่องด้วย ”
“ โห เพื่อนเรา ” เขายิ้มแบบเขินอาย เรื่องนี้พี่สนก็เคยบอกเหมือนกัน ว่าเขารู้สึกยังไงก็แสดงออกมาแบบนั้น ดูออกได้ง่ายมาก แต่...มันชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ? อายจัง
รู้สึกเหมือนถูกแพรจ้องมองบริเวณลำคอ เขาจึงถามกลับ
“ อะไรเหรอแพร ? ”
ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปากพลางหัวเราะคิกคักได้ใจ
“ นั่นๆๆ พึ่งมาถึงเมื่อวานเองไม่ใช่เหรอ ? พี่สนคงคิดถึงมากสินะ อิอิ ”
เขาก้มมองแต่ก็มองไม่เห็น พลางลูบลำคอเบาๆทำหน้างง
“ เอ่อ...ที่คอณัฐ...เป็นรอยน่ะ ” เธอบอกให้พลางยิ้ม
พอนึกได้ว่าเป็นอะไร คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขากระชับคอเสื้อให้ชิดมากขึ้น เมื่อเช้าตอนอาบน้ำก็แอบเห็นเหมือนกัน แต่รอยไม่ได้ชัดมากและคิดไว้ว่าผมที่ยาวและคอเสื้อคงจะพอปกปิดได้ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาแพรไปได้สิน่า
“ ไม่มีอะไรสักหน่อย ” เขาละล่ำละลักเสียงเบา
“ แหม ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า แพรไม่ถือ คนรักกันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ” เขามองอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไง บอกตรงๆว่า...อายมากกก
เธอหัวเราะคิกคัก แต่คงเห็นว่าเขาอายมาก จึงเปลี่ยนเรื่องคุยไปซะเฉยๆ เอาจนตั้งตัวไม่ทันเลย
“ แล้วณัฐได้เข้าไปดูในเว็บบ้างมั้ย ? กระทู้ของพี่สนกะณัฐอ่ะ ”
เธอเอ่ยถาม เขาจึงนึกขึ้นได้ เออ...เรื่องนี้ลืมไปเลย !!
“ ไม่ได้ดูเลยอ่ะ เป็นไงบ้างเหรอ ? ”
“ แพรเปิดเช็คทุกวันเลยนะจะบอกให้ ก็มีคนเข้ามาพูดถึงเรื่อยๆแหละ กระแสก็ค่อนข้างดี ถ้ากระทู้ตกไปล่างๆ แพรก็จะพยายามเม้นให้ขึ้นมาบ้างบนเหมือนเดิมแทน ฮ่ะ ๆ ”
“ โห...แต่ณัฐคงไม่ได้เข้าไปดูเท่าไหร่ งั้นณัฐกับพี่สนฝากแพรดูเลยละกันนะ”
เธอยิ้มกว้างแสดงความดีใจ “ อืม ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวทางนี้แพรจัดการให้เอง ! ”
เรากินอาหารและคุยกันไปอย่างสนุกสนานเหมือนเดิม เสร็จแล้วก็ไปดูหนังกันต่อ พาแพรเดินดูพวกเครื่องสำอางค์อีกสักหน่อย เขาเองก็ซื้อพวกของใช้และอาหารสดกลับห้องเผื่อจะได้ทำอาหารให้พี่สนกิน ไม่นานจึงกลับหอพัก กว่าจะกลับมาถึงก็หกโมงกว่าๆ...ดีนะที่โทรบอกพี่สนแล้ว
ฝ่ายนั้นพอมาเปิดประตูให้ก็ยิ้มหวานทันที
“ พี่อุตส่าห์รีบกลับ ออกไปเที่ยวเล่นกับแพรจนได้ ”
เขาเข้าไปกอดราวกับกำลังออดอ้อน
“ ออกไปกินข้าว ดูหนัง คุยกันนิดหน่อยเอง ก็ว่างๆนี่นา ไม่มีอะไรทำ ”
รุ่นพี่เข้ามาลูบหัว แล้วจุมพิตกระหม่อมเบาๆ
“ แล้วกินข้าวเย็นยังครับ หิวมั้ย ? ”
“ เริ่มหิวแล้วอ่ะ พี่สนล่ะ กินข้าวยัง ? ”
“ ยังเลย รอณัฐอยู่นี่แหละ ”
เขาแหงนหน้ามามอง “ งั้นเดี๋ยวณัฐทำให้กินนะ ”
ฝ่ายนั้นเข้ามาจุ๊บปากเบาๆ “ อยากได้ยินคำนี้แหละ ”
เขาหัวเราะ แล้วจึงเดินเข้าครัวทันที ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำเองคนเดียว เพราะมีพี่สนเป็นลูกมือด้วย ฝ่ายนั้นก็หั่นผักหั่นเนื้อไปตามประสา เขาทอดไข่เจียวหมูสับฟองใหญ่และผัดผักหมูใส่ข้าวโพดอ่อนเยอะๆอย่างที่ชอบ ทำแค่สองอย่างเพราะกินกันแค่สองคน เสร็จแล้วเราจึงมานั่งกินกันด้วยความหิวที่โต๊ะเตี้ยหน้าทีวีเหมือนอย่างทุกครั้ง
ได้ทำกับข้าวและนั่งกินด้วยกันเหมือนเดิมแบบนี้แล้วมีความสุขจัง
“ กินเยอะๆนะ ” รุ่นพี่ตักกับข้าวมาให้ เขาเองก็ตักให้อีกฝ่ายบ้าง แถมบริการพิเศษป้อนถึงปากด้วย
“ พี่สน...อยู่เวรอีกครั้งวันไหนเหรอ ? ”
“ อยู่วันพรุ่งนี้ ”
“ เลิกสี่ทุ่มเหมือนเดิมใช่มั้ย ? ”
“ ใช่ แปบเดียวเอง เดี๋ยวจะรีบกลับมาหานะ ”
“ ณัฐไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ”
รุ่นพี่ยิ้ม “ ที่จริงก็อยากอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนอ่ะแหละ ”
“ เหนื่อยมั้ย ? ” เขาถามพลางมองหน้าอีกฝ่าย
“ ตอนแรกก็เหนื่อย แต่ตอนนี้หายเหนื่อยแล้ว เพราะมีณัฐมาอยู่ใกล้ๆ ”
เขาอมยิ้ม “ กินไปเลย ไม่ต้องพูดแล้ว ”
“ ก็อุตส่าห์ได้อยู่ด้วยกันทั้งทีนี่นา ให้นั่งมองหน้าณัฐทั้งวันยังได้เลยนะ ”
“ จะบ้าหรือไง ใครจะนั่งให้มองทั้งวัน ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
พอกินกันเสร็จก็ล้างจาน แล้วอาบน้ำชำระร่างกายแต่งตัวเป็นชุดนอนด้วยกันทั้งคู่ เขาเองหยิบนิยายที่อ่านเป็นประจำมานั่งอ่านบนโซฟาทันที ส่วนรุ่นพี่ก็เอาหนังสือเรียนมานั่งอ่านด้านล่างพิงหลังกับโซฟาไว้เช่นกัน
เวลาอ่านหนังสือทีไรพี่สนจะใส่แว่นทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน บางครั้งเขาเองก็ชอบมองรุ่นพี่ในลุคแบบนี้บ่อยๆ ก็พี่สนน่ะ...ดูเท่มากเลยน่ะสิ
“ วันนี้ไม่ได้เขียนรายงานแล้วเหรอ ? ” เขาถามออกไป
“ พึ่งเขียนเสร็จเมื่อวานน่ะ วันนี้ได้เคสใหม่อีกเคสแล้ว ก็เลยต้องกลับมาอ่านเรื่องโรคนี้ก่อน แล้วค่อยจะเขียนอีก
ฉบับน่ะ ”
“ ต้องเขียนกี่ฉบับเนี่ย ? ”
“ สิบสอง...ตกประมาณสัปดาห์ละฉบับมั้ง ”
“ โห !! เยอะจัง...เหนื่อยแย่เลยเนอะ ทั้งต้องเรียน ต้องทำงาน แล้วยังเขียนรายงานอีก ”
“ อืม แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะมี...กำลังใจดี ”
เขายิ้มออกมาทันที “ งั้นนวดให้มั้ย ? ”
“ จริงนะ เอาสิ ” ฝ่ายนั้นไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย แถมยังขยับตัวมาจนชิดอีกต่างหาก เขาจึงจัดการนวดให้คนรักทันที
“ แล้วตอนนี้พี่สนเรียนอยู่ตึกไหนเหรอ ? แล้วอยู่เวรที่เดียวกันหรือเปล่า ? ”
“ อืมใช่ ตอนนี้พี่อยู่ Med (อายุรกรรม) ตึก AE3(ฉุกเฉิน3) น่ะ ”
“ เหรอ ? ”
“ ถามทำไมอ่ะ ? ”
“ เปล่า แค่อยากรู้เฉยๆว่าอยู่ส่วนไหนของโรงพยาบาล จะได้ส่งความคิดถึงไปถูก ”
ไม่ต้องบอกก็รู้เพราะฝ่ายนั้นยิ้มกว้าง “ เดี๋ยวนี้ปากหวานนะเนี่ย ไหนเอามาลองชิมดิ๊ ”
ฝ่ายนั้นแหงนหน้าขึ้น แล้วเกี่ยวลำคอให้ใบหน้าของเราทั้งสองมาชิดกัน จนริมฝีปากถูกประทับในที่สุด จูบที่แสนอ่อนโยนในทิศทางที่แปลกประหลาด อาจจะไม่ถนัดไปสักหน่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
เขาผละริมฝีปากออกก่อน อมยิ้มแล้วตีแขนอีกฝ่ายเบาๆ และจัดการนวดให้ต่อ
“ อ่านหนังสือต่อเลย ไม่ต้องมาทะลึ่งแล้ว ”
“ ได้ครับผม ”
แล้วฝ่ายนั้นก็ทำหน้าที่อ่านหนังสือไป เขาก็นวดไป สักพักโทรศัพท์ของรุ่นพี่ก็ดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปหยิบให้ ก็
พลันเห็นชื่อคนที่โทรมาหา
...พี่อ๊อฟ...
ใครกัน ? ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลย
พี่สนมองหน้าจอ แล้วหันมาบอก “ ณัฐรับให้หน่อยสิ ”
“ แต่ณัฐไม่รู้จักนะ ”
“ อืม นั่นแหละ รับให้หน่อย บอกว่าพี่เข้าห้องน้ำอยู่ ”
“ จะดีเหรอครับ ? ”
“ ดีสิ รับให้หน่อยนะครับ นะ นะ นะ ”
เขาจึงยอมกดรับแต่โดยดี
“ สวัสดีครับ ”
ฝ่ายนั้นเงียบเสียงสักพัก ก่อนที่จะเอ่ยออกมา
“ นี่โทรศัพท์น้องสนไม่ใช่เหรอครับ ? ”
“ อ๋อ ใช่ครับ คือพี่สนกำลัง ‘อาบน้ำ’ อยู่ ”
“ แล้วนี่ใครเหรอ ? ” ฝ่ายนั้นถามกลับ เขาเองได้แต่งงๆ อยากจะรู้จักเขาทำไม ก็โทรมาหาพี่สนเพราะอยากคุยกับพี่สนไม่ใช่เหรอ ?
พอดีรุ่นพี่ขึ้นมานั่งข้างกันและแนบหูฟังอีกข้างหนึ่งเหมือนกัน จึงทำปากพูดประมาณว่า ‘ บอก..ไป..เลย..ว่า..เป็น...แฟน ’
เขามองตาโตทำปากตอบออกไป ‘จะ..ดี..เหรอ..?’
ฝ่ายนั้นพยักหน้าอย่างหนักแน่น พอเขาตัดสินใจว่าจะเอ่ยปากบอก อีกฝ่ายก็ดันพูดขึ้นมาซะก่อน
“ อืม ไม่เป็นไร งั้นฝากบอกน้องสนหน่อยนะ ว่าพี่อ๊อฟโทรมา ”
“ อ๊ะ..อ๋อ ได้ครับ ”
แล้วฝ่ายนั้นก็กดวางสายไป เขาได้แต่มองหน้ารุ่นพี่อย่างงงๆ
“ ใครเหรอครับ ? ” เขาถามรุ่นพี่
“ พี่อ๊อฟ...เป็นพี่ dent’ med ที่อยู่กลุ่มเดียวกันกับพี่ตอนนี้นี่แหละ ” ฝ่ายนั้นบอก
“ เพียงแต่ว่า...ช่วงนี้จะชอบมายุ่งกับพี่มากไปหน่อย จนพี่รู้สึกอึดอัด ”
“ หมายถึง...มาชอบพี่สน งั้นเหรอ ? ”
ฝ่ายนั้นมองตา “ อืม คงประมาณนั้นแหละ แต่พี่ไม่ได้เล่นด้วยเลยนะ ไม่เลยสักครั้งเดียว ” พี่สนรีบโบกมือปฏิเสธเสียยกใหญ่
“ ณัฐก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนะ ”
“ แล้ว...เค้ามาทำอะไรกับพี่สนบ้างล่ะ ? ถึงบอกว่าอึดอัด ”
“ ก็ชอบมาพูดคุย มาใกล้ชิดมากผิดปกติน่ะ บางครั้งก็ชอบซื้อขนมมาฝากบ่อยๆแถมซื้อมาฝากพี่คนเดียวด้วยนะ ทั้งๆที่เพื่อนกลุ่มพี่ก็เยอะ และบางครั้งก็พาไปกินข้าวด้วย พี่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเหมือนกัน เพราะพี่เค้าก็ช่วยเหลือแล้วก็สอนพวกพี่เยอะเหมือนกัน ”
“ แล้ว...สองวันก่อน พี่อ๊อฟก็เริ่มโทรมาหา ไม่รู้ว่าไปเอาเบอร์พี่มาจากไหน วันแรกพี่ก็รับนะเพราะไม่รู้ว่าเบอร์ใคร แต่เมื่อวานพี่ก็ปิดเครื่องไปเลย และวันนี้...ก็โทรมาอีกแล้ว ”
“ พี่อ๊อฟก็เหมือนจะรู้นะ ว่าพี่มีแฟนแล้ว แต่...ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังทำแบบนี้อยู่ ”
เขาจับมือรุ่นพี่ทั้งสองข้าง “ ไม่เป็นไรหรอก ณัฐเชื่อใจพี่สน ”
ฝ่ายนั้นยิ้ม แล้วเข้ามาจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ
“ ขอบคุณมากนะครับ ณัฐไม่มีวันผิดหวังแน่นอน เพราะพี่รักณัฐแค่คนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่ได้สำคัญอะไรเลย ”
“ ครับ ”
แล้วเราก็โผเข้ากอดกันด้วยความรัก หลังจากนั้นก็เริ่มจูบ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหลังจากนั้นถึงได้รู้สึกว่า...เขากำลังถูกเล้าโลมอยู่อย่างนั้นแหละ เพราะเขากำลังถูกนอนคร่อมอยู่บนโซฟา ฝ่ายนั้นจูบอย่างดูดดื่ม ส่วนมือก็ลูบไล้ไปทั่วร่างกายอย่าเบามือ พรมจูบตามซอกคอและไล้เรื่อยลงบนแผ่นอก ฝ่ายนั้นละเลงลิ้นลงบนยอดอกทั้งสองข้าง จนเขาเผลอพ่นลมหายใจหนักและครางออกมา
“ อืมม...พี่สน ไม่เอานะ พอแล้ว ”
“ ก็ณัฐน่ารักนี่นา ใครจะไปอดใจไหวได้ล่ะ ”
“ แต่...พี่สนต้องอ่านหนังสือนะ ”
“ ไม่เป็นไรครับ เสร็จแล้วค่อยอ่านก็ได้ ”
“ แต่... ”
ฝ่ายนั้นเห็นเขาอิดออด จึงถามกลับ “ ทำไมเหรอ ? ”
“ ก็...เอ่อ...ตรงนั้น...ณัฐ...ยังเจ็บอยู่เลยน่ะสิ ” ก็เพราะเป็นผลมาจากเมื่อวานนั่นแหละ
“ อ้าว ยังเจ็บอยู่เหรอ ? เจ็บมากมั้ย ” รุ่นพี่ถามด้วยความเป็นห่วง
เขาส่ายหน้า ก็ไม่ได้เจ็บมากนักหรอก แต่มันก็ระบมนี่นา ยังไม่อยากมีอะไรตอนนี้
“ เหรอ ? งั้น...ช่วยข้างนอกได้มั้ยครับ คิดว่าคงไม่เจ็บนะ ”
เขาหลุบตาต่ำพลางหน้าแดง “ ก็...ไม่รู้สิ ”
จะปฏิเสธออกไปก็ไม่กล้า เพราะถูกอีกฝ่ายเล้าโลมจนมาถึงขนาดนี้แล้ว
ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปาก “ งั้นขอข้างนอกละกันนะ ไม่เจ็บหรอก ”
พูดเสร็จก็เข้ามาจูบอีกรอบ แต่ครั้งนี้ร้อนแรงมากกว่าเดิม เสื้อของเขาถูกเลิกขึ้นสูงและกางเกงก็ถูกถอดออกอย่างง่ายดายและวางลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายก็รีบถอดกางเกงนอนของตนออกเช่นกัน
*************************
ตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว รุ่นพี่ออกไปเรียนตั้งแต่เช้า และวันนี้ก็บอกว่าอยู่เวรเสียด้วยสิ ช่วงกลางวันเขาก็นั่งอ่านนิยายอยู่แต่ในห้องอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปไหน แต่พอตกเย็นรุ่นพี่ก็โทรมาหา
“ คิดถึงนะครับ ” นั่นเป็นประโยคแรกที่ได้ยิน
“ ฮ่ะ ๆ แล้วพี่สนไม่ได้ทำงานหรอกเหรอ ? อู้หรือเปล่าเนี่ย ”
“ เปล่าอู้สักหน่อย พึ่งจะได้พักเอง ก็เลยอยากโทรมาฟังเสียงที่รักไงครับ ”
“ แล้วพี่สนกินข้าวยัง ? ”
“ ยังเลย กว่าจะได้กินก็คงประมาณ ทุ่มกว่าๆนู่นแหละมั้ง ”
“ อยากกินอะไรมั้ย ? จะซื้อไปให้กิน ” เขาถามออกไป แต่อีกฝ่ายกลับเงียบ...ซะอย่างนั้น
“ อ้าว ไม่ได้หรอกเหรอ ? หรือปกติเค้าไม่ให้ซื้อเข้าไปให้งั้นเหรอ ? ”
“ ใครบอกล่ะ กำลังดีใจอยู่ต่างหาก !! ณัฐจะซื้อมาให้จริงๆเหรอ ? ”
“ อื้มม จริงสิ พี่สนอยากกินอะไรล่ะ ถ้าอยากกินจะซื้อเข้าไปให้ ”
“ อืมม เอาอะไรก็ได้ ที่รักซื้อมาเถอะ กินได้หมด ”
“ โห ยากจัง งั้นเอากาแฟกับเค้กมั้ย ? จะซื้อร้านประจำให้ ”
“ ก็ดีครับ พี่กินได้หมดแหละ ”
“ งั้นเดี๋ยวณัฐซื้อไปให้นะ เดี๋ยวโทรหาอีกที ”
“ ค้าบบบ ”
เพราะเห็นรุ่นพี่เหนื่อยๆเรียนก็หนัก ก็เลยอยากจะช่วยอะไรบ้าง เขาจึงออกไปร้านประจำแล้วสั่งกาแฟและเค้กอย่างที่รุ่นพี่ชอบกินบ่อยๆ แล้วไปหาที่โรงพยาบาลทันที
เดินไปตามทางพยายามหาตึกผู้ป่วยที่รุ่นพี่เคยบอกไว้ บางครั้งก็ถามทางกับเจ้าหน้าที่ไปเรื่อย หาอยู่นานพอเจอแล้วเขาก็โทรหาพี่สนทันที
“ ฮัลโหล พี่สน ณัฐมาถึงแล้ว อยู่ข้างหน้าแล้วอ่ะ ”
“ อืม ได้ ๆ เดี๋ยวพี่ออกไปหานะครับ ”
สักพัก เขาก็เห็นพี่สนเดินออกมา ยิ้มกว้างให้เขาใหญ่เลย ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาจับข้อมือทันที
“ ไปข้างในกันเถอะ ! ”
“ อ้าว ต้องเข้าไปด้วยเหรอ ? ” นึกว่าจะให้ขนมแล้วก็กลับเลยซะอีก แต่ฝ่ายนั้นกลับดึงเขาเข้าไปข้างในตึกแล้วน่ะสิ
เดินเข้ามาภายในตึกผู้ป่วย บริเวณโต๊ะใหญ่ตรงกลางก็เห็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อกาวน์เหมือนพี่สนอีกสามคน รวมถึงรุ่นพี่ที่เป็นแพทย์อีกหนึ่งคนนั่งรวมอยู่ด้วยกัน ท่าทางเหมือนจะกำลังนั่งติวกันอยู่แฮะ ทั้งหมดมองมาที่พวกเขาเป็นสายตาเดียว แต่พี่สนก็ยังจับมือเขาไว้แน่น แล้วพาเดินเลี่ยงไปอีกทาง ผ่านเตียงนอนรวมของผู้ป่วยไปเรื่อยๆ และเดินเข้าห้องหนึ่งที่เขียนด้านหน้าว่า ‘ห้องพักแพทย์’ ทันที
“ ต้องเดินเข้ามาถึงข้างในเลยเหรอ ? ” เขาถามรุ่นพี่
“ อืม พามาเดินโชว์ตัวไง ”
“ จะบ้าเหรอ ?! จริงน่ะ ”
“ ก็อยากอวดแฟนนี่นา ”
“ ไม่เอาแล้วพี่สน อ๊ะ !! นี่เค้ก แล้วก็กาแฟที่ชอบได้แล้วนะ น้ำแข็งจะละลายหมดแล้วเนี่ย ”
“ ขอบคุณมากค้าบบบ ที่รักน่ารักจังเลย ”
“ แล้วพี่สนกินข้าวยัง ? ”
“ กินแล้ว พึ่งกินเมื่อกี้เองแหละ ”
“ แล้ว...ออกมาแบบนี้จะดีเหรอ ? เหมือนข้างนอกกำลังนั่งติวกันอยู่เลยนะ ”
“ พอดีพึ่งว่างน่ะ พึ่งทำงานเสร็จ รุ่นพี่ก็เลยนั่งติวให้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ขอออกมาแค่แปบเดียวเอง ”
“ งั้นณัฐกลับก่อนละกัน พี่สนก็กลับไปอยู่เวรต่อเถอะ ”
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!!
ประตูถูกเปิดออก เห็นรุ่นพี่แพทย์คนหนึ่งที่เขาเห็นนั่งอยู่ที่ด้านนอกเมื่อกี้ มองมาที่พวกเรา และสุดท้ายสายตาก็จับ
จ้องไปที่พี่สน
“ น้องสน ไปติวต่อได้แล้วนะ”
“ อ๋อ ครับ ได้ครับ กำลังจะออกไป ” ดูท่าแล้วพี่สนเหมือนจะเกรงใจอีกฝ่ายมากอยู่เหมือนกัน
“ อีกสักหน่อย อาจารย์ก็จะมาแล้ว ถ้าไม่เข้าใจเคส...เดี๋ยวจะยุ่ง ” ฝ่ายนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่สายตากลับดูเหมือนกำลัง ‘ตำหนิ’ เขาอยู่อย่างนั้นแหละ
ฝ่ายนั้นเหมือนยืนรอรุ่นพี่ให้ออกไปพร้อมกัน พี่สนจึงมองมาที่เขาแล้วยิ้มให้
“ ขอบคุณมากนะ งั้นลงเวรค่อยเจอกัน..ที่ห้อง..นะ ” รู้สึกเหมือนพี่สนจะเน้นย้ำคำบางคำยังไงก็ไม่รู้สิ
เขาพยักหน้าตอบรับ “ ครับ ”
*******************************
โชคดีที่วันนี้ณัฐซื้อขนมมาให้ และโชคดีที่วันนี้เขาอยู่เวรกับ ‘พี่อ๊อฟ’ เสียด้วย อะไรจะแจ็คพอตขนาดนี้
พอณัฐบอกว่าจะซื้อขนมมาฝาก เขาก็นึกขึ้นได้ทันที...แผนง่ายๆแค่นี้ ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกกันนะ และพอณัฐมาถึงเท่านั้นแหละ เขาจึงปฏิบัติการณ์เดินจูงมือกันเล็กน้อยเรียกน้ำย่อยพอเป็นพิธี เพื่อนคนอื่นอาจจะพอรับได้เพราะรู้มาบ้างแล้ว แต่คนบางคนนี่สิ...ต้องบอกให้รู้สักหน่อย !
แล้วก็เป็นไปตามคาด พอพี่อ๊อฟเห็นเขากับณัฐเดินเข้ามาด้วยกัน ก็มองจนตาเขียวเลยน่ะสิ ถึงขั้นเข้ามาตามถึงห้องพักแพทย์ ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องมาตามก็ได้...สะใจดีจริงๆ แต่พี่เขาก็ถือว่าเก็บอาการได้ดีทีเดียว เพราะหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเด่นชัด จนเริ่มจะสี่ทุ่มและเป็นเวลาที่เขากำลังจะลงเวรเท่านั้นแหละ
“ น้องสน คนนั้นเป็นใครเหรอ ? คนที่เอาขนมมาให้ ” พี่อ๊อฟถามตอนที่เขายืนอยู่คนเดียว
ถามมาตรงๆอย่างนี้ก็ดีแล้ว จะได้ตอบตรงๆสักที
“ แฟนผมเองครับ ”
ฝ่ายนั้นเงียบเสียงไปสักพัก ดูแล้วไม่ได้ตกใจมากเท่าไหร่ เพราะคงจะเดาได้อยู่แล้ว
“ ใช่คณะเราหรือเปล่า ? ”
“ ใช่ครับ ”
“ เพราะถ้าเป็นคนนอก พี่ก็แนะนำว่าอย่าพาเข้ามาจะดีกว่า แต่ถ้าเป็นรุ่นน้องคณะเราก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะให้ดี...ไม่ต้องประเจิดประเจ้อมากก็ได้ เล่นเดินจูงมือกันแบบนั้น เดี๋ยวพี่พยาบาลหรือญาติคนไข้จะดูไม่ดีและนินทาเอาได้นะ ”
เขาพยักหน้ารับ “ ครับ ”
“ อืม งั้นก็ลงเวรเถอะ สี่ทุ่มกว่าแล้วนะ ”
แล้วเขาก็ถือกระเป๋าเดินออกมาจากตึกทันที พลางครุ่นคิดอย่างหนัก...เหมือนแผนนี้จะไม่ค่อยได้ผลอย่างที่คิดแฮะ แต่ช่างเถอะ ทนๆไป เพราะอาทิตย์หน้าก็จะสิ้นเดือนแล้ว จะได้..ย้ายกลุ่ม..สักที คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะนะพี่อ๊อฟ
*******************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น