ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงสิเน่หา [Eroticเล็กๆ]

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : ราตรีสีเพลิง [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 10 ม.ค. 56


    © Tenpoints!



     

     

    -๒-

     

    “ว่าไงนะ!ตวงพรอุทานลั่นจนคนทั้งแผนกหันมามองเป็นตาเดียว เป็นจังหวะเดียวกับที่พัสวีออกมาจากห้องทำงานถามเสียงเขียว

                “เป็นอะไรคุณตวงพร?! เรียกร้องความสนใจหรือไง?”

                “หัวหน้าทีมคะหัวหน้าทีม...เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ” ตวงพรโวยวาย

                “อะไรกัน?!” พัสวีเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน

                “คุณเปรมกมลค่ะ คุณเปรมกมล” พอได้ยินชื่อพัสวีถึงกับหน้าตึงขึ้นมาทันทีก่อนจะย้อนถามเสียงดัง

                “เปรมกมลทำไม?!

     

                พอรู้ว่าเปรมกมลมาที่บริษัทพัสวีก็สวมบทบาทปีศาจร้ายเดินดุ่มๆลงไปข้างล่างทันที ตลอดทางเธอได้แต่กัดฟันกรอดๆอย่างโกรธแค้นเต็มที่

                “เธอตายแน่!” พัสวีคำรามหนักแน่น ตวงพรทำหน้าตื่นเต้นจะได้เห็นสงครามเกิดขึ้นให้เจริญหูเจริญตา

               

                พัสวีเดินอาดๆเข้าไปหาปริมลดา ปริมลดาหันมามองงงๆที่ได้เห็นแววตาไม่เป็นมิตรของพัสวีที่ส่งมาให้พลางคิดในใจ

                คนบริษัทนี้นี่ยังไงเป็นอะไรกันไปหมด?

                “กล้ามากนะที่มาเหยียบที่นี่น่ะ” พัสวีทักขึ้นด้วยน้ำเสียงชิงชังเต็มที่

                “เอ๊ะ?” ปริมลดางงกับคำทักทายของหญิงสาวสวยตรงหน้า

                “หึ...ทำเอาไว้ตั้งเยอะ ยังกล้ามีหน้ามาเหยียบที่นี่อีก...หน้าด้าน!” พัสวียิ้มสะใจ ปริมลดางงหนักที่จู่ๆใครก็ไม่รู้ก็มาด่าทอเธอ จนเธอถึงต้องสวนกลับไป

                “คุณเป็นใครคะ? อยู่ๆก็มาด่าฉันอย่างนี้”

                “นี่จะมาไม้ไหนอีกล่ะเปรมกมล?! ไม่สิ...เจนนิเฟอร์ หยาง” พัสวีแค่นหัวเราะอย่างดูถูกดูแคลน

                “คุณว่าอะไรนะคะ? เปรมกมลหรอ?” ปริมลดาดูตกใจมากที่ได้ยินชื่อนี้อีกหลังจากที่ชื่อนี้หายไปเกือบจะสิบปีแล้ว

                “ทำไม? หรือจะให้ฉันเรียกเธอว่าเจนนิเฟอร์ หยาง...ถึงเธอจะเป็นภรรยาของแอนโทนี่ มันก็ไม่ได้ทำให้เธอต่างไปจากการเป็นเปรมกมลหรอก เคยได้ยินไหม? สันดานไม่เปลี่ยนกันไม่ได้หรอก” พัสวียิ้มอย่างสะใจ ปริมลดาเริ่มเข้าใจเรื่องราวขึ้นมาก่อนจะรีบอธิบาย

                “ขอโทษนะคะ ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด...ฉันไม่ใช่เปรมกมล ฉันคือปริมลดา...” พูดยังไม่ทันจบ พัสวีก็สวนขึ้นมาทันควัน

                “ฉันไม่อยากฟังละครที่แกแต่งขึ้นมาอีกแล้ว จำเอาไว้นะ ทุกอย่างมันจบแล้ว อย่ามาเหยียบที่นี่อีก เลิกยุ่งกับพี่ปาล์มสักที...นังผู้หญิงแพศยา!” พัสวีด่าอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะคว้าแก้วน้ำที่วางที่เคาน์เตอร์สาดเข้าไปเต็มหน้าของปริมลดา โดยที่ไม่ทันตั้งตัว

                ปริมลดาตัวชาไปหมดที่ถูกเหยียดหยามขนาดนี้ จึงจะสู้ตอบโต้บ้างแต่ช้าไปหนึ่งก้าวพัสวีเรียกยามมาโยนเธอออกไป ก่อนที่พัสวีจะตามออกมาสมน้ำหน้า

                “ที่ที่เหมาะกับเธอคือข้างถนน จำเอาไว้!” พอด่าจนสมใจก็เดินกลับขึ้นอาคารไปทันที โดยไม่ลืมบอกแกมขู่พนักงานที่ร่วมรู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่า

                “ปิดปากของตัวเองให้สนิทล่ะ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูของท่านประธานเมื่อไหร่ พวกคุณคงรู้นะว่าจะโดนอะไร”

     

                ปริมลดาสับสนไปหมดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง พวกเขากำลังเข้าใจเธอผิด และยิ่งไปกว่านั้น เปรมกมล ชื่อนี้ได้ย้อนกลับมาอีกครั้งในหัวของเธอ

                “เปรมกมล เธอไปทำอะไรพวกเขากันแน่นะ? ทำไมพวกเขาถึงได้ชิงชังเธอขนาดนี้” ปริมลดาถามตัวเองในใจก่อนที่จะต้องลุกเดินออกไปอย่างคนพ่ายแพ้ งานก็ไม่ได้ แถมยังมาโดนสาดน้ำ ด่ากราดกันอย่างนี้อีก นี่มันวันซวยอะไรของเธอกันแน่นะ...ปริมลดา!

     

                หลังจากที่พัสวีลงมาเล่นงานเปรมกมลหญิงแพศยาที่เธอเกลียดชังได้แล้ว เธอก็เริ่มหัวเราะสะใจอย่างมีความสุข โดยมีตวงพรคอยประจบเอาใจไม่ห่าง

                “เยี่ยมไปเลยค่ะหัวหน้า เห็นหน้าคุณเปรมเธอจ๋อยถอดสีไปเลยนะคะ”

                “ใช่!ฉันล่ะสะใจเป็นบ้าเลย ผู้หญิงพรรค์นั้นน่ะเป็นได้แค่นางบำเรอก็เท่านั้นแหละ” พัสวีกล่าวอย่างสะใจ ที่เธอมีโอกาสเอาคืนผู้หญิงคนนั้นบ้างหลังจากที่เคยทนไปรองนังนั่นมานาน

               

                ปริมลดาเดินไปตามท้องถนนเรื่อยๆอย่างคนสิ้นหวัง จากผมที่เปียกด้วยน้ำที่พัสวีสาดจนบัดนี้ก็กลับเหือดแห้งไปจนหมดสิ้น ก็ที่เธอจะล้มลงนั่งที่ม้านั่งข้างทาง รู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมาจับใจ

                “แม่ปริมท้อจังเลย” ว่าแล้วก็ถอนหายใจ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นพบว่าปลายสายนั้นคือ วีนัส เพื่อนของเธอนั่นเอง

                “ฮัลโหล” ปริมลดากรอกเสียงไปตามสายเสียงเศร้าๆ

                “เฮ้ย! เป็นอะไรหรือเปล่าแก? ทำไมเสียงเศร้าจัง” วีนัสถามอย่างเป็นห่วง

                “เรื่องมันยาวน่ะ” ปริมลดาเลี่ยงแต่วีนัสก็ซักอีก

                “เฮ้ย! ฉันว่าง ฟังได้นะเว่ย...เอาอย่างนี้ ตอนนี้แกอยู่ไหน? เดี๋ยวฉันไปรับ”

                “ฉันไปรอที่บ้านแล้วกัน” ปริมลดาตัดบทวางสายไป ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง

     

                ปารมี เข้ามาที่บริษัทอีกครั้งในตอนบ่ายๆ และบังเอิญได้ยินพวกพนักงานคุยกันเรื่องที่เปรมกมลมาสมัครงานที่บริษัท เลยทำให้เขาต้องเข้าไปถามอย่างใคร่รู้

                “เล่ามา...เรื่องที่พวกคุณคุยกัน เล่ามาให้หมด” ปารมีสั่งเสียงเข้ม จนพนักงานกลุ่มหนึ่งมองหน้ากันอย่างเหรอหรา กลัวพัสวีเล่นงานแต่กลัวปารมีมากกว่าเลยจำต้องเล่าไปตามที่เห็น

    พอได้ยินเรื่องราวทั้งหมดปารมีก็ของขึ้นทันที ตรงดิ่งไปยังแผนกออกแบบของบริษัท

    “ท่านประธาน” ตวงพรรีบออกมารับหน้าทันทีที่เห็นปารมีเดินดุ่มๆเข้ามา

    “พัสวีอยู่ในห้องใช่ไหม?” ไม่รอให้ได้คำตอบ ปารมีก็ผลักประตูเข้ามาทันที จนเจ้าของไม่ทันตั้งตัว

    “ท่านประธาน” พัสวีรู้สึกไม่ดีที่เห็นปารมีเข้ามาด้วยท่าทางอย่างนั้น ก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องคงถึงหูปารมีแล้วเป็นแน่

    “ออกไปก่อน” พัสวีหันมาสั่งตวงพรที่ยืนเสนอตัวอยู่อย่างอยากรู้อยากเห็น

    “นี่มันเรื่องอะไรกันพัส?” ปารมีถามเสียงแข็ง

    “พี่ปาล์มก็รู้แล้วนี่คะ” พัสวีตอบเสียงอ่อย

    “นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องไปยุ่ง...ผู้หญิงคนนั้น พี่จะจัดการเอง”

    “แต่พัสทนไม่ได้นี่คะ นังนั่นน่ะหน้าด้านยังกล้ามาเหยียบที่นี่อีก” พัสวีบอกอย่างมีน้ำโห

    “ต่อไปนี้ห้ามเราเข้าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีก แค้นของพี่ พี่จะเป็นคนจัดการเอง ไม่ต้องให้เราช่วยหรอก” พูดจบปารมีก็เดินมึนตึงกลับไป พัสวีถอนหายใจยาว มองตามปารมีไปอย่างไม่เข้าใจ

     

    ตกดึกๆ วีนัสก็พาปริมลดามาที่ผับของเธอซึ่งเธอเพิ่งร่วมหุ้นเปิดร้านกับเพื่อนๆในกรุงเทพฯ หวังจะให้เหล้าย้อมใจเพื่อนสาวของเธอหลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่เกิดทั้งหมดจากปากปริมลดา

    “เฮ้ย! อย่าคิดมาก ที่นี่ไม่รับ ที่อื่นก็ยังมี หรือไม่ แกก็มาทำงานที่นี่ก็ได้” วีนัสเสนอ

    “ทำอะไรล่ะ? เด็กนั่งดริ๊งซ์หรอ?” ปริมลดาถามห้วนๆ

    “บ้าหรอ! ใครจะให้เพื่อนรักไปทำอย่างนั้น” วีนัสส่ายหัวกับอารมณ์บ่จอยของเพื่อนรัก

    “ดื่มกันเหอะ ฉันเลี้ยงเอง” วีนัสยกแก้วพวกค็อกเทลขึ้นมา ปริมลดาหยิบแก้วของตัวเองมาชน ดื่นจนหมดแก้วหน้าเหยเกอย่างคนไม่เคยดื่ม

    “ดื่มรวดเดียวเดียวก็เมาหลอก ดื่มเป็นไหมเนี่ยแกอ่ะ?” วีนัสปราม

    “ดื่มให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย” ปริมลดาบอกอย่างปลงๆ

    “แกไม่เห็นต้องเฮิร์ทอย่างนี้เลย แค่ไม่ได้งาน ไปหาที่อื่นก็ได้”

    “มันไม่เหมือนกันนะเว่ยไอ้วี ที่นี่น่ะเป็นบริษัทที่ฉันอยากทำงานมากที่สุดและฉันก็ตั้งความหวังไว้สูงซะด้วย”

    “พอไม่ได้ก็เลยตกมาเจ็บปางตายอย่างนี้น่ะหรอ มันใช่เรื่องไหมไอ้ปริม” วีนัสลอบถอนหายใจบ้าง

    “ใช่สิ! แกมันมีงานทำ มีบ้าน มีรถ มีเงิน...มีผู้ชาย” ปริมลดาเริ่มเพ้อ

    “เฮ้ย! อันหลังไม่ใช่และ...เอ้าๆ ดื่มย้อมใจกันหน่อย จะได้ไม่ต้องคิดมาก ดื่มหมดเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็ลืมเองแหละ ดื่ม!” วีนัสยกแก้วชนอีกครั้ง ก่อนจะดื่มกันไปหลายต่อหลายแก้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปริมลดาที่เป็นฝ่ายเริ่มชนทุกครั้ง

     

    เป็นเวลากันกับที่ปารมีและอนุตเพิ่งจะมาถึงหลังจากที่นัดกันมาดื่มตั้งแต่เมื่อวานก่อน

    “ร้านเปิดใหม่หรอ ไม่เคยเห็นมาก่อน” ปารมีถามขึ้น พลางสำรวจไปรอบๆ

    “อืม เพื่อนฉันเป็นหุ้นส่วนน่ะ ก็เลยลองมาดู” อนุตตอบพลางเดินตามพนักงานสาวแต่งตัววาบหวิว นุ่งน้อยห่มน้อยตามเข้าไป

    พลันสายตาของปารมีสะดุดเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวที่คุ้นเคยซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ทำให้เขาเจ็บปางตายเมื่อสามปีก่อน...เปรมกมล!

    “ฉันเจอเธอแล้ว เปรมกมล!!!” ชายหนุ่มคำรามแน่นก่อนจะจ้องมองหญิงสาวที่กำลังเมาได้ที่ด้วยสายตาประดุจเสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อทุกเมื่อเมื่อมีโอกาส

    “แกว่าอะไรนะ?” อนุตซึ่งได้ยินแว่วๆรีบถามขึ้นกลัวจะพลาดเรื่องสำคัญไป

    “ไม่มีอะไรหรอก แค่เจอแม่กวางน้อยที่ฉันหามานานเท่านั้นเอง!

    อนุตไม่สนใจกับนัยความที่เพื่อนรักพูด เพราะตอนนี้เขากำลังถูกปลุกอารมณ์จากแม่เสือสาวยั่วสวาทที่โลมเลียบริเวณใบหน้าของเขาไม่หยุดหย่อน จนเขาแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่ ต้องคอยระงับชั่งใจอยู่ในที จะมีบ้างที่เขาตอบสนองด้วยรสจูบที่ชวนหลงใหลอย่างที่สาวๆเคยบอกเอาไว้

    ปารมีไม่สนใจหญิงสาวที่มาซบที่อกกว้างของเขาที่พยายามจะทอดสะพานอย่างเต็มที่ เพราะสายตาของเขาจับจ้องไปที่ปริมลดาที่กำลังถูกหิ้วปีกโดยเพื่อนรักของเธอออกนอกผับไป ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบลุกตามไปติดๆ เพราะไม่แน่คืนนี้เขาอาจได้งับเหยื่อชิ้นใหญ่แทนหลังจากรอคอยมานานหลายปี

    “เฮ้! นายจะไปไหนน่ะ?” อนุตร้องถามขึ้น

    “โทษทีว่ะ ฉันเจอเหยื่อของฉันแล้ว...แล้วเจอกัน” ปารมีบอกได้แค่นั้นก็รีบตามออกไป อนุตทำท่าจะลุกขึ้นตาม แต่ก็ทนต่อลูกอ้อนของแม่เสือสาวไม่ได้ยอมศิโรราบเสพสุขกันต่อ

     

    วีนัสลากปริมลดาขึ้นรถก่อนจะบ่นอุบว่า

    “ยัยบ้านี่! รู้ว่าดื่มไม่เป็นยังจะดื่มเยอะอีก เฮ้อ

    รถของวีนัสขับออกไปตามถนนหลักจนถึงที่พักของปริมลดา โดยมีรถของปารมีสะกดรอบตามมาติดๆ

    วีนัสลงไปเปิดประตูรถหิ้วปีกปริมลดาลงมาพลางถามเสียงห้วนๆ

    “แกขึ้นไปเองได้มั้ยวะเนี่ย? ทำไมตัวหนักแบบนี้นะ”

    “ด้ายยย! ฉันหวายย” ปริมลดาส่งเสียงตอบออกมาทั้งๆที่ยืนยังแทบไม่อยู่

    “ท่าจะไม่รอดนะแกน่ะ มาๆเดี๋ยวฉันขึ้นไปส่ง” วีนัสเห็นว่าคงไม่รอดเลยอาสาจะพาขึ้นไปที่ห้อง แต่ปริมลดาขืนตัวบอกปัด

    “แกกลับไปได้แล้ว คุณลุงเค้ารอแกอยู่นะ ไปปายยย” ปริมลดาผลักวีนัสไปที่รถ

    “ไหวจริงแน่นะ? เออๆ...ไหวก็ไหว ถึงห้องแล้วนอนเลยนะ ไม่ต้องไปอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวได้ล้มหัวฟาดพื้นกันพอดี” วีนัสกำชับก่อนจะกลับไป

    “โอเค...” ปริมลดายกมือทำท่าโอเคก่อนจะพยายามเดินทรงตัวเข้าไปในห้องเช่า โดยมีปารมีสะกดรอบตามอยู่อย่างไม่ให้รู้ตัว

     

    ปริมลดาเดินเป๋ไปเป๋มาไร้การทรงตัวด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลในค็อกเทลที่ดื่มไปหลายแก้ว ก่อนจะตั้งหลักหยิบกุญแจขึ้นมาไขประตูห้อง เข้าไปล้มตัวนอนอย่างหมดแรง แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะพูดกับตัวเองว่า

    “ไม่ได้ฉันจะเป็นยัยเน่าตัวเหม็นไม่ได้” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นทรงตัว รวบรวมสติเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย หวังจะช่วยให้สร่างเมาจากแอลกอฮอลที่กินเข้าไป

     

    ชายหนุ่มผู้สะกดรอยตามมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของหญิงสาวที่ปิดประตูห้องไม่สนิท ปารมีกระหยิ่มยิ้มลำพองใจก่อนจะถือวิสาสะเข้าห้องของหญิงสาวโดยไม่ได้รับอนุญาต พลันได้ยินเสียงน้ำเปิดดังมาจากในห้องนอน เขาไม่รอช้าที่จะเข้าไปในห้องของเธอทันที ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนอนขนาดสามจุดห้านิ้วคุณภาพต่ำตามฐานะของราคาของห้องเช่านั้น

    ผู้ที่กำลังเป็นเหยื่อไม่รับรู้เลยว่าตนเองกำลังถูกสิงโตหนุ่มขย้ำในไม่กี่อึดใจข้างหน้า เธอปิดน้ำหลังจากการอาบน้ำเสร็จสิ้น หล่อนสวมเพียงเสื้อคลุมผูกเชือกไว้หลวมๆก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ พลันสายตาต้องเบิกกว้างเมื่อพบชายหนุ่มแปลกหน้าที่มานั่งอยู่บนเตียงนอนในห้องของเธอ หญิงสาวร้องอย่างตกใจ

    “แกเป็นใครน่ะ?!” ปารมีไม่ตอบพลางมองเหยื่อสาวที่มีท่าทีตกอกตกใจตาเป็นมัน ก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของสิงโตนักล่าจะผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างยากที่จะคาดเดาได้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×