ลำดับตอนที่ #91
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #91 : บทที่แปดสิบสาม -- ปิดเทอม
บทที่แปดสิบสาม
เช้าที่ตื่นขึ้นมาในแต่ละวันช่างมีความสุข...เราจูบทักทายกันในเช้าวันใหม่ ก่อนที่จะลุกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ ใช่แล้ว เพราะวันนี้เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของนักศึกษาปีหนึ่งอย่างเขา ส่วนพี่สนก็กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอมจึงว่างและอาสาไปรับไปส่งได้ตลอดทั้งวัน เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะทั้งว่างและคงจะห่วง ‘เรื่องบางเรื่อง’ ด้วยน่ะแหละ ช่วงนี้รุ่นพี่จึงตามติดเขาไม่ยอมห่าง
หลังจากสอบเสร็จ...เขาก็รู้สึกโล่งและผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะความกดดันจากการสอบที่ยาวนานถึงสองสัปดาห์ ทำให้ไม่ค่อยได้นอนอย่างเต็มอิ่มเท่าใดนัก เขาจึงสัญญากับตัวเองว่าจะพักผ่อนให้เต็มที่หลังจากการสอบในครั้งนี้
“ จบปีหนึ่งแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ? ” รุ่นพี่เข้ามาโอบกอดทางด้านหลัง เมื่อเรากลับมาถึงห้องพัก
เขายิ้ม “ รู้สึกง่วง ”
“ อ้าว ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ก็ดี ผ่านไปอีกปีแล้ว คิดดีๆก็ไวเหมือนกันเนอะ ณัฐกำลังจะขึ้นปีสอง ส่วนพี่สนก็กำลังจะขึ้นปีสี่ ” เขาหันมาจิ้มจมูกอีกฝ่ายเบาๆ “ แล้วพี่สน...ก็จะได้ฝึกงานในโรงพยาบาลแล้วสิเนี่ย ? ”
“ นั่นสินะ ต้องหนักแน่ๆเลย เห็นรุ่นพี่ว่างั้น ”
“ สู้ๆนะ ”
ฝ่ายนั้นหอมแก้มเขาเบาๆ “ เราน่ะแหละ เตรียมตัวไว้เหอะ ปีสองมันยากนะ ”
“ จริงเหรอ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ขู่ไว้ก่อน... เนื้อหามันเยอะแล้วก็ยากด้วย ไม่เหมือนปีหนึ่งเลยสักนิด แต่พี่ว่าณัฐคงไม่มีปัญหาหรอก ขยันขนาดนี้ ”
เขายิ้มพยักหน้า “ อืม ณัฐก็ว่าไม่มีปัญหาหรอก ฮ่ะ ๆ ”
“ มั่นใจตลอด ” รุ่นพี่ขยี้หัวเขาเบาๆ
ช่วงนี้ไม่มีเรื่องของ ‘พี่พีท’ เข้ามาให้วุ่นวายใจ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกและพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันอยู่แล้ว เราทั้งสองจึงสบายใจว่าเรื่องคงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ หิวข้าวแล้วอ่ะ ไปหาไรกินกันเถอะ ” เขาชวนรุ่นพี่
“ อืม ได้ งั้นอาบน้ำก่อนละกัน ”
“ ณัฐอาบก่อนนะ ”
“ อาบด้วยกันเลยดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลา ” ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปาก
“ ตลอดดด ”
เย็นวันนี้เราอาบน้ำด้วยกันเหมือนทุกครั้ง เหตุผลของรุ่นพี่ที่บอกว่า ‘การอาบน้ำด้วยกันไม่เสียเวลา’ นั้นไม่เคยเป็นจริงเลยสักครั้ง เพราะเวลาอาบด้วยกันทีไรเราทั้งสองมักจะใช้เวลานานเสมอ หยอกล้อไปพลางถูตัวให้กันไปพลาง จูบลูบไล้คลอเคลียไปตามประสา นานเข้าก็กลัวว่าจะเป็นไข้หวัดไปซะก่อน จึงต้องรีบเช็ดตัวและออกมาในที่สุด
หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ก็พาเขาขับรถหาร้านอาหารบรรยากาศดีสำหรับมื้อค่ำของเราในวันนี้ ขับรถออกไปแถวชานเมืองประมาณสามสิบนาทีก็ถึงร้านเป้าหมาย เมื่อเจอร้านอาหารร้านหนึ่งพี่สนก็เลี้ยวรถเข้าทันที
“ อืมม ร้านนี้แหละ พอดีไอ้เก่งมันแนะนำพี่มา ”
เขามองร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยไม้ทั้งร้าน ทุกโต๊ะมีโคมระย้าส่องแสงนวลสีทองชวนให้รู้สึกเจริญอาหารมากยิ่งขึ้น คนในร้านไม่พลุกพล่านจนเกินไป เราทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน เลือกโต๊ะที่ใกล้กับสระน้ำและมีวงดนตรีอยู่อีกฝั่งหนึ่งเพราะคิดว่าเป็นมุมที่บรรยากาศดีมากที่สุด
“ พี่เก่งหาเจอได้ไงเนี่ย ? ร้านออกจะหาทางมายาก ฮ่ะ ๆ ”
“ นั่นดิ...เห็นมันบอกว่าร้านนี้บรรยากาศดี อาหารก็อร่อย ก็เลยอยากชวนณัฐมากินด้วยกัน ”
เขาอมยิ้ม “ ถ้าพี่สนมาด้วยกัน...ร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ”
“ เดี๋ยวนี้มีปากหวานนะ ” รุ่นพี่ยิ้ม
เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางซุบซิบมุมปาก “ ปากหวานไม่หวาน ก็ชิมออกบ่อยไม่ใช่เหรอ ? ”
พี่สนปล่อยหัวเราะออกมาทันที “ หวาน...ก็เลยอยากชิมอีกเรื่อยๆไง ”
เขาเป้ปากให้ “ ของหวานกินบ่อยๆไม่ดีนะ เดี๋ยวอ้วน ”
“ ถ้าอ้วนแล้วรักมั้ยล่ะ ? ”
“ รักสิ ” เราทั้งคู่เผยยิ้มให้กัน พอดีกับที่บริกรเดินเข้ามาหา เราแอบลอบมองกันแวบหนึ่ง ก่อนที่จะสั่งอาหารและทำตัวให้เป็นปกติ
อาหารของที่นี่อร่อยสมชื่อ ยิ่งมีเสียงเพลงคลอเบาๆดังมาจากอีกฝั่งยิ่งทำให้มีความสุขในการกินมากยิ่งขึ้น พี่สนตักอาหารให้เขาจานแล้วจานเล่า เราผลัดกันตักอาหารให้กันและกันจนอาหารเริ่มหมด ยังไม่วายที่ชวนกันสั่งของหวานมากินกันอีกรอบ
“ ตั้งแต่มาอยู่กับพี่สน ณัฐน้ำหนักขึ้นตั้งสองกิโลเลยแน่ะ ”
“ ดีแล้ว จะได้มีเนื้อมีหนังมากขึ้น จับเต็มไม้เต็มมือ ”
“ หมายความว่าไง ? ”
“ เวลากอดจะได้อบอุ่นต่างหาก ”
“ เหรอออ ”
“ ฮ่ะ ๆ กินไปเหอะ กินเยอะๆ วัยกำลังโต ” รุ่นพี่พูดยังกะเขาเป็นเด็กไปได้
ฝ่ายนั้นหยุดกิน แล้วนั่งจ้องหน้าเขาอยู่นาน ด้วยความแปลกใจเขาจึงถามขึ้น
“ พี่สน มองอะไรอ่ะ ? ”
รุ่นพี่ยิ้มออกมาทันที “ ณัฐ...เราไปเที่ยวกันมั้ย ? ”
“ หือ ?...เที่ยวไหนเหรอ ”
“ ไปเที่ยวไหนก็ได้ ก็เราปิดเทอมอยู่นี่นา ”
“ นั่นสินะ ” รู้สึกใจเต้นขึ้นมาทันที เพราะช่วงก่อนหน้านี้มัวแต่เคร่งเครียดและพะวงเกี่ยวกับการสอบ จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องเที่ยวช่วงปิดเทอม
“ แล้ว...พี่สนอยากไปไหนเหรอ ? ”
“ อืมม.... ”
“ ............................ ”
“ เราไปทะเลกันไหม ? ”
********************************
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส เขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกคึกคักอย่างบอกไม่ถูก ลุกจากเตียงนอนแล้วจูบทักทายสุดที่รักเหมือนอย่างทุกครั้ง
“ พี่สน ตื่นได้แล้ววว ” ฝ่ายนั้นยังคงงัวเงีย ตวัดแขนมาโอบกอดเขาไว้เช่นเดิม
เมื่อคืนหลังจากที่ตกลงว่าจะไปเที่ยวทะเลกัน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างบอกไม่ถูก พอกลับมาจากร้านอาหารเราจึงช่วยกันค้นหาข้อมูลสถานที่ที่น่าสนใจ จนได้ข้อสรุปว่า เราทั้งสองคนจะไป..เสม็ด..กัน
“ เดี๋ยวก็สายหรอก วันนี้เราจะไปทะเลกันนะ ” เขาปลุกรุ่นพี่อีกครั้ง
ฝ่ายนั้นลืมตาตื่นขึ้น จุ๊บเขาหนึ่งที ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทันที ระหว่างที่รออีกฝ่าย เขาอาสาเป็นคนจัดของเองทั้งหมด เตรียมเสื้อผ้าของเราทั้งสองคนใส่กระเป๋า ของใช้ที่จำเป็น และไม่ลืมที่จะเอากล้องถ่ายรูปเพื่อไปเก็บภาพสวยๆด้วย
เป็นการเที่ยวด้วยกัน ‘สองคน’ เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันตามประสา ‘คู่รัก’ เราตกลงกันว่าจะขับรถไปกันเองถึงแม้จะใช้เวลานานสักหน่อยแต่ก็เพื่อความสะดวก เผื่ออยากแวะที่ไหนเพิ่มเติมจะได้ไปได้อย่างสบายใจ ถ้าออกเดินทางตั้งแต่ตอนนี้ คาดว่าคงจะไปถึงสักเย็นๆและเข้าที่พักที่จองไว้ได้พอดี
“ พี่สน เราจะอยู่กันกี่วันเหรอ ? ” เขาถามขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังแต่งตัว
“ ก็...แล้วแต่ณัฐเลย อยากอยู่กี่วันก็ได้ แต่คิดว่าน่าจะสามสี่วันก็โอเคนะ แล้วค่อยหาที่เที่ยวต่อ ”
“ โห ต้องหมดตังเยอะแน่เลย ”
“ ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยว ‘ป๋า’ เลี้ยงเอง ฮ่า ๆ ”
“ งั้นป๋ากระเป๋าพรุนแน่ ” เขาแลบลิ้นให้
“ ก็ไม่ได้เลี้ยงฟรีๆหรอก เดี๋ยวจะเอาคืนให้คุ้มเลย ไปทะเลทั้งที ”
“ ทะลึ่ง ! ” เขาหน้าแดง
“ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวพี่จัดของต่อเอง ”
“ ก็ได้ ณัฐคิดว่าที่จำเป็นก็น่าจะครบแล้วแหละ แต่ถ้าพี่สนอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็จัดเพิ่มเอาละกันนะ ”
“ ค้าบบบ ”
และระหว่างที่เขากำลังจะไปอาบน้ำอยู่นั้น ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยืนหันหลัง ง่วนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้ เห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะแกล้งสักหน่อย เขาจึงค่อยๆเดินย่องไปข้างหลังแล้วกระตุกผ้าเช็ดตัวผืนบางนั้นออกทันที ก่อนที่จะวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำโดยเร็ว
“ เฮ้ย !! ” ได้ยินแต่เสียงอุทานด้วยความตกใจของรุ่นพี่ ส่วนเขาก็ได้แต่แอบหัวเราะในห้องน้ำแค่คนเดียว
ประมาณแปดโมงเช้า...หลังจากอาบน้ำแต่งตัว ตรวจทานสิ่งของสัมภาระทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เราทั้งสองคนจึงออกเดินทางด้วยความตื่นเต้นคึกคัก รุ่นพี่สวมแว่นกันแดดสุดเท่เตรียมพร้อมขับรถ พยักหน้าให้กันด้วยความมุ่งมั่น แล้วเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองทันที...
**************************************
อากาศค่อนข้างร้อนเพราะเดินทางช่วงกลางวัน แต่พี่สนก็ขับรถอย่างสบายใจและเปิดเพลงฟังไปตลอดทาง เขาคอยชวนคุยอยู่เป็นระยะไม่ได้หลับเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเหนื่อยจนเผลอหลับในไปซะก่อน พอเริ่มหิวเราก็แวะจอดร้านอาหารข้างทางสักร้าน พอพักหายเหนื่อยก็ออกเดินทางต่อเป็นอย่างนี้ตลอดระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร
ในที่สุดพอถึงช่วงใกล้เย็น...เราก็เดินทางเข้าสู่จังหวัดระยอง ลัดเลาะไม่นานก็ถึงท่าเรือเป้าหมาย เราจอดรถไว้ที่ท่าเรือ จัดการขนของสัมภาระแล้วออกเดิน เห็นผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเดินพลุกพล่านเช่นกัน ทั้งคนไทยและต่างชาติ พ่อค้าแม่ค้าประกาศขายของกันเจื้อยแจ้ว ได้เห็นบรรยากาศของการท่องเที่ยวก็ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยได้ในทันที เราช่วยกันถือของและนั่งรอที่ท่าเรือเพื่อรอเรือลำต่อไป
ระหว่างนั่งรออยู่นั้นเขาก็มองนักท่องเที่ยวคนอื่นๆไปพลาง มีทั้งมากันแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิท หรือมาแบบคู่รักก็ตาม คู่รัก...เท่าที่ดูมีประมาณสามสี่คู่ แต่ไม่มีคู่ไหนมากันแบบ ‘พวกเขา’ เลย
ทันใดนั้น รุ่นพี่ก็เอื้อมมือมากุมมือเขาไว้เบาๆ เขาหันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายยิ้มมาให้
“ ดีใจจัง ได้มาเที่ยวด้วยกัน ”
เขายิ้มตอบ “ ครับ ณัฐก็ดีใจเหมือนกัน ”
“ อยู่ที่นี่...ขอจับมือณัฐไว้ตลอดเลยได้ไหม ? ” พี่สนกุมมือเขาไว้แน่นแล้วยิ้มกว้างมาให้
เขามอง ‘แหวนคู่’ ที่อยู่บนนิ้วนางข้างขวาของเราทั้งสองคน แล้วให้รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก เขากับพี่สนเป็นแฟนกัน...และที่นี่คงเป็นสถานที่ที่ ‘อิสระ’ สำหรับเรามากพอที่จะสามารถทำอะไรก็ได้เท่าที่ใจต้องการ เพราะไม่มีใครรู้จักเรา พอคิดได้ดังนั้นหัวใจก็รู้สึกเบาโล่งกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา เขาแอบเหลือบมองคนอื่นเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้าตอบด้วยความเขินอายในลำคอเบาๆว่า...
“ ก็เอาสิ ”
ไม่นานเรือลำใหม่ก็เข้ามาเทียบท่า เราถือสัมภาระลงเรือ จับมือช่วยกันประคองอย่างไม่สนใจสายตาใครอย่างที่เขาไม่ได้ทำบ่อยนัก รู้สึกเขินแปลกๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขัดเคืองอะไร
“ พี่สน คนอื่นเขามองเราด้วยนะ ”
เขาแอบกระซิบข้างหูรุ่นพี่เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว เพราะเห็นบางคนแอบเหลือบมองมาที่พวกเขาจริงๆ
“ เขามอง ‘คู่รักหน้าตาดี’ ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ ” ฝ่ายนั้นพูดติดตลก จนทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาด้วย
“ บ้า...หลงตัวเอง ”
“ แล้วไม่จริงเหรอ ? ”
“ ก็จริง ฮ่ะ ๆ ๆ ”
นั่งบนเรือ คุยกันไปพลาง มองบรรยากาศของท้องทะเลยามเย็นไปพลาง ไม่นานก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวจากเรือที่โคลงเคลงไปมา เขาพยายามนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาเพราะเริ่มรู้สึกไม่ไหว พี่สนเหมือนรู้ใจรีบคว้าศีรษะเขาไปพิงไหล่ไว้ทันที
“ เมาเรือเหรอ ? ”
“ อืมม คงงั้นแหละ ”
“ เอายาดมมั้ย ? ”
“ ไม่เป็นไรหรอก แค่เวียนหัวน่ะ ”
“ ทนอีกหน่อยนะ ใกล้จะถึงแล้ว ” ฝ่ายนั้นลูบศีรษะเขาเบาๆ
“ ครับ ”
ยังดีที่เขาพอทนได้ ไม่ได้ถึงขั้นพะอืดพะอมจนอยากอาเจียนเท่าใดนัก นั่งซบรุ่นพี่ได้ไม่นานเรือก็เทียบท่าเข้าสู่เกาะเสม็ด เขามองชายฝั่งแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อาการเวียนหัวก็ค่อยๆพลันหายไป
นักท่องเที่ยวคนอื่นๆลงจากเรือพากันทะยอยขึ้นฝั่ง เขากับพี่สนก็เช่นกัน บนท่าเรือได้ยินแต่เสียงคนรถเรียกลูกค้าแข่งกัน เราสองคนเลือกขึ้นรถประจำทางคันเล็กคันหนึ่งเพื่อไปยังหาดที่หมายอีกต่อหนึ่ง เราเลือกหาดที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เพราะอยากจะพักผ่อนกับธรรมชาติจริงๆ
...และแล้วก็เดินทางมาถึงจุดหมาย...
พระอาทิตย์ใกล้จะลับสายตา ร่างทั้งสองเดินย่ำไปตามหาดทรายสีขาว ทางฝั่งขวามองเห็นน้ำทะเลที่กำลังซัดสาดคลื่นเข้ามาหาเป็นระลอกราวกับจะทักทาย รุ่นพี่หยุดถ่ายรูปแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นครั้งคราวก่อนที่จะไปติดต่อเรื่องห้องพักที่ได้จองไว้แล้ว
เมื่อได้รับกุญแจห้องมาแล้วเราก็มุ่งตรงสู่ห้องพักในทันที บ้านหลังเล็กน่าอยู่และทันสมัยอยู่ตรงหน้า...คล้ายกับภาพที่เราเห็นในอินเตอร์เนตเมื่อวานนี้ ก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดขั้นเตี้ยสีขาว ถอดรองเท้าไว้ด้านหน้าก่อนที่จะเปิดกระจกบานใหญ่ที่ถูกปิดด้วยม่านสีเหลืองนวลด้วยความตื่นเต้น มองเข้าไปภายในก็เห็นเครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะเตียงนุ่มน่านอนนั้น
“ เย้ ๆ ๆ ๆ ถึงที่พักเราแล้ว !! ” เขาวางกระเป๋าไว้บนพื้นแล้วล้มตัวลงนอนทันที
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ” รุ่นพี่นำกระเป๋าไปจัดวางไว้อีกมุมหนึ่ง แล้วสำรวจภายในห้องจนทั่ว เขาได้แต่มองรุ่นพี่เดินไปมาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“ ห้องน่ารักมากเลย แต่พี่สนเลือกซะแพงเลยอ่ะ นอนห้องธรรมดาก็ได้ ”
“ ก็มันไม่โรแมนติกนี่นา อยากได้แบบโรแมนติก ”
“ แค่มาทะเลก็โรแมนติกแล้ว ” เขาพูดอมยิ้ม “ จะว่าไปแล้วก็ถึงเร็วเหมือนกันเนอะ เมื่อวานนี้เรายังสอบอยู่เลย วันนี้ก็มาถึงเสม็ดแล้ว ”
“ ทริปนี้ไม่ต้องมีโปรแกรมอะไรมากหรอก อยากไปไหนก็ไป โอเคนะ ? ”
“ โอเค ! ” เขายิ้มกว้างจนตาหยี รุ่นพี่จึงเดินเข้ามาขยี้หัวเบาๆและนั่งลงบนพื้นข้างกัน
“ รู้แล้วว่ามีความสุข ฮ่ะ ๆ ”
“ ช่วงที่ผ่านมาเราต่างก็เหนื่อยจากการสอบ ณัฐดีใจที่ได้มาเที่ยวพักผ่อน ได้เห็นทะเล เห็นหาดทรายแล้วมันรู้สึกสดชื่น และก็ที่สำคัญ...ดีใจที่ได้มากับพี่สนด้วย ”
“ พี่ก็ดีใจที่ได้มากับณัฐ ”
รุ่นพี่เชยคางเขาขึ้นก่อนที่จะพรมจูบอย่างอ่อนโยน “ถ้าณัฐมีความสุข อยากอยู่นานแค่ไหนก็ได้นะ”
“ ดีใจจัง...ป๋าใจดีสุดๆอ่ะ ”
“ แล้วคืนนี้อยากนอนพักผ่อนก่อน หรืออยากไปเดินชายหาดตอนกลางคืนล่ะ ? ” รุ่นพี่ถาม
“ อยากเดินชายหาดตอนกลางคืน ! ” เขาตอบทันที
“ ดี งั้นก็ไปอาบน้ำ ตัวเหนียวหมดแล้ว จะได้ออกไปหาไรกินกัน ”
“ ค้าบบบบ ” เขาเด้งตัวจากที่นอนทันที
***********************************
หลังจากกินอาหารเย็นที่ร้านริมหาดบรรยากาศดีร้านหนึ่ง เราก็ออกมาเดินเล่นกัน
ผู้คนค่อนข้างบางตาและนั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกหาดแห่งนี้ บรรยากาศทะเลในยามค่ำคืนทำให้รู้สึกดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ลมเย็นลอยมาปะทะใบหน้า ได้ยินเพียงเสียงคลื่นที่ซัดสาดเป็นจังหวะ เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แล้วจับมืออีกฝ่ายมากุมไว้แน่น
ถอดรองเท้าให้เท้าได้สัมผัสกับความนุ่มของเม็ดทราย เดินจับมือกันไปตามริมหาดที่ทอดยาว คุยเรื่องสัพเพเหระ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างซึ่งนั่นก็ไม่ได้สำคัญเท่าใดนัก รู้แต่ว่าช่วงเวลาเหล่านี้มีความหมายและทำให้พวกเรามีความสุขมากเพียงใด
“ อากาศดีจังเลย พี่สนว่ามั้ย ? ”
“ นั่นสินะ ลมเย็นดี ”
“ ตอนกลางคืนคลื่นกำลังขึ้นสูงด้วย ” เขาชี้ให้อีกฝ่ายดู
“ อยากเล่นน้ำทะเลกันมั้ย ? ”
“ ตอนนี้เนี่ยนะ ” เขาตกใจ
“ ทำไมเหรอ ? ”
“ ทะเลตอนกลางคืน น่ากลัวออก มองไม่เห็นอะไรเลย ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ล้อเล่น พี่ก็ไม่กล้าเล่นหรอก เหนื่อยเพราะขับรถมาทั้งวัน เดี๋ยวเป็นตะคริวกันพอดี ”
“ งั้นเดินอีกสักหน่อยแล้วเรากลับกันนะ พี่สนจะได้พักผ่อนด้วย ”
“ ก็ได้ ”
ระหว่างที่เรากำลังเดินกลับ ก็มีกลุ่มคนหลายกลุ่มเดินสวนทางกัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจและยังคงเดินจับมือกันเช่นเดิม
“ พี่สน ? ” เขาเรียกอีกฝ่าย
“ ปิดเทอมครั้งหน้า เรามาเที่ยวด้วยกันแบบนี้อีกนะ ”
รุ่นพี่ยิ้ม “ ไปเที่ยวทุกปิดเทอมเลยดีมั้ย ? ”
“ จริงนะ ” เขาเกาะแขนอีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความดีใจ
“ หอมแก้มก่อนสิ ”
“ มีข้อแลกเปลี่ยนตลอด ”
แต่สุดท้ายเขาก็ยืดตัวแล้วหอมแก้มรุ่นพี่แต่โดยดี รู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่ต้องมาหอมแก้มกันริมหาดแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่เขาก็ได้ทำไปแล้ว เห็นรุ่นพี่เอาแต่ยิ้มไม่หุบ เขาจึงทุบแขนฝ่ายนั้นไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย
“ บ้า !! พี่สน เขินอ่ะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ เขินไร คนรักกัน ”
หยอกกันไปมาก็เดินมาจนถึงห้องพักสักที เขารู้สึกเหนียวตัวเล็กน้อยเพราะลมทะเลค่อนข้างแรง จึงคิดว่าจะอาบน้ำอีกรอบสักหน่อย จะได้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายตัว กำลังจะเดินไปหาผ้าเช็ดตัว ก็มีใครบางคนเข้ามาโอบทางด้านหลังเข้าซะก่อน
“ ณัฐ...มีความสุขจังเลยเนอะ มาเที่ยวด้วยกันสองคน ”
“ ครับ ”
รุ่นพี่จับไหล่เขาให้หันไปเผชิญหน้า เรามองสบตาลึกซึ้งกันอยู่นาน ฝ่ายนั้นประคองใบหน้าของเขาไว้แล้วลูบไล้แก้มเนียนอย่างเบามือ เขาพริ้มตาหลับเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายเริ่มเข้ามาใกล้ จูบที่แสนอ่อนโยนและนุ่มละมุนเข้ามาเยือนให้หัวใจได้พองโตอีกครั้ง เรายืนจูบกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานแสนนาน
ร่างสูงพรมจูบไปตามแก้มขาวเนียน ลำคอ แล้วกลับมาบดเบียดที่ริมฝีปากอีกครั้ง มือที่ประคองเอวเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายผ่านเสื้อยืดตัวบาง ร่างเพรียวประคองใบหน้าของอีกฝ่ายไว้แล้วหลับตาพริ้มตอบสนองจูบเป็นอย่างดี...
เราบอกรักกันและกัน...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บทรักถูกบรรเลงเป็นจังหวะไม่ได้หยุดราวกับความต้องการนั้นไม่เคยจะหมดไป จนร่างกายเริ่มอ่อนล้าด้วยกันทั้งคู่ เราจึงเปลี่ยนเป็นนอนกอดกันอยู่อย่างนั้น...ตลอดทั้งคืน
**************************************
ครั้งนี้ช่างวาบหวามมากกว่าครั้งใดๆ อิอิ ><
เช้าที่ตื่นขึ้นมาในแต่ละวันช่างมีความสุข...เราจูบทักทายกันในเช้าวันใหม่ ก่อนที่จะลุกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ ใช่แล้ว เพราะวันนี้เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของนักศึกษาปีหนึ่งอย่างเขา ส่วนพี่สนก็กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอมจึงว่างและอาสาไปรับไปส่งได้ตลอดทั้งวัน เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะทั้งว่างและคงจะห่วง ‘เรื่องบางเรื่อง’ ด้วยน่ะแหละ ช่วงนี้รุ่นพี่จึงตามติดเขาไม่ยอมห่าง
หลังจากสอบเสร็จ...เขาก็รู้สึกโล่งและผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะความกดดันจากการสอบที่ยาวนานถึงสองสัปดาห์ ทำให้ไม่ค่อยได้นอนอย่างเต็มอิ่มเท่าใดนัก เขาจึงสัญญากับตัวเองว่าจะพักผ่อนให้เต็มที่หลังจากการสอบในครั้งนี้
“ จบปีหนึ่งแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ? ” รุ่นพี่เข้ามาโอบกอดทางด้านหลัง เมื่อเรากลับมาถึงห้องพัก
เขายิ้ม “ รู้สึกง่วง ”
“ อ้าว ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ก็ดี ผ่านไปอีกปีแล้ว คิดดีๆก็ไวเหมือนกันเนอะ ณัฐกำลังจะขึ้นปีสอง ส่วนพี่สนก็กำลังจะขึ้นปีสี่ ” เขาหันมาจิ้มจมูกอีกฝ่ายเบาๆ “ แล้วพี่สน...ก็จะได้ฝึกงานในโรงพยาบาลแล้วสิเนี่ย ? ”
“ นั่นสินะ ต้องหนักแน่ๆเลย เห็นรุ่นพี่ว่างั้น ”
“ สู้ๆนะ ”
ฝ่ายนั้นหอมแก้มเขาเบาๆ “ เราน่ะแหละ เตรียมตัวไว้เหอะ ปีสองมันยากนะ ”
“ จริงเหรอ ? ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ขู่ไว้ก่อน... เนื้อหามันเยอะแล้วก็ยากด้วย ไม่เหมือนปีหนึ่งเลยสักนิด แต่พี่ว่าณัฐคงไม่มีปัญหาหรอก ขยันขนาดนี้ ”
เขายิ้มพยักหน้า “ อืม ณัฐก็ว่าไม่มีปัญหาหรอก ฮ่ะ ๆ ”
“ มั่นใจตลอด ” รุ่นพี่ขยี้หัวเขาเบาๆ
ช่วงนี้ไม่มีเรื่องของ ‘พี่พีท’ เข้ามาให้วุ่นวายใจ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกและพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันอยู่แล้ว เราทั้งสองจึงสบายใจว่าเรื่องคงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ หิวข้าวแล้วอ่ะ ไปหาไรกินกันเถอะ ” เขาชวนรุ่นพี่
“ อืม ได้ งั้นอาบน้ำก่อนละกัน ”
“ ณัฐอาบก่อนนะ ”
“ อาบด้วยกันเลยดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลา ” ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปาก
“ ตลอดดด ”
เย็นวันนี้เราอาบน้ำด้วยกันเหมือนทุกครั้ง เหตุผลของรุ่นพี่ที่บอกว่า ‘การอาบน้ำด้วยกันไม่เสียเวลา’ นั้นไม่เคยเป็นจริงเลยสักครั้ง เพราะเวลาอาบด้วยกันทีไรเราทั้งสองมักจะใช้เวลานานเสมอ หยอกล้อไปพลางถูตัวให้กันไปพลาง จูบลูบไล้คลอเคลียไปตามประสา นานเข้าก็กลัวว่าจะเป็นไข้หวัดไปซะก่อน จึงต้องรีบเช็ดตัวและออกมาในที่สุด
หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ก็พาเขาขับรถหาร้านอาหารบรรยากาศดีสำหรับมื้อค่ำของเราในวันนี้ ขับรถออกไปแถวชานเมืองประมาณสามสิบนาทีก็ถึงร้านเป้าหมาย เมื่อเจอร้านอาหารร้านหนึ่งพี่สนก็เลี้ยวรถเข้าทันที
“ อืมม ร้านนี้แหละ พอดีไอ้เก่งมันแนะนำพี่มา ”
เขามองร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยไม้ทั้งร้าน ทุกโต๊ะมีโคมระย้าส่องแสงนวลสีทองชวนให้รู้สึกเจริญอาหารมากยิ่งขึ้น คนในร้านไม่พลุกพล่านจนเกินไป เราทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน เลือกโต๊ะที่ใกล้กับสระน้ำและมีวงดนตรีอยู่อีกฝั่งหนึ่งเพราะคิดว่าเป็นมุมที่บรรยากาศดีมากที่สุด
“ พี่เก่งหาเจอได้ไงเนี่ย ? ร้านออกจะหาทางมายาก ฮ่ะ ๆ ”
“ นั่นดิ...เห็นมันบอกว่าร้านนี้บรรยากาศดี อาหารก็อร่อย ก็เลยอยากชวนณัฐมากินด้วยกัน ”
เขาอมยิ้ม “ ถ้าพี่สนมาด้วยกัน...ร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ”
“ เดี๋ยวนี้มีปากหวานนะ ” รุ่นพี่ยิ้ม
เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางซุบซิบมุมปาก “ ปากหวานไม่หวาน ก็ชิมออกบ่อยไม่ใช่เหรอ ? ”
พี่สนปล่อยหัวเราะออกมาทันที “ หวาน...ก็เลยอยากชิมอีกเรื่อยๆไง ”
เขาเป้ปากให้ “ ของหวานกินบ่อยๆไม่ดีนะ เดี๋ยวอ้วน ”
“ ถ้าอ้วนแล้วรักมั้ยล่ะ ? ”
“ รักสิ ” เราทั้งคู่เผยยิ้มให้กัน พอดีกับที่บริกรเดินเข้ามาหา เราแอบลอบมองกันแวบหนึ่ง ก่อนที่จะสั่งอาหารและทำตัวให้เป็นปกติ
อาหารของที่นี่อร่อยสมชื่อ ยิ่งมีเสียงเพลงคลอเบาๆดังมาจากอีกฝั่งยิ่งทำให้มีความสุขในการกินมากยิ่งขึ้น พี่สนตักอาหารให้เขาจานแล้วจานเล่า เราผลัดกันตักอาหารให้กันและกันจนอาหารเริ่มหมด ยังไม่วายที่ชวนกันสั่งของหวานมากินกันอีกรอบ
“ ตั้งแต่มาอยู่กับพี่สน ณัฐน้ำหนักขึ้นตั้งสองกิโลเลยแน่ะ ”
“ ดีแล้ว จะได้มีเนื้อมีหนังมากขึ้น จับเต็มไม้เต็มมือ ”
“ หมายความว่าไง ? ”
“ เวลากอดจะได้อบอุ่นต่างหาก ”
“ เหรอออ ”
“ ฮ่ะ ๆ กินไปเหอะ กินเยอะๆ วัยกำลังโต ” รุ่นพี่พูดยังกะเขาเป็นเด็กไปได้
ฝ่ายนั้นหยุดกิน แล้วนั่งจ้องหน้าเขาอยู่นาน ด้วยความแปลกใจเขาจึงถามขึ้น
“ พี่สน มองอะไรอ่ะ ? ”
รุ่นพี่ยิ้มออกมาทันที “ ณัฐ...เราไปเที่ยวกันมั้ย ? ”
“ หือ ?...เที่ยวไหนเหรอ ”
“ ไปเที่ยวไหนก็ได้ ก็เราปิดเทอมอยู่นี่นา ”
“ นั่นสินะ ” รู้สึกใจเต้นขึ้นมาทันที เพราะช่วงก่อนหน้านี้มัวแต่เคร่งเครียดและพะวงเกี่ยวกับการสอบ จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องเที่ยวช่วงปิดเทอม
“ แล้ว...พี่สนอยากไปไหนเหรอ ? ”
“ อืมม.... ”
“ ............................ ”
“ เราไปทะเลกันไหม ? ”
********************************
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส เขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกคึกคักอย่างบอกไม่ถูก ลุกจากเตียงนอนแล้วจูบทักทายสุดที่รักเหมือนอย่างทุกครั้ง
“ พี่สน ตื่นได้แล้ววว ” ฝ่ายนั้นยังคงงัวเงีย ตวัดแขนมาโอบกอดเขาไว้เช่นเดิม
เมื่อคืนหลังจากที่ตกลงว่าจะไปเที่ยวทะเลกัน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างบอกไม่ถูก พอกลับมาจากร้านอาหารเราจึงช่วยกันค้นหาข้อมูลสถานที่ที่น่าสนใจ จนได้ข้อสรุปว่า เราทั้งสองคนจะไป..เสม็ด..กัน
“ เดี๋ยวก็สายหรอก วันนี้เราจะไปทะเลกันนะ ” เขาปลุกรุ่นพี่อีกครั้ง
ฝ่ายนั้นลืมตาตื่นขึ้น จุ๊บเขาหนึ่งที ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทันที ระหว่างที่รออีกฝ่าย เขาอาสาเป็นคนจัดของเองทั้งหมด เตรียมเสื้อผ้าของเราทั้งสองคนใส่กระเป๋า ของใช้ที่จำเป็น และไม่ลืมที่จะเอากล้องถ่ายรูปเพื่อไปเก็บภาพสวยๆด้วย
เป็นการเที่ยวด้วยกัน ‘สองคน’ เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันตามประสา ‘คู่รัก’ เราตกลงกันว่าจะขับรถไปกันเองถึงแม้จะใช้เวลานานสักหน่อยแต่ก็เพื่อความสะดวก เผื่ออยากแวะที่ไหนเพิ่มเติมจะได้ไปได้อย่างสบายใจ ถ้าออกเดินทางตั้งแต่ตอนนี้ คาดว่าคงจะไปถึงสักเย็นๆและเข้าที่พักที่จองไว้ได้พอดี
“ พี่สน เราจะอยู่กันกี่วันเหรอ ? ” เขาถามขณะที่ฝ่ายนั้นกำลังแต่งตัว
“ ก็...แล้วแต่ณัฐเลย อยากอยู่กี่วันก็ได้ แต่คิดว่าน่าจะสามสี่วันก็โอเคนะ แล้วค่อยหาที่เที่ยวต่อ ”
“ โห ต้องหมดตังเยอะแน่เลย ”
“ ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยว ‘ป๋า’ เลี้ยงเอง ฮ่า ๆ ”
“ งั้นป๋ากระเป๋าพรุนแน่ ” เขาแลบลิ้นให้
“ ก็ไม่ได้เลี้ยงฟรีๆหรอก เดี๋ยวจะเอาคืนให้คุ้มเลย ไปทะเลทั้งที ”
“ ทะลึ่ง ! ” เขาหน้าแดง
“ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวพี่จัดของต่อเอง ”
“ ก็ได้ ณัฐคิดว่าที่จำเป็นก็น่าจะครบแล้วแหละ แต่ถ้าพี่สนอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็จัดเพิ่มเอาละกันนะ ”
“ ค้าบบบ ”
และระหว่างที่เขากำลังจะไปอาบน้ำอยู่นั้น ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยืนหันหลัง ง่วนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้ เห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะแกล้งสักหน่อย เขาจึงค่อยๆเดินย่องไปข้างหลังแล้วกระตุกผ้าเช็ดตัวผืนบางนั้นออกทันที ก่อนที่จะวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำโดยเร็ว
“ เฮ้ย !! ” ได้ยินแต่เสียงอุทานด้วยความตกใจของรุ่นพี่ ส่วนเขาก็ได้แต่แอบหัวเราะในห้องน้ำแค่คนเดียว
ประมาณแปดโมงเช้า...หลังจากอาบน้ำแต่งตัว ตรวจทานสิ่งของสัมภาระทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เราทั้งสองคนจึงออกเดินทางด้วยความตื่นเต้นคึกคัก รุ่นพี่สวมแว่นกันแดดสุดเท่เตรียมพร้อมขับรถ พยักหน้าให้กันด้วยความมุ่งมั่น แล้วเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองทันที...
**************************************
อากาศค่อนข้างร้อนเพราะเดินทางช่วงกลางวัน แต่พี่สนก็ขับรถอย่างสบายใจและเปิดเพลงฟังไปตลอดทาง เขาคอยชวนคุยอยู่เป็นระยะไม่ได้หลับเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเหนื่อยจนเผลอหลับในไปซะก่อน พอเริ่มหิวเราก็แวะจอดร้านอาหารข้างทางสักร้าน พอพักหายเหนื่อยก็ออกเดินทางต่อเป็นอย่างนี้ตลอดระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร
ในที่สุดพอถึงช่วงใกล้เย็น...เราก็เดินทางเข้าสู่จังหวัดระยอง ลัดเลาะไม่นานก็ถึงท่าเรือเป้าหมาย เราจอดรถไว้ที่ท่าเรือ จัดการขนของสัมภาระแล้วออกเดิน เห็นผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเดินพลุกพล่านเช่นกัน ทั้งคนไทยและต่างชาติ พ่อค้าแม่ค้าประกาศขายของกันเจื้อยแจ้ว ได้เห็นบรรยากาศของการท่องเที่ยวก็ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยได้ในทันที เราช่วยกันถือของและนั่งรอที่ท่าเรือเพื่อรอเรือลำต่อไป
ระหว่างนั่งรออยู่นั้นเขาก็มองนักท่องเที่ยวคนอื่นๆไปพลาง มีทั้งมากันแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิท หรือมาแบบคู่รักก็ตาม คู่รัก...เท่าที่ดูมีประมาณสามสี่คู่ แต่ไม่มีคู่ไหนมากันแบบ ‘พวกเขา’ เลย
ทันใดนั้น รุ่นพี่ก็เอื้อมมือมากุมมือเขาไว้เบาๆ เขาหันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายยิ้มมาให้
“ ดีใจจัง ได้มาเที่ยวด้วยกัน ”
เขายิ้มตอบ “ ครับ ณัฐก็ดีใจเหมือนกัน ”
“ อยู่ที่นี่...ขอจับมือณัฐไว้ตลอดเลยได้ไหม ? ” พี่สนกุมมือเขาไว้แน่นแล้วยิ้มกว้างมาให้
เขามอง ‘แหวนคู่’ ที่อยู่บนนิ้วนางข้างขวาของเราทั้งสองคน แล้วให้รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก เขากับพี่สนเป็นแฟนกัน...และที่นี่คงเป็นสถานที่ที่ ‘อิสระ’ สำหรับเรามากพอที่จะสามารถทำอะไรก็ได้เท่าที่ใจต้องการ เพราะไม่มีใครรู้จักเรา พอคิดได้ดังนั้นหัวใจก็รู้สึกเบาโล่งกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา เขาแอบเหลือบมองคนอื่นเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้าตอบด้วยความเขินอายในลำคอเบาๆว่า...
“ ก็เอาสิ ”
ไม่นานเรือลำใหม่ก็เข้ามาเทียบท่า เราถือสัมภาระลงเรือ จับมือช่วยกันประคองอย่างไม่สนใจสายตาใครอย่างที่เขาไม่ได้ทำบ่อยนัก รู้สึกเขินแปลกๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขัดเคืองอะไร
“ พี่สน คนอื่นเขามองเราด้วยนะ ”
เขาแอบกระซิบข้างหูรุ่นพี่เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว เพราะเห็นบางคนแอบเหลือบมองมาที่พวกเขาจริงๆ
“ เขามอง ‘คู่รักหน้าตาดี’ ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ ” ฝ่ายนั้นพูดติดตลก จนทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาด้วย
“ บ้า...หลงตัวเอง ”
“ แล้วไม่จริงเหรอ ? ”
“ ก็จริง ฮ่ะ ๆ ๆ ”
นั่งบนเรือ คุยกันไปพลาง มองบรรยากาศของท้องทะเลยามเย็นไปพลาง ไม่นานก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวจากเรือที่โคลงเคลงไปมา เขาพยายามนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาเพราะเริ่มรู้สึกไม่ไหว พี่สนเหมือนรู้ใจรีบคว้าศีรษะเขาไปพิงไหล่ไว้ทันที
“ เมาเรือเหรอ ? ”
“ อืมม คงงั้นแหละ ”
“ เอายาดมมั้ย ? ”
“ ไม่เป็นไรหรอก แค่เวียนหัวน่ะ ”
“ ทนอีกหน่อยนะ ใกล้จะถึงแล้ว ” ฝ่ายนั้นลูบศีรษะเขาเบาๆ
“ ครับ ”
ยังดีที่เขาพอทนได้ ไม่ได้ถึงขั้นพะอืดพะอมจนอยากอาเจียนเท่าใดนัก นั่งซบรุ่นพี่ได้ไม่นานเรือก็เทียบท่าเข้าสู่เกาะเสม็ด เขามองชายฝั่งแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อาการเวียนหัวก็ค่อยๆพลันหายไป
นักท่องเที่ยวคนอื่นๆลงจากเรือพากันทะยอยขึ้นฝั่ง เขากับพี่สนก็เช่นกัน บนท่าเรือได้ยินแต่เสียงคนรถเรียกลูกค้าแข่งกัน เราสองคนเลือกขึ้นรถประจำทางคันเล็กคันหนึ่งเพื่อไปยังหาดที่หมายอีกต่อหนึ่ง เราเลือกหาดที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เพราะอยากจะพักผ่อนกับธรรมชาติจริงๆ
...และแล้วก็เดินทางมาถึงจุดหมาย...
พระอาทิตย์ใกล้จะลับสายตา ร่างทั้งสองเดินย่ำไปตามหาดทรายสีขาว ทางฝั่งขวามองเห็นน้ำทะเลที่กำลังซัดสาดคลื่นเข้ามาหาเป็นระลอกราวกับจะทักทาย รุ่นพี่หยุดถ่ายรูปแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นครั้งคราวก่อนที่จะไปติดต่อเรื่องห้องพักที่ได้จองไว้แล้ว
เมื่อได้รับกุญแจห้องมาแล้วเราก็มุ่งตรงสู่ห้องพักในทันที บ้านหลังเล็กน่าอยู่และทันสมัยอยู่ตรงหน้า...คล้ายกับภาพที่เราเห็นในอินเตอร์เนตเมื่อวานนี้ ก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดขั้นเตี้ยสีขาว ถอดรองเท้าไว้ด้านหน้าก่อนที่จะเปิดกระจกบานใหญ่ที่ถูกปิดด้วยม่านสีเหลืองนวลด้วยความตื่นเต้น มองเข้าไปภายในก็เห็นเครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะเตียงนุ่มน่านอนนั้น
“ เย้ ๆ ๆ ๆ ถึงที่พักเราแล้ว !! ” เขาวางกระเป๋าไว้บนพื้นแล้วล้มตัวลงนอนทันที
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ” รุ่นพี่นำกระเป๋าไปจัดวางไว้อีกมุมหนึ่ง แล้วสำรวจภายในห้องจนทั่ว เขาได้แต่มองรุ่นพี่เดินไปมาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“ ห้องน่ารักมากเลย แต่พี่สนเลือกซะแพงเลยอ่ะ นอนห้องธรรมดาก็ได้ ”
“ ก็มันไม่โรแมนติกนี่นา อยากได้แบบโรแมนติก ”
“ แค่มาทะเลก็โรแมนติกแล้ว ” เขาพูดอมยิ้ม “ จะว่าไปแล้วก็ถึงเร็วเหมือนกันเนอะ เมื่อวานนี้เรายังสอบอยู่เลย วันนี้ก็มาถึงเสม็ดแล้ว ”
“ ทริปนี้ไม่ต้องมีโปรแกรมอะไรมากหรอก อยากไปไหนก็ไป โอเคนะ ? ”
“ โอเค ! ” เขายิ้มกว้างจนตาหยี รุ่นพี่จึงเดินเข้ามาขยี้หัวเบาๆและนั่งลงบนพื้นข้างกัน
“ รู้แล้วว่ามีความสุข ฮ่ะ ๆ ”
“ ช่วงที่ผ่านมาเราต่างก็เหนื่อยจากการสอบ ณัฐดีใจที่ได้มาเที่ยวพักผ่อน ได้เห็นทะเล เห็นหาดทรายแล้วมันรู้สึกสดชื่น และก็ที่สำคัญ...ดีใจที่ได้มากับพี่สนด้วย ”
“ พี่ก็ดีใจที่ได้มากับณัฐ ”
รุ่นพี่เชยคางเขาขึ้นก่อนที่จะพรมจูบอย่างอ่อนโยน “ถ้าณัฐมีความสุข อยากอยู่นานแค่ไหนก็ได้นะ”
“ ดีใจจัง...ป๋าใจดีสุดๆอ่ะ ”
“ แล้วคืนนี้อยากนอนพักผ่อนก่อน หรืออยากไปเดินชายหาดตอนกลางคืนล่ะ ? ” รุ่นพี่ถาม
“ อยากเดินชายหาดตอนกลางคืน ! ” เขาตอบทันที
“ ดี งั้นก็ไปอาบน้ำ ตัวเหนียวหมดแล้ว จะได้ออกไปหาไรกินกัน ”
“ ค้าบบบบ ” เขาเด้งตัวจากที่นอนทันที
***********************************
หลังจากกินอาหารเย็นที่ร้านริมหาดบรรยากาศดีร้านหนึ่ง เราก็ออกมาเดินเล่นกัน
ผู้คนค่อนข้างบางตาและนั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกหาดแห่งนี้ บรรยากาศทะเลในยามค่ำคืนทำให้รู้สึกดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ลมเย็นลอยมาปะทะใบหน้า ได้ยินเพียงเสียงคลื่นที่ซัดสาดเป็นจังหวะ เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แล้วจับมืออีกฝ่ายมากุมไว้แน่น
ถอดรองเท้าให้เท้าได้สัมผัสกับความนุ่มของเม็ดทราย เดินจับมือกันไปตามริมหาดที่ทอดยาว คุยเรื่องสัพเพเหระ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างซึ่งนั่นก็ไม่ได้สำคัญเท่าใดนัก รู้แต่ว่าช่วงเวลาเหล่านี้มีความหมายและทำให้พวกเรามีความสุขมากเพียงใด
“ อากาศดีจังเลย พี่สนว่ามั้ย ? ”
“ นั่นสินะ ลมเย็นดี ”
“ ตอนกลางคืนคลื่นกำลังขึ้นสูงด้วย ” เขาชี้ให้อีกฝ่ายดู
“ อยากเล่นน้ำทะเลกันมั้ย ? ”
“ ตอนนี้เนี่ยนะ ” เขาตกใจ
“ ทำไมเหรอ ? ”
“ ทะเลตอนกลางคืน น่ากลัวออก มองไม่เห็นอะไรเลย ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ล้อเล่น พี่ก็ไม่กล้าเล่นหรอก เหนื่อยเพราะขับรถมาทั้งวัน เดี๋ยวเป็นตะคริวกันพอดี ”
“ งั้นเดินอีกสักหน่อยแล้วเรากลับกันนะ พี่สนจะได้พักผ่อนด้วย ”
“ ก็ได้ ”
ระหว่างที่เรากำลังเดินกลับ ก็มีกลุ่มคนหลายกลุ่มเดินสวนทางกัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจและยังคงเดินจับมือกันเช่นเดิม
“ พี่สน ? ” เขาเรียกอีกฝ่าย
“ ปิดเทอมครั้งหน้า เรามาเที่ยวด้วยกันแบบนี้อีกนะ ”
รุ่นพี่ยิ้ม “ ไปเที่ยวทุกปิดเทอมเลยดีมั้ย ? ”
“ จริงนะ ” เขาเกาะแขนอีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความดีใจ
“ หอมแก้มก่อนสิ ”
“ มีข้อแลกเปลี่ยนตลอด ”
แต่สุดท้ายเขาก็ยืดตัวแล้วหอมแก้มรุ่นพี่แต่โดยดี รู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่ต้องมาหอมแก้มกันริมหาดแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่เขาก็ได้ทำไปแล้ว เห็นรุ่นพี่เอาแต่ยิ้มไม่หุบ เขาจึงทุบแขนฝ่ายนั้นไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย
“ บ้า !! พี่สน เขินอ่ะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ เขินไร คนรักกัน ”
หยอกกันไปมาก็เดินมาจนถึงห้องพักสักที เขารู้สึกเหนียวตัวเล็กน้อยเพราะลมทะเลค่อนข้างแรง จึงคิดว่าจะอาบน้ำอีกรอบสักหน่อย จะได้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายตัว กำลังจะเดินไปหาผ้าเช็ดตัว ก็มีใครบางคนเข้ามาโอบทางด้านหลังเข้าซะก่อน
“ ณัฐ...มีความสุขจังเลยเนอะ มาเที่ยวด้วยกันสองคน ”
“ ครับ ”
รุ่นพี่จับไหล่เขาให้หันไปเผชิญหน้า เรามองสบตาลึกซึ้งกันอยู่นาน ฝ่ายนั้นประคองใบหน้าของเขาไว้แล้วลูบไล้แก้มเนียนอย่างเบามือ เขาพริ้มตาหลับเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายเริ่มเข้ามาใกล้ จูบที่แสนอ่อนโยนและนุ่มละมุนเข้ามาเยือนให้หัวใจได้พองโตอีกครั้ง เรายืนจูบกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานแสนนาน
ร่างสูงพรมจูบไปตามแก้มขาวเนียน ลำคอ แล้วกลับมาบดเบียดที่ริมฝีปากอีกครั้ง มือที่ประคองเอวเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายผ่านเสื้อยืดตัวบาง ร่างเพรียวประคองใบหน้าของอีกฝ่ายไว้แล้วหลับตาพริ้มตอบสนองจูบเป็นอย่างดี...
เราบอกรักกันและกัน...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บทรักถูกบรรเลงเป็นจังหวะไม่ได้หยุดราวกับความต้องการนั้นไม่เคยจะหมดไป จนร่างกายเริ่มอ่อนล้าด้วยกันทั้งคู่ เราจึงเปลี่ยนเป็นนอนกอดกันอยู่อย่างนั้น...ตลอดทั้งคืน
**************************************
ครั้งนี้ช่างวาบหวามมากกว่าครั้งใดๆ อิอิ ><
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น