ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ช่วยชีวิตครั้งที่2????
ฉันยังไม่ทันหลบก็มีร่างของใครบางคนมาคล่อมร่างฉันไว้อย่างนุ่มนวล ราวกับว่าจ้องมองฉันอยู่แล้ว ช่างมันดีกว่ารู้แต่ว่าตอนนี้หลอดไฟมันกำลังหล่นลงมาแล้วววว
“แคร้ง!!!!!!!!!!! โอ๊ยยย”
พอหลอดไฟล่นลงมาตกลงที่หัวของคนๆนั้น ฉันเห็นเลือดบนหัวเขาและก็รู้ทันทีว่าคนๆนั้นเป็น คนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุด
“เธอเป็นใคร ถึงได้มาก่อเรื่องในงานนี้ ไม่มีใครบอกหรือไงว่าคนนอกห้ามเข้า ร.ป.ภอยู่ไหนมาเอายัยนี่ออกไปที” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ไฟของทั้งงานจะดับลง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
พอไฟดับทันใดนั้นก็มีเสียงกรี๊ดของสาวๆ ดังขึ้น(หนึ่งในนั้นรวมฉันด้วย)ฉันกรีดร้องออกมาเพราะตกใจเสียงกรี๊ดพวกนั้น แถมฉันยังเป็นพวกกลัวความมืดซะด้วย ฉันถูกชายคนที่ช่วยฉันดึงเข้าไปกอดอย่างนุ่นนวล ฉันเลยกอดเขาตอบแม้จะไม่ค่อยเต็มใจ แต่เพราะกลัวต่างหาก โปรดอย่าคิดเรื่องนั้นเชียวน่ะ
“พึบบบบ”
ในที่สุดไฟก็ติด ฉันเลยเอามือออกจากอ้อมกอดของเขาก่อนที่คนอื่นจะเข้าใจผิด
“นั่นไงมันอยู่นั่นไปจับออกมา ยัยตัวป่วนเอ๊ย”ร.ป.ภคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่จะวิ่งมาทางฉัน
“นี่วิ่งเร็วเข้าสิยัยบื้อ”คีย์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพลอยดึงมือฉันวิ่งไปกับเขาด้วย พอฉันลุกขึ้นตามเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาลากฉันวิ่งท่าเดียว ฉันเลยต้องวิ่งตามเขาอย่างสุดชีวิต
“เจ็บน่ะเฟ้ยยลากเบาๆหน่อยไม้ได้หรือไง คนน่ะไม่ใช่กระสอบทรายนะ ที่จะลากแรงๆได้”
“นี่ไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทะเลาะกันน่ะ”ใช่ นี่ไม่ใช่เวลาที่เราสองคนจะมาทะเลาะกันน่ะเราต้องตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียว
หลังจากที่วิ่งมานานแล้ว คีย์พาฉันมาหยุดตรงสะพานที่มืดสนิท แต่ว่ามีเรือวิ่งผ่านเป็นครั้งคราว จนทำให้มองเห็นเป็นแสงไฟลางๆ
“นายช่วยฉันทำไม”
“หะ หาใครบอกว่าฉันช่วยเธอ ฉันแค่ช่วยตัวเองต่างหากละ”
“ช่างเถอะว่าแต่ที่นี่มันที่ไหนกันงะ”ฉันถามเขาอย่างงง
“ก็สะพานไง”
“ก็รู้ว่าเป็นสะพาน แต่ฉันหมายความว่าสะพานนะ มันตั้งอยู่ที่ใดต่างหากค่ะ พ่อคูน~”ฉันพูดประชดเต็มที่ก่อนที่ตานั่นจะยื่นหน้ามาซบตรงไหล่ฉัน
“ยัยบ๋องฉันปวดหัวจัง”
“นี่นายจะหลอกแต๊ะอั๋งฉันเหรอ นี่แนะ”ฉันฝาดมือลงที่หัวของนายคีย์เบาๆ
“โอ๊ยยย เจ็บน่ะ”ฉันรู้สึกเปียกๆที่มือยังไงก็ไม่รู้ ก่อนจะยกมันขึ้นมาดูอย่างงงๆ เลยรู้ว่านี่มันคะ คือเลือด
“นายคีย์นี่นายหัวแตกเหรอ”
“หะ ไม่รู้สิแต่ว่ารู้สึกเจ็บๆ”เขาว่าก่อนจะจับตรงหัวของตัวเอง
“คงเป็นตอนที่นายเอาหัวมารับหลอดไฟแน่ๆ แต่ว่ามันก็นาน แล้วนายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”ฉันนั่งลงตรงข้างทางข้ามสะพาน แล้วก็ฉุดนายคีย์นั่นลงข้างฉัน ฉันล้วงผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดให้นายคีย์อย่างเบามือที่สุด
“โอ๊ยยย เจ็บน่ะ”และนั่นก็ทำให้นายคีย์ร้องโอยออกมาอย่างเจ็บปวด
“เจ็บมากเลยเหรอ
“ก็เจ็บน่ะสิถามออกมาได้ นี่เธอจะแกล้งฉันเหรอหะ”
“ปล่าวน่ะก็นี่แหละเบาที่สุดแล้ว”
“นี่เธอ เธอจะกวนประสาทฉันมากไปหน่อยแล้วน่ะ แบบนี้มันต้องโดน...”
“คีย์ อยู่แถวนี้ไหม”
“กรีน นี่พี่เองนะอยู่หรือปล่าว”
นั่นมันเสียงของพี่เบล็คนี่นา แล้วนั่นก็เรียกฉันด้วย ฉันช่วยพยุงอีตาคีย์ลุกขึ้นเดินไปยังต้นเสียงที่เรียกมา
“พี่ค่ะ ทางนี้ค่ะ”ฉันเดินออกมาจากสะพานอย่างลำบากเพราะมีอีตาคีย์ ที่นอนอยู่บนบ่าของฉัน
“เป็นอะไรหรือปล่าว”
“กรีนน่ะไม่ แต่นายนี่มีแน่ เพราะหัวแตกเลือดไหลเป็นทางเลยค่ะ”
“งั้นเราไปทำแผลกันเถอะจ๊ะ”พูดจบก็มีชายกล้ามโตมาลากอีตานี่ไปอย่างคุ้นเคย
เช้าวันที่สดใสของฉันเพราะเป็นวันที่ต้องไปโรงเรียน ฉันชอบไปโรงเรียนเพราะได้เจอเพื่อนๆ และอีกอย่างก็จะได้เอาเรื่องที่ไปเที่ยวมาโม้ให้ยัยยูบินฟังสักหน่อย
“กรี๊ดดด”ตอนพักเนี่ยหน้าเบื่อจังชอบมีสาวๆมากรี๊ดพวกนักเรียนชายที่เล่นบาสอยู่ในสะนามประจำเลย ว่าแต่วันนี้ทำไมมันเยอะมากเป็นพิเศษน่ะ
“ยูบิน”ฉันเดินเข้าไปถามยัยเพื่อนรักที่ร่วมบ้ากับเขาด้วย
“หือ”
“นี่มีคอนเสริตนักร้องเกาหลีเหรอไง”
“ป่าวนี่แกไม่รู้หรือไงว่ามีนักเรียนใหม่มาห้าคน หน้าตาดีทั้งคู่เลยงะแก นี่อย่าเบียดฉันสิยะ”นักเรียนใหม่เหรอ
“เห็นพอมีนักเรียนที่หล่อๆเข้ามาก็เป็นแบบนี้ทุกราย แกอย่าทำเป็นพวกไม่เคยเจอผู้ชายสิ”
“นี่แกหลอกด่าฉันเหรอเนี้ย”ไม่ได้หลอกด่าแต่ว่าฉันด่าแกเลยต่างหากเล่า
“ป๊าว”ฉันว่าขึ้นเสียงสูงแล้วยักไหล่พอดูว่ากวนๆ
“กรี๊ดดดดดดด พี่คีย์พี่แทมินกรี๊ดดดดดดดหันมาหน่อยค่ะ”แอ๋.....ทำไมชื่อมันเหมือนอีตานั่นเลย คงไม่ใช่หลอกมั้ง
“นี่ยัยเพื่อนรัก แกหยุดเดินทำไมยะ ไม่หิวหรือไงเดี๋ยวข้าวก็หมดกันพอดี กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สิจริงไหม เดี๋ยวค่อยไปกรี๊ดกับต่อ” ยัยเพื่อนรักของฉันว่าพลางเอามือลูบไปมาที่ท้องของตัวเอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น