คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่แปด -- หวั่นไหว
บทที่แปด
วันนี้อากาศดีอีกแล้ว... เขาไม่ได้มาที่นี่มานานพอสมควร เพราะช่วงที่ผ่านมาต้องอ่านหนังสือสอบ จึงพยายามตัดใจไม่เถลไถลไปที่ไหน
ขณะที่ฟังเพลงเดินทอดน่องมายังบริเวณที่คุ้นเคย...ก็พลันไปเห็นม้านั่งตัวเดิมที่เขาเคยจับจองเป็นเจ้าของ แต่....ตอนนี้ได้กลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว !
อะไรกัน...ทั้งๆที่ตรงนี้คนไม่ค่อยพลุกพล่านสักหน่อย ยังหาที่ตรงนี้เจออีก ใครกันนะ..?
เขาพยายามสังเกตคนนั้นจากทางด้านหลัง และเดินก้าวเข้าไป
...อะไรจะบังเอิญปานนั้น !!
วันหนึ่งเจอกันตั้งสองรอบ เจอบ่อยได้อีกนะเนี่ย...! เขาคิดในใจ...
ณัฐตั้งใจว่าจะก้าวถอยหลังเพื่อเดินไปทิศตรงข้าม แต่แล้วก็ต้องหมุนตัวหันกลับมาใหม่
ทำไมเหมือนว่าเรากำลังหนีอยู่นะ... เราไม่ได้กลัวสักหน่อย
ทำตัวให้เป็นปกติ..เหมือนที่ผ่านมาสิ
ม้านั่งก็ออกจะยาว.....นี่นา !?
ณัฐภัทรตัดสินใจก้าวเท้าไปยังทิศทางนั้นอย่างเงียบเสียง แล้วนั่งลงที่ม้านั่งฝั่งที่เหลืออีกด้านหนึ่งทันที...
ร่างสูงเห็นดังนั้น ก็หันหน้ามามอง แล้วทันใดนั้นก็เผยยิ้มกว้าง
“ เราเจอกันบ่อยจังเลยนะ ” สน ทักด้วยท่าทีเป็นมิตร
“ ........... ”
“ มาที่นี่บ่อยเหรอ ? ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอีกครั้ง
“ ........... ”
ตอนนี้เขารู้สึก...แปลกๆชอบกล
ตั้งใจมานั่งกับเขาแท้ๆ แต่พอรุ่นพี่ถาม ...กลับไม่ยอมพูดด้วย... บ้าจริงๆเลยเรา
“ นี่..! เป็นใบ้รึไง ” รุ่นพี่เริ่มจะอารมณ์เสียเล็กน้อย
“ ผมไม่ได้เป็นใบ้สักหน่อย ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยไม่ได้หันไปมอง แล้วหันไปวุ่นอยู่กับการเอาแผ่นเฟรมออกจากกระเป๋าแทน
สนเปลี่ยนเป็นนั่งกอดอก เอนหลังพิงม้านั่ง
“ ถามอะไรก็เอาแต่เงียบ คุยกับพี่แทบจะถามคำตอบคำด้วยซ้ำ ทำยังกับคนไม่รู้จักกันงั้นแหละ ” ร่างสูงสบถ
ก็ไม่รู้จักจริงๆนี่นา...เขารู้จักข้อมูลของพี่สนมาจากเพื่อนของเขาล้วนๆ ...อีกอย่างพี่สนก็ไม่รู้จักเค้าสักหน่อย ก็แค่เคยคุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง...และก็เคย ‘จูบ’ ครั้งหนึ่ง... แค่นั้นเอง
แล้วทำไมเราต้องคิดเรื่องนี้อีกแล้วเนี่ย...ไหนว่าจะลืมไง ?!
“ โกรธพี่เรื่องนั้นเหรอ ? ”
เขาหันหน้าไปมองรุ่นพี่อย่างรวดเร็ว
“ ไม่ใช่สักหน่อย ลืมไปตั้งนานแล้ว !! ”
แล้วร่างสูงก็หัวเราะร่วน “ ยังไม่ได้บอกเลยว่าเรื่องอะไร รีบตอบเลยนะ ”
ตอนนี้เขารู้สึกอายแทน....
บ้าเอย ! ทำไมเราต้องร้อนตัวด้วยนะ
“ แสดงว่าโกรธจริงๆด้วย ” ร่างสูงเผยยิ้มอย่างพอใจ
แล้วพี่สนก็หันหน้าเข้ามาใกล้
“ ไม่เคยถูกผู้ชายจูบเหรอ ? ” สนถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
ณัฐเบือนหน้าไปทางอื่น “ อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย... ” ประโยคนี้เขาเปลี่ยนเป็นพูดเบาๆกับตัวเองแทน
“ หา ! ” สนอุทานเสียงดัง
ตายละ...เขาเผลอพูดออกมาเบาๆ ดันมาหูดีได้ยินอีก น่าอายชะมัด...
ทั้งที่เป็นหนุ่มมหาลัยแล้วแท้ๆ แต่ยังไม่เคยจูบ มันก็สมควรอายอยู่หรอก
ใช่สิ...ใครจะไปช่ำชองเชี่ยวชาญเท่าพี่ล่ะ !
ตอนนี้ร่างสูงเปลี่ยนมาจ้องเขาทางด้านข้างอย่างเอาเป็นเอาตายแทน...
“ ยังไม่เคยจูบกับใครมาก่อน..แม้กระทั่งผู้หญิง เหรอ ? ” สนทำหน้ายังกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็น..ยิ้มกว้างอย่างพอใจ..
เออ..! ไม่ต้องถามซ้ำก็ได้ จะตอกย้ำกันไปไหน ?
ก็คนมันไม่เคยมีแฟนนี่นา...
อยากจะเยาะเย้ยอะไรก็เชิญ...เขาพลาดเอง ที่ทำให้ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เสือผู้หญิง’ อย่างพี่สนรู้เรื่องนี้เข้า...
แต่แล้วกลับได้ยินว่า...
“ ดีใจจัง ”
“ นี่พี่เป็นจูบแรกของ ‘ณัฐ’เหรอเนี่ย ? ..... ” ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เมื่อกี้เรียกเราว่า ‘ณัฐ’ เหรอ ? เป็นครั้งแรกที่ได้ยินรุ่นพี่เรียกชื่อ แล้ว..ที่บอกว่า ‘ดีใจ’ อะไรนั่นอีก มันอะไรกัน ?
“ แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ พี่ก็ไม่เคย ‘จูบกับผู้ชาย’ เหมือนกัน ”
“ ณัฐเป็น ‘คนแรก’ ” ร่างสูงพูดด้วยท่าทางสบายพร้อมกับเอนตัวพิงไปด้านหลัง
...ใครจะอยากเป็นผู้ชายที่ได้จูบกับพี่เป็นคนแรกกันล่ะ ไม่เห็นจะน่าดีใจเลยสักนิด....
ตอนนี้เขาทำแค่เพียงนั่งนิ่ง เหมือนกับฟังพี่สนพูดอยู่ฝ่ายเดียว
“ นี่...พูดอะไรกับพี่บ้างดิ ”
“ อย่าเอาแต่เงียบได้มั้ย ? ”
อันที่จริงเขาก็รู้สึกว่า เขาเงียบเกินไปจริงๆน่ะแหละ
แต่.....ถ้าจะให้ชวนคุยน่ะเหรอ...? จะให้ชวนคุย....เรื่องอะไรล่ะ
“ แล้ว.......”
“ ภาพนั้น ทำไมถึงอยากได้ ? ” ในที่สุดก็นึกเรื่องที่จะถามออก แต่พอถามออกไปแล้วเขาเองยังรู้สึกเลยว่าทำไมคำถามของเขามันฟังดูห้วนๆชอบกล
สนหันมามองร่างที่อยู่ ด้านข้าง
ร่างเพรียวรู้สึกว่าพี่สนมองเขาอยู่นาน และไม่ยอมตอบอะไรสักที จึงหันหน้าไปมอง พลันได้สบตากับอีกฝ่ายเข้าพอดี
“ ...ก็มันเป็นภาพที่ ณัฐ วาด... ” เสียงทุ้มตอบพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของร่างเพรียวอย่างมีความหมาย
ณัฐรีบหลบตาอีกฝ่ายโดยเร็ว...
‘เพราะเป็นภาพที่ เราวาด....งั้นเหรอ ?’
ทำไม...อยู่ดีๆ ถึงมาพูดแบบนี้ แล้ว....แล้วยังสายตาแบบนั้นอีก
“ ตอนแรกที่พี่รู้ว่าณัฐจะวาดภาพประกวด พี่ก็แปลกใจเหมือนกัน...อยากจะรู้ว่าจะออกมายังไง ก็เลยอาสาเป็นแบบเอง แต่พอได้เห็นภาพที่ณัฐวาดแล้ว....พี่ก็พูดไม่ออก... ”
“ ยอมรับเลยแหละ ว่า...รู้สึกทึ่ง ”
ณัฐได้ฟังคำพูดของรุ่นพี่แล้วก็ต้องแปลกใจ คนๆนี้กำลังชมเราอยู่งั้นเหรอ ? คนแบบนี้ชมคนอื่นก็เป็นด้วย แต่ก็ยอมรับล่ะนะ ว่าฟังแล้วรู้สึกดี...
...บางทีคนๆนี้อาจจะ...ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้...
“ พี่เลยรู้สึกว่า..โชคดีจัง ที่ให้ณัฐวาดภาพของตัวเอง ”
แต่ฟังแล้ว มันเริ่มจะ...
“ ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าณัฐจะวาดภาพพี่ออกมาได้ ‘หล่อ’ ขนาดนี้ รู้สึกว่า‘เหมือนจริง’มากๆเลย ”
“ ฮ่ะๆ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ขึ้นไปเป็นแบบ ”
นั่นไง !!... คนๆนี้ เชื่อในคำพูดไม่ได้เลย ให้ตายเถอะ ! พูดไปพูดมาก็วกเข้าความหล่อตัวเองซะงั้น...
ร่างเพรียวที่เมื่อครู่หลงดีใจเคลิบเคลิ้มไปกับคำชม ก็ต้องกลับมาหน้าหงิกอีกครั้ง
เมื่อสนเห็นดังนั้นก็กลั้นหัวเราะจนท้องแข็ง พาลคิดไปว่า...
ทำไมน้องคนนี้ถึงน่ารักอย่างนี้นะ....พูดอะไรไปก็เชื่อหมด....ไร้เดียงสาจริงๆเลย มิหนำซ้ำในใจรู้สึกยังไงก็แสดงอารมณ์ออกมาอย่างนั้น ไม่มีปิดบังเลยสักนิด
อย่างนี้มันน่าแกล้งมั้ยล่ะ !
ร่างสูงรีบกลั้นหัวเราะไว้ แล้วกลับมาทำสีหน้าปกติโดยเร็ว
“ ...ณัฐครับ... ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หลังจากที่นึกอะไรสนุกๆออก
“ อะไร ! ” ณัฐตอบแทบจะทันที
ทำไมอยู่ดีๆถึงมาเรียกเขาด้วยคำที่ชวนให้ขนลุกแบบนี้ด้วย
สนขยับกายให้ใกล้มากขึ้น แล้วพูดเบาๆว่า
“ ขอจูบหน่อยได้มั้ย ? ”
ร่างเพรียวได้ยินดังนั้นก็ตกใจ..จนแทบจะตกจากม้านั่ง แล้วหันมาถลึงตาใส่คนที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างอาฆาตและหวาดหวั่นในที เขารีบยกมือขึ้นปิดปากโดยเร็ว !
“ ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย... ” ณัฐพูดอู้อี้
พี่สนคนนี้ชักจะแปลกๆซะแล้ว.....เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ ?
เพราะฉะนั้น เขาต้องทำอะไรสักอย่าง !!
“ ผมไม่ใช่ ‘เกย์ ’ นะ !! ” เขาตะโกนออกไปเสียงดัง
ร่างสูงได้ยินดังนั้น ก็ปล่อยหัวเราะออกมาไม่ยั้ง มือก็กุมท้องตัวเองไว้แน่น
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ”
ร่างเพรียวยังคงปิดปากตัวเองไว้แน่น ตอนนี้เขาทำแค่เพียงกระพริบตาปริบๆมองดูคนด้านข้าง เพราะยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รุ่นพี่หัวเราะอะไร ?! เป็นบ้ารึเปล่า ?
“ พี่ก็ไม่ใช่เกย์ ” ร่างสูงละล่ำละลักตอบ เพราะยังไม่หายจากอาการหัวเราะ
“ ณัฐ คิดว่าพี่เป็นเกย์เหรอ ? ”
ถ้าจะให้พูดจริงๆ เขาเองก็ไม่เคยคิดหรอก ว่าพี่สนเป็นเกย์ ทั้งบุคลิกท่าทาง รวมถึงประวัติที่เกี่ยวพันกับสาวๆ ซ้ำตอนนี้รุ่นพี่ยังมีแฟนแล้ว นั่นก็คือ ผู้หญิง...ที่เห็นในวันนี้ เพราะไม่มีส่วนใดเลยที่จะบอกได้ว่าพี่สนเป็น และถ้าจะให้คิดว่าใครเป็นเกย์ล่ะก็ เขาคงคิดถึงพี่สนเป็นคนสุดท้ายบนโลกอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น...เขาจึงข้องใจ...ว่าพี่สนจะมาทำกับเขาแบบนี้ทำไม ?
“ ก็ผู้ชาย เขาทำกับผู้ชายแบบนี้ซะที่ไหนกัน ? ”
“ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ? ” ร่างสูงทำหน้าไม่ยี่หระ
ทำไมจะทำไม่ได้ งั้นเหรอ ? ถามออกมาได้ไง
“ ก็ ‘ผู้ชายกับผู้ชาย’ ...... พี่ไม่รู้สึกแปลกๆเหรอ ? ” เขาถามพลางหลุบตาต่ำ รู้สึกเหมือนกับ เขากำลัง ว่า พี่สนอยู่เลยแฮะ
ร่างสูงหันมาจ้องตาชายหนุ่ม
“ ถ้ากับคนอื่น...พี่ก็ไม่ทำหรอก ”
“ แต่เพราะเป็น ‘ณัฐ’ ! ”
ร่างเพรียวนั่งนิ่ง..... เพราะเป็น ‘เขา’ งั้นเหรอ ?
มันหมายความว่าไง ??
โอ๊ยยย...ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ !!
ทันใดนั้น หยดน้ำเม็ดเล็กจากด้านบนได้ร่วงตกลงบนใบหน้า ณัฐแหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้า
‘ ฝนตกเหรอ ? ’ ทั้งที่ตอนออกมา ฟ้ายังใสอยู่เลยนี่นา ไม่มีทีท่าว่าจะตกเลยสักนิด...
แต่ไม่นาน หยดน้ำเม็ดเล็กได้กลายร่างเป็นเม็ดใหญ่ และเทลงมาอย่างกระหน่ำราวกับฟ้ารั่วในทันที ร่มไม้ใหญ่ที่พอจะบังฝนได้ กลับโดนสาดกระเซ็นจากทั่วทุกทิศ จนบัดนี้เริ่มจะทำให้ร่างทั้งสองเปียกขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ มีหวังเปียกทั้งตัวแน่...
คิดดังนั้น ณัฐจึงรีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋า แล้วยันตัวลุกขึ้นยืน แต่ก็ถูกมือหนึ่งรั้งไว้เสียก่อน
“ จะไปไหน ? ” ร่างสูงเอ่ยถาม
“ กลับหอ ”
“ แล้วจะกลับไง ? ”
ณัฐได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายแบบงงๆ
นั่นสินะ ! เขาคิดแต่เพียงว่า ถ้านั่งอยู่เฉยๆอย่างนี้ มีหวังเปียกทั้งตัวแน่ แต่กลับลืมคิดไปว่า ถ้าวิ่งกลับ...ก็เปียกทั้งตัวเหมือนกัน ไม่ใช่สิ เปียกกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ลืมคิดไปเลย...
“ แต่...ถ้านั่งอยู่นี่ก็จะเปียกเหมือนกัน ” ณัฐตอบกลับ
ทันใดนั้น ณัฐก็เห็นรุ่นพี่หันไปค้นอะไรบางอย่างทางด้านหนึ่ง
ทั้งๆที่นั่งข้างกันตั้งนาน เขากลับไม่ได้สังเกตเลยว่าพี่สนมีกล่องกระเป๋าสีดำวางไว้ทางด้านข้าง ลักษณะของมันคล้ายกับ..กล่องของ.. ‘กล้องถ่ายรูป’ อย่างนั้นแหละ
พี่สนกำลังพยายามงัดแงะบางอย่างออกมาจากช่องเล็กของกระเป๋า
“ นี่ไง..เจอแล้ว ! ”
ณัฐมองสิ่งที่อยู่ในมือคนตรงหน้า อะไร ?...ก็แค่เศษพลาสติก
“ จำได้ว่าเคยยัดใส่ไว้ตั้งนานแล้ว ” แล้วรุ่นพี่ก็คลี่พลาสติกเล็กๆนั้นออก จนกลายเป็นพลาสติกผืนใหญ่ ที่ดูแล้วมีลักษณะค่อนข้างคล้าย ‘เสื้อกันฝน’
“ ทำไมพี่ถึงมี เสื้อกันฝน อยู่ในกระเป๋ากล้องล่ะ ? ” เขาสงสัยจริงๆ
“ กลัวกล้องเปียก.....มันแพง ” พี่สนหันมายิ้มให้
“ ตัวเก่าก็พังไปเพราะฝนเนี่ยแหละ..เสียดายชิบ ! ” ร่างสูงสบถ
“ ก็เลยเอาเสื้อกันฝนยัดใส่กระเป๋าไว้ เผื่อฉุกเฉินจริงๆจะได้ห่อกันฝนไว้ได้ ”
เป็นวิธีการที่บ้านๆและแปลกประหลาดโดยแท้....ณัฐมองรุ่นพี่แล้วได้แต่คิดในใจ ถึงจะมี เสื้อกันฝน แต่ก็มีแค่ตัวเดียวนี่นา...ซ้ำยังใส่สองคนไม่ได้อีกต่างหาก
เฮ้อ...ยังไงเขาก็ต้องเปียกอยู่ดี !
และทันใดนั้น สนก็ลุกขึ้นยืน ฝ่ายนั้นยื่นกระเป๋ากล้องสีดำใบใหญ่ให้ณัฐถือไว้ แล้วจัดการสวม เสื้อคลุมฝน ให้ร่างเพรียวทันที !
ณัฐได้แต่ยืนงง มองเสื้อคลุมฝน แล้วมองคนตรงหน้า “ แล้ว...พี่ล่ะ ? ”
“ พี่ไม่เป็นไร ” ร่างสูงยิ้มตอบ
“ ดูแลกล้องพี่ให้ดีๆละกัน ” สนจับหมวกที่อยู่ด้านหลังเสื้อคลุม ขึ้นมาปิดศีรษะเขาไว้ แล้วดึงแขนให้นั่งลง
ณัฐหันไปมองรุ่นพี่ “ แต่...พี่ก็จะเปียกนะครับ ”
“ แต่ถ้าพี่วิ่งไปรถ...ที่จอดอยู่ตรงโน้น..ก็เปียกเหมือนกัน ”
“ นั่งตรงนี้แหละ....อีกหน่อยคงหยุดตก ”
แต่ร่างที่อยู่ข้างๆยังคงทำหน้าไม่สบายใจ สนจึงเอ่ยขึ้น
“ พี่ไม่เป็นไรหรอก แค่ตากฝนนิดหน่อย ”
“ ขนาดโดนใครบางคนตบหน้า ยังไม่เป็นไรเลย ” รุ่นพี่พูดพลางยิ้มทะเล้น
“................”
“ ยังมาทำเป็นพูดเล่นอีก ” ณัฐเอ่ยเสียงเบา
ณัฐเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ... ถ้าไม่มีเขา พี่สนก็คงไม่ต้องนั่งตากฝนอย่างนี้
...เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกสักทีน้า...
ผ่านไปประมาณสามสิบนาที...ฝนที่เคยตกลงมาอย่างกระหน่ำ เริ่มจะซาลง จนกลายเป็นเพียงเม็ดปรอยๆ
ส่วนคนด้านข้างเขาน่ะเหรอ...? เปียกสนิท !!
“ สงสัยคงหยุดตกแล้วแหละ ” รุ่นพี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือรองน้ำฝนจากบนฟ้า
ณัฐทำท่าจะถอดเสื้อคลุมฝนออก แต่ร่างสูงก็ห้ามไว้
“ ใส่ไว้ดีกว่า เดี๋ยวโดนละอองฝน ”
“ ก็แค่..ละอองฝนเอง ” ณัฐปฏิเสธ
“ พี่หมายถึง...เดี๋ยว กล้องพี่ จะโดนละอองฝนต่างหาก ! ”
ณัฐเกือบเผลอหลุดยิ้มออกมา บ้าเอ้ย...เปียกทั้งตัว แล้วยังมาทำเป็นเล่นมุขอีก
“ เฮ้อ...ไม่นึกว่าจะเปียกขนาดนี้ รู้งี้วิ่งไปรถดีกว่าเนอะ ” ร่างสูงพูดพร้อมกับจับเสื้อกระพือขึ้นลง
ณัฐเหลือบไปมองสภาพของคนด้านข้าง...
ตอนนี้ทั้งตัวของพี่สนชุ่มไปด้วยน้ำตั้งแต่หัวจรดเท้า...ดูแปลกตามากทีเดียว เพราะใบหน้าขาวใสที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ทั่ว เส้นผมที่เปียกชื้นแต่ถูกเสยขึ้นเบาๆ ส่วนเสื้อตัวบางสีขาวนั้นก็ลู่เข้าไปตามสัดส่วนกำยำของร่างกาย
ณัฐรีบเบือนหน้าหนีจากภาพนั้น...
หวา.... นี่เขากลายเป็นคนโรคจิตไปแล้วเหรอเนี่ย...!
และทันใดนั้น...สนก็หันมาจับมือร่างเพรียวไว้แน่น
“ ไปกันเถอะ ”
แล้วณัฐก็ถูกรุ่นพี่จูงมือเดินออกมาจากร่มไม้ใหญ่ มุ่งไปยังทางด้านหน้าทันที
แต่...ทางนี้ไม่ใช่ทางกลับหอเขานี่นา
“ พี่จะไปไหน ? ” ร่างเพรียวละล่ำละลักถาม
“ ไปที่จอดรถ ”
“ แต่ผม...จะกลับหอ ”
“ เดี๋ยวไปส่ง ” ร่างสูงตอบแค่นั้น
และเขา.....ก็ไม่กล้าโต้แย้งอะไรอีก......
*******************
ความคิดเห็น