ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Yellow Lily Knight and king demon: อัศวินลิลลี่และราชาปีศาจ [yaoi?]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ พี่สาวที่แสนดี!!!![ 60%] rewrite

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 57


     

    บทนำ

    สมมติโลกนี้มีปีศาจ

    สมมติปีศาจไม่ล่อลวงมนุษย์

    สมมติมนุษย์ไม่หลงกลของปีศาจ

    สมมติมนุษย์กับปีศาจสามารถอยู่ร่วมกันได้

    สมมติเรื่องสมมติเป็นเรื่องจริง

            
                 “นิสัยของปีศาจนั้นคือ การล่อลวงมนุษย์ ไม่มีปีศาจตนไหนไม่ต้องกลืนกินวิญญาณของมนุษย์ ปีศาจเปรียบเสมือนของอันตรายสำหรับเหล่ามนุษย์อย่างเรา หากใครถูกล่อลวงแล้วก็ไม่อาจมีลมหายใจกลับมาได้ ตามพระคัมภีร์ บทที่ 146.........” เสียงบาทหลวงประจำวิหารกลางของเมืองพูดขึ้นด้วยเสียงเนิบนาบชวนพาผู้ฟังขึ้นไปเฝ้าเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคนในโบสถ์นั้นกลับนั่งฟังอย่างสนอกสนใจ

     

    มันไม่ใช้เพราะน่าสนใจของเรื่องที่ฟังแต่งอย่างใด แต่เป็นเพราะความหล่อเหล่าอันเจิดจ้าของคนเทศนา และสามารถสังเกตได้จากคนที่มาฟังเกือบทั้งหมดนั้นเป็นคนที่มีกายเป็นหญิงและใจเป็นหญิง ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่นหรือชรา และสายตาทุกคู่ของพวกเธอนั้นเปล่งประกายแพรวพราวราวกับดาวเดือนดับ พร้อมกับจ้องมองบาทหลวงจนตาแทบถลนราวกับแร้งที่โหยหาอาหาร

                และที่บอกว่าคนมาฟังเทศเกือบทั้งหมดหญิง นั้นก็เป็นเพราะเป็นเพราะว่า “ ข้า ” เป็นผู้ชาย “แท้” คนเดียวในโบสถ์ยังไงล่ะ!!!

    อ้ากกกกกก!!! อยากจะร้องออกมาดังๆให้ลั่นโบสถ์ นี่ถ้าหากพี่สาวข้าไม่ลากถูพร้อมกับขู่เข็ญ ข้าก็คงไม่ต้องมานั่งลำเค็ญฟังอะไรที่มันไรสาระอย่างนี้หรอกน่ะ ให้ตายเถอะ ข้าอยากออกไปจากที่บ้าๆแบบนี้แล้ว!!!!

     

    ในตอนนี้สิ่งที่ข้าทำได้ก็มีเพียงนั่งกรอกตาไปมากันหลับเพียงเท่านั้น

    ไม่สิ มีอีกอย่างที่ข้าทำได้

     มันก็ คืออออ

    .

    .

    .

    .....

    นั่งหายใจทิ้งไงล่ะ

     

    เอาล่ะ หลังจากการกรอกตาไปมาของข้านั้นไม่ได้ทำให้การนอนหลับนั้นหายน่าภิรมย์ และแล้วในที่สุดความอดทนของข้าก็หมดลง ในขณะที่ข้ากำลัง ”จะขยับ” มือไปสะกิดพี่สาวของข้า ขอย้ำว่า “จะขยับ” เพียงเท่านั้น นางก็หันควับมาหาข้าด้วยสายตาอำมหิต แล้วกัดฟันพูดว่า

     

    อย่าคิดที่จะออกจากโบสถ์เด็ดขาด ไม่งั้นกลับบ้านไป...ตาย!!!

     

    โอ้...พระเจ้า เหตุใดท่านถึงส่งพี่สาวที่แสนโหดร้ายเยี่ยงนี่มาให้ข้าด้วย!!!

     

    แต่สุดท้ายข้าทำได้เพียงแค่ยิ้มแหยๆให้นางพร้อมกับล้มเลิกความคิดที่จะนำภัยมาสู่ตัวเองอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นนางคงจะได้หักมือข้าทิ้งแน่ๆ

     

    “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน มีผู้ใดสงสัยอยากจะถามหรือไม่”  บาทหลวงหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนที่จะหยุดสายตาที่ข้า  พร้อมกับรอยยิ้มแสนอบอุ่นราวกับเทวดา

    ข้าได้แต่นั่งตาปริบๆ แล้วหันซ้าย-ขวา เพื่อสอดสายหาคนที่บาทหลวงวิปริต ยิ้มโรคจิต??ให้ จนกระทั้งพี่สาวของข้ายกมือขึ้นเพื่อที่จะถาม ข้าถึงหันกลับพี่ท่าน

     

    “บราเธอร์คะ ปีศาจเนี้ย เราเจอได้ที่ไหนได้บ้างคะ”  เจ้แกถามด้วยความสุภาพเรียบร้อย น้ำเสียงอ่อนหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า ราวกับว่าเป็นคนละคนกับนางยักษ์กินคนที่จ้องข้าอย่างกินเลือดกินเนื้อเมื่อกี้

     

    คงจะเจอหรอก ปีศาจน่ะมีจริงซะที่ไหนกันเล่า โธ่เจ้ มันก็แค่เรื่องหลอกเด็กที่ผู้ใหญ่แต่งขึ้นมาเพื่อขู่ให้เด็กกลัวเท่านั้นแหละ เรื่องแบบนี้ใครเชื่อ ก็โคตรงมงายอ่ะ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงอ่ะน่ะ เจ้คงไม่เจอพวกมันหรอก อย่างเจ้น่ะ คงไม่มีปีศาจตนไหนกล้าทำลายหรอก เผลอๆน่ะแค่เห็นหน้าก็วิ่งหนีหางจุกตูดแล้วข้าได้แต่บ่นในใจ ไม่กล้าพูดออกไป ไม่งั้นชีวิตอาจหาไม่

     

    “สำหรับข้า ข้าคิดว่าปีศาจ มันสามารถแฝงอยู่ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะแปลงร่างเป็นสิ่งของ สัตว์ หรือแม้แต่มนุษย์ บางทีคนที่เจ้ารู้จักอยู่ในตอนนี้ อาจจะเป็นปีศาจแฝงตัวมาก็ได้” บาทหลวงหนุ่มยิ้มละไม แล้วสายตาของเขายังจดจ้องมาที่เดิม

     

    ละ...แล้ว เจ้านั้นจะจ้องข้าอีกนานมั้ยเนี้ย ขะ..ข้าเริ่มเขินแล้วน่ะ จ้องกันอยู่ได้.... ข้าบิดแขนอย่างอายม้วน

    .

    .
            .

     .........ซะเมื่อไหร่เล่า ฝันไปเหอะ ข้าก็แค่รู้สึกขนลุกเท่านั้นเอง รอยยิ้มและสายที่จ้องมองมา ดูเผินๆเหมือนจะอบอุ่น แต่ข้ากลับรู้สึกว่า มันช่างเจ้าเล่ห์ หลอกลวงและเหมือนจะกลืนกินอย่างไงอย่างนั้นแหละ ให้ตายเถอะ ข้าเกลียดรอยยิ้มแบบนั้นที่สุดเลยเถอะ

     

    “เอาล่ะ ถ้าไม่มีใครมีคำถามอีก ข้าก็คงต้องขอตัวก่อน” หลังจากบาทหลวงหนุ่มค้อมตัวแล้วเดินออกจากโบสถ์ ผู้คนก็ต่างพร้อมใจกันลุกขึ้น ราวกับเก้าอี้ที่ตนเองเคยจับจองนั้นเป็นของร้อน แล้วรีบตรงไปทางออกทันที

    แล้วนี่ข้าจะมานั่งบรรยายห่าเหวอะไรเนี้ย ว่าแล้วข้าก็รีบลุกแล้วเดินออกจากโบสถ์พร้อมกับพี่สาวที่กำลังทำท่าจะฆ่าข้า เพียงเพราะข้าลุกช้าไปเท่านั้นเอง

    “ถ้าครั้งต่อไปเจ้ายังลุกช้าอีก ข้าจะบอกให้ท่านแม่ตัดเงินค่าขนมของเจ้า” นางขู่ข้าด้วยท่าทีขึงขัง ข้าก็เลยสวนกลับไปว่า

    “จะดีหรอเจ้ ปกติเจ้น่ะก็ขูดรีดเอาเงินข้าไป ถ้าเจ้บอกให้ท่านแม่ตัดเงินค่าขนมข้า นั้นก็เท่ากับว่าเจ้ก็เอาเงินไปจากข้าได้น้อยลงนะ”

    “ไม่ต้องห่วงหรอก ปกติข้าไม่เอาเงินของเจ้าไปทั้งหมดซะหน่อย แต่ถ้าเจ้าถูกตัดเงิน ข้าก็แค่เอาเงินเท่าเดิมจากเจ้า ดังนั้นไม่ต้องห่วงข้าไปหรอก” โหดร้าย นี้เจ้จะไม่เหลือให้ข้าซื้อข้าวกินเลยรึไงฮะ การตัดเงินของท่านแม่แต่ละครั้งใช่ว่าจะน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ เผลอๆน่ะ ถ้าเจ้เอาเงินเท่าเดิม  มันคงไม่เหลือเงินซักเหรียญให้ข้าซื้อข้าวแน่ๆ

    เอาล่ะ  พระเจ้า ท่านช่วยตอบข้าทีว่าทำไมท่านจึงส่งพี่สาวที่แสนดีมาให้ข้าไม่ได้!!!

    .....

    ในมุมมืดส่วนหนึ่งของเมือง

    “เรียนองค์ราชัน แผนการของพระองค์นั้น ข้าน้อยได้ทำการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงให้เป้าหมายมาติดกับเพียงเท่านั้นขอรับ” ปีศาจคนสนิทกล่าวรายงานให้แก่นายของตน

    ทันใดนั้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ได้ปรากฏขึ้นที่มุมปากของผู้เป็นนาย

    “วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้เป้าหมายจะต้องติดกับแน่นอนไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ แล้วเหยื่อล่อชั้นดีที่ข้าได้เตรียมไว้เป็นอย่างไรบ้าง”

                “มิต้องกังวลขอรับ ทางฝ่ายนั้นดูท่าทางจะเต็มใจมาอยู่กับเราขอรับ”ปีศาจคนสนิทกล่าวอย่างนอบน้อม


    “ถ้าเช่นนั้นก็เริ่มแผนการได้เลย  วันอาทิตย์ที่มีการชุมนุมของเหล่ามนุษย์นี่แหละเหมาะสมที่สุด  ..... ”

    .....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×