ตอนที่ 98 : บทนำ 2 ผู้หญิงที่สำคัญกว่า REUP 100%
สามปีต่อมา
หญิงสาวในชุดเสื้อราชปะแตนคู่กับโจงกระเบนเดินเคียงมากับชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดไทยในยุคเดียวกัน พวกเขาทำทีเป็นชมสถานที่รอบข้างช้าๆ เพื่อหาจังหวะให้ช่างภาพได้ถ่ายรูป
“น้องคิตเชิดหน้าขึ้นอีกนิดครับ อา...นั่นแหละ พี่โบ๊ท พี่โบ๊ทมองน้องอย่างหวานซึ้งสิครับ ประหนึ่งว่า ‘โอ้ เธอนี่แหละนางในฝัน เธองามหยาดเยิ้มเหลือเกิน’ อาอย่างนั้นแหละ” ช่างภาพพูดไปก็ถ่ายภาพไปด้วย จนได้ภาพเซตสุดท้ายที่ถูกใจ ทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับ
“คิตครับ…วันนี้ว่างไปดื่มด้วยกันไหม” นายแบบหนุ่มที่ที่เธอร่วมถ่ายแบบด้วยกันเชื้อชวนเธอ
“ไม่ละค่ะ ขอบคุณ” ดาราสาวดาวรุ่งที่ช่วงนี้รับงานแน่นเอี๊ยดมาทั้งสัปดาห์ปฏิเสธทันที เธอไม่มีอารมณ์จะมานั่งสนใจใครทั้งนั้น เพราะคนที่เธออยากเจอมากที่สุดคือแฟนหนุ่ม เธอจึงโทร.นัดเขาเผื่อว่าเขาจะว่างมารับไปรับประทานอาหารด้วยกัน เธอเหนื่อยกับการทำงานมามาก การได้พบหน้าเขาถือเป็นรางวัลที่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย
เธอคบกับเขามานานกว่าสามปีแล้ว เขาเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกันกับเธอ
แฟนของเธอมีดีทุกอย่าง สุดแสนจะเพอร์เฟกต์ เป็นผู้ชายที่สาวๆ ต่างใฝ่ฝันถึง เธอโชคดีที่ได้คบกับเขา ซึ่งเป็นเพราะความกล้าที่เดินเข้าไปหาแล้วบอกเขาตรงๆ ว่าชอบ
ปัณฑ์ธรเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ซึ่งติวหนังสือให้น้องๆ ก่อนสอบ เขาทำหน้างงๆ ทว่าจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ตอบรับคำขอของเธอ เธอจึงได้เป็นเจ้าของเขามานานกว่าสามปี ทว่าสิ่งที่คนภายนอกเห็นและอิจฉาอาจไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด
“ตอนนี้ผมกำลังไปรับยิ้มที่มหา’ลัย แล้วต้องไปส่งที่สถาบันสอนศิลปะ” ทั้งที่หวังว่าจะพบหน้าเขา แต่แฟนหนุ่มกลับปฏิเสธ
‘คนธวัลย์’ ถึงกับไปไม่เป็นกับเหตุผลที่เหมือนเป็นการบอกปัดอ้อมๆ ถ้านี่เป็นครั้งแรก เธอคงจะไม่รู้สึกหดหู่ใจเท่าไร แต่นี่มันเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้ว
“แต่คิตให้พี่ปายขับรถออกไปแล้ว คิตไม่มีรถแล้วนะคะพี่ปัณฑ์” เธอหมายถึงผู้จัดการส่วนตัวของเธอ
“คิตพอจะหาแท็กซี่นั่งออกมาได้ไหม ถ้าแถวสุขุมวิทก็ไม่น่าจะหารถแท็กซี่ยากนี่ หรือจะนั่งรถไฟฟ้ามาก็ได้”
คนฟังพยายามระงับอารมณ์ เขาพูดเหมือนเธอเป็นแค่เพื่อน ไม่ได้ไยดีอะไร “แล้ว ‘ธุระ’ ของพี่จะเสร็จเมื่อไรคะ”
“ชั่วโมงหนึ่ง คิตไปรอที่ร้านก่อนได้เลย เดี๋ยวผมรีบตามไป”
จะว่าไปแล้วเขาไม่เคยใช้คำว่า ‘พี่’ กับใครเลย แม้แต่กับเธอ
ถ้าเป็นคนอื่นจะให้ดาราสาวที่คิวแน่นเอี๊ยด เวลาเป็นเงินเป็นทองมารออย่างนี้เธอคงด่าเปิงไปแล้ว แต่นี่เป็นเขา นอกจากจะต่อว่าไม่ได้แล้ว เธอก็ไม่อยากแสดงอารมณ์ร้ายๆ ออกไปให้เขาเห็น คนธวัลย์จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบรับ
ปัณฑ์ธรเป็นคนเรียนเก่ง อบอุ่น นิสัยดี พูดจาสุภาพ มีออร่าของความเป็นพี่ชายและเพศชายที่น่าเข้าหาอยู่เต็มเปี่ยม ทั้งยังเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน มีรูปลักษณ์ดี หน้าตาหล่อเหลา เขาเข้ากับเธอได้ดีในหลายเรื่อง ไม่เคยบ่นเอาแต่ใจ ไม่เคยหึงหวงให้มีปัญหา และไม่เคยตำหนิเรื่องที่เธอทำงานจนแทบไม่มีเวลาให้เขา เว้นเสียแต่อย่างเดียว…
ทว่าเธอร่ำร้องไปก็เท่านั้น เพราะเขาไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของเธอ ทั้งยังโกรธเวลาเธอบ่น ซึ่งทุกครั้งเธอต้องไปงอนง้อเขาราวกับว่าเธอเป็นคนผิด!
คนธวัลย์เดินทางด้วยรถไฟฟ้าอย่างจำใจ แม้จะแออัดบ้างและไม่มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนึกเจ็บใจปัณฑ์ธรและคนสำคัญของเขา…น้องสาวสุดที่รัก
เมื่อถึงร้านอาหารเธอยังต้องมานั่งรอเขากว่าชั่วโมง สรุปแล้วเธอเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่
“อาหารคงเย็นไปหน่อย เพราะว่าคิตสั่งไว้นานแล้ว” คนธวัลย์พูดแซะแฟนหนุ่มมาดนักธุรกิจที่วันนี้เขาอยู่ในชุดลำลองอย่างเสื้อยืดแขนยาวและกางเกงยีนส์สีน้ำตาลเนื่องจากเป็นวันหยุด กระนั้นความดูดีของเขาไม่ได้น้อยลงเมื่อเทียบกับชุดสูททำงานเลย ยิ่งถ้าเทียบกับสมัยเรียน ตอนนี้ถือว่าเขาดูดีกว่ามาก และนี่ก็มีส่วน (มหาศาล) ที่ทำให้เธอทิ้งเขาไปไม่ได้
“อ๋อ ดีแล้วละ เดี๋ยวอีกชั่วโมงผมต้องกลับไปรับยิ้ม” เขาที่เพิ่งมาถึงบอกกับเธอง่ายๆ
“…”
“ดูท่าช่วงนี้จะยุ่งน่าดู นอนก็ดึก เห็นบ่นว่างานเยอะ ทั้งโปรเจกต์จบ ไหนจะงานสอนพิเศษ”
“…”
“เตือนแล้วก็ไม่ฟังว่าอย่ารับงานเยอะ แต่เจ้าตัวก็รั้นท่าเดียว” เขาพูดอย่างเอ็นดู นัยน์ตาดูมีความสุขแกมกังวลแทนผู้หญิงคนนั้น
เขาพูดอวดหล่อนราวกับเป็นลูกสาว ทั้งที่จริงเป็นแค่น้องสาว ซ้ำยังไม่ใช่น้องแท้ๆ ด้วย
“เหรอคะ…ช่วงนี้คิตเองก็ยุ่งๆ เหมือนกัน งานแน่นทุกวันไปถึงเดือนหน้าเลย ซ้ำยังต้องเข้าคลาสฝึกแอคติ้งอีก ต้องไปเรียนการแสดงกับครูมะม่วง พี่ปัณฑ์เคยได้ยินชื่อเขาไหมคะ” เธอบอกยิ้มๆ ขณะเฝ้าดูท่าทางของเขา “ช่วงนี้เราคงจะได้เจอกันน้อยลง”
แต่เขากลับเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้แสดงอาการร้อนรนหรือเป็นห่วงเธอเหมือนอย่างที่บ่นถึงน้องสาวของเขาเลย “ดีแล้วล่ะ ต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำ สิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้ก็เป็นผลดีต่ออนาคตของคุณอยู่แล้ว”
มือของดาราสาวกำแน่น จนเล็บที่ทาสีมาอย่างดีจิกเข้าเนื้อเนียนกลางฝ่ามือ แต่เธอก็ยังมีสติ ปั้นหน้าอารมณ์ดี “ค่ะ ช่วงนี้นะคะ แต่อีกหน่อยคิตก็ต้องพักงานลง เพราะพออายุมากขึ้นคิตก็อยากมีเวลาส่วนตัว มีชีวิตครอบครัวบ้าง”.
“…”
“ถึงคิตจะยังอยากอยู่ในวงการต่อ แต่คิตก็อยากแต่งงาน คิตอยากมีลูกตอนอายุไม่เกินสามสิบ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งครรภ์ พี่ปัณฑ์เองก็เหมือนกันนะ ถึงจะทำงานหนักแค่ไหน แต่จะลืมใส่ใจลูกกับภรรยาไม่ได้”
ปัณฑ์ธรอึ้งไปเล็กน้อย แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเรียบเฉย ไม่ได้มีทีท่าตกใจ แต่แววตากลับแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่ได้คิดถึงอนาคตที่ไม่มีเธออยู่สักนิด
กระนั้นคนธวัลย์ก็ยังแข็งใจปั้นหน้ายิ้มให้เขา เพราะเธอไม่ได้พูดอะไรผิด
“คงคิดไม่ถึงละสิคะว่าคิตจะคิดยาวไปขนาดนั้น พี่ปัณฑ์ก็รู้ว่าคิตเป็นคนจริงจัง อีกห้าปีสิบปีข้างหน้าจะเป็นยังไงคิตก็วางแผนชีวิตเอาไว้หมดแล้ว คิดแม้กระทั่งว่าเราจะมีลูกชายกี่คน ลูกสาวกี่คนด้วย ทั้งยังเรื่องงานแต่ง คิตอยากจัดแบบส่วนตัวตรงริมหาด พี่ปัณฑ์ว่าดีไหมคะ”
นิ่งไปนาน ในที่สุดปัณฑ์ธรก็ยิ้มให้ก่อนบอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รีบกินกันเถอะ คุณจะได้รีบกลับไปพักผ่อน เดี๋ยวผมไปส่ง”
สามารถติดตามทั้งหมดไม่มีสะดุดได้ที่ E-Book ตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า
EBOOK ยิ้มนี้เป็นของพี่ ออกมาแล้วนะคะ
จิ้มลิ้งค์เลย >>>> ยิ้มนี้เป็นของพี่ <<<<<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
