ลำดับตอนที่ #92
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #92 : บทที่แปดสิบสี่ -- เสม็ด
บทที่แปดสิบสี่
แดดทะลุผ่านผ้าม่านสีเหลืองจนเห็นเป็นสีทอง ร่างเพรียวมองนาฬิกาพบว่าสายมากแล้ว แต่เราทั้งคู่ยังคงนอนบนเตียงหนานุ่มไม่ยอมลุกออกไปไหนเพราะความเหนื่อยล้าจากเมื่อคืน
ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บระบมช่วงล่างจนไม่อยากจะขยับเขยื้อนร่างกาย นึกถึงเรื่องเมื่อคืนทีไรก็รู้สึกเขินทุกที เป็นบทรักที่ร้อนแรงอย่างที่ไม่ได้ทำบ่อยนัก เขาหันไปมองหน้าคนที่นอนหลับสนิทอยู่ด้านข้าง แล้วเผยยิ้มออกมาด้วยความสุข จิ้มจมูกคนรักเบาๆ
“ พี่สน...สายแล้วนะ ”
แต่รุ่นพี่ก็ยังไม่ยอมตื่น เขาจึงบีบจมูกอีกฝ่ายไว้แน่น จนหายใจไม่ออก
“ อื้อออ ” พี่สนค่อยๆลืมตาตื่นด้วยความงงงวย
“ ฮ่ะ ๆ ตื่นแล้วเหรอที่รัก ? ขี้เซาจัง ”
“ ณัฐ... ? ”
“ สายแล้วนะ มาเที่ยวทะเลทั้งที จะนอนอยู่แต่ในห้องแบบนี้เหรอ ? ” เขาบอก
“ กี่โมงแล้วอ่ะ ? ”
“ 11 โมง ”
“ งั้นขอนอนต่อ ” ว่าแล้วก็ยกแขนมาโอบเขาไว้แล้วพริ้มตาหลับทันที
“ พี่สนอ่ะ...นอนอะไรเยอะแยะ ”
ฝ่ายนั้นลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง “ ก็มาพักผ่อน...ไม่ให้นอนแล้วให้ทำอะไรครับ ? ” แล้วมือใต้ผ้าห่มก็ค่อยๆลูบไล้
ต้นขาของเขาไปมาเบาๆ จนรู้สึกขนลุก
“ จั๊กจี้นะ ”
“ ขอนอนต่ออีกสักนิดนะ พี่เหนื่อยอ่ะ ” พอเห็นรุ่นพี่ใช้สายตาออดอ้อนเท่านั้นแหละ เขาจึงต้องยอมแต่โดยดี
“ งั้นนอนต่อก็ได้ ”
หลังจากตื่นนอน ก็ปาเข้าไปบ่ายกว่าๆ เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ เราทั้งคู่ก็สวมชุดลำลองสบายตัวแค่เสื้อยืดกางเกงพอดีเข่า ใส่รองเท้าแตะเดินไปตามริมหาดเพื่อหาอาหารอร่อยๆรับประทานเพราะหิวโซไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันด้วยกันทั้งคู่
ระหว่างนั่งรออาหาร เขาก็สังเกตพี่สนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ฝ่ายนั้นกำลังดูรูปในกล้องถ่ายรูป รุ่นพี่ใส่เสื้อกล้ามสีขาวโชว์มัดกล้าม กับกางเกงขาสั้นอย่างที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก จมูกโด่งที่รองรับแว่นกันแดดสีดำสุดเท่เมื่อเห็นทีไรแล้วพาลจะใจละลาย...ทำไมพี่สนถึงเท่อย่างนี้นะ ! แฟนใครเนี่ย ?
ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็ยื่นกล้องมาให้ดู “ ที่รัก ดูรูปนี้สิ ”
จากที่ยิ้มเขาถึงกับหุบยิ้มทันที “ แอบถ่ายตอนไหนเนี่ย ? ”
“ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ” พี่สนหัวเราะอย่างสะใจ “ ณัฐทำหน้าอะไรเนี่ย ตลกชะมัดเลย ”
ภาพในอริยาบถที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ทำหน้าน่าเกลียด...เห็นแล้วก็ตลกจริงๆแหละ อยากจะหัวเราะเหมือนกันแต่ กลัวรุ่นพี่จะได้ใจ ก็เลยต้องหน้าบูดดูท่าทีก่อน
“ พี่สน ตลอดเลย ชอบถ่ายทีเผลอ ”
“ ก็ชอบความธรรมชาตินี่นา ”
“ ไหน ณัฐขอดูบ้างสิ ”
รุ่นพี่ยื่นกล้องมาให้ เขาพิจารณาดูทีละภาพพึ่งรู้ว่าพี่สนถ่ายไว้เยอะเหมือนกัน สถานที่ที่พวกเราผ่านมาเกือบทั้งหมดและภาพของตัวเขาเองทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ที่สำคัญแต่ละภาพนั้นมุมกล้องสวยทั้งนั้น
“ ชอบภาพนี้ ” เขาเอ่ยบอกไปเรื่อยๆเมื่อพบภาพถูกใจ
“ ณัฐ ? ”
“ อะไรเหรอ ? ”
รุ่นพี่ย้ายร่างมานั่งข้างกันทันที “ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปคู่เลยนะ ”
“ งั้นเอาสิ ” เขายิ้มร่า
แล้วเราก็ถ่ายรูปคู่ด้วยกันรูปแล้วรูปเล่า ไม่พอใจก็ถ่ายใหม่ ดูไปก็หัวเราะไป จนอาหารเริ่มทะยอยมาถึงนั่นแหละเราจึงเลิก เพราะความหิวเราทั้งคู่จึงกินอาหารหมดอย่างรวดเร็ว ก็ถึงเวลาสั่งอาหารว่างมากินอีกตามเคย ไอติมรสกะทิเป็นเมนูยอดนิยมของร้านนี้ ส่วนพี่สนอาสาไปซื้อโรตีที่ขายอยู่ริมหาดไม่ไกลมากินด้วยกัน
เรานั่งกินข้างกันอย่างเอร็ดอร่อย เขาป้อนไอติมให้อีกฝ่าย ส่วนพี่สนก็ป้อนโรตีให้เขาจนปากเลอะนมไปหมด
“ พี่สนป้อนยังไงเนี่ย เลอะหมดแล้ว ”
เขาพยายามจะเช็ดปาก แต่ก็ถูกรุ่นพี่จับไว้ที่ข้อมือเสียก่อน “ เดี๋ยวเช็ดให้นะ ”
เป็นดังคาดเมื่อฝ่ายนั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วริมฝีปากของเขาก็ถูกรุ่นพี่ตวัดลิ้นไล้เลียพยายามเช็ดทำความสะอาดให้ แล้วตบท้ายด้วยจุมพิศเป็นของแถมเบาๆ
“ สะอาดแล้ว ” ฝ่ายนั้นพูดเสียงแผ่ว ส่วนเขาหน้าแดงไปจนถึงใบหู นั่งร่างแข็งทื่อ
“ มาจูบอะไรตรงนี้เนี่ย ? ” เขากระซิบด่า
“ ก็ณัฐน่ารักนี่นา อยากจูบ ”
“ กลางร้านอาหารเนี่ยนะ ”
“ ไม่มีใครรู้จักเราหรอก ”
“ คนบ้า !!! ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ” รุ่นพี่หัวเราะอย่างพอใจ
แดดช่วงกลางวันค่อนข้างจ้าบาดตา...คนริมหาดบริเวณนั้นเห็นเพียงแต่ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนเดินจูงมือกันเดินไปตามทาง ท่าทีที่แสดงออกถึงความรักเหล่านั้นเดาได้ว่าเป็น ‘คู่รัก’ กันอย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้
“ แดดแรงมากเลยเนอะ ” เขาเอ่ยบ่นกับรุ่นพี่
“ ทาครีมกันแดดมาหรือยัง ? ”
“ ทาแล้ว ”
“ แต่พี่ว่า...ยังไงณัฐก็คงไม่คล้ำขึ้นหรอก ”
“ แหะ ๆ นั่นสินะ ” เขาหัวเราะเบาๆ
สนมองคนรักด้วยความเอ็นดู ปกติณัฐเป็นคนผิวขาวใสทั้งตัวค่อนไปทางอมชมพูนิดๆ เห็นณัฐตากแดดทีไรก็ไม่เห็นจะดำเลยสักครั้ง มากสุดก็แค่ตัวแดงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็กลับมาผิวขาวใสเหมือนเดิม ราวกับไม่ได้ผ่านอะไรมาด้วยซ้ำ ผู้ชายอะไร ? ผิวดีกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“ แต่พี่สนอ่ะแหละ จะดำขึ้น เหมือนตอนนั้นไง ที่พี่สนออกคอมเมดอ่ะ ตัวดำปี๋เลย ณัฐเห็นแล้วตกใจ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ ขมเค้มขึ้นต่างหาก ผู้ชายผิวแทนออกจะเซ็กซี่ ”
“ แหวะ ” เขาแอบอมยิ้ม
ไม่นานก็ถึงห้องพัก...สำหรับวันนี้เรายังไม่ได้คิดโปรแกรมว่าจะออกไปไหนและช่วงกลางวันแบบนี้แดดยังคงร้อนได้ที่ จึงตกลงกันว่าจะอยู่ห้องพักก่อน และพอนั่งเล่น นอนเล่น เกลือกกลิ้งหยอกล้อบนเตียงกันได้สักพัก แดดก็เริ่มจางลง เราจึงตัดสินใจออกไปเล่นน้ำทะเลกัน
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสวมชุดว่ายน้ำเดินตามริมหาด ส่วนพวกเราใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเป็นพอ เพราะพี่สนให้เหตุผลว่า...ไม่อยากให้คนอื่นเห็นร่างกายเขามากจนเกินไปนั่นเอง
โชคดีที่พวกเราชอบว่ายน้ำด้วยกันทั้งคู่ เราจึงว่ายออกจากฝั่งค่อนข้างไกล รู้สึกสนุกดีเวลาที่คลื่นใหญ่ซัดสาดเข้ามาใกล้จนตัวลอยขึ้นสูงไปตามแรงน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็จับมือกันไว้ไม่ยอมห่าง เล่นน้ำกันจนเหนื่อยและแสงอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า เราก็เข้าฝั่งและกลับไปอาบน้ำที่ห้องพักตามเดิม
“ เล่นน้ำนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันเนอะ ” ร่างเพรียวพูดขึ้น เมื่ออีกฝ่ายกำลังถูสบู่ขัดตัวให้ภายในห้องน้ำแสงสลัว
“ พี่พึ่งรู้...ณัฐก็ว่ายน้ำเก่งเหมือนกันนี่นา ”
“ อย่ามาดูถูกกันนะ ถ้าว่างๆเรามาว่ายน้ำแข่งกันเลย ” เขายักคิ้ว
“ พี่กลัวณัฐจะหมดแรงไปซะก่อนน่ะสิ ”
“ ไม่มีทางซะหรอก ”
สนเชยคางของอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ “ แล้วเมื่อกี้ใครที่บอกว่าเหนื่อยแล้ว ก็เลยชวนขึ้นฝั่งน่ะ ”
“ ณัฐหิวข้าวต่างหาก ” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
แต่ทันใดนั้นก็ถูกรุ่นพี่ขโมยจูบไปเสียก่อน
“ จะว่ายแข่งด้วยก็ได้ แต่ถ้าณัฐแพ้...อืมม ต้องคำตามคำสั่งของพี่ทุกอย่าง โอเคมั้ย ? ”
“ แต่ถ้าพี่สนแพ้...พี่สนก็ต้องคำตามคำสั่งของณัฐเหมือนกันนะ ”
“ ได้ ”
“ งั้นก็ตกลง ” เขายิ้มร่า
“ คิดว่าจะชนะได้เร้ออออ ? ” รุ่นพี่แกล้งกระซิบเบาๆให้ได้ยิน
“ หนอยยยย...เมื่อกี้ว่าไงนะ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
“ พี่สนบ้า !! ” เขาจับฝักบัวฉีดใส่อีกฝ่ายทันทีจนรุ่นพี่ต้องพยายามหลบ
“ แกล้งพี่เหรอ ? ฮะ ” แต่ไม่ทันไรฝ่ายนั้นก็เข้ามาแย่งจับโดยเร็ว
ทั้งสองร่างมะรุมมะตุ้มกันได้ไม่นาน ก็กลายเป็นว่าร่างเพรียวถูกจับกดข้อมือชิดกับผนังพร้อมกับฝักบัวที่ยังคงมีน้ำไหลไปตามทาง
“ เดี๋ยวนี้ร้ายนะเรา แกล้งพี่เรื่อย ”
“ ร้ายแล้วไง ? ” ร่างเพรียวเผยยิ้ม
สนมองคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู...เม็ดน้ำเกาะพร่างพรายตามแก้มขาวเนียน ขนตาดำยาวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำกระพริบถี่ๆด้วยความน่ารักน่าชัง ริมฝีปากบางเล็กสีแดงระเรื่อนั้นช่างน่าลิ้มรสยิ่งนัก ถึงจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่ความปรารถนาในคนตรงหน้าไม่เคยที่จะจืดจางลงไปเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เขาพรมจูบที่หน้าผากอีกฝ่ายเบาๆด้วยความทะนุถนอม
“ ก็ยังรักเหมือนเดิมแหละ ”
ณัฐยิ้มกว้าง...รอยยิ้มที่แสนบริสุทธิ์นี้แหละทำให้เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น
“ รักเหมือนกัน ” ฝ่ายนั้นพูดด้วยท่าทางเขินอายแก้มเป็นสีชมพู หัวใจรู้สึกพองโตทุกครั้งเมื่อได้ยินคำว่ารักจากอีกฝ่าย
“ แต่ว่าพี่สน... ” เห็นณัฐหันไปมองทางด้านซ้ายที่เขาจับมืออีกฝ่ายไว้
“ ปิดน้ำก่อนไหม ? มันเปลืองนะ ”
แล้วเราก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน เขาจึงปล่อยมืออีกฝ่าย แล้วปิดฝักบัวทันที
“ เช็ดตัวกันเถอะ ”
ร่างเพรียวพูดด้วยท่าทางเขินอาย แล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหัวให้เขาอย่างเบามือ เราสบตากันอย่างมีความหมายลึกซึ้ง ก่อนที่ณัฐจะดึงชายผ้าขนหนูทั้งสองข้างโน้มศีรษะของเขาให้ลดลงต่ำอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วริมฝีปากของเราก็ค่อยๆประกบกันจนแนบสนิทในที่สุด
ริมฝีปากที่เย็นชืดแต่กลับหอมหวานมากกว่าสิ่งใด เขายกมือขึ้นมาประคองใบหน้าอีกฝ่ายไว้ แล้วจูบอย่างดูดดื่มแทรกลิ้นเป็นการตอบสนอง เรายืนจูบกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน...
“ want เหรอ ? ” เขากระซิบข้างหูคนรัก
“ เปล่าสักหน่อย ” ฝ่ายนั้นทำหน้าเขินอาย
เขายิ้มกว้าง ก่อนที่จะจุมพิศที่ริมฝีปากร่างเพรียวเบาๆ
“ ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า ณัฐเล่นน้ำมาจนเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวจะหมดแรงเที่ยวกันไปซะก่อน งั้นพี่แต่งตัวให้นะ ”
“ อื้ออ ” ฝ่ายนั้นพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู
เราเลือกกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารบรรยากาศดีร้านหนึ่ง นั่งฟังคลื่นทะเลยามค่ำด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากกว่าทุกครั้ง กินอาหารทะเลกันอย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่มแปร้ แล้วพี่สนก็ชวนไปเดินเล่นริมหาดอีกรอบ เดินจูงมือกันไปเรื่อยๆจนผ่านหน้าบาร์เล็กๆร้านหนึ่ง
“ ณัฐ...อยากลองแวะมั้ย ? ” ฝ่ายนั้นนึกสนุกเอ่ยชวน
“ ณัฐไม่เคยเข้าอะไรแบบนี้นะ ” เพราะว่าเขาอายุยังไม่ถึงนั่นเอง
“ ไม่เป็นไรหรอก ที่นี่เข้าได้ เป็นแค่บาร์เล็กๆ อีกอย่าง...มากับพี่ ไม่ต้องกลัวอะไรหรอก ”
เขาจับมืออีกฝ่ายไว้แน่น “ อืมม...งั้นเข้าก็ได้ ”
บรรยากาศภายในร้านแสงค่อนข้างสลัว ได้ยินแต่เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานเปิดดังจนทั่ว เขามองไปรอบๆก็เห็นคนนั่งกันพอประมาณทั้งหญิงและชาย วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน บ้างก็นั่งที่เคาเตอร์ บ้างก็นั่งจับกลุ่มสนทนากันด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้แออัดมากจนเกินไป ระหว่างทางเดินเข้าไปในร้านก็เห็นคนมองมาที่พวกเราด้วยความสนใจกันบ้างกันเล็กน้อย เขาหลบสายตาแล้วพยายามเดินชิดรุ่นพี่ไว้แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากกันไปไหน
โต๊ะตัวเล็กที่มุมหนึ่งถูกเลือกในทันที เรานั่งตรงข้ามกัน เขามองตารุ่นพี่ด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ ณัฐเคยไปแต่ร้านเหล้าหลังมอ ไม่เคยมาที่แบบนี้เลย ”
“ แล้วเป็นไงบ้าง ? ”
“ อืมม บรรยากาศผู้ใหญ่มากขึ้น ฮ่ะๆ ”
“ วันนี้กินแอลกอฮอลล์กันสักหน่อยมั้ย ? ” รุ่นพี่เอ่ยชวน
“ นึกยังไง ถึงอยากกินเหล้าอ่ะ ”
“ ก็มาทะเลทั้งทีนี่นา อยากนั่งกินกับณัฐด้วย จะกินเป็นเพื่อนมั้ยล่ะ ? ”
“ มาแบบนี้ ก็คงต้องลองแหละ แล้วจะกินอะไรอ่ะ ? ”
“ เดี๋ยวลองถามเขาดูก่อนละกัน ”
เมื่อบริกรมาถึงพี่สนถามเมนูว่ามีอะไรบ้าง ทั้งสองฝ่ายพูดแต่ชื่อแปลกๆออกมาซึ่งเขาเองก็ไม่คุ้นหูเท่าใดนัก ได้แต่มองตาปริบๆด้วยความไม่เข้าใจ สักพักรุ่นพี่ก็หันหน้ามาถาม
“ ร้านนี้มีค็อกเทล เราลองกินค็อกเทลกันมั้ย ? ”
“ อืมม ” เขายังไงก็ได้อยู่แล้ว
บริกรเอาภาพเมนูมาให้เลือก รุ่นพี่ยื่นให้เขาดูก่อน เขามองไปทีละภาพก็ไม่รู้หรอกว่าอันไหนอร่อย เขาเห็นภาพหนึ่งดูน่ากินและชื่อเพราะดีจึงตัดสินใจเลือกอันนี้
“ งั้นณัฐเอาอันนี้ ” เขาชี้ไปที่ภาพ
“ Love Never Die เหรอ ? อืมม เลือกได้ดีนิ ” รุ่นพี่ยิ้ม
“ งั้นเอา Love Never Die หนึ่งที่ ส่วนผมเอา Blue Dorado ละกันครับ ”
เมื่อบริกรเดินจากไป เขาจึงถามรุ่นพี่ทันที
“ มันเป็นน้ำผลไม้ผสมเหล้าเหรอ ? ”
“ อืม ใช่ แล้วแต่ชนิดว่าผสมอะไรมากน้อย แต่ก็เมาได้เหมือนกัน ”
“ ณัฐไม่เห็นจะเคยได้ยินสักชื่อเลย ”
“ ดีแล้วแหละ ที่ไม่รู้น่ะ ”
“ พี่สนกินบ่อยเหรอ ? ”
“ ไม่บ่อยหรอก แค่เคยกินบ้าง ”
“ แต่ดูแล้วก็น่ากินนะ อยากรู้ว่ารสชาติจะเป็นไงบ้าง ? ”
แล้วรุ่นพี่ก็เผยยิ้มออกมา “ งั้นวันนี้พี่อนุญาติให้เมาได้หนึ่งวัน เดี๋ยวพี่ดูแลเอง ”
“ หือ ? มันกินจนเมาเลยเหรอ แก้วเล็กๆเอง ”
“ ฮ่ะ ๆ เดี๋ยวก็รู้ ”
เขาหรี่ตา “ พี่สนพาณัฐมามอมเหล้าหรือเปล่าเนี่ย ? ”
“ ไม่ใช่สักหน่อย แค่อยากพามาสนุกเฉยๆ เปิดหูเปิดตาไง ”
เราคุยกันเล่นสักพัก บางครั้งเขารู้สึกเหมือนกับว่ากลุ่มที่อยู่โต๊ะด้านหลังพี่สนซึ่งเป็นผู้ชายสามคน ชอบมองมาที่พวกเขาบ่อยๆแต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไร พยายามพูดคุยกับรุ่นพี่ต่ออย่างปกติ และไม่นานค็อกเทลของพวกเราก็มาถึง เขามองแก้วทรงกลมที่บรรจุน้ำสีส้มอยู่ครึ่งแก้ว ผลส้มที่ถูกฝานแผ่นบางปักวางประดับไว้บนขอบแก้ว ดูแล้วน่ากินยิ่งนัก
“ เนี่ยเหรอ Love never die ” เขามองด้วยความประหลาดใจ แล้วจึงมองแก้วของรุ่นพี่บ้าง ฝ่ายนั้นเป็นแก้วทรงกลมที่มีขนาดใหญ่กว่า ภายในบรรจุน้ำสีฟ้าและถูกเคลือบด้วยเกลือสีฟ้าที่ขอบแก้วเช่นกัน...อืม อันนี้คือ Blue Dorado สินะ
ฝ่ายนั้นยกแก้วขึ้นสูง “ ชนหน่อยมั้ย ? ”
เขายิ้มกว้าง เราชนแก้วกันและกันแล้วยกดื่ม รสชาติของเขาค่อนข้างเปี้ยวหวานอร่อยกำลังดี ไม่ได้รู้สึกขมเหมือนว่ากำลังกินเหล้าเลยสักนิด
“ ขอชิมของพี่สนหน่อยดิ ” เขาอ้อน รุ่นพี่หัวเราะแล้วยื่นแก้วมาให้
แก้วพี่สนรสชาติค่อนข้างเฝื่อนแต่ยังดีที่ถูกข่มไว้ด้วยเกลือที่เคลือบอยู่ปากแก้ว ฝ่ายนั้นคงอ่านสีหน้าของเขาออกจึงเผยยิ้มออกมาทันที
“ ของพี่อ่ะเตกีล่า จะรสชาติเข้มกว่า ส่วนของณัฐ น่าจะเป็นแค่เหล้ารัมนะ ”
“ ไม่อร่อยเลยอ่ะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ อยากลองกินอย่างอื่นอีกอ่ะ ” เขาอมยิ้ม
“ กินแก้วของตัวเองให้หมดก่อนเหอะ ”
เขาทำปากจู๋ แต่ก็ค่อยๆยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างโต๊ะ พร้อมกับมองมาที่พวกเรา
“ ขอชนแก้วด้วยได้ไหมครับ ? ” ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นรุ่นพี่เขาสักสี่ห้าปีเห็นจะได้ พูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มและมองมาที่เราทั้งสองคน ชายคนนี้เป็นหนึ่งคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังรุ่นพี่ เขาจำได้
เขามองหน้ารุ่นพี่ ก็เห็นฝ่ายนั้นยื่นแก้วไปชนอย่างไม่ได้รังเกียจอะไร เขาจึงต้องชนด้วยบ้าง
“ มาเที่ยวกันสองคนเหรอครับ ? ”
“ ใช่ครับ ”
“ อืมม ผมชื่อต้อมนะครับ แล้วพวกคุณ... ”
ชายคนนั้นหันหน้ามาทางเขา ก็เลยต้องบอกออกไป “ อ๋อ ชื่อณัฐครับ ”
“ ชื่อสนครับ ” รุ่นพี่ตอบอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก
“ สนใจอยากนั่งสนุกด้วยกันมั้ยครับ ? ” ชายคนดังกล่าวชี้ไปที่โต๊ะตนเอง
“ อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก ” รุ่นพี่ตอบไปตามมารยาท แต่เขาเดาสีหน้าไม่ถูกจริงๆ
“ งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พวกคุณน่ารักมาก ” แล้วชายคนนั้นก็กลับไปนั่งโต๊ะตามเดิม
เรามองหน้ากันเล็กน้อย พยายามทำตัวไปตามปกติ
“ โต๊ะเกย์แหงๆ ” พี่สนสบถ พร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
“ แต่เราก็เกย์นะ ฮ่ะ ๆ ”
“ พี่เป็นเกย์แค่กับณัฐคนเดียวหรอก คนอื่นไม่สน ”
เขายิ้ม “ ค้าบบบ ทราบแล้ว ”
“ อยากกินไรอีกมั้ย ? เดี๋ยวสั่งเพิ่ม ”
“ อื้มมม ” เขาดื่มรวดเดียวจนหมดเช่นกัน
เราดื่มค็อกเทลหลายรสชาติเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น Mai-Tai , Long Ice Land , Maitini , Pink Lady และตบท้ายด้วย Sex on the beach บางอย่างก็อร่อย บางอย่างก็เฝื่อนซะจนต้องให้พี่สนกินแทน จนเวลาล่วงเลยเราเริ่มจะมึนด้วยกันทั้งคู่ แต่ดูท่าแล้วเขาจะเข้าขั้น ‘เมา’ มากกว่ามึนซะอีกนะเนี่ย
“ ณัฐ ไหวมั้ยเนี่ย ? ”
“ ไหววววววว ” ตอนนี้การจะพูดออกมาแต่ละคำมันช่างยากเย็น ไม่อยากทำอะไรเลย อยากจะนอนอย่างเดียว คิด
ได้ดังนั้นเขาจึงฟุบลงกับโต๊ะทันที
“ อ้าว ไปซะแระ ”
สนที่ตอนนี้เริ่มจะมึนหน่อยๆ เขาสั่งเช็คบิลทันที แล้วเปลี่ยนมานั่งข้างคนรักพยายามสะกิดหรือเขย่าร่างนั้นก็แล้ว แต่ดูท่าแล้วอีกฝ่ายท่าจะเมาจริงๆเพราะไม่ตอบสนองเลยสักนิด เขาจึงแบกร่างนั้นขึ้นหลังแล้วพาออกจากร้านทันที
ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาสักหกทุ่มเห็นจะได้ เขาพาร่างคนรักเดินย่ำไปตามหาดทราย แอบนึกขันอยู่ในใจ วันนี้เขาแค่อยากนึกสนุกพาณัฐมากินเหล้าเปิดหูเปิดตาดูบรรยากาศเท่านั้นเอง เห็นอีกฝ่ายตื่นเต้นดีใจก็รู้สึกตลกดี คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าวันนี้ณัฐเมาก็คงจะไม่เป็นไร เพราะยังมีเขาอยู่ดูแลไม่ได้ห่างไปไหน
“ ณัฐ หลับแล้วเหรอ ? ” เขาถามระหว่างทาง ได้ยินแต่เสียงอือออในลำคอแต่ก็ไม่ยอมตื่นเลย
เดินไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงของกลุ่มคนทางด้านหลังที่อยู่ไม่ไกล เขาไม่ได้ใส่ใจ แต่ไม่นานก็ได้ยินใครคนหนึ่งพูดขึ้น
“ กลับที่พักไหวเหรอครับ ? ”
เขาหันไปมอง ก็เห็นกลุ่มชายสามคนที่พอจะจำได้ว่านั่งโต๊ะด้านหลังของเขานั่นเอง ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเกย์แน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรุกหรือรับเท่านั้นเอง
“ ไหวครับ ไม่ได้เมา ” เขาตอบตามจริง เพราะแค่รู้สึกมึนนิดหน่อยเท่านั้นเอง เดินแบกณัฐกลับที่พักได้สบายมาก
“ พวกคุณสองคนคงจะเป็นแฟนกัน ? ” อีกคนถามขึ้น
“ ใช่ครับ ”
“ พวกคุณน่ารักดี เราแค่อยากจะรู้จักน่ะครับ ”
“ คือ...จะรังเกียจหรือเปล่าครับ ถ้าอยากจะชวนไปต่อด้วยกัน ”
“ คงไม่ได้จริงๆครับ แฟนผมเมามากแล้ว ”
“ แล้วถ้า...เอาแฟนไปนอนที่พักก่อนล่ะ แล้วจะมาได้หรือเปล่า ? ”
“ .............................. ” เขาเงียบไปในทันที มองหน้าคนเหล่านั้น
“ อยากมาสนุกด้วยกันมั้ยครับ ? ที่พักเราอยู่ใกล้ๆตรงนี้นี่เอง ” ชายอีกคนพูดเสริม แววตามีเลศนัยที่เขาเองก็พอจะรู้ความหมาย
เขาพิจารณาชายทั้งสามคนที่จัดได้ว่าหน้าตาค่อนข้างดี ดูท่าแล้วน่าจะมีทั้งเกย์รับและรุกนั่นแหละ แต่เรื่องแบบนี้ใครเขาจะสนกัน กลุ่มคนพวกนี้ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงเสียจนไม่อยากจะยืนใกล้ด้วยซ้ำ
“ ขอโทษครับ ตอนนี้ผมไม่อยาก ‘สนุก’ สักเท่าไหร่ เชิญพวกคุณตามสบายเลยครับ ผมขอตัวก่อน ”
“ งั้นเอาแฟนมาด้วยกันก็ได้นะครับ ”
พอได้ยินประโยคนี้เท่านั้นแหละจากที่ก้าวขาถึงกับหยุดกึก ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ คนพวกนี้ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดเรื่องอย่างนั้นกับณัฐเสียด้วยซ้ำ
“ ผมเข้าใจดีว่าพวกคุณหมายความว่ายังไง แต่ผมไม่สนใจข้อเสนอเหล่านั้นเลยสักนิดเดียว อย่ามายุ่งกับพวกผมเลยครับ ผมไม่ใช่เกย์เหมือนพวกคุณ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นเลยยกเว้นคนที่ผมกำลังแบกอยู่นี่ หวังว่าจะเข้าใจนะครับ ขอบคุณครับ ถ้าจะไม่เดินตามมาอีก ”
เขาก้าวเท้าออกเดินและไม่ได้มองสีหน้าของคนกลุ่มนั้นเลยแม้แต่น้อย ใจจริงอยากจะต่อยหน้าให้คว่ำเรียงตัวแต่ต้องทำเป็นพูดดีไว้ก่อน เพราะตอนนี้เขาคนเดียวในสภาพมึนๆนี้อาจจะไม่ไหว สิ่งที่ควรจะทำเป็นสิ่งแรกคือพาณัฐออกมาจากตรงนั้นย่อมดีที่สุด
เดินมาได้สักระยะ เขาหันหลังกลับมามองก็พบว่าไม่มีกลุ่มคนดังกล่าวเดินตามมาแล้ว ค่อยสบายใจได้
“ เฮ้ออ เกือบไป ”
ในที่สุดก็พาณัฐกลับมาถึงที่พักจนได้ หลังจากเข้าห้องเขาก็รีบล็อคประตูอย่างแน่นหนา แล้วจึงวางร่างคนรักลงบนเตียงอย่างเบามือ ฝ่ายนั้นแก้มแดงระเรื่อเมาไม่รู้เรื่องเพราะฤทธิ์ของสุรา เขาส่ายหัวเล็กน้อยแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ เริ่มตั้งแต่ใบหน้าไล้ลงมาเรื่อยๆ อีกฝ่ายส่งเสียงอือออในลำคอเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วบรรจงเปลี่ยนเป็นชุดนอนสบายตัวแทน
ส่วนเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนบ้าง แล้วล้มตัวลงนอนข้างคนรัก พรมจูบที่หน้าผากและริมฝีปากอย่างละที และทันใดนั้นณัฐก็พลิกตัวมาโอบกอดเขาไว้โดยที่ไม่ได้ลืมตาตื่น เขายิ้มให้กับความน่ารักนั้นแล้วจึงนอนกอดอีกฝ่ายบ้าง
“ ฝันดีนะครับที่รัก ”
“ พี่สน ? ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงแหบแห้งออกมา
“ อ้าว ? นึกว่าหลับแล้ว ”
“ ดีใจจังงง...ที่พี่สนไม่ไปกับคนพวกนั้นนน ” ณัฐพูดด้วยท่าทางเมามาย
เขาลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ “ เมามั้ยเนี่ย ? ”
“ มาวววว แต่ยังได้ยิน เข้าใจมั้ยยยย ? ”
“ บ้าเหรอ ? ใครจะไป ฟังดูก็รู้ว่าชวนไปสวิงกิ้งชัดๆ ”
“ แล้วไม่สนเหรอ ? ”
“ ม่ายยยยยย ” เขาบีบจมูกคนรักเบาๆ “ มีแค่กับคนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ ”
“ ดีมากกกก ”
เขาก้มลงจูบอีกฝ่าย ค่อยๆเพิ่มจังหวะและแทรกลิ้นอย่างช้าๆ ตอนแรกฝ่ายนั้นก็ตอบสนองดี แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที...ณัฐก็ไร้ซึ่งการตอบสนองค่อยๆผล็อยหลับไปไปที่สุด เขาจึงผละริมฝีปากออก
“ อ้าว หลับซะแระ ”
เขาถอนหายใจ นึกว่าจะได้มีอะไรกันตอนเมาซะอีก แต่ณัฐดันเมามากจนเกินไปกลายเป็นหลับซะงั้น เฮ้อ..ไม่ดีเลย
เขาจึงเปลี่ยนเป็นพรมจูบที่หน้าผากอีกฝ่าย แล้วนอนกอดกันทั้งคืนแทน
*********************************
แดดทะลุผ่านผ้าม่านสีเหลืองจนเห็นเป็นสีทอง ร่างเพรียวมองนาฬิกาพบว่าสายมากแล้ว แต่เราทั้งคู่ยังคงนอนบนเตียงหนานุ่มไม่ยอมลุกออกไปไหนเพราะความเหนื่อยล้าจากเมื่อคืน
ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บระบมช่วงล่างจนไม่อยากจะขยับเขยื้อนร่างกาย นึกถึงเรื่องเมื่อคืนทีไรก็รู้สึกเขินทุกที เป็นบทรักที่ร้อนแรงอย่างที่ไม่ได้ทำบ่อยนัก เขาหันไปมองหน้าคนที่นอนหลับสนิทอยู่ด้านข้าง แล้วเผยยิ้มออกมาด้วยความสุข จิ้มจมูกคนรักเบาๆ
“ พี่สน...สายแล้วนะ ”
แต่รุ่นพี่ก็ยังไม่ยอมตื่น เขาจึงบีบจมูกอีกฝ่ายไว้แน่น จนหายใจไม่ออก
“ อื้อออ ” พี่สนค่อยๆลืมตาตื่นด้วยความงงงวย
“ ฮ่ะ ๆ ตื่นแล้วเหรอที่รัก ? ขี้เซาจัง ”
“ ณัฐ... ? ”
“ สายแล้วนะ มาเที่ยวทะเลทั้งที จะนอนอยู่แต่ในห้องแบบนี้เหรอ ? ” เขาบอก
“ กี่โมงแล้วอ่ะ ? ”
“ 11 โมง ”
“ งั้นขอนอนต่อ ” ว่าแล้วก็ยกแขนมาโอบเขาไว้แล้วพริ้มตาหลับทันที
“ พี่สนอ่ะ...นอนอะไรเยอะแยะ ”
ฝ่ายนั้นลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง “ ก็มาพักผ่อน...ไม่ให้นอนแล้วให้ทำอะไรครับ ? ” แล้วมือใต้ผ้าห่มก็ค่อยๆลูบไล้
ต้นขาของเขาไปมาเบาๆ จนรู้สึกขนลุก
“ จั๊กจี้นะ ”
“ ขอนอนต่ออีกสักนิดนะ พี่เหนื่อยอ่ะ ” พอเห็นรุ่นพี่ใช้สายตาออดอ้อนเท่านั้นแหละ เขาจึงต้องยอมแต่โดยดี
“ งั้นนอนต่อก็ได้ ”
หลังจากตื่นนอน ก็ปาเข้าไปบ่ายกว่าๆ เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ เราทั้งคู่ก็สวมชุดลำลองสบายตัวแค่เสื้อยืดกางเกงพอดีเข่า ใส่รองเท้าแตะเดินไปตามริมหาดเพื่อหาอาหารอร่อยๆรับประทานเพราะหิวโซไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันด้วยกันทั้งคู่
ระหว่างนั่งรออาหาร เขาก็สังเกตพี่สนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ฝ่ายนั้นกำลังดูรูปในกล้องถ่ายรูป รุ่นพี่ใส่เสื้อกล้ามสีขาวโชว์มัดกล้าม กับกางเกงขาสั้นอย่างที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก จมูกโด่งที่รองรับแว่นกันแดดสีดำสุดเท่เมื่อเห็นทีไรแล้วพาลจะใจละลาย...ทำไมพี่สนถึงเท่อย่างนี้นะ ! แฟนใครเนี่ย ?
ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็ยื่นกล้องมาให้ดู “ ที่รัก ดูรูปนี้สิ ”
จากที่ยิ้มเขาถึงกับหุบยิ้มทันที “ แอบถ่ายตอนไหนเนี่ย ? ”
“ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ” พี่สนหัวเราะอย่างสะใจ “ ณัฐทำหน้าอะไรเนี่ย ตลกชะมัดเลย ”
ภาพในอริยาบถที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ทำหน้าน่าเกลียด...เห็นแล้วก็ตลกจริงๆแหละ อยากจะหัวเราะเหมือนกันแต่ กลัวรุ่นพี่จะได้ใจ ก็เลยต้องหน้าบูดดูท่าทีก่อน
“ พี่สน ตลอดเลย ชอบถ่ายทีเผลอ ”
“ ก็ชอบความธรรมชาตินี่นา ”
“ ไหน ณัฐขอดูบ้างสิ ”
รุ่นพี่ยื่นกล้องมาให้ เขาพิจารณาดูทีละภาพพึ่งรู้ว่าพี่สนถ่ายไว้เยอะเหมือนกัน สถานที่ที่พวกเราผ่านมาเกือบทั้งหมดและภาพของตัวเขาเองทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ที่สำคัญแต่ละภาพนั้นมุมกล้องสวยทั้งนั้น
“ ชอบภาพนี้ ” เขาเอ่ยบอกไปเรื่อยๆเมื่อพบภาพถูกใจ
“ ณัฐ ? ”
“ อะไรเหรอ ? ”
รุ่นพี่ย้ายร่างมานั่งข้างกันทันที “ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปคู่เลยนะ ”
“ งั้นเอาสิ ” เขายิ้มร่า
แล้วเราก็ถ่ายรูปคู่ด้วยกันรูปแล้วรูปเล่า ไม่พอใจก็ถ่ายใหม่ ดูไปก็หัวเราะไป จนอาหารเริ่มทะยอยมาถึงนั่นแหละเราจึงเลิก เพราะความหิวเราทั้งคู่จึงกินอาหารหมดอย่างรวดเร็ว ก็ถึงเวลาสั่งอาหารว่างมากินอีกตามเคย ไอติมรสกะทิเป็นเมนูยอดนิยมของร้านนี้ ส่วนพี่สนอาสาไปซื้อโรตีที่ขายอยู่ริมหาดไม่ไกลมากินด้วยกัน
เรานั่งกินข้างกันอย่างเอร็ดอร่อย เขาป้อนไอติมให้อีกฝ่าย ส่วนพี่สนก็ป้อนโรตีให้เขาจนปากเลอะนมไปหมด
“ พี่สนป้อนยังไงเนี่ย เลอะหมดแล้ว ”
เขาพยายามจะเช็ดปาก แต่ก็ถูกรุ่นพี่จับไว้ที่ข้อมือเสียก่อน “ เดี๋ยวเช็ดให้นะ ”
เป็นดังคาดเมื่อฝ่ายนั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วริมฝีปากของเขาก็ถูกรุ่นพี่ตวัดลิ้นไล้เลียพยายามเช็ดทำความสะอาดให้ แล้วตบท้ายด้วยจุมพิศเป็นของแถมเบาๆ
“ สะอาดแล้ว ” ฝ่ายนั้นพูดเสียงแผ่ว ส่วนเขาหน้าแดงไปจนถึงใบหู นั่งร่างแข็งทื่อ
“ มาจูบอะไรตรงนี้เนี่ย ? ” เขากระซิบด่า
“ ก็ณัฐน่ารักนี่นา อยากจูบ ”
“ กลางร้านอาหารเนี่ยนะ ”
“ ไม่มีใครรู้จักเราหรอก ”
“ คนบ้า !!! ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ” รุ่นพี่หัวเราะอย่างพอใจ
แดดช่วงกลางวันค่อนข้างจ้าบาดตา...คนริมหาดบริเวณนั้นเห็นเพียงแต่ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนเดินจูงมือกันเดินไปตามทาง ท่าทีที่แสดงออกถึงความรักเหล่านั้นเดาได้ว่าเป็น ‘คู่รัก’ กันอย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้
“ แดดแรงมากเลยเนอะ ” เขาเอ่ยบ่นกับรุ่นพี่
“ ทาครีมกันแดดมาหรือยัง ? ”
“ ทาแล้ว ”
“ แต่พี่ว่า...ยังไงณัฐก็คงไม่คล้ำขึ้นหรอก ”
“ แหะ ๆ นั่นสินะ ” เขาหัวเราะเบาๆ
สนมองคนรักด้วยความเอ็นดู ปกติณัฐเป็นคนผิวขาวใสทั้งตัวค่อนไปทางอมชมพูนิดๆ เห็นณัฐตากแดดทีไรก็ไม่เห็นจะดำเลยสักครั้ง มากสุดก็แค่ตัวแดงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็กลับมาผิวขาวใสเหมือนเดิม ราวกับไม่ได้ผ่านอะไรมาด้วยซ้ำ ผู้ชายอะไร ? ผิวดีกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“ แต่พี่สนอ่ะแหละ จะดำขึ้น เหมือนตอนนั้นไง ที่พี่สนออกคอมเมดอ่ะ ตัวดำปี๋เลย ณัฐเห็นแล้วตกใจ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ ขมเค้มขึ้นต่างหาก ผู้ชายผิวแทนออกจะเซ็กซี่ ”
“ แหวะ ” เขาแอบอมยิ้ม
ไม่นานก็ถึงห้องพัก...สำหรับวันนี้เรายังไม่ได้คิดโปรแกรมว่าจะออกไปไหนและช่วงกลางวันแบบนี้แดดยังคงร้อนได้ที่ จึงตกลงกันว่าจะอยู่ห้องพักก่อน และพอนั่งเล่น นอนเล่น เกลือกกลิ้งหยอกล้อบนเตียงกันได้สักพัก แดดก็เริ่มจางลง เราจึงตัดสินใจออกไปเล่นน้ำทะเลกัน
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสวมชุดว่ายน้ำเดินตามริมหาด ส่วนพวกเราใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเป็นพอ เพราะพี่สนให้เหตุผลว่า...ไม่อยากให้คนอื่นเห็นร่างกายเขามากจนเกินไปนั่นเอง
โชคดีที่พวกเราชอบว่ายน้ำด้วยกันทั้งคู่ เราจึงว่ายออกจากฝั่งค่อนข้างไกล รู้สึกสนุกดีเวลาที่คลื่นใหญ่ซัดสาดเข้ามาใกล้จนตัวลอยขึ้นสูงไปตามแรงน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็จับมือกันไว้ไม่ยอมห่าง เล่นน้ำกันจนเหนื่อยและแสงอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า เราก็เข้าฝั่งและกลับไปอาบน้ำที่ห้องพักตามเดิม
“ เล่นน้ำนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันเนอะ ” ร่างเพรียวพูดขึ้น เมื่ออีกฝ่ายกำลังถูสบู่ขัดตัวให้ภายในห้องน้ำแสงสลัว
“ พี่พึ่งรู้...ณัฐก็ว่ายน้ำเก่งเหมือนกันนี่นา ”
“ อย่ามาดูถูกกันนะ ถ้าว่างๆเรามาว่ายน้ำแข่งกันเลย ” เขายักคิ้ว
“ พี่กลัวณัฐจะหมดแรงไปซะก่อนน่ะสิ ”
“ ไม่มีทางซะหรอก ”
สนเชยคางของอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ “ แล้วเมื่อกี้ใครที่บอกว่าเหนื่อยแล้ว ก็เลยชวนขึ้นฝั่งน่ะ ”
“ ณัฐหิวข้าวต่างหาก ” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
แต่ทันใดนั้นก็ถูกรุ่นพี่ขโมยจูบไปเสียก่อน
“ จะว่ายแข่งด้วยก็ได้ แต่ถ้าณัฐแพ้...อืมม ต้องคำตามคำสั่งของพี่ทุกอย่าง โอเคมั้ย ? ”
“ แต่ถ้าพี่สนแพ้...พี่สนก็ต้องคำตามคำสั่งของณัฐเหมือนกันนะ ”
“ ได้ ”
“ งั้นก็ตกลง ” เขายิ้มร่า
“ คิดว่าจะชนะได้เร้ออออ ? ” รุ่นพี่แกล้งกระซิบเบาๆให้ได้ยิน
“ หนอยยยย...เมื่อกี้ว่าไงนะ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ”
“ พี่สนบ้า !! ” เขาจับฝักบัวฉีดใส่อีกฝ่ายทันทีจนรุ่นพี่ต้องพยายามหลบ
“ แกล้งพี่เหรอ ? ฮะ ” แต่ไม่ทันไรฝ่ายนั้นก็เข้ามาแย่งจับโดยเร็ว
ทั้งสองร่างมะรุมมะตุ้มกันได้ไม่นาน ก็กลายเป็นว่าร่างเพรียวถูกจับกดข้อมือชิดกับผนังพร้อมกับฝักบัวที่ยังคงมีน้ำไหลไปตามทาง
“ เดี๋ยวนี้ร้ายนะเรา แกล้งพี่เรื่อย ”
“ ร้ายแล้วไง ? ” ร่างเพรียวเผยยิ้ม
สนมองคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู...เม็ดน้ำเกาะพร่างพรายตามแก้มขาวเนียน ขนตาดำยาวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำกระพริบถี่ๆด้วยความน่ารักน่าชัง ริมฝีปากบางเล็กสีแดงระเรื่อนั้นช่างน่าลิ้มรสยิ่งนัก ถึงจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่ความปรารถนาในคนตรงหน้าไม่เคยที่จะจืดจางลงไปเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เขาพรมจูบที่หน้าผากอีกฝ่ายเบาๆด้วยความทะนุถนอม
“ ก็ยังรักเหมือนเดิมแหละ ”
ณัฐยิ้มกว้าง...รอยยิ้มที่แสนบริสุทธิ์นี้แหละทำให้เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น
“ รักเหมือนกัน ” ฝ่ายนั้นพูดด้วยท่าทางเขินอายแก้มเป็นสีชมพู หัวใจรู้สึกพองโตทุกครั้งเมื่อได้ยินคำว่ารักจากอีกฝ่าย
“ แต่ว่าพี่สน... ” เห็นณัฐหันไปมองทางด้านซ้ายที่เขาจับมืออีกฝ่ายไว้
“ ปิดน้ำก่อนไหม ? มันเปลืองนะ ”
แล้วเราก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน เขาจึงปล่อยมืออีกฝ่าย แล้วปิดฝักบัวทันที
“ เช็ดตัวกันเถอะ ”
ร่างเพรียวพูดด้วยท่าทางเขินอาย แล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหัวให้เขาอย่างเบามือ เราสบตากันอย่างมีความหมายลึกซึ้ง ก่อนที่ณัฐจะดึงชายผ้าขนหนูทั้งสองข้างโน้มศีรษะของเขาให้ลดลงต่ำอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วริมฝีปากของเราก็ค่อยๆประกบกันจนแนบสนิทในที่สุด
ริมฝีปากที่เย็นชืดแต่กลับหอมหวานมากกว่าสิ่งใด เขายกมือขึ้นมาประคองใบหน้าอีกฝ่ายไว้ แล้วจูบอย่างดูดดื่มแทรกลิ้นเป็นการตอบสนอง เรายืนจูบกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน...
“ want เหรอ ? ” เขากระซิบข้างหูคนรัก
“ เปล่าสักหน่อย ” ฝ่ายนั้นทำหน้าเขินอาย
เขายิ้มกว้าง ก่อนที่จะจุมพิศที่ริมฝีปากร่างเพรียวเบาๆ
“ ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า ณัฐเล่นน้ำมาจนเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวจะหมดแรงเที่ยวกันไปซะก่อน งั้นพี่แต่งตัวให้นะ ”
“ อื้ออ ” ฝ่ายนั้นพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู
เราเลือกกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารบรรยากาศดีร้านหนึ่ง นั่งฟังคลื่นทะเลยามค่ำด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากกว่าทุกครั้ง กินอาหารทะเลกันอย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่มแปร้ แล้วพี่สนก็ชวนไปเดินเล่นริมหาดอีกรอบ เดินจูงมือกันไปเรื่อยๆจนผ่านหน้าบาร์เล็กๆร้านหนึ่ง
“ ณัฐ...อยากลองแวะมั้ย ? ” ฝ่ายนั้นนึกสนุกเอ่ยชวน
“ ณัฐไม่เคยเข้าอะไรแบบนี้นะ ” เพราะว่าเขาอายุยังไม่ถึงนั่นเอง
“ ไม่เป็นไรหรอก ที่นี่เข้าได้ เป็นแค่บาร์เล็กๆ อีกอย่าง...มากับพี่ ไม่ต้องกลัวอะไรหรอก ”
เขาจับมืออีกฝ่ายไว้แน่น “ อืมม...งั้นเข้าก็ได้ ”
บรรยากาศภายในร้านแสงค่อนข้างสลัว ได้ยินแต่เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานเปิดดังจนทั่ว เขามองไปรอบๆก็เห็นคนนั่งกันพอประมาณทั้งหญิงและชาย วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน บ้างก็นั่งที่เคาเตอร์ บ้างก็นั่งจับกลุ่มสนทนากันด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้แออัดมากจนเกินไป ระหว่างทางเดินเข้าไปในร้านก็เห็นคนมองมาที่พวกเราด้วยความสนใจกันบ้างกันเล็กน้อย เขาหลบสายตาแล้วพยายามเดินชิดรุ่นพี่ไว้แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากกันไปไหน
โต๊ะตัวเล็กที่มุมหนึ่งถูกเลือกในทันที เรานั่งตรงข้ามกัน เขามองตารุ่นพี่ด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ ณัฐเคยไปแต่ร้านเหล้าหลังมอ ไม่เคยมาที่แบบนี้เลย ”
“ แล้วเป็นไงบ้าง ? ”
“ อืมม บรรยากาศผู้ใหญ่มากขึ้น ฮ่ะๆ ”
“ วันนี้กินแอลกอฮอลล์กันสักหน่อยมั้ย ? ” รุ่นพี่เอ่ยชวน
“ นึกยังไง ถึงอยากกินเหล้าอ่ะ ”
“ ก็มาทะเลทั้งทีนี่นา อยากนั่งกินกับณัฐด้วย จะกินเป็นเพื่อนมั้ยล่ะ ? ”
“ มาแบบนี้ ก็คงต้องลองแหละ แล้วจะกินอะไรอ่ะ ? ”
“ เดี๋ยวลองถามเขาดูก่อนละกัน ”
เมื่อบริกรมาถึงพี่สนถามเมนูว่ามีอะไรบ้าง ทั้งสองฝ่ายพูดแต่ชื่อแปลกๆออกมาซึ่งเขาเองก็ไม่คุ้นหูเท่าใดนัก ได้แต่มองตาปริบๆด้วยความไม่เข้าใจ สักพักรุ่นพี่ก็หันหน้ามาถาม
“ ร้านนี้มีค็อกเทล เราลองกินค็อกเทลกันมั้ย ? ”
“ อืมม ” เขายังไงก็ได้อยู่แล้ว
บริกรเอาภาพเมนูมาให้เลือก รุ่นพี่ยื่นให้เขาดูก่อน เขามองไปทีละภาพก็ไม่รู้หรอกว่าอันไหนอร่อย เขาเห็นภาพหนึ่งดูน่ากินและชื่อเพราะดีจึงตัดสินใจเลือกอันนี้
“ งั้นณัฐเอาอันนี้ ” เขาชี้ไปที่ภาพ
“ Love Never Die เหรอ ? อืมม เลือกได้ดีนิ ” รุ่นพี่ยิ้ม
“ งั้นเอา Love Never Die หนึ่งที่ ส่วนผมเอา Blue Dorado ละกันครับ ”
เมื่อบริกรเดินจากไป เขาจึงถามรุ่นพี่ทันที
“ มันเป็นน้ำผลไม้ผสมเหล้าเหรอ ? ”
“ อืม ใช่ แล้วแต่ชนิดว่าผสมอะไรมากน้อย แต่ก็เมาได้เหมือนกัน ”
“ ณัฐไม่เห็นจะเคยได้ยินสักชื่อเลย ”
“ ดีแล้วแหละ ที่ไม่รู้น่ะ ”
“ พี่สนกินบ่อยเหรอ ? ”
“ ไม่บ่อยหรอก แค่เคยกินบ้าง ”
“ แต่ดูแล้วก็น่ากินนะ อยากรู้ว่ารสชาติจะเป็นไงบ้าง ? ”
แล้วรุ่นพี่ก็เผยยิ้มออกมา “ งั้นวันนี้พี่อนุญาติให้เมาได้หนึ่งวัน เดี๋ยวพี่ดูแลเอง ”
“ หือ ? มันกินจนเมาเลยเหรอ แก้วเล็กๆเอง ”
“ ฮ่ะ ๆ เดี๋ยวก็รู้ ”
เขาหรี่ตา “ พี่สนพาณัฐมามอมเหล้าหรือเปล่าเนี่ย ? ”
“ ไม่ใช่สักหน่อย แค่อยากพามาสนุกเฉยๆ เปิดหูเปิดตาไง ”
เราคุยกันเล่นสักพัก บางครั้งเขารู้สึกเหมือนกับว่ากลุ่มที่อยู่โต๊ะด้านหลังพี่สนซึ่งเป็นผู้ชายสามคน ชอบมองมาที่พวกเขาบ่อยๆแต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไร พยายามพูดคุยกับรุ่นพี่ต่ออย่างปกติ และไม่นานค็อกเทลของพวกเราก็มาถึง เขามองแก้วทรงกลมที่บรรจุน้ำสีส้มอยู่ครึ่งแก้ว ผลส้มที่ถูกฝานแผ่นบางปักวางประดับไว้บนขอบแก้ว ดูแล้วน่ากินยิ่งนัก
“ เนี่ยเหรอ Love never die ” เขามองด้วยความประหลาดใจ แล้วจึงมองแก้วของรุ่นพี่บ้าง ฝ่ายนั้นเป็นแก้วทรงกลมที่มีขนาดใหญ่กว่า ภายในบรรจุน้ำสีฟ้าและถูกเคลือบด้วยเกลือสีฟ้าที่ขอบแก้วเช่นกัน...อืม อันนี้คือ Blue Dorado สินะ
ฝ่ายนั้นยกแก้วขึ้นสูง “ ชนหน่อยมั้ย ? ”
เขายิ้มกว้าง เราชนแก้วกันและกันแล้วยกดื่ม รสชาติของเขาค่อนข้างเปี้ยวหวานอร่อยกำลังดี ไม่ได้รู้สึกขมเหมือนว่ากำลังกินเหล้าเลยสักนิด
“ ขอชิมของพี่สนหน่อยดิ ” เขาอ้อน รุ่นพี่หัวเราะแล้วยื่นแก้วมาให้
แก้วพี่สนรสชาติค่อนข้างเฝื่อนแต่ยังดีที่ถูกข่มไว้ด้วยเกลือที่เคลือบอยู่ปากแก้ว ฝ่ายนั้นคงอ่านสีหน้าของเขาออกจึงเผยยิ้มออกมาทันที
“ ของพี่อ่ะเตกีล่า จะรสชาติเข้มกว่า ส่วนของณัฐ น่าจะเป็นแค่เหล้ารัมนะ ”
“ ไม่อร่อยเลยอ่ะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ อยากลองกินอย่างอื่นอีกอ่ะ ” เขาอมยิ้ม
“ กินแก้วของตัวเองให้หมดก่อนเหอะ ”
เขาทำปากจู๋ แต่ก็ค่อยๆยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างโต๊ะ พร้อมกับมองมาที่พวกเรา
“ ขอชนแก้วด้วยได้ไหมครับ ? ” ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นรุ่นพี่เขาสักสี่ห้าปีเห็นจะได้ พูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มและมองมาที่เราทั้งสองคน ชายคนนี้เป็นหนึ่งคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังรุ่นพี่ เขาจำได้
เขามองหน้ารุ่นพี่ ก็เห็นฝ่ายนั้นยื่นแก้วไปชนอย่างไม่ได้รังเกียจอะไร เขาจึงต้องชนด้วยบ้าง
“ มาเที่ยวกันสองคนเหรอครับ ? ”
“ ใช่ครับ ”
“ อืมม ผมชื่อต้อมนะครับ แล้วพวกคุณ... ”
ชายคนนั้นหันหน้ามาทางเขา ก็เลยต้องบอกออกไป “ อ๋อ ชื่อณัฐครับ ”
“ ชื่อสนครับ ” รุ่นพี่ตอบอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก
“ สนใจอยากนั่งสนุกด้วยกันมั้ยครับ ? ” ชายคนดังกล่าวชี้ไปที่โต๊ะตนเอง
“ อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก ” รุ่นพี่ตอบไปตามมารยาท แต่เขาเดาสีหน้าไม่ถูกจริงๆ
“ งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พวกคุณน่ารักมาก ” แล้วชายคนนั้นก็กลับไปนั่งโต๊ะตามเดิม
เรามองหน้ากันเล็กน้อย พยายามทำตัวไปตามปกติ
“ โต๊ะเกย์แหงๆ ” พี่สนสบถ พร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
“ แต่เราก็เกย์นะ ฮ่ะ ๆ ”
“ พี่เป็นเกย์แค่กับณัฐคนเดียวหรอก คนอื่นไม่สน ”
เขายิ้ม “ ค้าบบบ ทราบแล้ว ”
“ อยากกินไรอีกมั้ย ? เดี๋ยวสั่งเพิ่ม ”
“ อื้มมม ” เขาดื่มรวดเดียวจนหมดเช่นกัน
เราดื่มค็อกเทลหลายรสชาติเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น Mai-Tai , Long Ice Land , Maitini , Pink Lady และตบท้ายด้วย Sex on the beach บางอย่างก็อร่อย บางอย่างก็เฝื่อนซะจนต้องให้พี่สนกินแทน จนเวลาล่วงเลยเราเริ่มจะมึนด้วยกันทั้งคู่ แต่ดูท่าแล้วเขาจะเข้าขั้น ‘เมา’ มากกว่ามึนซะอีกนะเนี่ย
“ ณัฐ ไหวมั้ยเนี่ย ? ”
“ ไหววววววว ” ตอนนี้การจะพูดออกมาแต่ละคำมันช่างยากเย็น ไม่อยากทำอะไรเลย อยากจะนอนอย่างเดียว คิด
ได้ดังนั้นเขาจึงฟุบลงกับโต๊ะทันที
“ อ้าว ไปซะแระ ”
สนที่ตอนนี้เริ่มจะมึนหน่อยๆ เขาสั่งเช็คบิลทันที แล้วเปลี่ยนมานั่งข้างคนรักพยายามสะกิดหรือเขย่าร่างนั้นก็แล้ว แต่ดูท่าแล้วอีกฝ่ายท่าจะเมาจริงๆเพราะไม่ตอบสนองเลยสักนิด เขาจึงแบกร่างนั้นขึ้นหลังแล้วพาออกจากร้านทันที
ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาสักหกทุ่มเห็นจะได้ เขาพาร่างคนรักเดินย่ำไปตามหาดทราย แอบนึกขันอยู่ในใจ วันนี้เขาแค่อยากนึกสนุกพาณัฐมากินเหล้าเปิดหูเปิดตาดูบรรยากาศเท่านั้นเอง เห็นอีกฝ่ายตื่นเต้นดีใจก็รู้สึกตลกดี คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าวันนี้ณัฐเมาก็คงจะไม่เป็นไร เพราะยังมีเขาอยู่ดูแลไม่ได้ห่างไปไหน
“ ณัฐ หลับแล้วเหรอ ? ” เขาถามระหว่างทาง ได้ยินแต่เสียงอือออในลำคอแต่ก็ไม่ยอมตื่นเลย
เดินไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงของกลุ่มคนทางด้านหลังที่อยู่ไม่ไกล เขาไม่ได้ใส่ใจ แต่ไม่นานก็ได้ยินใครคนหนึ่งพูดขึ้น
“ กลับที่พักไหวเหรอครับ ? ”
เขาหันไปมอง ก็เห็นกลุ่มชายสามคนที่พอจะจำได้ว่านั่งโต๊ะด้านหลังของเขานั่นเอง ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเกย์แน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรุกหรือรับเท่านั้นเอง
“ ไหวครับ ไม่ได้เมา ” เขาตอบตามจริง เพราะแค่รู้สึกมึนนิดหน่อยเท่านั้นเอง เดินแบกณัฐกลับที่พักได้สบายมาก
“ พวกคุณสองคนคงจะเป็นแฟนกัน ? ” อีกคนถามขึ้น
“ ใช่ครับ ”
“ พวกคุณน่ารักดี เราแค่อยากจะรู้จักน่ะครับ ”
“ คือ...จะรังเกียจหรือเปล่าครับ ถ้าอยากจะชวนไปต่อด้วยกัน ”
“ คงไม่ได้จริงๆครับ แฟนผมเมามากแล้ว ”
“ แล้วถ้า...เอาแฟนไปนอนที่พักก่อนล่ะ แล้วจะมาได้หรือเปล่า ? ”
“ .............................. ” เขาเงียบไปในทันที มองหน้าคนเหล่านั้น
“ อยากมาสนุกด้วยกันมั้ยครับ ? ที่พักเราอยู่ใกล้ๆตรงนี้นี่เอง ” ชายอีกคนพูดเสริม แววตามีเลศนัยที่เขาเองก็พอจะรู้ความหมาย
เขาพิจารณาชายทั้งสามคนที่จัดได้ว่าหน้าตาค่อนข้างดี ดูท่าแล้วน่าจะมีทั้งเกย์รับและรุกนั่นแหละ แต่เรื่องแบบนี้ใครเขาจะสนกัน กลุ่มคนพวกนี้ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงเสียจนไม่อยากจะยืนใกล้ด้วยซ้ำ
“ ขอโทษครับ ตอนนี้ผมไม่อยาก ‘สนุก’ สักเท่าไหร่ เชิญพวกคุณตามสบายเลยครับ ผมขอตัวก่อน ”
“ งั้นเอาแฟนมาด้วยกันก็ได้นะครับ ”
พอได้ยินประโยคนี้เท่านั้นแหละจากที่ก้าวขาถึงกับหยุดกึก ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ คนพวกนี้ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดเรื่องอย่างนั้นกับณัฐเสียด้วยซ้ำ
“ ผมเข้าใจดีว่าพวกคุณหมายความว่ายังไง แต่ผมไม่สนใจข้อเสนอเหล่านั้นเลยสักนิดเดียว อย่ามายุ่งกับพวกผมเลยครับ ผมไม่ใช่เกย์เหมือนพวกคุณ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นเลยยกเว้นคนที่ผมกำลังแบกอยู่นี่ หวังว่าจะเข้าใจนะครับ ขอบคุณครับ ถ้าจะไม่เดินตามมาอีก ”
เขาก้าวเท้าออกเดินและไม่ได้มองสีหน้าของคนกลุ่มนั้นเลยแม้แต่น้อย ใจจริงอยากจะต่อยหน้าให้คว่ำเรียงตัวแต่ต้องทำเป็นพูดดีไว้ก่อน เพราะตอนนี้เขาคนเดียวในสภาพมึนๆนี้อาจจะไม่ไหว สิ่งที่ควรจะทำเป็นสิ่งแรกคือพาณัฐออกมาจากตรงนั้นย่อมดีที่สุด
เดินมาได้สักระยะ เขาหันหลังกลับมามองก็พบว่าไม่มีกลุ่มคนดังกล่าวเดินตามมาแล้ว ค่อยสบายใจได้
“ เฮ้ออ เกือบไป ”
ในที่สุดก็พาณัฐกลับมาถึงที่พักจนได้ หลังจากเข้าห้องเขาก็รีบล็อคประตูอย่างแน่นหนา แล้วจึงวางร่างคนรักลงบนเตียงอย่างเบามือ ฝ่ายนั้นแก้มแดงระเรื่อเมาไม่รู้เรื่องเพราะฤทธิ์ของสุรา เขาส่ายหัวเล็กน้อยแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ เริ่มตั้งแต่ใบหน้าไล้ลงมาเรื่อยๆ อีกฝ่ายส่งเสียงอือออในลำคอเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วบรรจงเปลี่ยนเป็นชุดนอนสบายตัวแทน
ส่วนเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนบ้าง แล้วล้มตัวลงนอนข้างคนรัก พรมจูบที่หน้าผากและริมฝีปากอย่างละที และทันใดนั้นณัฐก็พลิกตัวมาโอบกอดเขาไว้โดยที่ไม่ได้ลืมตาตื่น เขายิ้มให้กับความน่ารักนั้นแล้วจึงนอนกอดอีกฝ่ายบ้าง
“ ฝันดีนะครับที่รัก ”
“ พี่สน ? ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงแหบแห้งออกมา
“ อ้าว ? นึกว่าหลับแล้ว ”
“ ดีใจจังงง...ที่พี่สนไม่ไปกับคนพวกนั้นนน ” ณัฐพูดด้วยท่าทางเมามาย
เขาลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ “ เมามั้ยเนี่ย ? ”
“ มาวววว แต่ยังได้ยิน เข้าใจมั้ยยยย ? ”
“ บ้าเหรอ ? ใครจะไป ฟังดูก็รู้ว่าชวนไปสวิงกิ้งชัดๆ ”
“ แล้วไม่สนเหรอ ? ”
“ ม่ายยยยยย ” เขาบีบจมูกคนรักเบาๆ “ มีแค่กับคนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ ”
“ ดีมากกกก ”
เขาก้มลงจูบอีกฝ่าย ค่อยๆเพิ่มจังหวะและแทรกลิ้นอย่างช้าๆ ตอนแรกฝ่ายนั้นก็ตอบสนองดี แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที...ณัฐก็ไร้ซึ่งการตอบสนองค่อยๆผล็อยหลับไปไปที่สุด เขาจึงผละริมฝีปากออก
“ อ้าว หลับซะแระ ”
เขาถอนหายใจ นึกว่าจะได้มีอะไรกันตอนเมาซะอีก แต่ณัฐดันเมามากจนเกินไปกลายเป็นหลับซะงั้น เฮ้อ..ไม่ดีเลย
เขาจึงเปลี่ยนเป็นพรมจูบที่หน้าผากอีกฝ่าย แล้วนอนกอดกันทั้งคืนแทน
*********************************
ฝากเพจพี่สนกะน้องณัฐด้วยนะค้าบบบบ
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่นี่นะ ^_________^
v
v
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น