ลำดับตอนที่ #88
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #88 : บทที่แปดสิบ -- แฟนคลับ
บทที่แปดสิบ
หลังจากวันหยุดช่วงปีใหม่ได้ผ่านพ้นไปการสอบกลางภาคก็ใกล้เข้ามาถึง ช่วงวันหยุดหลายวันติดกันเขาไม่ได้กลับบ้านเพราะเลือกที่จะเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ เมื่ออธิบายให้พ่อแม่ฟังท่านทั้งสองก็เข้าใจดีและเห็นด้วยเพราะไม่อยากให้เดินทางลำบากในช่วงเทศกาลเช่นกัน
ช่วงนี้เขาจึงต้องอ่านหนังสืออย่างหนักโดยมีรุ่นพี่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และบางครั้งก็ออกจะใกล้ชิดเกินไปเสียด้วยซ้ำ เผลอเป็นไม่ได้ต้องมาคลอเคลียแนบชิดอยู่ข้างกายตลอดจนเขาได้ออกปากไล่อยู่เป็นประจำจึงจะได้อ่านหนังสืออย่างจริงจังเสียที แต่พอตกดึกก็มิวายที่จะโดนรุ่นพี่แอบเอาคืนบ้างเป็นบางครั้ง ข้อหาอ่านหนังสือหนักมากจนเกินไปนั่นแหละ
‘อ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว...พักสักหน่อยน่า’ เป็นประโยคเด็ดที่รุ่นพี่ใช้อ้างอยู่ประจำ มันอาจจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นักถ้ามือของฝ่ายนั้นไม่ซุกซนเข้ามาหยอกล้อกับร่างกายของเขาไปด้วยจนต้องเผลอพ่นลมหายใจหนักหรือครางวะหวิวแผ่วเบาออกมาในที่สุด จนวินาทีสุดท้ายที่ต้านทานไม่ไหวเขาจึงต้องยอมวางหนังสือลงแต่โดยดี เขาทำได้แค่เพียงนึกก่นด่าอีกฝ่ายในใจ แต่ร่างกายกลับตอบสนองได้เป็นอย่างดีพร้อมกับเปล่งเสียงครางออกมาด้วยความสุขสมอย่างห้ามไม่ได้
**********************************
การสอบกลางภาคผ่านพ้นไปด้วยดี ถึงแม้ว่าข้อสอบจะยากสักหน่อยแต่เพราะยอมรับว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีจึงไม่ค่อยมีปัญหามากนัก หลังจากสอบเสร็จและหยุดพักเพียงสองวันพวกเราก็เริ่มต้นการเรียนภาคปลายอีกครั้ง
ชีวิตของเขายังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนอย่างทุกวัน และความรักระหว่างเขากับพี่สนก็ยังคงหวานชื่นและมีความสุขดีจนคิดว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ส่วนตอนนี้ข่าวลือเรื่องที่พวกเขาเป็นแฟนกันก็หนาหูเสียจนเราสองคนกลายเป็นจุดสนใจในคณะไปแล้ว และไม่แปลกอะไรที่เขาจะรู้สึกชาชินกับความรู้สึกนี้เพราะต้องเจออยู่ทุกวันและทั้งวัน อย่าว่าแต่ตัวเขาเองเลย...แม้กระทั่งแพรกับจัมโบ้ก็ยังมิวายเลิกใส่ใจปฏิกิริยาของสายตาเหล่านั้นไปด้วย
แต่อยู่มาวันหนึ่ง...แพรก็เอาเรื่องที่น่าตกใจมาเล่าให้ฟังด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เพราะเมื่อวานเธอแอบเห็นกระทู้หนึ่งในเว็บคณะ
ซึ่งกระทู้มีชื่อว่า... ‘ใครเป็นแฟนคลับคู่ สน&ณัฐ เชิญทางนี้จ้า ^^’....
พอได้ยินดังนั้นเขาเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย มีคนก่อตั้งเป็นกลุ่มแฟนคลับพวกเขาด้วยเหรอเนี่ย ชักจะไปกันใหญ่แล้ว !! แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจไม่ต่างกันคือ...ทำไมแพรต้องตีหน้าเครียดขนาดนี้ด้วยนะ
“ แล้วทำไมแกต้องหน้าบูดด้วยล่ะ ? ” ไอ้จัมโบ้ชิงถามเสียก่อน เขาได้แต่นึกขอบคุณในใจ
เธอแหงนหน้ามาจ้องตาเขาเขม็ง “ ก็มันชิงตั้งกระทู้นี้ก่อนแพรน่ะสิ หนอย !! ใครวะ ? ”
“ แพรว่าแล้ววววว...ว่าต้องมีคนชอบคู่ณัฐอยู่บ้าง ไม่สิ อาจจะเยอะก็ได้ แต่อาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ แพรอุตส่าห์จะจุดประเด็นสักหน่อย แต่ก็มีคนเริ่มก่อนจนได้ ” เธอทำหน้าเสียดายอย่างเห็นได้ชัดจนเขาเองได้แต่แอบหัวเราะ โธ่...ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเรื่องใหญ่
“ ก็แพรอยากเป็นแกนนำนี่นา นี่ไม่เข้าใจกันเหรอ ? ” เธอทำท่าฟึดฟัดเมื่อเห็นเขากับไอ้จัมโบ้แอบหัวเราะกัน
“ เอ้อๆ เข้าใจก็ได้ ว่าแต่มีคนไปตั้งกระทู้แบบนี้ด้วยเหรอ ? ” จัมโบ้ถาม
“ ใช่ เหมือนพึ่งจะตั้งมาได้แค่สามวันเอง แต่คนไปอ่านเป็นร้อย ส่วนคนประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นแฟนคลับก็มีเกือบสิบคนแล้ว เพื่อนเราสามสี่คน นอกนั้นเป็นรุ่นพี่หมดเลย ”
“ โห กระแสดีนะเนี่ย ” ไอ้จัมโบ้หันมามอง
“ นึกว่าจะมีแต่คนไม่เห็นด้วยซะอีก ” เขาบอก
“ ไม่นะ แพรขอยืนยัน !! ในนั้นอ่ะ มีแต่คนเชียร์ณัฐกับพี่สน แพรเห็นแล้วปลื๊ม..ปลื้ม ”
“ อืมม...ก็อาจจะดีขึ้นก็ได้ มีคนเกลียดก็ต้องมีคนรัก ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีแต่คนเกลียดไม่ใช่เหรอ ? ตอนนี้กลุ่มคนที่รักก็อาจจะเริ่มประกาศตัวแล้วล่ะมั้ง ”
“ เออ แกพูดมีเหตุผลใช้ได้เลยจัมโบ้ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
อืม...อะไรๆอาจจะกำลังดีขึ้นก็ได้ เขาได้แต่บอกตัวเองในใจ
ตกเย็นวันนั้นเขาก็ชวนรุ่นพี่ดู ‘กระทู้’ ที่ว่านั้นทันที !!
เขาและพี่สนยิ้มกว้างให้กันเมื่อได้อ่านข้อความแล้วข้อความเล่าจากกลุ่มคนที่สนับสนุนความรักของพวกเรา รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเล็กน้อยในการที่พวกเขาจะคบหากันอย่างเปิดเผย นอกจากนั้นยังทำให้เขารู้สึกรักพี่สนมากยิ่งขึ้นไปอีก นั่นเป็นเพราะว่าเราทั้งสองคนได้ผ่านอุปสรรคหลายอย่างร่วมกันมาโดยที่อีกฝ่ายไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งเขาและยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างกันมาตลอด ดีที่วันนี้เรายังรักกันดี...
“ พี่สน ? ” เขาเข้าไปนั่งตักของรุ่นพี่
“ ณัฐรักพี่สนนะ ”
ฝ่ายนั้นยิ้มกว้างแล้วโอบกอด “ ทำไมอยู่ดีๆถึงบอกรักกันล่ะ ? ”
“ ไม่รู้เหมือนกัน แค่อยากบอก ” เขาแลบลิ้นให้แต่ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
ไม่นานนัก...จมูกโด่งของอีกฝ่ายก็เข้ามาหอมที่แก้มของเขาฟอดใหญ่
“ พี่ก็รักณัฐเหมือนกัน ”
เขามองสบตาฝ่ายนั้น แล้วเราทั้งสองก็เคลื่อนตัวเข้าหากันแล้วแลกจูบที่แสนหวานทันที ริมฝีปากบดเบียดด้วยความต้องการแลกลิ้นอ่อนนุ่มตวัดหยอกล้อกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จากจูบที่อ่อนโยนถูกเร่งจังหวะกลายเป็นจูบที่เร่าร้อนขึ้นทันตา ไม่นานนักก็รู้สึกถึงท่อนเนื้อที่แข็งขึงใต้ตักของเขา
“ ลามกอ่ะ !! ขึ้นเร็วมากเลย ” เขาแซว
“ ณัฐแหละกระตุ้นอารมณ์พี่ก่อน ”
“ เหรอ ? ” เขาขยับสะโพกเบาๆเพื่อแกล้งฝ่ายนั้นเล่น
**************************************
...หนึ่งเดือนผ่านพ้นไป...
หลังจากพี่สนสอบปลายภาคเสร็จก็ถือว่าการเรียนของชั้นปีที่สามได้สิ้นสุดลงและเข้าสู่ช่วงปิดเทอม เป็นที่ทราบกันดีว่าปีสามจะปิดเทอมก่อนปีอื่นหนึ่งเดือนเพื่อจะได้เตรียมตัวสอบ National license (NL) หรือใบประกอบวิชาชีพโรคศิลป์ ขั้นที่ 1 ที่นักศึกษาแพทย์ปีสามทั่วประเทศจะต้องสอบ และพี่สนยังบอกอีกว่า...ช่วงเวลาทั้งปิดเทอมนี้คงต้องหมดไปกับการติวและทบทวนเนื้อหากับเพื่อนที่คณะเกือบจะทุกวันนั่นเอง
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลยสักนิด นั่นเป็นเพราะว่าเขาก็ไปเรียนทุกวัน ส่วนพี่สนก็ไปติวที่คณะ เลิกเรียนก็เจอกันตามปกติเหมือนเดิม เขาอ่านหนังสือเป็นประจำเพราะการสอบใกล้เข้ามาแล้วตรงข้ามกับรุ่นพี่ที่นานๆทีจึงจะหยิบหนังสือมาอ่านทบทวนเพราะฝ่ายนั้นเคยบอกเอาไว้ว่าตั้งใจฟังที่เพื่อนและอาจารย์ติวมามากพอแล้ว จึงเน้นที่การฝึกทำข้อสอบเก่ามากกว่า
ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์...อากาศตอนนี้ไม่หนาวแล้ว ในช่วงวันหยุดเขาพารุ่นพี่ไปเอา ‘เสื้อกาวน์’ ที่เคยสั่งตัดไว้เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เพราะนักศึกษาแพทย์ชั้นปีสี่ทุกคนจะต้องสวมใส่เสื้อกาวน์สีขาวและได้ฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล เหตุที่ต้องสั่งตัดตั้งแต่เนิ่นๆนั่นเป็นเพราะพี่สนเคยบอกไว้ว่า...ทั้งเพื่อนและรุ่นพี่สั่งตัดเป็นจำนวนมากถ้าสวมใส่ไม่พอดีอย่างไรจะได้แก้ไขได้ทันก่อนที่จะเปิดเทอม
“ เอ่อ...ภูเบศวร์ ตระกูลสุวรรณไพศาล ใช่มั้ยจ้ะ ? ตัดเสร็จแล้ว...5 ตัวนะ นี่จ้ะ !! ” คุณป้าเจ้าของร้านยื่นเสื้อมาให้
เมื่อได้เสื้อกาวน์มาแล้วพี่สนจึงลองสวมใส่ให้ดูพลางส่องกระจกไปมา เขาได้แต่มองตามตาค้าง การสวมเสื้อกาวน์ทำให้ดูดีได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ? ก็พี่สนในตอนนี้ เท่มากเลยน่ะสิ !!!
“ เป็นไงอ่ะ พอดีมั้ย ? ” ฝ่ายนั้นถาม
“ เอ่อ...พอดีครับ ”
ฝ่ายนั้นแอบยิ้มมุมปาก “ หน้าแดงทำไม ? ”
“ เปล่าสักหน่อย ”
หลังจากจ่ายเงินให้คุณป้าเสร็จเรียบร้อยเราก็ออกจากร้าน และหลังจากนั้นก็ใช้เวลาในช่วงวันหยุดให้เต็มที่ด้วยการไปเดินห้าง กินข้าว และดูหนังกันต่อจนจุใจ กว่าจะได้กลับหอพักก็มืดค่ำเสียแล้ว
พอตกดึกเขาได้รับโทรศัพท์จากแพร เธอโทรมาบอกว่า ‘กระทู้แฟนคลับสนณัฐ’ ในเว็บคณะตอนนี้มีคนมาดูเพิ่มมากขึ้นเกือบห้าร้อยคนแล้ว และมีคนที่ประกาศตัวว่าเป็นแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงซึ่งมีทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ ตอนนี้กระแสตอบรับดีเกินคาดจนตัวเธอเองยังแปลกใจ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่คุยกันก็ไม่พ้นการชื่นชมว่าช่างน่ารักและเหมาะสมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลว่าแต่ละคนไปพบเจอคู่รักทั้งสองที่สถานที่แห่งไหนมาบ้างไม่ต่างจากดาราเลยทีเดียว
“ โห ขนาดนั้นเลยเหรอแพร ? ” เขาอุทานด้วยความแปลกใจจนพี่สนหันมามอง นั่นเป็นเพราะว่าตั้งแต่เปิดดูครั้งแรกในวันนั้นเขาก็ไม่ได้เข้าไปดูอีกเลย
“ ใช่ณัฐ แพรเองก็ตกใจเหมือนกัน นี่ขนาดพยายามเช็คเรื่อยๆแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นที่นิยมเร็วขนาดนี้ ”
“ แล้ว...ภาพรวมๆเท่าที่แพรอ่านมา...ดีมั้ยอ่ะ ? ” เขาถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ ดีอะไรล่ะ ‘ดีมาก’ เลยด้วยซ้ำ แพรยังดีใจแทนณัฐกับพี่สนเลย ในนั้นอ่ะมีแต่คนชื่นชอบณัฐกับพี่สนกันทั้งนั้นเลยนะ แต่เท่าที่อ่านส่วนใหญ่จะชมณัฐมากกว่าน่ะ อิอิ ”
“ อ้าวเหรอ ? ” เขาแอบรู้สึกดีใจเล็กน้อย
“ แต่ตอนนี้เค้าเริ่มพูดกันแล้วล่ะ ว่าณัฐกับพี่สนจะรู้เรื่องพวกนี้มั้ย ? เพราะถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มาคุยกันในกระทู้บ้างน่ะ ”
“ หา ? ว่าไงนะ ”
“ แค่เป็นความต้องการเล็กๆของพวกแฟนคลับน่ะ ถ้าณัฐว่างก็ค่อยแวะเข้าไปอ่านหรือเม้นนิดๆหน่อยๆแค่ทักทายก็ได้ แพรคิดว่าแฟนคลับทุกคนคงดีใจนะ ”
“ ฮ่ะ ๆ คงไม่มีใครอยากรออ่านขนาดนั้นหรอกแพร ”
“ จริงๆนะณัฐ !! ตอนนี้อ่ะเรื่องที่พี่สนกับณัฐเป็นแฟนกันดังมากเลยนะ แล้วกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มคนที่รักณัฐและจะสนับสนุนณัฐต่อไป ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาก็คิดว่าคงช่วยเหลือกันได้ มีคนรักก็ดีกว่ามีคนเกลียดนะณัฐ แพรคิดว่า...ตอนนี้แค่ณัฐ ‘แวะ’ เข้าไปอ่านก็ได้ จะได้รู้ว่าความคืบหน้ามันไปถึงไหน แพรแค่อยากโทรมาบอกเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะบังคับอะไรหรอกนะ ”
“ อ๋อ อืมม ขอบคุณมากนะแพร งั้นณัฐจะแวะเข้าไปอ่านละกัน ”
“ อืม ได้ ๆ งั้นก็ฝากบอกพี่สนด้วยนะ คงอยู่ข้างกันล่ะสิ อิอิ งั้นก็แค่นี้นะ ” แล้วเธอก็ตัดสายไปทันที
เขาหันไปมองหน้ารุ่นพี่ แล้วเผยยิ้มแบบเจื่อนๆ
“ พี่สน ? ”
“ หือ ? มีอะไรเหรอ ? ”
“ แพรบอกว่า...ตอนนี้เรา ‘ดังใหญ่’ แล้วล่ะ เอ่อ...พี่สนอยากดูมั้ย ? ”
*****************************************
ปล. มาช้าดีกว่าไม่มานะ ^^ 555
หลังจากวันหยุดช่วงปีใหม่ได้ผ่านพ้นไปการสอบกลางภาคก็ใกล้เข้ามาถึง ช่วงวันหยุดหลายวันติดกันเขาไม่ได้กลับบ้านเพราะเลือกที่จะเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ เมื่ออธิบายให้พ่อแม่ฟังท่านทั้งสองก็เข้าใจดีและเห็นด้วยเพราะไม่อยากให้เดินทางลำบากในช่วงเทศกาลเช่นกัน
ช่วงนี้เขาจึงต้องอ่านหนังสืออย่างหนักโดยมีรุ่นพี่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และบางครั้งก็ออกจะใกล้ชิดเกินไปเสียด้วยซ้ำ เผลอเป็นไม่ได้ต้องมาคลอเคลียแนบชิดอยู่ข้างกายตลอดจนเขาได้ออกปากไล่อยู่เป็นประจำจึงจะได้อ่านหนังสืออย่างจริงจังเสียที แต่พอตกดึกก็มิวายที่จะโดนรุ่นพี่แอบเอาคืนบ้างเป็นบางครั้ง ข้อหาอ่านหนังสือหนักมากจนเกินไปนั่นแหละ
‘อ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว...พักสักหน่อยน่า’ เป็นประโยคเด็ดที่รุ่นพี่ใช้อ้างอยู่ประจำ มันอาจจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นักถ้ามือของฝ่ายนั้นไม่ซุกซนเข้ามาหยอกล้อกับร่างกายของเขาไปด้วยจนต้องเผลอพ่นลมหายใจหนักหรือครางวะหวิวแผ่วเบาออกมาในที่สุด จนวินาทีสุดท้ายที่ต้านทานไม่ไหวเขาจึงต้องยอมวางหนังสือลงแต่โดยดี เขาทำได้แค่เพียงนึกก่นด่าอีกฝ่ายในใจ แต่ร่างกายกลับตอบสนองได้เป็นอย่างดีพร้อมกับเปล่งเสียงครางออกมาด้วยความสุขสมอย่างห้ามไม่ได้
**********************************
การสอบกลางภาคผ่านพ้นไปด้วยดี ถึงแม้ว่าข้อสอบจะยากสักหน่อยแต่เพราะยอมรับว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีจึงไม่ค่อยมีปัญหามากนัก หลังจากสอบเสร็จและหยุดพักเพียงสองวันพวกเราก็เริ่มต้นการเรียนภาคปลายอีกครั้ง
ชีวิตของเขายังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนอย่างทุกวัน และความรักระหว่างเขากับพี่สนก็ยังคงหวานชื่นและมีความสุขดีจนคิดว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ส่วนตอนนี้ข่าวลือเรื่องที่พวกเขาเป็นแฟนกันก็หนาหูเสียจนเราสองคนกลายเป็นจุดสนใจในคณะไปแล้ว และไม่แปลกอะไรที่เขาจะรู้สึกชาชินกับความรู้สึกนี้เพราะต้องเจออยู่ทุกวันและทั้งวัน อย่าว่าแต่ตัวเขาเองเลย...แม้กระทั่งแพรกับจัมโบ้ก็ยังมิวายเลิกใส่ใจปฏิกิริยาของสายตาเหล่านั้นไปด้วย
แต่อยู่มาวันหนึ่ง...แพรก็เอาเรื่องที่น่าตกใจมาเล่าให้ฟังด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เพราะเมื่อวานเธอแอบเห็นกระทู้หนึ่งในเว็บคณะ
ซึ่งกระทู้มีชื่อว่า... ‘ใครเป็นแฟนคลับคู่ สน&ณัฐ เชิญทางนี้จ้า ^^’....
พอได้ยินดังนั้นเขาเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย มีคนก่อตั้งเป็นกลุ่มแฟนคลับพวกเขาด้วยเหรอเนี่ย ชักจะไปกันใหญ่แล้ว !! แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจไม่ต่างกันคือ...ทำไมแพรต้องตีหน้าเครียดขนาดนี้ด้วยนะ
“ แล้วทำไมแกต้องหน้าบูดด้วยล่ะ ? ” ไอ้จัมโบ้ชิงถามเสียก่อน เขาได้แต่นึกขอบคุณในใจ
เธอแหงนหน้ามาจ้องตาเขาเขม็ง “ ก็มันชิงตั้งกระทู้นี้ก่อนแพรน่ะสิ หนอย !! ใครวะ ? ”
“ แพรว่าแล้ววววว...ว่าต้องมีคนชอบคู่ณัฐอยู่บ้าง ไม่สิ อาจจะเยอะก็ได้ แต่อาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ แพรอุตส่าห์จะจุดประเด็นสักหน่อย แต่ก็มีคนเริ่มก่อนจนได้ ” เธอทำหน้าเสียดายอย่างเห็นได้ชัดจนเขาเองได้แต่แอบหัวเราะ โธ่...ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเรื่องใหญ่
“ ก็แพรอยากเป็นแกนนำนี่นา นี่ไม่เข้าใจกันเหรอ ? ” เธอทำท่าฟึดฟัดเมื่อเห็นเขากับไอ้จัมโบ้แอบหัวเราะกัน
“ เอ้อๆ เข้าใจก็ได้ ว่าแต่มีคนไปตั้งกระทู้แบบนี้ด้วยเหรอ ? ” จัมโบ้ถาม
“ ใช่ เหมือนพึ่งจะตั้งมาได้แค่สามวันเอง แต่คนไปอ่านเป็นร้อย ส่วนคนประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นแฟนคลับก็มีเกือบสิบคนแล้ว เพื่อนเราสามสี่คน นอกนั้นเป็นรุ่นพี่หมดเลย ”
“ โห กระแสดีนะเนี่ย ” ไอ้จัมโบ้หันมามอง
“ นึกว่าจะมีแต่คนไม่เห็นด้วยซะอีก ” เขาบอก
“ ไม่นะ แพรขอยืนยัน !! ในนั้นอ่ะ มีแต่คนเชียร์ณัฐกับพี่สน แพรเห็นแล้วปลื๊ม..ปลื้ม ”
“ อืมม...ก็อาจจะดีขึ้นก็ได้ มีคนเกลียดก็ต้องมีคนรัก ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีแต่คนเกลียดไม่ใช่เหรอ ? ตอนนี้กลุ่มคนที่รักก็อาจจะเริ่มประกาศตัวแล้วล่ะมั้ง ”
“ เออ แกพูดมีเหตุผลใช้ได้เลยจัมโบ้ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
อืม...อะไรๆอาจจะกำลังดีขึ้นก็ได้ เขาได้แต่บอกตัวเองในใจ
ตกเย็นวันนั้นเขาก็ชวนรุ่นพี่ดู ‘กระทู้’ ที่ว่านั้นทันที !!
เขาและพี่สนยิ้มกว้างให้กันเมื่อได้อ่านข้อความแล้วข้อความเล่าจากกลุ่มคนที่สนับสนุนความรักของพวกเรา รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเล็กน้อยในการที่พวกเขาจะคบหากันอย่างเปิดเผย นอกจากนั้นยังทำให้เขารู้สึกรักพี่สนมากยิ่งขึ้นไปอีก นั่นเป็นเพราะว่าเราทั้งสองคนได้ผ่านอุปสรรคหลายอย่างร่วมกันมาโดยที่อีกฝ่ายไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งเขาและยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างกันมาตลอด ดีที่วันนี้เรายังรักกันดี...
“ พี่สน ? ” เขาเข้าไปนั่งตักของรุ่นพี่
“ ณัฐรักพี่สนนะ ”
ฝ่ายนั้นยิ้มกว้างแล้วโอบกอด “ ทำไมอยู่ดีๆถึงบอกรักกันล่ะ ? ”
“ ไม่รู้เหมือนกัน แค่อยากบอก ” เขาแลบลิ้นให้แต่ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
ไม่นานนัก...จมูกโด่งของอีกฝ่ายก็เข้ามาหอมที่แก้มของเขาฟอดใหญ่
“ พี่ก็รักณัฐเหมือนกัน ”
เขามองสบตาฝ่ายนั้น แล้วเราทั้งสองก็เคลื่อนตัวเข้าหากันแล้วแลกจูบที่แสนหวานทันที ริมฝีปากบดเบียดด้วยความต้องการแลกลิ้นอ่อนนุ่มตวัดหยอกล้อกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จากจูบที่อ่อนโยนถูกเร่งจังหวะกลายเป็นจูบที่เร่าร้อนขึ้นทันตา ไม่นานนักก็รู้สึกถึงท่อนเนื้อที่แข็งขึงใต้ตักของเขา
“ ลามกอ่ะ !! ขึ้นเร็วมากเลย ” เขาแซว
“ ณัฐแหละกระตุ้นอารมณ์พี่ก่อน ”
“ เหรอ ? ” เขาขยับสะโพกเบาๆเพื่อแกล้งฝ่ายนั้นเล่น
**************************************
...หนึ่งเดือนผ่านพ้นไป...
หลังจากพี่สนสอบปลายภาคเสร็จก็ถือว่าการเรียนของชั้นปีที่สามได้สิ้นสุดลงและเข้าสู่ช่วงปิดเทอม เป็นที่ทราบกันดีว่าปีสามจะปิดเทอมก่อนปีอื่นหนึ่งเดือนเพื่อจะได้เตรียมตัวสอบ National license (NL) หรือใบประกอบวิชาชีพโรคศิลป์ ขั้นที่ 1 ที่นักศึกษาแพทย์ปีสามทั่วประเทศจะต้องสอบ และพี่สนยังบอกอีกว่า...ช่วงเวลาทั้งปิดเทอมนี้คงต้องหมดไปกับการติวและทบทวนเนื้อหากับเพื่อนที่คณะเกือบจะทุกวันนั่นเอง
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลยสักนิด นั่นเป็นเพราะว่าเขาก็ไปเรียนทุกวัน ส่วนพี่สนก็ไปติวที่คณะ เลิกเรียนก็เจอกันตามปกติเหมือนเดิม เขาอ่านหนังสือเป็นประจำเพราะการสอบใกล้เข้ามาแล้วตรงข้ามกับรุ่นพี่ที่นานๆทีจึงจะหยิบหนังสือมาอ่านทบทวนเพราะฝ่ายนั้นเคยบอกเอาไว้ว่าตั้งใจฟังที่เพื่อนและอาจารย์ติวมามากพอแล้ว จึงเน้นที่การฝึกทำข้อสอบเก่ามากกว่า
ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์...อากาศตอนนี้ไม่หนาวแล้ว ในช่วงวันหยุดเขาพารุ่นพี่ไปเอา ‘เสื้อกาวน์’ ที่เคยสั่งตัดไว้เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เพราะนักศึกษาแพทย์ชั้นปีสี่ทุกคนจะต้องสวมใส่เสื้อกาวน์สีขาวและได้ฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล เหตุที่ต้องสั่งตัดตั้งแต่เนิ่นๆนั่นเป็นเพราะพี่สนเคยบอกไว้ว่า...ทั้งเพื่อนและรุ่นพี่สั่งตัดเป็นจำนวนมากถ้าสวมใส่ไม่พอดีอย่างไรจะได้แก้ไขได้ทันก่อนที่จะเปิดเทอม
“ เอ่อ...ภูเบศวร์ ตระกูลสุวรรณไพศาล ใช่มั้ยจ้ะ ? ตัดเสร็จแล้ว...5 ตัวนะ นี่จ้ะ !! ” คุณป้าเจ้าของร้านยื่นเสื้อมาให้
เมื่อได้เสื้อกาวน์มาแล้วพี่สนจึงลองสวมใส่ให้ดูพลางส่องกระจกไปมา เขาได้แต่มองตามตาค้าง การสวมเสื้อกาวน์ทำให้ดูดีได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ? ก็พี่สนในตอนนี้ เท่มากเลยน่ะสิ !!!
“ เป็นไงอ่ะ พอดีมั้ย ? ” ฝ่ายนั้นถาม
“ เอ่อ...พอดีครับ ”
ฝ่ายนั้นแอบยิ้มมุมปาก “ หน้าแดงทำไม ? ”
“ เปล่าสักหน่อย ”
หลังจากจ่ายเงินให้คุณป้าเสร็จเรียบร้อยเราก็ออกจากร้าน และหลังจากนั้นก็ใช้เวลาในช่วงวันหยุดให้เต็มที่ด้วยการไปเดินห้าง กินข้าว และดูหนังกันต่อจนจุใจ กว่าจะได้กลับหอพักก็มืดค่ำเสียแล้ว
พอตกดึกเขาได้รับโทรศัพท์จากแพร เธอโทรมาบอกว่า ‘กระทู้แฟนคลับสนณัฐ’ ในเว็บคณะตอนนี้มีคนมาดูเพิ่มมากขึ้นเกือบห้าร้อยคนแล้ว และมีคนที่ประกาศตัวว่าเป็นแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงซึ่งมีทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ ตอนนี้กระแสตอบรับดีเกินคาดจนตัวเธอเองยังแปลกใจ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่คุยกันก็ไม่พ้นการชื่นชมว่าช่างน่ารักและเหมาะสมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลว่าแต่ละคนไปพบเจอคู่รักทั้งสองที่สถานที่แห่งไหนมาบ้างไม่ต่างจากดาราเลยทีเดียว
“ โห ขนาดนั้นเลยเหรอแพร ? ” เขาอุทานด้วยความแปลกใจจนพี่สนหันมามอง นั่นเป็นเพราะว่าตั้งแต่เปิดดูครั้งแรกในวันนั้นเขาก็ไม่ได้เข้าไปดูอีกเลย
“ ใช่ณัฐ แพรเองก็ตกใจเหมือนกัน นี่ขนาดพยายามเช็คเรื่อยๆแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นที่นิยมเร็วขนาดนี้ ”
“ แล้ว...ภาพรวมๆเท่าที่แพรอ่านมา...ดีมั้ยอ่ะ ? ” เขาถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ ดีอะไรล่ะ ‘ดีมาก’ เลยด้วยซ้ำ แพรยังดีใจแทนณัฐกับพี่สนเลย ในนั้นอ่ะมีแต่คนชื่นชอบณัฐกับพี่สนกันทั้งนั้นเลยนะ แต่เท่าที่อ่านส่วนใหญ่จะชมณัฐมากกว่าน่ะ อิอิ ”
“ อ้าวเหรอ ? ” เขาแอบรู้สึกดีใจเล็กน้อย
“ แต่ตอนนี้เค้าเริ่มพูดกันแล้วล่ะ ว่าณัฐกับพี่สนจะรู้เรื่องพวกนี้มั้ย ? เพราะถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มาคุยกันในกระทู้บ้างน่ะ ”
“ หา ? ว่าไงนะ ”
“ แค่เป็นความต้องการเล็กๆของพวกแฟนคลับน่ะ ถ้าณัฐว่างก็ค่อยแวะเข้าไปอ่านหรือเม้นนิดๆหน่อยๆแค่ทักทายก็ได้ แพรคิดว่าแฟนคลับทุกคนคงดีใจนะ ”
“ ฮ่ะ ๆ คงไม่มีใครอยากรออ่านขนาดนั้นหรอกแพร ”
“ จริงๆนะณัฐ !! ตอนนี้อ่ะเรื่องที่พี่สนกับณัฐเป็นแฟนกันดังมากเลยนะ แล้วกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มคนที่รักณัฐและจะสนับสนุนณัฐต่อไป ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาก็คิดว่าคงช่วยเหลือกันได้ มีคนรักก็ดีกว่ามีคนเกลียดนะณัฐ แพรคิดว่า...ตอนนี้แค่ณัฐ ‘แวะ’ เข้าไปอ่านก็ได้ จะได้รู้ว่าความคืบหน้ามันไปถึงไหน แพรแค่อยากโทรมาบอกเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะบังคับอะไรหรอกนะ ”
“ อ๋อ อืมม ขอบคุณมากนะแพร งั้นณัฐจะแวะเข้าไปอ่านละกัน ”
“ อืม ได้ ๆ งั้นก็ฝากบอกพี่สนด้วยนะ คงอยู่ข้างกันล่ะสิ อิอิ งั้นก็แค่นี้นะ ” แล้วเธอก็ตัดสายไปทันที
เขาหันไปมองหน้ารุ่นพี่ แล้วเผยยิ้มแบบเจื่อนๆ
“ พี่สน ? ”
“ หือ ? มีอะไรเหรอ ? ”
“ แพรบอกว่า...ตอนนี้เรา ‘ดังใหญ่’ แล้วล่ะ เอ่อ...พี่สนอยากดูมั้ย ? ”
*****************************************
ปล. มาช้าดีกว่าไม่มานะ ^^ 555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น