คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่สิบ -- ทำได้คนเดียวเท่านั้น !!
บทที่สิบ
คาบเรียนสุดท้ายในวันนี้เป็นแล็บวิชาฟิสิกส์ และความพิเศษของคาบนี้คือ กว่าจะเริ่มเรียนก็ห้าโมงเย็น เขาจะได้ทำการทดลองนานและยังต้องเขียนรายงานการทดลองที่ยากสุดหิน...จึงต้องเลิกเรียนช้ากว่าปกติ กว่าจะทำแล็บเสร็จก็ประมาณหนึ่งทุ่มและกว่าจะเดินทางไปถึงคณะก็คงเพิ่มเวลาเลทเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นวันนี้ที่มีนัดซ้อมแสดงละครในตอนหกโมงเย็น เขาคาดว่าอาจจะได้ไปช้า...สักหน่อย
จะมีผลอะไรต่อกลุ่มมั้ยนะ ? คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ? เดี๋ยวพอเรียนเสร็จแล้วรีบไปทันทีเลย
“ ณัฐ...คือว่า ตรงนี้ทำไมณัฐคำนวณได้ค่านี้ล่ะ ”
“ แต่เราได้คำตอบแบบนี้ ” เสียงหนึ่งด้านข้างเอ่ยขึ้น
‘ภาคย์’ แล็บเมทวิชาฟิสิกส์ของเขา คนที่มีบุคลิกเหมือนนักกีฬา หน้าตาก็ไม่ได้จัดว่าหล่อเหลา แต่ก็คมเข้มใช้ได้ เท่าที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เปิดเทอม เขาคิดว่าภาคย์เป็นคนดีคนหนึ่ง หัวก็ดีอีกต่างหาก ได้ข่าวว่าเคยเป็นเด็กฟิสิกส์โอลิมปิกเมื่อตอนม.ปลายมาก่อนด้วย ตรงข้ามกับเขาที่ค่อนข้างจะไม่ถนัดวิชาคำนวณสักเท่าไหร่ เขาจึงโชคดีที่เวลาสงสัยอะไรก็สามารถถามเพื่อนคนนี้ได้ มันจะสามารถตอบข้อข้องใจได้ทุกอย่างเกี่ยวกับฟิสิกส์ แต่ข้อเสียติดอยู่ตรงที่ว่า....มันออกจะชอบหยอกล้อเขาแรงๆตามสไตล์คนตัวโตกว่าแค่นั้นแหละ
“ ทำไมเหรอ ? ” ณัฐมองดูกระดาษที่เขียนรายงาน
แล้วภาคย์ก็เริ่มคำนวณจุดที่สงสัยให้ดูทีละขั้นตอน แล้วเขาจึงได้รู้ว่าทำไม
“ อ๋อ...เราใช้สูตรผิดเอง ฮ่า ๆ ” ณัฐกล่าวพลางหัวเราะ
“ ณัฐ นี่น้า...ถ้าเราไม่ลองตรวจทานของณัฐดู ก็คงจะส่งไปแบบนี้เลยใช่มั้ยเนี่ย ? ”
“ ขอขอบพระคุณมากครับที่กรุณา ” ณัฐกล่าวประชดเพื่อน
“ งั้นรีบแก้นะ เดี๋ยวจะเอาไปส่งให้ ” ภาคย์กล่าวพร้อมกับไปตรวจทานข้ออื่นๆของตัวเองต่อไป
ภาคย์เป็นคนดีอย่างนี้เสมอ ถึงจะเป็นคนเก่งแค่ไหน แต่ว่าก็ไม่เคยมีนิสัยเห็นแก่ตัว ซ้ำยังพยายามช่วยเหลือเพื่อนอย่างเช่นเขาตลอด เขารู้สึกซาบซึ้งน้ำใจเพื่อนคนนี้จริงๆ
การทดลองในครั้งนี้ยากกว่าที่เขาคิด จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องมาแก้ไขข้อที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังต้องมาตรวจทานข้ออื่นอีกรอบ กว่าจะได้ส่งก็ปาเข้าไปประมาณ ทุ่มกว่าๆ เขากับภาคย์ส่งเกือบเป็นคู่สุดท้าย แล้วรีบลงมาจากห้องเรียนทันที เพราะนี่มันก็มืดมากแล้ว เฮ้อ...แล้วยังต้องรีบไปซ้อมละครที่คณะอีก
“ ณัฐได้ทำอะไรในงาน present เหรอ ? ” ภาคย์ถามขึ้นขณะที่เดินลงมาจากตึกแล้ว
“ แสดงละคร ”
“ จริงดิ ”
“ เราได้เต้นแหละ ถึงจะไม่ค่อยถนัด แต่ก็ชอบนะ ”
“ เพราะได้เต้นแนวผู้ชาย ท่าเต้นมันเท่มากเลยล่ะ ”
ภาคย์ได้เต้นงั้นเหรอ ? อยากเห็นมันเต้นจังแฮะ จะตลกไหมหว่า ?
แต่พอกลับมาคิดถึงสถานะตัวเอง...ฝ่ายนั้นต่างหากที่จะต้องตลกเขาเสียเอง
“ เฮ้อ....ของเราอย่าให้พูดเลย ” ณัฐพูดเสียงเอื่อย
“ แล้วณัฐได้แสดงเป็นอะไรล่ะ? ”
“ แสดงเป็น..... ”
“ ....ผู้หญิง ” ณัฐบอกพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น
“ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ” ภาคย์หัวเราะ แล้วเอาแขนอันแข็งแรงมาโอบคอเขาไว้ อย่างที่เคยทำ
“ ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ”
“ ใครกันน้า...ที่ให้เพื่อนคนนี้ไปเป็นผู้หญิง ” ภาคย์ถามเสียงลอย
ก็พี่สนน่ะสิ !! ณัฐคิดในใจ
“ ...เหมาะจริงๆเลย... ” ภาคย์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หา !!
“ เหมาะตรงไหน ” ณัฐพยายามยกแขนอันแข็งแรงนั้นออกจากคอ แต่ก็ไม่เป็นผล
“ งั้นเดี๋ยวมาซ้อมบทกันมั้ย ? ” ภาคย์เอ่ยแซวขึ้น พร้อมกับเอามืออีกข้างมากอดคอเขาไว้แน่น
“ ซ้อมบทอะไร ไอ้บ้า ! ” ณัฐพยายามขัดขืน เพื่อนคนนี้ชอบเล่นแบบนี้เป็นประจำ เขาจึงไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่
“ ในบทมีเลิฟซีนมั้ย ? ” คำถามที่ชวนให้ร่างเพรียวถึงกับตะลึง
“ ไม่มีว้อย ! เลิกเล่นได้แล้ว ” ณัฐชักจะรู้สึกแปลกๆ ปกติมันจะแค่หยอกเขาพอขำๆ แต่คราวนี้ทำไมต้องทำหน้าจริงจัง แล้วยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างนี้ด้วยวะ
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งตะโกนมาจากทางด้านหลัง
“ ณัฐ !! ”
เอ๊ะ !? ...ใคร....เสียงคุ้นๆ
ณัฐพยายามหันหน้ามาอย่างยากลำบากเพราะท่อนแขนของเพื่อน เขาหันไปเห็นร่างสูงที่ตอนนี้ยืนกอดอกอยู่ข้างรถBMWสีขาวคู่ใจ
อ้าว..พี่สนมาทำอะไรล่ะเนี่ย !
ตอนนี้ภาคย์ปล่อยแขนข้างหนึ่งจากเขาแล้ว แต่ข้างหนึ่งเนี่ยสิ ยังติดหนึบอยู่ที่คอ..ไม่ยอมปล่อยเสียที
เพราะความมืด ณัฐจึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ได้ แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้...เขาจึงได้รู้ว่าพี่สนมีสีหน้า...บึ้งตึง..ราวกับโกรธใครมาอย่างนั้นแหละ?
...ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี่ย...?
เมื่อรุ่นพี่เดินมาถึงตัวก็เอาแต่ยืนจ้องหน้าเขาและเพื่อนสลับกันไปมาอย่างเอาเป็นเอาตาย
ทำไมต้องมองอย่างกับเขาทำอะไรผิดงั้นแหละ
“ ณัฐ...มานี่ !! ” ร่างสูงส่งสายตาอาฆาตให้อีกคน และดึงแขนเขาไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ายนั้นกึ่งลากกึ่งจูงเขาไปจนถึงรถ แล้วผลักเขาเข้าประตูทันที
“ พี่...มาทำอะไรที่นี่ ! โอ๊ย...เจ็บแขนชะมัดเลย ” ณัฐละล่ำละลักถาม พร้อมกับลูบแขนตัวเองป้อยๆ
เมื่อกี้พี่สนลากเขาออกมาโดยที่ไม่ได้บอกภาคย์สักคำ...เพื่อนมันจะโกรธมั้ยนะ ?
พี่สนไม่พูดอะไร...แต่ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“ พี่จะไปไหน ? ”
“ ................ ”
“ พี่ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ ? ”
เขาเริ่มจะอารมณ์เสียนิดๆแล้ว พี่สนอยู่ดีๆก็มาฉุดกระชากลากถูเขาออกมาจากเพื่อนโดยที่ไม่ได้ล่ำลากันด้วยซ้ำ และตอนนี้ยังขับรถพาเขาออกมาโดยที่ไม่ยอมพูดจาอะไรอีก ถ้าโกรธใครมาก็อย่ามาลงกับเขาสิ...เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
ทันใดนั้นสนก็เลี้ยวซ้ายชิดข้างทางและเหยียบเบรกกะทันหัน จนร่างเพรียวเอนตัวไปทางด้านหน้าจนหัวเกือบโขก
“ พี่ทำอะ..ระ...! ” ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค ก็ถูกร่างสูงประกบจูบปากเข้าเสียก่อน!!
เขาพึ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิด กลับต้องมาตกตะลึงกับเหตุการณ์ฉกจูบต่อ ตอนนี้พี่สนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มือทั้งสองข้างประคองหน้าเขาไว้ แล้วกระหน่ำจูบอย่างไม่ลดละ ริมฝีปากบดขยี้เบียดชิด ลิ้นนั้นก็ไล้เลียตวัดไปทั่ว ตั้งแต่ริมฝีปากอ่อมนุ่ม จนรุกล้ำเข้าไปภายใน พยายามซอกซอนจนทั่วทุกมุมของโพรงปาก จนทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก เรี่ยวแรงของเขาที่เคยมีก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด
จากจูบแบบหนักหน่วงก็ถูกผ่อนจังหวะลง กลายเป็นจูบที่นุ่มนวลและบางเบาราวกับทะนุถนอม รสสัมผัสนั้นทำให้เขาเสียววาบไปทั้งร่าง แต่ละจังหวะทำให้เขาหลงเคลิบเคลิ้มจนต้องพริ้มหลับตาลง ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของพี่สนยังคงดื่มด่ำไม่ยอมหยุด ไออุ่นร้อนจากลมหายใจรดลงที่แก้มขาวจนทำให้เขารู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งตัว
นานทีเดียว...กว่าเขาจะได้สติ
ณัฐผลักร่างสูงออก!
พี่สน.....ทำไมถึง....จูบเก่งอย่างนี้นะ บทจะหนักหน่วงก็เร้าใจ บทจะนุ่มนวลก็ทำให้เขาทั้งตื่นเต้น ทั้งเคลิบเคลิ้มจนยากที่จะขัดขืนได้
แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมสักหน่อย ! ณัฐบอกกับตัวเองในใจ
“ พี่เป็นอะไร ? ”
ถามออกไปก็พลันรู้สึกแปลกใจตัวเอง แทนที่จะถามว่า ‘พี่ทำอะไร?’ แต่กลับถามว่า ‘พี่เป็นอะไร ? ’ นี่เขารู้สึกคุ้นเคยกับการจูบของพี่สนไปแล้วเหรอ ?!
แต่พี่สนยังคงจ้องมองตาเขาไม่ยอมหยุด...
ทำไมถึงมองด้วยสายตาแบบนี้นะ ?
“ ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นมาทำแบบนั้น! ” ร่างสูงเริ่มเอ่ยเป็นประโยคแรก
“ ใคร...ทำแบบไหน ? ” เขางงเหลือเกิน เขาปล่อยให้ใครทำอะไรงั้นเหรอ ?
“ มันทำท่าจะจูบอยู่แล้ว...หรือจะรอให้มันจูบก่อนงั้นเหรอ ? ” ร่างสูงตวาด
ณัฐนึกทวนคำพูดพี่สน ...ทำท่าจะจูบ...
หรือ ‘มัน’ ที่ว่า จะเป็นภาคย์ที่หยอกกับเขาเล่นเมื่อกี้
“ ภาคย์น่ะเหรอ ? ไม่ใช่สักหน่อย แค่หยอกกันเล่นเฉยๆ ”
ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่นี่ โกรธเขางั้นเหรอ ? แล้วยังมาโกรธด้วยเรื่อง...แค่หยอกเล่นกับเพื่อนนี่นะ ?
“ ผมไม่เข้าใจว่า...ทำไม...พี่ต้องโกรธด้วย ? ” เขาไม่เข้าใจจริงๆ
แต่พี่สนไม่ได้สนใจที่เขาพูดด้วยซ้ำ
ร่างสูงทำหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเก่า “ ปกติเล่นกันแบบนี้เหรอ ? ”
ทำไมน้ำเสียงถึงฟังดูอึมครึมน่ากลัวแบบนี้นะ
ก็แค่เพื่อนสองคนหยอกเล่นกัน มันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่นี่นา...พี่สนกำลังโกรธอะไรกันเนี่ย ?
“ ก็หยอกเล่นกันธรรมดาแหละครับ ไม่มีอะไร ” แต่ยิ่งพูดก็เหมือนรุ่นพี่จะโกรธมากขึ้น
“ แล้วก็ยืนนิ่งปล่อยให้มันทำไปงั้นสิ จะทำอะไร...หัดระวังตัวบ้าง ! ”
“ ถ้าวันนี้พี่ไม่มายืนรอรับ จะเกิดอะไรต่อไปก็ไม่รู้ ”
เขาได้ยินไม่ผิดไปใช่มั้ย ?
“ พี่.....มารับผมเหรอ ? ”
ร่างสูงเบือนหน้าพร้อมกับเร่งเครื่องยนต์เพื่อให้รถออกตัว
“ ก็เห็นว่าไม่มาสักที พอถามน้องคนอื่นถึงรู้ว่าปีหนึ่ง sec2 เรียนฟิสิกส์กันอยู่ ”
“ แล้วก็เลยมารับ......ถึงคณะวิทย์.....งั้นเหรอ ? ”
แต่ร่างสูงไม่ตอบ...
พี่สนมารอรับเขา? มาถึงคณะวิทยาศาสตร์ที่อยู่ไกลจากคณะแพทย์พอสมควร แล้วยังต้องมายืนรอมืดๆคนเดียวอีก
พี่สนทำแบบนี้ทำไม ?
“ แล้วทำไมพี่ถึงต้องมารับด้วยล่ะ? ผมไม่เบี้ยวซ้อมหรอกน่า ” ณัฐเบี่ยงเบนประเด็น
แต่....แค่รู้ว่าพี่สนมารอรับ...ก็พาลให้รู้สึก...ดีใจลึกๆ
“ ถ้าไม่มา....แล้วจะได้เห็นอะไรดีๆเหรอ ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ พี่....กำลังโกรธ ผมอยู่งั้นเหรอ ? ” ร่างเพรียวถาม
“ ใช่...โกรธมาก ! ไอ้เราก็นึกเป็นห่วง...เห็นว่าเลิกเรียนดึก ก็เลยจะมารับ ที่ต้องยืนคอยนานเพราะเลิกช้ายังพอทน...”
บอกว่า...เป็นห่วงเรางั้นเหรอ ?
เมื่อณัฐลองนึกภาพตาม ก็ทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมา...พี่สนต้องมาคอยนานแค่ไหน ?
ก็...ใครจะไปรู้ล่ะว่ามายืนรอ ?!
“ ...แต่พอเห็นเดินจู๋จี๋กันมากับไอ้หน้าปลาจวดนั่น บอกตรงๆ...รับไม่ได้ ! ” ร่างสูงสบถออกมายาวเหยียด
สรุปว่า...โกรธเขาเรื่องที่เดิน ‘จู๋จี๋’ มากับภาคย์งั้นเหรอ ?
“ ไม่ได้...เดินจู๋จี๋...กันสักหน่อย ” ณัฐปฏิเสธ
พลันคิดว่า...แล้วทำไมเขาต้องพยายามปฏิเสธเพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นเข้าใจผิดด้วยล่ะเนี่ย..
“ อีกอย่างนะ..เพื่อนผมชื่อ ‘ภาคย์’ ไม่ได้ชื่อ ‘ไอ้หน้าปลาจวด’! ”
ตั้งแต่เขาได้ยินพี่สนเรียกชื่อนี้ ก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ถ้าภาคย์รู้เข้า...คงจะโกรธแน่ๆ
“ ต่อไป....ห้ามให้ใครมาทำแบบนี้อีก...เข้าใจมั้ย ? ” สนเอ่ยเสียงเด็ดขาด
“ ทำอะไร ? ”
“ ถูกเนื้อต้องตัว...ลามปาม...หรือแม้กระทั่ง ใช้สายตามองแบบโลมเลีย ” สนร่าวยาว
“ ทำไมล่ะ ? ” แต่ละอันที่พูดมาแปลกๆทั้งนั้น...แล้วใครจะมาทำกับเขาแบบนั้นกัน
รถถูกขับเข้ามาภายในคณะแพทย์ และถูกจอดเข้าช่องจอดอย่างรวดเร็วพอดี
แล้วร่างสูงก็หันมามองด้วยสายตาจริงจัง
“ เพราะพี่ทำได้แค่คนเดียว !! ”
ได้ยินดังนั้น...ร่างเพรียวก็หน้าแดงวาบขึ้นมาทันที ....แต่เพราะความมืดฝ่ายนั้นจึงไม่ทันได้สังเกตเห็น
...พี่สนพูดบ้าอะไรเนี่ย...?
“ เข้าใจมั้ย ? ”
“ ................ ” ร่างเพรียวไม่กล้าตอบ
“ เข้าใจมั้ย ?! ” ร่างสูงเอ่ยเสียงดัง
“ ไม่เข้าใจ....”
“ ...สักนิด ” ร่างเพรียวตอบเสียงเบา
แต่ร่างสูงกลับมาประคองหน้าเขาไว้ พร้อมกับมองด้วยสายตาที่อ่อนโยนกว่าเดิม
“ แค่รู้ไว้ก็พอ...ว่าพี่ไม่อยากเห็นณัฐใกล้ชิดกับใคร...มากไปกว่าพี่ ”
******************
เมื่อเดินลงมาจากรถ พี่สนจูงมือเขาไม่ยอมห่าง เพราะระยะทางระหว่างที่จอดรถและตึกเรียนไกลกันพอสมควร ซ้ำยังมืดสลัว มีเพียงแค่แสงไฟสีส้มที่สาดส่องเข้ามาบางๆแค่นั้น จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า
มือใหญ่ของฝ่ายนั้นเกาะกุมมือเขาไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้อยู่ห่างกาย ซ้ำยังมีสัมผัสที่อบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามา ทำให้เขารู้สึกว่า ....ไม่อยากปล่อยมือไป..เช่นกัน..
ตอนนี้เขาจึงได้แต่...ยอมให้ร่างสูงจูงมือเดินไป โดยที่.....ไม่ได้ขัดขืนอะไร
ณัฐมองร่างข้างหน้าที่กุมมือเขาไว้แน่น ....วันนี้พี่สน... บอกว่า ‘เป็นห่วง’
แล้วยังทำท่าทางอย่างกับ ‘หึง’ เขากับภาคย์งั้นแหละ..?
เมื่อคิดได้ดังนั้น...ก็รู้สึก...ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
คนๆนี้ ชักจะทำให้หัวใจของเขา เต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นทุกวัน
...แย่จัง...
เมื่อทั้งสองเริ่มเดินมาจะถึงตัวอาคาร เสียงคนเจี๊ยวจ๊าวดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน แสงไฟเริ่มกระจ่างชัดเจนขึ้น ณัฐจึงรีบดึงมือออกทันที
ร่างสูงก็ไม่ได้มีทีท่าอะไร
เมื่อเดินเข้ามาถึงตัวอาคาร ก็พบว่ามีผู้คนมากมาย ทั้งน้องปีหนึ่ง ทั้งรุ่นพี่ปีสาม กำลังจัดเตรียมการแสดงอยู่ทุกมุมของลานกว้าง บางกลุ่มก็อยู่มุมนั้น บางกลุ่มก็ซ้อมในห้อง โดยที่ไม่ได้มาก้าวก่ายกันแม้แต่น้อย
สนเดินนำเพื่อมุ่งตรงไปยังลานโปร่งที่อยู่อีกชั้นทันที
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ รุ่นพี่คนหนึ่งที่เขา จำได้ว่าชื่อ ‘กฤต’ ก็เอ่ยทักขึ้น
“ ไอ้เชี่ย ! ไหนมึงบอกว่าจะไปกินข้าวแป๊บเดียวไง นี่ปาเข้าไปสองชั่วโมง กูนึกว่ามึงไปกินอยู่เซี่ยงไฮ้ ” เพื่อนสนิทของสนเอ่ยขึ้น
“ ไม่มีกูแค่คนเดียว...อย่าบอกนะ ว่าซ้อมไม่ได้ ” สนเอ่ยตอบ
“ ไอ้ซ้อมน่ะ..ซ้อมได้ ”
“ แต่ว่า...ก็อยากให้ดูตอนซ้อม ว่า smooth สมใจมึงมั้ย ? แค่นั้นล่ะค้าบ ไอ้หัวหน้า! ”
กฤตพึ่งจะสังเกตว่ามีคนอีกคน ยืนทางด้านหลังเพื่อน จึงเอ่ยถาม
“ อ้าว...น้องณัฐมาแล้วเหรอ ไปไหนมาอ่ะ ? ”
“ เรียนฟิสิกส์อยู่ครับ เลยมาช้า...ขอโทษด้วยนะครับ ”
“ อ่ะ..ไม่เป็นไรๆ เพื่อนคนอื่นที่เรียนก็พึ่งทะยอยมาเหมือนกัน ” พี่กฤตโบ้ยมือ
“ งั้นไปซ้อมกับเพื่อนทางนู้นเลยนะ เดี๋ยวจะได้เริ่มซ้อมตั้งแต่แรกใหม่ ”
“ ครับ ” ณัฐรับคำ แล้วรีบเดินมาทางกลุ่มปีหนึ่งที่รวมกันอีกทางด้านหนึ่งทันที
******************
ขอบคุณหลายๆ
chatchaann ---- มาต่อเร็วๆแบบนี้ดีจังคะ
สนุกมาก
ชอบสุดๆ
ปาปัวปูกาด้า ---- ขาประจำเลยนะเนี่ย...ดีใจจัง เด๋วจะพยายามทะยอยลงให้ เพราะกำลังจะสอบ เข้าใจอารมณ์คนอ่านจ้า แต่ตอนนี้ปวดหลังมั่กๆ เกี่ยวมั้ยอ่ะ ???
chatchaann ---- รักษาสุขภาพด้วยละกันนะจ๊ะ
ขอให้ทำข้อสอบได้ด้วยล่ะ
ปาปัวปูกาด้า ---- ซาบซึ้ง ๆ ๆ T-T
ความคิดเห็น