ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #44 : บทที่สี่สิบสอง -- ข้อยกเว้น

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.01K
      52
      28 ต.ค. 52

    บทที่สี่สิบสอง






                         หา !! นี่อย่าบอกนะว่า...เพื่อนพี่สนมาแอบดูพวกเขา 

                       นึกขึ้นได้ดังนั้นก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที...เมื่อกี้เขากับพี่สนทำอะไรไปบ้างนะ..?  ตอนแรกเขาก็แสดงอาการหึงหวงพี่สน...ต่อมาก็คุยโทรศัพท์กับแก้ม...นั่งกุมมือกัน...ฝ่ายนั้นหอมที่มือ...แล้วก็ ‘จูบ’ กันอยู่นาน...หลังจากนั้นก็บอกรัก...แล้วก็จบด้วยการจุมพิตที่หน้าผาก

     
                       อ้ากกกกกกกกกกกกกก !! แล้วพวกรุ่นพี่เห็นตอนไหนบ้างล่ะ..?

                       ...น่าอายชะมัด...!!

     

                       พอรู้ตัวอีกที...เขาก็กระโดดมุดตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มเสียแล้ว

     




                       “ อ้าว...ณัฐ ! ไม่อาบน้ำเหรอ..? ”  ร่างสูงที่กำลังพยายามสวมเสื้อผ้าเอ่ยถามขึ้น

     

                       “ ...เดี๋ยวค่อยอาบ ” เขาตอบทั้งที่ยังคลุมโปงอยู่อย่างนั้น

     

                       “ ฮ่ะ ๆ...เขินเหรอ..? ”  พี่สนถามพร้อมกับหัวเราะ


     
                        แน่ล่ะ...แค่นึกภาพตอนที่รุ่นพี่กำลังมองดูพวกเขากำลัง...เอ่อ...จูบกัน   ยิ่งคิดยิ่งรู้สึก...อาย ๆ ๆ ๆ  โอ๊ยยยย !!...แล้วต่อไปเขาจะทำหน้ายังไงดีล่ะ..? คิดไม่ออกเลยจริงๆ

     


                        เมื่อพี่สนแต่งตัวเสร็จ...ฝ่ายนั้นก็เดินเข้ามาดึงผ้าห่มเขาออกทันที

     

                        “ ไปอาบน้ำ...ไม่อยากนอนกับคนตัวเหม็น ”


     
                        “...................”   เขาหันมามองแบบโกรธๆ  แต่ก็ยอมลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแต่โดยดี

     

                        พี่สนนะพี่สนเมื่อกี้พึ่งถูกแอบมองไป...ไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือไงนะ..?  ปล่อยให้เขาทำตัวไม่ถูกอยู่คนเดียว...บ้าชะมัดเลย !!





    **************




                       หลังจากที่เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รู้สึกสดชื่นและสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย  วันนี้เดินทางมาทั้งวัน...เขาจึงตั้งใจว่าพออาบน้ำเสร็จแล้วจะรีบเข้านอนทันที  แต่แล้ว....เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องเปลี่ยนความคิด   เพราะเขาเห็นพวกรุ่นพี่นั่งอยู่ในห้องจนเกือบครบ  และตอนนี้ทุกคนในห้องก็หันหน้ามามองเขาอย่างพร้อมเพรียง   

                       ส่วนเขาก็ได้แต่ยืนตัวแข็งและหน้าแดงอยู่อย่างนั้น




                       “.................... ”



                       พี่สนกับพี่ปอร์เช่นั่งอยู่ด้วยกันที่เตียงฝั่งนั้น  พี่กฤตกับพี่เม้งก็นั่งอีกเตียงที่อยู่ใกล้ตัวเขา  ส่วนพี่เก่งก็นั่งบนพื้นที่ว่างระหว่างสองเตียงพร้อมกับนั่งกินขนม  จะขาดก็แต่พี่โต้ง พี่ฉัตร และพี่นนท์เท่านั้น...




                       “ อ้าว..ที่รัก  อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ..? ”  พี่เม้งที่นั่งอยู่บนเตียงไม่ไกลตะโกนถามเป็นคนแรกพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น  ส่วนคนอื่นๆก็เอาแต่หัวเราะกันอยู่อย่างนั้น



                       “ ................... ” 

                       เอาแล้วไง..?  เริ่มจะโดนพวกพี่ๆล้อเสียแล้ว

                       ทำไงดี...ทำหน้าไม่ถูกแล้วเนี่ย...อายชะมัด





                       “ เชี่ย !! มึงอย่ามาล้อ ‘แฟน’ กู ”  พี่สนรีบแย้งขึ้นมาช่วยชีวิตเขาไว้...แต่ฝ่ายนั้นก็ยังแอบอมยิ้ม  และเดินมาจูงมือเขาเข้าไปนั่งร่วมวงด้วย

     


                       “ แล้วคำว่า ‘ที่รัก’...พวกมึงก็ห้ามเรียก  เพราะกูเรียกได้แค่คนเดียว ”  รุ่นพี่พูดพร้อมยกแขนมาโอบไหล่เขาไว้




                       “ ใช่มั้ยครับ...ที่รัก..? ”




                        เขาได้แต่ถลึงตาใส่พี่สนพร้อมกับหน้าแดงจนถึงใบหู  นี่คิดว่าเขาถูกพวกรุ่นพี่ล้อแล้วยังอายไม่พออีกหรือไง..?   แล้วยังจะมาพูดแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนๆอีก...พี่สนนี่แย่จริงๆเลย
     



                       แล้วทันใดนั้น พี่เม้งที่มองพวกเขาอยู่นานก็ถอนหายใจเสียงดังจนเขาที่กำลังทำหน้าดุใส่พี่สนต้องหันมามอง



                      “ เฮ้อ...พวกมึงนี้น้า...ทำซะกูอยากมีแฟนด้วยเลย ”




    ******************




                        หลังจากที่นั่งคุยกันอย่างสนุกสนานสักพัก  ก็มีปาร์ตี้เล็กๆเกิดขึ้นที่พื้นที่ว่างภายในห้องพัก  เพราะพี่เก่งแอบไปขโมยเบียร์กระป๋องจากตู้แช่เย็นของลุงอ๊อดมาประมาณ 5-6 กระป๋อง  และขนมอีกหลายถุงที่พวกเขาซื้อระหว่างทางจึงกลายมาเป็นกับแกล้มได้อย่างดี   ส่วนเขาก็ได้แต่นั่งฟังพวกรุ่นพี่คุยกันอย่างสนุกสนาน 

                        รุ่นพี่คุยกันหลายเรื่อง  ตั้งแต่เรื่องการสอบพี่พึ่งผ่านพ้นไป  เรื่องของปิดเทอมอันแสนสั้น...เขาพึ่งมารู้ทีหลังนี้เองว่ารุ่นพี่ปีสามปิดเทอมกันแค่สองสัปดาห์เท่านั้น  ต่อมาก็สนทนาร่ายยาวจนไปถึงเรื่องส่วนตัวสัพเพเหระของแต่ละคนอีกมากมาย

                        หลังจากของกินเริ่มหมด...และเวลาล่วงเลยจนดึก ทุกคนจึงทะยอยกันกลับไปพักผ่อน พี่เม้ง  และพี่ปอร์เช่  กลับไปนอนที่บ้านอีกหลัง   ส่วนพี่เก่ง  พี่กฤต  พี่สนและเขานอนกันที่บ้านหลังนี้

                        และแน่นอน...เขาจะได้นอนร่วมเตียงกับใครไปไม่ได้...นอกจากพี่สน...






                        หลังจากซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน...ก่อนนอนฝ่ายนั้นก็เข้ามาสวมกอดเขาไว้หลวมๆ...และจุมพิตที่หน้าผากเขาอย่างอ่อนโยนเช่นเดิม




                       “ ฝันดีนะ ”









                         แต่แล้ว...เมื่อผ่านไปเกือบๆชั่วโมง  เขาก็ไม่หลับเสียที...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจึงไม่รู้สึกง่วงเลย..?   คงจะเป็นเพราะการมานอนต่างที่ต่างถิ่น...หรืออาจจะเป็นเพราะวันนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นกับเขามากมายเสียจนทำให้ต้องคิดหนัก   ทั้งเรื่องที่พี่สนบอกเพื่อนว่าเขาเป็นแฟน...ทั้งเรื่องแก้มรวมถึงเรื่องที่ถูกพวกรุ่นพี่แอบดูตอนที่พวกเขากำลังพลอดรักกัน...หลายเรื่องสารพัด


                         ได้แต่คิดวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น  จนไม่สามารถข่มตาหลับได้เสียที 





                        “ นอนไม่หลับเหรอ..? ”  พี่สนเอ่ยถามขึ้น  แล้วเข้ามาโอบเอวเขาทางด้านหลัง




                        อาจจะเป็นเพราะเขาพลิกตัวเปลี่ยนท่าหลายครั้ง  จึงทำให้พี่สนที่หลับไปแล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในที่สุด




                        “ อือ ”  เขาส่งเสียงตอบผ่านความมืด




                        “ ทำไมล่ะ..? ” 




                         “ ไม่รู้เหมือนกัน...แต่มันนอนไม่หลับอ่ะ ”




                         แล้วทันใดนั้น...พี่สนก็เหยียดแขนอีกข้างออกมา  แล้วบอกให้เขาเข้ามานอนหนุนไว้

                         เขาชั่งใจอยู่สักพัก  แต่พอคิดได้ว่ารุ่นพี่คนอื่นคงจะหลับสนิทกันหมดแล้ว...สุดท้ายเขาจึงยอมขยับตัวเข้าไปซุกในร่างนั้น  เขาอยู่ใกล้เสียจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากซอกคอของรุ่นพี่  แล้วฝ่ายนั้นก็เอื้อมมืออีกข้างมาโอบรอบเอวเขาไว้จนร่างเราทั้งสองแนบชิดติดกัน

                         ทั้งๆที่เขาเคยถูกพี่สนนอนกอดมาก็หลายคืน...แต่วันนี้กลับรู้สึกเขินยังไงชอบกล

                        
                         เขายอมให้พี่สนนอนกอดเขาไว้อย่างนั้น...อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของรุ่นพี่ช่วยทำให้เขารู้สึกสบายใจและผ่อนคลายมากขึ้น  และไม่นาน...เขาก็ผล็อยหลับไปในที่สุด 





    *************





                       “ ณัฐ ”




                       “ ณัฐ...ตื่นได้แล้ว ”  เสียงปลุกของพี่สนดังขึ้นในตอนเช้า




                       “ อือออ ”  เพราะความง่วงเขาจึงได้แต่ส่งเสียงอือออตอบกลับไป  แล้วพลิกตัวหันหลังให้ทันที




                        “ จะตื่นไม่ตื่น ”   พี่สนส่งเสียงขู่มาจากปลายเตียง




                        “ .................... ” 




                        ฝ่ายนั้นเงียบเสียงไป จนเขามั่นใจได้ว่าคงจะได้นอนต่อ
     
                        แต่แล้ววินาทีต่อมาเขากลับรู้สึกว่ามีสัมผัสหนึ่งทางด้านล่าง   เมื่อร่างสูงมุดตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มทางด้านปลายเตียงแล้วพยายามที่จะถอดกางเกงเขาออก




                        เมื่อรู้สึกได้ดังนั้นเขาก็ตกใจมาก !!!


                        ด้วยสัญชาตญาณเขาพยายามดิ้นหนีทันที จนเข่าข้างขวากระแทกกับสิ่งหนึ่งอย่างแรง




                        “ โอ๊ย !! ”  เสียงร้องของพี่สนดังออกมาจากใต้ผ้าห่ม



                        เขาตื่นตระหนกแล้วรีบลุกขึ้นมาเปิดผ้าห่มดูทันที  ก็เห็นฝ่ายนั้นได้แต่ลูบหน้าตัวเองป้อยๆ แล้วมองเขาด้วยสีหน้าเคืองนิดๆ




                       “ ณัฐเตะหน้าพี่เหรอ..? ”



                
                       เขาได้แต่มองสภาพของคนตรงหน้า  ที่ตอนนี้โหนกแก้มข้างซ้ายเริ่มจะเป็นปื้นแดงขึ้นมาเล็กน้อยจนทำให้เขาพลอยรู้สึกผิด




                       “ ณัฐขอโทษ...ก็ณัฐไม่รู้อ่ะ ”  เขาขยับตัวเข้าไปหา แล้วเอื้อมมือไปสัมผัสที่ใบหน้าของรุ่นพี่  แต่แล้วก็รีบชักมือกลับทันที




     
                       “ ก็เมื่อกี้พี่สนจะมาทำอะไรณัฐล่ะ..? ”  เขาถามกลับไปบ้าง





                       “ ก็แค่จะปลุกเฉยๆ ”  ร่างสูงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด




                       ร่างเพรียวหรี่ตามองอีกฝ่าย...

                       ปลุกโดยการพยายามจะมาถอดกางเกงเขาเนี่ยนะ..?  ฟังยังไงก็ดูแปลกชอบกล...จะมาทำมิดีมิร้ายเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้




                        แต่สุดท้ายเขาก็เผลออมยิ้มออกมา


                        “ สมน้ำหน้า ”




                         “ ................. ”




                         พี่สนไม่พูดอะไร  แต่วินาทีต่อมาฝ่ายนั้นก็ถลาตัวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว  แล้วผลักร่างเขานอนลงบนเตียงทันที !!

                         เขาตกใจ และได้แต่มองฝ่ายนั้นแบบหวาดๆ





                       “ เดี๋ยวนี้กล้าลงไม้ลงมือกับสามีเหรอ..? ”  พี่สนพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ทั้งที่ยังคร่อมร่างเขาอยู่แบบนั้น




                       พอได้ยินคำว่า ‘สามี’  เขาก็รีบหันซ้ายหันขวามองดูรอบๆทันที  ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว  และข้างนอกก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครอยู่เช่นกัน


     


                       “ พี่สนน่ะแหละ...จะมาถอดกางเกงณัฐเองทำไม..? ”

     


                       “ ก็พี่แค่อยากดูว่าตื่นหรือยัง ”  ฝ่ายนั้นยิ้มทะเล้น

     


                        หือ..?  ดูว่าตื่นหรือยัง  แล้วมุดดูใต้ผ้าห่มเนี่ยนะ..??


     

                        “ จะอาบน้ำรึยัง..?  คนอื่นเขาไปกินข้าวกันหมดแล้วนะ ”  พี่สนบอก

     


                        “ หา !! จริงเหรอ..? ”  เขาอุทานออกมาเบาๆ
     
                        นี่เขาตื่นสายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย..!!  เกรงใจคนอื่นแย่เลย 




                         เขารีบยันตัวออกจากร่างของพี่สน แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่อีกฝั่งทันที

                         แต่พอเดินเข้าห้องน้ำ  เขากลับรู้สึกแปลกใจ  เมื่ออีกฝ่ายเดินตามเข้ามาด้วยน่ะสิ..!!



                         เขาหันไปมองพี่สน


                        “ พี่อาบน้ำแล้วไม่ใช่เหรอ..? ”



                        ก็ตอนนี้พี่สนอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวลายเท่  ที่เข้าชุดกับกางเกงขาสั้นสบายตัว  ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม...ทุกอย่างดูเหมือนจะเตรียมพร้อมสำหรับการไปเที่ยวในวันนี้แล้ว




                        “ ใช่ ”  ฝ่ายนั้นยิ้มกว้างและไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัว




                        “ แล้วเข้ามาทำไมอ่ะ..? ”




                        ฝ่ายนั้นไม่ตอบ...แต่หันหลังไปปิดประตูห้องน้ำไว้พร้อมกับล็อคทันที




                        “ มาช่วยอาบไง ”  พี่สนยิ้มกว้างกลับมา





    ******************





                         พูดเสร็จฝ่ายนั้นก็เดินเข้ามาใกล้  แล้ววกเข้ามาโอบเขาทางด้านหลังไว้อย่างแผ่วเบา




                        “ พี่สน...ออกไปเถอะ  ณัฐจะรีบอาบน้ำ  เดี๋ยวคนอื่นจะรอ ”




                        “ ..................... ”




                         ฝ่ายนั้นไม่ตอบอะไร  แต่เอื้อมมือเข้าไปสัมผัสที่บริเวณท้องน้อย  จนเขาเริ่มจะสังหรณ์ใจยังไงชอบกล




                         “ จะทำอะไรอ่ะ..? ”  เขาถามออกไปอย่างรวดเร็ว


     

                         “ หึ...หึ ”  รุ่นพี่หัวเราะแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงทะเล้น
     
                         “ ทักทายยามเช้า ”


     

                         “ ทะ...ทักทาย...อะไร..? ”  เขาพูดตะกุกตะกัก

     


                         ฝ่ายนั้นไม่ตอบกลับมา  แต่เขาก็ได้รู้คำตอบเมื่อพี่สนดึงกางเกงนอนของเขาลงไปจนถึงต้นขา !!
     
     


                         นี่อย่าบอกนะว่า..??!!!

     


                         “ พี่สน...ไม่เอานะ ”  เขาพยายามห้ามปราม
     

     

                         “ ไม่เอาเหรอ...ณัฐน้อยตื่นแล้วนะ ”


     

                         ฝ่ายนั้นชี้ไปที่กลางลำตัวของเขา
     
                         และเมื่อก้มลงไปมอง  ร่างเพรียวก็พบว่าส่วนไวสัมผัสของตนได้ชูชันขึ้นมาตามธรรมชาติของร่างกายเสียแล้ว

     


                         เห็นดังนั้น เขาก็หน้าแดงวาบขึ้นมาทันที
     
                         “ ดะ...เดี๋ยวมันก็ลง ”

     


                         แต่พี่สนกลับไม่สนใจที่เขาพูดเลยสักนิด  เพราะฝ่ายนั้นเอื้อมมือมากอบกุมที่ส่วนสำคัญของเขาทันที

                         “ งั้น...พี่จะช่วย...ทำให้สงบเอง ”

     


                          แล้วฝ่ายนั้นก็เริ่มขยับรูดให้ช้าๆ จนทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านที่บริเวณนั้น

     


                        “ พี่สน...อย่าทำแบบนี้ ”

                         “ ออกไปเถอะ...เดี๋ยวคนอื่น...จะรู้ ”   เขาละล่ำละลัก




                         แต่คำพูดของเขากลับไม่เป็นผล เมื่ออีกฝ่ายยังคงตั้งอกตั้งใจใช้มือขยับส่วนไวสัมผัสให้เขาอยู่อย่างนั้น  และตอนนี้เขาได้แต่ก้มมองภาพทางด้านล่างด้วยความเขินอาย

                         ...ภาพที่มือของพี่สนกำลังเคลื่อนไหวเพื่อทำให้ร่างกายของเขาสุขสม...




                         ไม่นานส่วนนั้นก็แข็งขึงผงาดชูคอภายใต้อุ้งมือของรุ่นพี่  ทุกครั้งที่อีกฝ่ายลงน้ำหนัก เขาได้แต่พ่นลมหายใจหนักเพราะไม่กล้าเปล่งเสียงใดออกมา   เพราะถึงแม้ว่าเขาจะกำลังมีความสุข  แต่ก็ยังรู้สึกร้อนใจ




                        “ พี่สน...ถ้าเพื่อนพี่... ”

     


                         “ พวกนั้นกำลังกินข้าวกันอยู่...ไม่มีใครมาหรอก ”  พี่สนพูดแทรกทันที

     


                          แล้วฝ่ายนั้นก็เร่งความเร็วของมือมากขึ้น  เขาเสียวสะท้านไปทั่วร่างจนแทบจะยืนไม่ไหว  ตอนนี้เขารู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงจนต้องทิ้งน้ำหนักตัวแล้วพิงร่างของรุ่นพี่เอาไว้  สัมผัสที่เชี่ยวชาญของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่สามารถห้ามใจไว้ได้   แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกวิตกกังวลกลัวว่าจะมีใครเข้ามาในห้อง...แล้วรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันในห้องน้ำ...แค่สองคน

     

                          เขาก้มลงเหลือบมองส่วนสำคัญของตัวเองที่กำลังแข็งขึงได้ที่แล้วก็ต้องรู้สึกเขินอายอีกครั้ง

     

                         “ พี่สน  ”  เขาพยายามเรียกอีกฝ่าย

     


                         “ หือ..? ”




                         “ พี่ช่วย.... ”




                          “ ...ทำให้เสร็จเร็วๆหน่อยสิ ”  เขากระซิบบอกด้วยความกระดากอาย


                         เพราะถึงแม้ว่าเขาจะบอกให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำนี้...เขาคิดว่าพี่สนคงจะไม่ยอมทำตามแน่นอน  แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ...เขาเองต่างหากที่ไม่สามารถหยุดอารมณ์และความต้องการนี้ได้อีกต่อไป


     

                         เมื่อได้ยินดังนั้น...
    ร่างสูงก็ส่งเสียงในลำคออย่างพอใจ   แล้วทำอย่างที่อีกฝ่ายต้องการทันที


                         พี่สนเพิ่มความเร็วของมือมากขึ้น  ส่วนมืออีกข้างก็เข้ามาไล้วนที่เม็ดตุ่มไตของเขาด้วยเช่นกัน  ฝ่ายนั้นจงใจบดขยี้ก้อนนูนไปมา  และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกสุขสมมากยิ่งขึ้น
     

                         เขาพ่นลมหายใจหอบถี่ เมื่ออารมณ์รัญจวนกำลังพุ่งทะยานขึ้นสูง


                         พี่สนเหมือนรู้ใจ...รีบมากอดกระชับเอวเขาไว้แน่น  แล้วขยับรูดเพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก   เขาหลับตาสนิทเพื่อรับสัมผัสที่แสนสุขนั้น 






                        ไม่นาน...ร่างเขาก็บิดเร่าและเกร็งกระตุกด้วยความความเสียวซ่านที่ขึ้นมาจนถึงขีดสุด  พร้อมกับที่ของเหลวสีขาวขุ่นไหลอออกมาจนเปรอะมือของพี่สน



                        เขาปรือตามองภาพลามกเหล่านั้น...แล้วสติที่ลางเรือนก็ค่อยๆกลับคืนมา




                        “ ....................... ”




                        “ โอเคยัง..? ”  พี่สนกระซิบถาม




                       เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็รีบใส่กางเกงอย่างทุลักทุเล  แล้วเดินจูงมือพี่สนไปที่ประตูห้องน้ำทันที

                        เขาค่อยๆแง้มประตูเปิดออกอย่างช้าๆแล้วมองออกไปข้างนอก...ก็พบว่ามีเพียงห้องที่ว่างเปล่า   เมื่อเห็นได้ดังนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก



                         เขาหันหน้ามาบอกพี่สน

                        “ พี่ออกไปได้แล้ว...เดี๋ยวคนอื่นจะมาเห็นเข้า ”  เขาพูดเสียงเบาทั้งที่ยังหน้าแดงอยู่อย่างนั้น




                        “ อะไรอ่ะ...ช่วยเสร็จแล้วก็ไล่เลยนะ ”  พี่สนทำหน้าผิดหวัง




                          เขารีบดันหลังพี่สนออกไปจากห้องน้ำทันที  ถึงแม้ว่าร่างกายที่กำยำของฝ่ายนั้นจะทำได้ไม่ง่ายนักก็ตาม




                          “ ออกไป...ณัฐจะอาบน้ำแล้ว ” 




                          เขาพูดทิ้งท้ายแค่นั้นแล้วรีบปิดประตูใส่หน้าพี่สนอย่างรวดเร็ว  แต่ก็ยังมีเสียงทะเล้นของฝ่ายนั้นดังเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน




                         “  เดี๋ยวพี่จะรอข้างนอกนะ ”




                         เขายืนพิงประตูไม้บานใหญ่และได้แต่รู้สึกสมเพชตัวเองกับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านพ้นไป

                         เมื่อกี้...ไม่น่าเลยเรา...ไม่น่ายอมพี่สนเลย !!

                         ถ้าพวกรุ่นพี่คนอื่นบังเอิญมารู้เรื่องนี้เข้าคงจะได้อายไปทั้งชีวิตแน่ๆ...ไม่เอาแล้ว...จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว

                         เขาส่ายหัวแรงๆสองสามทีเพื่อไล่ความคิดที่ฟุ้งซ่าน  แล้วรีบจัดการอาบน้ำชำระร่างกายตัวเองทันที






    ******************

     
     


                        เมื่อแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย  พี่สนก็พาเขาเดินมุ่งหน้าไปที่บ้านหลังใหญ่หน้ารีสอร์ททันที   ระหว่างทางเขาพยายามจะพูดกับอีกฝ่ายให้น้อยที่สุด  นั่นเพราะว่าเขากำลังรู้สึกเคืองกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นนั่นเอง

     


                       “ ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย...ไม่มีใครมาเห็นสักหน่อย ”  พี่สนแย้งขึ้น

     


                       “ แล้วถ้ามีคนบังเอิญเดินเข้ามาเห็นล่ะ..?  ถ้าเราไม่โชคดีแบบนี้ ”  เขาตอบอย่างรวดเร็ว

     


                       “ จะเห็นได้ไง...ก็อยู่ในห้องน้ำนี่นา ” ฝ่ายนั้นพูดเหมือนไม่ได้รู้สึกผิด

     


                       “ พี่สน ! ” ได้ยินดังนั้นเขาก็หยุดเดินทันที


     

                        รุ่นพี่ถอนหายใจแล้วยอมเดินเข้ามาหา
     
                        “ ก็ได้...ก็ได้  พี่ขอโทษ ”  ฝ่ายนั้นพูดเสียงอ่อนพร้อมกับคว้ามือเขาไปกุมไว้

     


                         “ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว...โอเคมั้ย..? ”

     


                        เขาหันหน้ามองอีกฝ่าย
     
                        “ แบบไหนล่ะ..? ”

     


                        “ ในสถานการณ์ที่แบบว่า...อาจมีคนอื่นเข้ามาเห็นได้ ”

     


                         “ รวมถึงจะไม่ทำ ‘ต่อหน้า’ ด้วย ”  เขาพูดเสริม
     
                         


                         เขารู้ดีว่าพี่สนคงไม่ทำเรื่องทะลึ่งตึงตังพรรค์นั้นต่อหน้าคนอื่นหรอก...เพียงแต่เขาแค่อยากจะปิดทุกช่องโหว่ที่เป็นทางออกสำหรับอีกฝ่ายแค่นั้นเอง

     


                         พี่สนแอบอมยิ้มเล็กน้อย  จนทำให้เขารู้สึกเขินอายในคำพูดเมื่อครู่
     
                        “  ต่อหน้า...ก็ไม่ทำ ”




                         “ .................. ”  

                         จะเชื่อพี่สนได้มั้ยนะ..?  ยิ่งเป็นคนเปิดเผยไม่เหมือนชาวบ้านเขาเสียด้วย


     

                         “ ไม่ทำอีก...จริงๆนะ ”




                         “ จริงๆ ”  พี่สนย้ำคำ 


     

                         “ สัญญา ”


     

                          “ อืม...สัญญา ” พี่สนยิ้มกว้างกลับมาให้


     

                          “ .................... ” 
     



                         ได้ยินดังนั้นเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น  พี่สนคลี่ยิ้มบางให้แล้วเดินจูงมือเขาออกเดินต่อทันที  แต่แล้วเขาแทบจะหยุดเดินอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายหันมาหาและพูดประโยคหนึ่งออกมา


     

                         “ ยกเว้น...กอด...จูบ...หอมแก้ม...แล้วก็จับมือนะ ” 




                           ว่าไงนะ  !!!
     




    ****************




                       “ อ้าว...มา ๆ ๆ มากินข้าว ”   ลุงอ๊อดตะโกนเรียกเสียงดังเมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามาภายในส่วนที่เป็นบริเวณสำหรับรับประทานอาหาร   จนทำให้แขกโต๊ะอื่นหันมามองดูกันเสียยกใหญ่

     

                       “ มาช้ากันจังเลย ”  พี่ปอร์เช่ถามขึ้นเบาๆ เมื่อพวกเขากำลังนั่งลงที่เก้าอี้ตัวว่าง

     

                       “ ขอโทษครับ...ณัฐตื่นสาย ”  เขารีบตอบกลับไปทันทีเพราะรู้สึกผิด

     

                       ตอนนี้ทุกคนนั่งอยู่บนโต๊ะกันอย่างพร้อมหน้า  ลุงอ๊อดนั่งที่หัวโต๊ะ  ถัดมานั้นเป็นป้าอรและน้องเชอร์รี่  รวมทั้งรุ่นพี่ทุกคน...แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขารู้สึกเกรงใจได้ยังไง..?

     
                        ก็พี่สนนั่นแหละ ที่ไม่ยอมปลุกเขา แล้วพอตื่นแล้วยังมาทำอะไรพิเรนทร์ให้เสียเวลาอีก อย่างนี้มันน่าโกรธนัก  !!


     
                        “ ไม่เป็นไรหรอก...ยังไม่ได้เริ่มกิน  กำลังรออาหารจานสุดท้ายพอดี ”  พี่เก่งพูดขึ้น

     

                        เขามองโต๊ะอาหารที่ตอนนี้มีจานกับข้าววางจนเกือบเต็ม  อาหารแต่ละอย่างเป็นอาหารไทยทั้งหมดดูแล้วน่ากินทั้งนั้น  มีเยอะเสียจนเขากลัวว่าจะกินกันไม่หวาดไม่ไหว

     


                         “ อ้าว...เชิญ ๆ ๆ  เมื่อคืนไม่ได้เลี้ยง ก้อเลยต้องเลี้ยงกันวันนี้แหละ ”  

                         “ เต็มที่เลยนะ...ห้ามเหลือ !! ”  ลุงอ๊อดป่าวประกาศเสียงดัง  



                        หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มลงมือรับประทานอาหารกันทันที  ระหว่างที่กินไปก็พูดคุยถึงสถานที่ที่จะไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน  แล้วพี่สนก็พยายามตักอาหารมาให้เขาเหมือนเคยจนเขาต้องรีบห้ามไว้ ไม่อย่างนั้นเขาต้องได้อายคนอื่นๆอีกรอบเป็นแน่
     

                        เมื่อกินกันจนอิ่มหนำสำราญก็สายมากแล้ว  ถึงเวลาที่ต้องร่ำลากันและออกเดินทางเสียที     พวกเราทั้งหมดขอบคุณครอบครัวของลุงพี่เก่งเสียยกใหญ่ ทั้งที่พัก ทั้งอาหารที่บริการพวกเขายิ่งกว่าแขกพิเศษ  ทำให้รู้สึกประทับใจเสียจนรู้สึกว่า...แค่คำขอบคุณยังน้อยเกินไป...

        
                        ไม่นาน...พวกเขาก็ขนของขึ้นรถและเริ่มออกเดินทางทันที




    ******************

     


                        สักพักขบวนรถทัวร์ของพวกเราทั้งเก้าคนก็มาถึงที่หมาย...เมื่อรถเข้ามาจอดภายในบริเวณสถานที่อันกว้างใหญ่ไพศาลแปลกตาที่ตกแต่งสไตล์คาวบอยตะวันตก
     
     

                        “ พี่สน...ที่นี่เหรอ..? ”  เขาถามด้วยความตื่นเต้นเมื่อรถกำลังจอดเทียบท่า



                        “ อือ...ไร่ทองสมบูรณ์...เคยมาหรือเปล่า..? ”

     

                        เขาส่ายหัวเป็นคำตอบ  แต่สายตายังคงมองไปที่ภายนอก
     
                        ...ไร่ทองสมบูรณ์เหรอ...?

     

                        แล้วพวกเราทุกคนก็เริ่มเดินทัวร์สถานที่แห่งนี้  เขาพึ่งรู้ว่าที่นี่เป็นรีสอร์ทชื่อดังที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร   ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นบรรยากาศธรรมชาติของฝั่งตะวันตก   ทั้งกระโจมอินเดี้ยน  เมืองคาวบอย  คาราวานเกวียน มีหลายแบบให้เลือกพักได้ตามใจชอบ  แต่ละอย่างดูแล้วสวยงามและแปลกตายิ่งนัก

     

                        แต่สิ่งที่พวกเขาสนใจไม่ใช่มาหาสถานที่พักแปลกใหม่เหมือนที่กล่าวมาแต่อย่างใด  เพราะ..กิจกรรม..ของที่นี่ต่างหากที่เป็นเป้าหมายของพวกเราในวันนี้ และกิจกรรมนั้นก็คือ...การเล่นเครื่องเล่นสนุกๆ...นั่นเอง

     

                        แต่เพราะบริเวณของเครื่องเล่นอยู่บริเวณส่วนด้านในที่อยู่ไกลจากส่วนที่เป็นรีสอร์ทพอสมควร  พวกเขาจึงต้องอาศัยการนั่ง...รถราง...เข้าไปยังสถานที่นั้นแทน   เบาะที่นั่งบนรถนั่งได้แถวละสองคน เขากับพี่สนนั่งส่วนกลางของรถ และรุ่นพี่คนอื่นๆก็นั่งถัดกันยาวไปจนถึงข้างหลัง  เขาเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่อยู่ด้านหน้าทำท่าทางตื่นเต้น แล้วเขาก็พลอยจะรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย 

     

                        ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัว...พี่สนก็เอื้อมมากุมมือเขาไว้ทันที
     

                        เขาหันไปมองปรามไว้  แต่ฝ่ายนั้นก็ทำเป็นไม่สนใจ  เขาจึงต้องยอมปล่อยไปเพราะคิดว่าคงไม่มีใครเห็นการกระทำนี้แน่นอน 

     

                        รถกำลังแล่นด้วยความเร็วพอประมาณและพนักงานหญิงก็ทำหน้าที่อธิบายเกี่ยวกับสถานที่ไปด้วยนั้น   เขาก็ได้แต่มองออกไปทางด้านนอกเห็นแต่ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีตามสองข้างทาง  โชคดีเหลือเกินที่วันนี้อากาศดี  แดดจึงไม่ร้อนนัก  บรรยากาศเหมาะแก่การมาเที่ยวดีจริงๆ

     
                        ไม่นาน...รถรางขบวนของพวกเขาก็หยุดลงที่สถานที่แห่งหนึ่ง เขาลงจากรถแล้วมองออกไปโดยรอบก็เห็นเครื่องเล่นหลายๆชนิดที่พวกเราตั้งใจจะมาเล่นในวันนี้
     

                         พวกเราทั้งหมดออกเดิน ไปยังจุดขายตั๋วทันที

     
                         เขาเดินตามรุ่นพี่ไป...แต่ที่เขายังแปลกใจอยู่คือ...ทำไมพี่สนยังจับมือเขาอยู่อีกล่ะ..??

     


                         “ พี่สน ”  เขามองลงไปที่มือเป็นการบอกความหมาย

     

                         “ ทำไมเหรอ..? ”  ฝ่ายนั้นแกล้งยิ้ม

     

                         “ ปล่อยมือสักทีสิ...อายคนอื่นเขา ”  เขากระซิบบอกพลางหันมองซ้ายขวา

     

                          “ อายทำไม..? ไม่มีใครรู้จักเราหรอกน่า ” 

     

                          “ แล้วเพื่อนพี่ล่ะ..? ”

     

                          “ เพื่อนพี่อ่ะเหรอ...?  ฮ่ะ ๆ  ยิ่งไม่ต้องสนใจใหญ่เลย  ”  พี่สนพูดพร้อมหัวเราะ  ส่วนเขาก็ได้แต่มองด้วยความหมั่นไส้

     

                          “ จะปล่อยไม่ปล่อย ”  เขาถามอีกครั้ง

     

                          “ ไม่ปล่อย...เดี๋ยวณัฐหลงอีกจะทำไง ”  

                          “ แฟนน่ารักๆแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะจะบอกให้ ” พี่สนพูดด้วยรอยยิ้มทะเล้น  จนเขาได้ยินแล้วถึงกับต้องหลบสายตา

     
                         แล้วทำไมต้องพูดอะไรให้เขินแบบนี้ด้วยเนี่ย !!

     

                         “ พวกมึง...จะสวีทกันอีกนานมั้ย..? จะเล่นกันมั้ยคร้าบ ”  พี่เม้งแกล้งพูดล้อเลียนแล้วเดินผ่านหน้าไป ส่วนคนอื่นที่ซื้อบัตรเสร็จแล้วก็เอาแต่มองพวกเขาแล้วแอบอมยิ้มเช่นกัน

     
                         " ไปซื้อบัตรกันเถอะ "  แล้วพี่สนก็รีบดึงมือเขาไปอีกทางจนแทบจะถลา



                         เฮ้อ...ช่างเถอะ  ไหนๆก็มาเที่ยวทั้งที  ยอมให้จับมือแค่นี้...คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง..?


     
                         หลังจากที่ซื้อบัตรเสร็จเรียบร้อย  พวกเราก็พากันเริ่มเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ตามที่สนใจ  โดยเริ่มตั้งแต่ขับรถ ATV และไปต่อกันที่รถ GO CART เขาพึ่งรู้ว่าขับรถโกคาร์ทสนุกมาก  แต่เขาไม่ค่อยกล้าขับเร็วมากนัก  มีแต่พวกรุ่นพี่นั่นแหละที่พากันขับแข่งกันและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะได้อันดับที่เท่าไหร่  เพราะคำตอบคือ..อันดับสุดท้ายนั่นเอง



                         แล้วพวกเราก็เปลี่ยนมาเล่นอะไรน่าหวาดเสียวเพิ่มขึ้น เช่น SKY LIFT  (กระเช้าลอยฟ้า)  ก็คือเขาต้องไปนั่งอยู่บนกระเช้ากับพี่สนแค่สองคน นั่งบนที่นั่งแล้วหย่อนขาลอยอยู่บนอากาศ  รู้สึกหวาดเสียวกลัวจะตกลงไปมาก  แต่เขาก็ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ ได้แต่แอบหันซ้ายหันขวาด้วยความตื่นเต้นไปมองรุ่นพี่คนอื่นๆบ้าง จนทำให้กระเช้าโยกไปมา   ส่วนพี่สนนั้นก็เอาแต่กำมือเขาไว้แน่น และนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื้อนร่างกาย



                         เมื่อลงมาถึงพื้นดินเขาก็เอ่ยแซวอีกฝ่ายทันที

                         “ เมื่อกี้พี่สนกลัวเหรอ..? ”



                         ฝ่ายนั้นหันหน้ามามอง ท่าทีเหมือนกับหายใจยังไม่ทั่วท้อง

                         “ กลัวสิ...ใครล่ะ..?  ทำกระเช้าโยกซะขนาดนั้น ”



                        คำตอบนั้นทำให้เขาต้องหัวเราะออกมา  พึ่งเคยเห็นเนี่ยแหละ...ว่าพี่สนกลัวอะไรเป็นกับเขาด้วย



                         แล้วพวกเราก็เล่นอย่างอื่นต่ออีกมากมายหลายอย่าง เช่น  FLYING FOX (รอกลอยฟ้า) อันนี้พี่สนขอปฏิเสธเพราะมันน่าหวาดเสียวเสียยิ่งกว่า SKY LIFT เสียอีก  แล้วก็มาต่อด้วย  LUGE (สกีบก)  และแวะพักเหนื่อยด้วยการไปถ่ายภาพสไตล์คาวบอยอินเดี้ยน โดยต้องแต่งตัวแปลงโฉมให้เป็นแบบคาวบอยอินเดียนแดง และถ่ายภาพที่ประทับใจเก็บไว้เป็นที่ระลึก



                         ระหว่างทางที่เดินไปมีคนมองมาที่เขากับพี่สนเป็นระยะ  เขารู้ดีว่าคนอื่นมองอะไร  ก็เรื่องที่ผู้ชายสองคนเดินจับมือกันอยู่อย่างนี้ไง  แต่พี่สนทำเป็นไม่สนใจและไม่ยอมปล่อยมือสักที  เขาจึงต้องเลยตามเลย  อย่างน้อย...คงไม่มีใครรู้จักพวกเขาจริงๆอย่างที่รุ่นพี่ว่าน่ะแหละ



                         หลังจากที่เล่นเครื่องเล่นสนุกๆกันอยู่นาน...สุดท้ายก็มาจบด้วยการเล่น ROLLING BALL (บอลยักษ์) ที่ทุกคนอยากเล่นกันมากที่สุด  โดยที่พวกเขาต้องแทรกตัวเข้าไปนั่งภายในลูกบอลอันใหญ่ แล้วปล่อยให้กลิ้งตกลงมาจากที่สูง เขาได้นั่งกับพี่สน ก่อนเล่นรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่พอได้เล่นแล้วกลับรู้สึกสนุกและตื่นเต้นยิ่งกว่า แถมต้องเปียกน้ำทั้งตัว นั่นเพราะว่ามีน้ำอยู่ภายในลูกบอลด้วย  เมื่อกลิ้งไปแต่ละครั้งจึงสามารถทำให้เปียกหมดจดได้อย่างง่ายดาย 
      
     

                         เมื่อเล่นกิจกรรมที่ทำให้เปียกกันไปแล้ว พวกเขาจึงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมเดินทางไปยังที่อื่นต่อ

     

                         เหมือนเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน เมื่อแวะเดินเที่ยวเล่นและถ่ายรูปที่ไร่องุ่นกันสักพัก ก็เป็นเวลาถึงบ่ายสี่โมงเย็น 



                         ครั้งนี้...เหตุที่พวกเขาไม่ได้ไปเที่ยวธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรของเขาใหญ่ อย่างเช่น เดินป่าหรือไปเที่ยวน้ำตกนั้น  รุ่นพี่บอกว่าเป็นเพราะมากันน้อยวันจนเกินไป  จึงไม่สามารถไปเที่ยวแบบเต็มรูปแบบได้  เพราะฉะนั้นทริปนี้จึงต้องจบสิ้นลงเพียงแค่นี้ เขาก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน  แต่รุ่นพี่คนอื่นก็ได้ให้คำมั่นว่าครั้งหน้าจะต้องไปสถานที่ที่สนุกสนานและยาวนานกว่าครั้งนี้แน่นอน



                         ก่อนกลับ พวกเขาตัดสินใจแวะรับประทานอาหารเย็นกันที่ในเมือง ซื้อของฝากกันเล็กน้อยหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินทางกลับทันที    เขากับพี่สนนั่งกันที่เบาะหลังสุดเช่นเคย  ระหว่างทางเราทั้งคู่นั่งฟังเพลงจากไอพอดเครื่องเดียวกันอย่างสบายใจ และฝ่ายนั้นยังคงนั่งกุมมือเขาไว้เช่นเดิม

      
                         เขาได้แต่นั่งฟังเพลงผ่านไปเพลงแล้วเพลงเล่า แต่เมื่อถึงเพลงๆหนึ่ง เขาก็รู้สึกสะดุดใจขึ้นมาทันที เพราะเพลงนี้ทำให้เขานึกถึง...สิ่งที่พี่สนเคยทำให้เขาเมื่อก่อนน่ะสิ...


                         และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็เผลออมยิ้ม แล้วพิงศีรษะไปซบที่ไหล่อีกฝ่ายเบาๆ




                        ‘ จะปล่อยให้เธอไม่สบาย จะปล่อยให้เธอต้องตัวร้อน 
                        ให้เดือดให้ร้อน ให้นอนคนเดียวได้ยังไง
                        อากาศมันหนาวขนาดนั้น จะอุ่นแค่ไหนถ้ามีฉัน
                        มีเธอหลับฝันด้วยอุณหภูมิที่ผ่อนคลาย... 

                        
                        ถ้าหากเธอร้อนก็บอกฉัน ถ้าเผื่อว่าหนาวก็บอกกัน
                        ผ้าห่มจะหนา ค่ายาจะแพงไม่เป็นไร
                        มีเธอได้ยิ้มและหลับฝัน จับมือเธอไว้ข้างกายฉัน
                        ให้เธอได้รู้มีคนๆ หนึ่งไม่ไปไหน ฉันยังไม่ไปไหน...

                        
                        ให้ฉันได้ดูแลเธอได้ไหม
                        นอนหลับได้ไหม นอนตักฉันไหม
                        ฉันอยากให้พัก สักผ่อนได้ไหม
                        ให้เธอนั้นพัก หลับเพลินไปกับฉัน
                        ถอดชุดพะรุงพะรังนั้นไหม
                        รังเกียจฉันไหม นวดไหล่ให้ไหม
                        ไม่เจ็บใช่ไหม หายเหนื่อยใช่ไหม
                        ที่ป่วยก็คงหายดี ที่เหนื่อยก็คงหายดี
                        เพิ่งกลับมาจากฝันดี... 

                        
                        จัดยาให้ครบแล้วใช่ไหม อย่าลืมดื่มน้ำที่วางไว้
                        เธอจำได้ไหมว่าเธอเคยทำเมื่อวันวาน
                        เมื่อวันที่ฉันไม่มีใคร มีเธอเท่านั้นไม่ไปไหน
                        ตื่นมาจากฝันก็มีมือเธอจับเอาไว้... 

                        
                        เอาความอ่อนล้าไว้กับฉัน ปล่อยความอ้างว้างไว้ตรงนั้น
                        ปล่อยใจให้ฉันได้ดูแลเธอทั้งหัวใจ
                        เมื่อเธอกลับฟื้นขึ้นจากฝัน เมื่อเธอได้แข็งได้แรงนั้น
                        ตื่นมาจะรู้ว่ามีบางคนกอดเธอไว้ ฉันจะกอดเธอไว้... 

                        
                        ให้ฉันได้ดูแลเธอได้ไหม
                        นอนหลับได้ไหม นอนตักฉันไหม
                        ฉันอยากให้พัก สักผ่อนได้ไหม
                        ให้เธอนั้นพัก หลับเพลินไปกับฉัน
                        ถอดชุดพะรุงพะรังนั้นไหม
                        รังเกียจฉันไหม นวดไหล่ให้ไหม
                        ไม่เจ็บใช่ไหม หายเหนื่อยใช่ไหม 
                        ที่ป่วยก็คงหายดี ที่เหนื่อยก็คงหายดี 
                        เพิ่งกลับมาจากฝันดี...’

     



                       รุ่นพี่กระชับมือเขาเอาไว้แน่น เขาเหลือบไปมองก็แอบเห็นรอยยิ้มบางจากใบหน้าของฝ่ายนั้น  ทำให้เขาคิดว่าอีกฝ่ายก็คงจะตั้งใจฟังเพลงนี้เหมือนกัน

     
                        เขาพริ้มตาหลับลง...วันนี้เดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน ได้หลับบนไหล่ของพี่สนและนอนคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยเปื่อยแล้วยิ่งทำให้รู้สึกเป็นสุข
     
     


                       “ เพลงนี้...เหมือนพี่สนเลย ”  เขาพูดออกมาเบาๆหลังจากบทเพลงได้จบลง


     

                        “ ......................... ”  




                        ฝ่ายนั้นเงียบไป  เขาสงสัยจึงเปิดเปลือกตาขึ้นมามองก็เห็นพี่สนเผยยิ้มบางและมองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว




                         “ .......................... ”


     

                         รุ่นพี่มองเขาด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน แล้วเอ่ยขึ้น

     


                         “ นอนตักฉันไหม...? ”  รุ่นพี่พูดประโยคเดียวกันกับบทเพลง

     


                         เมื่อเขาได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มกว้างออกมาทันที

     


                         “ อือ ”  เขาผงกหัวเป็นคำตอบ





    ********************



                     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×