ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่หก -- เพื่อนใหม่

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.77K
      32
      28 ก.ค. 52

    บทที่หก
     

     


                     ท้องฟ้าในยามเช้าเปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น ฝนที่ตั้งเค้าอยู่ทั่วทำท่าเหมือนกำลังจะตกลงมาในไม่ช้า  อากาศค่อนข้างเย็นสบายซะจนร่างที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่อยากจะลุกขึ้นมา
     
                     ร่างเพรียวที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าผวยกำลังหลับสบาย แต่นาฬิกาเจ้ากรรมก็ดันปลุกเสียงดังตามเวลาที่มันเคยทำงานอยู่ทุกเช้า  จนเขาต้องเอื้อมมือไปปิดโดยเร็ว

                     ไม่อยากไปเรียนเลย....

                      เมื่อคืนเขานอนดึกมากเพราะต้องอ่านหนังสือ  แถมอากาศในตอนเช้าก็ยังมาเป็นใจ   แต่ถ้าเขาไม่ไปเรียนก็คงจะรู้สึกผิด  เพราะการสอบกลางภาคใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งเหลืออีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น  ถ้าเขายังขี้เกียจอยู่อย่างนี้ก็จะไม่เป็นผลดีเลย
      
                     เมื่อต่อสู้กับกิเลสในใจอยู่นาน  ณัฐจึงตัดสินใจยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังรู้สึกงัวเงียอยู่   แล้วลุกออกจากเตียงเพื่อไปชำระร่างกาย

        ****************

     
                       บรรยากาศการเรียนภาคบรรยายยังเป็นไปในแบบเดิม...เสียงของอาจารย์ที่ฟังดูเหมือนพึมพำอะไรสักอย่าง  อากาศภายในห้องเรียนที่ค่อนข้างเย็นสบาย  บวกกับความอ่อนเพลียของร่างกายที่พักผ่อนมาน้อย  ยิ่งกระตุ้นให้เขาต้องฟุบหน้า และ.....หลับในห้องเรียนอีกครั้ง...
     

                      “ ณัฐ...อ่านหนังสือหนักเหรอเมื่อคืน ? ” แพรเอ่ยถามช่วงพักกลางวันในวันนั้น
     

                     “ ก็...ประมาณนั้น ” ณัฐตอบพร้อมกับตักคำข้าวเข้าปาก
     
                     “ ขยันตั้งแต่ปีหนึ่งขนาดนี้..จะเอาเกียรตินิยมเลยเหรอเนี่ย ? ” 
     
                     “ ไม่ได้ขยันสักหน่อย...แค่รู้สึกว่า ‘ควรอ่าน’ แค่นั้นเอง ” 
     

                     “ ครับ...ฟังดูแล้วมันเหมือนจะกระทบผมนิดๆนะครับ ” จัมโบ้เอ่นสวนทันที  เพราะเมื่อคืนเขาจำได้ว่ามันนอนตั้งแต่สามทุ่ม
     

                     แล้วทั้งสามก็หัวเราะร่วนขึ้นมาพร้อมกัน 
     

                     เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าจัมโบ้เป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจอยู่เหมือนกัน  เลคเชอร์ที่เข้ามั่งไม่เข้ามั่ง มาเรียนอีกทีก็แล็บในตอนบ่าย  และไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทบทวน ส่วนอ่านหนังสือสอบกลางภาคน่ะเหรอ ? มันตั้งปณิธานเป็นอย่างดีเลยว่า...
     
                   ‘ ถ้าไม่ก่อนสอบหนึ่งอาทิตย์ มันไม่อ่าน! ’   เป็นปณิธานที่แน่วแน่ดีจริงๆ

     

                    “ แพรก็ว่าจะเริ่มอ่านวันนี้แหละ ”

                    “ งั้นตอนเย็นเราไปนั่งอ่านที่ห้องสมุดกันนะ ?  ” แพรพยักหน้าเอ่ยชวนทั้งคู่



     
                       เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน  ทั้งสามจึงมุ่งตรงมายังห้องสมุดคณะแพทย์
     
                       ภายในห้องสมุดของคณะนั้น เรียกได้ว่า มีบรรยากาศของความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง  เพราะในแต่ละมุม แต่ละชั้นนั้น จะมีผู้คนกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอย่างตั้งอกตั้งใจ  สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมายหลายหมวด  รวมทั้งผู้คนที่มานั่งศึกษาหาความรู้  และยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบชวนให้มีสมาธิ  เป็นสถานที่สร้างความมุ่งมั่นในการอ่านหนังสือได้ดีเยี่ยม
     

                      ณัฐภัทรเลือกโต๊ะเดี่ยวริมด้านในสุด  เพราะเป็นที่ที่คนไม่พลุกพล่าน จะได้ไม่มีเสียงใดมารบกวนความตั้งใจของเขา
     

                      หน้าหนังสือที่ค้างต่อจากเมื่อคืนได้ถูกเปิดขึ้น.....พร้อมกับที่เก้าอี้ของโต๊ะตัวด้านข้างได้ถูกดึงให้เลื่อนออก    

                     หญิงสาวคนหนึ่งนั่งแทนที่โดยเร็ว และหันมายิ้มหวานให้
     
                     ‘ แก้ม ’ นั่นเอง...
     

                     “ ขอนั่งด้วยคนนะ ”  เธอเอ่ยถามเสียงใส
     
                    “ อืมม...นั่งดิ  ” ณัฐรีบตอบรับ


                       แก้ม...เป็นคนที่เขาพึ่งจะได้คุยและรู้จักกัน หลังจากที่ได้ประกวดหนุ่มหล่อ-สาวสวยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  หลังจากวันนั้น แก้มก็ได้เข้ามาทักทายและพยายามพูดคุยกับเขาอยู่เป็นประจำ  จนถึงขั้นที่..แพร..เคยพูดแบบพิลึกพิลั่นเอาไว้ว่า  ‘แก้มมาทำตัวสนิทสนมกับณัฐจังเลยนะ’
     

                      แต่เขากลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร  แก้มก็แค่เป็นคนอัธยาศัยดีและเข้ากับคนได้ง่าย  คนเรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ

                      และวันนี้...ก็เป็นเหมือนเคย
     


                    “ ณัฐ มาอ่านหนังสือที่นี่เหมือนกันเหรอ ? ” แก้มเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
     
                   “ ป่าวหรอก  นี่เป็นครั้งแรก  ปกติจะอ่านอยู่หอน่ะ ”
     
                   “ มิน่าล่ะ..แก้มไม่เคยเห็น  เพราะแก้มมานั่งอ่านที่นี่ทุกวันเลย ”
     
                    หญิงสาวเปลี่ยนเสียงเป็นแทบจะกระซิบ   “ และที่นี่...ก็เป็นที่ประจำของแก้มด้วย ” แก้มชี้มาที่โต๊ะตัวที่ณัฐกำลังนั่งอยู่
     
                 “ อ้าว..เหรอ  โทษที ๆ งั้นเราเปลี่ยนไปนั่งตรงนั้นก็ได้ ” ณัฐทำท่าจะลุก  แต่ถูกแก้มรั้งตัวไว้เสียก่อน
     

                  “ ณัฐ...แก้มพูดเล่น ต่างหาก ” หญิงสาวกล่าวหยอกพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย
     
                 
                     สงสัยเราทั้งคู่เสียงดัง จึงทำให้แพรและจัมโบ้ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นด้วย ต้องชะโงกหัวมาดู   ไอ้จัมโบ้ทำตาโตเล็กน้อยเมื่อมองมา และชักหัวกลับอย่างรวดเร็ว
     

                   “ โทษทีนะ...งั้นณัฐอ่านต่อเถอะ ” และแก้มก็หันกลับไปหยิบหนังสือมาจากกระเป๋าของตนเช่นกัน
     


                   แต่พออ่านไปได้สักพัก  หญิงสาวก็สะกิดแขนเบาๆ

                  “ ณัฐ...แก้มไม่เข้าใจตรงนี้อ่ะ อธิบายให้แก้มฟังหน่อยดิ ” เธอยื่นหนังสือมาพร้อมกับกระเถิบเก้าอี้เข้ามาใกล้
     
                 “ อ๋อ..ตรงนี้เหรอ ? ไม่เข้าใจยังไงอ่ะ ”
     
                  ณัฐเริ่มต้นอธิบายตามที่เขาเข้าใจให้แก้มฟัง โชคดีที่เรื่องนี้เขาพึ่งอ่านไปเมื่อวันก่อน  จึงสามารถอธิบายเป็นฉากๆได้สบาย  แก้มได้ฟังแล้วก็พยักหน้าตามเป็นระยะ พอฟังจบแล้วต้องทำตาโต 
     

                 “ โห...ณัฐแม่นมากเลยอ่ะ  ” 


                 “ ก็เรื่องนี้เราพึ่งอ่านมา...เราก็เคยสงสัยตรงนี้เหมือนกัน ก็เลยเข้าใจว่าแก้มงงตรงไหนไง ”
     
                “ งั้นถ้าแก้มไม่เข้าใจตรงไหน  แก้มจะมาถามณัฐนะ ” เธอยิ้มหวานให้
     
                “ ถ้าเราตอบได้นะ....”  
     

                   ณัฐหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ถ้าตอบได้เขาก็จะพยายามตอบ แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็จะพยายามหาคำตอบมาให้ เขาเป็นคนแบบนี้เสมอ...เพราะเขารู้ดีว่า การที่ได้อธิบายให้เพื่อนฟังไม่ใช่ข้อเสียเลย ตรงกันข้ามกลับมีประโยชน์มากมาย  ทั้งเพื่อนได้ไขข้อสงสัย  ทั้งตัวเขาเองที่จะได้ทบทวนความเข้าใจนั้นด้วย นั่นยิ่งจะทำให้สามารถจำเรื่องนั้นได้ง่ายขึ้น
     

                    และหลายชั่วโมงนั้นก็ผ่านไปด้วยการตอบข้อข้องใจของแก้ม  คำถามแล้วคำถามเล่า...แก้มมีเรื่องสงสัยเยอะจริงๆ  บางคำถามก็ค่อนข้างจะ...ง่ายเกินไปรึเปล่า....แต่แก้มก็ยังสงสัยได้    เพราะฉะนั้นเป้าหมายของการที่จะได้มานั่งอ่านหนังสืออย่างตั้งใจในวันนี้ เป็นอันต้องล้มเลิกไปในที่สุด
     




                     นานทีเดียว...เสียงกริ่งของห้องสมุดก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเวลาปิดทำการ  เขาและแก้ม รวมทั้งแพรกับจัมโบ้จึงเดินออกมาจากห้องสมุด  ตอนนี้ผู้คนที่อยู่ในแต่ละชั้นต่างเดินทยอยออกมาจนเกือบหมด
     

                      ในขณะที่เขากับแก้มเดินลงมาจากบันได  พร้อมกับที่เพื่อนทั้งสองเดินตามมาทางด้านหลัง   ณัฐก็เห็นร่างหนึ่งกำลังจะก้าวขึ้นบันไดสวนทางมา
     

                      ‘พี่สน’กำลังเดินขึ้นบันไดมา ในจังหวะที่ฝ่ายนั้นแหงนหน้าขึ้นมานั้น ก็ได้ประสานสายตาเข้ากับเขาอย่างจัง  และร่างสูงนั้นก็ได้เผยยิ้มกว้างออกมาเป็นการทักทายด้วยท่าทีที่เป็นปกติที่สุด  ณัฐไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำได้แต่หลบสายตาและเบือนหน้าไปทางอื่น


                      นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับรุ่นพี่ ตั้งแต่.....
     
                      ถูกผู้ชายคนนี้   ‘จูบ...เพื่อแลกกับภาพวาด’ !!

     

                     หลังจากนั้น เขาก็เจอรุ่นพี่อีกประมาณสองสามครั้ง  ซึ่งแต่ละครั้ง..ฝ่ายนั้นจะพยายามทักทายเขาด้วยสีหน้าและท่าทีที่เป็นปกติ ราวกับว่าไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น 


                     แต่สำหรับเขานั้นยังวางตัวไม่ถูก... ทุกครั้งที่ได้เห็นอีกฝ่าย  เขาแทบจะพยายามเดินเลี่ยงไปทางอื่น หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นตั้งแต่แรก ถ้าเป็นไปได้เขาจะพยายามไม่เดินเข้าไปในระยะที่ฝ่ายนั้นจะมองเห็นได้  ไม่ใช่ยังรู้สึกโกรธ  เพียงแต่...ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเสียมากกว่า...


                     และครั้งนี้ก็มาเจออีกจนได้...


                  “ หวัดดีครับ...น้องณัฐ ” เสียงทุ้มเอ่ยทักในจังหวะที่กำลังจะเดินสวนทางกัน
     

                    ณัฐไม่ตอบอะไร  ได้แต่เดินอย่างรีบเร่งผ่านไป จนเกือบจะตกบันได หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างจึงได้แต่แปลกใจในท่าที  เมื่อพ้นจากประตูห้องสมุดเธอจึงเอ่ยถามทันที
     


                  “ พี่สน ทัก ณัฐไม่ใช่เหรอ ? ”
     
                  พร้อมกับที่เพื่อนทั้งสองกำลังเดินเข้ามาสมทบ   เขาไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้จึงรีบตอบกลับไปว่า... 
                
                “ เหรอ...พอดีเราไม่ทันได้สังเกตน่ะ ”
     



                   “ ณัฐ....เมื่อกี้เห็นพี่สนมั้ย ? ” แพร รีบเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึง
     
                   “ ไม่เห็น! ” เขาตอบทันควันแบบไม่ต้องคิด
     
                   “ ว้า...เสียดายจัง  แค่คิดไว้ว่า ถ้าณัฐได้คุยกับพี่สน  แพรก็อาจจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เขาบ้าง ” หญิงสาวทำหน้าอย่างเสียดาย
     
    เขาได้แต่แกล้งยิ้มออกไป ในใจกลับคิดว่า.. ถ้าเป็นอย่างนั้น แพรก็คงไม่มีโอกาสนั้นหรอก
     



                    ทันใดนั้นแก้มก็กล่าวเปิดประเด็นใหม่ เขาได้แต่ขอบคุณแก้มในใจที่เลิกพูดเรื่องนี้เสียที
     
                  “ ณัฐ...ไปกินข้าวกันเถอะ ”  ท่าทีของเธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ต้องการชวนคนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
     
                  แพรที่เห็นดังนั้นก็เงียบไปเล็กน้อย และได้เอ่ยขึ้น 

                  “ งั้น...แพรกับจัมโบ้จะกลับเลยละกันนะ ”
     
                  “ อ้าว... ทำไมไม่ไปกินด้วยกันล่ะ ” ณัฐได้แต่มองหน้าเพื่อนทั้งสองไปมา
     
                    จัมโบ้มีท่าทีลำบากใจที่สุด  แต่ถูกเพื่อนร่างเล็กสะกิดเบาๆเข้าให้  จนสุดท้ายต้องตอบว่า.. “ ไม่เอาอ่ะ..อยากกลับไปนอนมากกว่า ”
     


                  “ อืม..แพรก็ต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านเหมือนกัน ”

                  “ งั้นเราไปกันสองคนเถอะนะณัฐ ” แก้มเป็นคนเดียวที่ท่าทางมีความสุขที่สุด
     
                    ตอนนี้เขาก็รู้สึกหิวข้าวมากแล้วเหมือนกัน ถ้างั้นไปกินข้าวกับแก้มก่อนแล้วค่อยกลับหอก็ไม่น่าจะเป็นไร...เดี๋ยวค่อยซื้อข้าวกลับมาให้ไอ้จัมโบ้ด้วย  เผื่อตื่นมามันจะรู้สึกหิว
     


                   “ อือ...ไปดิ  ” เขาพยักหน้าตอบรับ

        ****************


                     “ ณัฐ ! ”  หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเรียกด้วยเสียงอันดัง
     
                     เขาหลุดจากภวังค์แล้วหันหน้ามาทางต้นเสียงทันที “ มีอะไรเหรอ ? ”
     
                   “ แก้มนั่นแหละที่จะถามณัฐ....เหม่ออะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ? ” แก้มพูดพลางทำหน้างอน
     
                  “ เปล่าสักหน่อย ” ณัฐตอบพลางหลุบตาต่ำ  แล้วกินข้าวต่อ
     
     

                   ทำไมเขาถึงต้องคิดเรื่องนี้อีกแล้วนะ     เรื่องวันนั้น....ก็แค่จูบไร้ความหมายแค่ครั้งเดียวเอง  เป็นผู้ชายแท้ๆ แค่นี้ไม่สึกหรออะไรสักหน่อย ทำตัวอย่างกับเป็น ‘หญิงสาววัยแรกรุ่น’ งั้นแหละ

                   บ้าจริงๆเลยเรา !?
     



                   “ ณัฐ...คือว่า... ”  หญิงสาวทำท่าเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
     
                   “ หือ ?  ” เขากลับมาตั้งใจฟังที่แก้มพูด
     
                  “ คือว่า...วันสอบเสร็จ ณัฐได้ไปไหนหรือเปล่า ? ”

                  “ ไม่รู้เหมือนกัน...คงไม่ได้ไปไหนหรอก   ทำไมเหรอ ?  ”
     
                  “ ก็  แก้มว่าจะชวนณัฐไปดูหนังอ่ะ ”
     

                     ที่เห็นแก้มอึกอักอยู่นานก็แค่เรื่องนี้เองหรือ...

                     แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อๆเหมือนกัน...อ่านหนังสือเยอะๆเข้าก็อยากจะพักผ่อนบ้าง  เพียงแต่ติดตรงที่ว่า...เป็นช่วงใกล้สอบ แต่ถ้าสอบเสร็จ...คงสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจสักที
     


                   “ เอาดิ  ”  ณัฐตอบตกลง

                     แก้มได้ยินดังนั้น ก็ทำหน้าดีใจสุดๆ
     

                  “ ชวนสองคนนั้นไปด้วยนะ  ดูเยอะๆสนุกดี  ” ณัฐเอ่ยต่อ

                  “ แต่ว่า....แก้ม  อยากไปดูกับณัฐ...แค่สองคนอ่ะ ”
     

                  เขาได้แต่มองหน้าเธอแบบไม่เข้าใจ...

                “ ก็แก้ม...ไม่สนิทกับเพื่อนณัฐ ” แก้มพยายามหาเหตุผลที่คิดว่าฟังเข้าท่าที่สุด


                 อ๋อ..เรื่องนี้เองเหรอ ?

                 “ แพรกับจัมโบ้น่ะนะ... เข้ากับคนง่ายจะตาย  ไม่นานก็สนิทกัน  เพราะสองคนนั้นน่ะ คุยเก่ง  แต่....เราน่ะสิ..ที่พูดไม่ค่อยเก่ง   แก้มอาจจะเบื่อเอาได้ ”


                 “ เวลาอยู่กับณัฐ..แก้มไม่เห็นเบื่อเลย ”  หญิงสาวตอบพลางยิ้มหวาน



                  เขาได้แต่ยิ้มแกนๆตอบกลับไป 




                 “ อืมม..ไปแค่สองคนก็ได้  ”


      



      ****************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×