ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่สาม -- freshy night 1

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 52


    บทที่สาม


                           ห้องโถงงานเลี้ยงในวันนี้  ผู้คนนับร้อยดูจะคีกคักและมีความสุขเป็นพิเศษ ทุกคนคุยกันเสียงดังจอแจกระจายไปทั่วทุกมุมห้อง  หญิงสาวแต่ละคนแต่งชุดสวยสะพรั่งชวนสะกดให้ผู้พบเห็นใจเต้นไปกับความงามดังดอกไม้แรกแย้ม  ส่วนชายหนุ่มนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า ต่างคนใส่เชิ้ตมีราคาหรือชุดสูทตัวเท่  แลดูมีสง่าราศี  ต่างกับชุดนักศึกษาอันแสนจะธรรมดาที่พวกเขาเคยใส่อยู่ทุกวัน  

                           ภายในงานมีแสง สี เสียงตระการตา  เวทีด้านบนมีเครื่องดนตรีครบชิ้นและลำโพงตัวใหญ่สองฝั่งเตรียมพร้อมสำหรับสร้างความสนุกสนานรื่นเริงในค่ำคืนนี้  ส่วนบริเวณด้านหลังของห้องโถงใหญ่ มีบรรดาอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดที่ตกแต่งอย่างสวยงามถูกวางเรียงรายตามยาวให้เลือกสรรได้ตามใจชอบ


                          วันนี้เป็นงานฉลองสำคัญประจำปีที่หลายคนเฝ้ารอคอย หรืออย่างที่ทุกคนเข้าใจกันดีว่า ‘งานเฟรชชี่’  โดยงานนี้รุ่นพี่ได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่เข้าสู่คณะ  ด้วยการมาสังสรรค์และเฉลิมฉลองร่วมกันทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง   ถึงแม้ว่าจะผ่านการเปิดเทอมไปได้หลายสัปดาห์แล้วก็ตาม แต่บรรยากาศวันนี้ก็ยังชวนให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้น และดูจะแปลกใหม่สำหรับสายตาของน้องปีหนึ่ง


                           “ ฉันหล่อยังวะ ? ”  จัมโบ้ถามขึ้น พร้อมกับจัดแต่งปกเสื้อให้เข้าที่


                          ณัฐมองเพื่อนตัวอ้วนที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่ใคร่จะพิจารณานัก


                         “ หล่อแล้ว  หล่อที่สุดในงานเลย  ”  เขาตอบไปตามอัติโนมัติ  เพราะตั้งแต่ออกจากหอมา เพื่อนตัวดีถามเขาเป็นรอบที่สี่แล้ว


                        “ แกไม่ต้องมาพูดประชดฉันเลย  ก็ฉันไม่มั่นใจนี่หว่า ”


                        “ แต่แพรว่าชุดนี้เหมาะกับจัมโบ้ดีนะ ใส่แล้วดูดีขึ้น ” หญิงสาวร่างเล็กที่ยืนอยู่อีกข้างของเขาเอ่ยขึ้น พร้อมยักคิ้วหนึ่งที


                        “ จริงนะแพร ” เจ้าตัวอ้วนเริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย



                         วันนี้เพื่อนเขาทั้งสองคนดูจะพิถีพิถันกับชุดเป็นพิเศษ  ต่างจากเขาที่แค่หยิบเชิ้ตสีดำที่คิดว่าเป็นงานที่สุดในตู้มา  จัดแต่งทรงผมเสียหน่อย แค่นั้นก็คิดว่าเพียงพอแล้ว 


                         ตอนนี้เขาทั้งสามยืนอยู่บริเวณมุมห้องมุมหนึ่งเพราะมาถึงกันเร็วเกินไป จึงได้แต่ยืนเก้ๆกังๆอยู่อย่างนั้น  ตอนนี้ได้แต่ยืนดูวงดนตรี วงแรก ของค่ำคืนกำลังเล่นอยู่บนเวทีทางด้านหน้า   ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามาในงานกันมากขึ้นแล้ว  เราทั้งสามจึงขยับเข้าไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ดูการแสดงได้ชัดเจนขึ้น


                         หลังจากที่จัมโบ้อาสาไปหยิบอาหารมาให้ ไม่นานเสียงฮือฮาและเสียงกรี๊ดกราดและของผู้หญิงทางด้านหน้าก็ดังขึ้น จึงสังเกตได้ว่าตอนนี้ผู้คนมากมายเข้ามาเต็มห้องโถงแล้ว และมีวงดนตรีวงใหม่ประมาณสี่ห้าคนกำลังเดินขึ้นไปบนเวที เขาพยายามมองหาสาเหตุความตื่นเต้นของผู้หญิงเหล่านั้นโดยมองขึ้นไปบนเวที 



                        ในบรรดานักดนตรีชายทั้งหมดบนเวที เห็นจะมีคนหนึ่งที่โดดเด่นที่สุด..!!




                        ชายคนนั้นอยู่ข้างเวทีใกล้กับฝั่งพวกเขา  ร่างสูงกำลังปรับเสียงกีตาร์สีดำโดยไม่ได้สนใจเสียงร้องเรียกชื่อตนของผู้หญิงทางด้านหน้าด้วยซ้ำ  เมื่อปรับเสียงที่คิดว่าใช้ได้แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมา   ณัฐจึงได้เห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน


                        ชายคนนั้นจัดได้ว่ามีรูปหน้าที่หล่อเหลาและคมเข้ม ทั้งรูปร่างนั้นก็สูงเพรียว หุ่นดี ไกล่กว้างสมชาย  ต่างจากเขาที่ถึงแม้จะสูงพอประมาณ แต่ก็ออกจะผ่ายผอมไปสักหน่อย  ดูด้วยตาแล้ว คนๆนี้คงจะเป็นที่นิยมของบรรดาสาวๆในคณะไม่น้อยเลยทีเดียว  แต่ติดอยู่ที่ท่าทางออกจะเย่อหยิ่งนิดๆเนี่ยสิ


                        ทั้งเสียงตะโกนเรียกชื่อ ทั้งเสียงกรี๊ดยังมีมาไม่ขาดสาย



                        แน่นอน หนึ่งในนั้นรวมถึงหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเขาด้วย  ‘แพร’  นั่นเอง



                       “ แพร...คนนั้นใครเหรอ ? ”  ณัฐถามเพื่อนหญิงผู้ซึ่งพยายามชะเง้อคออย่างสุดกำลัง เพื่อที่จะได้มองเห็นด้านหน้าให้ชัดเจน



                      “ มือกีตาร์ใช่มั้ย ? ” แพรตอบโดยที่สายตายังไม่ละไปจากเวที  เธอทายถูกทั้งๆที่เขายังไม่ได้ถามด้วยซ้ำ



                        ตอนนี้วงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงแล้ว เป็นท่วงทำนองเพลงร็อกสุดฮิตที่กำลังดังในตอนนี้  มือกีตาร์รุ่นพี่คนนั้นกำลังโซโล่กีตาร์ได้อย่างคล่องแคล่ว  นิ้วที่แข็งแรงพริ้วไหวไปตามสายกีตาร์ ยิ่งสะกดคนดูให้จ้องมองไปที่ตัวเขาได้เป็นอย่างดี




                      “ นั่นน่ะ ชื่อ ‘พี่สน’ ”


                      “ เป็นรุ่นพี่ปีสาม ”



                     “ พี่เขา....เอ่อ....ดังมากเลยเหรอ ?   ทำไมถึงพากันสนใจขนาดนั้น ”


                       แพรหันมามองหน้าเขาอย่างรวดเร็ว  ทำตาโตอย่างกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง 
    แล้วสาธยายอย่างรวดเร็วทันที



                      “ พี่สนน่ะนะ  เป็นคนดังมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ”


                       “ คนอะไรไม่รู้  ทั้งหล่อ  ทั้งรวย  เรียนก็เก่ง แถมยังเป็นนักดนตรีอีกต่างหาก เท่สุดยอด เลยใช่มั้ย ? ” แพรอธิบายรวดเร็วแทบไม่ได้หายใจ


                       ณัฐได้แต่แปลกใจ  “ แล้วแพรไปรู้จักเขาได้ไงเนี่ย ?  แถมรู้ซะละเอียดขนาดนั้น ”



                       แพรหันมายิ้มกว้างอย่างภูมิใจ  แล้วเริ่มต้นอธิบายร่าวยาวอีกครั้ง

                       “ พี่สนเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกับแพรสมัยมัธยม  ตอนนั้นก็ดังใช่ย่อยเลยนะ ถือได้ว่าเป็นเพอร์เฟคแมนชนิดที่เรียกได้ว่า หล่อครบสูตร ตัวจริงเลยล่ะ ดังถึงขนาดที่ว่ามีกลุ่มแฟนคลับรุ่นน้องด้วยนะ ”


                        “ และสมาชิกหนึ่งในนั้นก็มีแพรด้วยใช่มั้ย ? ” เขายิ้มล้อเลียนแพร
    เขาคาดการณ์ได้ถูกต้อง  เพราะแพรหันมายิ้มกว้างพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆอย่างภาคภูมิใจ




                        ณัฐฟังแล้วได้แต่หันกลับมามองบุคคลที่พูดถึงบนเวทีอีกครั้ง   แล้วลองคิดเล่นๆว่า
                      
                     ....สิ่งดีดีทุกอย่างจะมารวมกันที่คนๆเดียวขนาดนั้นเลยเหรอ ?    

                         อะไรจะโชคดีปานนั้น...



                       “ แต่เสียอยู่อย่างเดียว... ”  แพรเอ่ยขึ้นช้า ๆ ด้วยสีหน้าไม่เปื้อนยิ้มเหมือนเมื่อครู่  เรียกสติเขากลับมาจากภวังค์


                      “ อะไรเหรอ ? ”



                      “ พี่เขาออกจะ..เอ่อ...”


                      “  เจ้าชู้....ไปสักหน่อย ”  แพรตอบด้วยเสียงที่แทบจะกระซิบ



                      นั่นไง ! เขาเดาไว้อยู่แล้วเชียว  คนที่เพียบพร้อมทุกอย่างขนาดนั้นไม่มีหรอก  ถ้าเจ้าชู้..แล้วจะยังเรียกว่าเพอร์เฟคได้ยังไงกัน  แพรนี่ล่ะก็...

     

                     “ เห็นทีไร ควงสาวไม่ซ้ำหน้ากันเลย และเท่าที่เคยรู้นะ พี่เขาไม่เคยคบใครนานเกิน เอ่อ.. หนึ่งอาทิตย์เลย... ”


                      เขาประหลาดใจไม่น้อย..นั่นไม่ใช่เรื่องของพี่สน  แต่กลับแปลกใจเพื่อนของเขาที่รู้ข้อมูลแน่นเกินคาด  รู้แม้กระทั่งว่า  ใครคบใครไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ด้วยซ้ำ


                      เขาได้แต่นึกหัวเราะเพื่อนในใจ....เป็นสโตรกเกอร์ป่าวเนี่ย ? ความคลั่งไคล้ของพวกผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ   สงสัยแพรคงจะชอบรุ่นพี่คนนี้มากเอาการ




                       แต่แล้ว...เขากลับลองนึกตามคำพูดเมื่อกี้อีกที.....คบใครได้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์

                       หนึ่งอาทิตย์งั้นเหรอ ??

                      ออกจะเป็นเวลาที่น้อยเกินไป ... น้อยมากเลยด้วยซ้ำ


                       แค่หนึ่งอาทิตย์...นั่นมันใช่ความรักแน่เหรอ ?  หรือว่าแค่คบไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้จริงจัง...แค่นั้นเอง




                     “ แต่แพรเข้าใจนะ คนหน้าตาดีก็งี้แหละ คงมีสาวๆเข้ามาหาเรื่อยๆแหละ  จะให้ทำไงได้ล่ะ  เนอะ  ” แพรพูดเข้าข้าง




                     “ ก็งั้นๆแหละ ” มีเสียงแย้งขึ้นจากทางด้านหลัง คนที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตั้งแต่ตอนไหน
    เจ้าจัมโบ้นั่นเอง


                      “ หล่อ รวย แล้วไง  เพอร์เฟค....แต่ไม่จริงใจ ไม่เห็นจะน่าชอบเลยสักนิด ” จัมโบ้กล่าวต่อ



                          แพรรีบแย้งจัมโบ้อย่างรวดเร็วอย่างกับเป็นรุ่นพี่เองยังไงอย่างงั้น 


                         เขาฟังเพื่อนทั้งสองทะเลาะกันต่อ

                         คนหนึ่งก็ออกจะคลั่งไคล้ ดูคล้ายแนวสโตรกเกอร์

                         แต่อีกคนเหมือนจะออกแนวอิจฉาซะมากกว่า... ก็เล่นตรงข้ามกับมันซะทุกอย่างขนาดนั้น



                         เขาได้แต่ส่ายหัวนิดๆไปกับท่าทางของเพื่อนสุดซี้ทั้งคู่

                         แต่ถึงยังไง....สำหรับเขาแล้ว  ก็ไม่เห็นต้องสนใจเลย




                          คนๆนี้ก็...ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย...

       


    ****************

                          ตอนนี้ทุกคนในห้องต่างร้องและกระโดดหรือโยกหัวตามจังหวะเพลง เสียงเพลงก็ดังกระหึ่มจนแทบพูดกันไม่รู้เรื่อง ณัฐภัทรหันซ้ายขวา  ทุกคนดูจะสนุกสนานกันเต็มที่  มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ยังคงยืนนิ่งอยู่  เขารู้สึกอึดอัดจากการโดนเบียดทั้งซ้ายทั้งขวาเหลือเกิน  เหงื่อก็พลันโทรมกายจากอุณหภูมิของฝูงชนที่เพิ่มขึ้น  เขาเริ่มรู้สึกเวียนหัวขึ้นมานิดๆเสียแล้ว


                         ปกติแล้ว เขาไม่ค่อยชอบงานเลี้ยงฉลองสักเท่าไหร่  แล้วยิ่งเป็นสถานที่ที่มีคนเยอะมากมายขนาดนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง  เขาจึงตัดสินใจรีบเดินแทรกกายเบียดผู้คนออกมาทางด้านหลัง ตั้งใจว่าจะนั่งพักและล้างหน้าเสียหน่อย จึงมุ่งตรงไปยังห้องน้ำทันที


                        พอออกมาจากที่อึดอัดคับแคบนั้นแล้วก็รู้สึกดีขึ้น พาลให้รู้สึกว่าไม่อยากเข้าไปในงานอีก ทั้งๆที่เขารู้ดีว่าคงมีกิจกรรมอีกมากมายในค่ำคืนนี้รออยู่


                         ขณะที่เขากำลังล้างมือในห้องน้ำและคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น  เจ้าจัมโบ้ก็เดินเข้ามาด้วยเนื้อตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ


                        “ โห..ไปอาบน้ำมาเหรอ ? ”  ณัฐเอ่ยทัก


                        “ เออ.. คนโคตรเบียดเลยว่ะ  ร้อนก็ร้อน  เลยจะออกมาล้างหน้าหน่อย ” เจ้าตัวอ้วนตอบพลางเช็ดเหงื่อ


                       “ รู้สึกอยากกลับแล้วว่ะ ต่อไปมีอะไรสำคัญรึเปล่า  ถ้าไม่มีกลับกันเถอะ ”  เขารีบเอ่ยชวน


                          เขารู้สึกอยากกลับจริงๆ  ดูท่าแล้วงานคงยังไม่จบง่ายๆ แต่ถึงจะมีกิจกรรมอะไรรออยู่ แค่ขาดเขาไปสักคน คงไม่มีผลกระทบอะไรอยู่แล้ว  สู้กลับไปอาบน้ำแล้วนอนบนเตียงฟังเพลงให้เคลิ้มหลับเล่นเสียยังจะดีกว่า


                         “ เฮ้ย ! จะกลับได้ไงวะ  เพิ่งมาเอง อุตส่าห์แต่งตัวหล่อตั้งนาน อยู่ให้คุ้มหน่อยดิวะ ”


                        “ อีกอย่างนะ...แกยังกลับไม่ได้หรอก ”


                        “ ทำไมวะ ?! ” เขาถามด้วยความงุนงง มีเหตุผลที่จะกลับไม่ได้ด้วยเหรอ มันเป็นงานอิสระนี่นา...



                          “ ก็รายการต่อไป  เป็นการประกวด ”


                          ประกวด..ประกวดอะไรก็ประกวดไปสิ  ยิ่งไม่เกี่ยวกับเขาเข้าไปใหญ่


                          เขาก็ไม่ได้อยากอยู่รอเพื่อรู้ว่าใครจะได้ตำแหน่ง  เพื่อที่จะได้เอาไปเม้าธ์กันในวันรุ่นขึ้นกับกลุ่มเพื่อนเสียหน่อย มันไม่ใช่วิสัยของเขาเลยสักนิด



                         “ ประกวด ‘หนุ่มหล่อ-สาวสวย’ เลยนะเว้ย ”

                         “ และที่ฉันบอกว่าแกยังกลับไม่ได้ เพราะฉันคิดว่า  แกมีสิทธิ์ลุ้นอย่างแรงเลยว่ะ ” เพื่อนตัวอ้วนพูดพร้อมกับยักคิ้วให้เขาหนึ่งที


                    
                            เฮ้อ...นึกว่าอะไร...  

                            เขาไม่เคยใส่ใจเรื่องพรรค์นี้ด้วยซ้ำ


                           “ คงไม่มีหรอก กลับกันเถอะ ” เขาพูดพลางไปหยิบกระดาษมาเช็ดมือ


                           “ ไม่ได้ ! ถึงแกจะไม่ได้เข้าประกวด แต่ฉันก็จะรอดู ‘สาวสวย’ อยู่ดี  เพราะฉะนั้น  แกห้ามกลับ ” ไอ้จัมโบ้ ขู่เขาหนึ่งทีแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป  ทิ้งให้เขายืนเซ็งอยู่คนเดียว


                           เฮ้อ...น่าเบื่อชะมัด

                         ..ถ้ากลับก่อนแล้วอย่ามาโกรธละกัน..




                          ขณะที่กำลังยืนสำรวจตัวเองที่หน้ากระจก ทันใดนั้นประตูห้องน้ำทางด้านหลังก็เปิดออก พร้อมกับที่ใครคนหนึ่งเดินออกมายังอ่างล้างมือตรงตำแหน่งข้างเขา



                          เขาจำใบหน้านี้ได้....ใบหน้าที่เห็นบนเวทีเมื่อครู่


                           ‘พี่สน’  นั่นเอง !!



                          
                           ณัฐภัทร พยายามแอบเหลือบมองร่างสูงนั้นผ่านกระจกกั้น 

                           เขาพิจารณาใบหน้านั้นอีกครั้ง ...  ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้กว่าก่อนหน้านี้มาก


                            เออว่ะ..หล่อจริง  ยอมรับ !

             
                           ‘ไปเป็นดาราได้เลยนะเนี่ย !’  เขาได้แต่คิดในใจ....


                            เพื่อนในโรงเรียนเขาบางคนตอนที่อยู่กรุงเทพ ก็โดนแมวมองทาบทามไปเป็นดารากันหลายคน ทั้งที่คิดว่าหล่อไม่เท่าคนข้างๆเลยด้วยซ้ำ อยากให้แมวมองพวกนั้นมาเห็นรุ่นพี่คนนี้บ้างจัง  ถ้าไปเป็นดาราหรือนายแบบ คงจะดังใช่เล่น


                            เฮ้อ..คนอะไร น่าอิจฉาชะมัด

                            ถ้าเราหุ่นแมนๆ หน้าแมนๆ แบบนี้บ้างก็ดีสินะ...



                            “ งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” เสียงทุ้มหนึ่งเอ่ยขึ้นจากทางด้านข้างตัวเขา


                            “..............”



                               เอ๋...??

                               พูดกับเขาอยู่งั้นเหรอ ??


                               ตอนนี้รุ่นพี่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยซ้ำ


                                แต่ในห้องน้ำนี้ก็ไม่มีใครนี่นา  มีแต่เขากับรุ่นพี่...แค่สองคน


                                หรือว่าคุยโทรศัพท์...

                                เอ..ไม่น่าจะใช่

                                “..........”




                               ณัฐทำตัวไม่ถูก เพราะไม่แน่ใจว่าฝ่ายนั้นคุยกับเขาหรือไม่

                               ตอนนี้เขาจึงได้แต่ยืนนิ่งเงียบ เพราะไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่านี้แล้ว

                               เมื่อณัฐไม่พูดอะไร ร่างสูงนั้นจึงหันมามองหน้าเขาตรงๆ  แล้วณัฐก็ได้สบตากับฝ่ายนั้นอย่างจัง

                            “ พี่ถามว่า...งานน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”  เสียงทุ้มถามซ้ำอีกครั้งพร้อมกับหันมามองหน้าเขา

                           ...ถามเราจริงๆด้วย...


                           “ ก็..ไม่...นี่ครับ ” เขาตอบอย่างละล่ำละลัก

                           ร่างสูงแค่นยิ้มแล้วหันไปพิจารณาใบหน้าของตนในกระจกแทน

                        “ แล้วทำไมตอนดูคอนเสิร์ตถึงยืนนิ่งยังกับต้นไม้ตาย  พวกพี่เล่นกันไม่มันส์เหรอ ?  ”



                          ปกติเขาไม่ใช่พวกชอบงานสังสรรค์อะไรพวกนี้อยู่แล้ว  ถ้าจะให้เต้นๆโยกๆอย่างที่คนอื่นเขาทำกันคงไม่มีวันซะหรอก   ในบรรดากลุ่มคนที่จอแจนั้น เรียกได้ว่าเต้นกันแทบจะเป็นคลื่นเลยทีเดียว   หรือเพราะเขายืนนิ่งๆเลยทำให้เป็นจุดเด่นงั้นเหรอ ?

                          อีกอย่าง  เขายืนเฉยๆคนเดียวซะเมื่อไหร่กัน   คนตั้งเยอะ ระยะก็ไกลขนาดนั้น...มองเห็นได้ไง

                        “ พี่เห็นผม....ด้วยเหรอครับ... ? ”

                       “ ........... ”

                       “ แต่ผม...ไม่ได้ยืนนิ่งเป็นต้นไม้ตายซะหน่อย... ” ณัฐพูดพร้อมกับหลุบตาต่ำ

                      “ ........... ”


                      อยู่ดีๆก็มาว่ากันว่าเป็น ต้นไม้ตาย ซะงั้น  

                      นี่เป็นการทักทายตามปกติของคนที่   ‘ไม่รู้จักกัน’   งั้นเหรอ ? 

                       แปลกคน...




                       ร่างสูงหัวเราะ แล้วหันมามองหน้าเขาอีกครั้ง...แต่....ในระยะที่ใกล้กว่าเดิมมาก

                       พึ่งสังเกตดีดีว่ารุ่นพี่ตัวสูงกว่าเขาพอสมควร  ศีรษะเขาเทียบเท่าแค่ใบหูของพี่สน  จากมุมนี้ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังโดนต้อนยังไงชอบกล
     

                       ..........


                       ..........

                      
                       ในขณะเดียวกัน...

                       ‘สน’...พยายามพิจารณาใบหน้าของร่างเพรียวที่อยู่ตรงข้าม  


                       คนๆนี้...เป็นรุ่นน้องปีหนึ่งงั้นเหรอ ?

                       ผู้ชายอะไร...หน้าสวยกว่าผู้หญิงอีก !

                       ยิ่งดูใกล้ๆ...........ยิ่งสวยแฮะ

                      ...ตาก็กลมโตสีดำ  จมูกโด่งได้รูป  ผิวก็ขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวผู้หญิง 
    แต่ว่า...ปากเล็กอมชมพูที่เผยอน้อยๆนี่...มันน่า..................



                      ‘เฮ้อ...ไม่น่าเป็นผู้ชายเลย’.... เขาได้แต่คิดกับตัวเองในใจ

                      .............

                      .............




                       ฝ่ายณัฐภัทรนั้น  กำลังรู้สึกกระอักกระอ่วนเต็มที่

                       นี่ไม่พอใจเขารึเปล่า ?    ทำไมต้องจ้องเอาๆอย่างนี้ด้วยนะ

                      ...อึดอัดจัง...


                      
                        “  พี่ว่า...น้องเข้าไปในงานต่อเถอะ ”  ในที่สุดร่างสูงก็เอ่ยคำ หลังจากสลัดความคิดที่ฟุ้งซ่านออกไป

                        “ ............. ”

                       “ เพราะน้องน่าจะติดอันดับ ...”

                       “ ............. ”

                       “ แต่เป็นอันดับของ.. ”


                       “ ‘สาวสวย’..นะ ”  ร่างสูงหัวเราะร่วนพร้อมกับเดินจากไปอย่างสบายใจ ทิ้งให้คนเบื้องหลังได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

                       “ ............ ”





                       หา !


                       พี่คนนี้นี่มัน....


                       กวนโมโหชะมัด 



    ****************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×