ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : โลกใบใหม่

    ลำดับตอนที่ #79 : End Tale Pt. F: Finale ~ In the Name of Peace

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 355
      9
      22 ก.ค. 61

    End Tale Pt. F: Finale ~ In the Name of Peace
     
    คณะเดินทางมองภาพร่างสีน้ำเงินบอกลากับร่างสีแดง ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกกลืนไปกับแสงสว่าง ภาพสุดท้ายหยุดนิ่งที่สีขาวสนิท
     
    #หลังจากนั้นไม่นานเอ็กซ์ก็เดินทางมาถึงฮาลเคกิเนีย เรื่องต่อจากนั้นไม่มีอะไรที่พวกคุณคนใดคนหนึ่งไม่ทราบ#
     
    ภาพดับไปแล้วครู่หนึ่งไซโตะก็ยังจ้องอยู่ จนได้ยินเสียงของนานะเขาจึงรู้สึกตัวและกลับสู่โลกของตัวเอง
     
    เมื่อกี้นี้มัน...
     
    สมองของเขาต้องค่อยๆ กลับมาทำงานอย่างช้าๆ  ร่างกายติดขัดเล็กน้อยจากการอยู่ท่าเดิมเป็นเวลานานชั่วโมงกว่า ไซโตะเทียบความรู้สึกนี้เหมือนกับการดูหนังที่เนื้อเรื่องเข้มข้นมากๆ ในโรง พอจบแล้วก็รู้สึกว่างเปล่า จนกว่าจะดึงสติกลับมาได้
     
    เขาไม่รู้จะคิดอะไร ถ้าเป็นหนังสั้นหรือสารคดีที่มีหัวเรื่องเรื่องเดียวยังสามารถให้ความเห็นตรงๆ ได้ แต่นี่เป็นชีวประวัติจริงๆ ที่มีสารพัดเรื่องทั้งที่เขาเข้าใจและที่ยากเกินไป เขามีหลายความเห็นกับแต่ละเรื่อง จนไม่รู้จะจัดสรรอย่างไร
     
    เขาก้มลงมองที่เอ็กซ์ เอ็กซ์ยังคงหันหลัง เขาไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ภาพฉายเอ็กซ์อยู่ในท่านั้นตลอดหรือว่าเงยหน้าขึ้นดูภาพนั้นเช่นเดียวกับพวกเขาเป็นครั้งคราว
     
    ทันใดนั้นเอ็กซ์ก็หันกลับมาและมองมาที่เขา ดวงตาสีเขียวมรกตดูมืดมัว เหมือนกับตอนที่เขานอนลงบนพื้นท่ามกลางกลีบกุหลาบที่เปื้อนของเหลวสีแดง
     
    #ฉันรู้ว่าพวกคุณต้องการเวลาทบทวน แต่ฉันขอทวนคำเตือนเดิมอีกครั้ง เมื่อคุณมาถึงขั้นนี้แล้วประตูสู่ภายนอกก็ไม่เปิดให้พวกคุณอย่างอิสระอีกต่อไป...#
     
    กีชกับมาลิคอร์นหันหลังกลับไปและเห็นทางออกเพียงหนึ่งเดียวถูกปิดด้วยกำแพงหินแบบในห้องสระน้ำ
     
    เฮ้ย! จะทำอะไรเนี่ย?!”
     
    #เป็นข้อตกลงระหว่างฉันกับเอ็กซ์ ฉันไม่สามารถผิดได้#
     
    คีร์เก้ดูไม่สบอารมณ์มาตั้งแต่บันทึกภาพจบลง เมื่อได้ยินคำพูดของนานะก็ยิ่งฉุนหนักขึ้นไปอีก คีร์เก้หันหลังไปทางออกที่ถูกปิดตายและยกคทาขึ้น
     
    แล้วคิดว่าพวกฉันต้องคล้อยตามความคิดของเธอรึไง? ของแค่นี้น่ะ
     
    ลูกไฟลูกใหญ่ปรากฏขึ้นที่ปลายคทาของคีร์เก้ คาถาเดียวกับที่เผาหุ่นมนุษย์หมึกไปพร้อมกับมือโกเลมหินของคัทเลยา ความโกรธทำให้พลังของมันรุนแรงกว่าปกติมาก ลูกไฟพุ่งเข้าชนกับผนังหิน
     
    และสะท้อนกลับมา
     
    คีร์เก้ตกใจจนลืมหลบ แต่ก่อนลูกไฟจะมาถึงตัว ร่างสีแดงก็กระโดดเข้ามารับแทน ดาบพลังงานสีเขียวตัดลูกไฟเป็นสองส่วนและสลายไป
     
    เมื่อ—เมื่อกี้นี้มันอะไรน่ะ...? ลูกไฟเด้งกลับมาเฉยเลย มอนท์โมรันซี่ตะลึงงัน
     
    “[เคาน์เตอร์]” เดอร์ฟลิงเกอร์อธิบายจากมือของไซโตะ เวทมนตร์ของเอลฟ์ การโจมตีไม่ว่าด้วยอาวุธหรือเวทมนตร์ก็ถูกสะท้อนกลับ กำแพงหินนั่นมีเคาน์เตอร์ลงเอาไว้
     
    #ไม่ใช่เพียงแค่กำแพง ตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดานต่างปกคลุมด้วยเคาน์เตอร์ กำลังของพวกคุณหนีออกไปไม่ได้#
     
    นี่ เจ้าดาบ ไม่มีวิธีทำลายไอ้เคาน์เตอร์อะไรนี่เลยเหรอ? อาเนียสถาม
     
    มีสิ แต่คนที่ใช้ได้ไม่อยู่
     
    หลุยส์... ไซโตะพึมพำ
     
    #หน้าที่ของฉันหมดลงแต่เพียงเท่านี้ ที่เหลือเป็นเรื่องระหว่างพวกคุณกับเอ็กซ์#
     
    ชื่อของเอ็กซ์ทำให้พวกไซโตะกลับไปมองร่างสีน้ำเงินอีกครั้ง พวกเขาประหลาดใจเมื่อเห็นเอ็กซ์เดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆ  ผ้าพันคอเปลวสีแดงสะบัดเบาๆ
     
    หมอนั่น...จะทำอะไรน่ะ? กีชกลั้นใจถามออกมา
     
    คำตอบปรากฏขึ้นเมื่อเอ็กซ์ยกแขนขวาที่เปลี่ยนเป็นบัสเตอร์ขึ้นเล็งมาทางพวกไซโตะ
     
    ...หมอนั่นคงไม่...
     
    กระสุนพลังงานพุ่งเข้ามา และถูกดาบพลังงานสีเขียวฟันสลายไป
     
    ร่างสีแดงกับสีน้ำเงินจ้องมองซึ่งกันละกัน ดวงตาสีเขียวมรกตลุกโชน สลัดความยับยั้งทั้งหมดทิ้งไป ดวงตาสีน้ำเงินแข็งและนิ่ง ซ่อนความตั้งมั่นไว้ข้างใน
     
    แล้วทั้งคู่ก็วิ่งเข้าหากัน
     
    เดี๋ยวสิ...? สองคนนั้นทำอะไร? ไซโตะถามออกมา แต่ไม่มีใครให้คำตอบได้
     
    [...]
     
    อย่ามัวแต่ดู รีบเปิดๆ ได้แล้วล็อกน่ะ!”
     
    เชลสะดุ้งเมื่อถูกเลเวียธานตวาด และหันกลับไปกดคอมพิวเตอร์ต่อ พยายามสลัดความรู้สึกที่ปั่นป่วนจากสิ่งที่ได้ดูทิ้งไป
     
    เลเวียธานกัดฟัน สิ่งที่เธอกลัวเริ่มขึ้นจนได้ กลุ่มข้างบนต่อสู้กับท่านเอ็กซ์ก่อนพวกเธอจะชิงมาเธอร์เอลฟ์กลับมาได้ แถมทางหนียังถูกปิดอีก ถ้าพวกเธอไม่รีบข้างบนอาจได้กลายเป็นศพกันหมด
     
    ท่านเอ็กซ์จะทำได้จริงๆ หรือ สังหารมนุษย์ สังหารคนที่เคยเป็นเพื่อน หลังจากที่ได้เห็นบันทึกเหล่านั้นเธอก็เริ่มไม่แน่ใจแล้ว
     
    แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือสิ่งที่เธอสงสัยมาตลอด สิ่งที่อยู่ในใจเจ้านายของเธอ ที่ทำให้เขาทำสิ่งที่เธอไม่เข้าใจมากมาย สิ่งนั้นไม่จำเป็นต้องดูบันทึกเหล่านั้นก็สามารถเข้าใจได้ คำใบ้มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่เธอไม่เคยปะติดปะต่อได้ จนกระทั่งบันทึกนั้นเฉลยให้ดูโต้งๆ
     
    ที่เธอเจ็บใจที่สุดก็คือตอนนี้เธอรู้แล้วว่าซิสเตอร์ที่ท่าเรือแห่งนั้นเข้าใจ ไม่รู้ว่าท่านเอ็กซ์บอกตรงๆ หรือซิสเตอร์ปะติดปะต่อด้วยตัวเองจากเรื่องที่เล่า แต่ซิสเตอร์คนนั้นก็เข้าใจ ทิ้งคำใบ้ที่สำคัญที่สุดไว้ให้กับพวกเธอในวาระสุดท้าย
     
    ความแค้น
     
    หลุยส์จ้องภาพที่ห้องโถงโดยวางตา มองร่างสีน้ำเงินกับสีแดงที่ปะทะกันอย่างไม่ออมกำลัง
     
    อะไรกันน่ะ หมอนั่น...ล—แล้วทำไมจู่ๆ ก็สู้กันขึ้นมา
     
    เลเวียธานไม่แน่ใจนัก กับซีโร่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แต่เธอคิดว่าเป็นเพราะซีโร่เองก็มองเห็นเช่นเดียวกัน สิ่งที่อยู่ในใจของท่านเอ็กซ์ แม้จะไม่มีความทรงจำ แต่ก็อาจเข้าใจได้ด้วยสายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็นระหว่างทั้งคู่
     
    การต่อสู้ครั้งนี้...ผลลัพธ์มีได้สามทางเท่านั้น และมีทางเดียวที่พวกเธอจะสามารถยอมรับได้
     
    [...]
     
    เอ็กซ์กับซีโร่พุ่งเข้าปะทะกันที่กลางห้องโถง ซีโร่ตวัดดาบออกไปในแนวนอนเมื่อเอ็กซ์เข้ามาในระยะ เซเบอร์ผ่านร่างของเอ็กซ์ไปราวกับไม่มีตัวตน วินาทีนั้นลูกตุ้มมีหนามก็พุ่งสวนเข้ามา
     
    ซีโร่เคยเห็นการโจมตีรูปแบบนี้แล้วจึงตอบสนองได้ทัน ตวัดเซเบอร์ย้อนกลับมาผ่าลูกตุ้มเป็นสองส่วน แต่ละซีกของลูกตุ้มกระเด็นผ่านไปด้านข้าง
     
    ไม่ทันจะได้พักวงล้อโลหะสามวงก็กลิ้งตรงเข้ามาในแนวหน้ากระดาน แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูไม่มีพิษสงแต่ซีโร่ก็เชื่อสัญชาตญาณและกระโดดหลบขึ้นไปบนฟ้า
     
    เอ็กซ์ยกบัสเตอร์ขึ้นตามร่างของซีโร่และยิงมิสไซล์สามลูกที่พุ่งตรงเข้าไปยังตำแหน่งของเป้าหมาย
     
    ทันทีที่มิสไซล์ทั้งสามลูกเข้ามาถึงปลายระยะดาบ ซีโร่ก็ตวัดเซเบอร์ออกไป ทำลายทั้งสามลูกโดยที่แรงระเบิดไม่ส่งผลถึงตัวเอง
     
    ทว่าในเวลานั้นเอ็กซ์ก็แดชเข้ามาอยู่ใต้ตัวของซีโร่แล้ว และชูบัสเตอร์ขึ้นยิงบอลน้ำลูกใหญ่ตรงขึ้นไปหา
     
    ซีโร่จุดบูสเตอร์กลางอากาศถอยออกมาได้ แต่กลับถูกอาวุธมีคมจู่โจมจากด้านหลัง เป็นบูมเมอแรงสีดำที่ซ่อนในความมืดสองอัน
     
    ยังไม่ทันจะตั้งตัวได้ร่างของซีโร่ก็ถูกดึงกลับไปข้างหลังราวกับแรงดึงดูดเปลี่ยนทิศ ผลจากอุปกรณ์ทรงกลมสร้างแรงดึงดูดบนผนังที่เอ็กซ์ยิงติดตั้งเอาไว้
     
    ซีโร่ยกแขนและขาขึ้นรับตัวเองก่อนจะกระแทกกับผนัง ตอนนั้นเองวงล้อเหล็กสามวงที่หลบไปเมื่อครู่ก็ไต่ผนังขึ้นมาถึงตัว วงล้อทั้งสามระเบิดทันทีที่สัมผัสกับเป้าหมาย
     
    โซ่พลังงานพุ่งเข้าไปกลางการระเบิด และดึงร่างของซีโร่กลับไป เอ็กซ์ยึดโซ่พลังงานด้วยแขนซ้าย ส่วนแขนขวาเป็นบัสเตอร์ที่กำลังสะสมพลังงาน
     
    ซีโร่กัดฟันตัดโซ่พลังงานขาดในทีเดียว แต่สายไปเพียงเสี้ยววินาที กระสุนบัสเตอร์เต็มกำลังปะทะกับร่างของเขาอย่างรุนแรง ผ่านตัวเขาไป ปะทะกับเคาน์เตอร์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะฝ่าเข้าไปถึงกำแพงและสร้างช่องขนาดเท่าคนลอดผ่านได้
     
    ร่างของซีโร่กระแทกกับพื้น ไถลมาตรงหน้าพวกไซโตะ ซึ่งมีสีหน้าหวาดกลัวในระดับต่างกัน ไล่จากมอนท์โมรันซี่ซึ่งหน้าซีดเผือดลงไปถึงอาเนียสที่เพียงแค่เบิกตาขึ้น
     
    ไซโตะรีบพยุงซีโร่ให้ลุกขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่กล้าละสายตาจากเอ็กซ์ที่ยืนอยู่กับที่
     
    ใช้อะไรก็ไม่รู้ออกมาตั้งเยอะแยะ ...เป็นเพราะไซเบอร์เอลฟ์อะไรนั่นใช่มั้ย ได้เปรียบกันเกินไปแล้ว คีร์เก้กำคทา แต่ยังชั่งใจว่าควรทำอะไรหรือไม่
     
    นายไปพักก่อน เดี๋ยวฉันต่อเอง ไซโตะปล่อยมือเมื่อซีโร่ยืนขึ้นได้และจะเข้าไปแทน แต่ซีโร่รั้งไหล่ห้ามไว้
     
    เชื่อหมอนั่นเถอะคู่หู เดอร์ฟลิงเกอร์เห็นตามซีโร่ เห็นระเบิดเมื่อกี้มั้ย ทำลายกำแพงที่มีเคาน์เตอร์ได้เชียวนะ ถ้านายโดนไอ้นั่นเข้าไปรับรองแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดีแน่ พลังต่างกันเกินไป
     
    คำเตือนของเดอร์ฟลิงเกอร์ทำให้ไซโตะชะงักและกลืนน้ำลาย เขาเองก็ไม่รู้สึกโสภาภาพตัวเองกระจัดกระจายเป็นชิ้นเช่นกัน
     
    จริงสิ! ผนังพังแล้วนี่ ถ้างั้นเราก็หนีได้แล้ว!” กีชร้องขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางผนังที่ถูกระเบิดทำให้เสียหาย รอยยิ้มบนใบหน้าตะโกนว่า รอดแล้ว!’
     
    แต่กลับเห็นเศษหินลอยกลับขึ้นไปซ่อมแซมตัวเองได้
     
    เฮ้ยยยยยยย!!~” กีชกับมาลิคอร์นประสานกันร้องเสียงหลงด้วยความสิ้นหวัง
     
    แม้จะไม่เท่ากีชกับมาลิคอร์น แต่คนที่เหลือก็แสดงความประหลาดใจเช่นกัน
     
    #ห้องนี้มีไซเบอร์เอลฟ์คอยซ่อมแซมความเสียหายอยู่ เป็นมาตรการสำรองเมื่อพบว่าเคาน์เตอร์มีพลังไม่พอจะป้องกันการจู่โจมบางชนิด# นานะอธิบายสาเหตุที่สามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีทางหนี
     
    อะไรกันน่ะ...อย่างนี้ก็มีแต่หวังว่าหมอนั่นจะเป็นฝ่ายชนะเท่านั้นน่ะสิ
     
    ซีโร่ตั้งท่าและพุ่งกลับเข้าไปในการต่อสู้ เอ็กซ์ยิงบัสเตอร์สวนกลับมา ทำให้พวกไซโตะหาที่หลบหลังเสา
     
    แต่ดูแล้วถ้าให้หมอนั่นสู้คนเดียวไม่น่ามีหวัง พวกผู้ชายน่ะทำอะไรซักอย่างซิ คีร์เก้หันมาสั่งพวกกีช
     
    ง—ไหงงั้นเล่า?! เธอกับทาบาสะเป็นระดับไทรแองเกิ้ลไม่ใช่เหรอ!?”
     
    เร็วขนาดนั้นคาถาพวกเราจะไปทันได้ไงเล่า คีร์เก้กอดอกพูดอย่างใจเย็นราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
     
    จริงสิกีช ทำเหมือนตอนที่เราสู้กับตัวที่เร็วๆ น่ะ ไซโตะได้ความคิด
     
    อ—เอางั้นเหรอ ถ้าฉันโผล่หน้าออกไปไม่โดนลูกไฟเหลืองๆ ระเบิดใส่หัวนะ?
     
    ไม่โดนหรอกน่า! หมอนั่นไม่ได้ตั้งใจยิงมาทางเราซะหน่อย ที่จริงเหมือนไม่ได้สนใจเราเลยด้วยซ้ำ สนใจแต่ซีโร่คนเดียว ไซโตะพูดเองก็เริ่มคิด
     
    เอ็กซ์...เป้าหมายหมอนั่นคืออะไรกันแน่...
     
    เท่าที่เห็นมาคือพยายามให้พวกเขามาที่นี่ หลังจากนั้นก็ให้พวกเขาทำ บททดสอบ ต่างๆ นานา(แต่นั่นน่าจะเป็นความคิดของนานะมากกว่า) แล้วจู่ๆ ก็เริ่มการต่อสู้ขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หลังจากได้ดูบันทึกนั่นแล้ว ไซโตะรู้สึกว่าน่าจะหาคำตอบได้
     
    กีชโผล่หน้าออกไปจากหลังเสาอย่างช้าๆ  มองดูการต่อสู้ที่ตาเขาตามแทบจะไม่ทัน รอจังหวะที่ร่างสีแดงฝั่งเขาทำท่าจะเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายได้ ร่ายคาถาสร้างมือหินขึ้นจับข้อเท้าเอาไว้
     
    เอ็กซ์ไม่แสดงออกว่าใส่ใจคาถาของกีช ยกเท้าขึ้นจากพื้นราวกับมือหินของกีชเป็นแค่นุ่นและเตะแขนซ้ายของซีโร่ที่ตวัดดาบเข้ามาออกไปให้พ้นทาง
     
    กีชหดกลับเข้าไปหลังเสาและร้อง ไม่ได้ผล!~’
     
    นายนี่ ถึงเวลาทีไรไม่เคยพึ่งพาได้เลยนะยะ!” มอนท์โมรันซี่กำลังกลัวจึงลงความไม่พอใจกับกีช
     
    ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหนูนี่หรอก อย่างที่ดาบพูดได้ว่า พลังต่างกันเกินไป อาเนียสตัดสินอย่างเยือกเย็น แต่เหงื่อที่หน้าผากบอกว่าภายในไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสียทีเดียว
     
    ไซโตะมองการต่อสู้ที่เกือบจะสูสี แต่เอ็กซ์เป็นฝ่ายได้เปรียบสองก้าวอยู่เสมอเพราะความสามารถพิเศษที่มีมากกว่า
     
    ไม่มีอะไรที่เราทำได้เลยเหรอ?! แล้วทำไมอยู่ดีๆ หมอนั่นทำท่าเหมือนจะฆ่าเราขึ้นมา?
     
    อยู่ดีๆ ที่ไหนกันเล่า ลืมตอนที่นายโดนเตะตกหลังมังกรไปแล้วเหรอ มาลิคอร์นเตือน
     
    ฉันหมายถึงตอนนี้สิ! ตอนแรกหมอนั่นก็ยืนอยู่เฉยๆ  แต่อยู่ดีๆ แววตาก็เปลี่ยนไป เหมือนกับ ต้องจัดการเดี๋ยวนี้ อะไรอย่างนั้น
     
    ฮืม...ไม่ใช่เพราะโดนพวกเราเห็นอดีตของตัวเองเหรอ? เรื่องพวกนั้น ถ้าจะคิดว่า คนที่รู้ต้องตาย ก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้นา คีร์เก้สันนิษฐาน
     
    ดวงตาของอังริเอตต้ากับทาบาสะจับจ้องที่การต่อสู้ของเอ็กซ์กับซีโร่ ความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในอกทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถละสายตาได้
     
    มิสออร์เลียง คุณคิดว่า...
     
    ...ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า...
     
    ไซโตะได้ยินบทสนทนาที่ราวกับรหัสลับส่วนตัวของทั้งสองคน
     
    องค์หญิง ทาบาสะ รู้อะไรเหรอ?
     
    อังริเอตต้าหันมาทางไซโตะ ก่อนจะหันกลับไปที่การต่อสู้
     
    เป็นความรู้สึกของฉันเองมากกว่าค่ะ อดีตของเขาที่เป็นผู้นำ ฉันรู้สึกว่าเข้าใจ ความรู้สึกเมื่อสิ่งที่อยู่รอบตัวค่อยๆ พังทลาย ความรู้สึกว่าหายนะที่บังเกิดแก่อาณาจักรเป็นของเรา ความผิดบาปค่อยๆ กัดกินจิตใจ มันสามารถทำให้คนคนหนึ่งสิ้นหวังถึงขนาดที่ไม่อาจอยู่ต่อไปได้
     
    อยู่บนบัลลังก์ได้ไม่ถึงปี ในการเข้ารุกรานอัลเบี้ยน อังริเอตต้าก็ได้สัมผัสกับน้ำหนักของการเป็นราชินี ได้สำนึกว่าความผิดพลาดของตัวเองส่งผลร้ายได้มากเพียงใด ถึงขนาดที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
     
    ...ฉันเคยรู้สึกอย่างนั้น
     
    ทาบาสะ? คีร์เก้ประหลาดใจกับคำสารภาพของเพื่อน
     
    หลังจากเสียท่านแม่ให้กับยาพิษ ฉันก็รู้สึกว่าชีวิตข้างหน้ามีแต่ความทรมานรออยู่ ความรู้สึกว่าความตายเป็นทางออกนั้นฉันเข้าใจดี
     
    เมื่อเห็นภาพของเอ็กซ์ในอดีตที่นอนราบกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทาบาสะก็นึกถึงตัวเองในคืนวันที่ได้พบกับเขา พร้อมจะละทิ้งชีวิตที่คิดว่าไม่เหลืออะไร
     
    เดี๋ยวก่อนสิ ทาบาสะ เธอบอกว่าหมอนั่นเป็นคนให้เกล็ดตัวอะไรซักอย่างแล้วยังสอนเธออีกไม่ใช่เหรอ? ถ้างั้นหมอนั่นก็ไม่น่าจะยังรู้สึกอย่างนั้นอยู่? คีร์เก้นึกถึงสิ่งที่รู้เกี่ยวกับทาบาสะและเอ็กซ์
     
    อย่าพูดเป็นเล่น ของแบบนั้นไม่มีทางหายไปได้ง่ายๆ หรอก อาเนียสเป็นคนที่ไม่มีใครคิดว่าจะออกความเห็น
     
    ตอนสวนกับหมอนั่นที่วังฉันก็นึกสงสัยอยู่ว่าแววตานั้นคืออะไร ตอนนี้ถึงเข้าใจ หมอนั่นแบก ความแค้น ที่รุนแรงมากเอาไว้ พอคิดแบบนั้นแล้วการกระทำหลายๆ อย่างของหมอนั่นก็เข้าใจได้ไม่ยาก
     
    ดวงตาของอัศวินสาวจับจ้องที่การต่อสู้ แต่สิ่งที่เธอมองไม่ใช่อาวุธหรือการโจมตี แต่แววตาที่สามารถมองเห็นได้วับแวบ ตอนนี้ความหมายของมันกระจ่างชัดแก่อาเนียส
     
    ความแค้น...หมายถึงกับมนุษย์เหรอ? ถึงได้ไปเป็นพวกเดียวกับคนที่บอกว่า จะทำให้มนุษย์ล่มสลาย ? ไซโตะนึกถึงคำพูดที่เขาจดจำนานะได้มากที่สุดจากป่าเวสต์วู้ด
     
    แต่อังริเอตต้าส่ายหน้า
     
    ฉันคิดว่าไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ทั้งเขา...แล้วก็ผู้หญิงคนนั้นด้วย ฉันคิดว่าความแค้นของเขาไม่ได้เป็นความแค้นในความหมายทั่วไป
     
    ความแค้นจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่อย่างที่คนส่วนใหญ่คิด
     
    เจ้าของเสียงปรากฏขึ้นด้านหลังไซโตะ กลุ่มสามคนที่ลงไปใต้ดิน เลเวียธานเป็นผู้พูดประโยคเมื่อครู่
     
    พวกเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
     
    เมื่อกี้นี้เอง ยัยนั่นพามา
     
    เลเวียธานชี้นิ้วโป้งกลับหลังไปที่คนที่สี่
     
    น—นั่นมัน...!”
     
    ศัตรูบุก! ศัตรูบุก! ตายแหน่!”
     
    กีชกับมาลิคอร์นร้องเสียงหลง
     
    ทาบาสะเพียงแต่มองนานะด้วยความสงสัยและสับสน
     
    คุณ...ทำไมถึง...
     
    ฉันบอกแล้ว จากนี้ไปเป็นเรื่องระหว่างพวกคุณกับเอ็กซ์เท่านั้น ฉันจะไม่ทำอะไรอีก
     
    นานะยืนอยู่นอกเสา เฝ้ามองการต่อสู้ของเอ็กซ์กับซีโร่ด้วยแววตาที่ราวกับอาวรณ์
     
    มันเป็นยังไงมายังไง ช่วยเล่าหน่อยเถอะ ฉันงง
     
    คีร์เก้ถามเองเมื่อไม่มีใครให้คำตอบ ส่วนเลเวียธานก็รับหน้าที่ตอบ
     
    หลังจากพวกเราปลดล็อกประตูเข้าไปในห้องได้ ยัยนี่ก็ส่งมาเธอร์เอลฟ์คืนให้เราซะเฉยๆ  แถมยังบอกว่า จะไปดูตอนจบ ไปด้วยกันมั้ย?
     
    ข้างๆ เลเวียธานมีมาเธอร์เอลฟ์อยู่ แม้คนอื่นจะมองไม่เห็น
     
    ฉันไม่ใช่โมเดลต่อสู้ ต่อต้านพวกคุณไม่ได้ ผู้ใช้ความว่างเปล่าที่อยู่กับคุณก็สามารถสลาย [เคาน์เตอร์] ได้ ถึงอย่างไรพวกคุณก็บังคับชิงไปได้อยู่ดี นานะให้คำอธิบายโดยไม่แสดงความทุกข์ร้อน ทำให้หลายคนสงสัยว่าถึงอย่างไรก็คิดจะทำอย่างนี้อยู่แล้ว
     
    คณะเดินทางมองไปที่การต่อสู้ คาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
     
    ซีโร่เข้าถึงตัวคู่ต่อสู้ได้และตวัดดาบออกไป เอ็กซ์ยืนนิ่งไม่ยอมหลบ แต่เสี้ยววินาทีต่อมาก็ถอยหนีได้ทันเส้นยาแดงผ่าแปด ปลายดาบเฉียดหน้าอกไปไม่ถึงเซนฯ ใบหน้าแสดงความประหลาดใจ แต่เมื่อหันมาเห็นนานะยืนอยู่กับพวกไซโตะก็เข้าใจ
     
    ดี...ท่าทางฝ่ายนี้จะได้เปรียบขึ้นมาแล้ว คีร์เก้รายงาน แต่น้ำเสียงไม่วางใจเสียทีเดียว
     
    ราชินี เลเวียธานพูดกับอังริเอตต้าเสียงห้วนๆ  เมื่อกี้เธอบอกว่าความแค้นของท่านเอ็กซ์ไม่ใช่ความแค้นทั่วไปสินะ
     
    ...ค่ะ ฉันไม่คิดว่าเป็นความแค้นกับตัวบุคคลหรือสิ่งของ
     
    คำว่า ความแค้นทั่วไป คนส่วนใหญ่เข้าใจตรงกันว่าหมายถึงความแค้นที่มีคนมาทำอะไรแล้วเราก็ต้องไปทำมันกลับถึงจะสาแก่ใจ แต่จริงๆ แล้วความแค้นมันก็คือความรู้สึก ไม่ได้เกี่ยวกับคนที่จับต้องได้ ฉันพูดถูกมั้ย คนที่ตัดใจได้โดยที่ไม่ต้องฆ่า?
     
    คำบรรยายของเลเวียธานทำให้คนที่รู้เรื่องอย่างคีร์เก้กับทาบาสะหันไปทางอาเนียสทันที
     
    ...ความแค้นคือการไม่ยอมรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ตราบเท่าที่ยังไม่พอใจ ความแค้นก็ไม่สิ้นสุด ทางเดียวที่จะหยุดความแค้นได้ก็มีแต่ต้องพบทางออกที่สามารถยอมรับได้ บางคนอาจจะนั่งคิดอยู่คนเดียวก็เกลี้ยกล่อมตัวเองได้ แต่บางเรื่องก็ทำไม่ได้
     
    ถ้างั้น...ตอนนี้เอ็กซ์ก็กำลังหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองยอมรับได้อยู่ ยังงั้นเหรอครับ? ไซโตะพยายามทำความเข้าใจ
     
    ที่จริงแล้ว ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ท่านเอ็กซ์พยายามหาทางสะกดความแค้นของตัวเองมาตลอด ตั้งแต่มาถึงที่นี่เมื่อสิบปีก่อน เวลาที่อยู่คนเดียว เวลาที่อยู่กับพวกนาย ท่านเอ็กซ์อาจจะไม่เคยหยุดคิดเรื่องความแค้นเลยก็ได้
     
    ...ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกเลย ไซโตะนิ่วหน้า กึ่งไม่เชื่อ กึ่งคิดว่าถ้าเป็นจริงตัวเองก็สะเพร่า
     
    ไม่มีใครเขาหวังให้นายสังเกตความรู้สึกของคนอื่นหรอกย่ะ หลุยส์ใส่ประสบการณ์ตัวเองลงไปกว่าครึ่ง
     
    อะไรเนี่ย! กลับมาประโยคแรกก็แขวะฉันแล้วเหรอ!?”
     
    ก็มันจริงมั้ยล่ะยะ?
     
    ไม่หรอก ฉันเองรู้ว่าท่านเอ็กซ์ยึดติดกับการส่งไซเบอร์เอลฟ์กลับไป แต่เพิ่งมาผิดสังเกตช่วงหลัง ตอนที่รู้สึกว่ายึดติดเกินไปจนบางครั้งให้ความสำคัญกับมันมากกว่าเรื่องที่สมควร ...ตอนนี้ฉันคิดว่านั่นเป็นการพยายามหาทางออกจากความแค้นให้ได้
     
    ไซเบอร์เอลฟ์...ก็คือที่เริ่มรู้จักกับฉันก็ตามหาอยู่ก่อนแล้ว ไซโตะนึกย้อนไปวันที่จับฟูเก้ต์ด้วยกันและได้เห็นหน้าผากของเอ็กซ์เปล่งแสงสีแดง เป็นปรากฏการณ์ประหลาดตาที่ไม่ได้คำตอบจนกระทั่งหลังจากนั้น
     
    แล้วทำไมการตามหาอะไรนั่นถึงเป็นทางออกได้ล่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย? ไถ่บาปอะไรอย่างนั้นเหรอ? คีร์เก้ขมวดคิ้วราวกับจะสื่อว่า ไม่มีเหตุผลเลย
     
    ความสิ้นหวังเป็นสิ่งที่น่ากลัวนะคะ คัทเลยาเอ่ยขึ้น หายากที่ไม่เห็นหญิงสาวคนนี้ยิ้ม
     
    เพื่อหนีจากมัน คนเราสามารถทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ หากมองเห็นความหวังแม้จะแค่ความหวังเล็กๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เราก็สามารถจะไล่ตามมันโดยไม่นึกถึงผลที่ตามมา
     
    ไม่แน่ว่าเอ็กซ์เองก็อาจจะทำไปเพื่อไล่ตามโอสถแห่งเอร์สำหรับตัวเอง คัทเลยาคิดอย่างนั้น
     
    แต่ว่า...เขาช่วยฉันไว้ ทำให้ฉันเลิกคิดที่จะตาย ทาบาสะก้มหน้าลงมองไม้เท้าอย่างไม่เข้าใจ
     
    วันที่ฉันเกือบจะยอมแพ้กับภาพลวงตา เขาพยายามต่อสู้เพื่อปลุกฉัน ถ้อยคำของเขาในวันนั้นเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น หากเขาคิดแต่จะไล่ตามความหวังเล็กๆ นั้น ทำไมเขาถึงสนใจคนอื่น อังริเอตต้ารำลึกวันที่ถูกเวลส์คืนชีพพาตัวไปจนถึงลา โรแชลล์
     
    เลเวียธานกอดอกและครุ่นคิด
     
    ...อาจจะใช่ เวลาเป็นเรื่องของเธอ ไม่สิ เธอ ทาบาสะ แล้วก็คัทเลยา เวลานั้นเท่านั้นที่ท่านเอ็กซ์แสดงความขัดแย้งในใจออกมา นอกจากนั้นแล้วฉันแทบจะจับอะไรไม่ได้
     
    ไม่เพียงสามคนในชื่อ แต่คนอื่นๆ ในกลุ่มก็ละสายตาจากการต่อสู้และหันมาสนใจคำพูดของเลเวียธาน
     
    ฉันคิดว่า มีแต่พวกเธอที่สั่นคลอนความแค้นของท่านเอ็กซ์ได้ ฉันไม่รู้แน่ชัดว่าระหว่างพวกเธอกับท่านเอ็กซ์เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่เรื่องนั้นทำให้ท่านเอ็กซ์ลังเลที่จะยึดติดกับความแค้นต่อไป
     
    งั้น ถ้าให้องค์หญิง ทาบาสะ แล้วก็พี่สาวของหลุยส์พูดด้วยอาจจะหยุดเอ็กซ์ได้ก็ได้น่ะสิ!” ไซโตะรู้สึกตื่นเต้นกับความคิดที่คิดว่าเป็นไปได้
     
    อาจจะนะถ้าเป็นเมื่อก่อน...ฉันก็เคยคิดจะทำอะไรทำนองนั้นอยู่พักนึง แต่ว่าตอนนี้สายไปแล้ว...เมื่อท่านเอ็กซ์กับซีโร่เริ่มสู้กัน ก็ไม่มีอะไรที่หยุดได้ทั้งนั้น...
     
    [...]
     
    ปราศจากไซเบอร์เอลฟ์ เอ็กซ์เหลือแค่บัสเตอร์ที่พึ่งพาได้ ซีโร่รุกเข้ากดดันด้วยการตามเข้าประชิดตลอดเวลา
     
    เอ็กซ์ยิงบัสเตอร์สวนมา ซีโร่หลบและปัดด้วยดาบได้อย่างง่ายดาย ก่อนเข้าประชิดตัวและฟันออกไปในแนวนอน ทิ้งรอยไว้บนส่วนท้องที่ไร้เกราะ
     
    ซีโร่ไม่หยุดการรุก ก่อนที่เอ็กซ์จะได้ถอยกลับไปซีโร่ก็ใช้เท้าซ้ายเตะที่ลำตัวด้านขวา ตามด้วยเซเบอร์ฟันลงที่ไหล่ขวา หมุนตัวตามแรงส่ง ทุบหลังหมัดขวาที่ใบหน้า แล้วจับไหล่ดึงเข้ามาซัดเข่าขวา ปล่อยมือ และฟันย้อนขึ้นถูกแขนขวา เอ็กซ์ยกบัสเตอร์ข้างซ้ายขึ้นเล็งที่ซีโร่ แต่ก่อนจะได้ยิงซีโร่ก็หมุนตัวถีบเท้าขวาจนเอ็กซ์กระเด็นกลับหลัง
     
    ร่างของเอ็กซ์รับการจู่โจมชุดใหญ่และกระเด็นกลับหลังไปชนเข้ากับผนัง เคาน์เตอร์ที่ฉาบผนังอยู่ผลักเขาล้มคว่ำลงกับพื้น เอ็กซ์รีบลุกขึ้นและถีบตัวถอยออกมาทันที เซเบอร์สีเขียวสร้างรอยบนพื้น ก่อนจะพุ่งตามเขามาทันที ทำให้เขาต้องถอยหลบไปอีกพร้อมกับยิงกระสุนบัสเตอร์สวนกลับไป ทว่ากระสุนเล็กน้อยไม่สามารถผ่านดาบของซีโร่ไปได้
     
    ทันใดนั้นผลึกสีแดงที่หน้าผากของเอ็กซ์ก็เปล่งแสง
     
    จากบัสเตอร์ ตาข่ายที่เสริมด้วยกระแสไฟฟ้าถูกยิงออกมา ซีโร่ต้องหักหลบกะทันหันทำให้เสียจังหวะ
     
    หลังจากนั้นกระแสของการต่อสู้ก็กลับตาลปัตร
     
    ร่างกายของเอ็กซ์กลืนไปกับสภาพแวดล้อม แต่ยังมองเห็นการขยับได้อยู่ ซีโร่พยายามเพ่งสมาธิมองตาม แต่มิสไซล์ติดตามเจ็ดลูกทำให้เขาต้องละสายตาเพื่อทำลายมันทิ้ง
     
    ทันทีหลังจากนั้นใบมีดที่ส่งเสียงบาดหูก็ลอยผ่านอากาศเข้ามาเฉือนแขนขวาจากด้านหลัง ตามด้วยใบเลื่อยที่หมุนด้วยความเร็วสูงเข้ามาทางด้านหน้า ซีโร่หลบการจู่โจมที่สองด้วยการกลิ้งไปด้านข้าง ทว่าถูกพายุหมุนความเร็วสูงปะทะเข้าที่กลางหลัง สร้างรอยบาดและดันซีโร่กลิ้งไปข้างหน้า ซีโร่กัดฟันใช้แขนขวาดีดตัวเองออกจากพายุหมุนและรอดจากกระสุนบัสเตอร์ที่ตามมาอย่างหวุดหวิด
     
    ซีโร่ลงยืน พลันผลึกสีน้ำเงินที่หน้าผากก็เปล่งแสง
     
    มือซ้ายตวัดเซเบอร์กลับหลัง สกัดบูมเมอแรงโลหะได้ก่อนจะมาถึงตัว ก่อนจะตวัดย้อนกลับมาถูกร่างล่องหนที่อยู่ข้างหน้า ร่างล่องหนกระโดดถอยหลังแต่ซีโร่จุดบูสเตอร์พุ่งตามไป สะบัดแขนและมือซ้ายฟันใส่ร่างที่ล่องหนอีกครั้ง และตามด้วยพลิกด้ามจับสองมือฟันเสยขึ้นฟ้าพร้อมกับเปลวไฟ ปิดท้ายด้วยการฟันย้อนกลับลง ส่งคลื่นดาบที่ดันร่างล่องหนไปข้างหน้า
     
    เอ็กซ์ถีบตัวพ้นจากแนวดาบและปรากฏร่างขึ้นชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะยกบัสเตอร์มือขวาขึ้น และยิงบัสเตอร์ที่สะสมพลังงานไว้ออกไป
     
    [...]
     
    เดี๋ยวสิ ไหนว่าถ้าได้อะไรนั่นกลับมาแล้วหมอนั่นจะใช้พลังประหลาดไม่ได้อีกไงล่ะ? นี่ใช้ตามใจเลยไม่ใช่เหรอ แถมนายตัวแดงอีกคนก็ใช้ขึ้นมาได้อีก คีร์เก้หันไปทวงถามจากเลเวียธาน ซึ่งก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน
     
    ท่านเอ็กซ์ไม่มีไซเบอร์เอลฟ์อยู่กับตัวเลย... ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่านั่นเป็นความสามารถของท่านเอ็กซ์เอง? เลเวียธานนึกถึงร่างก็อปปี้ของเอ็กซ์ซึ่งก็สามารถก็อปปี้ความสามารถของจตุรเทพได้ระหว่างการซ้อม
     
    กระสุนบัสเตอร์จากเอ็กซ์ปะทะกับกำแพงด้านหลังคณะเดินทาง สร้างรูโหว่ขนาดที่คนทั้งคนกระโดดลอดออกไปได้สบาย ก่อนที่กำแพงจะเริ่มซ่อมแซมตัวเองอีกครั้ง
     
    นี่ ไม่รู้สึกว่าพวกนั้นเริ่มเล่นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วบ้างเหรอ? กีชถามอย่างกลัวๆ
     
    เลเวียธานไม่ได้พูดออกไปแต่ก็เห็นด้วย ถ้าตัวเธอออกไปสุ่มสี่สุ่มห้ามีสิทธิ์ถูกกระสุนบัสเตอร์ลูกใหญ่ลูกเดียวระเหยกลายเป็นไอ ช่วยอะไรไม่ได้เลยโดยสิ้นเชิง
     
    พวกเขาสองคนเพียงแต่กำลังดึงความสามารถที่หลับไหลกลับคืนมา นานะตอบโดยไม่ละสายตาจากการต่อสู้
     
    หมายความว่าพลังของสองคนนั้นยังไม่เต็มที่อีกเหรอ? ไซโตะหันมาถามตาโต
     
    ใกล้แล้ว พลังของทั้งสองที่ฉันรู้จักยังสูงขึ้นได้มากกว่านี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขาสู้กันเอง ดังนั้นอาจสูงขึ้นได้มากกว่านั้น
     
    ไซโตะหันกลับไปมองการต่อสู้
     
    สูงขึ้นได้มากกว่านี้? แค่นี้ก็ปวดตาแล้ว!’
     
    หลุยส์มองสลับระหว่างการต่อสู้กับเลเวียธาน
     
    นี่ แล้วทำไมสองคนนั้นต้องต่อสู้กันด้วยล่ะ? มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องความแค้นอีกแล้วเหรอ?
     
    ...ประมาณนั้น ฉันเองก็ไม่รู้เหตุผลจริงๆ  แต่ว่าท่านเอ็กซ์ต้องการจะสู้กับซีโร่ ถ้าเปลี่ยนความคิดซักนิด ว่าไม่ใช่ท่านเอ็กซ์ที่อยู่ฝ่ายนานะ แต่นานะตะหากที่ช่วยท่านเอ็กซ์ ทุกอย่างก็ลงล็อก
     
    หลุยส์ได้รับคำตอบก็หันไปทางนานะที่ยืนมองสองร่างที่อยู่กลางห้องโถงราวกับตกอยู่ในภวังค์
     
    ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่ที่ลักพาตัวราชินีมาเลยรึเปล่า แต่อย่างน้อยตั้งแต่ที่ปล่อยให้พวกเรามาจนถึงที่นี่ได้โดยไม่ขัดขวาง ปล่อยซีโร่กับเชลเป็นอิสระ แล้วโผล่มาสกัดเราตอนมาถึงจุดที่สองคนนั้นอยู่พอดี คิดยังไงก็จงใจให้พวกเรากับพวกซีโร่มาถึงที่นี่ชัดๆ  โดยที่ซีโร่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง
     
    คีร์เก้เลิกคิ้ว อาจจะด้วยความทึ่งนิดๆ
     
    ต้องทำอะไรยุ่งยากขนาดนั้นเลยนะ ความแค้นนายนี่นี่ซับซ้อนน่าดู
     
    อาจจะไม่ใช่แค่นั้นก็ได้นะคะ คัทเลยาพูดพลางขยับเข้าไปกอดหลุยส์จากด้านหลังอย่างหลวมๆ
     
    หลุยส์ จำได้มั้ยจ๊ะ ตอนเด็กๆ เวลาที่หลุยส์น้อยใจคุณแม่กับพวกพี่ หลุยส์ก็จะไปแอบขดตัวอยู่บนเรือในสระคนเดียว
     
    ท—ท—ท่านพี่จี! นั่นมันตั้งนานแล้วค่ะ! จู่ๆ เอากลับมาพูดทำไมล่ะคะ?!” หลุยส์เปลี่ยนจากสีหน้าปกติเป็นหน้าแดงแป๊ดในเวลาเพียงสองวินาที
     
    เอ๋? ไม่ใช่สมัยนี้ก็ยังทำอยู่เหรอ? ไซโตะประหลาดใจ กลับบ้านไปครั้งที่แล้วก็ยัง—อุ๊ก!”
     
    สมัยเด็กย่ะ! สมัยเด็ก!” หลุยส์ใช้เท้าทำลายหลักฐาน
     
    เห~ หลุยส์มีทำอะไรน่ารักๆ อย่างนั้นด้วยนะ~” คีร์เก้ทำมือป้องปากหัวเราะคิก
     
    เงียบไปซะเซิร์บสต์! เรื่องสมัยเด็ก ตอนนี้ไม่มีแล้วย่ะ!” หลุยส์กวาดตามองราวกับทุกคนเป็นศัตรู
     
    ใจเย็นๆ สิจ๊ะ พี่ไม่ได้พูดถึงเพื่อจะหยอกหลุยส์หรอก คัทเลยายิ้มและลูบศีรษะน้องสาว
     
    ง—งั้นเหรอคะ...
     
    มือที่สยบหมีและเสือ แม้แต่หลุยส์ก็ไม่รอดจากพลังพิเศษของมัน
     
    จำได้มั้ยจ๊ะ ลูกชายจากที่ดินวาลด์ที่อยู่ข้างๆ จะมาปลอบหลุยส์บ่อยๆ
     
    ชื่อในประโยคนั้นเป็นความทรงจำที่ไม่ดีของหลุยส์กับไซโตะ แต่หลุยส์รู้ว่าคัทเลยาไม่มีทางพูดขึ้นมาเพื่อทำร้ายเธอ
     
    พอมีได้ระบายออกมาหลุยส์ก็รู้สึกดีขึ้นใช่มั้ยจ๊ะ?
     
    หลุยส์รู้สึกอายจึงไม่ยอมตอบเป็นคำพูด แต่พยักหน้า
     
    ไม่ว่าใครก็มีเวลาที่ทนสิ่งที่อยู่ในใจไม่ไหวและต้องระบายให้ใครซักคนฟัง ฉันคิดว่าเขา...เอ็กซ์เองก็เหมือนกัน เขาเพียงแต่อยากระบาย แต่เราไม่สามารถระบายให้ใครก็ได้
     
    ไซโตะหันกลับไปที่เอ็กซ์กับซีโร่ ทันใดนั้นในสายตาของเขาความหมายของการต่อสู้ก็เปลี่ยนไป แต่ละหมัด กระสุนแต่ละนัด ราวกับเป็นคำพูดที่ไม่มีใครได้ยินค่อยๆ พรั่งพรูออกมา
     
    ในกรณีของเขา สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุดอาจเป็นการที่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ แต่เพื่อนเหล่านั้นต่างก็ไม่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเก็บมันไว้ข้างใน
     
    เก็บเอาไว้ตลอดเกือบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา
     
    ระบายด้วยการต่อสู้เนี่ยนะ? อย่าบอกนะว่าเพราะเป็นลูกผู้ชาย? คีร์เก้ทำหน้าเหยเก
     
    แต่ว่าถ้าแค่นั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ? ถ้าระบายจนพอใจแล้วหมอนั่นก็จะใจเย็นลง แล้วก็น่าจะคุยรู้เรื่อง ไซโตะคิดในด้านที่ดี แต่ถูกเลเวียธานตัดความหวังทันที
     
    แต่มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ ความแค้นถ้าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แค่ระบายออกมามันก็ไม่ไปไหนหรอก ท่านเอ็กซ์ตั้งใจจะให้ทุกอย่างจบลงที่นี่
     
    จบลงที่นี่...? ไซโตะไม่ชอบคำนั้นเลย
     
    ความแค้นเป็นอย่างที่พวกเธอทุกคนพูดมา คือการที่รักษาสัญญาไม่ได้ การที่ไม่สามารถรักษาอาณาจักรได้ตามที่ตั้งใจไว้ และก็ไม่แน่อาจจะมีเรื่องผิดหวังอื่นๆ เพิ่มเติมหลังจากมาที่นี่ด้วย สิ่งที่สำคัญก็คือท่านเอ็กซ์คิดว่าเป็นความรับผิดชอบของตัวเองคนเดียว เพราะตัวเองเป็นคนสัญญาไว้
     
    คนที่เข้าใจก่อนใครก็คืออังริเอตต้า เพราะเป็นผู้ที่พูดออกมาด้วยตัวเอง
     
    เมื่อความผิดมากเกินกว่าจะรับไหว...หรือว่าเขาคิดจะ...!”
     
    ...เรื่องนั้นขึ้นอยู่กับซีโร่
     
    [...]
     
    ทั้งเอ็กซ์และซีโร่มีบาดแผลปรากฏบนร่างกายอย่างชัดเจน ต่างฝ่ายต่างเริ่มหอบให้เห็น
     
    ต่างคนต่างดึงสิ่งที่เรียนรู้จากสงครามอิเร็กกุล่าร์กลับมาได้ ทำให้ไม่มีใครได้เปรียบและเสียบเปรียบใคร
     
    แต่การต่อสู้ครั้งนี้ต้องมีผู้ชนะ
     
    ผลึกสีแดงที่หน้าผากของเอ็กซ์เปล่งแสง เอ็กยกแขนขึ้นไขว้กัน
     
    ฟอลคอนอาร์เมอร์
     
    และร่างของเขาก็เปลี่ยนไป
     
    [...]
     
    คราวนี้อะไรอีกเนี่ย!?” มอนท์โมรันซี่เริ่มรับความประหลาดไม่ไหวเมื่อเอ็กซ์บินขึ้นไปบนอากาศอย่างอิสระ
     
    ไซโตะจะหันไปถามนานะ แต่เห็นอีกฝ่ายเบิกตากว้างเช่นเดียวกับเขา และตัดสินใจว่าการต่อสู้ครั้งนี้เลยเวลาถามมาแล้ว
     
    [...]
     
    ซีโร่หลบกระสุนจากบัสเตอร์และหุ่นยนต์แมลงปอที่วนรอบตัวเอ็กซ์ ศัตรูที่อยู่บนอากาศเป็นจุดอ่อนของเขาที่ใช้ได้เพียงแค่ดาบ ปืนบัสเตอร์ช็อตก็พังไปพร้อมกับแร็กนาร็อคแล้ว
     
    ตราบเท่าที่เอ็กซ์อยู่แต่บนอากาศ ดาบเขาก็ยากจะไปถึง
     
    ผลึกสีน้ำเงินบนหน้าผากซีโร่เปล่งแสงอีกครั้ง ซีโร่ยื่นมือขวาออกไป และมันก็เปลี่ยนเป็นบัสเตอร์
     
    [...]
     
    เชลหยุดหายใจไปชั่วขณะ
     
    เธอรู้ว่าในซีโร่ไม่มีบัสเตอร์ติดตัว รีซิสแทนซ์ตรวจดูแล้ว ตัวเธอเองตรวจดูแล้ว
     
    ตลอดเวลาที่เธอรู้จักกับซีโร่เธอไม่เคยเห็นซีโร่ทำอะไรแบบนี้ แม้กระทั่งเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างจตุรเทพและคราฟต์...
     
    [...]
     
    กระสุนพลังงานลูกใหญ่จากบัสเตอร์สีแดงทำลายหุ่นยนต์แมลงปอทั้งสามตัวและปีกซ้ายของชุดเกราะ ร่างของเอ็กซ์หมุนควงเหมือนเครื่องบินที่เสียหลัก ก่อนลงยืนกับพื้น มองซีโร่ที่พุ่งตามเข้ามา
     
    ไกอาอาร์เมอร์
     
    ซีโร่ต้องยกดาบขึ้นรับกระสุนพลังงานสีดำที่ยิงเข้ามากะทันหัน เซเบอร์และกระสุนต่างเป็นพลังงานเหมือนกันจึงยันกันได้ แต่กำลังแขนของซีโร่ด้อยกว่าพลังของกระสุน
     
    คึ...ย้ากกกกก!!”
     
    ซีโร่ดึงพลังทั้งหมดออกมา ทำลายกระสุนลูกนั้น และส่งคลื่นดาบออกไปข้างหน้า ผลึกที่หน้าผากเปล่งแสงจ้ากว่าที่ผ่านมา
     
    เอ็กซ์ก้าวหลบคลื่นดาบได้เส้นยาแดงผ่าแปด และเห็นมันตัดผ่านเสาต้นใหญ่ ผนังที่อยู่ด้านหลัง และผนังห้องถัดๆ ไปอีกสามสี่ห้อง
     
    เอ็กซ์หันกลับมาที่ซีโร่ซึ่งหอบหายใจ และคลายชุดเกราะ ก่อนจะยกบัสเตอร์ขึ้น และยิงกระสุนพลังงานลูกใหญ่กว่าตัวเองสามเท่าตัวออกไป
     
    ซีโร่ฟันกระสุนลูกนั้นขาดราวกับไม่มีความแตกต่างจากลูกเล็ก แต่ต้องหลบเมื่อมีลูกเท่ากันอีกลูกตามหลังมา มันผ่านซีโร่ไป ทำลายเสาอีกต้นเป็นจุล และสร้างช่องว่างบนผนังด้านหลังเท่ารถม้าทั้งคัน
     
    ผลึกที่หน้าผากของเอ็กซ์เปล่งแสงขณะที่บัสเตอร์ยิงกระสุนลูกใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซีโร่สวนกลับด้วยเซเบอร์และบัสเตอร์ของตัวเอง
     
    พลังยังเพิ่มขึ้นไปได้อีกเหรอ! จะไปสิ้นสุดที่ไหนเนี่ย!?”
     
    ฉันเองก็ไม่รู้...แต่ฉันรู้สึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ใกล้จะจบลงแล้ว เลเวียธานพึมพำ
     
    ต้องจบแล้วล่ะย่ะ! เพราะห้องนี้จะไม่ไหวอยู่แล้ว!” มอนท์โมรันซี่ตะโกนเสียงดังด้วยความกลัว
     
    ดาบของซีโร่ผ่าเสาเป็นสองเสี่ยงราวกับมันไม่มีตัวตน กระสุนบัสเตอร์ของเอ็กซ์สร้างรูบนผนังราวกับมันทำด้วยกระดาษ
     
    ความแตกต่างจากตอนเริ่มการต่อสู้มองเห็นได้อย่างชัดเจน เคาน์เตอร์ที่ฉาบกำแพงไร้ประโยชน์เกือบจะสิ้นเชิง หลุมบนพื้นและรูบนกำแพงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่มันจะซ่อมแซมตัวเองทัน
     
    ผลึกบนหน้าผากของทั้งคู่ที่เปล่งแสงทุกครั้งก่อนจะมีการพลิกแต้มในการต่อสู้ บัดนี้มันเปล่งแสงตลอดเวลา
     
    การโจมตีของทั้งคู่รุนแรงขึ้นจนเทียบกับแรกเริ่มไม่ได้ ทว่าเมื่อรับเข้าไปแต่ละคนต่างยิ่งชะงักน้อยลงและน้อยลงเรื่อยๆ  ทั้งที่บาดแผลมีแต่สาหัสขึ้น แต่การจู่โจมของทั้งคู่กลับยิ่งแรงและเร็วกว่าเดิม
     
    ราวกับต่างคนต่างเผาผลาญชีวิตของตัวเองเพื่อต่อสู้กับอีกฝ่าย
     
    ทำไมล่ะ...ทำไมถึงต้องต่อสู้กันถึงขนาดนั้นด้วย? ถ้าตายขึ้นมาจริงๆ ทุกอย่างก็จบไม่ใช่เหรอ ทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนะ!?” ใจของหลุยส์ที่ไม่ชินกับความตายไม่อาจทำความเข้าใจได้
     
    สำหรับท่านเอ็กซ์ก็เพราะว่านั่นเป็นจุดประสงค์ สำหรับซีโร่ฉันไม่รู้...แต่ถ้าให้เดา ฉันคิดว่า ไม่สิ ฉันเชื่อว่า เพราะท่านเอ็กซ์ไว้ใจให้เป็นคนทำ
     
    เรปลิลอยด์ในตำนาน เอ็กซ์กับซีโร่ พลังที่เลเวียธานไม่สามารถจินตนาการได้
     
    แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เป็นอมตะ เธอรู้ว่าจุดจบใกล้เข้ามาแล้ว
     
    [...]
     
    ...
     
    เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
     
    ต่อสู้เป็นตาย ทุกๆ วินาทีอาจเป็นวินาทีสุดท้าย
     
    เงาของเซเบอร์ที่หางตา ร่างกายของเขาโยกหลบโดยอัตโนมัติ แขนขวายื่นไปยิงบัสเตอร์โดยไม่ต้องเห็นร่างสีแดง แขนซ้ายยกขึ้นรับขาที่เตะเข้ามาโดยอาศัยเพียงสัญชาตญาณ
     
    ราวกับเขากำลังเฝ้ามองจากอีกที่หนึ่ง ดูร่างกายขยับไปตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ ขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยความมืดที่ห่อหุ้มตัวเขาอยู่
     
    ความมืดที่ลูซีเรียกอย่างไม่ผิดนักว่า ความแค้น  เพราะเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ร่างกายเคลื่อนไหวโดยไม่เกรงกลัวต่อผลกระทบใดๆ  ทำให้ยอมทิ้งได้ทุกสิ่งขอเพียงสามารถกำจัดความรู้สึกทรมานออกไปได้
     
    แม้แต่การเดินทางที่ผ่านมาทั้งหมด สิบปีในโลกใบนี้
     
    การที่ยังอยู่ ยังคิด ยังขยับตัว ทั้งที่ตัดขาดจากชีวิตเมื่อนานมาแล้ว
     
    ความมืดนี้เป็นเหตุผลเดียวที่ร่างกายของเขายังเคลื่อนไหวอยู่ ขยับตัวเพื่อตามหาทางที่จะชำระมันออกไป
     
    ดังนั้นเขาจึงกลัว เด็กผู้หญิงที่ยื่นมือให้เขาที่อยู่หลังลูกกรง เด็กสาวผมสีชมพูที่ไม่ทิ้งความหวังตามที่เขาเคยบอก เด็กผู้หญิงผมสีฟ้าที่ดำเนินชีวิตอย่างไม่เสียใจภายหลังอย่างที่เขาเคยสอน พรายสาวที่มีความสุขในโลกนี้ได้อย่างที่เขาต้องการให้ทำ
     
    เพราะการอาบแสงสว่างเมื่อคนเหล่านั้นอยู่ใกล้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดราวกับกลับไปอยู่ในเวลานั้นอีกครั้ง เวลาที่ยังมี ความหวัง
     
    แสงสว่างจากทั้งสี่คนเจิดจ้าเกินไปสำหรับเขา ทำให้เขาลังเล ทำให้ความตั้งใจที่จะเดินหน้าชำระความมืดนี้ต่อไปสั่นคลอน ทำให้เขาเกิดความคิดว่าควรจะปล่อยวาง
     
    แต่เขายังไม่อยากจะปล่อยวางจากสิ่งที่สำคัญกับเขาทั้งหมด แม้มันจะถูกความมืดกลืนกินจนแยกจากกันไม่ได้แล้ว แต่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยมือ
     
    และหลังจากนานะเปิดเผยความมืดในใจของเขาให้คนอีกหลายคนเห็น ทุกคนเหล่านั้นก็เริ่มแผ่แสงสว่างอย่างเดียวกัน ทำให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความลังเล
     
    ดังนั้นเขาจึงลงมือก่อนที่จะสายเกินไป
     
    และก็เป็นไปดังที่เขาหวัง เมื่อซีโร่อยู่ตรงหน้า เขาก็ลืมสิ่งอื่นจนหมดสิ้น มีแค่เขา ซีโร่ กับความมืดที่รอการชำระ แต่ละครั้งที่ยิงบัสเตอร์ออกไป แต่ละดาบที่วาดเข้ามา ราวกับความมืดที่ล้อมรอบตัวหลุดลอกออกทีละชิ้น
     
    ครั้งแรกที่พบซีโร่ที่โรงเรียนเวทมนตร์ ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็คงจะรู้อยู่ในส่วนลึกของจิตใจแล้ว ที่เขาควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ นั่นคงจะเป็นสัญญาณที่เมล็ดแห่ง ความคาดหวัง ถูกฝัง รอวันที่จะงอกออกมา
     
    มาถึงตอนนี้ เมื่อมันงอกเงยขึ้นมา เขาก็มั่นใจว่าคิดถูกที่ยอมเดิมพันในครั้งนี้
     
    เป็นการเดิมพันกับความเชื่อที่เรียบง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน
     
    ความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นโลกใบไหน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด ในสถานการณ์ใด ในร่างกายใด สิ่งที่จะชำระความมืดนี้ได้ ก็มีเพียงร่างสีแดงที่อยู่ข้างหน้าเขานี้เท่านั้น
     
    แม้จะต่างฝ่ายต่างเต็มไปด้วยบาดแผล ดวงตาสีน้ำเงินก็จ้องมองเขาอย่างไม่หลบเลี่ยง ไม่มีความสับสน ไม่มีความลังเล
     
    ดวงตาคู่นั้นเองก็เข้าใจ พวกเขาเข้าใจกันเสมอเมื่อต้องการพึ่งอีกฝ่าย
     
    เพราะอย่างนี้ไงเราถึงเป็นคู่หูกัน
     
    ร่างกายของเขาหยุดเมื่อความมืดสลายไปเกินกว่าครึ่ง เมื่อแสงที่ส่องเข้ามาทำให้เขามองเห็นแขนและขาของตัวเองอีกครั้ง
     
    เขาถอยห่างออกมาและก้มลงมองมือที่ขยับดั่งใจ รู้สึกว่าร่างกายเป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์ อาจเป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้ร่างกายของคนอื่นมาเมื่อหกปีก่อน
     
    เขายืนตัวตรงด้วยขาสองข้างของตัวเอง มองไปที่ร่างสีแดงด้วยดวงตาของตัวเอง และกล่าวด้วยปากของตัวเอง
     
    อัลติเมทอาร์เมอร์
     
    เขาสัมผัสได้ทุกอนุภาคโลหะที่เปลี่ยนแปลง ราวกับความมืดที่หมุนเวียนอยู่ในตัวเขากลั่นออกมาเป็นชุดเกราะสีม่วงทึบที่ปกคลุมกาย
     
    ดวงตาสีน้ำเงินไม่ประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของเขา แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นดวงตาคู่นั้น เขาวางใจได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องกลัวว่า ความผิดหวัง จะเปลี่ยนเป็นความมืดอีก
     
    การเดินทางของเขาที่พยายามขจัดความมืดนี้มาตลอด จุดจบอยู่ข้างหน้านี้แล้ว
     
    ไปล่ะนะ ซีโร่
     
    ได้ทุกเมื่อ
     
    เปลวไฟที่เคยแผดเผา ความมืดที่เหลืออยู่ในใจเขา ภาพที่นับไม่ถ้วนเหล่านั้นราวกับปรากฏขึ้น ก่อนจะหลอมรวมเข้ากับแสงที่เข้าห้อมล้อมร่างของเขา ความรู้สึกนึกคิดของเขาละลายไปกับแสงสว่าง ก่อนที่ร่างกายของเขาจะพุ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง
     
    ความคาดหวัง ความผิดหวัง ความเจ็บปวด ความคับแค้น ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาจะทุ่มให้กับร่างสีแดงที่อยู่ปลายทางในคราวเดียว
     
    มาสิ ซีโร่ ทำลายความมืดนี้ไปพร้อมกับฉัน
     
    ดวงตาของเขาจับจ้องที่ดาบสีเขียวที่อยู่ข้างหน้า ดาบที่ฟาดฟันร่างที่มีใบหน้าเหมือนกับเขา
     
    นั่นเอง...นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
     
    ...
     
    ซีโร่ ถ้าฉันกลายเป็นอิเร็กกุล่าร์...นายต้องกำจัดฉันซะ
     
    ...
     
    .....
     
    แสงสว่างค่อยๆ ดับลง เมื่อเขารู้สึกตัว เขาก็ยืนอยู่กลางห้องที่มืดสลัว ร่างของซีโร่นอนแน่นิ่งอยู่ที่ปลายเท้า เซเบอร์หล่นอยู่ข้างๆ มือซ้าย
     
    เขายกมือสองข้างขึ้นขยับ และพบว่าร่างกายของเขายังขยับได้
     
    ...
     
    ในที่สุดของที่สุด ซีโร่ก็ทำสิ่งที่เขาขอไว้ไม่ได้
     
    [...]
     
    เอ็กซ์ยืนอยู่อย่างนั้น แหงนหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ผ่านเพดานที่เป็นรู
     
    พวกไซโตะก้มหลบอยู่หลังตอเสา ค่อยๆ ชะโงกหน้าออกไปมองผลของการต่อสู้
     
    จ—จบแล้วเหรอ? ม—หมอนั่นเป็นไงบ้าง ตายรึเปล่า?
     
    มือซ้ายของซีโร่ยกขึ้น แต่ไม่มีแรงจะเอื้อมไปถึงด้ามดาบที่อยู่ห่างออกไปแค่สิบเซนติเมตร
     
    ยังอยู่ ไซโตะพูดพร้อมกับที่เชลถอนหายใจด้วยความกลัวและโล่งอก
     
    ยังอยู่...แต่ว่า...
     
    ใบหน้าของเอ็กซ์ว่างเปล่า ราวกับโลกถึงกาลอวสานแล้ว ทั้งที่เป็นคนที่ยืนอยู่ แต่กลับไม่กระดิกแม้แต่นิ้วเดียว ราวกับเป็นตัวเองที่เป็นฝ่ายแพ้
     
    นานะมองเอ็กซ์ด้วยแววตาเศร้าสร้อย
     
    ...ในที่สุดฉันก็เป็นฝ่ายชนะเหรอ...เอ็กซ์
     
    ...หมายความว่ายังไง? ไซโตะหันไปถาม ใจของเขาเต้นไม่เป็นส่ำจากความตื่นเต้นที่เพิ่งผ่านไป
     
    ฉันยอมปล่อยซีโร่กับด็อกเตอร์เชลแลกกับการที่พวกเราเดิมพันผลการต่อสู้หลังจากพวกคุณมาถึง ฉันเชื่อว่าเอ็กซ์จะเป็นฝ่ายชนะ เอ็กซ์เชื่อว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกทำลาย
     
    ก็จริง...ถ้านายตัวแดงนั่นแพ้ก็ไม่มีพวกเราคนไหนจะไปสู้กับหมอนั่นได้แล้ว...
     
    ไม่มีใครแปลกใจที่เอ็กซ์เดิมพันข้างตัวเองเป็นฝ่ายที่ตาย ทุกคนดูจะเข้าใจข้อนั้นได้เองโดยไม่ต้องมีใครพูดออกมา
     
    ไซโตะมองนานะที่เศร้าสร้อยกับเอ็กซ์ที่สิ้นหวัง แล้วอะไรบางอย่างก็เอ่อขึ้นมาในใจของเขา
     
    มันคือความโกรธ
     
    มันมีความรู้สึกอื่นๆ ที่ปนเปกันจนเขาไม่เข้าใจด้วย หัวทึบอย่างเขาเข้าใจแค่ความโกรธเท่านั้น
     
    พวกเธอ...เออออกันเอาเอง...! เห็นพวกเราเป็นอะไร?!”
     
    ไซโตะก้าวออกไปข้างหน้า สองมือถือดาบยกขึ้น
     
    บ้าหรือไงนาย ออกไปทำไมยะ?!” หลุยส์ร้องลั่น
     
    ซ—ไซโตะ อย่าบอกนะว่านายจะ... กีชมองเหมือนไซโตะเป็นบ้าไปแล้ว ซึ่งไซโตะเองก็อาจจะตอบว่าใช่
     
    ฉันไม่สบอารมณ์ ฉันไม่พอใจได้ยินมั้ยเอ็กซ์!” ไซโตะชี้ดาบไปที่เอ็กซ์ซึ่งไม่ขยับตัว
     
    ฉันไม่พอใจที่นายตัดสินใจเอาเองเสร็จสรรพว่าอย่างนู้นทำได้อย่างนี้ทำไม่ได้! ฉันไม่พอใจที่นายเก็บเรื่องกลุ้มใจไว้แล้วจัดการเองคนเดียวหมด! แต่ที่ฉันไม่พอใจที่สุด...ก็คือนายคิดว่าพวกเราไม่มีปัญญาช่วยอะไรนายได้!”
     
    ช่วยไม่ได้ย่ะ! ถ้าอยากตายก็บอกให้ไปสู้กับฝูงเอลฟ์เอาเองเลยไป!” มอนท์โมรันซี่ตวาดแว้ด แต่ไซโตะไม่สนใจ
     
    เอ็กซ์! ฟังให้ดีนะ! ฉันจะเอาชนะนาย! จะตบให้คว่ำแล้วลากกลับไปสงบสติอารมณ์ที่ทริสเทน! เตรียมตัวให้ดี!” ไซโตะส่งเสียงร้องเรียกพลังและวิ่งออกไป
     
    ก่อนจะถูกอาเนียสคว้าคอเสื้อจนเกือบขาดอากาศตาย
     
    เจ้าบ้า ทำอะไรของนาย
     
    คุณอาเนียสปล่อย! ถ้าคนอื่นไม่ไปผมจะไปเอง!”
     
    เจ้าหมาเอ๊ย ไม่ใช่ ลืมที่ฉันสอนไปหมดแล้วรึไง ใครใช้ให้ประกาศเจตนาแล้ววิ่งดุ่มเข้าไปซึ่งๆ หน้าแบบนั้น
     
    อาเนียสปล่อยมือจากคอเสื้อไซโตะและยกดาบตัวเองขึ้นมา
     
    ฉันสอนไว้ว่ายังไง จำนวนมากกว่าได้เปรียบใช่มั้ย
     
    ค—คุณอาเนียส!”
     
    ที่จริงฉันมีเรื่องไม่ชอบหน้าหมอนั่นมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วน่ะนะ
     
    นี่ จะบ้าเหรอยะพวกนายน่ะ!” มอนท์โมรันซี่ผู้เป็นเสียงแห่งเหตุผลตวาดอีกรอบ
     
    ผนังก็เปิดช่องให้อยู่ตอนนี้ แทนที่จะรีบหนี?!”
     
    อะไรกัน พวกเธอเองไม่ใช่เหรอที่ตะโกนปาวๆ ว่าจะมาช่วยคนไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ฉันก็แค่ทำตาม อาเนียสตอบแบบคนหัวหมอ
     
    เลเวียธานมองทั้งสองคนแล้วเผยรอยยิ้มบางๆ เพียงชั่วสั้นๆ  ก่อนจะสร้างหอกขึ้นพร้อมกับเดินออกไปยืนข้างหน้าไซโตะและอาเนียส
     
    ไม่น่าเชื่อว่าฉันปล่อยให้พวกนายสองคนตัดหน้าไปก่อน
     
    โฮ่ เธอเองก็มีเรื่องอยากจะตบเจ้านายซักทีเหมือนกันเหรอ
     
    ...จริงๆ แล้วก็ใช่นั่นล่ะ
     
    กีชสบตากับมาลิคอร์นพลางกลืนน้ำลาย ทั้งคู่พยักหน้าให้กัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนและหยิบคทาออกมา
     
    เดี๋ยวก่อนสิอัศวินทั้งสาม ขอให้หน่วยราชองครักษ์อองดีนผู้เป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมได้เป็นกำลังให้พวกท่านด้วย จังหวะดีมาก! เรานี่หล่อจริงๆ!’
     
    คีร์เก้เงยหน้ามองกีชที่เก๊กหล่อคาบคทารูปกุหลาบ ก้มลงมองขาที่สั่นเป็นเจ้าเข้า แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่เก๊กหล่อไร้ที่ติอีกรอบ
     
    มาลิคอร์นพยายามเลียนแบบ ท่าเดียวกันเป๊ะ แต่ไม่มีกุหลาบจึงคาบคทาปกติแทน ราวกับแฝดไข่คนละใบ
     
    พุ...ฮะๆๆๆๆ!!”
     
    คีร์เก้ลุกขึ้นยืนแล้วชักคทาออกมาทั้งที่ยังกุมท้องหัวเราะ
     
    พ—พวกนาย...ฮะๆๆ! ถ—ถ้าไปเล่นตลกร—รับรองรุ่ง!”
     
    คีร์เก้! อย่าหัวเราะช่วงเวลาโดดเด่นเป็นดาวของฉันเซ่!”
     
    ทาบาสะหันไปมองซิลฟีดที่บาดเจ็บกับมารดาที่นอนสลบไสลอยู่ด้านหลัง ก่อนจะลุกขึ้นและเดินเข้าไปยืนข้างคีร์เก้
     
    กิ๊ว! ท่านพี่เท่สุดๆ ไปเลยเนอะ!”
     
    มอนท์โมรันซี่นั่งก้มหน้ากุมศีรษะและพึมพำ
     
    บ้าไปแล้ว...บ้ากันไปหมดแล้ว...ฉันนึกแล้วเชียว...ตั้งแต่บอกว่าจะบุกกาเลียแล้ว...
     
    หลุยส์มองเพื่อนลุกขึ้นทีละคนขณะที่มือของตัวเองที่กำคทาสั่นระริก
     
    มือข้างหนึ่งวางลงบนไหล่ซ้ายของหลุยส์ อังริเอตต้ายิ้ม
     
    หลุยส์ ฉันน่ะแอบอิจฉาเธอรู้รึเปล่า เธอกล้าทำสิ่งที่เชื่อว่าถูกต้อง ฉันไม่ใช่คนที่กล้าหาญแบบนั้น ระหว่างที่อยู่ที่นี่ราชินีในตัวฉันพร่ำบอกว่าไม่มีใครมาช่วย บอกว่าเป็นไปไม่ได้ ...ขอบคุณจริงๆ ที่ให้ความสำคัญกับฉัน
     
    อังริเอตต้ายิ้มให้กับหลุยส์ก่อนจะลุกขึ้นยืน
     
    องค์หญิง!?”
     
    เขาคนนั้นก็กำลังสิ้นหวังอยู่เช่นกัน เขาคิดว่าไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ ฉันอยากจะเป็นเหมือนกับหลุยส์ ฉันอยากจะช่วยเขาให้ได้
     
    มือของอีกคนวางลงบนไหล่ขวาของเธอ
     
    หลุยส์เติบโตมาเป็นคนที่กล้าหาญ ถ้าพี่ยอมแพ้อาการป่วยตั้งแต่แรกพี่คงไม่ได้เห็นหลุยส์ในวันนี้ พี่ดีใจจริงๆ ที่ไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน
     
    คัทเลยาลูบศีรษะของหลุยส์ แล้วลุกขึ้นตามอังริเอตต้า
     
    เขาคนนั้นเป็นคนทำให้พี่ที่เกือบจะยอมแพ้กลับมาพยายามได้อีกครั้ง ถ้าหากเขายอมแพ้ พี่ก็อยากจะต่อความพยายามที่ได้รับมานี้คืนให้กับเขาเป็นการตอบแทน
     
    ท่านพี่จี!”
     
    ตายตายตายตายตายแน่ๆ! พวกเราตายกันหมดแน่ๆ! ปัดโธ่เอ๊ย! ยังงี้ไงฉันถึงบอกว่าไม่อยากไม่อยากไม่อยากมาน่ะ!!”
     
    มอนท์โมรันซี่ตะโกนอย่างเหลืออดแล้วลุกพรวดขึ้น
     
    ถ้าจะตายอยู่แล้วก็ให้มันรู้ไปสิยะ! ถ้าตายขึ้นมาจริงฉันจะโทษพวกนายทุกคน!!”
     
    กีชหันมามองแฟนสาวด้วยความซาบซึ้ง
     
    ม—มอนท์โมรันซี่! คุณจะช่วยผม—!”
     
    นายน่ะไปเป็นโล่ให้ฉันซะ!”
     
    ม—มาร—เอ๊ย! มอนท์โมรันซี่ คุณอย่าทำกับผมแบบนี้~!”
     
    ไซโตะมองแต่ละคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
     
    เดี๋ยวก็ตาค้างหรอก เพลาๆ ลงหน่อย เลเวียธานแขวะ
     
    โอ้! ถ้าคนเยอะขนาดนี้อาจจะมีทางชนะก็ได้นะไม่แน่!” เดอร์ฟลิงเกอร์พูดเสียงใส
     
    จริงเหรอ? ทำยังไง? ไซโตะรีบถามอย่างมีความหวัง ไม่สนใจเสียงตวาด ยังไม่มีแผนหรอกเหรอยะ!?’ ของมอนท์โมรันซี่
     
    ป่านนี้แล้วก็เหลือแต่ไม้ตายเท่านั้นล่ะ ความว่างเปล่าของยัยหนูไงล่ะ
     
    ฉ—ฉันเหรอ?!” หลุยส์ชี้ตัวเอง แต่หนังสือสวดมนต์อยู่ที่โรงเรียนนะ!”
     
    ไม่ต้องพึ่งคาถาใหม่หรอก คาถาที่มีอยู่ตอนนี้ก็ใช้ได้แล้ว คาถาที่ทำลายกองทัพเรือได้ในทีเดียวนะ
     
    หลุยส์ตาโต ก่อนจะลุกขึ้น
     
    จำได้รึเปล่า? เพราะฉันจำได้แค่ว่ามันยาวมาก... ไซโตะนึกถึงครั้งที่แล้วตัวเองที่ต้องขับเครื่องบินหลบมังกร หลบกระสุน หลบวาลด์ หลบวาลด์ที่ตัวสีเขียว กว่าจะร่ายเสร็จ
     
    จำได้...แต่จะร่ายทันเหรอ?
     
    ก็รีบเริ่มเลยสิ! หมอนั่นยังฝันกลางวันอยู่!” กีชชี้ไปที่เอ็กซ์ซึ่งดูเหมือนไม่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายฝั่งนี้เลย
     
    เชลที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้หลบไปยืนข้างนานะที่แค่เฝ้าดู ขณะที่พวกไซโตะเข้าประจำตำแหน่งเบื้องหน้าหลุยส์เผื่อเอ็กซ์จะบุกเข้ามา
     
    หลุยส์ชูคทาขึ้น สูดหายใจเข้าให้เต็มปอด นึกทบทวนคาถาที่ร่ายไปเมื่อเกือบปีก่อน และเริ่มร่าย
     
    ทันใดนั้นแววตาของเอ็กซ์ก็ขยับ ราวกับเสียงร่ายคาถาของหลุยส์ปลุกให้ตื่น เอ็กซ์ค่อยๆ เลื่อนสายตาอย่างช้าๆ  จนกระทั่งไปหยุดที่หลุยส์
     
    เป็นไง! เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วสิ! หลุยส์นี่ล่ะจะตบนายให้คว่ำแล้วลากกลับไปสงบสติอารมณ์ที่ทริสเทน! เตรียมตัวให้ดี!”
     
    ตอนแรกบอกจะทำเอง? คีร์เก้เลิกคิ้ว
     
    ใครทำก็เหมือนกันล่ะน่า!”
     
    เป็นดังที่ไซโตะพูด เอ็กซ์ดูจะตัดสินว่าคาถาของหลุยส์มีพลังพอจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง
     
    ...พวกนายจะเอาชนะฉันเหรอ? ทั้งที่ซีโร่ทำไม่ได้?
     
    ก็ใช่น่ะสิ! ซีโร่คนเดียวชนะนายไม่ได้ แต่ถ้ามีพวกเราทุกคนอยู่ด้วยล่ะก็ไม่มีทางแพ้แน่
     
    ดวงตาของเอ็กซ์เบิกกว้างขึ้น
     
    ...ถ้ามีทุกคนอยู่...
     
    เอ็กซ์มองแต่ละคนที่มีความความเต็มใจต่างกัน แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือการปกป้องการร่ายคาถาของหลุยส์
     
    เอ็กซ์ยกบัสเตอร์ขึ้นเล็ง คณะเดินทางขยับเข้าบังเส้นทางไปหาหลุยส์ แต่ไม่มีกระสุนออกมา
     
    เอ็กซ์ลดบัสเตอร์ลง เขาใช้พลังงานกว่าเก้าในสิบไปกับการจู่โจมครั้งสุดท้าย และตอนนี้ก็เป็นเวลากลางคืนทำให้รับพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ได้ แม้แต่การขยับตัวก็ยังทำได้ลำบาก ถ้าจะทำอะไรเขาต้องทำรวดเดียวเท่านั้น
     
    เอ็กซ์พึมพำ พลังของฉันคนเดียว... ก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปหาหลุยส์
     
    ไม่ปล่อยให้แตะต้องหลุยส์ได้หรอกน่า!”
     
    ไซโตะเข้ามาขวางเป็นด่านแรก ใช้เดอร์ฟลิงเกอร์ฟันใส่เอ็กซ์ แต่ถูกกันด้วยแขนเปล่าๆ  ก่อนจะถูกหมัดขวาเข้าที่ชายโครงซ้าย ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างบอกไซโตะว่ากระดูกอาจจะร้าว
     
    เอ็กซ์วิ่งปล่อยไซโตะให้ล้มลงและวิ่งผ่านไป จนกระทั่งมีกำแพงหินขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาขวาง เอ็กซ์ไม่ลดความเร็ว แต่จุดบูสเตอร์ด้วยพลังงานที่เหลืออยู่พุ่งทลายกำแพงหิน ผ่านคัทเลยาที่เป็นคนร่ายไปโดยไม่ชะลอความเร็ว
     
    ...เอโอร์ ซูน ฟิล ยาร์ซัคส์... คำร่ายของหลุยส์ดำเนินไปได้ราวหนึ่งในห้า
     
    กีช มาลิคอร์น กับมอนท์โมรันซี่ที่ไม่เต็มใจยืนเป็นด่านต่อไป
     
    มอนท์โมรันซี่ร่ายคาถากลั่นตัวไอน้ำรวมกับน้ำค้างที่เกาะอยู่บนพื้นจนกลายเป็นแอ่ง มาลิคอร์นร่ายคาถาเป่าลมแรงสวนกลับไปหาเอ็กซ์ กีชสร้างโกเลมวาลคีรี่สองตัวพุ่งเข้าชน
     
    ความลื่น บวกกับแรงลม บวกกับโกเลมสองตัวทำให้เอ็กซ์เสียหลักถอยกลับไปสองก้าว ก่อนจะถีบตัวกระโดดสวนกลับมา ข้ามโกเลมและแอ่งน้ำ ลงยืนข้างหน้าทั้งสามคน
     
    มอนท์โมรันซี่วิ่งหนีไปก่อนใคร กีชกับมาลิคอร์นค่อยๆ เถิบออกไปข้างๆ ให้เอ็กซ์ผ่าน
     
    ...โอส ซูน อุริว รุ ระโดะ...
     
    ด่านต่อไปของเอ็กซ์เป็นสองสาวดูโอ้ เอ็กซ์จำได้ว่าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ที่ได้พบครั้งแรก
     
    จำครั้งที่แล้วได้รึเปล่า ถ้าไม่ได้ภาชนะมนตรานายชนะพวกเราไม่ได้นะ คีร์เก้ยิ้มยั่ว แล้วเริ่มร่ายคาถา
     
    เราจะโค่นคุณที่นี่ เพื่อตัวคุณเอง ทาบาสะกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉยประจำตัว และเริ่มร่ายคาถาเช่นกัน
     
    ลูกไฟลูกใหญ่ตรงเข้ามา เอ็กซ์หลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ แต่ถูกค้อนอากาศกระแทกถอยหลัง
     
    เป็นไงล่ะ คีร์เก้ยิ้มยั่วรอบสอง
     
    เอ็กซ์ตั้งหลัก แล้ววิ่งเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้แม้ลูกไฟจะพุ่งเข้ามาก็ไม่หลบแต่ยอมรับความเสียหายเล็กน้อยพุ่งฝ่าไป ตามด้วยทิ้งตัวลงกลิ้งบนพื้น หลบลอดใต้ค้อนอากาศ
     
    หา?!” คีร์เก้ร้องยังไม่ทันจบ ตัวเองกับทาบาสะก็ถูกผลักกระเด็นแยกจากกัน
     
    อีกไม่ถึงสิบเมตรเอ็กซ์ก็จะถึงตัวหลุยส์
     
    กำแพงน้ำผุดขึ้นขวางทางเขาเหมือนกับกำแพงหินก่อนหน้า แต่บูสเตอร์ใต้เท้าเขายังไม่พร้อมเพราะพลังงานขาดแคลน
     
    เขาวิ่งอ้อม แต่กำแพงน้ำก็ขยับตาม ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจฝ่าไปด้วยกำลังขาเพียงอย่างเดียว
     
    ...เบโอธส์ ยูร์ สเวร์ คาโนะ โอเชรา...
     
    ใช้เวลาและแรงกายพอสมควร แต่ในที่สุดเขาก็หลุดมาอีกฟากหนึ่งได้สำเร็จ และพบกับอาเนียสและเลเวียธาน เหลือเพียงแค่สองคนที่ยืนขวางทางอยู่
     
    เฮอะ ถ้าคิดว่าผ่านฉันไปได้ง่ายๆ ก็ลองดูสิ อาเนียสท้า
     
    เอ็กซ์ได้ยินเสียงข้างหลังรวมกลุ่มกันทำท่าจะลงมือรอบสอง เขาวิ่งตรงไปข้างหน้า ไม่สนใจว่าอาเนียสกับเลเวียธานจะทำอะไร
     
    อาเนียสรู้ว่าด้วยกำลังของตัวเองดาบทำอะไรร่างกายของเอ็กซ์ไม่ได้
     
    ใช้แรงเสริมจากทั้งสองฝ่าย เป็นทางเดียวที่พอเป็นไปได้
     
    อาเนียสย่อขาโน้มตัวลง สองมือจับดาบในท่าแทง รอจนเอ็กซ์เข้ามาใกล้แล้วแทงสวนกลับไปสุดแรง
     
    เอ็กซ์ใช้นิ้วมือซ้ายจับใบดาบก่อนปลายจะเข้ามาถึงส่วนท้อง ปัดมันออกไปด้านซ้าย แล้วใช้มือขวาตบหน้าอาเนียสจนกระเด็น
     
    แต่ก็เปิดช่องให้เลเวียธานอ้อมเข้าข้างหลังและใช้ด้ามหอกงัดคอหยุดเอาไว้ได้
     
    เอ็กซ์พยายามคว้าร่างของเลเวียธานที่เป็นของเหลวอย่างเปล่าประโยชน์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมาย ไปที่ไซเบอร์เอลฟ์ซึ่งอยู่ข้างในร่างนั้น ฝ่ามือของเอ็กซ์ตบไซเบอร์เอลฟ์จนกระเด็น ร่างน้ำของเลเวียธานเสียการคงรูปไปชั่วขณะ
     
    ระหว่างเอ็กซ์กับหลุยส์ไม่เหลือใครที่ขวางอยู่แล้ว
     
    เซรา อิซา อุนจู ฮากัล...
     
    คาถาของหลุยส์เสร็จไปกว่าเก้าในสิบแล้ว ข้างหน้าเธอเพียงแค่เอื้อม สิ่งที่ทรงพลังกำลังตรงเข้ามา เพียงแค่มือเปล่าก็สามารถเค้นชีวิตออกไปจากเธอได้อย่างง่ายดาย
     
    น่าแปลกที่หลุยส์ไม่รู้สึกกลัว แม้แต่เมื่อมือสีขาวเอื้อมเข้ามา ความกล้าของเธอมาจากที่ใดกัน
     
    ...จริงสิ จากคนที่สะกดกลั้นความกลัวไว้ในใจ กล้าหาญเพื่อคนอื่น
     
    เอ็กซ์ชะงักเมื่อมือที่เขาเอื้อมเข้าไปแย่งคทาจากเด็กสาวผมสีชมพูถูกปัดออกไปในวินาทีสุดท้าย
     
    ไซโตะก้มอยู่หน้าหลุยส์กุมชายโครงด้วยมือขวา มือซ้ายที่รูนเปล่งแสงถือดาบที่ปัดมือเอ็กซ์ออกไป ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดมีรอยยิ้มของคนที่ไม่ยอมแพ้
     
    ฮะ...ฉันบอกแล้วไง...ไม่ให้แตะต้องหลุยส์ได้หรอก
     
    ...เบโอค อิล!”
     
    หลุยส้ชี้คทาไปที่ร่างสีน้ำเงิน พลันแสงสว่างก็ปกคลุมทัศนวิสัยของผู้ที่อยู่ในห้องโถง
     
    [...]
     
    เอ็กซ์รู้สึกว่าตัวเองลอยอยู่ในอากาศ
     
    ร่างของเขาลอยอยู่ในความว่างเปล่า ไม่รู้สึกถึงสิ่งใด...
     
    ความรู้สึกนี้...ตั้งแต่ตอนนั้น...
     
    แสงสว่าง...แสงสว่างกลืนกินความมืด...
     
    จากด้านหลังเขา แสงสว่างจ้าจนแสบตาแผ่ขยายไปสุดลูกหูลูกตา
     
    ความมืดที่เกาะกุมจิตใจของเขาค่อยๆ สลายไปกับแสงสว่างนี้
     
    ร่างกายของเขาเบาหวิว ราวกับไม่มีอะไรถ่วงเขาเอาไว้ เป็นครั้งแรกนับแต่...บนท้องฟ้าวันนั้น...
     
    ในหัวของเขาได้ยินคำพูดของไซโตะสะท้อนไปมา
     
    ...ถ้ามีทุกคนอยู่...
     
    พลังของซีโร่คนเดียวเอาชนะเขาไม่ได้ แต่ด้วยคำว่า ทุกคน ของไซโตะ ในที่สุดเขาก็พ่ายแพ้
     
    ...ถ้าตอนนั้นมีทุกคนอยู่...
     
    สิ่งที่พลังของเขาคนเดียวทำไม่สำเร็จอาจจะทำได้ก็ได้
     
    ไม่สิ...
     
    เชลเองก็ทำสำเร็จแล้ว ด้วยพลังของ ทุกคน เช่นเดียวกัน
     
    เขาเข้าใจแล้ว ที่เขาทำไม่สำเร็จก็เพราะเขาไม่มี ทุกคน อยู่
     
    เขายอมรับความพ่ายแพ้นี้
     
    เขาพอใจแล้ว...
     
    [...]
     
    ร่างของเอ็กซ์นอนราบบนพื้นหินของห้องโถงปราสาทอาฮัมบรา ชิ้นส่วนชุดเกราะสีม่วงเต็มไปด้วยรอยร้าว ดวงตาปิดสนิท
     
    ...ตายแล้วเหรอ? หลุยส์ถามอย่างอ่อนแรง ทั้งคาถาที่สูบพลังใจไปจนหมดสิ้น ทั้งความตึงเครียด แค่จะยืนเธอยังต้องให้คีร์เก้ประคอง
     
    ยังหรอก นานะคุกเข่าลงข้างศีรษะของเอ็กซ์ และยกมันขึ้นมาวางบนตัก คาถาของคุณไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อฆ่าเอ็กซ์
     
    ก็แหงล่ะ...อุตส่าห์ถ่อมาถึงนี่แล้ว
     
    นานะทาบมือบนหน้าผากของเอ็กซ์ มองใบหน้าที่ปราศจากกังวล
     
    ฉันกับเอ็กซ์ตกลงกันว่าหากเขาเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน ฉันจะให้เขาได้พักผ่อนอย่างหมดห่วงตลอดกาล
     
    เดี๋ยวสิ...นั่นมันก็คือตายไม่ใช่เหรอ... ไซโตะกลืนความเจ็บพูดออกมาระหว่างที่รอให้เลเวียธานรักษาด้วยแหวนอันดวาริ
     
    เอ็กซ์ได้ตายไปแล้ว ดังที่คุณได้เห็น ในตอนนี้โปรแกรมของเขาเพียงแต่อาศัยอยู่ในร่างที่สร้างขึ้นใหม่ หากแยกโปรแกรมที่เป็นไซเบอร์เอลฟ์ของเขาออกมาก็สามารถส่งกลับไซเบอร์สเปซได้เช่นเดียวกับไซเบอร์เอลฟ์ตัวอื่นๆ
     
    ...แต่เธอจะไม่ทำสินะ เลเวียธานตอบแทนนานะ
     
    ถ้าหากเอ็กซ์เป็นฝ่ายชนะเดิมพันฉันก็ต้องทำ...แต่เอ็กซ์ไม่ได้ชนะ เขายังไม่ได้ถูกทำลาย ฉันก็ไม่ได้ชนะ ผู้ที่ชนะคือพวกคุณ
     
    เลเวียธานพยักหน้า พวกเธอมายังผลลัพธ์ที่ถูกต้องจนได้
     
    มาเธอร์เอลฟ์ลอยจากข้างเลเวียธานขึ้นไปอยู่เหนือร่างของเอ็กซ์ ก่อนจะเปล่งแสงอาบร่างที่แตกร้าว
     
    เมื่อแสงดับลง ร่างที่นอนอยู่ก็ถูกแทนที่ด้วยเด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทา
     
    มาเธอร์เอลฟ์... เลเวียธานพึมพำ
     
    ...ไม่ว่าเมื่อไหร่ คุณก็อยู่ข้างเอ็กซ์เสมอ
     
    มาเธอร์เอลฟ์ส่องแสงกะพริบราวกับตอบคำพูดของนานะ
     
    เลเวียธานยกร่างเอ็กซ์ที่หมดสติขึ้นพยุง อาเนียสซึ่งเพิ่งรักษาแก้มเสร็จเข้ามาประกบอีกด้าน
     
    ทาบาสะช่วยพยุงซิลฟีด อังริเอตต้าแบกดัชเชสเดอ ออร์เลียงขึ้นหลัง กีชกับมาลิคอร์หามซีโร่ให้ขึ้นบ่า
     
    ทุกๆ คนสะบักสะบอมต่างกัน แต่ก็รอดมาได้
     
    รอดมาได้ ครบทุกคน...!’
     
    ไซโตะกำหมัดชูมือขึ้น
     
    เยส—โอ๊ย!”
     
    ใจเย็นๆ  ฉันไม่ได้รักษาให้นายหมดนะ เปลือง พักเองบ้าง เลเวียธานเตือน
     
    ตาบ้าเอ๊ย... หลุยส์พึมพำเบาๆ ใต้รอยยิ้ม
     
    คณะเดินทางเตรียมตัวกลับ มาเธอร์เอลฟ์ก็ได้มาแล้ว ไซเบอร์เอลฟ์ตัวที่ควบคุมการซ่อมแซมห้องนี้ก็ส่งกลับไปแล้ว(เหนื่อยหอบ) คนที่มาช่วยก็ได้ตัวครบแล้ว สามารถกลับได้ทันที
     
    แล้วเธอล่ะ จะทำยังไง? จะทำงานให้ราชสำนักกาเลียต่อเหรอ? ไซโตะถามนานะ
     
    เขารู้สึกแปลกพิกล ก่อนจะเข้ามาในปราสาทหลังนี้เขามองผู้หญิงคนนี้เป็นศัตรูที่ต้องโค่น แต่ตอนนี้นึกทบทวนดูเขาได้นานะช่วยเหลือหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดก็คือช่วยให้ได้เข้าใจเอ็กซ์
     
    ฉันยังเหลือสิ่งที่ต้องทำอีกนิดหน่อย พวกคุณไปเถอะ
     
    ฟ้ายังมืดอยู่ แต่รุ่งสางก็อยู่อีกไม่ไกลนัก พวกเขาต้องนำรถลากกลับไปคืนจากที่เช่ามา ระหว่างนั้นก็ฉกอีกคันที่ใหญ่กว่าและมีหลังคาจากปราสาทไปใช้เองเสียเลย(มีคนเพิ่มมาอีกสามคน ซิลฟีดแบกไม่ไหวแล้วแน่นอน)
     
    หลังจากวางคนที่หมดเรี่ยวแรง(เอ็กซ์ ซีโร่ หลุยส์ แม่ของทาบาสะ)ลงในรถลากแล้ว พวกไซโตะ(พร้อมรถลากอีกสองคันกับม้าอีกสองตัว)ก็เดินผ่านสนามหน้าปราสาทตรงไปยังประตูทางออก
     
    พวกเจ้าทุกคนหยุดอยู่แค่นั้น
     
    เสียงของชายหนุ่มกล่าวขึ้นจากเหนือศีรษะคณะเดินทาง ร่างสวมเสื้อคลุมและหมวกค่อยๆ ลอยลงมาจากฟ้า จนกระทั่งลงขวางที่หน้าทางออก
     
    หมอนี่ใคร?
     
    อ—เอลฟ์! หูแหลมแบบนั้นไม่ผิดแน่!”
     
    ไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ตอบ แต่ทุกคนต่างก็หยิบอาวุธของตัวเองออกมา
     
    ทว่าไม่น่ามีใครมีแรงเหลือจะทำการต่อสู้
     
    อั๊ยยะ! ลืมไปสนิทเลยว่าเราต้องระวังเอลฟ์!” คีร์เก้ตบหน้าผากตัวเอง
     
    โผล่มาอะไรตอนนี้เล่า คิวหมดแล้วย่ะ...โธ่เอ๊ย มอนท์โมรันซี่โอดครวญ
     
    เอลฟ์แนะนำตัว
     
    ข้าชื่อบิดาชาร์ เป็นเอลฟ์อย่างที่พวกเจ้ารู้ ข้าได้รับหน้าที่ให้ควบคุมแม่ลูกคู่นั้นเอาไว้ ให้พวกเจ้าพากลับไปไม่ได้
     
    งั้นก็ต้องใช้กำลังกัน—
     
    นายน่ะเงียบไปเลย ฉันจัดการเอง เลเวียธานตัดบทไซโตะและออกไปยืนข้างหน้า
     
    บิดาชาร์แสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นเลเวียธานชัดๆ
     
    เจ้า...! เจ้ามีวิญญาณเทียมเช่นเดียวกับหุ่นตัวนั้น แต่มีร่างกายที่ได้รับพรจากเหล่าภูต...เป็นไปได้ยังไง...?
     
    ฉันสนิทกับภูตวารี แค่นั้นพอมั้ย? รีบถอยออกไปถ้าไม่อยากโดนดี วันนี้พวกฉันเหนื่อยมามากแล้ว เสียงเลเวียธานบอกว่าไม่สบอารมณ์แบบสุดๆ
     
    ...ถึงจะใช้พลังของภูตได้บ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ผ่านข้าไปได้
     
    บิดาชาร์ยืนอยู่เฉยๆ  แต่เลเวียธานทำหน้าหงุดหงิด
     
    เคาน์เตอร์อะไรนั่นอีกแล้วเหรอ...
     
    มีแค่พวกเจ้าผ่านไปไม่ได้หรอก ผู้ใช้พลังของปีศาจก็ไม่เหลือกำลังแล้ว หุ่นที่มีพลังเทียบเท่าปีศาจสองตัวนั้นก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะขยับได้...
     
    สายตาบิดาชาร์หยุดที่ร่างหมดสติของเอ็กซ์
     
    เขาจำได้ติดตา หลังจากหุ่นที่ทำงานให้โจเซฟให้เขาร่ายเคาน์เตอร์ลงทุกซอกทุกมุมของห้องโถง เคาน์เตอร์เป็นสิ่งที่ผู้ทำสัญญาระดับสูงๆ ได้เท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เอลฟ์อย่างพวกเขาเป็นที่เกรงกลัวแก่เหล่าคนเถื่อน
     
    เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทานั่นเข้ามาและแปลงเป็นหุ่นสีน้ำเงิน เพียงไม่กี่อึดใจหลังจากนั้นสิ่งที่บิดาชาร์คิดเกี่ยวกับเคาน์เตอร์มาตลอดก็ถูกสั่นคลอนอย่างใหญ่หลวง
     
    ชั่วขณะหนึ่งเขาสงสัยว่าหุ่นตัวนั้นอาจมีพลังเทียบได้กับพลังแห่งไชตัน เป็นความคิดที่เขารู้ตัวทีหลังว่าไม่จริง แต่ความตกใจของเขาก็มากขนาดนั้น
     
    และเมื่อเขารออยู่ด้านนอกตามคำสั่งของนานะที่ให้ไปที่อื่น ได้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งสองตัวสู้กันเอง
     
    หุ่นเหล่านี้อันตรายเกินไป
     
    พวกคนเถื่อนเอ๋ย หุ่นสองตัวที่อยู่กับพวกเจ้านั้นมีพลังเหนือกว่าที่พวกเจ้าจะสามารถควบคุมได้ จงทิ้งมันไว้ที่นี่เสีย
     
    หา? อยู่ดีๆ หมอนี่พูดอะไร?
     
    นี่นาย...ถ้าคิดทำร้ายท่านเอ็กซ์ล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่ปรานีนะ
     
    เลเวียธานสร้างหอกขึ้นชี้หน้าบิดาชาร์ บรรยากาศตึงเครียดเมื่อการต่อสู้ทำท่าจะเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง
     
    (พวกคุณถอยไปก่อน)
     
    ดวงแสงสีชมพูเข้ามาคั่นระหว่างบิดาชาร์กับคณะเดินทาง
     
    นานะ...เธอ... เลเวียธานตาโต
     
    [...]
     
    โจเซฟสะดุ้งตื่นขึ้นบนเตียง
     
    ...งั้นเหรอ เมียวธ์ที่น่ากลัวของฉันไม่อยู่แล้ว...
     
    เมื่อสองวันก่อนนานะเปรยไว้ว่าโจเซฟอาจจะต้องหาอสูรรับใช้ใหม่ ดังนั้นแม้จะรู้สึกเพียงแค่ลางสังหรณ์ แต่โจเซฟก็รู้ว่าเป็นความจริง
     
    ไปโดยที่พอใจแล้วรึเปล่านะ? หรือว่าพลาดท่า? อย่างหลังดูไม่น่าเป็นไปได้...เมียวธ์คนต่อไปจะทำยังไงดีนะ พรุ่งนี้ค่อยคิดก็แล้วกัน
     
    โจเซฟหลับตาลงนอนต่อ ตั้งใจว่าจะบอกลานานะในฝันเป็นครั้งสุดท้าย
     
    [...]
     
    เจ้าคือ...ดวงวิญญาณเทียมของหุ่นตัวนั้น? ปล่อยให้คนเหล่านี้พาแม่ลูกคู่นั้นออกมาได้ ยังต้องการอะไรอีก?
     
    (ฉันตัดสินใจฝากเอ็กซ์ไว้กับคนกลุ่มนี้แล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามขวาง)
     
    ข้าไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งจากเจ้า หากถามมนุษย์ผู้นั้นข้ามั่นใจว่าครั้งนี้เขาไม่เข้าข้างเจ้าแน่นอน
     
    (ฉันไม่ได้คิดว่าคุณจะยอมถอยไปแต่โดยดีอยู่แล้ว ...ตัวฉันที่มีร่างกายอาจทำไม่ได้ แต่ในร่างนี้ไม่เป็นอุปสรรค)
     
    ไซเบอร์เอลฟ์นานะเปล่งแสง และหลังจากนั้น แม้ในสายตาของไซโตะจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ดวงตาของบิดาชาร์ที่เบิกกว้างขึ้นบอกว่าต้องมีแน่นอน
     
    เจ้า...ทำอะไรลงไป...?
     
    (ไม่มีระบบป้องกันใดที่ฉันแฮ็กไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในไซเบอร์สเปซ หรือจะเป็นในมิติกายภาพ)
     
    บิดาชาร์รักษาความเยือกเย็น แต่เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปดังที่คาด
     
    (ไม่ว่าจะทำสักกี่ครั้งก็ไม่มีประโยชน์ ฉันมีเวลาวิเคราะห์เคาน์เตอร์ที่คุณวางไว้ในห้องโถงถึงห้าวัน โครงสร้างของเคาน์เตอร์ของปราสาทหลังนี้ถูกฉันแกะเรียบร้อยแล้ว)
     
    เลเวียธานวิ่งเข้าไปหาบิดาชาร์และใช้ด้ามหอกกระทุ้งท้องหนึ่งครั้ง
     
    ทีนี้จะถอยไปได้รึยัง?
     
    บิดาชาร์เซถอยหลังกลับไป ก่อนจะใช้มือขวากุมมือซ้าย ศิลาลมที่ผนึกอยู่ในแหวนทำงาน ยกตัวบิดาชาร์ลอยกลับขึ้นไปเหมือนขามา
     
    คนเถื่อนผู้โง่เขลา พวกเจ้าจะต้องเสียใจที่ประมาทพลังของหุ่นเหล่านั้น...ทายาทแห่งไชตันเอ๋ย! ข้าขอเตือนพวกเจ้า อย่าได้ย่างกรายเข้าไปใกล้ประตูแห่งไชตัน! มิฉะนั้นแล้วพวกเราจะใช้พลังทั้งหมดทำลายพวกเจ้า ไม่ว่าจะมีหุ่นเหล่านั้นช่วยเหลือพวกเจ้าสักกี่ตัว!”
     
    ร่างของบิดาชาร์ลอยขึ้น จนกระทั่งหายไปจากสายตา
     
    คณะเดินทางมองหน้ากัน
     
    ทีนี้ไปได้แล้วใช่มั้ย?
     
    [...]
     
    [.....]
     
    หลังจากคืนรถลากกับม้าหนึ่งตัวที่เช่ามาโดยผูกไว้หน้าคอกซึ่งปิดอยู่(เดี๋ยวตื่นเช้าก็มาเก็บไปเอง) คณะเดินทางก็นำรถม้าอีกคันที่หรูกว่ากับม้าอีกหนึ่งตัวเดินทางออกจากเมืองโอเอซิส
     
    เนื่องจากเลเวียธานเกลียดม้า(เปื้อนฝุ่นดินและอุจจาระ) ผู้นั่งที่นั่งคนขับและกุมบังเหียนม้าจึงเป็นกีชและมาลิคอร์น ซึ่ง(แม้เจ้าตัวทั้งคู่จะปฏิเสธ)เป็นคนที่ได้ทำอะไรน้อยที่สุด (อนึ่ง มอนท์โมรันซี่บอกว่าตัวเองเป็นเลดี้ ดังนั้นจึงไม่ควรนับ) ทั้งคู่มองทางข้างหน้าพลางพูดคุยกันด้วยเสียงที่มีทั้งความตื่นเต้นและความเหนื่อยล้าปะปนกัน
     
    นี่กีช
     
    อาราย
     
    ถ้าคิดดูให้ดีๆ  พวกเราทำอะไรที่ไม่เข้าท่าสุดๆ ไปแล้วไม่ใช่เหรอเนี่ย?
     
    อ่าฮะ ท่าทางจะใช่แล้วล่ะ
     
    พ่อกับแม่ที่บ้านฉันจะคิดยังไงนะ...ตอนที่ฉันบอกว่าจะได้เป็นหน่วยราชองครักษ์พ่อกับแม่ดีใจมากเลย...แต่ตอนนี้ฉันจะกลับไปเป็นผู้ร้าย พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะทีนี้ ให้ตายเหอะ...
     
    นายเสียใจที่มาด้วยรึเปล่า?
     
    ฉันว่าถ้าไม่มาด้วยจะเสียใจมากกว่านะ ถ้าฉันยังเป็นคนเดิมที่วันๆ มีแต่ถูกนักเรียนหญิงรังแก เป็นคนที่ไม่ช่วยพวกนาย ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับสามัญชนคนธรรมดา มาลิคอร์นพูดพลางถอนใจ
     
    งั้นก็อย่าเสียใจ กีชตบไหล่เพื่อน นายเป็นคนดี! ซักวันก็จะหาผู้หญิงดีๆ ได้เอง! ฉันรับรอง
     
    ถึงได้กีชรับรองก็ไม่ทำให้ดีใจหรอก...
     
    ขณะเดียวกันข้างในรถม้า คนอีกสิบสองคน(คนที่เป็นมังกรบินตามมาบนท้องฟ้า คนที่ตัวเป็นน้ำนอนอยู่บนหลังคา)นอนเบียดเสียดกันในพื้นที่อันจำกัด
     
    ทำไมไม่เอามาอีกคันล่ะยะเนี่ย... มอนท์โมรันซี่นั่งพิงมุมซ้ายท้ายคัน ตรงข้ามกับคีร์เก้
     
    ก็มันมีอยู่คันเดียว...นี่ก็คันใหญ่สุดแล้ว... คีร์เก้ตอบอย่างไม่มีอารมณ์ ตาปรือใกล้จะหลับเหมือนหลุยส์ที่อยู่ด้านขวา
     
    เป็นกองทหารที่อัตคัดเป็นบ้า...
     
    ทะเลทรายตอนกลางคืนหนาวนะ ได้เบียดกันก็ดีแล้ว อาเนียสตอบมาจากหน้าคันรถ คั่นระหว่างอังริเอตต้าที่อยู่ด้านซ้ายกับร่างของเอ็กซ์ที่อยู่ด้านขวาติดมุม
     
    ด้านซ้ายของคัน แม่ลูกที่ถูกช่วยมาจากปราสาทอาฮัมบราหลับพิงศีรษะกัน ไซโตะนั่งคั่นระหว่างทาบาสะกับมอนท์โมรันซี่ เข้าสู่โลกนิทราไปแล้วเช่นกัน เชลนั่งถัดจากแม่ของทาบาสะ ซีโร่นั่งถัดไปติดมุม ด้านขวาของคัน อังริเอตต้าและหลุยส์นั่งหลับพิงคัทเลยาเหมือนสมัยเด็กๆ
     
    บรรยากาศอ่อนเพลียปกคลุมภายในรถม้า ในที่สุดอาเนียสก็ผล็อยหลับไปเป็นคนสุดท้าย โยนเรื่องเฝ้ายามทิ้งไปสักหนึ่งคืน
     
    --
     
    PBW:“โอ...จบ Arc 10 แล้ว ไม่น่าเชื่อ...
     
    DX:“ไม่น่าเชื่อว่ามันจะยาวขนาดนี้น่ะสิ  Arc เดียวล่อไปสี่ร้อยกว่าหน้าเวิร์ด
     
    PBW:“น่า ก็เป็น Arc สุดท้ายของที่เป็นไคลแม็กซ์ครึ่งแรกนี่
     
    DX:“แล้วทีนี้จะเอาไง แต่งต่อเลยมั้ย?
     
    PBW:“ที่จริงก็อยากจะนะ...แต่ขอวางแผนซักนิดก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างที่วางไว้ใช้ไปหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย...ขอทบทวนความผิดพลาดที่ทำไปทั้งหมดก่อน(คือมีเยอะมาก เยอะจนไม่สามารถกลับลำได้ ต้องแถมาจนจบครึ่งแรก แล้วค่อยทบทวน)
     
    S:“นี่เอง ที่ว่ายืนหล่อๆ แล้วรอขโมยซีนตอนท้าย ไม่เลวๆ
     
    DX:“จำได้แม่นเหลือเกินนะ...
     
    PBW:“ประเด็นสำคัญของ Arc นี้ทั้งหมดก็คือ ต้องการจะสื่อว่าชีวิตของทุกคนในร็อคแมนเอ็กซ์มันจะเละเทะขนาดไหนถ้าเหตุการณ์เป็นตามที่ร็อคแมนซีโร่บรรยาย(ยกเว้นซีโร่ ซึ่งรอดมาได้ด้วยการเสียความทรงจำ) อีกประเด็นก็คืออยากจะเขียนบทบาทของมนุษย์และเหตุการณ์ช่วงที่เอ็กซ์เป็นผู้นำเนโออาร์คาเดียอยู่ตั้งจะเป็นร้อยปี คนเขียนจินตนาการมาตลอดว่ามนุษย์ต้องมีส่วนทำอะไรซักอย่างให้เหตุการณ์เป็นแบบนั้น มนุษย์ไม่ได้ว่านอนสอนง่ายขนาดนั้นแน่นอน(เสียดายที่ต้องตัดสั้น เพราะยาวเกินไปไม่ได้ ควรจะแยกออกไปเขียนต่างหากมากกว่า) สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือการเขียนเอ็กซ์เป็นฝ่ายร้ายให้น่าเชื่อนี่ทำได้ยากมาก(สำหรับคนเขียนคนนี้) และอีกสิ่งหนึ่งก็คือการวางแผนไว้ล่วงหน้ายิ่งละเอียดไม่ได้หมายความว่ายิ่งดีถ้าจัดระบบไม่เป็น
     
    PBW:“ส่วนที่ชอบที่สุดของ Arc นี้ก็คือฉากบรรยายการต่อสู้ของเอ็กซ์กับซีโร่(ไม่มีใครสนใจหรอก แต่ฉากแรกเอ็กซ์ใช้อาวุธจากภาค X1 ถึง X8 ภาคละชนิด) จากแต่ละเกมที่ทำมาซีโร่เป็นประเภทที่ยอมตายมากกว่ายอมทำสิ่งที่คิดว่าผิด ดังนั้นทางเดียวที่จะให้สองคนนี้ได้สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายก็คือเอ็กซ์ต้องเป็นคนที่อยู่ฝ่ายผิด รู้สึกว่าได้จิตวิญญาณสายบู๊คืนมาหน่อย จากนี้ไปก็หวังว่าจะได้ขัดเกลาอยู่เรื่อยๆ  สำหรับคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ได้...พบกันตอนหน้าครับ
     
    (อันนี้มาสังเกตทีหลัง แต่ลักษณะเหตุการณ์ Arc นี้คล้าย Rockman X8 อยู่นิดหน่อย ตรงที่บอสใหญ่ตัวจริงกลับไม่ใช่บอสใหญ่ และคนที่คิดว่าโดนบอสจับไปกลับกลายเป็นบอสใหญ่แทน...นี่คงไม่ได้สปอยล์คนที่ไม่เคยเล่นนะ ถ้าไม่เคยเล่นรีบไปหามาเลย เกมดี ขนาดคนเขียนเพิ่งเอาให้เพื่อนเล่นปี 2016(สิบสองปีหลังออกจำหน่าย)ยังเล่นยันจบเลย)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×