ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Only You เพียงแค่เธอที่หัวใจฉันจะรัก!

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ....นับ 1

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 55


     “ออกไปจากบ้านฉันเลยนะ  นังเด็กเนรคุณ  แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ  ออกไป!

                    นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยิน  จากนั้นสมองของฉันก็มืดสนิท  สองขาสั้น ๆ ของฉัน (เอิ่ม  -*-) ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากบ้านหลังนั้นบ้านที่ฉันอยู่มา 17 ปี  ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดเค้าเชิญฉันออกจากบ้านด้วยถ้อยคำที่ไพเราะเหลือเกิน (เหรอออออ?)  แม่เรียกกินข้าวเด๋วมาเขียนต่อ นะค่ะ ขอโทษที อิอิ

    ต่อจากนี้ฉันคงกลับไปที่บ้านหลังนั้นไม่ได้อีกแล้ว  ชีวิตของฉันในที่สุดก็ถึงทางตันแล้วเหรอเนี่ย  ฮือ ฮือ ฮือ ทำไงดีล่ะ  ตอนนี้เงินก็ไม่มี  แล้วยังมาโดนไล่ออกจากบ้านอีก  ตายแน่ ตายแน่ ๆ แล้วยัยน้ำหวาน

     

    “แกว่าไงนะน้ำตาล  โดนไล่ออกจากบ้านเพราะเอาเงินค่าขนมไปซื้อคอร์สเรียนภาษาเกาหลีเนี่ยนะ?”

    “เฮ้อ ก็ใช่นะสิ  แต่นั่นมันเงินฉันนะแก  ฉันใช้เงินค่าขนมทั้งเดือนเลยนะเว้ย”

    “แกบ้าไปแล้วเหรอน้ำหวาน  แล้วแกคิดบ้างไหมว่าเดือนนี้แกจะกินอะไร”

    “ก็ฉันกะว่าจะใช้เงินที่เก็บไว้น่ะดิ  แต่ฉันก็ลืมไปว่าให้ยัยหนูเล็กยืมไปหมดแล้วอ่ะ” นั่นดิถ้ายัยหนูเล็กไม่ยืมป่านนี้ฉันคงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่หรอก (หนูเล็กคือลูกสาวของแม่เลี้ยงฉันเอง  คนที่ไล่ฉันออกจากบ้านนั่นล่ะ)

    “แล้วแกจะเอาไงต่อไปล่ะคราวเนี่ย  แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่มีเงินให้แกยืมนะเว้ย”

    “เออน่าซันนี่  ฉันก็ไม่ได้จะมายืมเงินแกหรอก  แค่มาขอพักด้วยซักคืนอ่ะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันก็ไปแล้ว”

    “ไปไหนของแก  แกมีที่ไปรึไง  เงินก็ไม่มี  เรียนก็ยังไม่จบ เรื่องงานเรอะไม่ต้องพูดถึง  อย่างแกเคยทำงานที่ไหนกัน”

    “มันก็จริงของแกอ่ะ  แต่ฉันกะว่าฉันจะไปหางานทำ แล้วก็เรียนภาษาเกาหลีให้จบ  จากนั้นนะแกฉันก็จะไปเกาหลี  เป็นไงแก  ความคิดฉันดีป่ะ”

    โพร๊ะ!!!  ฝามือพิฆาตของยัยซันนี่เพื่อนรักบรรจงวางที่ใบหน้าฉันอย่างจัง

    “ดีบ้านแกอ่ะดิ  คิดได้แค่นี้เหรอ  อะไร ๆ ก็เกาหลี  ฉันว่าแกจะต้องตายเพราะความบ้าเกาหลีของแกนี่แหละ”

    “แกก็รู้นี่หว่า  ว่าฉันคลั่งเกาหลีแค่ไหน  แกน่าจะเป็นคนที่เข้าใจฉันที่สุดสิ”

                    ความจริงแล้วฉันกะซันนี่ก็บ้าเกาหลีพอ ๆ กันแหละ  แต่บ้านซันนี่เค้ารวยเลยไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน  แต่ฉันสิบ้านก็จน  แถมแม่กับพ่อยังมาตายจากปล่อยให้ฉันอยู่กะแม่เลี้ยงใจร้ายอีก  ฮึ้ย  ชีวิตฉันเหมือนนางเอกในละครเกาหลีไหมล่ะคะ  ใช่เลย  ฉันนี่ล่ะนางเอก ฮุๆๆๆ

                    สองเดือนผ่านไป  ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะยังมีชีวิตอยู่  การเรียนภาษาของฉันจบสิ้นลงเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ แป่วว ว  ฉันตัดสินใจพาร่างกายอันน่าสมเพสของฉันขึ้นเครื่องบินลัดฟ้าไปที่ประเทศเกาหลีทันที  เมืองไทยจ๋า ลาก่อน T^T  แล้วยัยน้ำหวานคนนี้จะกลับมาพร้อมกับลูกเขยเกาหลีนะคะ

                    ทันทีที่ฉันเหยียบสนามบินอินชอน  ฉันรีบวิ่งออกมาที่ด้านนอกเพื่อสูดรับออกซิเจนของเกาหลีเข้าไปเต็มปอด

    “อ๊ายยยย  เกาหลี  หนาวจังเลย T^T”  ฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง  ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะมาเกาหลีทำให้ฉันเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงานเก็บเงินจนไม่ได้สนใจข่าวสารบ้านเมืองแม้แต่สภาพอากาศฉันก็ไม่ได้สนใจ  ให้ตายสิ  ร่างกายอันบอบบางของสาววัย 17 อย่างฉันต้องมาสั่นสะท้านเพราะความหนาวเย็นของอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำถึง  5 องศา  แม่เจ้าโว้ย  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจออากาศที่หนาวขนาดนี้มาก่อนเลย  ทำไงดีฉัน  ได้ตายรอบสองแน่ ๆ งานนี้ ยัยน้ำหวาน

                    พอตั้งสติได้ฉันก็รีบไปหาบัตรโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่เจี๊ยบที่ฉันติดต่อเรื่องงานเอาไว้ทันที  จากนั้นก็เดินตามแผนที่ที่พี่เจี๊ยบได้ชี้แจงแถลงไขให้ฉันรู้ทางโทรศัพท์เมื่อตะกี้  บ้ารึป่าวฉันมาเกาหลีครั้งแรกนะ  หนาวก็หนาว เงินก็ไม่ค่อยจะมี  ไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะกล้าปล่อยให้ฉันเดินทางไปเอง  โอ้พระเจ้า  ฉันหนาวจนก้าวขาไม่ออกแล้วนะ  T^T

    พลั่ก!!!  เอ๊ะ  เหมือนว่าจะมีคนมาชนฉันนะ  ทำไมฉันรู้สึกแปลก ๆ หว่า 

    “กร๊ากกก  ฟุตบาท”

    ตึก!!!  หน้าผากที่เถิกได้รูปของฉันฟาดลงกับฟุตบาทอย่าแรง  ของเหลวสีแดงไหลทะลักออกมาอย่างไม่เกรงใจ 

    “โอ๊ย เจ๊บนะโว้ย  ใครว่ะ” ฉันหันไปข้างหลังทันทีเพื่อหวังว่าจะด่าคนที่มาชนและเรียกร้องค่าเสียหายซะให้เข็ด

    “โห หัวแตกเลยเหรอเนี่ย เอา เช็ดซะ” ภาษาเกาหลีที่เค้าพูดกับผ้าเช็ดหน้าที่โยนลงมาบนหัวฉันทำเอาฉันอยากจะกรี๊ด  คนเกาหลีเหรอเนี่ย  ไม่เห็นเหมือนในละครเลย

    “นี่นาย..”

    “นี่เธอ ไม่มีตังค์กินข้าวรึไง  ผอมแบบนี้ไม่ต้องรอให้ฉันมาชนหรอก  แค่เดินผ่านเธอคงล้มหัวแตกเองได้อ่ะ ใช่ไหม ห๊า?” พอใช้คำพูดกระแทกหน้าฉันจบก็เดินจากไปหน้าตาเฉย

    “นี่นายมันจะมากไปแล้วนะ  นี่  จะไปไหน ห๊า  กลับมาเดี๋ยวนี้นะ  นี่ ฉันยังไม่ได้ค่าเสียหายเลยน๊ะ บ้าเอ๊ย”  ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ด้วยความยากลำบากเพื่อรีบเดินทางไปตามแผนที่ที่พี่เจี๊ยบให้ไว้  ให้ตายเหอะทำไมฉันต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วยนะ  เลือดบ้านี่ก็ไหลไม่ยอมหยุดเลย  โอ๊ย  อยากจะบ้าตาย  ฉันใช้ผ้าเช็ดหน้าที่อีตานั่นให้กดแผลเอาไว้เพื่อห้ามเลือด

     

    “อะไรนะคะ  แม่บ้านเหรอ”  จะให้ฉันไปเป็นแม่บ้านเนี่ยนะ  ไม่จริงมั้ง

    “จ๊ะ”

    “แต่พี่เจี๊ยบค่ะ หนูทำอาหารไม่เป็นนะคะ  ยิ่งอาหารเกาหลีแล้วไม่ต้องพูดถึงเลย  แล้วอีกอย่างหนูก็อยากจะเรียนด้วยนะคะ”

    “ดอนท์วอร์รี่จ้า  เธอไม่ต้องทำอะไรมากเลยแค่ทำความสะอาดบ้านหลังเล็ก ๆ  เธอสามารถเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยได้นะจ๊ะ  แถมยังมีที่พักฟรีให้อีกต่างหาก  ว่าไงสนใจรึป่าว”

    “ถ้าเป็นแบบที่พี่เจี๊ยบว่าจริง ๆ ก็น่าสนใจค่ะ”

    “งั้นดีเลย  เธอรออยู่ที่นี่นะ  ตอนเย็น ๆ  เดี๋ยวคุณนายจะมารับ  อ่อ  ไม่ต้องกลัวนะคุณนายเค้าเป็นคนไทยใจดีด้วย”

    “ค่ะ” ว้าว  ฉันเจอคนไทยอีกคนแล้วดีจังเลย อิอิ  ว่าแต่ว่าที่เจ้านายฉันจะเป็นยังไงกันน้า 

     

                    เวลาที่เกาหลีเดินไปอย่างรวดเร็ว  ต่างจากเมื่อสองเดือนที่แล้วที่แสนทรมานของฉันอย่างลิบลับ  ประมาณห้าโมงเย็นตามเวลาเกาหลี  คุณนายคัง  หรือคุณนายจรวยพร  ก็มารับฉันที่ร้านอาหารของพี่เจี๊ยบ   คุณนายพยายามอธิบายงานที่ฉันต้องทำ  และเล่าเรื่องว่าที่เจ้านายของฉันให้ฉันฟังก่อนล่วงหน้าด้วย  ใช่แล้วค่ะ  คุณนายไม่ใช่เจ้านายที่แท้จริงของฉัน  แล้วเจ้านายของฉันเป็นใครน่ะเหรอ  เท่าที่จับใจความได้  เค้าเป็นลูกชายของคุณนายคัง  ชื่อคัง  ยูวอน  อายุ 16 ปี  ปีหนึ่ง  โรงเรียนชายล้วนยองโด  และสิ่งที่ฉันต้องทำก็คือดูแลคุณหนู!  แอ่ก  อยากตายอีกรอบจังเลย  ฉันเกลียดเด็กกกกกกกกก!

    รถซีมูนสีดำหรูหยุดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง  รั้วบ้านที่สูงแค่เอวทำให้มองเห็นลักษณะของบ้านได้ชัดเจน  เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ   ชั้นเดียว สีขาวสะดุดตา  บรรยากาศตอนนี้ดูเงียบสงบไร้วี่แววของเจ้าของบ้าน  ด้านหน้ามีสวนดอกไม้ที่เหี่ยวใกล้ตาย  ประมาณว่าแค่เดินเฉียดไปใบคงร่วงเป็นทาง

    “ลงไปได้แล้วจ๊ะ  เค้าอยู่ที่นี่  โชคดีนะจ๊ะ  ฝากดูแลยูวอนของเราด้วยนะ ^^

    “แล้วคุณนายไม่เข้าไปด้วยกันเหรอคะ?”

    “ฉันมีธุระต้องทำ  มีอะไรก็ติดต่อมาตามนี้แล้วกันนะ  แล้วนี่เงินโบนัสของเธอ  ฉันให้เธอเพราะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน  ส่วนเงินเดือนฉันจะให้ทีหลังนะ”

    “ค่ะ”  ฉันรับเงินนั้นไว้  คุณนายคังใจดีกับฉันจริง ๆ เลย  ฉันโชคดีจริง ๆ ที่ได้เจอคนใจดีแบบนี้ 

    “เอาล่ะ  สู้ ๆ น้ำหวาน!

    ฉันนั่งรออยู่หน้าบ้าน  เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่  น่าแปลกใจจริง ๆ ทำไมคนที่มีรถหรูขนาดนั้นต้องมาอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ แบบนี้ด้วยนะเนี่ย  คนเกาหลีนี่แปลกดีแฮะ  ฟ้ามืดแล้ว  และ...หิมะก็ตก  แล้วไง  ก็ไม่แล้วไงหรอก  ก็แค่หนาววววววววว T~T

    งืออออออออ~~~  ร่างกายที่บอบบางเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกของน้ำหวานสั่นสะท้านด้วยความหนาว  เวลาล่วงเลยไปจนตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาว่าห้าทุ่มแล้ว  เจ้านายของเธอก็ยังไม่มา   

    “นี่ พ่อส่งเธอมาเหรอ!

    “คัง  ยู  วอน  คัง  ยูวอน  คุณหนู  มาแล้วเหรอคะ” ฉันรีบกระโดดขึ้นยืนทันทีที่เห็นป้ายชื่อนักเรียนที่ติดอยู่กลางอกของเค้าเขียนว่า  คัง  ยูวอน

    “กลับไปได้แล้ว  ฝากบอกพ่อด้วยว่า  หยุดสักที  ผมดูแลตัวเองได้”

    “ไม่ใช่นะคะ  คุณนายโจแม่ของคุณหนูต่างหากที่พาฉันมาที่นี่”

    “เค้าไม่ใช่แม่ฉัน! คุณหนู “กระชาก” คอเสื้อของฉันเต็มแรง  ก่อนจะผลักฉันลงไปกองกับพื้นอย่างแรงอีกเช่นกัน

    O_O!

    “.....”

    “กลับไปซะ  ฉันไม่ต้องการอะไรจากบ้านนั้นอีก”

    “ไม่!”  บ้าเอ๊ย เจ็บนะยะ  ทำมาได้ฉันเป็นผู้หญิงนะ  ไอ้เด็กบ้า 

    “ยังไงฉันก็จะอยู่ดูแลคุณหนู  ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น” ฉันไม่มีที่ไปต่างหากล่ะ  T^T

    “...” เด็กนั่นไม่พูดอะไรอีก  เค้าเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับสีหน้าเย็นชา  แววตาของเค้าเย็นพอ ๆ กับหิมะที่ตกใส่หัวฉันอยู่ตอนนี้  อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา  เป็นไปได้ไงกัน  ฉันยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน  เค้าปิดประตูโดยไม่สนใจว่าฉันจะเป็นตายร้ายดียังไง  ใครจะยอมยืนตากหิมะอยู่นี่ทั้งคืนกันเล่า  ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่ทำอย่างแน่นอน

    ฉันหาทางเข้ามาในบ้านจนสำเร็จ  จากประตูหลังบ้าน  บ้านหลังนี้ดูน่าอยู่กว่าที่คิด  ทางที่ฉันเข้ามาเป็นห้องครัวเล็ก ๆ  ถัดไปด้านหน้าเป็นห้องนั่งเล่น  และซ้ายมือเป็นห้องน้ำ  อีกฝั่งหนึ่งเป็นประตูที่น่าจะเป็นห้องนอนของเด็กคนนั้น  ฉันค่อย ๆ เปิดประตูห้องเข้าไป  ก็เห็นว่าเค้ากำลังนอนหลับอยู่บนเตียง  เตียงเดี่ยวสีเทากับห้าห่มฟูหนา  ช่างดูอบอุ่นอะไรอย่างนี้  ฉันค่อย ๆ ถอดเสื้อโค้ดที่เปียกชื้นไปด้วยหิมะแขวนไว้ที่ราว  จากนั้นก็ค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนเตียงอุ่นที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่สนใจเด็กชายที่นอนอยู่ก่อนแล้วแม้แต่น้อย 

    “ขอนอนด้วยคนนะ  ข้างนอกห้องนายมันหนาวอ่า” ฉันขออนุญาตเบา ๆ ก่อนจะวางศีรษะลงบนหมอนเบา ๆ เพื่อไม่ให้อีกคนตื่นขึ้นมาไล่ฉันไปที่อื่นก่อน  ฮ่าๆๆ

    เพราะว่าเค้าอายุน้อยกว่าฉันเลยไม่คิดว่าเค้าเป็นผู้ชาย  ฮ่าๆๆ  ฉันไม่สนใจว่ามันจะดูไม่ดีหรือว่าอะไรทั้งนั้นฉันสนใจแต่เพียงว่าฉันจะต้องหลับฝันดีบนที่นอนอุ่น ๆ เพื่อให้ฉันมีชีวิตรอดไปจนถึงวันพรุ่งนี้ให้ได้  บางทีฉันก็นึกขอบคุณเด็กคนนี้จริงๆ ที่หลับสนิทเปิดโอกาสให้ฉันได้อาศัยผ้าห่มอุ่น ๆ นี้ด้วย  ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเด็กชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ  เค้านอนทั้ง ๆ ที่ยังสวมกางเกงนักเรียน  เสื้อนักเรียนถูกเปลี่ยนออกไปเหลือแต่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำแทน  เสื้อสีดำกับผิวสีขาวของเค้าทำให้ดูเหมือนว่าเค้าเรืองแสงได้  ขาของเค้าวางยาวจนถึงปลายเตียงและดูเหมือนว่าเกือบจะเลยขอบเตียงไปด้วยซ้ำ  ที่คอของเค้ามีสร้อยเงินเส้นเล็ก ๆ พร้อมจี้อยู่หนึ่งเส้น  จี้รูปทรงแปลกตาซึ่งฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร  พรุ่งนี้เช้าค่อยดูแล้วกัน  ใช่  ฉันยังเห็นหน้าเค้าไม่ชัดเลย  ขอดูหน่อยนะเบบี้    ว้าว  เด็กคนนี้หน้าตาไม่เลวเลยทีเดียว  แม้ในเวลาที่หลับเค้าก็ยังดูหล่อแฮะ  ไม่ได้แค่หล่อนะ  หล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกก.

     
    Talk
    สวัสดีค่ะ  ไม่เจอกันนานหวังว่าทุกคนคงจะสบายดี
    คิดถึงจังเลยค่ะ  ต่อจากนี้ไปเรามาสนุกด้วยกันอีกนะคะ
    กับฟิคเรื่องใหม่เอื่ยมของไอเรื่องนี้  ฮ่าๆๆ ยังไงก็ติชมกันด้วยนะคะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×