ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #91 : บทที่แปดสิบสาม -- ปิดเทอม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.17K
      3
      19 ก.ย. 54

    บทที่แปดสิบสาม

       

               เช้าที่ตื่นขึ้นมาในแต่ละวันช่างมีความสุข...เราจูบทักทายกันในเช้าวันใหม่  ก่อนที่จะลุกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ  ใช่แล้ว  เพราะวันนี้เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของนักศึกษาปีหนึ่งอย่างเขา  ส่วนพี่สนก็กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอมจึงว่างและอาสาไปรับไปส่งได้ตลอดทั้งวัน  เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะทั้งว่างและคงจะห่วง ‘เรื่องบางเรื่อง’ ด้วยน่ะแหละ ช่วงนี้รุ่นพี่จึงตามติดเขาไม่ยอมห่าง
       
               หลังจากสอบเสร็จ...เขาก็รู้สึกโล่งและผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะความกดดันจากการสอบที่ยาวนานถึงสองสัปดาห์ ทำให้ไม่ค่อยได้นอนอย่างเต็มอิ่มเท่าใดนัก  เขาจึงสัญญากับตัวเองว่าจะพักผ่อนให้เต็มที่หลังจากการสอบในครั้งนี้

      
    “ จบปีหนึ่งแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ? ”  รุ่นพี่เข้ามาโอบกอดทางด้านหลัง เมื่อเรากลับมาถึงห้องพัก   

    เขายิ้ม  “ รู้สึกง่วง ”
       
    “ อ้าว ? ”
       
    “ ฮ่ะ ๆ ก็ดี  ผ่านไปอีกปีแล้ว คิดดีๆก็ไวเหมือนกันเนอะ ณัฐกำลังจะขึ้นปีสอง ส่วนพี่สนก็กำลังจะขึ้นปีสี่ ”  เขาหันมาจิ้มจมูกอีกฝ่ายเบาๆ  “ แล้วพี่สน...ก็จะได้ฝึกงานในโรงพยาบาลแล้วสิเนี่ย ? ”
       
    “ นั่นสินะ ต้องหนักแน่ๆเลย เห็นรุ่นพี่ว่างั้น ”
       
    “ สู้ๆนะ ”
       
    ฝ่ายนั้นหอมแก้มเขาเบาๆ  “ เราน่ะแหละ เตรียมตัวไว้เหอะ ปีสองมันยากนะ ”
       
    “ จริงเหรอ ? ”
       
    “ ฮ่ะ ๆ ๆ ขู่ไว้ก่อน... เนื้อหามันเยอะแล้วก็ยากด้วย ไม่เหมือนปีหนึ่งเลยสักนิด แต่พี่ว่าณัฐคงไม่มีปัญหาหรอก ขยันขนาดนี้ ”
       
    เขายิ้มพยักหน้า “ อืม ณัฐก็ว่าไม่มีปัญหาหรอก ฮ่ะ ๆ ”
       
    “ มั่นใจตลอด ”  รุ่นพี่ขยี้หัวเขาเบาๆ
       
               ช่วงนี้ไม่มีเรื่องของ ‘พี่พีท’ เข้ามาให้วุ่นวายใจ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกและพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันอยู่แล้ว  เราทั้งสองจึงสบายใจว่าเรื่องคงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
       
    “ หิวข้าวแล้วอ่ะ ไปหาไรกินกันเถอะ ”  เขาชวนรุ่นพี่
       
    “ อืม ได้ งั้นอาบน้ำก่อนละกัน ”
       
    “ ณัฐอาบก่อนนะ ”
       
    “ อาบด้วยกันเลยดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลา ”  ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปาก
       
    “ ตลอดดด ”

       
                เย็นวันนี้เราอาบน้ำด้วยกันเหมือนทุกครั้ง เหตุผลของรุ่นพี่ที่บอกว่า ‘การอาบน้ำด้วยกันไม่เสียเวลา’ นั้นไม่เคยเป็นจริงเลยสักครั้ง เพราะเวลาอาบด้วยกันทีไรเราทั้งสองมักจะใช้เวลานานเสมอ  หยอกล้อไปพลางถูตัวให้กันไปพลาง จูบลูบไล้คลอเคลียไปตามประสา นานเข้าก็กลัวว่าจะเป็นไข้หวัดไปซะก่อน จึงต้องรีบเช็ดตัวและออกมาในที่สุด 

                 หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ก็พาเขาขับรถหาร้านอาหารบรรยากาศดีสำหรับมื้อค่ำของเราในวันนี้  ขับรถออกไปแถวชานเมืองประมาณสามสิบนาทีก็ถึงร้านเป้าหมาย เมื่อเจอร้านอาหารร้านหนึ่งพี่สนก็เลี้ยวรถเข้าทันที
       
    “ อืมม ร้านนี้แหละ พอดีไอ้เก่งมันแนะนำพี่มา ”
       
                 เขามองร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยไม้ทั้งร้าน  ทุกโต๊ะมีโคมระย้าส่องแสงนวลสีทองชวนให้รู้สึกเจริญอาหารมากยิ่งขึ้น คนในร้านไม่พลุกพล่านจนเกินไป  เราทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน เลือกโต๊ะที่ใกล้กับสระน้ำและมีวงดนตรีอยู่อีกฝั่งหนึ่งเพราะคิดว่าเป็นมุมที่บรรยากาศดีมากที่สุด
       
    “ พี่เก่งหาเจอได้ไงเนี่ย ? ร้านออกจะหาทางมายาก ฮ่ะ ๆ ”
       
    “ นั่นดิ...เห็นมันบอกว่าร้านนี้บรรยากาศดี อาหารก็อร่อย ก็เลยอยากชวนณัฐมากินด้วยกัน ”
       
    เขาอมยิ้ม  “ ถ้าพี่สนมาด้วยกัน...ร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ”
       
    “ เดี๋ยวนี้มีปากหวานนะ ”  รุ่นพี่ยิ้ม
       
    เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางซุบซิบมุมปาก  “ ปากหวานไม่หวาน ก็ชิมออกบ่อยไม่ใช่เหรอ ? ”
       
    พี่สนปล่อยหัวเราะออกมาทันที  “ หวาน...ก็เลยอยากชิมอีกเรื่อยๆไง ”
       
    เขาเป้ปากให้ “ ของหวานกินบ่อยๆไม่ดีนะ เดี๋ยวอ้วน ”
       
    “ ถ้าอ้วนแล้วรักมั้ยล่ะ ? ”
       
    “ รักสิ ”   เราทั้งคู่เผยยิ้มให้กัน  พอดีกับที่บริกรเดินเข้ามาหา เราแอบลอบมองกันแวบหนึ่ง  ก่อนที่จะสั่งอาหารและทำตัวให้เป็นปกติ


                อาหารของที่นี่อร่อยสมชื่อ ยิ่งมีเสียงเพลงคลอเบาๆดังมาจากอีกฝั่งยิ่งทำให้มีความสุขในการกินมากยิ่งขึ้น  พี่สนตักอาหารให้เขาจานแล้วจานเล่า เราผลัดกันตักอาหารให้กันและกันจนอาหารเริ่มหมด ยังไม่วายที่ชวนกันสั่งของหวานมากินกันอีกรอบ

    “ ตั้งแต่มาอยู่กับพี่สน ณัฐน้ำหนักขึ้นตั้งสองกิโลเลยแน่ะ ”

    “ ดีแล้ว จะได้มีเนื้อมีหนังมากขึ้น จับเต็มไม้เต็มมือ ”

    “ หมายความว่าไง ? ”

    “ เวลากอดจะได้อบอุ่นต่างหาก ”

    “ เหรอออ ”

    “ ฮ่ะ ๆ กินไปเหอะ กินเยอะๆ วัยกำลังโต ”  รุ่นพี่พูดยังกะเขาเป็นเด็กไปได้

    ฝ่ายนั้นหยุดกิน แล้วนั่งจ้องหน้าเขาอยู่นาน ด้วยความแปลกใจเขาจึงถามขึ้น

    “ พี่สน มองอะไรอ่ะ ? ”

    รุ่นพี่ยิ้มออกมาทันที  “ ณัฐ...เราไปเที่ยวกันมั้ย ? ”

    “ หือ ?...เที่ยวไหนเหรอ ”

    “ ไปเที่ยวไหนก็ได้  ก็เราปิดเทอมอยู่นี่นา ”

    “ นั่นสินะ ”  รู้สึกใจเต้นขึ้นมาทันที  เพราะช่วงก่อนหน้านี้มัวแต่เคร่งเครียดและพะวงเกี่ยวกับการสอบ จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องเที่ยวช่วงปิดเทอม


    “ แล้ว...พี่สนอยากไปไหนเหรอ ? ”

    “ อืมม.... ”

    “ ............................ ”



    “ เราไปทะเลกันไหม ? ”




     ********************************

       

                เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส  เขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกคึกคักอย่างบอกไม่ถูก ลุกจากเตียงนอนแล้วจูบทักทายสุดที่รักเหมือนอย่างทุกครั้ง

       
    “ พี่สน ตื่นได้แล้ววว ”  ฝ่ายนั้นยังคงงัวเงีย ตวัดแขนมาโอบกอดเขาไว้เช่นเดิม

       
               เมื่อคืนหลังจากที่ตกลงว่าจะไปเที่ยวทะเลกัน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างบอกไม่ถูก พอกลับมาจากร้านอาหารเราจึงช่วยกันค้นหาข้อมูลสถานที่ที่น่าสนใจ จนได้ข้อสรุปว่า  เราทั้งสองคนจะไป..เสม็ด..กัน 

      
    “ เดี๋ยวก็สายหรอก วันนี้เราจะไปทะเลกันนะ ” เขาปลุกรุ่นพี่อีกครั้ง

       
              ฝ่ายนั้นลืมตาตื่นขึ้น จุ๊บเขาหนึ่งที ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทันที ระหว่างที่รออีกฝ่าย เขาอาสาเป็นคนจัดของเองทั้งหมด เตรียมเสื้อผ้าของเราทั้งสองคนใส่กระเป๋า ของใช้ที่จำเป็น และไม่ลืมที่จะเอากล้องถ่ายรูปเพื่อไปเก็บภาพสวยๆด้วย
       
               เป็นการเที่ยวด้วยกัน ‘สองคน’ เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันตามประสา ‘คู่รัก’  เราตกลงกันว่าจะขับรถไปกันเองถึงแม้จะใช้เวลานานสักหน่อยแต่ก็เพื่อความสะดวก  เผื่ออยากแวะที่ไหนเพิ่มเติมจะได้ไปได้อย่างสบายใจ  ถ้าออกเดินทางตั้งแต่ตอนนี้ คาดว่าคงจะไปถึงสักเย็นๆและเข้าที่พักที่จองไว้ได้พอดี

       
    “ พี่สน เราจะอยู่กันกี่วันเหรอ ? ”  เขาถามขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังแต่งตัว

    “ ก็...แล้วแต่ณัฐเลย อยากอยู่กี่วันก็ได้ แต่คิดว่าน่าจะสามสี่วันก็โอเคนะ แล้วค่อยหาที่เที่ยวต่อ ”
       
    “ โห ต้องหมดตังเยอะแน่เลย ”
       
    “ ไม่ต้องห่วงหรอก  เดี๋ยว ‘ป๋า’ เลี้ยงเอง ฮ่า ๆ ”
       
    “ งั้นป๋ากระเป๋าพรุนแน่ ”  เขาแลบลิ้นให้
       
    “ ก็ไม่ได้เลี้ยงฟรีๆหรอก  เดี๋ยวจะเอาคืนให้คุ้มเลย ไปทะเลทั้งที ”
       
    “ ทะลึ่ง ! ”  เขาหน้าแดง
       
    “ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวพี่จัดของต่อเอง ”
       
    “ ก็ได้ ณัฐคิดว่าที่จำเป็นก็น่าจะครบแล้วแหละ แต่ถ้าพี่สนอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็จัดเพิ่มเอาละกันนะ ”
       
    “ ค้าบบบ ”

       
             และระหว่างที่เขากำลังจะไปอาบน้ำอยู่นั้น ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยืนหันหลัง ง่วนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้  เห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะแกล้งสักหน่อย  เขาจึงค่อยๆเดินย่องไปข้างหลังแล้วกระตุกผ้าเช็ดตัวผืนบางนั้นออกทันที ก่อนที่จะวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำโดยเร็ว

            “ เฮ้ย !! ”  ได้ยินแต่เสียงอุทานด้วยความตกใจของรุ่นพี่ ส่วนเขาก็ได้แต่แอบหัวเราะในห้องน้ำแค่คนเดียว

       
             ประมาณแปดโมงเช้า...หลังจากอาบน้ำแต่งตัว ตรวจทานสิ่งของสัมภาระทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เราทั้งสองคนจึงออกเดินทางด้วยความตื่นเต้นคึกคัก  รุ่นพี่สวมแว่นกันแดดสุดเท่เตรียมพร้อมขับรถ พยักหน้าให้กันด้วยความมุ่งมั่น  แล้วเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองทันที...




    **************************************

       


               อากาศค่อนข้างร้อนเพราะเดินทางช่วงกลางวัน แต่พี่สนก็ขับรถอย่างสบายใจและเปิดเพลงฟังไปตลอดทาง  เขาคอยชวนคุยอยู่เป็นระยะไม่ได้หลับเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเหนื่อยจนเผลอหลับในไปซะก่อน  พอเริ่มหิวเราก็แวะจอดร้านอาหารข้างทางสักร้าน พอพักหายเหนื่อยก็ออกเดินทางต่อเป็นอย่างนี้ตลอดระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร

              ในที่สุดพอถึงช่วงใกล้เย็น...เราก็เดินทางเข้าสู่จังหวัดระยอง  ลัดเลาะไม่นานก็ถึงท่าเรือเป้าหมาย  เราจอดรถไว้ที่ท่าเรือ  จัดการขนของสัมภาระแล้วออกเดิน  เห็นผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเดินพลุกพล่านเช่นกัน ทั้งคนไทยและต่างชาติ  พ่อค้าแม่ค้าประกาศขายของกันเจื้อยแจ้ว  ได้เห็นบรรยากาศของการท่องเที่ยวก็ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยได้ในทันที  เราช่วยกันถือของและนั่งรอที่ท่าเรือเพื่อรอเรือลำต่อไป


              ระหว่างนั่งรออยู่นั้นเขาก็มองนักท่องเที่ยวคนอื่นๆไปพลาง  มีทั้งมากันแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิท หรือมาแบบคู่รักก็ตาม คู่รัก...เท่าที่ดูมีประมาณสามสี่คู่  แต่ไม่มีคู่ไหนมากันแบบ ‘พวกเขา’ เลย
    ทันใดนั้น รุ่นพี่ก็เอื้อมมือมากุมมือเขาไว้เบาๆ เขาหันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายยิ้มมาให้


    “ ดีใจจัง ได้มาเที่ยวด้วยกัน ”

    เขายิ้มตอบ “ ครับ ณัฐก็ดีใจเหมือนกัน ”

    “ อยู่ที่นี่...ขอจับมือณัฐไว้ตลอดเลยได้ไหม ? ”  พี่สนกุมมือเขาไว้แน่นแล้วยิ้มกว้างมาให้

                เขามอง ‘แหวนคู่’ ที่อยู่บนนิ้วนางข้างขวาของเราทั้งสองคน แล้วให้รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก  เขากับพี่สนเป็นแฟนกัน...และที่นี่คงเป็นสถานที่ที่ ‘อิสระ’ สำหรับเรามากพอที่จะสามารถทำอะไรก็ได้เท่าที่ใจต้องการ เพราะไม่มีใครรู้จักเรา  พอคิดได้ดังนั้นหัวใจก็รู้สึกเบาโล่งกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา  เขาแอบเหลือบมองคนอื่นเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้าตอบด้วยความเขินอายในลำคอเบาๆว่า...

                “ ก็เอาสิ ”


                ไม่นานเรือลำใหม่ก็เข้ามาเทียบท่า เราถือสัมภาระลงเรือ จับมือช่วยกันประคองอย่างไม่สนใจสายตาใครอย่างที่เขาไม่ได้ทำบ่อยนัก  รู้สึกเขินแปลกๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขัดเคืองอะไร

    “ พี่สน คนอื่นเขามองเราด้วยนะ ”

    เขาแอบกระซิบข้างหูรุ่นพี่เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว เพราะเห็นบางคนแอบเหลือบมองมาที่พวกเขาจริงๆ

    “ เขามอง ‘คู่รักหน้าตาดี’ ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ ”  ฝ่ายนั้นพูดติดตลก จนทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาด้วย

    “ บ้า...หลงตัวเอง ”

    “ แล้วไม่จริงเหรอ ? ”

    “ ก็จริง ฮ่ะ ๆ ๆ ”

       
              นั่งบนเรือ คุยกันไปพลาง มองบรรยากาศของท้องทะเลยามเย็นไปพลาง ไม่นานก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวจากเรือที่โคลงเคลงไปมา  เขาพยายามนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาเพราะเริ่มรู้สึกไม่ไหว  พี่สนเหมือนรู้ใจรีบคว้าศีรษะเขาไปพิงไหล่ไว้ทันที
       
    “ เมาเรือเหรอ ? ”
       
    “ อืมม คงงั้นแหละ ”
       
    “ เอายาดมมั้ย ? ”
       
    “ ไม่เป็นไรหรอก แค่เวียนหัวน่ะ ”
       
    “ ทนอีกหน่อยนะ ใกล้จะถึงแล้ว ”  ฝ่ายนั้นลูบศีรษะเขาเบาๆ
       
    “ ครับ ” 


               ยังดีที่เขาพอทนได้ ไม่ได้ถึงขั้นพะอืดพะอมจนอยากอาเจียนเท่าใดนัก  นั่งซบรุ่นพี่ได้ไม่นานเรือก็เทียบท่าเข้าสู่เกาะเสม็ด  เขามองชายฝั่งแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อาการเวียนหัวก็ค่อยๆพลันหายไป

               นักท่องเที่ยวคนอื่นๆลงจากเรือพากันทะยอยขึ้นฝั่ง  เขากับพี่สนก็เช่นกัน บนท่าเรือได้ยินแต่เสียงคนรถเรียกลูกค้าแข่งกัน เราสองคนเลือกขึ้นรถประจำทางคันเล็กคันหนึ่งเพื่อไปยังหาดที่หมายอีกต่อหนึ่ง เราเลือกหาดที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เพราะอยากจะพักผ่อนกับธรรมชาติจริงๆ

       
                ...และแล้วก็เดินทางมาถึงจุดหมาย...


               พระอาทิตย์ใกล้จะลับสายตา  ร่างทั้งสองเดินย่ำไปตามหาดทรายสีขาว  ทางฝั่งขวามองเห็นน้ำทะเลที่กำลังซัดสาดคลื่นเข้ามาหาเป็นระลอกราวกับจะทักทาย  รุ่นพี่หยุดถ่ายรูปแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นครั้งคราวก่อนที่จะไปติดต่อเรื่องห้องพักที่ได้จองไว้แล้ว

               เมื่อได้รับกุญแจห้องมาแล้วเราก็มุ่งตรงสู่ห้องพักในทันที  บ้านหลังเล็กน่าอยู่และทันสมัยอยู่ตรงหน้า...คล้ายกับภาพที่เราเห็นในอินเตอร์เนตเมื่อวานนี้  ก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดขั้นเตี้ยสีขาว ถอดรองเท้าไว้ด้านหน้าก่อนที่จะเปิดกระจกบานใหญ่ที่ถูกปิดด้วยม่านสีเหลืองนวลด้วยความตื่นเต้น  มองเข้าไปภายในก็เห็นเครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน  โดยเฉพาะเตียงนุ่มน่านอนนั้น


    “ เย้ ๆ ๆ ๆ ถึงที่พักเราแล้ว !! ”  เขาวางกระเป๋าไว้บนพื้นแล้วล้มตัวลงนอนทันที

    “ ฮ่ะ ๆ ๆ ”  รุ่นพี่นำกระเป๋าไปจัดวางไว้อีกมุมหนึ่ง แล้วสำรวจภายในห้องจนทั่ว เขาได้แต่มองรุ่นพี่เดินไปมาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข

    “ ห้องน่ารักมากเลย  แต่พี่สนเลือกซะแพงเลยอ่ะ  นอนห้องธรรมดาก็ได้ ”

    “ ก็มันไม่โรแมนติกนี่นา อยากได้แบบโรแมนติก ”

    “ แค่มาทะเลก็โรแมนติกแล้ว ”  เขาพูดอมยิ้ม  “ จะว่าไปแล้วก็ถึงเร็วเหมือนกันเนอะ  เมื่อวานนี้เรายังสอบอยู่เลย วันนี้ก็มาถึงเสม็ดแล้ว ”

    “ ทริปนี้ไม่ต้องมีโปรแกรมอะไรมากหรอก  อยากไปไหนก็ไป โอเคนะ ? ”

    “ โอเค ! ”  เขายิ้มกว้างจนตาหยี  รุ่นพี่จึงเดินเข้ามาขยี้หัวเบาๆและนั่งลงบนพื้นข้างกัน

    “ รู้แล้วว่ามีความสุข ฮ่ะ ๆ ”
       
    “ ช่วงที่ผ่านมาเราต่างก็เหนื่อยจากการสอบ ณัฐดีใจที่ได้มาเที่ยวพักผ่อน ได้เห็นทะเล เห็นหาดทรายแล้วมันรู้สึกสดชื่น  และก็ที่สำคัญ...ดีใจที่ได้มากับพี่สนด้วย ”
       
    “ พี่ก็ดีใจที่ได้มากับณัฐ ”

       
    รุ่นพี่เชยคางเขาขึ้นก่อนที่จะพรมจูบอย่างอ่อนโยน  “ถ้าณัฐมีความสุข  อยากอยู่นานแค่ไหนก็ได้นะ”
       
    “ ดีใจจัง...ป๋าใจดีสุดๆอ่ะ ”
       
    “ แล้วคืนนี้อยากนอนพักผ่อนก่อน หรืออยากไปเดินชายหาดตอนกลางคืนล่ะ ? ”  รุ่นพี่ถาม
       
    “ อยากเดินชายหาดตอนกลางคืน ! ”  เขาตอบทันที
       
    “ ดี  งั้นก็ไปอาบน้ำ  ตัวเหนียวหมดแล้ว  จะได้ออกไปหาไรกินกัน ”
       
    “ ค้าบบบบ ”  เขาเด้งตัวจากที่นอนทันที




    ***********************************

       

               หลังจากกินอาหารเย็นที่ร้านริมหาดบรรยากาศดีร้านหนึ่ง เราก็ออกมาเดินเล่นกัน
       
               ผู้คนค่อนข้างบางตาและนั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกหาดแห่งนี้ บรรยากาศทะเลในยามค่ำคืนทำให้รู้สึกดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ลมเย็นลอยมาปะทะใบหน้า ได้ยินเพียงเสียงคลื่นที่ซัดสาดเป็นจังหวะ เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แล้วจับมืออีกฝ่ายมากุมไว้แน่น

               ถอดรองเท้าให้เท้าได้สัมผัสกับความนุ่มของเม็ดทราย  เดินจับมือกันไปตามริมหาดที่ทอดยาว คุยเรื่องสัพเพเหระ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างซึ่งนั่นก็ไม่ได้สำคัญเท่าใดนัก รู้แต่ว่าช่วงเวลาเหล่านี้มีความหมายและทำให้พวกเรามีความสุขมากเพียงใด


    “ อากาศดีจังเลย พี่สนว่ามั้ย ? ”

    “ นั่นสินะ ลมเย็นดี ”

    “ ตอนกลางคืนคลื่นกำลังขึ้นสูงด้วย ”  เขาชี้ให้อีกฝ่ายดู

    “ อยากเล่นน้ำทะเลกันมั้ย ? ”

    “ ตอนนี้เนี่ยนะ ”  เขาตกใจ

    “ ทำไมเหรอ ? ”

    “ ทะเลตอนกลางคืน น่ากลัวออก มองไม่เห็นอะไรเลย ”

    “ ฮ่ะ ๆ ๆ ล้อเล่น พี่ก็ไม่กล้าเล่นหรอก เหนื่อยเพราะขับรถมาทั้งวัน เดี๋ยวเป็นตะคริวกันพอดี ”

    “ งั้นเดินอีกสักหน่อยแล้วเรากลับกันนะ  พี่สนจะได้พักผ่อนด้วย ”

    “ ก็ได้ ”


              ระหว่างที่เรากำลังเดินกลับ ก็มีกลุ่มคนหลายกลุ่มเดินสวนทางกัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจและยังคงเดินจับมือกันเช่นเดิม

    “ พี่สน ? ”  เขาเรียกอีกฝ่าย

    “ ปิดเทอมครั้งหน้า  เรามาเที่ยวด้วยกันแบบนี้อีกนะ ”
       
    รุ่นพี่ยิ้ม  “ ไปเที่ยวทุกปิดเทอมเลยดีมั้ย ? ”
       
    “ จริงนะ ”  เขาเกาะแขนอีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความดีใจ
       
    “ หอมแก้มก่อนสิ ”
       
    “ มีข้อแลกเปลี่ยนตลอด ”
       
                แต่สุดท้ายเขาก็ยืดตัวแล้วหอมแก้มรุ่นพี่แต่โดยดี  รู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่ต้องมาหอมแก้มกันริมหาดแบบนี้  ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่เขาก็ได้ทำไปแล้ว เห็นรุ่นพี่เอาแต่ยิ้มไม่หุบ  เขาจึงทุบแขนฝ่ายนั้นไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย

    “ บ้า !! พี่สน เขินอ่ะ ”

    “ ฮ่ะ ๆ ๆ เขินไร คนรักกัน ” 

       
               หยอกกันไปมาก็เดินมาจนถึงห้องพักสักที  เขารู้สึกเหนียวตัวเล็กน้อยเพราะลมทะเลค่อนข้างแรง จึงคิดว่าจะอาบน้ำอีกรอบสักหน่อย จะได้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายตัว  กำลังจะเดินไปหาผ้าเช็ดตัว ก็มีใครบางคนเข้ามาโอบทางด้านหลังเข้าซะก่อน
       
    “ ณัฐ...มีความสุขจังเลยเนอะ มาเที่ยวด้วยกันสองคน ”
       
    “ ครับ ”
       
               รุ่นพี่จับไหล่เขาให้หันไปเผชิญหน้า เรามองสบตาลึกซึ้งกันอยู่นาน ฝ่ายนั้นประคองใบหน้าของเขาไว้แล้วลูบไล้แก้มเนียนอย่างเบามือ  เขาพริ้มตาหลับเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายเริ่มเข้ามาใกล้  จูบที่แสนอ่อนโยนและนุ่มละมุนเข้ามาเยือนให้หัวใจได้พองโตอีกครั้ง เรายืนจูบกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานแสนนาน
       

               ร่างสูงพรมจูบไปตามแก้มขาวเนียน ลำคอ แล้วกลับมาบดเบียดที่ริมฝีปากอีกครั้ง มือที่ประคองเอวเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายผ่านเสื้อยืดตัวบาง  ร่างเพรียวประคองใบหน้าของอีกฝ่ายไว้แล้วหลับตาพริ้มตอบสนองจูบเป็นอย่างดี...

               เราบอกรักกันและกัน...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บทรักถูกบรรเลงเป็นจังหวะไม่ได้หยุดราวกับความต้องการนั้นไม่เคยจะหมดไป  จนร่างกายเริ่มอ่อนล้าด้วยกันทั้งคู่  เราจึงเปลี่ยนเป็นนอนกอดกันอยู่อย่างนั้น...ตลอดทั้งคืน


    **************************************

    ครั้งนี้ช่างวาบหวามมากกว่าครั้งใดๆ อิอิ ><




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×