คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ถัยผิวหน้าฝน
>>>>>>>>ในช่วงหน้าฝนนี้ นอกจากพี่น้องประชาชน จะต้องระมัดระวังโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดนก โรคปอด
>>>>>>>>>อักเสบ หรือปอดบวม โรคตาแดง โรคมาลาเรีย และอีกสารพัดโรคแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องระวังโรคหรือพิษภัยที่เกิดกับผิว
>>>>>หนังด้วยเช่น เดียวกัน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนัง บอกว่า ช่วงหน้าฤดูฝนมีน้ำท่วมขังเช่นนี้ มัก
>>>>>>>>จะพบโรคน้ำกัดเท้า คือการติดเชื้อราที่เท้าได้บ่อย เห็นเป็นผื่นเปียกยุ่ยสีขาวที่ง่ามนิ้วเท้า อาจมีขุยลอกตามฝ่าเท้าร่วม
>>>>>ด้วย บางครั้งมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้เป็นผื่นแดงและมีน้ำเหลืองไหล
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>..นอกจากนี้ก็ยังพบโรคเท้าเหม็น ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก เห็นเป็นรูพรุนเล็ก ๆ ที่เท้า บางครั้งเห็นเป็นแอ่งเว้า
>>>>แหว่งตื้น ๆ ที่ฝ่าเท้า มีน้ำเหลืองซึม และเท้ามีกลิ่นเหม็นมาก สังเกตได้ว่าเวลาถอดถุงเท้าจะรู้สึกว่าติดกับฝ่าเท้า
>>>>>>>>การเดินย่ำน้ำเฉอะแฉะยังเสี่ยงต่อการติดโรคพยาธิ ที่พบได้บ่อยคือพยาธิปากขอ ซึ่งทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และยังทำให้
>>>>>เกิดโรคฉี่หนู มีอาการเป็นไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือดและถึงแก่กรรมได้ นอกจากนี้การเดินย่ำน้ำก็ยังเสี่ยงต่อ
>>>การถูกแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น งู ตะขาบ
>>>>>ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อ ที่อาจถ่ายทอดจากการเดินย่ำน้ำสกปรก จึงควรสวมรองเท้าบู๊ตกันน้ำให้มิดชิด ถ้าจำเป็นต้องใส่
>>>>>>>ถุงเท้าไปทำงาน ไม่ควรเลือกถุงเท้าที่หนาและคับเกินไป ควรล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำเปล่าจนสะอาดและซับแห้งทุกครั้งที่
>>>>>เดินย่ำน้ำ .
>>>>>>>หากอยู่ในเวลาพักผ่อน ควรสวมรองเท้าแตะ เพื่อให้เท้าแห้งจะลดการติดเชื้อราของเท้า ไม่ควรนุ่งกางเกงที่หนา
>>>>>เช่น กางเกงยีน เพราะจะชื้นแฉะง่ายและเกิดการลุกลามของเชื้อราที่เท้ามายังขาหนีบเกิดเป็นโรคสังคังขึ้น อีกทั้งกางเกงยีนยัง
>>>>>ทำให้เกิดความอับชื้นและเกิดกลิ่นเหม็นของอวัยวะสืบพันธุ์ได้ เพราะตำแหน่งนี้มีต่อมเหงื่อที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวเช่นเดียวกับที่
>>>>>>>บริเวณรักแร้
>>>>.อันตรายอีกอย่างที่มักพบในช่วงฤดูฝน คือ การโดนแมงกะพรุนไฟ เพราะมีชุกชุมในท้องทะเลไทย โดยเฉพาะหลังมีพายุฝน
>>>>>>>ฟ้าคะนอง แผลจากการโดนแมงกะพรุนไฟรักษายากมาก และมักทิ้งแผลเป็นไว้ตลอดชีวิต
>>>>>ชาวกรุงเทพฯ หลายคนไม่ทราบถึงอันตรายของแมงกะพรุนไฟ แต่ชาวประมงทราบถึงอันตรายนี้ดีจนถึงขั้นพูดกันว่า ควายยังจม
>>>>น้ำตายได้ถ้าโดนแมงกะพรุนไฟ ในช่วงหน้าฝนนี้ พบผู้ป่วยที่โดนแมงกะพรุนไฟที่หน้าหรือที่ขาจนเสียโฉมเสมอ โดยเฉพาะในเด็ก
>>>>>>>ที่เล่นเรือกล้วยหอมแล้วถูกสะบัดให้ตกเรือ
>>>>>>>>ดังนั้นหากโดนแมงกะพรุนไฟต้องรีบขึ้นจากน้ำ เพราะอาจแพ้พิษถึงขั้นจมน้ำตายได้ และห้ามใช้น้ำจืดหรือแอลกอฮอล์ราด
>>>>>>>>>>แผลเพราะกระเปาะพิษจะยิ่งแตก อาจใช้น้ำทะเลล้างแผล แล้วใช้บัตรแข็งขูดกระเปาะพิษออกแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที.
ความคิดเห็น