คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : บทที่สามสิบเอ็ด -- เปิดเผย
บทที่สามสิบเอ็ด
“ นี่...คุยกับพี่บ้างสิ ”
พี่สนมานั่งลงบนเตียง พร้อมกับเอามือมาอังหน้าผาก
“ .................... ”
“ โกรธเหรอ ? ”
“ ................... ”
“ เรื่องแค่นี้เอง...ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ”
คราวนี้เปลี่ยนมาสัมผัสที่แขนทั้งสองข้างของเขาแทน
แต่เขายังคงนอนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่อย่างนั้น
ตั้งแต่เดินออกมาจากหอ เขาก็ตวาดพี่สนไปหนึ่งที...เรื่องที่พูดให้ไอ้จัมโบ้สงสัยเมื่อกี้
เขากลัวก็เพราะไอ้จัมโบ้ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาตรงที่ว่า ถ้ามันสงสัยแล้ว มันจะกัดไม่ยอมปล่อย จะถามจนรู้เรื่องให้ได้ แล้วอีกอย่าง...มันจะชอบปะติดปะต่อเรื่องเข้ากันได้จนทำให้เขาหวั่นใจมาหลายครั้ง
...ไม่เข้าใจพี่สนจริงๆเลย...
ทำไมถึงชอบทำอะไรให้คนอื่นสงสัยอยู่เรื่อยเลยนะ ?
และที่ทำให้เขาต้องโกรธจนไม่ยอมคุยด้วยนั่นก็เพราะ...
ตอนนั้นพี่สนตอบกลับมาว่า
‘ ให้รู้กันไปให้หมดเลย...เหนื่อยแล้ว ’
พูดออกมาอย่างนี้ แล้วจะไม่ให้โกรธได้ไงล่ะ ?
“ ได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว ” รุ่นพี่พูดหลังจากมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนัง
ไม่นานฝ่ายนั้นก็ออกไปยกอาหารเข้ามา พี่สนออกไปซื้อตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วมองดูถาดอาหารในมือฝ่ายนั้น
...แกงจืด...ข้าวกล้อง... อาหารคนป่วยสุดๆ
...ไม่อยากกินเลย...
แต่รุ่นพี่ก็ตักยื่นมาให้ตรงหน้า
“ ณัฐ...ไม่หิว ” เขาพูดออกไปตามตรง
พี่สนชักมือกลับ “ แล้วหิวอะไร ? ”
“ ไม่หิว...เลย ”
“ ไม่หิวก็ต้องกิน...จะได้กินยา ”
“ แต่มัน... ” เขามองไปที่อาหารอีกครั้ง
ข้าวกล้องร้อนๆ...แกงจืดหมูชิ้นใหญ่ก็น่ากินดีอยู่หรอก...แต่ว่าเขาไม่หิวเลยสักนิดเนี่ยสิ !
“ ขอร้องล่ะ...กินเถอะ ” พี่สนพูดแค่นั้น เขาไม่รู้จะทำไง ก็เลยต้องยอมกินแต่โดยดี
เมื่อพี่สนโน้มน้าวให้เขากินคำแล้วคำเล่า...จนฝ่ายนั้นยอมให้หยุด ก็ถึงคราวต้องกินยา...
แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่ยอมให้รุ่นพี่ป้อนเหมือนเคย เขารีบรับยามาอย่างรวดเร็ว แล้วกินทีละเม็ด...ทีละเม็ด ตามวิธีการของเขา...จนครบ
พี่สนเห็นอย่างนั้นก็แอบหัวเราะ เขาเลยถลึงตาใส่ให้หนึ่งที
หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่สนก็ยกถังน้ำใบเล็กพร้อมผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้
เขาเห็นดังนั้นก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที
....นี่จะมาเช็ดตัวให้อีกแล้วเหรอ ?....
“ พี่สน...เดี๋ยวณัฐจัดการเอง ” เขาลุกขึ้นมานั่งทันที เพราะตอนนี้เขารู้สึกเกรงใจพี่สนจนไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว
“ นอนลงเถอะ...พี่อยากเช็ดให้ ”
เขามองหน้าพี่สน...รู้สึกหัวใจเต็มตื้นขึ้นมาน้อยๆ
ตอนเด็กๆเวลาที่เขาไม่สบาย แม่ของเขาก็จะคอยดูแลเขาเป็นอย่างดี หาข้าวหายามาให้กิน พยายามเช็ดตัวให้จนไข้ลด คอยสัมผัสและไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง และตอนนี้ก็เหมือนกัน...พี่สนกำลังทำเหมือนแม่ แม่ของเขาที่ทำเพราะรักเขาสุดหัวใจ
....พี่สนก็คงรักเขามากเหมือนกัน...ใช่มั้ย ?
รุ่นพี่เริ่มเช็ดที่ใบหน้าก่อน ตั้งแต่แก้มไล้วนไปจนถึงหน้าผาก...สัมผัสของพี่สนเบามือเหลือเกิน มิน่าล่ะ..ตอนนั้นเขาถึงไม่รู้สึกตัว
หลังจากนั้นก็ลงมาเช็ดที่ลำตัวท่อนบน แต่แล้วเมื่อผ้ามาสัมผัสที่แผ่นอก เขาถึงกับสะดุ้งน้อยๆ
“ หนาวอ่ะ ”
พี่สนจับมือของเขาออก
“ อดทน...แป๊บเดียว ”
ต่อจากนั้นพี่สนก็รีบเช็ดให้ ฝ่ายนั้นเช็ดให้เขาทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า...ทั้งเกรงใจ ทั้งเขิน จนไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี
แล้วรุ่นพี่ก็เอาชุดนอนของตัวเองมาเปลี่ยนให้
“ หือ..? ทำไมให้ใส่ชุดพี่ล่ะ ? ” เขาถามพลางมองชุดนอนแขนยาวสีเทา รู้สึกว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆของพี่สนด้วยแฮะ ...ชอบกลิ่นนี้จัง...
พี่สนสวมให้จนเสร็จ แล้วหันมายิ้มกว้างให้
“ ไม่รู้สิ...อยากลองดู ”
“ เหมือนเราอยู่ด้วยกันจริงๆเลยเนอะ ”
เขาที่ได้ยินประโยคนั้นก็ถึงกับ..เขิน..จนพูดไม่ออก
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยค้างที่นี่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดเรื่องการอยู่ด้วยกันมาก่อนเลย ถ้าวันหนึ่งเขากับพี่สนได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ...อยู่ด้วยกันแค่สองคน...
...จะเป็นยังไงนะ...??
พี่สนกระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ แล้วโน้มตัวลงมาจุมพิตที่หน้าผากเขาเบาๆ
“ หายไวๆนะครับ...ที่รัก ”
*************
เมื่อแสงแดดมาเยือนในยามเช้า ก็รู้สึกเหมือนร่างกายกลับมาเป็นปกติแล้ว เขาเริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้น และคิดว่าวันนี้น่าจะไปเรียนได้
เขาลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกของพี่สน เขารีบกดปิดทันที !
ตอนนี้รุ่นพี่นอนอยู่ข้างๆ และโอบกอดเขาไว้เหมือนอย่างเคย...
เมื่อคืน...เขาจำได้ว่า เผลอตื่นขึ้นมาหลายครั้ง และทุกครั้งก็เห็นพี่สนนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะตรงนั้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่า เห็นฝ่ายนั้นเข้านอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว
...ขยันอ่านหนังสืออย่างที่สัญญาไว้เลย...ดีใจจัง...
“ พี่สน... ”
“ พี่สน ! ” เขาพยายามสะกิดเรียก แต่พี่สนก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
“ พี่สน !! ตื่นได้แล้ว ” คราวนี้เขาลุกขึ้นมานั่งแล้วพยายามเขย่าตัวโดยแรง
เอ๊ะ...ทำไมไม่ตื่น ??
แต่แล้วทันใดนั้น เขาก็ถูกรวบเอวไว้อย่างรวดเร็วจนทำให้เขาล้มลงไปนอนทับร่างของฝ่ายนั้นทันที !!
...รุ่นพี่ลืมตาตื่น แล้วเผยยิ้มให้...
“ หายยัง ? ” พี่สนเอ่ยถาม
พี่สนนี่น้า....ตกใจหมดเลย....
เขาพยักหน้าหงึกๆให้เป็นคำตอบ
“ จริงเหรอ ? ”
“ จริงสิ ”
“ ไม่เชื่อ ”
“ ไม่เชื่อได้ไง...นี่จับดู ตัวไม่ร้อนแล้ว ” เขาพยายามจะบอกให้ฝ่ายนั้นลองจับหน้าผากดู แต่ว่ามือของรุ่นพี่ไม่ว่าง เพราะกำลังโอบรอบเอวเขาเอาไว้
“ จับยังไงอ่ะ ? ”
เขาหรี่ตามองหน้าพี่สน ...นี่กำลังหาเรื่องแกล้งเขาอยู่รึเปล่านะ..?
แต่พี่สนยังคงทำหน้ายิ้มทะเล้นอยู่อย่างนั้น
เขาเอื้อมฝ่ามือทั้งสองข้างไปวางที่แก้มพี่สนเบาๆ
“ นี่ไง...ไม่ร้อนแล้ว ”
“ อืมม...มือไม่ร้อน ”
แต่พี่สนยังคงมองมาเหมือนกับรออะไรอยู่...
เขาจึงลองยื่นหน้าเข้าไป เอาแก้มของเขาชนกับแก้มของฝ่ายนั้น...จนตัวเองรู้สึกเขินแทน...
“ นี่ไง...ไม่ร้อนใช่มั้ย ? ”
“ อืม...แก้มไม่ร้อน ”
สุดท้ายพี่สนก็ช่วยทำให้เขาหายข้องใจเสียที
“ อยากรู้ว่า..ปากร้อนมั้ย ? ”
ปากร้อนมั้ย ??
...หมายความว่า...??!! ....อ๋อ...
...พี่สนเจ้าเล่ห์เอ้ย !!
“ น่านะ...แค่นิดเดียว ” พี่สนเอ่ยเสียงอ้อน
เขาชั่งใจอยู่สักพัก.....แต่แล้วก็ตัดสินใจโน้มหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มพี่สนอย่างรวดเร็ว แล้วรีบดีดตัวออกจากร่างนั้นทันที !!
“ ณัฐอาบน้ำก่อนนะ ” เขาทิ้งท้ายแค่นั้น ก่อนจะรีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำจนมองตามไม่ทัน
**************
“ ตอนเย็นเลิกกี่โมง ? ” พี่สนขับรถมาส่งเขาถึงคณะวิทยาศาสตร์ เพราะตอนเช้าเขาเรียนเลคเชอร์วิชาชีวเคมี แต่พี่สนต้องไปเรียนเลคเชอร์ที่คณะ
“ ไม่รู้เหมือนกัน ”
แล้วฝ่ายนั้นก็ยื่นสิ่งหนึ่งมาให้
“ อ๊ะ ”
“ กุญแจอะไร ? ” เขาถามขึ้นแล้วยื่นมือไปรับ
“ กุญแจห้อง...”
“ พี่อาจจะกลับช้าหน่อย ถ้าเลิกเร็วก็กลับก่อนได้เลย ”
“ หือ..? ”
“ อย่าลืมเอาไปปั๊มเพิ่มด้วยนะ ”
“ เก็บไว้เป็นของตัวเอง...จะได้เข้าห้องตอนไหนก็ได้ ”
พี่สนให้กุญแจห้อง ??
...ดีใจจัง...
“ อืม ” เขาพยักหน้าให้ แล้วเปิดประตูจะลงจากรถ
แต่พี่สนก็รั้งแขนเขาไว้แล้วโน้มหน้าเข้ามา..จุมพิต..ที่แก้มเขาเบาๆเหมือนแต่ก่อน
“ ตั้งใจเรียนล่ะ ”
เขายิ้มกว้างกลับไปให้
“ ครับ”
เมื่อเดินเข้าไปในห้องเรียน เขาก็นั่งในที่ประจำที่คุ้นเคยทันที ไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาและกำลังจะเตรียมการสอน พร้อมกับที่ได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้นทางด้านหลัง
“ ณัฐ ! ”
เขาหันไปมองก็เห็นแพรรีบวิ่งเข้ามานั่งข้างๆทันที
“ มาเช้าจัง ” เธอพูดพร้อมกับพยายามหยิบหนังสือออกมา
“ เมื่อวานไม่สบายเหรอ ? เห็นจัมโบ้บอก แล้วเป็นไงบ้าง ? ”
“ แค่เป็นไข้...หายแล้วแหละ ”
“ ใช่สิ ! ” อยู่ดีๆเธอก็อุทานขึ้นมาเสียงดัง จนรีบปิดปากตัวเองโดยเร็ว เพราะเพื่อนๆที่อยู่ด้านหน้าหันมามองประมาณ 3-4 คน
“ รู้มั้ย ? เมื่อวาน...พี่สนมาถามถึงณัฐด้วยนะ ” เธอพูดกระซิบรัวเร็วพลางทำตาโต
“ อ๋อ...อืม ? ” เอาเข้าแล้วไง..
“ อยู่ดีๆพี่สนก็เข้ามาคุยด้วย...แพรตื่นเต้นจน..ทำตัวไม่ถูกเลยอ่ะ ”
ดูท่าเธอตอนนี้แล้วคงจะตื่นเต้นจริงๆน่ะแหละ
“ เออ...แล้วเมื่อวาน...พี่สนมาถามหาณัฐทำไมเหรอ ? ”
“ เอ่อ...” ตายล่ะ..ลืมนึกหาคำตอบมาตอบแพร จะบอกว่าไงดีล่ะ..?
มาคุยเรื่องงาน...มาคุยเรื่องกิจกรรมคณะ...มาถามหาเฉยๆตามประสาคนรู้จักกัน...
“ ก็มาเอาไปอยู่ด้วยน่ะสิ ! ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นทางด้านข้าง พร้อมกับที่จัมโบ้มานั่งลงที่เก้าอี้ข้างเขาอีกคน
หัวใจของเขาหล่นวูบไปจนถึงตาตุ่ม...!!!
“ เอาไปอยู่ด้วย...” แพรทวนคำ แล้วทำหน้าครุ่นคิด
“ แกพูดเหมือนผี เลยอ่ะจัมโบ้ ” เธอชะโงกหน้ามาถาม
“ ไม่สบาย...หายยัง ? ” จัมโบ้หันมาถามเสียงเรียบเรื่อย
“ อืมม ” เขาตอบเสียงเบา
ขอบอกตรงๆว่าตอนนี้เขาค่อนข้างระแวงไอ้จัมโบ้มาก เพราะไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ ? มันยิ่งเป็นคนขี้สงสัยและกัดไม่ปล่อยด้วยสิ มันสงสัยเรื่องเขากับพี่สนหรือเปล่านะ ?
“ เมื่อกี้ ที่บอกว่าพี่สนมาเอาไปอยู่ด้วย..คืออะไรเหรอ ? ” แพรถามด้วยความอยากรู้
“ ถามไอ้ณัฐเอาละกัน ” แล้วไอ้จัมโบ้ก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้เขา
“ เอ่อ...อาจารย์มองมาทางนี้แล้ว ”
เขาพยายามเบี่ยงเบนประเด็น แต่ว่า...เมื่อกี้อาจารย์ก็หันมามองจริงๆนะ เพียงแต่ว่า...เขาไม่อยากตอบคำถามของเพื่อนมากกว่า เพราะสองคนนี้ถ้าได้สงสัยอะไรแล้วจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ
แต่คนที่เขากลัวมากที่สุดในตอนนี้ คือ...ไอ้จัมโบ้ !!
เขาอยากรู้ว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่..?
ไม่แน่...มันอาจจะปะติดปะต่อเรื่องราว จนสามารถหาข้อสรุปได้แล้วก็ได้
....คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ....
....ขออย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย....
แต่แล้วแพรก็ยื่นกระดาษใบหนึ่งมาวางตรงหน้า ในนั้นมีข้อความว่า...
‘ เมื่อวาน มีเรื่องอะไรเหรอ ? ’
อะไรกันเนี่ย...?? ถึงคุยไม่ได้ ก็ต้องเขียนจนได้สินะ
เขารีบเขียนตอบกลับไปทันที ‘ ไม่มีอะไรหรอก ’
แต่แพรทำหน้าไม่เชื่อ เธอจึงยื่นกระดาษใบเดิมให้ไอ้จัมโบ้
เขาตกใจ...แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้
พอเพื่อนตัวอ้วนเห็นข้อความนั้นมันก็รีบเขียนตอบทันที
‘ เดี๋ยวเราค่อยถามมัน...อยากรู้เหมือนกัน ’
ไอ้จัมโบ้มันจงใจยื่นผ่านหน้าให้เขาเห็นข้อความนั้น
ซวยล่ะ..!!
******************
“ ไอ้ณัฐ... ” ไอ้จัมโบ้เรียกทันที เมื่อคาบเรียนอันน่าเบื่อได้จบลง
เขารีบยัดสมุดใส่กระเป๋า แล้วพยายามเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
...อย่านะ...อย่ามาถามเด็ดขาด...
แต่แล้วเพื่อนทั้งสองก็วิ่งตามมาประกบเขาทั้งสองข้าง จนทางเดินแคบลงไปถนัดตา ไอ้จัมโบ้วางมือที่ไหล่เขา ส่วนแพรก็ทำหน้าอยากรู้สุดชีวิต เพราะตอนนี้เธอเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องน้อยที่สุด
“ กูถามจริงๆนะ... ”
ไม่ว่าคำถามของไอ้จัมโบ้จะเป็นอะไร..สำหรับเขาแล้ว อะไรก็น่ากลัวทั้งนั้น ขอบอกตามตรงว่าตอนนี้รู้สึกกลัวจับใจ
“ มึงกับพี่สน...เป็นอะไรกัน ? ”
ได้ยินดังนั้นเขาก็ชะงักเท้าหยุดเดินทันที !!
มันถามตรงมาก...มากเสียจนทำให้เขาอึ้งไปเลย เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะถามออกมาแบบนี้
เขาหันหน้าไปมองเพื่อนทั้งสองสลับกันไปมา
แพรได้แต่ตกใจพลางทำตาโตเมื่อได้ยินคำถามนั้น ส่วนไอ้จัมโบ้ก็ทำสีหน้าเหมือนหยั่งเชิง ....น่ากลัวจริงๆ....
“ ก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ ” เขาตอบแล้วรีบก้าวเท้าเดินทันที รู้สึกว่าอยากหายตัวไปจากตรงนี้เหลือเกิน ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา นั่นก็เพราะว่า...ไอ้จัมโบ้มันสงสัยและสามารถคิดสรุปได้เองไปจนถึงขั้นที่ว่า.....เขากับพี่สนเป็นอะไรกัน ?.....
“ แพร...งงไปหมดแล้วอ่ะ ? ทำไม มีอะไรกันเหรอ ? ”
“ สรุป...มึงจะไม่บอกใช่มั้ย ? ” เพื่อนรีบก้าวเท้าเดินตามมาทันที
“ ก็มันไม่มีอะไร...จะให้บอกอะไรล่ะ ” เขาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“ หรือ...มึงจะให้กูไปถามพี่สน ” ไอ้จัมโบ้พูดไล่หลัง
ประโยคสุดท้ายทำให้เขาแทบกระอัก..!!
ถามพี่สน...?
ถ้ามันไปถามพี่สน ฝ่ายนั้นก็ต้องตอบตามความจริงอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย...
ไอ้นี่ !! จะต้อนให้จนมุมกันไปเลยหรือไง
“ ณัฐ...แพรขอร้องล่ะ ” คราวนี้แพรเป็นฝ่ายพูดบ้าง
“ ณัฐชอบมีความลับตลอดเลย...มีเรื่องอะไรทำไมถึงบอกเพื่อนไม่ได้ล่ะ ? ”
ได้ยินแพรพูดดังนั้นแล้วเขาก็รู้สึกผิดยังไงชอบกล...
“ ก็เป็นเรื่องที่บอกไม่ได้น่ะสิ ”
“ ใช่มั้ย ? ” ไอ้จัมโบ้พูดแทรกเข้ามา
หา !!
พอได้ยินคำพูดนี้ เขามั่นใจได้ทันทีเลยว่า...ไอ้จัมโบ้...ต้องรู้เรื่องของเขาแล้วแน่ๆ
มันรู้เรื่องของเขาแล้วงั้นเหรอ ?
แค่เห็นพี่สนมาห้องแค่นั้น แล้วจะรู้ได้ไง ? จะเดาเก่งเกินไปแล้ว
เขาพยายามมองหน้าเพื่อนให้แน่ใจอีกครั้ง...แต่ว่า....กลับดูสีหน้าไม่ออก
หรือว่า...มันแค่แกล้งขู่เล่นๆให้เขาเป็นฝ่ายเฉลยเอง
อันที่จริงเขาก็ไม่อยากจะปิดเพื่อนตลอดไปหรอกนะ
เพียงแต่ว่า...เขาไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนี้แค่นั้นเอง
“ แพร ”
“ จัมโบ้ ” เขาเอ่ยเสียงเบา
“ ฉันก็ไม่อยากจะมีความลับอะไรกับพวกแกหรอกนะ ”
“ แต่ว่า... ”
เขากลัวว่าถ้าเพื่อนรู้ความจริงแล้ว สายตาของเพื่อนที่มองมาที่เขาจะยังเป็นเหมือนเดิมมั้ย ?
เพื่อนยังอยากคบเขาอยู่หรือเปล่า ? จะรังเกียจคนที่ชอบเพศเดียวกันอย่างเขามั้ย ?
นี่แหละ...คือสิ่งที่เขากลัว
...เพราะเรื่องพรรค์นี้ แค่ให้เขารู้กันสองคนกับพี่สนก็เพียงพอแล้ว...
พวกเขาไม่ได้กำลังเล่นขายของ ที่พอพลาดขึ้นมาแล้วก็เริ่มใหม่ได้
ถ้าวันใดที่เขาบอกเพื่อนไป...ภาพของเขาที่เป็นแฟนกับผู้ชายจะถูกฝังเข้าไปในหัวสมองของเพื่อนทันที และไม่สามารถลบออกไปได้
...จะยอมมั้ย..?
แต่ความคิดหนึ่งในตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น...
ตอนนี้เขาเบื่อเหลือเกิน...เบื่อชีวิตที่ต้องโกหก และพยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองไปวันๆแบบนี้ ถ้าเขาตัดสินใจบอกเพื่อนออกไป..ทุกอย่างก็จะจบ !
ไม่ต้องคอยหลบหนี...ไม่ต้องคอยปิดบัง แต่...
เขาต้องมั่นใจ...ว่าเขาจะสามารถรับผลที่จะตามมาได้
แล้วเขาจะรับมันได้มั้ย ?
ไม่รู้สิ..??
“ แต่อะไรอ่ะ..ณัฐ ” แพรถามขึ้น
“ .............. ”
เพื่อนคนอื่นรีบเดินไปเรียนกันขวักไขว่ แต่พวกเขายังคงยืนหยุดนิ่งกันอยู่ตรงนั้นไม่ยอมเคลื่อนไปไหนสักที
“ ................ ”
....ตัดสินใจแบบนี้ดีแล้วใช่มั้ย ?.....
เขาสูดหายใจลึกแล้วมองหน้าเพื่อนทั้งสองไปมา
เขาพยายามเรียบเรียงคำพูดในหัวสมองอย่างยากลำบาก นานทีเดียวจึงสามารถเปล่งเสียงออกมาได้
“ จำตอนนั้น......ที่เคยบอกได้มั้ย ? ”
“ ..................... ”
“ ที่เคยบอกว่ามีแฟน...”
ได้ยินแค่นั้น ไอ้จัมโบ้ก็ตาลุกวาว ทำหน้าอย่างกับไม่อยากจะเชื่อในสายตา !!
ต่างกับแพรที่ยังคงทำหน้าไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น
ไอ้จัมโบ้รู้แล้ว....!!
มาถึงตอนนี้ คิดจะกลับลำคงทำไม่ได้แล้วใช่มั้ย ?
แต่ช่างเถอะ...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เขาไม่อยากจะปิดบังเพื่อนอีกต่อไปแล้ว....
“ ใช่ ” เขาพูดด้วยเสียงเบาแต่หนักแน่น
“ ฉันมีแฟนเป็น.... ‘ผู้ชาย’ ”
“ และผู้ชายคนนั้น ก็คือ.... ”
“ พี่สน ”
******************
ความคิดเห็น