ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : โลกใบใหม่

    ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 22: คำสาบานของไซเรน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 482
      10
      27 ก.ย. 61

    เอ็กซ์ คีร์เก้ และทาบาสะยืนอยู่ริมทะเลสาบ ลึกเข้าไปเหนือผิวน้ำ ภูตวารีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสาม

     

    มนุษย์กระจ้อยร่อย เจ้าทำร้ายข้า ต้องการจะเป็นศัตรูกับข้างั้นหรือ?

     

    ข้าขออภัย ข้าทำไปเพียงเพราะมีเหตุจำเป็น ข้าขอสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายท่านอีก

     

    ทาบาสะคุกเข่า คีร์เก้ทำตาม

     

    ภูตวารี ยกโทษให้สองคนนี้เถอะ

     

    เอ็กซ์ช่วยทาบาสะขอร้องภูตวารี

     

    ตัวข้านั้นไม่มีวันดับสูญ เพียงพวกเจ้าหยุด ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะหาความอันใด

     

    โล่งใจไปเรื่องหนึ่ง แต่เอ็กซ์ยังเกร็งเพราะมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูด

     

    สาเหตุที่ทำให้สองคนนี้โจมตีเธอเป็นเพราะสมบัติล้ำค่าของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย ทางเดียวที่จะแก้ไขได้คือให้ระดับน้ำในทะเลสาบลดลง ฉันสัญญาว่าจะนำสมบัติของเธอมาคืนให้ได้ ขอให้ช่วยลดระดับน้ำลงเป็นปกติจะได้รึเปล่า?

     

    เอ็กซ์อธิบายโดยสรุปย่อที่สุด หวังว่าภูตวารีจะยอมเข้าใจ

     

    สมบัติล้ำค่างั้นหรือ ความรู้สึกของเจ้า มนุษย์เอ๋ย ข้าเข้าใจ

     

    เอ็กซ์หายใจเข้าลึก รอฟังคำตอบสุดท้าย

     

    แต่ข้าไม่คิดจะเปลี่ยนใจ หากเจ้าไม่สามารถทำให้ข้าเชื่อคำพูดของเจ้าได้ ข้าก็จะยังคงเพิ่มระดับน้ำต่อไป

     

    เอ็กซ์กัดฟัน คาดไว้แล้วว่าคำตอบต้องเป็นอย่างนี้ แต่ก็ยังหวังว่าภูตวารีจะเปลี่ยนใจ เขาชำเลืองเด็กสาวสวมแว่น เธอให้สัญญากับเขาว่าจะล้มเลิกการกำจัดภูตวารี

     

    คนสำคัญเหรอ?

     

    ถ้าภูตวารีตาย คนสำคัญของผมก็จะตายไปด้วย

     

    เลเวียธาน

     

    อดีตผู้บัญชาการทัพภาคพื้นสมุทรเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับช่องว่างมิติในไซเบอร์สเปซที่สุดตอนที่มันปรากฏขึ้น ทำให้ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ตอนที่ข้ามมิติมาถึงทะเลสาบแล็กโดเรี่ยน โปรแกรมหลักของเธอก็เสียหายจนแทบจะคงสภาพไว้ไม่ได้แล้ว ตอนนั้นเองที่ภูตวารีปรากฏตัวขึ้น เพราะสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ไม่คุ้นเคย จากนั้นก็รับเอาเลเวียธานเข้าไปที่ทะเลสาบ คงสภาพของไซเบอร์เอลฟ์เอาไว้ หล่อเลี้ยงด้วยพลังเวทของภูตวารีที่ไหลเวียนอยู่ในทะเลสาบแล็กโดเรี่ยน

     

    นั่นเป็นเรื่องเมื่อห้าสิบปีก่อน

     

    มาถึงหนึ่งปีครึ่งก่อน เอ็กซ์ตามสัญญาณไซเบอร์เอลฟ์จนมาถึงทะเลสาบแล็กโดเรี่ยน และทำการส่งสัญญาณเรียกจากริมทะเลสาบเหมือนอย่างวันนี้ จากนั้นเลเวียธานจึงปรากฏตัวขึ้น แต่ที่เขาไม่ได้คาดไว้เลยก็คือภูตวารี ในตอนนั้นเขายังไม่รู้จักภูตวารี และรูปร่างที่ปรากฏตัวให้เขาเห็นก็เป็นก้อนน้ำที่เปลี่ยนรูปร่างอย่างต่อเนื่อง เป็นมนุษย์หญิงบ้างชายบ้างที่เขาไม่รู้จัก

     

    ที่นั่นเองที่เขาได้รู้ว่าเลเวียธานอาศัยอยู่ได้โดยพึ่งพาพลังเวทจากภูตวารี หากแยกเลเวียธานจากทะเลสาบแล็กโดเรี่ยนแล้ว ไม่นานเธอก็จะคงสภาพไม่ได้และสลายไป แม้จะส่งเธอกลับไซเบอร์สเปซก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าข้อนี้จะถูกหักล้างไปได้

     

    การจะฟื้นฟูเลเวียธานให้กลับสมบูรณ์นั้นสามารถทำได้หากภูตวารีต้องการ แต่เพราะต้องใช้พลังงานในปริมาณมาก รวมทั้งไม่มีเหตุผลเพียงพอ ภูตวารีจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำ เขาจึงได้ต่อรองไปว่าจะยอมทำทุกสิ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้เลเวียธานได้เป็นอิสระ และสิ่งที่ภูตวารีให้เขาทำแลกเปลี่ยนก็คือการตามหาแหวนแห่งอันดวารินั่นเอง

     

    เขาไม่ได้เล่าเรื่องที่แสนจะซับซ้อนนี้ให้เด็กสาวสวมแว่นฟัง เพียงแค่ได้ยินว่าเขาต้องการจะปกป้องคนสำคัญ เธอก็ยอมทิ้งไม้เท้าหยุดการต่อสู้ทันที

     

    อาจเป็นเพราะเธอเองก็เข้าใจความรู้สึกที่ต้องการปกป้องคนสำคัญจึงได้ยอมตกลง แต่จะอย่างไรก็ตาม เอ็กซ์ก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่เด็กสาวยอมเข้าใจ

     

    ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะตอบแทนเด็กสาวคนนี้ จะให้ภูตวารีหยุดน้ำท่วมให้ได้

     

    ภูตวารี ต้องทำยังไงถึงจะเชื่อคำพูดของพวกเราได้?

     

    หากพวกเจ้าเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวดองกับข้า คำพูดของพวกเจ้าก็จักมีน้ำหนักเชื่อถือ แต่ข้าไม่สามารถจะเชื่อคำพูดของคนแปลกหน้าได้

     

    คนที่มีความเกี่ยวดอง... เอ็กซ์นิ่งคิด เขารู้จักคนแบบนั้นบ้างหรือเปล่า

     

    ราชวงศ์ทริสเทน ทาบาสะพูดขึ้น เป็นที่รู้กันว่าราชวงศ์ทริสเทนมีพันธสัญญากับภูตวารีมาแต่ช้านาน แต่ว่า...

     

    คนที่เป็นถึงราชวงศ์คงไม่ลงมายุ่งเรื่องของพวกเราหรอกครับ สถานการณ์ไม่ต่างกับภูตวารีตอนนี้

     

    ถ้าเป็นมอนท์โมรันซี่ล่ะ? คีร์เก้นึกถึงเพื่อนของเธอ

     

    มอนท์โมรันซี่เป็นตระกูลจอมเวทน้ำที่มีความเกี่ยวดองกับภูตวารี

     

    ทาบาสะลดตาลงต่ำพลางครุ่นคิด เอ็กซ์ไม่รู้จักเด็กสาวที่ชื่อ<มอนท์โมรันซี่>คนนี้เลย จึงไม่มั่นใจว่าจะเด็กสาวยอมช่วย แต่เขาก็คิดทางที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว

     

    ลองดูก็ไม่เสียหายนะครับ

     

    ทาบาสะพยักหน้า เป็นอันตกลงว่าจะขอให้มอนท์โมรันซี่ช่วย

     

    ...

     

    .....

     

    สองวันหลังจากนั้นใช้ในการส่งพิราบสื่อสารไปและกลับจากโรงเรียนทริสเทน

     

    ทั้งสามอยู่ในห้องนั่งเล่นที่คฤหาสน์เดอ ออร์เลียง ภาชนะมนตราสี่ชิ้นวางเรียงบนโต๊ะ เอ็กซ์ซึ่งเป็นเจ้าของนั่งอธิบายความสามารถ

     

    ...หลักๆ ก็ประมาณนั้นล่ะครับ

     

    อะไรกัน ที่แท้ก็เมจิคไอเทมประเภทภาชนะเองหรอกเหรอ~” คีร์เก้ทิ้งหลังลงบนโซฟาพร้อมทั้งเอามือรองท้ายทอย

     

    แต่ก็ไม่นึกเลยนะว่าจะเอามาใช้แบบนี้ได้ด้วย ปกติต้องค่อยๆ ร่ายคาถาพื้นฐานถ่ายพลังเวทไปเรื่อยๆ นี่นา เอามาใช้กับคาถาระดับสูงไม่เป็นไรแน่เหรอ?

     

    ถ้าใช้ไม่บันยะบันยังก็มีสิทธิ์ถูกทำลายได้เหมือนกันล่ะครับ ผมก็พยายามระวังอยู่ แถมตัวคนถือเองก็ใช่ว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์...

     

    เพราะเขาสวมเครื่องป้องกันที่แขนสองข้างจึงอาจไม่มีแผลให้เห็น แต่หลังจากที่รับเอาไฟร์บอลของเด็กสาวผมแดงเข้าไปสองลูก อาร์มการ์ดเหล็กที่แขนซ้ายเขาก็ร้อนน่าดู แขนขวาที่สวมปลอกแขนหนังก็เจ็บนิดๆ จากแรงลมของแอร์แฮมเมอร์ ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อต่อไป เขาเองที่จะบาดเจ็บหนักเสียก่อน

     

    แต่ก็ถือว่าคุ้มเหมือนกัน

     

    ก้อนแม็กมาที่แข็งตัว: 1200 EC > 1400 EC

    กระดิ่งสีเขียว: 0 EC > 150 EC

     

    ประตูห้องนั่งเล่นเปิดออก พ่อบ้านชราเดินเข้ามา

     

    จดหมายตอบกลับจากโรงเรียนมาแล้วครับ

     

    ทาบาสะรับจดหมายมาเปิดอ่าน คีร์เก้เถิบเข้าไปชิดและชะโงกหน้ามอง ส่วนเอ็กซ์นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

    เด็กสาวสวมแว่นปิดจดหมายลง

     

    กำลังมา

     

    เอ็กซ์รู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

     

    ดีจังเลยนะครับ

     

    เปล่า ไม่ได้มาเพราะคำขอของเราหรอก คีร์เก้พูด

     

    ดูเหมือนว่ามอนท์โมรันซี่ หลุยส์ แล้วก็กีชจะออกเดินทางจากโรงเรียนมาก่อนแล้ว เห็นว่าจะมาทำธุระที่ทะเลสาบแล็กโดเรี่ยน อาจจะเกี่ยวกับภูตวารีด้วยก็ได้

     

    งั้นเหรอครับ? นอกจากมอนท์โมรันซี่แล้ว อีกสองคนเป็นชื่อที่เขารู้จัก และชื่อหนึ่งในนั้นก็บ่งชี้ว่าไซโตะอาจจะตามมาด้วย ไม่ใช่ว่าเขาดีใจอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่เด็กหนุ่มผมดำเป็นคนเดียวที่เขาแลกเปลี่ยนความลับด้วย

     

    แล้วจะมาถึงเมื่อไหร่เหรอครับ?

     

    น่าจะวันนี้ช่วงค่ำๆ

     

    ขณะนั้นเป็นเวลาสาย ทั้งสามตัดสินใจรับประทานมือกลางวันก่อนแล้วออกเดินทาง

     

    ...

     

    ทั้งสามพักใกล้กับทะเลสาบ รถม้าจอดอยู่ใกล้ๆ คีร์เก้นั่งพิงต้นไม้งีบหลับ ทาบาสะอ่านหนังสือ ไม้เท้าพาดไหล่ขวาพิงกับต้นไม้ เอ็กซ์นั่งติดริมทะเลสาบ คุยกับเลเวียธานที่อยู่ใต้ผิวน้ำ

     

    ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำ ส่องแสงทองฉาบผิวทะเลสาบ เงาด้านหลังเอ็กซ์ทอดยาว เขาสนทนากับร่างที่อยู่ในน้ำมาได้พักใหญ่แล้ว

     

    งั้นเหรอ...คนที่มาขโมยแหวนไป...

     

    ครั้งก่อนที่เขามาเลเวียธานยังพูดไม่ได้ แต่เธอขอให้ภูตวารีทำให้เธอสื่อสารได้ เพื่อที่จะได้พูดกับเขาในครั้งต่อมา ซึ่งก็ถือเป็นประโยชน์มากในการสอบถามข้อมูล

     

    คนที่ลงมาขโมยแหวนมีอยู่หลายคน เป็นกลุ่มผู้ใช้เวทมนตร์กับอีกสองคนที่ไม่ใช่ จังหวะที่ลงมานั้นภูตวารีกำลังหลับอยู่ มีเพียงเลเวียธานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่เพราะตอนนั้นเธอยังสื่อสารไม่ได้จึงไม่สามารถเตือนภูตวารีได้

     

    กลุ่มผู้ใช้เวทมนตร์ไม่มีลักษณะพิเศษอะไร แต่อีกสองคนนั้นเลเวียธานจำรูปร่างลักษณะได้

     

    คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนผมสีทองสวมชุดคลุมยาว คนอื่นๆ ในกลุ่มเรียกเขาด้วยชื่อหนึ่งแต่เธอได้ยินไม่ถนัด

     

    อีกคนหนึ่ง...ไม่ใช่<คน>แต่เป็น<เรปลิลอยด์>...กะความสูงได้ราวเมตรครึ่งถึงสองเมตร สวมผ้าคลุมปิดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าทำให้ไม่เห็นรูปร่างโดยละเอียด แต่มั่นใจว่าเป็นเรปลิลอยด์แน่นอน ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำของกลุ่มด้วย

     

    เขานำข้อมูลของเลเวียธานมารวมกับฮาร์เปีย

     

    ฮาร์เปียเล่าว่าเขาถูกเรปลิลอยด์จับตัว จากนั้นก็ถูกชายผมม้วนจับผนึกใส่ในร่างของวาลด์ ไม่ต้องสงสัยว่าชายผมม้วนคนนั้นคือ<ใต้เท้า>คนที่เรียกพลังนั้นว่า<พลังแห่งปาฏิหาริย์>

     

    เลเวียธานบอกว่าสองคนที่ไม่ใช่ผู้ใช้เวทมนตร์ที่ลงมาขโมยสมบัติของภูตวารีไป คนหนึ่งเป็นมนุษย์สวมชุดคลุมยาว ส่วนอีกคนเป็นเรปลิลอยด์

     

    สมมติว่าเรปลิลอยด์ที่ฮาร์เปียกับเลเวียธานพูดถึงนี้เป็นตัวเดียวกัน สมบัติที่เขาต้องค้นหาก็ต้องอยู่ที่อัลเบี้ยน...ในมือของจักรพรรดิองค์ใหม่ โอลิเวอร์ ครอมเวล

     

    ท่านเอ็กซ์

     

    หืม?

     

    ทุกคน...สบายดีหรือเปล่าคะ?

     

    เอ็กซ์เข้าใจว่าหมายถึงจตุรเทพคนอื่นๆ

     

    ฮาร์เปียแข็งแรงดี ฉันส่งกลับไปแล้ว แฟนธอมปลอดภัยอยู่ในไซเบอร์สเปซ ไม่ได้หลุดมาที่โลกนี้ด้วย ส่วนแฟ็ฟนิร์...ยังไม่พบเลย

     

    เหรอคะ... เลเวียธานก้มหน้า

     

    เอ็กซ์ยิ้มอย่างอ่อนโยน อดีตผู้บัญชาการที่ได้รับฉายาว่า [ไซเรนแห่งผืนสมุทร] คนนี้เป็นห่วงเพื่อน/พี่น้องของตัวเองจนเก็บสีหน้าไม่อยู่ เลเวียธานเงยหน้าขึ้นเห็นรอยยิ้มของผู้ที่เธอเคารพก็ก้มศีรษะด้วยความนอบน้อม

     

    แท้จริงแล้วเธออยากจะพูดคุยกับท่านเอ็กซ์ให้มากกว่านี้ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาห้าสิบปี เป็นเวลาที่ยาวนานกว่าชีวิตของเธอในโลกใบเดิมเสียอีก เป็นเพียงดวงวิญญาณ มีแค่สติ แต่ไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ สิบปีแรกทรมานแสนสาหัส

     

    ไซเบอร์สเปซแม้จะเงียบแต่ก็ยังมีดวงวิญญาณอื่นๆ รายล้อม แต่ที่นี่เธออยู่คนเดียว ซ้ำยังเป็นสถานที่ที่เวลาผันเปลี่ยนเหมือนสายน้ำ เธอเหงาและเปล่าเปลี่ยว ผ่านไปสิบปีเธอเริ่มปิดกั้นความโดดเดี่ยวออกไปได้ ปลงตกว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล เหมือนกับภูตวารี ...เธอใช้เวลาเกือบสี่สิบปีในสภาพที่เหมือนนอนหลับ

     

    ครั้งแรกที่เธอได้รับสัญญาณจากท่านเอ็กซ์นั้นเธอแทบไม่อยากเชื่อ...ระบบรับสัญญาณของตัวเอง ราวกับหัวใจที่หยุดไปกลับมาเต้นอีกครั้ง อาการตื่นเต้นของเธอทำให้ภูตวารีขึ้นไปพบกับผู้ส่งสัญญาณที่ผิวน้ำ แต่ในตอนนั้นเธอยังพูดไม่ได้...ไม่มีใครรู้ว่าเธออึดอัดขนาดไหน เธอพยายามอย่างมากที่จะส่งสัญญาณบอกภูตวารีให้มอบความสามารถในการสื่อสารให้กับเธอ

     

    ...ความพยายามของเธอสำเร็จเมื่อภูตวารีต้องการจะเข้าใจว่าเธอกำลังสื่ออะไร นับเป็นความสำเร็จที่ได้มาแบบอ้อมๆ

     

    ได้เห็นเด็กสาวมนุษย์สองคนนั้นทำให้ความรู้สึกที่เธอลืมไปแล้วผุดขึ้นมา สามารถที่จะไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ เธออิจฉาที่สองคนนั้นมีสิ่งที่เธอไม่มี ทีแรกที่ได้รับความสามารถในการสื่อสาร เธอดีใจเพียงแค่รู้ว่าครั้งต่อไปที่ท่านเอ็กซ์มาเยี่ยมเธอจะสามารถพูดคุยได้...แต่ตอนนี้แค่นั้นมันไม่พอแล้ว

     

    ท่านเอ็กซ์...

     

    หืม?

     

    ขอรบกวน...ด้วยนะคะ

     

    ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงฉันก็จะทำให้เธอเป็นอิสระให้ได้

     

    ...ขอบพระคุณมากค่ะ เลเวียธานค้อมตัวอย่างนอบน้อม เอ็กซ์ได้แค่ยิ้ม

     

    ครั้งนี้ รวมถึงครั้งต่อๆ ไป เขาจะปกป้องเพื่อนของเขาให้ได้ จะไม่ให้เป็นอย่างแสตกเกอร์อีกแม้แต่คนเดียว

     

    บทสนทนาของทั้งคู่ถูกขัดจังหวะเมื่อเสียงของเด็กสาวผมแดงดังมาจากด้านหลัง

     

    มาแล้ว!~”

     

    เอ็กซ์ลาเลเวียธานแล้วไปรวมกับเด็กสาวทั้งสอง รอม้าสามตัวที่เห็นแต่ไกลวิ่งเหยาะๆ เข้ามา คีร์เก้เข้าไปทักเป็นคนแรก

     

    ว่าไงพวกนาย สบายดีรึเปล่า

     

    คีร์เก้! ทาบาสะ! แล้วก็ซาวิเยร์ด้วย! มาทำอะไรกันที่นี่? ไซโตะอุทานด้วยความประหลาดใจ

     

    เอ็กซ์ยกมือทักทาย กีชกับเด็กผู้หญิงผมม้วนที่เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่โรงเรียนขี่ม้าคนละตัว ส่วนไซโตะขี่อีกตัวให้หลุยส์นั่งข้างหน้า

     

    คีร์เก้เข้าไปออเซาะไซโตะ ไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดจากปกติ

     

    ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

     

    เสียงแหลมดังมาจากหลุยส์ที่นั่งข้างหน้าไซโตะ ใบหน้าเธอแดงนิดๆ ด้วยความโกรธ แม้จะเป็นใบหน้าที่เห็นเป็นปกติ แต่ปฏิกิริยานั้นไม่เหมือนที่คีร์เก้จำได้

     

    อย่าเข้ามาใกล้ไซโตะนะ! ยัยผู้หญิงมักมาก!”

     

    เงียบกริบ

     

    คีร์เก้ช็อกไปพักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอารมณ์โกรธ

     

    อะไรของเธอน่ะ จู่ๆ ก็หาเรื่องกัน!”

     

    เอ็กซ์เห็นท่าไม่ดีก็เข้าไปไกล่เกลี่ย

     

    อารมณ์เสียมาเหรอครับ ใจเย็นๆ ก่อนดีกว่านะครับ

     

    นายก็เหมือนกัน! อย่าเข้ามานะ!” หลุยส์เปลี่ยนเป้าหมายมาที่เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทา

     

    เฮ้ๆ เกินไปมั่งหลุยส์ ซาวิเยร์เป็นผู้ชายนะ ไซโตะเตือนหลุยส์

     

    ผู้ชายแต่หน้าสวยไว้ใจไม่ได้!”

     

    เงียบกริบ(กว่าเดิม)

     

    เอ็กซ์ถอยกรูดไปสามก้าว พร้อมกับทบทวนความเข้าใจเสียใหม่ มีอะไรที่เราพลาดไปรึเปล่า? พลาดไปอย่างร้ายแรง...

     

    คีร์เก้เห็นว่าไม่ได้เรื่องแน่จึงหันไปถามกีช

     

    นี่มันเกิดอะไร—“

     

    วู้!!~ ทะเลสาบแล็กโดเรี่ยน! งดงาม! งดงามจริงๆ!! ภูตวารีงดงามกว่านี้อีกเหรอเนี่ย อยากจะเห็นจริงๆ เลย!!~”

     

    ...

     

    ...

     

    กลุ่มไซโตะผูกม้าไว้กับต้นไม้แล้วก็มารวมกับกลุ่มของเอ็กซ์ ต่างฝ่ายเล่าเรื่องฝั่งของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง

     

    ยังงี้นี่เอง... คีร์เก้ทำท่าเข้าใจ ก่อนจะหันไปหามอนท์โมรันซี่

     

    ติดคุกหัวโตแน่เธอ

     

    เลิกพูดคำว่า คุก ซะทีเถอะ!”

     

    เอ็กซ์มองไซโตะที่กล่อมหลุยส์ให้หลับไปบนตักของตัวเอง เขาส่งยิ้มเห็นใจไปให้ และก็ได้ยิ้มแห้งๆ กลับมา

     

    ถึงอย่างนั้นถ้าเด็กสาวที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาเห็นพวกเขายิ้มให้กัน ไม่ว่าจะเป็นยิ้มแบบไหนก็ตาม ได้วุ่นวายกันอีกแน่ ทั้งสองจึงเลือกที่จะไม่คุยกัน(พร้อมทั้งเอ็กซ์รู้สึกว่าจำเป็นต้องทบทวนความเป็นเพศชายของตัวเองใหม่)

     

    น้ำตาของภูตวารี ทาบาสะเอ่ยคำที่เป็นประเด็นสำคัญของกลุ่มไซโตะ

     

    พวกเธอคงรู้แล้วว่าตระกูลฉันติดต่อกับภูตวารีมาหลายต่อหลายรุ่น ฉันก็เลยคิดว่าอาจจะขอมาได้

     

    ไม่มั่นใจเหรอครับ? เอ็กซ์ถาม

     

    มั่นใจไม่ได้หรอก ความคิดของภูตวารีเกินกว่าที่มนุษย์เราจะเข้าใจ มอนท์โมรันซี่ส่ายหน้า ว่าแต่เจ้าเป็นใคร?

     

    เพื่อนของไซโตะครับ เอ็กซ์ตอบสิ่งที่เข้าใจง่ายที่สุด

     

    สามัญชนสินะ มอนท์โมรันซี่เชิดหน้าเล็กน้อย เอ็กซ์ได้แต่หัวเราะแห้งๆ

     

    ทาบาสะที่นั่งฟังมาตลอดปิดหนังสือลง

     

    ช่วยหน่อยได้รึเปล่า?

     

    ช่วยอะไร?

     

    เจรจากับภูตวารี

     

    ทั้งหมดไปที่ริมทะเลสาบ ปล่อยหลุยส์ให้นอนหลับอยู่โคนต้นไม้ ครั้งนี้เอ็กซ์อยู่เฉยๆ ปล่อยให้เด็กสาวผมม้วนเป็นคนจัดการ

     

    มอนท์โมรันซี่ใช้เข็มเจาะนิ้วชี้ของตัวเอง ปล่อยให้เลือดหยดลงบนตัวกบสีเหลืองซึ่งเป็นอสูรรับใช้ของเธอ

     

    หลังจากร่ายคาถารักษาแผลที่นิ้วแล้วเธอก็ออกคำสั่ง

     

    “[โรบิน] ส่งสารนี้ให้กับภูตวารี บอกว่าฉันต้องการพบในนามของไมตรีระหว่างเรา

     

    กบพยักหน้า แล้วกระโดดลงจากฝ่ามือเธอหายไปในน้ำ

     

    ไซโตะลูบคางครุ่นคิด เอ็กซ์เห็นจึงถามว่ามีอะไร

     

    ถ้าขึ้นมาแล้วก็ต้องหาเรื่องเศร้าๆ มาเล่าให้ฟังสินะ ว่าแต่จะเอาเรื่องไหนดี...

     

    เอ็กซ์กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม

     

    เรื่องของนักรบที่ตายก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง เป็นยังไง

     

    ไซโตะอ้าปากจะตอบ เขาเห็นอะไรบางอย่างบนใบหน้ายิ้มแย้มของเด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทา

     

    พูดอะไรของนาย? เด็กสาวผมม้วนตัดบท

     

    ก็จะเอาน้ำตาไม่ใช่เหรอ?

     

    มอนท์โมรันซี่ถอนหายใจ

     

    ไม่รู้อะไรซะเล้ย~ น้ำตาน่ะเป็นแค่ชื่อ จริงๆ แล้วเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายภูตวารี

     

    ไซโตะหันกลับไปทางเอ็กซ์ซึ่งกำหมัดป้องปากแอบหัวเราะ

     

    หลอกฉันเรอะ!?”

     

    ไม่ได้หลอกนะ ก็นายไม่ได้บอกว่าจะเอาเรื่องเศร้าไปทำอะไรนี่ เอ็กซ์ยิ้มไร้เดียงสาแบบไม่เนียน

     

    หนังตาไซโตะกระตุก แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ภูตวารีก็ปรากฏตัวที่จุดเดิม คราวนี้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปร่างของมอนท์โมรันซี่ เช่นเคย ขนาดใหญ่กว่า และไม่มีเสื้อผ้า สีหน้าเปลี่ยนแปลงหลายครั้งก่อนจะหยุดที่ใบหน้าเป็นกลาง

     

    มอนท์โมรันซี่แบมือรับกบของเธอที่กระโดดขึ้นมาจากน้ำ ก่อนจะพูดกับร่างเหมือนน้ำของเธอ

     

    นามของข้าคือมอนท์โมรันซี่ มาการิธา ลา แฟร์ เดอ มอนท์โมรันซี่ ผู้ใช้น้ำ ทายาทผู้ถือพันธสัญญา หากท่านจำโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในกายข้าได้ ขอจงตอบข้าในคำพูดที่ข้าสามารถเข้าใจได้

     

    นอกจากมอนท์โมรันซี่ เอ็กซ์ และทาบาสะแล้ว ที่เหลือต่างตาโตด้วยความทึ่ง แม้แต่คีร์เก้ที่ได้เห็นไปเมื่อสามวันก่อน

     

    แสงอาทิตย์อัสดงส่องผ่านร่างกายที่ประกอบขึ้นจากน้ำใสสะอาดของทะเลสาบแล็กโดเรี่ยนสะท้อนเป็นสีรุ้งเจ็ดสี สมแล้วที่ได้ชื่อว่างดงามเหนือสิ่งใด

     

    ข้าจำได้ มนุษย์เอ๋ย ข้าจำของเหลวที่ไหลเวียนอยู่ในกายของของเจ้าได้ จันทราได้ผันเปลี่ยนไป 52 คราแล้วนับแต่ครั้งก่อนที่เราพบกัน

     

    ข้ายินดีนัก ภูตวารี ข้ามีเรื่องที่อยากขอจากท่าน ส่วนหนึ่งของร่างกายท่าน มอบให้ข้าได้หรือไม่?

     

    และแล้วเวลาที่ทุกคนลุ้นก็มาถึง ต่างคนต่างมีเหตุผลสำคัญที่มาที่นี่ และคำตัดสินน้ำพักน้ำแรงที่พวกเขารอคอยก็มาถึง

     

    ข้าขอปฏิเสธ

     

    งั้นหรือ? โชคร้ายนัก เช่นนั้น ข้าขอลา

     

    เดี๋ยวก่อนสิ/ครับ!” เอ็กซ์กับไซโตะพูดขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองตกใจที่เด็กสาวผมม้วนยอมแพ้ได้ง่ายดายเหลือเกิน แต่มีเพียงเด็กหนุ่มผมดำที่ห้าวพอจะตะโกนพูดกับภูตวารีโดยตรง

     

    เฮ้! ภูตวารี!”

     

    หยุดนะเจ้าบ้า! จะทำให้ภูตวารีพิโรธไม่ได้นะ!” มอนท์โมรันซี่พยายามห้าม

     

    ท่านภูตวารี! ผมขอร้องล่ะ! ตอนนี้คนสำคัญของผมกำลังลำบาก จะให้ทำอะไรก็ได้ผมยอมทุกอย่าง! ชิ้นส่วนร่างกายของท่าน แค่นิดเดียว แค่นี้ด~เดียว! ขอเถอะนะ!” ไซโตะคุกเข่ากัมหัวขอร้อง

     

    เอ็กซ์มองเด็กหนุ่มผมดำด้วยความประทับใจ ความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อคนอื่นคือสิ่งที่เขาชื่นชม ทำให้เขาได้นึกถึงตัวเองในอดีต...

     

    สิ่งที่เจ้าสามารถทำแลกเปลี่ยนได้นั้นมีอยู่ สมบัติของข้า แหวนแห่งอันดวาริที่ถูกขโมยไป หากเจ้าสามารถนำกลับมาได้ ข้าจะตอบรับคำขอของพวกเจ้าทั้งหมด

     

    แหวนแห่งอันดวาริ? มันคืออะไรล่ะนั่น? ไซโตะถามมอนท์โมรันซี่มีความรู้มากที่สุดในที่นี้

     

    ไอเทมแห่งน้ำที่ว่ากันว่าให้ชีวิตเทียมแก่คนตายได้ แล้วใครขโมยไปอยู่ที่ไหนล่ะนั่น?

     

    เอ็กซ์ยกมือขออนุญาต

     

    ถ้าข้อมูลของผมไม่ผิด คิดว่าน่าจะอยู่กับจักรพรรดิองค์ใหม่ของอัลเบี้ยนนะครับ

     

    ทุกสายตามองเขาอย่างตกตะลึง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทึ่งกับข้อมูลของเขา อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะแหวนไปอยู่ที่นั่นแล้วจะไปเอามาได้อย่างไร

     

    นี่! ภูตวารี เรารู้แล้วว่าต้องไปเอาที่ไหน จะ...ทำตามคำขอของเราก่อนได้รึเปล่า เป็นเรื่องเร่งด่วนมากเลยนะ!” ไซโตะหันไปต่อรองอีกรอบ

     

    จนกว่าแหวนแห่งอันดวาริจะมาอยู่ต่อหน้าข้า หรือมีหลักฐานยืนยันว่าคำพูดของเจ้าเชื่อถือได้ ข้าขอปฏิเสธคำของของเจ้า

     

    หนอย! ทำไมดื้อขนาดนี้!” ไซโตะตั้งเข่าขึ้นข้างหนึ่ง มอนท์โมรันซี่ตะลีตะลานเข้ามาห้าม

     

    อยากตายมากรึไงยะ!? ถ้าอยากตายก็ไปกระโดดหน้าผาที่ไหนก็ได้ อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยสิยะ!”

     

    เอ็กซ์เดินไปที่ริมน้ำ มองลงไปใต้ทะเลสาบเห็นเลเวียธานมองกลับขึ้นมา เขาส่งยิ้มเศร้าสร้อยให้ สื่อความว่า ขอโทษนะ ล้มเหลวซะแล้วเลเวียธานอ้าปากเล็กน้อย เป็นสัญญาณบอกว่าเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ

     

    พริบตานั้นใบหน้าของเรปลิลอยด์สาวขึงขังขึ้นมา ก่อนที่ร่างกายของเธอจะกลืนไปกับน้ำ เพราะเป็นเพียงแค่แวบเดียวเอ็กซ์จึงไม่มั่นใจ แต่เขารู้สึกว่าได้เห็นใบหน้าที่คนที่รู้จักเรปลิลอยด์สาวคุ้นเคย ใบหน้าของผู้บัญชาการทัพภาคพื้นสมุทรแห่งอาณาจักรเนโออาร์คาเดีย

     

    เหนือผิวทะเลสาบแล็กโดเรี่ยน สายน้ำพวยพุ่งขึ้นเหมือนกับก่อนที่ภูตวารีจะปรากฏตัว ไซโตะกับมอนท์โมรันซี่หยุดการทุ่มเถียง สายตาทุกคนจับจ้องที่น้ำพุสายใหม่

     

    มีภูตวารีสองตัวเหรอ? ไซโตะถามอย่างสงสัย มอนท์โมรันซี่มองอย่างตกตะลึง

     

    ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า! ภูตวารีคือจิตวิญญาณนับไม่ถ้วนที่รวมอยู่ในร่างกายเดียว จะแยกเป็นสองไปทำไมกัน?!”

     

    น้ำพุสายที่สองก่อตัวเป็นร่างของเลเวียธานที่เป็นน้ำใสเหมือนกับภูตวารี คีร์เก้กับทาบาสะจำได้ทันทีว่าเป็นรูปร่างเดียวกับที่พวกเธอเห็นเมื่อสามคืนก่อน ทว่าครั้งนี้มีขนาดเท่าตัวคน กายน้ำที่สองหันหลังให้พื้นดิน และเผชิญหน้ากับร่างที่ใหญ่โตของภูตวารี

     

    ภูตวารี เจ้าต้องการคำพูดที่เชื่อถือได้ใช่หรือไม่?

     

    เสียงที่พวกไซโตะไม่คุ้นหูดังขึ้นจากกายน้ำที่สอง มีเพียงเอ็กซ์คนเดียวที่จำได้อย่างแม่นยำ

     

    เลเวียธาน...?!’

     

    เจ้าผู้อาศัยพลังของข้า เจ้าพูดถูกแล้ว

     

    ข้าอยู่กับเจ้ามานับร้อยจันทรา อาศัยสายน้ำของเจ้า หล่อเลี้ยงด้วยพลังของเจ้า ข้าอยากจะตอบแทนบุญคุณนั้นของเจ้า ขอให้เจ้าฟังข้า: ข้าจะร่วมทางไปกับมนุษย์กลุ่มนี้ เพื่อไปนำสมบัติล้ำค่าของเจ้ากลับคืนมา เป็นการตอบแทนดวงวิญญาณนี้ที่เจ้าช่วยเหลือเอาไว้

     

    เอ็กซ์ตะลึงจนลืมหายใจ เขาเข้าใจผิดไป ความโดดเดี่ยวอันแสนยาวนานไม่ได้ทำให้ไซเรนสาวอ่อนแอลงเหมือนที่ทำกับเขา เธอยังเข้มแข็งไม่เสื่อมคลาย [โยโช - เลเวียธาน] เบื้องหน้าเขาในตอนนี้สง่างามไม่ด้อยไปกว่าที่เคยเป็น

     

    คำพูดของข้า ไซเรนแห่งผืนสมุทร เลเวียธานผู้นี้ ควรค่าแก่การเชื่อถือหรือไม่?!”

     

    ภูตวารีนิ่งเงียบ ไม่ตอบทันทีเหมือนครั้งก่อนๆ

     

    แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของคำพูดนั้นเป็นใคร แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันตั้งความหวังไว้ที่เจ้าของเสียงนั้นและรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

     

    ครั้งนี้คงเป็นโอกาสสุดท้าย ไม่มีอีกแล้ว อึดใจหนึ่งราวกับนานนับชั่วโมง

     

    ตกลง เจ้าผู้มีหัวใจแห่งสายน้ำ ข้าเชื่อคำพูดของเจ้า

     

    ร่างของภูตวารีเปล่งแสง กายน้ำที่อยู่ตรงหน้าเธอก็เปล่งแสงตาม

     

    จากเท้าขึ้นมา ร่างกายที่เป็นน้ำใสค่อยๆ แข็งตัว ประดับประดาด้วยสีน้ำเงินและสีขาว ดวงตาสีน้ำเงินเข้มดั่งก้นมหาสมุทร ผลึกที่หน้าผากสะท้อนแสงอาทิตย์เปล่งแสงสีแดง

     

    ทุกคนที่อยู่บนบกจับจ้องปรากฏการณ์ประหลาดไม่วางตา โดยเฉพาะเด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทา

     

    แสงดับลง ร่างของภูตวารีคลายสภาพตกลงสู่พื้นผิวทะเลสาบราวกับน้ำพุที่สิ้นแรงดัน ละอองน้ำกระเซ็นมาถึงบนฝั่ง เสียงพูดดังก้องมาจากใต้ผืนน้ำ

     

    ส่วนหนึ่งของข้าได้สถิตอยู่ในกายของเจ้าแล้ว นับแต่นี้เจ้าสามารถท่องไปยังแดนไกลได้อย่างอิสระ ไม่ว่าเป็นบนผืนดิน ใต้มหาสมุทร หรือเหนือท้องฟ้า

     

    เอ็กซ์ตาโต หมายความว่าเป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว?

     

    ทว่าฟังคำเตือนของข้าไว้ ร่างกายของเจ้าจำเป็นต้องได้รับพลังแห่งสายน้ำอย่างสม่ำเสมอ มิฉะนั้นร่างกายเจ้าจะเสื่อมสลาย และเจ้าไม่สามารถไปยังสถานที่ที่พลังของข้าส่งไม่ถึง หากเจ้าฝ่าฝืน ดวงวิญญาณของเจ้าจะไม่สามารถคงสภาพต่อไปได้

     

    เอ็กซ์หุบตาลง แน่นอนอยู่แล้วว่ามันต้องไม่ง่ายอย่างนั้น ข้อจำกัดนั้นทำให้เขาส่งเลเวียธานกลับไปไซเบอร์สเปซไม่ได้ เพราะพลังของภูตวารีส่งไปไม่ถึงแน่นอน

     

    ข้าสูญเสียพลังไปมากแล้ว ข้าจะดึงน้ำที่รุกล้ำผืนดินกลับคืนมาเป็นพลังให้กับข้า เจ้าผู้มีหัวใจแห่งสายน้ำเอ๋ย ร่างกายที่ข้าให้เจ้านี้มีอายุขัยเท่าเทียมกับมนุษย์ จงรักษาสัญญาส่วนของเจ้าให้ดี เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ข้าจะคืนวิญญาณอันเป็นอมตะให้แก่เจ้า

     

    เกิดแสงสว่างวาบขึ้นที่ผิวน้ำ จากนั้นก็ค่อยๆ ดับลง จนกระทั่งหายไป

     

    ไม่มีใครพูดอะไร ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าว่าเกิดอะไรขึ้น แม้แต่มอนท์โมรันซี่ก็งงก็เป็นไก่ตาแตก

     

    ร่างที่ยืนอยู่บนผิวน้ำหันหลังและค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ฝั่ง

     

    พวกไซโตะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทาก้าวออกไปที่ปลายแผ่นดิน ร่างบนผิวน้ำหยุดอยู่ที่ริมน้ำ

     

    มือจากพื้นดินยื่นออกไป มือจากผืนน้ำเอื้อมมาจับเอาไว้ แล้วก้าวเท้าจากผืนน้ำสู่พื้นดิน ทั้งสองยิ้มให้แก่กัน

     

    ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนบนบก

     

    ข้าก็ยังคิดว่าฝุ่นเยอะ แต่ก็ไม่รังเกียจนักหรอกค่ะ

     

    ร่างสีน้ำเงินสวมกอดร่างในเสื้อคลุมสีขาว...

     

    ...แล้วสลายกลายเป็นน้ำทันทีที่ผิวสัมผัส

     

    เอ็กซ์ช็อกจนกล้ามเนื้อใบหน้าแข็งค้าง คนที่อยู่ด้านหลังเขาก็ขวัญกระเจิง

     

    น้ำที่กระจายอยู่กับพื้นไหลเข้ามารวมกัน แล้วเกิดเป็นร่างสีน้ำเงินขึ้นดังเดิม

     

    ขอโทษด้วยค่ะ พอดียังไม่ชิน เลเวียธานยิ้มแห้งๆ

     

    เอ็กซ์กะพริบตาสองครั้ง ก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วเข้าสวมกอดร่างที่อยู่ตรงหน้าเขา

     

    ...

     

    สองกลุ่มแยกทางกัน กลุ่มของไซโตะเดินทางกลับโรงเรียนพร้อมกับ<น้ำตาของภูตวารี>ที่ได้จากเลเวียธาน กลุ่มของทาบาสะขึ้นรถม้ากลับไปที่คฤหาสน์ วางแผนจะพักที่นั่นก่อนคืนหนึ่งแล้วค่อยกลับโรงเรียน

     

    ภายในรถม้ามีสมาชิกคนที่สี่เพิ่มขึ้นมา และเป็นที่สนใจของอีกสามคนไม่น้อยเสียด้วย

     

    เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทาคอยชำเลืองร่างสีน้ำเงินอยู่ตลอดทาง เขาไม่ไว้วางใจที่ได้ยินเสียงน้ำขยับทุกครั้งที่รถม้าเหยียบถูกพื้นขรุขระ เป็นเพราะยังไม่ชินกับร่างกายที่ได้มาใหม่ (ลองนึกดู จู่ๆ ลูกตาหลุดออกมาเป็นน้ำ ได้ขนลุกเกรียวกันพอดี)

     

    ร่างกายเป็นน้ำจริงๆ เหรอเนี่ย...นี่เธอเป็นอะไรกันแน่?

     

    เป็นข้ารับใช้ของท่านเอซาวิเยร์ เรปลิลอยด์สาวตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    ตอนแนะนำตัวที่ทะเลสาบก็พูดแบบนี้ เอ็กซ์พูดกลบชื่อแทบไม่ทัน

     

    พอเถอะเลเวียธาน ฉันเป็นสามัญชนนะ ฟังดูแปลกออก เอ็กซ์เริ่มสงสัยว่าเขากำลังโดนแกล้ง

     

    เปลี่ยนก็ได้ค่ะ เป็นองครักษ์ แทนแฟนธอม เลเวียธานแสยะยิ้มไม่หุบ แถมดูเจ้าเล่ห์กว่าเดิม เอ็กซ์มั่นใจแล้ว เขากำลังโดนแกล้ง

     

    พอขึ้นบกมาแล้วบุคลิกเปลี่ยนทันทีเลยนะ เอ็กซ์ยิ้มพลางส่ายหน้า ร่าเริงสิจึงจะเป็นเลเวียธาน เพียงเท่านั้นเขาก็ดีใจแล้ว

     

    คีร์เก้มองดูการหยอกล้อของทั้งสองแล้วก็ยิ้มแบบมีเลศนัย เธอใช้ศอกสะกิดเด็กสาวสวมแว่นที่อยู่ข้างๆ พร้อมทั้งกระซิบไม่ให้สองคนที่นั่งตรงข้ามได้ยิน

     

    ความสัมพันธ์น่าคิดจริงๆ เลยเนอะ

     

    ฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เด็กสาวผมแดงแปลกใจนัก แต่เมื่อตาเธอเหลือบไปเห็นหนังสือที่ปิดอยู่บนตัก เธอก็หุบยิ้ม มองสูงขึ้นมาอีกนิด ดวงตาหลังกรอบแว่นจ้องสองคนที่คุยตอบโต้กันเขม็ง คีร์เก้เบิกตากว้าง

     

    ทาบาสะ เธอ...

     

    โดยที่ทั้งสี่คนไม่รู้ สมาชิกคนที่ห้าในรถม้า มีดสั้นที่เก็บอยู่ในเสื้อคลุมของเด็กหนุ่ม เพราะตัวเองก็เป็นทั้งเรปลิลอยด์และไซเบอร์เอลฟ์ จึงเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นอย่างดี รวมทั้งเรื่องที่ครั้งนี้เธอไม่มีประโยชน์อะไรเลย

     

    มาริโน่ทบทวนเรื่องที่เธอได้พบเจอมาทั้งหมดนับแต่มาที่โลกนี้ แล้วก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ

     

    ...

     

    ม้าสามตัววิ่งเหยาะๆ อยู่ใต้แสงจันทร์ กีช กับมอนท์โมรันซี่ที่ขี่อยู่บนหลังมีสีหน้าอิดโรยจากการเดินทางติดต่อกัน ไซโตะก็เหนื่อยไม่แพ้กัน แต่เมื่อมองเด็กสาวผมสีชมพูที่หลับพิงอกเขาอยู่ด้านหน้าแล้วก็รู้สึกมีกำลังไปต่อได้

     

    ว่าแต่หมอนั่น ซาวิเยร์เนี่ย มีเพื่อนเป็นภูตวารีอีกตัวด้วยแฮะ เป็นคนประหลาดจริงๆ กีชโพล่งขึ้น

     

    ภูตวารีอีกตนที่ไหนล่ะยะ คงจะเป็นวิญญาณของอดีตผู้ทำสัญญานั่นล่ะ ถึงจะน่าทึ่งที่ได้ร่างกายเป็นน้ำแบบนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นปาฏิหาริย์อะไร มอนท์โมรันซี่พูดในฐานะผู้มีความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์น้ำ เป็นแค่ข้อสันนิษฐานที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่เธอก็ปล่อยไว้แค่นั้นแล้วไม่คิดมากให้ปวดหัว

     

    เห งั้นเหรอ? ไซโตะตอบเสียงเฉื่อย

     

    อะไรยะ เสียงเหมือนไม่เชื่อ

     

    เปล่าๆ ไซโตะตัดบท เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะนอกจากข้อสันนิษฐานของมอนท์โมรันซี่แล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับอีกโลกหนึ่งที่ไม่ใช่โลกของเขาก็ได้ ว่าไปแล้วเขาก็ชักสงสัยว่าโลกของเอ็กซ์นั้นเป็นยังไง ไว้วันหลังเขาจะขอให้เล่าให้ฟัง

     

    ทั้งสามต่างก็คิดเรื่องในหัวตัวเอง ไม่มีใครให้ความสนใจกลุ่มคนประมาณเจ็ดแปดคนที่เดินอยู่ข้างทางและกำลังมุ่งหน้าไปทางเดียวกับพวกเขา อาจเป็นเพราะทั้งหมดสวมผ้าคลุมสีทึบปิดตั้งแต่หัวจรดเท้าจึงทำให้ไม่ทันสังเกต จนกระทั่งวิ่งเลยไป

     

    คนที่เดินอยู่หัวแถวมองม้าที่วิ่งผ่านไป ศีรษะที่เอียงไปด้านข้างทำให้ฮู้ดกางออก

     

    ใบหน้าของอดีตมกุฎราชกุมารเวลส์อาบแสงจันทร์ ดวงตาสีฟ้าสว่างวาบอย่างน่าขนลุก

     

    --

     

    แนะนำตัวละคร

     

    (Credit: ネム แห่ง Pixiv.com)(*หมายเหตุ: อ่านว่า ne-mu)

     

    เลเวียธาน

    เผ่าพันธุ์ : ไซเบอร์เอลฟ์

    เพศ : หญิง(เทียบเท่า)

    อายุ : ราว 58 ปี(รวมเวลาที่อยู่ในโลกนี้)

    ส่วนสูง : ประมาณ 155 เซนติเมตร

    น้ำหนัก : ไม่ทราบ

    ชอบ : สถานที่ที่เป็นน้ำ, ความท้าทาย, ท่านเอ็กซ์(?)

    เกลียด : ฝุ่นดิน

     

    ข้อมูล : อดีตหนึ่งในสี่จตุรเทพ ผู้บัญชาการทัพภาคพื้นสมุทร [ห้วงทะเลลึก](เมไค) แห่งอาณาจักรเนโออาร์คาเดีย ถูกออกแบบมาให้ทำงานในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการควบคุมน้ำและความเย็นเป็นเลิศ สามารถทำงานอยู่ใต้น้ำได้เป็นระยะเวลานาน(อาจไม่จำกัด)

     

    ค่อนข้างใจเย็น ทำอะไรตามใจตัวเอง แต่รักษาหน้าที่เป็นที่หนึ่ง ขี้เล่น เจ้าเล่ห์นิดๆ มุ่งมั่นและเข้มแข็งสมเป็นผู้นำ ความภักดีสูง บุคลิกและนิสัยที่ด้านชาไปในระหว่างห้าสิบปีแห่งความโดดเดี่ยวค่อยๆ ฟื้นกลับมาเมื่อได้ตามท่านเอ็กซ์ออกมาสู่โลกกว้าง

     

    ฉายา [ไซเรนแห่งผืนน้ำ](โยโช = ผู้บัญชาการไซเรน) ครอบครอง [ฟรอสท์จาเวลิน] หอกที่สามารถควบคุมน้ำและความเย็นได้

     

    ได้ชิ้นส่วนร่างกายของภูตวารีไป ปัจจุบันมีร่างกายที่ประกอบขึ้นจากของเหลว แบบเดียวกับภูตวารี แต่ด้วยไซเบอร์เอลฟ์ที่สถิตอยู่ทำให้สามารถคงร่างเป็นของแข็งได้ตามต้องการ

     

    --

     

    PBW:”ทุกท่านคงจะสงสัยอะไรหลายอย่าง

     

    DX:”เฮ่ย...อย่าบอกนะว่านั่นคือสัญญาณบอกคู่ที่เป็นไปได้? XxLeviathan น่ะนะ?

     

    PBW:”เป็นสิ่งที่ยากจะรับประกันได้ว่าจะไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แม้แต่คู่ BL XxZero ก็ยังปลอดภัยกว่า เพราะฟิคที่มีไปก่อนหน้าแล้วเหมือนบุกเบิกเส้นทางให้ แต่คู่ใหม่ที่เพิ่งจะปรากฏเป็นครั้งแรกหรือครั้งที่สองย่อมตกเป็นเป้าวิจารณ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะมีคู่ ZeroxLeviathan และ HarpuiaxLeviathan ที่ได้รับความสนใจพอสมควรอยู่ ทำให้เพิ่มเสียงค้านได้หลายส่วนทีเดียว

     

    DX:”เรื่องคู่ใหม่คู่เก่าช่างหัวมันเถอะ มีที่มันแจ๊ดแจ๋กว่านั้นอีกไม่ใช่รึไง! Incest เชียวนะเฟ้ย! Incest! เผลอๆ เป็น Selfcest ถ้ามองในแง่ว่าดวงวิญญาณของเลเวียธาน(และจตุรเทพคนอื่นๆ)มาจากดวงวิญญาณต้นของเอ็กซ์

     

    PBW:”คนเขียนไม่แบ่งแยก Incest ครับ(ตราบเท่าที่ไม่ใช่พ่อ/แม่-ลูก) แต่ในกรณีของเอ็กซ์กับเลเวียธานนี้ คนเขียนถือว่าไม่เกี่ยวครับ เพราะทั้งคู่ไม่ได้เป็นพ่อ-ลูกกันด้วยวิธีการธรรมดา สำหรับคนที่มีคู่จิ้น Leviathan ของตัวเองก็ต้องขออภัยด้วยครับ เพียงแต่คู่เลเวียธานที่คนเขียนรับพิจารณาก็มีแต่ XxLeviathan เท่านั้น(ถ้ากับ Zero หรือจตุรเทพคนอื่นก็เฉยๆ) ความชั่วที่แท้จริงของคนเขียนคือ เคยจิ้น XxCiel กับ XxIris เสียด้วยซ้ำ(รายหลังนี้มีฟิคไปแล้ว แต่มีน้อยมาก) แต่ก็ยังถือว่าสองคนนั้นต้องคู่กับ Zero ถึงจะถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี ดังนั้นถ้ามีใครเขียน จะตามไปอ่าน แต่จะไม่เขียนเอง

     

    DX:”รสนิยมของคนเรามันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะนะเนี่ย เรื่องพวกนี้นี่จะให้อธิบายคงเข้าใจได้ยาก

     

    PBW:”เลเวียธานอาจดูผิดคาแร็คเตอร์บ้างก็ขออภัยนะครับ เพียงแต่...เลเวียธาน(กับแฟ็บนีลและ(อาจจะ)แฟนธอม)มีคาแร็คเตอร์น้อยอยู่แล้ว ทีมสร้างของ Inti Creates เองก็ยังแสดงความเสียดายที่ไม่ได้พัฒนาคาแร็คเตอร์ให้มากกว่านี้ แต่ก็พอมีโครงคร่าวๆ อยู่ คนเขียนจะเอาตามนั้น(ในเกม)ละกันครับ ถ้าในตอนนี้คาแร็คเตอร์ดูแปลกจากในเกม ก็เป็นเพราะคนเขียนจงใจนะครับ เดี๋ยวจะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามเนื้อเรื่องเอง

     

    DX:”เรื่องดูเหมือนจะซาลงแล้ว ดีที่ไม่บานปลายจนรุนแรงแบบที่เห็นกันในข่าวโทรทัศน์

     

    PBW:”ถึงช่วงตอบคำถามประจำตอน(ถึงไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็คงเป็นไปแล้วล่ะ โดยอัตโนมัติ)

     

    คุณ yinegene: ถ้าไม่ใช่คำถามที่ส่อเจตนาว่าจุดประสงค์คือการกวน Teen คนเขียนมากกว่าจะต้องการคำตอบแล้ว คนเขียนก็ไม่รู้สึกโมโหอะไรหรอกครับ

     

    คุณ O-Corona-O: เอ่อ บารมี? คนเขียนไม่ใช่คนที่มาดขึงขังน่าเกรงขามอะไรแบบนั้นหรอกครับ เพราะพิมพ์เป็นตัวหนังสือถึงได้แก้ไขให้มันดูดีได้ ต้องได้เห็นตัวจริงคนเขียนถึงจะรู้ ส่วนเรื่องฉากต่อสู้นั้น ขอบคุณครับ คนเขียนเข้าใจว่าตัวเองถนัดฉากต่อสู้มากกว่าฉากอื่นๆ เพราะฉะนั้นจึงรู้สึกว่าฉากต่อสู้ในตอนที่แล้วควรจะทำได้ดีกว่านี้ น่าเสียดายที่แต่ละตอนมีจำกัดหน้า(เพื่อไม่ให้ความยาวแต่ละตอนผิดกันมาก) แล้วเป็นฟิคที่เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก ทำให้พื้นที่ในการลงบทต่อสู้น้อยตามไปด้วย ถ้ามีโอกาสได้เขียนฉากต่อสู้อย่างละเอียดก็คงจะดี(คนเขียนไม่เก่งวางแผน รอโอกาสมันมาเองดีกว่า)

     

    คุณ Pkman: หายหน้าหายตาไปนานนะครับ ที่แท้ก็ยังสบายดี ยินดีที่ได้เห็นคอมเมนต์คุณอีกครับ

     

    คุณ Akirasama: เข้าใจตรงกับคนเขียนครับ ถ้าทาบาสะเป็นแบบนั้น คนเขียนคงหาข้ออ้างอื่นไม่ได้นอกจากใช้มุก<วันนั้นของเดือน>แล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้นมันก็คือการผิดคาแร็คเตอร์แบบพลิกขั้ว(ไม่ใช่ผิดแบบไม่รู้สึกตัว)

     

    คุณ Master Zero X Advent: ชะตากรรมของจตุรเทพที่เหลือก็ดังที่กล่าวไปในตอนนี้ล่ะครับ สาเหตุที่คนเขียนให้แฟนธอมยังอยู่ในไซเบอร์สเปซก็เพราะถ้าทั้งสี่คนจะบังเอิญหลุดมาที่โลกเวทมนตร์จนหมดมันก็จะเป็นการจงใจมากเกินไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีบทนะครับ คนเขียนมีรูป Ghost of Shitennou จาก Rockman CIEL ครบทั้งสี่คน ต้องหาทางใช้ให้หมดไม่งั้นเสียดายแย่

     

                                          ว่าแต่<ผู้สร้างสรรค์>นี่คือใครเหรอครับ? ไม่ยักรู้ว่ามีใครที่มีฉายาอะไรแบบนั้นด้วย?(คงไม่ใช่ Craft ใช่ไหม? ไม่ใช่ Omega หรือว่า Vile(Weil)หรอกนะ?) เท่าที่คนเขียนนึกออก คนที่เข้าข่าย<สร้างสรรค์>นี่ก็มีแต่ด้านบน กับ Lumine แล้วก็ Dr.Right(Light) Dr.Wily เท่านั้นเอง?

     

    http://i2.pixiv.net/img04/img/isaya/24346365_p7.jpg

    (Credit: ネム แห่ง Pixiv.com)

     

    (แค่ลงรูป ไม่มีจุดประสงค์อะไรเป็นพิเศษ)

     

    PBW:”มีใครคิดเหมือนคนเขียนบ้างว่าเอ็กซ์หล่อ/น่ารักมากในรูปนี้?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×