ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมบทความ สั้นๆ

    ลำดับตอนที่ #13 : ถัยผิวหน้าฝน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 50


    >>>>>>>>ในช่วงหน้าฝนนี้ นอกจากพี่น้องประชาชน จะต้องระมัดระวังโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดนก โรคปอด

    >>>>>>>>>อักเสบ หรือปอดบวม โรคตาแดง โรคมาลาเรีย และอีกสารพัดโรคแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องระวังโรคหรือพิษภัยที่เกิดกับผิว

    >>>>>หนังด้วยเช่น   เดียวกัน 

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

     
    >>>เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนัง บอกว่า ช่วงหน้าฤดูฝนมีน้ำท่วมขังเช่นนี้  มัก

    >>>>>>>>จะพบโรคน้ำกัดเท้า คือการติดเชื้อราที่เท้าได้บ่อย เห็นเป็นผื่นเปียกยุ่ยสีขาวที่ง่ามนิ้วเท้า อาจมีขุยลอกตามฝ่าเท้าร่วม

    >>>>>ด้วย บางครั้งมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้เป็นผื่นแดงและมีน้ำเหลืองไหล
      

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     
    >>>>>..นอกจากนี้ก็ยังพบโรคเท้าเหม็น ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก เห็นเป็นรูพรุนเล็ก ๆ ที่เท้า บางครั้งเห็นเป็นแอ่งเว้า

    >>>>แหว่งตื้น ๆ ที่ฝ่าเท้า มีน้ำเหลืองซึม และเท้ามีกลิ่นเหม็นมาก สังเกตได้ว่าเวลาถอดถุงเท้าจะรู้สึกว่าติดกับฝ่าเท้า

     
    >>>>>>>>การเดินย่ำน้ำเฉอะแฉะยังเสี่ยงต่อการติดโรคพยาธิ ที่พบได้บ่อยคือพยาธิปากขอ  ซึ่งทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และยังทำให้

    >>>>>เกิดโรคฉี่หนู มีอาการเป็นไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือดและถึงแก่กรรมได้ นอกจากนี้การเดินย่ำน้ำก็ยังเสี่ยงต่อ

    >>>การถูกแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น งู ตะขาบ 

     
    >>>>>ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อ ที่อาจถ่ายทอดจากการเดินย่ำน้ำสกปรก จึงควรสวมรองเท้าบู๊ตกันน้ำให้มิดชิด ถ้าจำเป็นต้องใส่

    >>>>>>>ถุงเท้าไปทำงาน ไม่ควรเลือกถุงเท้าที่หนาและคับเกินไป ควรล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำเปล่าจนสะอาดและซับแห้งทุกครั้งที่

    >>>>>เดินย่ำน้ำ  .

     
    >>>>>>>หากอยู่ในเวลาพักผ่อน ควรสวมรองเท้าแตะ เพื่อให้เท้าแห้งจะลดการติดเชื้อราของเท้า ไม่ควรนุ่งกางเกงที่หนา

    >>>>>เช่น
    กางเกงยีน เพราะจะชื้นแฉะง่ายและเกิดการลุกลามของเชื้อราที่เท้ามายังขาหนีบเกิดเป็นโรคสังคังขึ้น อีกทั้งกางเกงยีนยัง

    >>>>>ทำให้เกิดความอับชื้นและเกิดกลิ่นเหม็นของอวัยวะสืบพันธุ์ได้  เพราะตำแหน่งนี้มีต่อมเหงื่อที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวเช่นเดียวกับที่

    >>>>>>>บริเวณรักแร้
     
     >>>>.อันตรายอีกอย่างที่มักพบในช่วงฤดูฝน คือ การโดนแมงกะพรุนไฟ เพราะมีชุกชุมในท้องทะเลไทย โดยเฉพาะหลังมีพายุฝน

    >>>>>>>ฟ้าคะนอง แผลจากการโดนแมงกะพรุนไฟรักษายากมาก และมักทิ้งแผลเป็นไว้ตลอดชีวิต

     
    >>>>>ชาวกรุงเทพฯ หลายคนไม่ทราบถึงอันตรายของแมงกะพรุนไฟ แต่ชาวประมงทราบถึงอันตรายนี้ดีจนถึงขั้นพูดกันว่า ควายยังจม

    >>>>น้ำตายได้ถ้าโดนแมงกะพรุนไฟ ในช่วงหน้าฝนนี้ พบผู้ป่วยที่โดนแมงกะพรุนไฟที่หน้าหรือที่ขาจนเสียโฉมเสมอ โดยเฉพาะในเด็ก

    >>>>>>>ที่เล่นเรือกล้วยหอมแล้วถูกสะบัดให้ตกเรือ 

    >>>>>>>>ดังนั้นหากโดนแมงกะพรุนไฟต้องรีบขึ้นจากน้ำ เพราะอาจแพ้พิษถึงขั้นจมน้ำตายได้ และห้ามใช้น้ำจืดหรือแอลกอฮอล์ราด

    >>>>>>>>>>แผลเพราะกระเปาะพิษจะยิ่งแตก อาจใช้น้ำทะเลล้างแผล แล้วใช้บัตรแข็งขูดกระเปาะพิษออกแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×