ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : โลกใบใหม่

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4: คำขอของเพื่อนสมัยเด็ก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 616
      17
      26 ก.ย. 61

    โรงเรียนเวทมนตร์ทริสเทน หอพักนักเรียนเงียบสงัด เนื่องจากขณะนี้ดึกแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่ต่างก็หลับหรือไม่ก็อ่านหนังสืออยู่ในห้องตัวเองเงียบๆ บนทางเดินที่มีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟ เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทายืนพิงกำแพงอยู่ใกล้กับประตูบานหนึ่ง ฟังเสียงที่อยู่ด้านใน

     

    หยุดเถอะหลุยส์...!” เสียงของอังริเอตต้าดังออกมาถึงข้างนอกโดยที่เขาไม่ต้องเงี่ยหูฟัง

     

    ตอนนี้ไม่มีทั้งคาร์ดินัล ท่านแม่ และพวกขุนนางละโมบในราชสำนักที่สวมหน้ากากเป็นมิตรอยู่ที่นี่ ถ้าแม้แต่หลุยส์ ฟรังซัวส์ เพื่อนรักที่ฉันคิดถึงยังทำตัวเหินห่าง ฉันจะพึ่งใครได้...!”

     

    สีหน้าของเอ็กซ์ดำมืดลง ถึงจะพอเดาได้ก่อน แต่พอมาได้ยินจริงๆ ว่าเด็กผู้หญิงเมื่อตอนนั้นต้องเจอกับปัญหาสำคัญของผู้นำประเทศปัญหาเดียวกับที่เขาเคยเจอแล้วก็อดสลดใจไม่ได้

     

    เพื่อนเก่าสองคนคุยเรื่องสมัยเด็ก คนหนึ่งอย่างปลื้มใจ อีกคนหนึ่งอย่างเอียงอายและซาบซึ้ง เช่นว่าเรื่องที่ทั้งสองเคยวิ่งเล่นไล่จับผีเสื้อกันที่สวนในวัง แล้วตัวเปื้อนดินกลับไป ทำให้ถูกมหาดเล็กดุ แล้วก็ยังเคยแย่งเค้กครีมจนบานปลายเป็นทะเลาะกันจริงๆ คนที่ชนะมักจะเป็นเด็กหญิงผมสีชมพูที่ดึงผมของคู่ทะเลาะจนร้องไห้

     

    ว้าว...เรื่องของเด็กๆ แฮะ เขาอดจะคอมเมนต์ในใจไม่ได้

     

    แล้วก็ยังตอนที่เราแย่งเสื้อผ้ากันในห้องนอน เพราะตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเล่นบท<เจ้าหญิง>ใน<ราชสำนักสมมุติ> แล้วก็เป็นหมัดของฉันเข้าที่ท้องของหลุยส์ ฟรังซัวส์ที่ตัดสินผล อังริเอตต้าพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น

     

    หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวแล้ว เด็กหนุ่มผมดำซึ่งนั่งเป็นหมาอยู่ก็ต้องตาโตเมื่อถึงบางอ้อ ว่าองค์หญิงที่ดูสูงสง่านั้น ที่จริงแล้ว...เป็นหญิงห้าว...

     

    อืม...เด็กจริงๆ... ด้านนอก เอ็กซ์ยังไม่เลิกคอมเมนต์ในใจ

     

    แต่ว่าหม่อมฉันรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักที่องค์หญิงยังทรงจำหม่อมฉันได้...หม่อมฉันนึกว่าพระองค์จะทรงลืมไปแล้วเสียอีก

     

    คำพูดของเด็กสาวผมสีชมพูทำให้สีหน้าของเอ็กซ์มืดมนลง

     

    ...ลืมเหรอ...

     

    องค์หญิงถอนหายใจและนั่งลงที่ขอบเตียง

     

    ฉันจะลืมได้ยังไง? ช่วงเวลานั้นมีแต่ความสุข ไม่มีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจ ความเศร้าฝังแน่นในน้ำเสียงของเธอ

     

    ฉันอิจฉาเธอจริงๆ นะ หลุยส์ ฟรังซัวส์ อิสระเสรีช่างเป็นสิ่งที่ล้ำค่าจริงๆ...

     

    แต่ว่าพระองค์ทรงเป็นองค์หญิงมิใช่หรือเพคะ?

     

    องค์หญิงก็เหมือนนกที่ถูกเลี้ยงไว้ในกรง ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายโดยไม่มีสิทธิ์ค้าน...

     

    อังริเอตต้ามองออกไปที่ดวงจันทร์นอกหน้าต่างอย่างเหงาหงอย องค์หญิงหันกลับมากุมมือของหลุยส์และยิ้มหวาน

     

    ฉัน...ฉันกำลังจะแต่งงานแล้วนะ

     

    ...หม่อมฉันขอแสดงความยินดีด้วยนะเพคะ

     

    ยินดีกับผีน่ะสิ เอ็กซ์เกือบจะเผลอพูดออกมาเสียงดัง ไม่ต้องเป็นคนเฉียบคมก็ฟังออกว่าน้ำเสียงนั้นมีความเศร้าแฝงอยู่ เด็กสาวผมสีชมพูเองก็คงรู้ ถึงได้ตอบเสียงเบาแบบนั้น

     

    ในตอนนั้นเองที่อังริเอตต้าสังเกตเห็นเด็กหนุ่มผมดำอยู่บนที่นอนฟาง(ก็คือเอาฟางมากองรวมกัน เหมือนที่นอนม้า)

     

    อ้าว? นี่ฉันมารบกวนรึเปล่า?

     

    รบกวนอะไรหรือเพคะ?

     

    เขาไม่ใช่คนรักของเธอหรอกเหรอ? ฉันมัวแต่รำลึกอดีตซะจนไม่ได้สนใจคุณเลย ขอโทษด้วยนะคะ อังริเอตต้ากล่าวขอโทษไซโตะ

     

    เสียงของหลุยส์ดังออกมาจากด้านใน เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่น บอกว่านี่คืออสูรรับใช้ของเธอ อังริเอตต้าประหลาดใจที่อสูรรับใช้เป็นมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เธอเพียงแต่ถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องกลุ้มใจที่กำลังเผชิญ

     

    องค์หญิงทรงถอนหายใจทำไมหรือเพคะ?

     

    เปล่าหรอก ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องมาทุกข์ร้อนกับปัญหาของฉันด้วยหรอก

     

    ได้โปรดบอกแก่หม่อมฉันเถิดเพคะ ปัญหาใดที่ทำให้องค์หญิงที่ร่าเริงเช่นพระองค์ต้องถอนหายใจ

     

    ...ไม่ ฉันบอกเธอไม่ได้หรอก ลืมซะว่าฉันเคยพูดก็แล้วกันนะ หลุยส์

     

    หม่อมฉันไม่ลืมหรอกเพคะ! องค์หญิงทรงเรียกหม่อมฉันว่า<เพื่อน>เอง แล้ว<เพื่อน>ก็ควรจะเล่าความทุกข์ให้กันและกันฟังมิใช่หรือเพคะ?

     

    ได้ฟังคำพูดของหลุยส์ อังริเอตต้ายิ้มอย่างชื่นบาน

     

    เธอเรียกฉันว่าเพื่อน ฉันดีใจจริงๆ

     

    อังริเอตต้าพยักหน้าอย่างแน่วแน่ ก่อนจะเปิดปากเล่าเรื่องกลุ้มใจให้ฟัง ไม่ลืมกำชับว่าอย่าบอกใคร

     

    ท่าทางจะเป็นเรื่องสำคัญ...

     

    เฮ้ย!” เสียงร้องดังขึ้น เอ็กซ์หันขวับไปตามเสียง พบว่าเป็นนักเรียนชายผมสีทองคนหนึ่ง เขาถูกเห็นเข้าซะแล้ว

     

    นี่แกอุ๊บ!” ปากของนักเรียนชายคนนั้นถูกปิดอย่างรวดเร็ว เอ็กซ์ล็อกคอเอาไว้จากด้านหลังไม่ให้ส่งเสียงได้

     

    ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันกำลังอยู่ระหว่างธุระสำคัญ ต้องแอบฟัง อาจเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวที่มากเกินไป แต่เขาก็อยากจะรู้ว่าเด็กหญิงที่เขาเคยรู้จักเมื่อตอนนั้นมีเรื่องกลุ้มใจอะไร

     

    เอ็กซ์ลากนักเรียนชายคนนั้นมาที่หน้าประตูด้วย มือยังปิดปากเอาไว้อย่างแน่นหนาด้วยแรงที่เด็กหนุ่มที่ไม่เคยจับอาวุธไม่มีทางแกะออกได้

     

    ฉันจะต้องแต่งงานกับจักรพรรดิของเยอร์มาเนีย

     

    เยอร์มาเนีย?! ประเทศของพวกคนเถื่อนนั่นน่ะหรือเพคะ?!” หลุยส์โพล่งออกมาตามวิสัยของคนที่เกลียดเยอร์มาเนียโดยกำเนิด

     

    เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี เป็นสิ่งที่ต้องทำ

     

    อังริเอตต้าอธิบายสถานการณ์ทางการเมืองของฮาลเคกิเนียให้ฟัง

     

    ในอัลเบี้ยน ราชวงศ์ใกล้จะสูญสิ้นอำนาจ หากคณะปฏิวัติได้ชัย เป้าหมายต่อไปจะต้องเป็นทริสเทน เพื่อความอยู่รอด ทริสเทนจำเป็นต้องได้ความช่วยเหลือจากเยอร์มาเนียซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่และมีกำลังทางทหารมากกว่า และเพื่อการเชื่อมสัมพันธ์ องค์หญิงอังริเอตต้าจะต้องอภิเษกกับจักรพรรดิของเยอร์มาเนีย

     

    เป็นเช่นนี้เองหรือเพคะ... หลุยส์เอ่ยเสียงสลด เห็นได้ชัดว่าอังริเอตต้าไม่เต็มใจเลยแม้แต่น้อย

     

    ไม่เป็นไรหรอก หลุยส์ ฉันทิ้งความหวังที่จะได้แต่งงานกับคนที่รักไปนานแล้ว อังริเอตต้าเอ่ยเสียงเศร้า ราวกับรำลึกถึงเรื่องในอดีต

     

    คนที่รักเหรอ? เอ็กซ์สะกิดใจกับคำคำนี้

     

    ขุนนางอัลเบี้ยนสองหน้าพวกนั้นไม่ต้องการจะให้ทริสเทนมีไมตรีกับเยอร์มาเนีย ศรสองดอกจะทำลายได้ง่ายกว่าเมื่อไม่ได้ผูกติดด้วยกัน อังริเอตต้าพูดเป็นเชิงเปรียบเทียบ เป็นวิสัยของชนชั้นสูงชอบพูดกัน หลักฐานแสดงถึงความมีการศึกษา

     

    พวกนั้นพยายามค้นหาทางที่จะขัดขวางการอภิเษก...และในที่สุดก็พบเข้า อังริเอตต้ามีสีหน้ากังวล หลุยส์หายใจเฮือก

     

    อังริเอตต้ายกสองมือขึ้นปิดหน้า และทรุดลงกับพื้น หลุยส์รีบตรงเข้าไปประคอง

     

    ทรงบอกหม่อมฉันเถิดเพคะ! สิ่งใดกันที่สามารถทำลายการอภิเษกขององค์หญิงได้!”

     

    ทำลายไปซะก็ดี เอ็กซ์อยากจะพูดออกมา แต่คนอย่างเขารู้ดีเกินกว่าจะพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น

     

    ...เป็นจดหมายที่ฉันเขียนขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ฉันบอกไม่ได้ว่าเป็นจดหมายอะไร แต่ถ้าหากถูกส่งไปให้ทางเยอร์มาเนีย องค์จักรพรรดิจะไม่มีทางอภัยให้ฉันแน่ อังริเอตต้าเอ่ยเสียงสั่นเครือ แต่เธอไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

     

    จดหมายที่จะทำลายการเชื่อมสัมพันธไมตรีของทริสเทนกับเยอร์มาเนีย ตอนนี้มันอยู่ที่ไหนหรือเพคะ?

     

    ...ที่อัลเบี้ยน

     

    ถ้าอย่างนั้น—!”

     

    ไม่หรอก...ผู้ที่ครอบครองจดหมายนั้นคือองค์ชายเวลส์แห่งราชวงศ์อัลเบี้ยน...

     

    องค์ชายผู้กล้าหาญพระองค์นั้นน่ะหรือเพคะ?

     

    ชื่อนี้สะกิดใจผู้ที่ยืนพิงประตูอยู่ด้านนอกด้วยเช่นกัน

     

    องค์ชายเวลส์... เขานึกไว้อยู่แล้วว่าต้องได้ยินชื่อนี้ไม่ช้าก็เร็ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นในสถานการณ์แบบนี้

     

    ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป องค์ชายเวลส์จะต้องตกอยู่ใต้เงื้อมมือของกบฏ แล้วจดหมายนั่นก็จะถูกส่งไปที่เยอร์มาเนีย ทุกอย่างจะพังพินาศ! ทริสเทนจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพของอัลเบี้ยนเพียงลำพัง!”

     

    หลุยส์กลั้นหายใจ

     

    ถ้าเช่นนั้น องค์หญิง เรื่องทุกข์ร้อนที่พระองค์บอกก็คือ...

     

    ดูเหมือนว่าอังริเอตต้าจะเข้าใจความคิดของเพื่อน จึงออกปากขัดทันที

     

    ไม่ได้หรอก! ไม่ได้เด็ดขาด! ฉันจะขอให้เพื่อนรักของฉันไปเสี่ยงอันตรายถึงสนามรบในอัลเบี้ยนแบบนั้นได้ยังไง!”

     

    ไม่ว่าจะเป็นก้นบึ้งของนรก หรือในปากของมังกรร้าย หากเพื่อองค์หญิงแล้ว หม่อมฉันพร้อมที่จะสละชีวิตเพคะ! บุตรีของระกูลวาลลิแยร์ หลุยส์ ฟรังซัวส์ผู้นี้จะไม่แกล้งหลับตาเมื่อเห็นองค์หญิงเดือดร้อนเป็นอันขาดเพคะ!”

     

    หลุยส์คุกเข่าและก้มหัวลง

     

    ให้เป็นหน้าที่ของหม่อมฉัน ผู้ที่จับฟูเก้ต์แห่งดินสลายเถิดเพคะ

     

    เธอ...จะช่วยฉันจริงๆ น่ะเหรอ? หลุยส์ ฟรังซัวส์ เพื่อนรักของฉัน!”

     

    แน่นอนเพคะ องค์หญิง!”

     

    อังริเอตต้ายิ้มอย่างโล่งอก แต่ว่ายังเหลือความลังเลที่จะส่งเพื่อนรักออกไปเสี่ยงอันตรายอยู่ ไม่เป็นไร แค่ไปเอาจดหมายแล้วก็กลับ คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก เธอพยายามบอกตัวเอง

     

    ฉันมั่นใจว่าผู้ที่สามารถจับตัวฟูเก้ต์แห่งดินสลายได้จะต้องทำภารกิจที่แสนลำบากนี้ได้สำเร็จ อังริเอตต้ายิ้ม เธอจำเป็นต้องมั่นใจ

     

    ภารกิจนี้เร่งด่วนแค่ไหนหรือเพคะ? หลุยส์ถามเข้าประเด็น

     

    ข่าวล่าสุดบอกว่าพวกกบฏขับไล่ราชวงศ์อัลเบี้ยนไปจนมุมที่ปลายสุดของอาณาจักร ไม่นานราชวงศ์ก็คงจะล่มสลาย...

     

    ถ้าเช่นนั้นเราจะไปกันพรุ่งนี้เลยเพคะ!” หลุยส์ตอบอย่างหนักแน่น เล่นเอาอสูรรับใช้มองเธอตาโต

     

    เอ็กซ์ฟังบทสนทนาอยู่ข้างนอก ความกังวลใจเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ

     

    เป็นภารกิจที่อันตรายมาก ทั้งต่อคนที่ไปทำ และคนที่รออยู่... ถ้าเป็นยามปกติ เขาจะไม่เข้าไปยุ่งกิจการภายในของอาณาจักร เพราะเขาเข้าใจว่ามันเป็นกลไกของโลก แต่ว่าครั้งนี้...มีเด็กผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่เมื่อเก้าปีก่อนอยู่ด้วย ถ้าอย่างนั้นเขา...

     

    ประตูเปิดออก สามคนในห้องหันไปมองด้วยความตกใจ

     

    เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทาในเสื้อคลุมฮู้ดสีขาวและผ้าสีแดงพันที่เอวยืนอยู่ ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ปราศจากซึ่งอารมณ์ใดๆ หนีบอยู่ใต้แขนขวาของเขาคือศีรษะที่มีเส้นผมสีทอง

     

    นาย!”

     

    แล้วก็กีช!”

     

    หลุยส์กับไซโตะตกใจที่เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาโผล่เข้ามา เอ็กซ์ปล่อยเด็กหนุ่มที่ชื่อกีชลงกับพื้น และเผชิญหน้ากับองค์หญิงอังริเอตต้า

     

    เส้นผมสีน้ำตาลเกาลัดตัดสั้นเหนือคิ้ว ด้านข้างยาวสลวยลงเคล้าที่ระดับอก ดวงตาสีฟ้าเปล่งปลั่งดั่งน้ำทะเลฉายแววตระหนกและกังวลใจ เอ็กซ์รู้สึกเหมือนตกหลุมรักเด็กสาวคนนี้อีกครั้ง แต่เขาไม่แสดงอาการใดๆ ออกทางสีหน้าแม้แต่จะขยับคิ้ว เขาสามารถทำได้ขนาดนี้เมื่อเขาตั้งใจจริง

     

    นี่พวกนายแอบฟังเรางั้นเหรอ?!” ไซโตะถามเสียงดัง เขาทั้งตกใจทั้งโมโห

     

    ฉันเปล่านะ! เจ้าคนชั้นต่ำนี่ลากฉันมาเองตะหาก!” เด็กหนุ่มผมทองที่อยู่บนพื้นปฏิเสธเสียงดัง ทว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาอีกหนึ่งเพียงแต่ยืนนิ่ง ราวกับกำลังพิจารณาคำพูดที่จะใช้ ในที่สุดเขาก็คุกเข่าลง

     

    องค์หญิงอังริเอตต้า โปรดให้กระหม่อมได้ร่วมเดินทางในภารกิจนี้ด้วยเถิดพะยะค่ะ เอ็กซ์กล่าวอย่างนอบน้อมขณะที่ก้มหัวลงต่ำซะจนคนที่ยืนอยู่มองไม่เห็นหน้าของเขา

     

    เจ้าคนสามหาว! องค์หญิงจะทรงไว้ใจให้สามัญชนอย่างเจ้าทำงานสำคัญนี้ได้อย่างไร!” หลุยส์เอ่ยอย่างหัวเสีย

     

    แต่เมื่อครู่นี้องค์หญิงตรัสว่าภารกิจอันแสนลำบากนี้หากให้ผู้ที่จับฟูเก้ต์แห่งดินสลายได้เป็นคนทำจะต้องสำเร็จแน่ มิสวาลลิแยร์ลืมไปแล้วหรือ ว่าผู้ที่จับฟูเก้ต์นั้นไม่ได้มีเพียงคุณ คำพูดของเอ็กซ์ทำเอาหลุยส์ผงะ

     

    ก็จริงแฮะ มีหลุยส์ ฉัน นาย แล้วก็คีร์เก้กับทาบาสะ ไซโตะยอมรับว่ามันจริง และคลายความตึงเครียดลง

     

    อังริเอตต้าเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหันไปถามเด็กสาวผมสีชมพู

     

    ชายผู้นี้เองก็ช่วยจับฟูเก้ต์ด้วยงั้นรึ?

     

    ...เป็นเช่นนั้นเพคะ หลุยส์ตอบอย่างไม่เต็มใจ

     

    อังริเอตต้าหันกลับไปมองเด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทา การสบตากับเขาทำให้เธอเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้น แต่มันก็เล็กน้อยเสียจนเธอไม่ได้ใส่ใจอะไร

     

    ท่านมีนามว่ากระไรรึ?

     

    ความรู้สึกประหลาดรบกวนจิตใจของเธอขณะรอคำตอบ ราวกับเธอคาดว่าจะได้ยินชื่อบางชื่อที่เธอรู้จัก แม้จะจำไม่ได้ว่าชื่อนั้นคืออะไร

     

    ...นามของกระหม่อมคือ [ซาวิเยร์] พะยะค่ะ เอ็กซ์ตอบชื่อที่เขาตั้งให้ตัวเอง และอดกลั้นแรงกระตุ้นที่บอกให้ตอบชื่อจริงออกไป

     

    เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่คุ้นหู ความรู้สึกที่รบกวนใจของอังริเอตต้าก็หายไป

     

    ซาวิเยร์ ท่านปรารถนาที่จะร่วมเดินทางไปกับหลุยส์ ฟรังซัวส์เพื่อปฏิบัติภารกิจอันสำคัญนี้หรือ?

     

    พะยะค่ะ ซาวิเยร์ตอบรับสั้นๆ

     

    อังริเอตต้าหันไปทางเพื่อนรักเป็นเชิงถาม หลุยส์ถอนหายใจ

     

    ทรงแล้วแต่องค์หญิงเถิดเพคะ ถ้าทรงเห็นว่าสามัญชนผู้นี้ไม่คู่ควร หม่อมฉันพร้อมจะปิดปากเจ้าคนถ่อยนี้ในทันที

     

    อังริเอตต้าได้ยินข้อเสนอของเพื่อนรักก็เหงื่อตก ก่อนจะหันกลับไปที่ซาวิเยร์

     

    ถ้าเช่นนั้น ข้าอนุญาต

     

    ขอบพระทัยพะยะค่ะ

     

    คอยก่อนพะยะค่ะ!”

     

    เสียงนั้นเป็นของเด็กหนุ่มผมทองที่ถูกลากมาแต่แรก เขารีบลุกขึ้นคุกเข่า

     

    องค์หญิง โปรดให้กระหม่อมไปด้วยเถิดพะยะค่ะ!”

     

    และท่านคือ? อังริเอตต้ารู้แค่เพียงว่าเขาเป็นชนชั้นสูงคนหนึ่ง

     

    โปรดกรุณาให้กระหม่อม [กีช เดอ กรามองต์] ได้ช่วยเหลือพระองค์ในภารกิจที่แสนอันตรายนี้ด้วยพะยะค่ะ!”

     

    กรามองต์? นายพลกรามองต์น่ะหรือ?

     

    กระหม่อมเป็นบุตรของนายพลกรามองต์แห่งกองทัพทริสเทนพะยะค่ะ!” กีชลุกขึ้นยืนและค้อมตัวอย่างเคารพนบนอบหนึ่งครั้ง

     

    ท่านเองก็ปรารถนาที่จะร่วมเดินทางกับหลุยส์ ฟรังซัวส์ด้วยเช่นนั้นหรือ?

     

    หากได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจอันแสนสำคัญนี้ จะเป็นเกียรติอย่างสูงแก่กระหม่อมพะยะค่ะ!” กีชตอบอย่างกระตือรือร้น

     

    ขอบใจท่านมาก บิดาของท่านเป็นขุนนางที่กล้าหาญ ท่านเองก็ได้รับสายเลือดที่ยิ่งใหญ่นี้มา เช่นนั้น ข้าขอร้องให้ท่านได้โปรดช่วยเหลือองค์หญิงผู้โชคร้ายผู้นี้ด้วย ลอร์ดกีช อังริเอตต้ายิ้มให้เด็กหนุ่มผมทอง

     

    กีชถูกทั้งเรียกชื่อและยิ้มให้ ตื่นเต้นซะจนเป็นลมสลบไป ไซโตะเข้าไปเอาดาบเขี่ยดูว่าตายรึยัง หลุยส์ไม่สนใจการรบกวนและหันไปพูดกับองค์หญิงอย่างเป็นการเป็นงาน

     

    ถ้าเช่นนั้น เช้าวันพรุ่งนี้ พวกเราจะออกเดินทางไปอัลเบี้ยนเพคะ

     

    ทางเราได้ข่าวมาว่าองค์ชายเวลส์ตั้งค่ายอยู่ที่นิวคาสเซิ่ลในอัลเบี้ยน

     

    รับทราบเพคะ หม่อมฉันเคยเดินทางไปที่อัลเบี้ยนกับพี่สาวมาก่อน พอจะรู้จักพื้นที่แถบนั้นเพคะ

     

    ภารกิจนี้เต็มไปด้วยอันตราย หากทางขุนนางอัลเบี้ยนพบพวกเธอเข้า พวกนั้นจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางพวกเธอไม่ให้ทำสำเร็จ

     

    อังริเอตต้านั่งลงที่โต๊ะ และเริ่มเขียนจดหมาย เธอมองมือตัวเองที่ขยับไปตามกระดาษ ตัวอักษรต่อตัวอักษร ระหว่างนั้นแก้มเธอก็เปลี่ยนเป็นสีชมพู

     

    มีอะไรรึเพคะ? หลุยส์ถามด้วยความเป็นห่วง อังริเอตต้าสะดุ้ง

     

    ไม่มีอะไรหรอก เธอยิ้มกลบเกลื่อน แต่สีที่แก้มยังไม่จางลง เหตุการณ์นี้ไม่พลาดสายตาของเด็กหนุ่มผ้าพันเอวแดงที่ยืนพิงข้างประตู ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลเกาลัดคนนี้แล้วจะรอดสายตาเขาไปได้

     

    อืม...เป็นอย่างนี้เองเหรอ... มิน่าในตอนนั้นองค์ชายเวลส์ถึงได้...

     

    องค์ศาสดาบริมิร์...โปรดยกโทษองค์หญิงที่เห็นแก่ตัวผู้นี้ด้วย ในขณะที่อาณาจักรของข้าพระองค์กำลังตกอยู่ในอันตราย ตัวข้าพระองค์กลับห้ามใจมิให้เขียนประโยคนี้ลงไปมิได้...ข้าพระองค์มิอาจโกหกความรู้สึกของตัวเองได้...

     

    สีหน้าของอังริเอตต้าดูราวกับเขียนจดหมายรักมากกว่าจะเป็นสารลับ ทั้งหลุยส์และเอ็กซ์ต่างนิ่งเงียบ ใจของเอ็กซ์เกิดช่องว่างขึ้น แต่เขาทำเป็นไม่รับรู้

     

    อังริเอตต้าม้วนจดหมายที่เธอเขียน จากนั้นก็สะบัดไม้เท้า ตราประทับขี้ผึ้งปรากฏขึ้นและกดลงบนกระดาษนั้น เธอยื่นม้วนจดหมายให้กับหลุยส์

     

    เมื่อได้พบองค์ชายเวลส์แล้ว ขอให้มอบจดหมายนี้ให้กับเขา องค์ชายจะมอบจดหมายในภารกิจให้กับเธอกลับมา

     

    หลุยส์รับจดหมายไปและค้อมตัวหนึ่งที อังริเอตต้าหันไปทางไซโตะ

     

    คุณอสูรร้บใช้ที่พึ่งพาได้

     

    ไซโตะชี้ตัวเองอย่างงงๆ ก่อนจะส่ายหน้า

     

    ไม่ล่ะครับ คิดซะว่าผมเป็นหมาเถอะครับ

     

    เอ็กซ์มองไซโตะแล้วก็นึกในใจ สงสัยที่โดนล่ามโซ่ลงแส้ตอนเช้าความมั่นใจจะยังไม่กลับมา

     

    คุณอสูรรับใช้ จากนี้ไปก็ช่วยปกป้องเพื่อนที่ฉันรักที่สุดต่อไปด้วยนะคะ

     

    อังริเอตต้ายื่นมือออกไปข้างหน้า แต่ไม่ใช่ในท่าจับมือ เป็นการหันหลังมือให้ ไซโตะที่ไม่คุ้นเคยกับมารยาทในราชสำนักดูจะไม่เข้าใจ

     

    ไม่ได้นะเพคะ! ทรงยื่นพระหัตถ์ให้อสูรรับใช้ได้อย่างไร!” หลุยส์ท้วงเสียงดัง

     

    ไม่เป็นไร หากไม่แสดงความจริงใจแล้ว ฉันจะหวังความจริงใจจากเขาได้อย่างไร

     

    อึก...

     

    ส่งมือ? ขอมือแบบทำกับหมาเหรอ... ไซโตะคอตก ยังไม่เลิกยึดติดกับคำว่า หมา

     

    ไม่ใช่ย่ะ ยังงี้ล่ะนายถึงได้เป็นได้แค่ หมา ...หมาไพร่ด้วย ไม่ได้รู้อะไรเลย เมื่อองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ให้ พูดแบบง่ายๆ ให้หมาอย่างนายเข้าใจก็คือให้<จูบได้>ย่ะ

     

    ไซโตะตาโต

     

    หา...อะไรจะใจถึงปานนั้น...

     

    ประโยคนั้นทำให้สัญญาณเตือนในหัวเอ็กซ์ดัง

     

    อังริเอตต้ายิ้มหวานให้ไซโตะ แม้ว่าคนอื่นจะเห็นชัดว่าเป็นยิ้มแบบที่ใครๆ สวมกันเวลาเจรจาธุรกิจ แต่สำหรับไซโตะ มันคือคำอนุญาต

     

    เขาจับมือที่องค์หญิงส่งให้

     

    เดี๋ยวก่อน

     

    เอ็กซ์ร้องห้าม เสียงไม่ดัง แต่แฝงความเฉียบขาด

     

    ...ที่มือนะ

     

    เอ๋?

     

    จูบที่มือ

     

    ...อ้าว? ยังงั้นหรอกเหรอ? ไซโตะถึงบางอ้อ

     

    คราวนี้เป็นสัญญาณในหัวหลุยส์ที่ดัง แต่ไม่ใช่สัญญาณเตือน...เป็นสัญญาณประหาร

     

    ว่าไงนะ อไอ้หมา—!!!”

     

    เฮ้ย! อย่า!!”

     

    ตึง! โครม!

     

    ...

     

    ไซโตะจับมือขององค์หญิงแล้วจุมพิตด้วยริมฝีปาก...ที่บวมเป่ง...เช่นเดียวกับส่วนอื่นบนใบหน้า

     

    หลุยส์จ้องอสูรรับใช้ตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อ ถ้าองค์หญิงไม่ห้ามไว้ ที่เธอรัดคอเมื่อกี้อาจไม่ปล่อยก็ได้

     

    ขอประทานอภัยด้วยเพคะ! ถึงจะฆ่าไม่ได้ แต่หม่อมฉันจะลงโทษเจ้าหมาสัปดนนี่ไปอีกร้อยวัน!”

     

    (อู้อี้)ร้อยวัน!?!(อู้อี้) ไซโตะตอบเสียงอู้อี้เพราะปากและลิ้นไม่อยู่ในสภาพที่ใช้การได้

     

    อังริเอตต้ายิ้มเจื่อนๆ

     

    คุณอสูรรับใช้คะ?

     

    (อู้อี้)ผมไม่เป็นไรครับ...(อู้อี้)

     

    เอ็กซ์รู้สึกสงสารไซโตะที่ต้องเจอทารุณกรรมแบบนี้...แต่แค่นิดหน่อย

     

    อังริเอตต้าถอดแหวนที่นิ้วนางข้างขวาออกมาและยื่นให้หลุยส์

     

    (Credit: baka-tsuki.org)

     

    นี่คือ<ทับทิมวารี>ที่ฉันได้รับมาจากท่านแม่ ฉันมอบให้เธอเป็นเครื่องราง หรือถ้าหากมีปัญหาด้านการเงินในระหว่างการเดินทาง ให้ขายมันกับพ่อค้าเพื่อเป็นทุนต่อไป

     

    หลุยส์รับแหวนและก้มหัวโดยไม่พูดอะไร

     

    ภารกิจนี้เป็นอนาคตของทริสเทน ขอให้แหวนของท่านแม่ปกป้องพวกเธอจากสายลมที่รุนแรงของอัลเบี้ยนด้วยเถิด

     

    ...

     

    จากข้างเสาค้ำสะพานในสนามหญ้าของโรงเรียน เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทามองร่างในผ้าคลุมที่รีบร้อนกลับไปยังที่พัก

     

    อังริเอตต้า ฉันมีความสุขมากที่ได้พบกับเธออีกครั้ง ได้คุยกับเธออีกครั้ง แม้ว่าเธออาจจะลืมเทพธิดาปลอมๆ องค์นี้ไปแล้วก็ตาม บุญคุณของเธอชั่วชีวิตนี้ฉันจะไม่มีวันลืมเลย

     

    เขานึกไปถึงจดหมายที่อังริเอตต้าฝากไปกับเด็กสาวผมสีชมพู แล้วก็ถอนหายใจ

     

    ไม่สิ...พระองค์ไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นอีกแล้ว พระองค์ทรงเติบใหญ่เป็นองค์หญิงเต็มตัว กระหม่อมไม่มีสิทธิ์จะเรียกพระองค์ว่าเป็น<อังริเอตต้าของฉัน>อีกแล้ว...แต่ความรู้สึกนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง องค์หญิงอังริเอตต้า...

     

    เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าด้านในเสื้อคลุมสีขาวและหยิบเอาผลึกสีม่วงอ่อนขนาดเท่ามือกำออกมา ข้างในเป็นดอกไม้กระดาษสีน้ำเงินที่เด็กหญิงคนหนึ่งพับให้เขาเมื่อนานมาแล้ว เด็กหญิงคนนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป

     

    ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงสุกสกาวของดวงดาวนับล้าน เรปลิลอยด์หนุ่มหลับไปด้วยใบหน้าที่เก็บความเหงาหงอยเอาไว้

     

    --

     

    แนะนำตัวละคร

     


     

    กีช เดอ กรามองต์

    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

    เพศ : ชาย

    อายุ : 17 ปี

    ส่วนสูง : 175 เซนติเมตร

    น้ำหนัก : ไม่ทราบ

    ชอบ : ซูเฟล(เป็นเค้กชนิดหนึ่ง), แฟชั่นที่สง่างาม(ในสายตาตัวเองคนเดียว), หญิงสาวผู้เลอโฉม

    เกลียด : เมื่อโดนจับได้ว่าจับปลาหลายมือ

     

    ข้อมูล : ลูกชายคนที่lujของนายพลกรามองต์ และหวังจะตามรอยเท้าพ่อ แม้ว่าความที่ขาดประสบการณ์ในการรบจริงจะทำให้ดูเหมือนขี้ขลาดก็ตามแต่ความจริงเขาก็มีความกล้าหาญที่น่าชื่นชมอยู่(มั้ง?) ชอบสาวๆ น่ารัก

     

    ชื่อที่สอง [โลหะสัมฤทธิ์] วิชาหลักๆ คือสร้างโกเลมโลหะสัมฤทธิ์ ตามชื่อที่สอง และโกเลมมักจะมีรูปร่างแบบที่เรียกว่า<วิจิตรงดงาม>อะไรประมาณนั้น

     

    อสูรรับใช้คือตุ่นยักษ์ [เวร์ดันดี้]

     

    --

     

    PBW:”ฮึ่ม~ เป็นตอนที่แต่งยากมากกกกกกก~ มีปัญหาแต่กับคำราชาศัพท์

     

    DX:”มีแต่เนื้อหาในไลท์โนเวล ออริจินัลกว่านี้หน่อยเซ่!”

     

    S:”อ้าว~ ฉันไม่ได้จูบอังริเอตต้าเหรอเนี่ย~”

     

    PBW:”พูดอย่างนั้นจะดีเหรอ...

     

    S:”ทำไมล่ะ? ก็ครั้งที่แล้วยังได้จูบเลย

     

    PBW:”ก็...นั่นน่ะ...

     

    Louise:”ไอ้-หมา~!!!

     

    DX:”ขอให้ไปสู่สุคติละกันนะ

     

    *หมายเหตุ: ซาวิเยร์(Xavier) เป็นชื่อภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่า<บ้านหลังใหม่> ไปค้นจากเว็บตั้งชื่อลูกมาเลยนะเนี่ย(คิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้ใช้นอกจากตั้งชื่อให้ลูกๆ(ตัวละคร)ของตัวเอง)

     

    PBW:”ส่วนเรื่องข้อเสนอที่ให้เปลี่ยนฟิคนี้เป็นหมวด<แฟนตาซี>แล้วค่อนขึ้นหน้าว่า<แฟนฟิคชั่น>นั้นคนเขียนไปดูเรื่องอื่นๆ มา พอเข้าใจความหมาย แต่ว่าถ้าคิดถึงหัวอกคนที่อยากอ่านหมวด<แฟนตาซี>แต่ไม่ได้อยากอ่าน<แฟนฟิคชั่น>แล้ว การที่พิมพ์เซิร์ช<แฟนตาซี>แล้วได้<แฟนฟิคชั่น>ขึ้นมากินที่ประมาณเกือบครึ่งเนี่ยไม่ใช่เรื่องตลกเลย ฉะนั้นคนเขียนก็จะคงหมวด<แฟนฟิคชั่น>เอาไว้อย่างเดิมดีกว่า ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ อย่างน้อยรู้ไว้เผื่อในอนาคตอาจจะเปลี่ยนใจ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×