ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Shades of bottom!kris♡ (allkris)

    ลำดับตอนที่ #1 : [♡] 1st shades! - 'smile' shades of hunkris.

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 58


    6 shades of hunkris. - 'Smile'

    pairing - hunkris

    Rate - PG

    Author's Note - ฝานซึนนน

     

     

                สองเรียวขายาวก้าวไปตามทางเดินเชื่อมตึกโดยไม่แม้แต่จะหยุดพักหรือทักทายผู้คน นิ้วยาวสวยดันแว่นสี่เหลี่ยมกรอบดำหนาเตอะดูเชยและล้าสมัยขึ้นไปให้เกาะกับจมูกโด่งเป็นสันของเขาเหมือนเดิม ดวงตากลมดูน่ารักในบางมุมแต่กลับดูคมตามแบบฉบับคนจีนแท้ๆถูกซ่อนเอาไว้ใต้เลนส์หนาเตอะ กวาดสายตาอ่านข้อมูลในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์เกาหลีไปเรื่อยๆ

     

     "ฝานฮยอง!"

     

     เด็กบ้า...

     

     ขาเรียวหยุดนิ่งกับที่ ร่างเซเล็กน้อยเพราะแรงที่มาจากด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว คนที่ถูกเรียกทำเพียงแค่เหลือบตามองบุคคลมาใหม่ก่อนจะเดินก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเหมือนเดิม

     

     

    "อู๋อี้ฝาน! ฝานฮยอง! รอผมก่อนสิครับ!"

     

     

     ไม่ได้ขอให้ตามมานี่ -_-

     

     

    อู๋อี้ฝาน' นักเรียนชั้นเกรด 12 ผู้มีมันสมองเป็นเลิศที่สุดในโรงเรียนคิด ก่อนจะเดินต่อไปยังห้องของตนเองท่ามกลางเสียงซุบซิบจากคนรอบข้างโดยไม่สนใจคนที่วิ่งตามมาติดๆสักนิด ด้วยส่วนสูงที่ไล่เลี่ยกันทำให้ผู้ที่รบกวนการอ่านหนังสือของเขาใช้เวลาไม่นานที่จะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมา อี้ฝานเดินไปที่โต๊ะเรียนโดยมีสายตาของเพื่อนร่วมห้องมองตาม วางกระเป๋าหนักอึ้งลงกับเก้าอี้โต๊ะข้างๆก่อนจะอ่านหนังสือต่อ

     

     

     

     "ฮยองอ่า เดินไม่รอเลยนะครับ"

     

     

     .....จะทำยังไงกับตัวป่วนตัวนี้ดีนะ สอบเก็บคะแนนคาบแรกด้วย -_-.....

     

     

    อา..ดูเหมือนว่าผมจะลืมแนะนำคนที่คอยตามติดผมตลอดวันสินะครับ..โอเค เด็กคนนั้นคนนั้นชื่อโอเซฮุน เกรดสิบ หล่อ เล่นดนตรีได้ เล่นกีฬาเก่ง ชอบกินชานมไข่มุกรสกล้วยและช็อคโกแลต และเป็นบุคคลที่น่ารำคาญที่สุดในโลก -_- (อันแรกคืออันที่สาวๆบรรยายสรรพคุณยาวเหยียดให้ฟัง และอันสุดท้ายคืออันที่ผมเติมเข้าไปเอง) อ้อ และที่สำคัญ..

     

    ทั้งโรงเรียนรู้กันหมดครับ ว่าน้องเขาชอบผม..

     

    ก็เล่นป่าวประกาศในคอนเสริตโรงเรียนขนาดนั้น ไม่รู้ก็แปลกแล้ว -_-

     

     

    'ผมชอบรุ่นพี่อู๋อี้ฝานครับ!!'

     

     อยากถามว่าตอนนายพูดนี่ไม่อายบ้างหรือไง..โอเค สมาธิผมเริ่มหายแล้วเพราะเรื่องบ้าๆนี่ เอาเป็นว่าน้องเขาชอบผมก็แล้วกัน จบนะ -_-

     

     

     "ฮยอง~กินข้าวหรือยังครับ?"

     

     

    โอเซฮุนถือวิสาสะนั่งเก้าอี้ที่ว่างข้างๆเขาโดยไม่ขออนุญาติสักคำ อันที่จริงอู๋อี้ฝานเป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์แย่เข้าขั้นติดลบ เพราะห้องนี้มีสมาชิก 29 คนจึงเหลืออู๋อี้ฝาน..เป็นเศษเหลือหลังห้องนี่แหละ

     

     

    "จะกินหรือยังไม่กิน มันก็เรื่องของฉัน"

     

     รุ่นพี่ตัวสูงตอบเสียงเรียบโดยสายตาไม่ได้ละจากหนังสือเล่มโตตรงหน้าสักนิด

     

     

     "เรื่องของพี่ได้ยังไง ก็ผมเป็นห่วงพี่นี่นา เกิดพี่เป็นลมเพราะไม่ได้กินข้าวเช้าจะทำยังไง =^="

     

     "ก็เรื่องของฉัน"

     

     "ก็ผมเป็นห่วงพี่นี่ครับ!"

     

     ผมชักจะหมดความอดทนกับเด็กบ้าคนนี้จริงๆนะ ให้ตายเถอะ ชาติที่แล้วเกิดเป็นโทรโข่งหรือไง ชาตินี้ถึงได้พูดมากน่ารำคาญไม่หยุดน่ะห้ะ -_-!

     

     "จะนั่งอยู่ตรงนี้ดีๆ หรือจะให้ฉันไล่นายออกไปแบบที่เคยทำ?"

     

     อู๋อี้ฝานกระแทกปกหนังสือปิดลงก่อนจะจ้องเซฮุนตาขวาง โอเซฮุนถึงกับหุบปากฉับ ยอมนั่งเงียบๆมองรุ่นพี่คนโหดอ่านหนังสือแต่โดยดี

     

     สายตาคมของโอเซฮุนผู้เป็นรุ่นน้องนั่งมองอี้ฝานอ่านหนังสือไม่วางตา พลางสำรวจใบหน้าของรุ่นพี่ที่ตัวเองแอบชอบเงียบๆ คิ้วที่ขมวดเข้าหากันเวลาอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ จมูกโด่งรั้นที่รับกับใบหน้าเรียวสวย ริมฝีปากสีชมพูเป็นธรรมชาติที่เขาหวังว่าสักวันจะได้ลิ้มลองมันเม้มเข้าหากันเวลาตั้งใจทำงาน บวกกับสีหน้าและแววตามุ่งมั่นของรุ่นพี่ตัวสูง ทำให้โอเซฮุนหลงรักรุ่นพี่คนนี้ได้ไม่ยากเลย..

     

                “จะจ้องฉันอีกนานมั้ย ?”

     

               

    เสียงเรียบนิ่งของอู๋อี้ฝานปลุกเซฮุนให้ตื่นจากภวังค์ รุ่นน้องตัวสูงมองอี้ฝานยิ้มๆก่อนจะก้มหน้ามองนาฬิกา G-SHOCK ของตนเอง หน้าปัดดิจิตอลแสดงเวลาแปดโมงครึ่ง

     

               

    อ่า...แปดโมงครึ่งแล้ว

     

    ถ้าอย่างนั้น นายก็ควรจะไปเรียน ดีกว่ามานั่งจ้องหน้าฉันเหมือนคนบ้าแบบนี้

     

    ผมคงบ้าจริงๆแหละ บ้ารักพี่ล่ะนะ..”

     

     

    ใบหน้าได้รูปของอี้ฝานขึ้นริ้วสีแดงจางๆที่แก้ม ก่อนจะคว้าสมุดเล่มบางมาตีหัวรุ่นน้องตัวแสบหนึ่งครั้งเบาๆ โทษฐานที่ทำให้เขาเขิน..

     

    เขินงั้นเหรอ ?

     

    บ้าน่า….

     

     

    ไปเรียนได้แล้ว -_-’ ”

     

                “คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

     

     

     

     

     

     

     

                “แล้วอย่าลืมไปทำการบ้านที่ครูสั่งไว้ล่ะ วันนี้พอแค่นี้

     

                เสียงนักเรียนส่งเสียงเซ็งแซ่ดังไปทั่วห้องเกรดสิบสายศิลป์คำนวนที่โอเซฮุนเรียนอยู่ นักเรียนแต่ละคนมีจุดหมายหลังเลิกเรียนแตกต่างกัน บ้างก็นัดกับเพื่อนๆที่เดินเที่ยว บ้างก็ตรงกลับบ้าน บ้างก็ซ้อมกีฬา ซ้อมดนตรี บ้างก็เรียนพิเศษ แต่สำหรับเขาแล้ว

     

                เขาจะไปหารุ่นพี่เจ้าของหัวใจของเขาน่ะสิ !

     

                ร่างสูงกวาดหนังสือและของทั้งหมดลงใต้โต๊ะ คว้ากระเป๋าจาคอบแบนๆตั้งท่าเดินออกไปนอกห้องเรียนตรงไปที่ห้องเกรดสิบสองแผนการเรียนวิทย์คณิตที่อี้ฝานเรียนอยู่ ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับตัวอี้ฝาน เซฮุนรู้หมดแทบจะทุกอย่าง ทั้งที่อยู่ ของกินที่ชอบ หนังเรื่องโปรด สิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่ชอบ .. แต่สิ่งที่เขาไม่เคยรู้เลยก็คือภายใต้ใบ้หน้าอันเรียบนิ่งของอี้ฝานนั้นคิดอะไรอยู่ อี้ฝานไม่เคยแม้แต่จะยิ้มให้เขา หรือแสดงสีหน้าอะไรออกมาให้เขาเห็น จนบางทีก็แอบเหนื่อยที่ต้องเป็นฝ่ายชวนคุยตลอดเวลา..

     

     

    บ่นไปอย่างนั้นแหละ สุดท้ายสองขายาวก็ก้าวไปรอรุ่นพี่ที่หน้าห้องอยู่ดี..

     

     

                “ไอ้เชี่ยฮุน!!!”

               

                เสียงแหบห้าวของคิมจงอินเพื่อนรักของตนไล่ตามมาติดๆ เซฮุนหันหน้าไปมองก่อนจะจุ๊ปากบอกให้เงียบๆ เพราะตอนนี้ห้องเกรดสิบสองยังเรียนหนังสืออยู่ จงอินพยักหน้าก่อนจะเดินเข้ามาคุยกับเซฮุนใกล้ๆ

     

     

                “วันนี้มึงต้องซ้อมดนตรีนะ ไม่งั้นพี่ลู่เอามึงตายแน่

     

                “เหี้ยยยย ไม่เอานะเว้ย กูจะรอพี่อี้ฝาน กูจะรอๆๆๆๆๆๆๆ

     

                คิมจงอินได้แต่ส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้นของเพื่อนตัวขาว ให้ตายสิ ทำไมมันถึงได้ขี้เกียจแบบนี้วะ ไม่เบื่อหรือไงตามติดตูดพี่เขาต้อยๆเหมือนลูกหมาตามเจ้าของ ทั้งๆที่พี่เขาไม่ได้สนใจใยดีอะไรมึงเลย ติดจะรำคาญมึงด้วยซ้ำ -_-

     

                “จะรอพี่อี้ฝานหรือจะติด มผ ชมรมดนตรีของพี่ลู่ มึงเลือกเอานะสัด

     

               

    …..นี่กูแค่ไม่ไปซ้อมวันนี้ คือ มผ เลยเหรอวะ มึงจะโหดสัดไปละนะ ไอ้เจ๊กตีนกา -_-

     

     

                “เออ ห่า กูไปด้วยก็ได้ แม่งเอ๊ย

     

               

                ขอโทษนะครับรุ่นพี่ วันนี้ผมคงไม่ได้อยู่รอรับกลับบ้านแล้วล่ะ

     

     

     

     

               

               

     

    กลับไปอ่านหนังสือกันด้วยล่ะ พรุ่งนี้จะสอบย่อยเก็บคะแนนยี่สิบคะแนน ไม่มีสอบแก้ตัวนะเสียงอาจารย์ประจำวิชาเคมีเพิ่มเติมดังขึ้นเปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ของผมและคนอื่นในคลาสเรียนอีกหลายๆคน ผมถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะเริ่มลงมือเก็บหนังสือเรียนยัดใส่กระเป๋าเป้ เสียงเก้าอี้ลากพื้นดังขึ้นต่อเนื่อง มีเพียงเสียงพูดคุยเพียงเล็กน้อยคลอไปกับเสียงฟ้าที่เริ่มร้องเสียงดัง..

    ฟ้าร้อง ?

     

    แสดงว่าฝนกำลังจะตกสินะ..

     

     

    ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูเวลา หน้าจอขึ้นเวลาห้าโมงครึ่ง หันออกไปข้างนอกท้องฟ้ากำลังมืดครื้มได้ที่ ผมเร่งมือเก็บของใส่กระเป๋า ก่อนจะคว้าร่มที่อยู่ข้างโต๊ะ แต่ก็คว้าได้เพียงอากาศ..

     

     

    อ้าว…?”

     

     

    อืม...ชิบหายของแท้เลย อู๋อี้ฝาน

     

     

    แล้ววันนี้จะกลับบ้านยังไงวะเนี่ย….

     

     

    ร่างสูงถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจกับความขี้ลืมของตัวเอง สูตรเคมีสูตรทางคณิตศาสตร์อะไรไม่เคยลืม แต่ดันลืมเอาร่มมาซะงั้น .. สองขายาววิ่งออกไปจากห้องเรียนไร้ผู้คน ก่อนจะแปลกใจเมื่อออกไปถึงหน้าห้องเรียนแล้วไม่เห็นโอเซฮุนเหมือนเคย

     

     

    ไปไหนของเขานะ...”

     

     

    ดวงตากลมกวาดสายตามองหาร่างที่คุ้นเคย แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา ทางเดินสงบเงียบเชียบไร้ผู้คนเพราะตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว อี้ฝานขมวดคิ้วด้วยความขัดใจที่ไม่เจอรุ่นน้องตัวป่วนที่จะมารอเขาหน้าห้องทุกวัน

     

     

    แล้วนี่..เราหวังให้น้องเขามารับเราหรือไง

     

     

     

    นี่เราเรียนหนักจนบ้าไปแล้วจริงๆใช่ไหม..

     

     

     

     

     

    วันหลังมึงมาซ้อมด้วยนะไอ้ห่า อย่ามัวแต่ไปตามไอ้เนิร์ดอี้ฝาน กูนี่ไม่เข้าใจจริงๆทำไมมึงถึงชอบมัน มีเหี้ยไรให้ชอบวะ กูอยากรู้ แม่ง เงียบชิบหาย หยิ่งอีกต่างหากลู่หานพูดกับเซฮุนก่อนจะเอาไม้กลองเคาะหัวเซฮุนแรงๆทีนึงโทษฐานที่โดดซ้อมบ่อย เซฮุนทำหน้าย่นใส่รุ่นพี่ตีนกาก่อนจะบ่นออกมา

     

    นี่ เจ๊กตีนกา ผมจะชอบพี่อี้ฝานมันก็คือเหตุผลของผมนั่นแหละ พี่ไม่เข้าใจหรอกน่ะ แล้วทีพี่อะ แบคฮยอนเป็นแฟนพี่ได้ไง พี่หน้าเหี่ยวขนาดนี้

     

    ลู่หานทำหน้าเหี่ยว (?) ก่อนจะวิ่งไปกอดแฟนหนุ่มรุ่นน้องเกรดสิบห้องเดียวกันกับเซฮุนผู้รับหน้าที่เป็นนักร้องหลักประจำวง ท่าทางของสองคนนั้นดูหวานแหววมาก..จนเซฮุนแทบจะวิ่งไปโก่งคออ้วก

     

     

    นี่ แบคฮยอน พี่หน้าไม่เหี่ยวใช่ไหม ?”

     

     

    อะ...เอ่อ..ครับพี่

     

     

    พี่หน้าไม่มีตีนกาใช่ไหม?”

     

     

    เอ่อ...มั้งครับ?”

     

     

    เห็นมั้ยไอ้ฮุน แฟนกูบอกว่ากูหน้าไม่มีตีนกาโว้ย!!!”

     

     

    ……...เอาตามที่มึงสบายใจเลยครับพี่

     

     

    เซฮุนส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะเก็บกีต้าร์ลงกล่อง นอกหน้าต่างมีฝนลงเม็ดประปราย นาฬิกาที่ข้อมือเรียวแสดงเวลาเกือบหกโมง ร่างสูงรีบเก็บของทุกอย่างก่อนคว้ากระเป๋าเรียนวิ่งออกไปที่ห้องเรียนของอู๋อี้ฝาน

     

     

    หวังว่าวันนี้อาจารย์จะปล่อยเลทนะ

     

     

    แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเขาวิ่งมาแล้วไม่เจอคนสักคนอยู่ในห้องเรียน เซฮุนเดาะลิ้นอย่างขัดใจก่อนจะคว้าร่มที่หยิบติดมือมาจากห้องดนตรีแล้ววิ่งออกไปนอกโรงเรียนทันที

     

     

     

     

                เปาะแปะ เปาะแปะ

     

     

                อู๋อี้ฝานเงยหน้าขึ้นมองฟ้าเพราะหยาดฝนตกกระทบหัว ร่างสูงทำหน้าขัดใจก่อนจะกวาดสายตาหาที่หลบฝนชั่วคราว ก่อนที่สองขายาวจะวิ่งเข้าไปหลบฝนใต้กันสาดตึกแถวริมถนน

     

     

                “โอ้ย...ทำไมต้องลืมเอาร่มมาวันนี้ด้วยวะเนี่ย

     

               

                เสียเวลาอ่านหนังสือหมด ! วิชาเคมีเพิ่มเติมยิ่งยากๆอยู่ ผมไม่อยากจะหลุดออกจากนักเรียนที่ได้คะแนนวิชาเคมีเพิ่มเติมสูงที่สุดในเกรดสิบสองหรอกนะ อาจารย์ชางมินยิ่งออกข้อสอบยากๆอยู่..โอย ผมต้องตายแน่ๆ ถ้าตากฝนไปนานกว่านี้..หวัดกินแน่ๆให้ตาย..

     

     

                “งี้ดดดด

     

                เสียงอะไรน่ะ ?

     

                “โฮ่ง!”

     

     

                ร่างสูงสะดุดด้วยความตกใจก่อนจะหันไปยังต้นเสียง ลูกหมาตัวเล็กสายพันธุ์ชิสุจ้องมองเขาด้วยตากลมโตบ้องแบ๊ว อี้ฝานเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่ว่าทำไมลูกหมาถึงออกมาเพ่นพ่านในเวลาฝนตกแบบนี้ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหา

     

     

                “ไงตัวเล็ก..มาทำอะไรที่นี่หื้ม?”

     

                อี้ฝานค่อยๆนั่งลงแล้วมองลูกสุนัข ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นก่อนจะสังเกตุเห็นว่าเจ้าตัวเล็กตัวเปียกม่อล่อกม่อแล่กไปหมด ขมลู่ตามตัวแถมยังสั่นไปทั้งตัวอีกต่างหาก ร่างสูงหยิบผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินออกมาก่อนจะค่อยๆห่มให้ลูกหมาตัวนั้น

     

                “ไม่หนาวแล้วเนอะ?” มือเรียวยาวลูบหัวลูกสุนัขตัวเล็กเบาๆแก้เหงา ตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกหนาวๆขึ้นมาแล้วเหมือนกัน สองแขนยกขึ้นกอดตัวเองเพิ่มความอบอุ่นพลางถูแขนตัวเองไปมา

     

     

                “ฮยองครับ! อี้ฝานฮยอง!”

     

               

                เด็กบ้าเอ๊ย..

     

     

                “อะไรของนายอีก..ฝนตกทำไมไม่กลับบ้านวะ

     

     

                ริมฝีปากอิ่มบ่นอุบเมื่อเห็นรุ่นน้องวิ่งกางร่มพลาสติกมาหา ทั้งๆที่ตอนนี้ควรจะอยู่ที่บ้านแล้ว แต่ทำไมกลับมาวิ่งกลางฝนแบบนี้ ?

     

     

                “ก็วันนี้ผมไม่ได้ไปรับรุ่นพี่นี่ครับ เป็นห่วง ฝนยิ่งตกหนักอยู่

     

     

                เซฮุนหุบร่มหลังจากเข้ามาหลบฝนข้างใต้ชายคา(?)เดียวกันกับรุ่นพี่ตัวสูง หัวใจเริ่มเต้นระรัวเพราะตอนนี้เขาอยู่ใกล้กับอี้ฝานมากๆ..มากกว่าที่เคยเป็น สายตาเหลือบไปมองเห็นอี้ฝานกำลังนั่งคุดคู้ทำตัวสั่นพลางกอดตัวเอง เขาถอดเสื้อแจ๊กเก็ตตัวนอกออกแล้วเอาห่มร่างบางเอาไว้ อู๋อี้ฝานสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมาหาเซฮุนเงียบๆ

     

     

                “ขอบใจ

     

     

                พูดแค่นั้นก่อนจะหันไปซุกหน้ากับเข่าตัวเองอีกครั้ง สายตาคมของเซฮุนเพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีลูกหมาชิสุนั่งทำหน้าตาน่ารักบ้องแบ๊วอยู่ข้างๆอี้ฝาน แถมยังมีผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินของอี้ฝานห่มอยู่ด้วยอีกต่างหาก..

     

                “หมาที่ไหนเหรอครับพี่?”

     

                เซฮุนเอ่ยปากชวนอี้ฝานคุยเล่นทำลายความเงียบที่เริ่มโรยตัวท่ามกลางสายฝน

     

     

                “ไม่รู้เหมือนกัน เห็นมันเดินมาหลบฝน ตัวมันสั่นๆเปียกฝน เลยเอาผ้าเช็ดหน้ามาห่มให้

     

     

               

                โอเซฮุนจะร้องไห้ครับ..พี่เขาพูดกับผมยาวมาก T_________T ถึงหัวข้อสนทนาจะเป็นเกี่ยวกับหมาน้อยตัวนี้ก็เถอะ แต่มันก็ดีกว่าที่เขาจะเงียบใส่ผมแบบนี้ต่อไปล่ะนะ

     

     

                ริมฝีปากอิ่มที่ปกติจะเป็นสีอมชมพูอยู่ตลอดเริ่มซีดลงและสั่นระริกด้วยความหนาว ผมค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้ๆไม่ให้พี่เขารู้ตัวก่อนจะค่อยๆโอบเข้ามาใกล้ พี่อี้ฝานสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนจะขืนตัวออก แต่แน่ล่ะครับ แรงน้อยนิดแค่นั้นสู้แรงของผมไม่ได้สักนิด ก่อนที่รุ่นพี่คนน่ารักของผมจะยอมโอนอ่อนอยู่ในวงแขนของผมแต่โดยดี..

     

     

                “ไม่หนาวแล้วนะ?”

                “อืม

     

                ผมลอบถอนหายใจออกมาเงียบๆ ก็รู้นะว่าพี่อี้ฝานเป็นคนเงียบๆ พูดน้อย..แต่แบบ บางครั้งเซฮุนก็คิดนะ ว่าวันนึงพี่เขาพูดออกมากี่คำบ้าง -_-

     

               

                “ฉันมีอะไรจะถาม

     

               

                จู่ๆอี้ฝานก็เปิดประเด็นพูดขึ้นมาเอง ไม่บ่อยหรอกที่รุ่นพี่ตัวสูงคนนี้จะเปิดประเด็นพูดขึ้นมาเอง .. เรียกได้ว่านานๆครั้งเลยด้วยซ้ำ เจ้าตัวยังสงสัยตัวเองเลยว่าทำไมอยู่ๆถึงเปิดประเด็นขึ้นมาแบบนี้

     

               

                “พี่มีอะไรจะถามผมเหรอครับ?”

     

     

                “ทำไมนายถึงชอบฉัน ตามฉันไปตลอด ไม่เหนื่อยหรือไง

     

     

                เซฮุนเลิกคิ้วพลางขำออกมาเบาๆ กลบเกลื่อนอารมณ์เขินของตนเอง

     

     

                “ทำไมพี่อยากรู้ล่ะครับ?”

     

                “ก็เพราะว่าฉันอยากรู้ไง

     

     

     

                “งั้นผมจะเล่าให้ฟังก็ได้ ว่าทำไมผมถึงชอบพี่.. “

     

     

     

               

    ย้อนกลับไปเมื่อสี่เดือนก่อน โอเซฮุนกำลังเดินตรงกลับบ้านหลังจากเลิกเรียน ชีวิตเกรดสิบมันยุ่งยาก..นี่เปิดเทอมมาได้แค่ไม่ถึงเดือนงานก็กองท่วมหัวจะตายอยู่ละ.. เซฮุนคิดก่อนจะเดินเตะก้อนหินริมทางแก้เซ็งไปเรื่อย

     

     

    แง้!!!”

     

     

    เซฮุนหยุดชะงักอยู่หน้าสวนสาธารณะเพราะได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนนึงร้องไห้จ้า สองขายาวเดินตรงเข้าไปข้างในสวนก่อนจะเห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังนั่งยองๆอยู่ใกล้ๆเด็กหญิงคนนั้นที่กำลังร้องไห้อยู่ ดูจากเครื่องแบบโรงเรียนก็พบว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน เซฮุนจึงยืนมองอยู่อย่างนั้นโดยไม่เข้าไปช่วย เพราะเห็นว่าเด็กน้อยมีคนมาช่วยอยู่แล้ว

     

     

    ร้องไห้ทำไมครับเด็กน้อย หื้ม?”

     

     

                เป็นครั้งแรกที่เซฮุนได้เห็นใบหน้าของคนๆนั้นชัดเจน.. ริมฝีปากอิ่มแย้มยิ้มบางๆปลอบใจเด็กน้อย หัวใจเซฮุนกระตุกวูบ เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ..

     

                เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนไปเลยเมื่อได้เห็นคนๆนั้นยิ้ม

     

               

    ก็..ก็.. ฮึก.. หนูหาคุณแม่ไม่เจออะ..ฮืออออ

     

     

                “อ๋อ...หาคุณแม่ไม่เจอเหรอคะ? มา เดี๋ยวพี่พาไปหานะ ?”

     

               

                ร่างสูงชันเข่ายืนขึ้นก่อนจะจูงมือพาเด็กน้อยคนนั้นไปตามหาคุณแม่ สองขายาวของเซฮุนก้าวตามไปไม่ให้คนทั้งคู่รู้ตัว ใบหน้ายิ้มแย้มของคนตัวสูงที่ส่งให้เด็กน้อยคนนั้นเมื่อตามหาคุณแม่เจออ่อนโยนราวกับเทวดา..

     

     

                เซฮุนตกหลุมรักคนๆนั้นเข้าอย่างจัง

     

     

                วันรุ่งขึ้นเซฮุนจึงพบว่าคนๆนั้นชื่ออู๋อี้ฝาน อยู่เกรดสิบสอง เรียนเก่งที่สุดในเกรดสิบสอง อยู่แผนการเรียนวิทย์คณิต และมนุษย์สัมพันธ์กับคนในโรงเรียนจัดว่าแย่..เข้าขั้นติดลบ

     

     

                แต่เซฮุนไม่คิดแบบนั้น

     

     

                “แกชอบไอ้เนิร์ดคนนั้นอ่อวะฮุน คนสวยๆในโรงเรียนนี้มีเยอะแยะ หล่อๆอย่างมึงหาได้อยู่แล้ว แค่กระดิกนิ้วนิดขยิบตาหน่อย ผู้หญิงก็วิ่งมาหามึงเป็นฝูงแล้ว ทำไมเป็นคนนี้วะ กูงงลู่หาน รุ่นพี่เกรดสิบสองแผนการเรียนศิลป์คำนวณถามพลางทำใบหน้าให้เหี่ยวย่นตามเลเวลความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้น

     

     

                “พี่แม่ง อธิบายไปก็ไม่เข้าใจหรอกว่ะ

     

                “เออ ห่า กูไม่อยากจะเข้าใจความคิดมึงหรอกฮุน บ้าปะเนี้ย อยู่ดีไม่ว่าดี อยากได้รูปปั้นมาเป็นผัว ถุ้ย

                “ใครบอกว่ากูจะเอาพี่เค้ามาเป็นผัวครับพี่ ฉีดโบท็อกซ์นี่พี่ฉีดที่หน้าหรือที่สมองครับ สมองถึงไม่มีรอยหยักเลยสักนิดเดียวน่ะ -_- “

     

     

    แล้วมึงจะเอาเขามาทำเมียหรือไงวะ

     

     

    “......ก็เออสิครับพี่

     

     

                แล้วก็แอบชอบแบบนี้มานาน..จนกระทั่งงานคอนเสริตวันนั้น..

     

     

                “ผมชอบรุ่นพี่อู๋อี้ฝานครับ!!!!!”

     

     

     

                วันนั้นรุ่นพี่ไม่ได้มางานด้วย แต่หลังจากที่ผมตะโกนแบบนั้นออกไป ทั้งโรงเรียนก็เอาแต่จับกลุ่มพูดคุยกับเรื่องนี้ เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้เรืองนี้เลย ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึงผมกับรุ่นพี่อี้ฝานตลอด ผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่กับรุ่นพี่อี้ฝานผู้รักความเงียบสงบนี่สิ..

     

     

                แต่ด้วยความหน้าด้านของผม ก็เลยเดินหน้าจีบพี่เขาโต้งๆแบบนี้ ถึงแม้ว่าแรกๆรุ่นพี่จะต่อต้านโคตรๆ แต่สุดท้ายก็ยอมใจอ่อนให้ผมจีบต่ออยู่ดี..

     

     

               

     

     

     

     

                “สรุปก็คือนายชอบฉันแค่เพราะฉันช่วยเด็กในสวนสาธารณะเนี่ยนะ?”

     

                “จะพูดแบบนั้นมันก็ใช่ครับพี่

               

                “นาย..แปลกคนจริงๆว่ะ ฉันก็เป็นแบบที่คนในโรงเรียนพูดนั่นแหละ หยิ่ง หัวแข็ง ไร้มนุษยสัมพันธ์

     

                “แล้วผมแคร์เสียงคนพวกนั้นที่ไหน?”

     

     

                อี้ฝานถึงกับเงียบไป เขาไม่เข้าใจว่าตัวเขามีอะไรดีให้คนๆนี้มาชอบเขา เขาที่บ้าเรียนตลอดเวลา ไม่พูดไม่จากับใคร ไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้าจนเหมือนรูปปั้น...เขาไม่เข้าใจจริงๆ เรื่องนี้มันเข้าใจยากกว่าวิชาเคมีเพิ่มเติมที่อาจารย์ชางมินสอนซะอีก..

                “ฝนซาแล้วพี่ เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านเซฮุนพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วกางร่มออก อี้ฝานเดินเข้าร่มของรุ่นน้องตัวสูงก่อนจะออกเดินไปตามทางอีกครั้ง

     

               

     

                “ผมมีเรื่องจะขอพี่อย่างนึง

     

                เซฮุนพูดขึ้นมาก่อนที่อี้ฝานจะเดินก้าวเท้าเข้าบ้านไป ฝีเท้าของอี้ฝานชะงักก่อนที่จะหันกลับมาทางต้นเสียง

     

                “อะไรล่ะ ขอให้รับรักนายหรือไง ไม่มีวันหรอก

     

                “เปล่าครับ..”

               

                “แล้วมันอะไรล่ะ ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรง ฉันจะทำอู๋อี้ฝานพูดพลางเลิกคิ้วสงสัย

     

     

    พี่ยิ้มบ่อยๆได้ไหม? ผมชอบเวลาพี่ยิ้ม

     

    แล้วทำไมฉันจะต้องยิ้มทั้งๆที่ไม่อยากยิ้ม

     

    พี่คงไม่รู้ตัวหรอกครับ ว่าเวลาที่พี่ยิ้มออกมา โลกของผมมันเหมือนจะหยุดหมุนไปเลย

     

     

     

    โอ๊ย พูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง โอ เซฮุน !

     

    โคตรเสี่ยวอะ

     

                พี่เขาเงียบไปเลย ทำไงดีวะ เห้ย ชิบหายละ..เราทำให้พี่เขาลำบากใจปะวะ

     

     

               

                “ถ้าพี่ไม่อยากทำ ก็ไม่เป็นไรครับ..แค่อยากให้พี่รู้ไว้

     

                “อืม

     

     

                อู๋อี้ฝานเดินตรงเข้ามาใกล้เซฮุนก่อนริมฝีปากบางจะค่อยๆแย้มยิ้มออกมานิดๆ เซฮุนถึงกับช็อค..เหมือนโดนถีบร่วงลงมาจากที่สูง หัวใจเต้นรัวเหมือนครั้งแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มของอู๋อี้ฝาน

     

     

                ทำอะไรไม่ถูกเลย

                “งั้นถ้าตอนนี้ฉันอยากยิ้มให้นาย..ฉันก็ต้องทำแบบนี้ใช่ไหม ?”

     

     

     

                ตายตาหลับแล้วครับโอเซฮุน

     

     

     

     

                                                                                                                end.

     

     

     

    Talk - โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่เป็นวันช็อตที่ใช้เวลาแต่งสองวัน โคตรเหนื่อย อห T___T

     

     

               

               

     

               

               

     

               

     

     

     

     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×