ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่สิบ -- ทำได้คนเดียวเท่านั้น !!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.59K
      33
      29 ก.ค. 52

    บทที่สิบ

     
     

                     คาบเรียนสุดท้ายในวันนี้เป็นแล็บวิชาฟิสิกส์ และความพิเศษของคาบนี้คือ กว่าจะเริ่มเรียนก็ห้าโมงเย็น  เขาจะได้ทำการทดลองนานและยังต้องเขียนรายงานการทดลองที่ยากสุดหิน...จึงต้องเลิกเรียนช้ากว่าปกติ กว่าจะทำแล็บเสร็จก็ประมาณหนึ่งทุ่มและกว่าจะเดินทางไปถึงคณะก็คงเพิ่มเวลาเลทเข้าไปอีก  เพราะฉะนั้นวันนี้ที่มีนัดซ้อมแสดงละครในตอนหกโมงเย็น เขาคาดว่าอาจจะได้ไปช้า...สักหน่อย  

                     จะมีผลอะไรต่อกลุ่มมั้ยนะ ? คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ? เดี๋ยวพอเรียนเสร็จแล้วรีบไปทันทีเลย


                    “ ณัฐ...คือว่า  ตรงนี้ทำไมณัฐคำนวณได้ค่านี้ล่ะ  ” 

                    “ แต่เราได้คำตอบแบบนี้ ” เสียงหนึ่งด้านข้างเอ่ยขึ้น


                     ‘ภาคย์’ แล็บเมทวิชาฟิสิกส์ของเขา คนที่มีบุคลิกเหมือนนักกีฬา หน้าตาก็ไม่ได้จัดว่าหล่อเหลา แต่ก็คมเข้มใช้ได้  เท่าที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เปิดเทอม เขาคิดว่าภาคย์เป็นคนดีคนหนึ่ง หัวก็ดีอีกต่างหาก  ได้ข่าวว่าเคยเป็นเด็กฟิสิกส์โอลิมปิกเมื่อตอนม.ปลายมาก่อนด้วย  ตรงข้ามกับเขาที่ค่อนข้างจะไม่ถนัดวิชาคำนวณสักเท่าไหร่  เขาจึงโชคดีที่เวลาสงสัยอะไรก็สามารถถามเพื่อนคนนี้ได้  มันจะสามารถตอบข้อข้องใจได้ทุกอย่างเกี่ยวกับฟิสิกส์  แต่ข้อเสียติดอยู่ตรงที่ว่า....มันออกจะชอบหยอกล้อเขาแรงๆตามสไตล์คนตัวโตกว่าแค่นั้นแหละ


                     “ ทำไมเหรอ ? ” ณัฐมองดูกระดาษที่เขียนรายงาน

                     แล้วภาคย์ก็เริ่มคำนวณจุดที่สงสัยให้ดูทีละขั้นตอน แล้วเขาจึงได้รู้ว่าทำไม


                     “ อ๋อ...เราใช้สูตรผิดเอง ฮ่า ๆ ” ณัฐกล่าวพลางหัวเราะ

                    “ ณัฐ นี่น้า...ถ้าเราไม่ลองตรวจทานของณัฐดู   ก็คงจะส่งไปแบบนี้เลยใช่มั้ยเนี่ย ? ”

                    “ ขอขอบพระคุณมากครับที่กรุณา ” ณัฐกล่าวประชดเพื่อน


                    “ งั้นรีบแก้นะ  เดี๋ยวจะเอาไปส่งให้ ” ภาคย์กล่าวพร้อมกับไปตรวจทานข้ออื่นๆของตัวเองต่อไป


                    ภาคย์เป็นคนดีอย่างนี้เสมอ ถึงจะเป็นคนเก่งแค่ไหน แต่ว่าก็ไม่เคยมีนิสัยเห็นแก่ตัว ซ้ำยังพยายามช่วยเหลือเพื่อนอย่างเช่นเขาตลอด เขารู้สึกซาบซึ้งน้ำใจเพื่อนคนนี้จริงๆ


                    การทดลองในครั้งนี้ยากกว่าที่เขาคิด จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องมาแก้ไขข้อที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังต้องมาตรวจทานข้ออื่นอีกรอบ  กว่าจะได้ส่งก็ปาเข้าไปประมาณ ทุ่มกว่าๆ เขากับภาคย์ส่งเกือบเป็นคู่สุดท้าย แล้วรีบลงมาจากห้องเรียนทันที เพราะนี่มันก็มืดมากแล้ว  เฮ้อ...แล้วยังต้องรีบไปซ้อมละครที่คณะอีก



                   “ ณัฐได้ทำอะไรในงาน present เหรอ ? ” ภาคย์ถามขึ้นขณะที่เดินลงมาจากตึกแล้ว


                   “ แสดงละคร  ”


                   “ จริงดิ ”

                  “ เราได้เต้นแหละ ถึงจะไม่ค่อยถนัด แต่ก็ชอบนะ ”

                  “ เพราะได้เต้นแนวผู้ชาย  ท่าเต้นมันเท่มากเลยล่ะ  ”


                   ภาคย์ได้เต้นงั้นเหรอ ? อยากเห็นมันเต้นจังแฮะ จะตลกไหมหว่า ?


                  แต่พอกลับมาคิดถึงสถานะตัวเอง...ฝ่ายนั้นต่างหากที่จะต้องตลกเขาเสียเอง

                 “ เฮ้อ....ของเราอย่าให้พูดเลย ” ณัฐพูดเสียงเอื่อย


                 “ แล้วณัฐได้แสดงเป็นอะไรล่ะ? ”

     
                “ แสดงเป็น..... ”

                “  ....ผู้หญิง  ” ณัฐบอกพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น


     
                 “ ฮ่า ๆ ๆ ๆ  ” ภาคย์หัวเราะ แล้วเอาแขนอันแข็งแรงมาโอบคอเขาไว้ อย่างที่เคยทำ


                 “ ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ”


                 “ ใครกันน้า...ที่ให้เพื่อนคนนี้ไปเป็นผู้หญิง ” ภาคย์ถามเสียงลอย


                 ก็พี่สนน่ะสิ !! ณัฐคิดในใจ
     

                “ ...เหมาะจริงๆเลย...  ” ภาคย์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

                 หา !! 

                 “ เหมาะตรงไหน ” ณัฐพยายามยกแขนอันแข็งแรงนั้นออกจากคอ แต่ก็ไม่เป็นผล


                 “ งั้นเดี๋ยวมาซ้อมบทกันมั้ย ? ” ภาคย์เอ่ยแซวขึ้น พร้อมกับเอามืออีกข้างมากอดคอเขาไว้แน่น

                 “ ซ้อมบทอะไร ไอ้บ้า ! ” ณัฐพยายามขัดขืน  เพื่อนคนนี้ชอบเล่นแบบนี้เป็นประจำ เขาจึงไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่

                 “ ในบทมีเลิฟซีนมั้ย ? ” คำถามที่ชวนให้ร่างเพรียวถึงกับตะลึง


                  “ ไม่มีว้อย ! เลิกเล่นได้แล้ว ” ณัฐชักจะรู้สึกแปลกๆ  ปกติมันจะแค่หยอกเขาพอขำๆ แต่คราวนี้ทำไมต้องทำหน้าจริงจัง แล้วยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างนี้ด้วยวะ




                 

                   ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งตะโกนมาจากทางด้านหลัง

                   “ ณัฐ !! ”



                   เอ๊ะ !? ...ใคร....เสียงคุ้นๆ




                    ณัฐพยายามหันหน้ามาอย่างยากลำบากเพราะท่อนแขนของเพื่อน เขาหันไปเห็นร่างสูงที่ตอนนี้ยืนกอดอกอยู่ข้างรถBMWสีขาวคู่ใจ


                     อ้าว..พี่สนมาทำอะไรล่ะเนี่ย !



                     ตอนนี้ภาคย์ปล่อยแขนข้างหนึ่งจากเขาแล้ว แต่ข้างหนึ่งเนี่ยสิ  ยังติดหนึบอยู่ที่คอ..ไม่ยอมปล่อยเสียที


                      เพราะความมืด ณัฐจึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ได้ แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้...เขาจึงได้รู้ว่าพี่สนมีสีหน้า...บึ้งตึง..ราวกับโกรธใครมาอย่างนั้นแหละ?

                      ...ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี่ย...?


                     เมื่อรุ่นพี่เดินมาถึงตัวก็เอาแต่ยืนจ้องหน้าเขาและเพื่อนสลับกันไปมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

                     ทำไมต้องมองอย่างกับเขาทำอะไรผิดงั้นแหละ



                    “ ณัฐ...มานี่ !!  ” ร่างสูงส่งสายตาอาฆาตให้อีกคน  และดึงแขนเขาไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ายนั้นกึ่งลากกึ่งจูงเขาไปจนถึงรถ แล้วผลักเขาเข้าประตูทันที


                    “ พี่...มาทำอะไรที่นี่ ! โอ๊ย...เจ็บแขนชะมัดเลย ” ณัฐละล่ำละลักถาม พร้อมกับลูบแขนตัวเองป้อยๆ


                   เมื่อกี้พี่สนลากเขาออกมาโดยที่ไม่ได้บอกภาคย์สักคำ...เพื่อนมันจะโกรธมั้ยนะ ?



                   พี่สนไม่พูดอะไร...แต่ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

               
                  “ พี่จะไปไหน ? ”


                  “ ................  ”


                 “ พี่ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ ? ”



                   เขาเริ่มจะอารมณ์เสียนิดๆแล้ว พี่สนอยู่ดีๆก็มาฉุดกระชากลากถูเขาออกมาจากเพื่อนโดยที่ไม่ได้ล่ำลากันด้วยซ้ำ  และตอนนี้ยังขับรถพาเขาออกมาโดยที่ไม่ยอมพูดจาอะไรอีก ถ้าโกรธใครมาก็อย่ามาลงกับเขาสิ...เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย




                   ทันใดนั้นสนก็เลี้ยวซ้ายชิดข้างทางและเหยียบเบรกกะทันหัน จนร่างเพรียวเอนตัวไปทางด้านหน้าจนหัวเกือบโขก



                   “ พี่ทำอะ..ระ...! ” ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค ก็ถูกร่างสูงประกบจูบปากเข้าเสียก่อน!!



                   เขาพึ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิด กลับต้องมาตกตะลึงกับเหตุการณ์ฉกจูบต่อ ตอนนี้พี่สนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มือทั้งสองข้างประคองหน้าเขาไว้ แล้วกระหน่ำจูบอย่างไม่ลดละ  ริมฝีปากบดขยี้เบียดชิด  ลิ้นนั้นก็ไล้เลียตวัดไปทั่ว ตั้งแต่ริมฝีปากอ่อมนุ่ม จนรุกล้ำเข้าไปภายใน พยายามซอกซอนจนทั่วทุกมุมของโพรงปาก จนทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก เรี่ยวแรงของเขาที่เคยมีก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด


                     จากจูบแบบหนักหน่วงก็ถูกผ่อนจังหวะลง  กลายเป็นจูบที่นุ่มนวลและบางเบาราวกับทะนุถนอม  รสสัมผัสนั้นทำให้เขาเสียววาบไปทั้งร่าง  แต่ละจังหวะทำให้เขาหลงเคลิบเคลิ้มจนต้องพริ้มหลับตาลง  ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของพี่สนยังคงดื่มด่ำไม่ยอมหยุด  ไออุ่นร้อนจากลมหายใจรดลงที่แก้มขาวจนทำให้เขารู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งตัว   


                     นานทีเดียว...กว่าเขาจะได้สติ


                      ณัฐผลักร่างสูงออก!



                       พี่สน.....ทำไมถึง....จูบเก่งอย่างนี้นะ  บทจะหนักหน่วงก็เร้าใจ บทจะนุ่มนวลก็ทำให้เขาทั้งตื่นเต้น ทั้งเคลิบเคลิ้มจนยากที่จะขัดขืนได้


                      แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมสักหน่อย !   ณัฐบอกกับตัวเองในใจ




                     “ พี่เป็นอะไร ? ”  

                     ถามออกไปก็พลันรู้สึกแปลกใจตัวเอง  แทนที่จะถามว่า ‘พี่ทำอะไร?’ แต่กลับถามว่า ‘พี่เป็นอะไร ? ’ นี่เขารู้สึกคุ้นเคยกับการจูบของพี่สนไปแล้วเหรอ ?!



                      แต่พี่สนยังคงจ้องมองตาเขาไม่ยอมหยุด...

                      ทำไมถึงมองด้วยสายตาแบบนี้นะ ?


                      “ ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นมาทำแบบนั้น! ” ร่างสูงเริ่มเอ่ยเป็นประโยคแรก


                      “ ใคร...ทำแบบไหน ? ”  เขางงเหลือเกิน เขาปล่อยให้ใครทำอะไรงั้นเหรอ ?


                      “ มันทำท่าจะจูบอยู่แล้ว...หรือจะรอให้มันจูบก่อนงั้นเหรอ ? ” ร่างสูงตวาด


                      ณัฐนึกทวนคำพูดพี่สน   ...ทำท่าจะจูบ...

                     หรือ ‘มัน’ ที่ว่า  จะเป็นภาคย์ที่หยอกกับเขาเล่นเมื่อกี้



                    “ ภาคย์น่ะเหรอ ?  ไม่ใช่สักหน่อย  แค่หยอกกันเล่นเฉยๆ ”

                      ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่นี่  โกรธเขางั้นเหรอ ?  แล้วยังมาโกรธด้วยเรื่อง...แค่หยอกเล่นกับเพื่อนนี่นะ ? 



                    “ ผมไม่เข้าใจว่า...ทำไม...พี่ต้องโกรธด้วย ? ” เขาไม่เข้าใจจริงๆ


                     แต่พี่สนไม่ได้สนใจที่เขาพูดด้วยซ้ำ
      
                     ร่างสูงทำหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเก่า   “ ปกติเล่นกันแบบนี้เหรอ ? ”



                     ทำไมน้ำเสียงถึงฟังดูอึมครึมน่ากลัวแบบนี้นะ

                     ก็แค่เพื่อนสองคนหยอกเล่นกัน มันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่นี่นา...พี่สนกำลังโกรธอะไรกันเนี่ย ?



                    “ ก็หยอกเล่นกันธรรมดาแหละครับ ไม่มีอะไร ” แต่ยิ่งพูดก็เหมือนรุ่นพี่จะโกรธมากขึ้น


                    “ แล้วก็ยืนนิ่งปล่อยให้มันทำไปงั้นสิ   จะทำอะไร...หัดระวังตัวบ้าง ! ”


                    “ ถ้าวันนี้พี่ไม่มายืนรอรับ  จะเกิดอะไรต่อไปก็ไม่รู้ ”



                     เขาได้ยินไม่ผิดไปใช่มั้ย ?
     


                    “ พี่.....มารับผมเหรอ ? ”


                    ร่างสูงเบือนหน้าพร้อมกับเร่งเครื่องยนต์เพื่อให้รถออกตัว



                    “ ก็เห็นว่าไม่มาสักที พอถามน้องคนอื่นถึงรู้ว่าปีหนึ่ง sec2 เรียนฟิสิกส์กันอยู่ ”


                    “ แล้วก็เลยมารับ......ถึงคณะวิทย์.....งั้นเหรอ ? ”



                     แต่ร่างสูงไม่ตอบ...

                     พี่สนมารอรับเขา?  มาถึงคณะวิทยาศาสตร์ที่อยู่ไกลจากคณะแพทย์พอสมควร  แล้วยังต้องมายืนรอมืดๆคนเดียวอีก



                     พี่สนทำแบบนี้ทำไม ?


                     “ แล้วทำไมพี่ถึงต้องมารับด้วยล่ะ?  ผมไม่เบี้ยวซ้อมหรอกน่า ” ณัฐเบี่ยงเบนประเด็น

                     แต่....แค่รู้ว่าพี่สนมารอรับ...ก็พาลให้รู้สึก...ดีใจลึกๆ


                     “ ถ้าไม่มา....แล้วจะได้เห็นอะไรดีๆเหรอ ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา


                    “ พี่....กำลังโกรธ ผมอยู่งั้นเหรอ ? ” ร่างเพรียวถาม


                   “ ใช่...โกรธมาก !  ไอ้เราก็นึกเป็นห่วง...เห็นว่าเลิกเรียนดึก ก็เลยจะมารับ  ที่ต้องยืนคอยนานเพราะเลิกช้ายังพอทน...”


                    บอกว่า...เป็นห่วงเรางั้นเหรอ ?

                    เมื่อณัฐลองนึกภาพตาม ก็ทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมา...พี่สนต้องมาคอยนานแค่ไหน ?

                    ก็...ใครจะไปรู้ล่ะว่ามายืนรอ ?!



                    “ ...แต่พอเห็นเดินจู๋จี๋กันมากับไอ้หน้าปลาจวดนั่น บอกตรงๆ...รับไม่ได้ ! ” ร่างสูงสบถออกมายาวเหยียด


                    สรุปว่า...โกรธเขาเรื่องที่เดิน ‘จู๋จี๋’ มากับภาคย์งั้นเหรอ ?


                   “ ไม่ได้...เดินจู๋จี๋...กันสักหน่อย ” ณัฐปฏิเสธ  

                    พลันคิดว่า...แล้วทำไมเขาต้องพยายามปฏิเสธเพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นเข้าใจผิดด้วยล่ะเนี่ย..


                    “ อีกอย่างนะ..เพื่อนผมชื่อ ‘ภาคย์’  ไม่ได้ชื่อ ‘ไอ้หน้าปลาจวด’! ” 

                    ตั้งแต่เขาได้ยินพี่สนเรียกชื่อนี้ ก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา  ถ้าภาคย์รู้เข้า...คงจะโกรธแน่ๆ



                    “ ต่อไป....ห้ามให้ใครมาทำแบบนี้อีก...เข้าใจมั้ย ? ”  สนเอ่ยเสียงเด็ดขาด


                    “ ทำอะไร ? ”

     

                    “ ถูกเนื้อต้องตัว...ลามปาม...หรือแม้กระทั่ง ใช้สายตามองแบบโลมเลีย ” สนร่าวยาว


                    “ ทำไมล่ะ ? ”  แต่ละอันที่พูดมาแปลกๆทั้งนั้น...แล้วใครจะมาทำกับเขาแบบนั้นกัน



                       รถถูกขับเข้ามาภายในคณะแพทย์ และถูกจอดเข้าช่องจอดอย่างรวดเร็วพอดี


                       แล้วร่างสูงก็หันมามองด้วยสายตาจริงจัง



                       “ เพราะพี่ทำได้แค่คนเดียว !! ”








                         ได้ยินดังนั้น...ร่างเพรียวก็หน้าแดงวาบขึ้นมาทันที ....แต่เพราะความมืดฝ่ายนั้นจึงไม่ทันได้สังเกตเห็น


                        ...พี่สนพูดบ้าอะไรเนี่ย...?




                      “ เข้าใจมั้ย ? ”


                      “ ................ ” ร่างเพรียวไม่กล้าตอบ


                      “ เข้าใจมั้ย ?! ” ร่างสูงเอ่ยเสียงดัง



                     “ ไม่เข้าใจ....”

                     “  ...สักนิด ”  ร่างเพรียวตอบเสียงเบา




                     แต่ร่างสูงกลับมาประคองหน้าเขาไว้ พร้อมกับมองด้วยสายตาที่อ่อนโยนกว่าเดิม



                     “ แค่รู้ไว้ก็พอ...ว่าพี่ไม่อยากเห็นณัฐใกล้ชิดกับใคร...มากไปกว่าพี่ ”



         
        ******************

                            เมื่อเดินลงมาจากรถ พี่สนจูงมือเขาไม่ยอมห่าง  เพราะระยะทางระหว่างที่จอดรถและตึกเรียนไกลกันพอสมควร ซ้ำยังมืดสลัว มีเพียงแค่แสงไฟสีส้มที่สาดส่องเข้ามาบางๆแค่นั้น จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า


                            มือใหญ่ของฝ่ายนั้นเกาะกุมมือเขาไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้อยู่ห่างกาย  ซ้ำยังมีสัมผัสที่อบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามา  ทำให้เขารู้สึกว่า ....ไม่อยากปล่อยมือไป..เช่นกัน..


                            ตอนนี้เขาจึงได้แต่...ยอมให้ร่างสูงจูงมือเดินไป โดยที่.....ไม่ได้ขัดขืนอะไร

     
                            ณัฐมองร่างข้างหน้าที่กุมมือเขาไว้แน่น ....วันนี้พี่สน... บอกว่า ‘เป็นห่วง’
     

                            แล้วยังทำท่าทางอย่างกับ ‘หึง’  เขากับภาคย์งั้นแหละ..?
     

                            เมื่อคิดได้ดังนั้น...ก็รู้สึก...ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
     

                           คนๆนี้ ชักจะทำให้หัวใจของเขา เต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นทุกวัน

                           ...แย่จัง...




                            เมื่อทั้งสองเริ่มเดินมาจะถึงตัวอาคาร เสียงคนเจี๊ยวจ๊าวดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน แสงไฟเริ่มกระจ่างชัดเจนขึ้น  ณัฐจึงรีบดึงมือออกทันที

                          ร่างสูงก็ไม่ได้มีทีท่าอะไร


                           เมื่อเดินเข้ามาถึงตัวอาคาร ก็พบว่ามีผู้คนมากมาย ทั้งน้องปีหนึ่ง ทั้งรุ่นพี่ปีสาม กำลังจัดเตรียมการแสดงอยู่ทุกมุมของลานกว้าง  บางกลุ่มก็อยู่มุมนั้น บางกลุ่มก็ซ้อมในห้อง โดยที่ไม่ได้มาก้าวก่ายกันแม้แต่น้อย

                           สนเดินนำเพื่อมุ่งตรงไปยังลานโปร่งที่อยู่อีกชั้นทันที


                           เมื่อเดินเข้าไปใกล้ รุ่นพี่คนหนึ่งที่เขา จำได้ว่าชื่อ ‘กฤต’ ก็เอ่ยทักขึ้น

                         “ ไอ้เชี่ย ! ไหนมึงบอกว่าจะไปกินข้าวแป๊บเดียวไง  นี่ปาเข้าไปสองชั่วโมง กูนึกว่ามึงไปกินอยู่เซี่ยงไฮ้ ” เพื่อนสนิทของสนเอ่ยขึ้น

                         “ ไม่มีกูแค่คนเดียว...อย่าบอกนะ ว่าซ้อมไม่ได้  ” สนเอ่ยตอบ


                         “ ไอ้ซ้อมน่ะ..ซ้อมได้ ”

                        “ แต่ว่า...ก็อยากให้ดูตอนซ้อม ว่า smooth สมใจมึงมั้ย ? แค่นั้นล่ะค้าบ  ไอ้หัวหน้า! ”



                        กฤตพึ่งจะสังเกตว่ามีคนอีกคน ยืนทางด้านหลังเพื่อน จึงเอ่ยถาม

                       “ อ้าว...น้องณัฐมาแล้วเหรอ  ไปไหนมาอ่ะ ?  ”
      
                       “ เรียนฟิสิกส์อยู่ครับ เลยมาช้า...ขอโทษด้วยนะครับ ”


                     “ อ่ะ..ไม่เป็นไรๆ เพื่อนคนอื่นที่เรียนก็พึ่งทะยอยมาเหมือนกัน ” พี่กฤตโบ้ยมือ  

                    “ งั้นไปซ้อมกับเพื่อนทางนู้นเลยนะ เดี๋ยวจะได้เริ่มซ้อมตั้งแต่แรกใหม่ ”


                    “ ครับ ” ณัฐรับคำ แล้วรีบเดินมาทางกลุ่มปีหนึ่งที่รวมกันอีกทางด้านหนึ่งทันที

       


       ******************


    ขอบคุณหลายๆ

    chatchaann   ----  มาต่อเร็วๆแบบนี้ดีจังคะ

    สนุกมาก

    ชอบสุดๆ 

    ปาปัวปูกาด้า ---- ขาประจำเลยนะเนี่ย...ดีใจจัง   เด๋วจะพยายามทะยอยลงให้ เพราะกำลังจะสอบ เข้าใจอารมณ์คนอ่านจ้า  แต่ตอนนี้ปวดหลังมั่กๆ เกี่ยวมั้ยอ่ะ ???


    chatchaann ----  รักษาสุขภาพด้วยละกันนะจ๊ะ

    ขอให้ทำข้อสอบได้ด้วยล่ะ

    ปาปัวปูกาด้า ---- ซาบซึ้ง ๆ ๆ T-T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×