คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : บทที่ห้าสิบแปด -- com med3
บทที่ห้าสิบแปด
“ ฮัดชิ่ว !!! ฮัดชิ่ว !!! ” ร่างเพรียวสูดหายใจลึกแล้วขยี้จมูกตัวเองเบาๆ
“ ณัฐเป็นหวัดเหรอลูก ? ” แม่ของเขารีบเอ่ยถามทันที
“ อ๋อ...เปล่าครับแม่ ณัฐแค่จามเฉยๆ ”
แต่ผู้เป็นแม่ก็ยังคงไม่เชื่อและเอามือมาแตะหน้าผากเขาเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยอมถอนมือออกด้วยความโล่งอก
“ เฮ้อ...ไม่ได้ตัวร้อน แม่นึกว่าเราจะเป็นไข้หวัดซะอีก ”
“ ฮ่ะ ๆ เปล่าหรอกครับ ”
เพราะเมื่อวานมีฝนตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว อาจจะเป็นเพราะกำลังเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวจึงทำให้อากาศค่อนข้างเย็น ถึงแม้ว่าเมื่อวานเขาจะไม่ได้ตากฝนก็ตาม แต่ถ้าไม่ระวังก็อาจจะเป็นหวัดได้ง่ายๆ
“ ถ้างั้น...วันนี้ไม่ต้องไปร้านนะ กินยาแล้วนอนพักเถอะ แม่กลัวเราจะเป็นหวัดเอา ”
“ แต่ว่า... ”
“ ไม่เป็นไรหรอก วันนี้แม่อนุญาติให้ณัฐพักผ่อนได้ ” แม่พูดพร้อมกับยิ้มหวานมาให้
“ ก็ได้ครับ ” เขารับคำเบาๆ
ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาไปช่วยแม่ทำงานที่ร้านทุกวัน เรียกได้ว่า...แทบจะนั่งเฝ้านอนเฝ้าอยู่ที่ร้านเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละวันเขาว่างเสียจนไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยต้องหาเรื่องทำงานนั่นเอง
“ ดีมากจ้ะ...ถ้างั้นแม่ไปร้านก่อนนะ แล้วตอนเที่ยงๆจะแวะมาหาอีกที ”
“ ครับ ”
ผู้เป็นแม่ลูบศีรษะเขาเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนไป...
เขาเอนตัวลงนอนอีกครั้ง หวังว่าจะนอนเล่นสักพักค่อยไปอาบน้ำแต่งตัว
ไม่มีอะไรทำแบบนี้...น่าเบื่อจังเลยแฮะ...
ร่างเพรียวพลิกตัวไปอีกทาง แล้วนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...
...คิดถึงพี่สนจัง...อยู่ดีดีเขาก็รู้สึกแบบนี้...อีกแล้ว
ถึงแม้ว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาจะคุยโทรศัพท์กันทุกวันก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหายคิดถึงฝ่ายนั้นได้เลย แค่คุยกันยังไม่เพียงพอเหมือนอย่างที่พี่สนเคยบอกน่ะแหละ
อยากเห็นหน้า...อยากสัมผัส...อยากพูดคุยหยอกล้อกันเหมือนเดิม
เฮ้อ...นี่เขาเพ้อมากไปหรือเปล่านะ ?
แล้วพี่สนล่ะ ? จะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า ?
วินาทีต่อมาร่างเพรียวก็เผลออมยิ้มกับตัวเองเบาๆ...เมื่อนึกถึงถ้อยคำหวานที่ฝ่ายนั้นพูดให้ฟังอยู่ทุกคืน
พี่สนก็คงคิดถึงเขามากเหมือนกันใช่มั้ย ?
แล้วตอนนี้รุ่นพี่จะทำอะไรอยู่นะ ?
จากที่ได้คุยกันเมื่อคืน...ฝ่ายนั้นบอกว่าจะได้เดินทางกลับคณะวันนี้ คงจะถึงตอนบ่ายๆล่ะมั้ง
ถ้างั้น......
ตอนเย็นค่อยโทรหาดีกว่า
************************************
...อีกฝั่งหนึ่ง...
วันนี้ ‘สน’ รีบตื่นแต่เช้าด้วยความสดใสกระปรี้กระเปร่า นั่นเป็นเพราะ...เวลาล่วงเลยมาจนถึง ‘วันที่สิบ’ แล้วน่ะสิ
แต่ละคืนที่ผ่านไปเขาได้แต่นั่งนับนอนนับให้วันนี้มาถึงเร็วๆ และพอเอาเข้าจริง...มันก็มาถึงเร็วเกินคาดเพราะว่าการทำงานอย่างหนักหน่วงในแต่ละวันนั่นเอง
หน้าที่สุดท้ายของพวกเขาในวันนี้ก็คือ การทำความสะอาดบ้านให้หมดทุกซอกทุกมุม เพื่อคงสภาพเดิมของบ้านให้เหมือนตอนก่อนที่พวกเขาจะมาอยู่อาศัย โดยผู้หญิงรับหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูภายในบ้าน ส่วนผู้ชายก็รับหน้าที่ทำความสะอาดนอกบ้าน ขัดห้องน้ำ รวมถึงการเก็บขยะทั้งหมด
หลังจากที่ทั้งสิบสองคนร่วมแรงร่วมใจกันด้วยความสามัคคี ภายในเวลาไม่นาน...บ้านหลังน้อยที่พวกเขาอยู่อาศัยก็กลับมาสะอาดสะอ้านดังเดิม
“ เฮ้อ...เสร็จสักที ” กฤตโยนถุงขยะสีดำถุงสุดท้ายเข้าถังใบใหญ่ที่อยู่หน้าบ้าน
“ วันนี้จะได้กลับบ้านแล้ว...รู้สึกใจหายนิดๆเนอะ มึงว่ามั้ย ? ”
“ อือ ” สนตอบกลับ
ถึงแม้ว่าเขาจะรอคอยให้วันนี้มาถึงเร็วๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า...เก้าวันที่ผ่านมานั้นพวกเขาสนุกและมีความสุขมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยไปบ้างแต่ก็เทียบไม่ได้เลยสักนิดกับความคุ้มค่าที่ได้กลับมา
ทั้งการดำเนินชีวิตที่แสนยากลำบากที่พวกเขาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน ทั้งการที่ได้คลุกคลีกับชาวบ้านในชุมชนและเห็นมุมมองที่แปลกใหม่แบบที่ชุมชนเมืองไม่มี ทั้งการที่ได้อยู่รวมกันกับเพื่อนคณะอื่นที่ไม่เคยรู้จักแต่สุดท้ายก็สามารถสนิทสนมกันได้อย่างง่ายดาย และการทำงานทางวิชาการที่อยู่ในความรับผิดชอบชิ้นสุดท้ายก็สำเร็จลงด้วยดี
เมล็ดผลประโยชน์ที่ก่อเกิดคุณค่าทางจิตใจกำลังงอกเงยในใจของพวกเราทุกคนอย่างช้าๆ
ได้แต่คิดกับตัวเองในใจว่า...ความทรงจำที่แสนมีค่าในการออกคอมเมดครั้งนี้...เขาจะไม่มีวันลืมเลย...
“ ถึงจะเหนื่อย...แต่ก็สนุกมากเลยล่ะ ” กฤตเอ่ยอีกครั้ง
เขาส่งยิ้มให้กับเพื่อนสนิท แล้วยกแขนไปกอดคออีกฝ่ายเบาๆ
“ นั่นสินะ ”
“ อี๊...เอามือที่จับขยะของมึงออกไป ไอ้เชี่ยสน !!! ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ มึงรังเกียจกูเหรอ ? กูเป็นเพื่อนรักมึงนะ ”
“ เฮ้ย !! อย่าเอามาใกล้หน้ากู ไอ้สัด !! ”
หลังจากที่ทำความสะอาดบ้านจนเสร็จเรียบร้อยดี พวกเราทุกคนก็มาจัดกระเป๋าเก็บข้าวของกันเสียยกใหญ่ ถึงจะรู้สึกดีใจที่จะได้กลับบ้าน...แต่ลึกๆก็รู้สึกใจหายไม่น้อยเหมือนกัน
พอสายๆ...พวกเราทุกคนกล่าวขอบคุณและร่ำลาเจ้าของบ้านอย่างเป็นพิธี พวกผู้หญิงบางคนถึงกับต้องเสียน้ำตาเมื่อได้กอดร่ำลากับคุณป้า นั่นเป็นเพราะช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกัน ท่านทั้งสองดูแลเราเป็นอย่างดีและใจดีกับพวกเราเหลือเกิน...เวลาเพียงแค่สิบวันก็ทำให้รู้สึกผูกพันกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
จวบจนที่รถตู้คันเล็กที่คณะจัดเตรียมไว้สำหรับทุกกลุ่มขับเคลื่อนมารอรับที่หน้าบ้าน จึงตัดสินใจร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้ายและขนกระเป๋าสัมภาระของแต่ละคนขึ้นรถ แล้วพวกเขาก็เริ่มออกเดินทาง...
...มุ่งหน้ากลับสู่มหาวิทยาลัย...
****************************************
จากการเดินทางยาวนานเกือบสามชั่วโมง รถตู้คันเล็กก็เคลื่อนเข้าจอดที่หอพักคณะแพทย์
“ คณะแพทย์...จะลงนี่หมดเลยมั้ย ? ” อาจารย์ชะโงกหน้ามาถามจากที่นั่งด้านหน้า
“ อ๋อ...ลงหมดเลยครับ ” กฤตตอบกลับ แล้วรีบหันไปกระซิบบอกเพื่อนอีกทาง
“ สนมึงก็ลงนี่แหละ รถมึงจอดคณะใช่มั้ย ? งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง ”
“ อื้อ...งั้นก็ได้ ”
“ อาจารย์คะ...หนูลงที่นี่ด้วยค่ะ !!! ” เสียงใสตะโกนดังมาจากเบาะหน้าของพวกเขา...พี่ใบหม่อนนั่นเอง
“ อ้าว...ทำไมล่ะ ? ”
“ ก็...หอทันตะอยู่ตรงนี้เองค่ะ ” เธอชี้มือไปหอพักอีกฝั่งที่อยู่ไม่ไกล
เป็นที่รู้กันดีว่าหอพักนักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาทันตะสร้างอยู่ในบริเวณเดียวกัน จนสามารถเดินเท้าไปหากันได้ เรียกได้ว่า...หอพักคณะทันตะ ถูกหอพักคณะแพทย์ขนาบติดทั้งสองข้างเลยก็ว่าได้
“ อ๋อ...เหรอ ? ดีดี...งั้นก็ลงพร้อมกันเลย ”
หลังจากที่ขนสัมภาระของทุกคนลงจากรถแล้ว รถก็เคลื่อนตัวออกอีกครั้งเพื่อไปส่งนักศึกษาคนอื่นเช่นกัน
“ พี่หม่อนจะเดินกลับใช่มั้ยครับ ? ” เขาเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง เพราะข้าวของของรุ่นพี่เยอะเหลือเกิน เกรงว่าถ้าเดินกลับ...อาจจะขนของทั้งหมดนี้คนเดียวไม่ไหวแน่
เธอมองสัมภาระในมือ แล้วยิ้มเก้อๆ
“ อ๋อ...จ้ะ ”
เขาตัดสินใจวางกระเป๋าของตัวเองลงทันที
“ งั้นเดี๋ยวผมขนช่วยละกันครับ ” เขาบอกอย่างสุภาพ แล้วหันไปบอกเพื่อน
“ กฤต...มึงมาถือช่วยพี่หม่อนด้วยเร็ว ! ”
“ หือ ? อ๋อ...ได้สิ ” กฤตหันมารับคำ แต่เสียงใสกลับแทรกขึ้นมาทันที
“ ไม่เป็นไรหรอก !! เอ่อ...พี่คิดว่า ‘คนเดียว’ ก็น่าจะพอ ”
“ คือว่า...พี่เกรงใจน่ะ ”
ชายหนุ่มทั้งสองคนมองหน้ากัน
จากคำพูดนั้น ‘กฤต’ รู้ได้ทันทีเลยว่า ตัวเองควรจะทำอย่างไร ?
“ โอเค งั้นฝากมึงช่วยพี่หม่อนละกันนะ ” กฤตตบไหล่เขาเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มแปลกๆ
“ อืมม ” เขาพยักหน้ารับ
แล้วเขาก็ช่วยพี่หม่อนถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ และถุงสัมภาระอีกหนึ่งใบ ส่วนอีกฝ่ายก็สะพายเป้ใบเล็กเพียงใบเดียวเท่านั้น
“ รู้สึกหวิวๆเนอะที่ได้กลับมา เอาเข้าจริงก็สนุกมากเลยล่ะ...ที่ได้อยู่ด้วยกัน ” รุ่นพี่เริ่มชวนคุยขณะที่กำลังเดิน
“ นั่นน่ะสิครับ ผมชอบตอนที่พวกเราทำกับข้าวมากที่สุดเลย ดูวุ่นวายกันยังไงไม่รู้ ฮ่ะ ๆ ”
“ แต่พี่ชอบ...ตอนที่พวกเรานั่งคุยกันตอนกลางคืนก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอนนะ ทั้งเล่นไพ่ ทั้งเล่นเกมส์ทายใจ...ทั้งนั่งเม้าธ์กัน...สนุกดี ”
“ โดยเฉพาะ...ตอนที่พวกเรานั่งร้องเพลงกันที่แคร่หน้าบ้าน แล้วสนก็ดีดกีตาร์ จนบ้านอื่นนึกสนุกต้องมาแจมด้วย ” เธอพูดพร้อมกับทำหน้าเหมือนนึกคิด แล้วยิ้มหวานออกมา
“ แต่ว่า... ” เธอเปลี่ยนเป็นหน้าเศร้าแล้วเอ่ยเสียงเบา
“ เราก็จะไม่มีช่วงเวลาแบบนั้นอีกแล้ว ”
“ แต่ก็ยังเจอกันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ไหนพี่ตุ๊กตาบอกว่า...จะนัดกินข้าวกันอีกเรื่อยๆ ”
เธอหันหน้ามายิ้มหวานให้
“ นั่นสินะ แล้วน้องสนจะมาหรือเปล่าล่ะ ? ”
“ ผมเหรอครับ...อืม...ถ้าว่างก็คงมา ”
“ เหรอ ? ”
“ ....................................... ”
“ แต่พี่รู้สึกว่า...มันน้อยไป ” เธอกระซิบบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ อะไรนะครับ ? ” เขาถามอีกครั้งเพราะได้ยินไม่ค่อยถนัด
เธอเพียงส่งยิ้มหวานกลับมาให้ โดยไม่ได้พูดถ้อยคำใดออกมาอีก...
แล้วเราทั้งสองคนก็เดินมาจนถึงด้านล่างของหอพักคณะทันตะ พี่ใบหม่อนหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้าสบตากับเขาอยู่นาน
“ น้องสน ? ”
“ ครับ ? ”
“...เอ่อ...คือว่า ” เธอสูดหายใจลึกก่อนที่จะพูดประโยคถัดไป
“ อะไรเหรอครับ ? ”
จากที่ก้มหน้าอยู่...สักพักเธอก็หันมาจ้องตาเขาอีกครั้ง แก้มขาวใสเริ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ ทำให้ใบหน้าที่ได้รูปสมส่วนนั้นยิ่งดูน่ามองไปกันใหญ่
“ พี่ขอยืมมือถือน้องสนหน่อยสิ ” เธอเปล่งเสียงออกมาในที่สุด
“ อ๋อ...ได้ครับ ” เขาหยิบจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้อีกฝ่ายทันที
พี่ใบหม่อนรับไปกดเบอร์โทรของใครสักคน ทีแรกเขานึกว่าฝ่ายนั้นจะโทรออกหาเพื่อน แต่แล้ว...อีกฝ่ายกลับกดค้างแค่นั้นแล้วยื่นกลับคืนมาให้
“ อ๊ะ ”
เขายื่นมือออกไปรับ แล้วมองที่หน้าจอโทรศัพท์ก็พบว่ามี...ตัวเลขสิบหลัก...อยู่
“ เบอร์นี้ ?? เบอร์... ” อันที่จริง...เขาก็พอเดาได้ลางๆอยู่แล้ว
เธอหลบสายตาและทำหน้าเขินอาย
“ เบอร์พี่เอง ถ้าน้องสนอยากโทรมา...เอ่อ...ตอนไหนก็ได้ ”
“ อ๋อ...ครับ ” เขารับคำแค่นั้น เพราะไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้
สิ่งที่พี่หม่อนทำ...ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นหมายความว่าอย่างไร ? แต่เขายังปฏิเสธออกไปไม่ได้ เพราะพี่หม่อนแค่ให้เบอร์โทรมา...ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่คนรู้จักกันสองคนจะมีเบอร์ติดต่อกัน
แต่ถ้า...ฝ่ายนั้นแสดงเจตนารมย์ออกมาให้ชัดเจน หรือยอมพูดออกมาตรงๆ เขาคงจะปฏิเสธได้ง่ายกว่านี้
เพราะถึงอย่างไร...เขาก็มีแฟนแล้ว...
“ เอ่อ...โทรมานะ แล้วพี่จะรอ ”
“ งั้นพี่ไปก่อนล่ะ บ๊ายบาย ” รุ่นพี่พูดทิ้งท้ายแค่นั้น แล้วรีบเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
เขามองตามหลังฝ่ายนั้นสักพัก ก็นึกอะไรขึ้นได้...จึงต้องรีบตะโกนเรียก
“ พี่หม่อนครับ !!?? ”
“ หือ ?? ” เธอชะงักและหันหลังกลับมาทันที
“ คือว่า...”
“ ..................................... ”
“ พี่หม่อนลืมกระเป๋าใบนี้ ” เขาชี้นิ้วลงบนกระเป๋าสีน้ำตาลใบใหญ่ และยกสิ่งหนึ่งขึ้นมา
“ ...และถุงนี้ ”
“ อ๋อ ” ใบหน้าเธอเริ่มเป็นสีชมพูเข้มอีกครั้งพร้อมกับยิ้มเขินๆ แล้วค่อยเดินลงมาหวังว่าจะมาเอาสัมภาระคืน
แต่แล้ว...ร่างสูงกลับพูดอะไรออกมาก่อน
“ ถ้างั้น..... ”
“ ............................................ ”
ร่างสูงคลี่ยิ้มบาง...แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้อีกฝ่ายใจเต้นโครมครามได้อย่างง่ายดาย แล้วยิ่งได้ฟังประโยคถัดมานั่นอีก
“ ให้ผมไปส่งถึงห้องมั้ยครับ ?? ”
*************************************
ความคิดเห็น