คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #80 : Chapter 79 : หายนะจากโบราณกาล
แสงแดดยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ สองร่างนอนอยู่บนเตียงไม้ปูด้วยผ้าและหมอนสีเหลืองอ่อน เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามตาปิดครึ่งหนึ่งชำเลืองมองเด็กสาวผมสีชมพูที่หลับอยู่ข้างๆ
‘พิธีเมื่อวานคงจะเหนื่อย’
พิธีอภิเษกราชินีแห่งกาเลียจัดขึ้นในค่ำเมื่อวาน หลังจากนั้นก็เป็นงานเลี้ยงทั้งคืน กว่าที่ทั้งคู่จะกลับมาก็เกือบเที่ยงคืน หลุยส์จึงไม่มีเรี่ยวแรงจะตื่นขึ้นมาทักทายเช้าอันสดใส ส่วนเอ็กซ์นั้นตั้งแต่กลับจากห้องของราชินีทาบาสะก็หลับตาไม่ลง เพราะเรื่องที่คุยกันเกี่ยวกับชะตากรรมของเขาในฐานะลีฟดราซิล
‘ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงไม่รู้สึกอะไรๆ ที่รู้ว่าตัวเองอาจจะตาย เผลอๆ จะยิ้มหยันโชคชะตาด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้...’ ตามองใบหน้ายามหลับของผู้เป็นนาย ใจก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา
‘...บอกไปหลุยส์ก็คงเป็นห่วงเปล่าๆ ต่อไปในอนาคตพลังของลีฟดราซิลจะต้องมีความจำเป็นแน่ ถ้าถึงเวลานั้นการลังเลแม้เพียงชั่วครู่อาจทำให้ต้องสูญเสียครั้งใหญ่’ แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะตาย เพียงแต่...ถ้าไม่มีทางเลือกขึ้นมาจริงๆ ชีวิตเขาก็อาจต้องไป เพื่อสิ่งที่สำคัญกว่า...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เอ็กซ์ลุกขึ้นนั่งและมองไปที่ประตู รอฟังว่าใครมา
“มิสวาลิเอล ตื่นอยู่รึเปล่าคะ?” เสียงผู้หญิงห้าวๆ หน่อย อาเนียสนั่นเอง เอ็กซ์ลงจากเตียงไปที่ประตู
อาเนียสผงะเมื่อผู้ที่มาตอบเสียงเรียกเป็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินคราม แก้มของเธอเป็นสีชมพูนิดๆ เอ็กซ์เกิดอยากถอนหายใจขึ้นมากะทันหัน
“อ—องค์ราชินีเรียกนาย มิสวาลิเอล แล้วก็มิสเวสท์วู้ดเข้าพบ”
“รับทราบครับ รอซักเดี๋ยวนะครับ” เอ็กซ์ปิดประตูลง เพื่อจะไปปลุกหลุยส์ขึ้นมาเตรียมตัว
คฤหาสน์ในเขตพระราชวัง
“ขออนุญาตค่ะ พามิสวาลิเอล มิสเวสท์วู้ด และเอ็กซ์มาพบแล้วค่ะ”
“เข้ามาได้”
อาเนียสเปิดประตูให้ทั้งสามคนเข้าไปก่อน อันเรียตต้ายืนยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าต่าง
“ขอบคุณที่มากันนะคะ ทั้งสามคน”
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ” เอ็กซ์ถามขึ้นก่อน
“หลังจากเสร็จสิ้นพิธีอภิเษกของราชินีชาร์ล็อต องค์สันตะปาปาก็เดินทางกลับไปยังโรมาเลีย แต่หลังจากนั้นก็ได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น” สีหน้าของอันเรียตต้าเปลี่ยนเป็นอึมครึม
“ในขณะนี้ เมืองที่อยู่รอบเขตภูเขาไฟได้ถูกทำลายลงจนหมดสิ้นแล้วค่ะ”
ทั้งสามตกใจ หลุยส์เป็นคนแรกที่เอ่ยถาม
“หมายความว่ายังไงหรือเพคะ?!”
“องค์สันตะปาปาได้ต้องการให้พวกคุณทั้งสามคนไปดูด้วยตาของพวกคุณเอง ทางราชินีชาร์ล็อตได้ส่งมังกรมารับพวกคุณแล้วค่ะ”
ประตูเปิดผางออก เด็กสาวผมยาวสีน้ำเงินเข้าพรวดพราดเข้ามา
“พร้อมจะไปกันรึยา~ง”
เอ็กซ์ยิ้มให้เด็กสาวร่างจำแลงของมังกรเป็นเชิงขอบคุณ
...
ผู้โดยสารสามคนขึ้นหลังพร้อม มังกรสีน้ำเงินกระพือปีกยกตัวเองขึ้นเหนือพื้นดิน ราชินีอันเรียตต้าโบกมืออยู่ด้านล่าง
“...ถ้าไม่ใช่เรื่องอันตรายก็คงดีนะ อาเนียส”
“...เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้เพคะ” อัศวินสาวมองดูมังกรสีน้ำเงินบินไกลออกไปด้วยสีหน้าเงียบงัน เธอรู้สึกใจหน่วงๆ สังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เธอน่าจะห้ามพวกเขาเอาไว้
โรมาเลีย
ทั้งสามมองดูทิวทัศน์เบื้องล่างจากบนหลังของซิลฟีด ควันสีดำลอยขึ้นมาจากปากปล่องภูเขาลูกหนึ่ง ลาวาที่ร้อนระอุไหลจากยอดลงไปเบื้องล่างเป็นลำธาร
“แค่ภูเขาไฟระเบิดเองไม่ใช่เหรอ?” หลุยส์เอ่ยด้วยความสงสัย คำถามของเธอได้รับคำตอบเมื่อบินมาอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง...ที่ปกคลุมด้วยเปลวไฟโชติช่วง
“นี่มันอควีเลยจริงเหรอเนี่ย?!” หลุยส์ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
อาคารบ้านเรือน ถนนห้างร้าน ทุกอย่างปกคลุมด้วยเปลวไฟและควันโขมง แม้แต่โบสถ์หลักก็ไม่เหลือเค้าความงดงามที่เคยมี
“เอ็กซ์! ระวังทางขวา!”
เอ็กซ์หันไปตามที่โมเดลเอ็กซ์บอก ฝูงมังกรไฟบินเข้ามาหาพวกเขา
ตัวหนึ่งยืดคอเข้ามาจะขย้ำตัวเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินคราม แต่ถูกดาบเหล็กฟันจนต้องถอยกลับไป เดลฟลิงเกอร์สัมผัสอะไรบางอย่างได้จากมังกรที่โดนฟัน
“เจ้าพวกนี้เหมือนจะโดนควบคุมอยู่นะ!”
“จริงเหรอ?!”
หลุยส์เกาะอยู่ที่คอซิลฟีด เธอมองเห็นอะไรบางอย่างที่ใหญ่มากอยู่ไกลลิบ ถูกปกคลุมด้วยไอสีดำทะมึน จากนั้นก็มีสิ่งที่คล้ายกับเปลวเพลิงปรากฏขึ้น มันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ...
“เอ็กซ์!! บินขึ้นเร็วเข้า!!”
เอ็กซ์สั่งซิลฟีดตามที่เสียงปริศนาบอก พอดีกับเปลวเพลิงสายใหญ่เผาผลาญอากาศเบื้องล่างมังกรสีน้ำเงินอย่างเฉียดฉิวชนิดสัมผัสได้ถึงความร้อน
“ไม่เป็นไรนะ ทุกคน” มังกรสีขาวขนาบข้างซิลฟีด นักบวชหนุ่มผมทองถามสามคนบนหลัง
“คุณจูลิโอ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?” เอ็กซ์ถามอย่างกังวลใจ
“ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้รีบไปจากที่นี่ก่อนเถอะ!”
เอ็กซ์หันไปมองด้านหลัง ฝูงมังกรไฟยังไล่ตามติดพวกเขาไม่หยุด จูลิโอ้มองตามแล้วอธิบาย
“เว้นแต่ซิลฟีดที่เป็นมังกรแห่งบทกวี มังกรแถวนี้เป็นแบบนั้นไปหมดแล้ว ถ้าไม่ได้พลังของวินดาล์ฟล่ะก็ แม้แต่มังกรของฉันเองก็คงคลั่งไปแล้วเหมือนกัน” จูลิโอก้มมองหลังมือขวาที่ส่องแสง
“พอจะรู้สาเหตุรึเปล่าครับ?”
จูลิโอมองไปข้างหน้า สามคนบนหลังซิลฟีดมองตาม
“รู้สิ ตอนนี้ก็เห็นอยู่”
เงาดำทะมึนที่ยึดครองพื้นที่ปลายสุดเมือง ดวงตาขนาดยักษ์สีทองสว่างวาบอยู่หลังม่านควัน
“สิ่งนั้นคือ...”
“สิ่งมีชีวิตในตำนาน” จูลิโอหรี่ตา “[แอนเชียนท์ดรากอน]”
โรมาเลีย เมืองหลวง
ที่โบสถ์กลางของศาสนจักร องค์สันตะปาปาเรียกรวมตัวอัศวินศักดิ์สิทธิ์
“ตามที่ทุกคนได้ทราบกัน อะไรบางอย่างได้ทำลายอควีเลยและเมืองอื่นๆ ที่ล้อมรอบภูเขา รวมทั้งกำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์โรมาเลียแห่งนี้ สิ่งนั้นเราเรียกมันว่า [แอนเชียนท์ดรากอน]”
ผู้คนเบื้องล่างตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวอลหม่าน องค์สันตะปาปาที่ยืนอยู่ที่ระเบียงด้านบนยกมือขึ้นห้าม
“แต่จงอย่าได้กลัว ด้วยกำลังของพวกเราทั้งหมด เราสามารถเอาชนะมันได้แน่นอน สถานที่ที่เราจะทำการต่อสู้ก็คือ [หุบเขาออลเซีย] ก่อนที่มันจะมาถึงเมือง ขอให้เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทุกคนเชื่อมั่นในองค์ศาสดาบริมีล ขอพรอันศักดิ์สิทธิ์จงปกป้องสาวกผู้ซื่อสัตย์ทุกคน”
เหล่าอัศวินส่งเสียงโห่ร้องอย่างฮึกเหิม ต่างคนต่างเข้าประจำตำแหน่งบนหลังมังกรและขึ้นบิน ฝูงมังกรดำที่แต่ละตัวโดยสารโดยอัศวินสามคนบินตรงไปทางเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง
วิตโตริโอมองดูฝูงบินมังกรที่เขาส่งออกไป...ตาย... เขารู้ดียิ่งกว่าใคร ผลมันชัดเจนอยู่แล้ว ระหว่างสิ่งมีชีวิตยักษ์กับผู้ใช้เวทมนตร์ไม่กี่คน แต่การเสียสละเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อปกป้องคนหมู่มาก...
“องค์สันตะปาปา” จูลิโอเดินออกจากตัวโบสถ์มาที่ระเบียงพร้อมกับคนอีกสามคน
“พวกเขามาถึงแล้วครับ”
วิตโตริโอหันไปเผชิญหน้าสามผู้กุมพลังแห่งความว่างเปล่าที่พกคำถามมาเต็มอก
“พวกท่านคงกำลังสงสัยถึงตัวตนของสิ่งนั้น” องค์สันตะปาปาหันมองไปทางที่ฝูงอัศวินล่วงหน้าไป
“บันทึกโบราณได้กล่าวเอาไว้ว่าโลกจะถูกเผาผลาญด้วยเปลวเพลิงที่มหึมาและทรงพลัง ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสิ่งนั้นคือมังกรยักษ์ที่ปรากฏตัวขึ้น เราเรียกมันว่า ‘แอนเชียนท์ดรากอน’ สิ่งที่จะหยุดมันได้มีเพียงพลังขององค์ศาสดา พลังแห่งความว่างเปล่าเท่านั้น” องค์สันตะปาปาหันกลับมามองผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า
“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องฮาลเคกิเนียจากหายนะดังที่ตำนานกล่าวไว้ และเพื่อการนั้น เอ็กซ์โพลชั่นของมิสวาลิเอลจะเป็นกุญแจสำคัญในปฏิบัติการครั้งนี้”
“ค่ะ” หลุยส์ตอบรับเป็นมั่นเหมาะ
“จากรายงาน แอนเชียนท์ดรากอนมีเกราะป้องกันล้อมรอบอยู่ สิ่งนั้นผมจะจัดการเอง แต่ผู้ที่จะปกป้องเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์จากฝูงมังกรที่ถูกควบคุมจะเป็นเวทลบความทรงจำของมิสเวสท์วู้ด สิ่งนั้นจะล้างอาคมที่ลงเอาไว้บนสมองของมังกรได้ แม้ว่าอาจจะถูกควบคุมอีกได้ก็ตาม”
“ค่ะ” ทิฟฟาเนียตอบรับด้วยสีหน้าแบบเดียวกับหลุยส์
“แล้วก็คุณเอ็กซ์” องค์สันตะปาปาหันไปเผชิญหน้ากับชายผู้แบกรับพลังของสองอสูรรับใช้ในตำนาน
เอ็กซ์จ้องตอบสายตาของวิตโตริโอ ไม่แสดงความผิดปกติใดๆ ให้อีกฝ่ายจับได้ว่าเขารู้สิ่งที่ปิดบังไว้
“พลังของลีฟดราซิลเป็นสิ่งจำเป็น ขอให้คุณมากับผมด้วย”
“...ครับ สิ่งที่ผมทำได้ ผมยินดีทำ” เอ็กซ์ยิ้มน้อยๆ ...เป็นความผิดพลาดที่เขาไม่รู้ตัว เด็กสาวผมสีชมพูจ้องมองเขาด้วยแววตาสับสนและสงสัย
‘ยิ้มนั่น...เอ็กซ์ปิดบังอะไรเราอยู่รึเปล่านะ?’
หุบเขาออลเซีย
เสียงหัวหน้าหน่วยสั่งการทหารที่ประจำที่เป็นแนวยาวตลอดสองฝั่งยอดหุบเขา มังกรสีขาวบินอยู่เหนือน่านฟ้ากลางร่องหุบเขา
“องค์สันตะปาปาครับ ผมมีเรื่องอยากจะถาม...”
วิตโตริโอยิ้มกับคำถามของนักบวชหนุ่มที่นั่งบังคับังกรอยู่ด้านหน้า เขาเดาได้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะถามอะไร
“ฉันดีใจจริงๆ จูลิโอ”
“เอ๋?”
“เธอเปลี่ยนแปลงจากคนที่เย็นชาไม่สนใจโลกเป็นเด็กหนุ่มที่ห่วงใยมิตรสหาย คิดถูกจริงๆ ที่ส่งเธอไปโรงเรียนเวทมนตร์”
“องค์สันตะปาปา...” นักบวชหนุ่มเหลียวหลังกลับไปมองชายผู้ถูกเรียกว่าเซนต์เอจิสที่สามสิบสองและเป็นนายของเขา
“คำถามของเธอนั้น จูลิโอ พลังชีวิตของลีฟดราซิลนั้นไม่หมดไปง่ายๆ หรอก หากเราสามารถจัดการทุกอย่างให้จบลงเพียงเท่านี้ได้ ชีวิตของเอ็กซ์ก็ไม่ตกอยู่ในอันตราย”
จูลิโอยิ้มและหันกลับไปมองทางข้างหน้าดังเดิม
“ขอบคุณครับ”
เบื้องล่างหุบเขา
“ต้องล่อศัตรูมาที่ตรงนี้สินะครับ เพื่อที่จะจำกัดเส้นทางหนีของมัน” เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามยืนอยู่ใต้หน้าผากับนายทั้งสองของเขา
“เอ็กซ์” เด็กสาวผมสีชมพูเดินเข้ามาหาเขา
“นายมีอะไรปิดบังฉันอยู่รึเปล่า?” เอ็กซ์ผงะเล็กน้อย ไม่นึกว่านายหญิงตัวน้อยของเขาจะสังเกตเห็น ท่าทางเขาจะปิดบังสีหน้าไม่เก่งเหมือนเมื่อก่อน
“ท่าทางตกใจแบบนั้น มีอะไรปิดบังอยู่จริงๆ ล่ะสินะ เกี่ยวกับที่องค์สันตะปาปาขอให้นายทำด้วยใช่มั้ยล่ะ ก็นายนิ่งเงียบมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่!”
เอ็กซ์จนมุม นี่เขา...ถูกมองออกได้ทะลุปรุโปร่งขนาดนี้เลยเหรอ?
“...ความจริงแล้ว...”
ทิฟฟาเนียออกไปเดินดูรอบๆ กลับมาได้ยินบทสนทนาเข้า
“...ถ้าผมใช้พลังของลีฟดราซิลมากเกินไป ผมจะตายครับ”
เด็กสาวผมสีชมพูช็อก แต่ยังไม่เท่าฮาล์ฟเอลฟ์สาว
“เป็นเพราะฉัน...” ทั้งสองไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ตรงนี้ก็ตกใจ
“เพราะคุณเอ็กซ์ทำสัญญากับฉัน คุณเอ็กซ์—!”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ” ลีฟดราซิลหนุ่มเดินเข้าไปหาผู้เป็นนาย
“ถ้าไม่ใช่เพราะพลังของลีฟดราซิล ผมกับคุณแล้วก็พวกคุณบิดาชาลคงตายอยู่ที่อาณาจักรเอลฟ์แล้ว อีกอย่างผมเพิ่งใช้พลังของลีฟดราซิลไปแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว เห็นอย่างนี้ผมอึดมากนะครับ แค่เสียพลังชีวิตนิดๆ หน่อยๆ ไม่ทำให้ผมตายได้หรอกครับ” เอ็กซ์ยิ้มรับรองด้วยสีหน้ามั่นใจ
“แต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ” หลุยส์เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง
“ถ้าเกิดนายตายไปล่ะก็ ฉัน...ฉัน...” น้ำใสคลอที่ขอบตาของเด็กสาว เอ็กซ์เช็ดมันออกพร้อมกับประคองใบหน้าที่เปราะบาง
“หลุยส์ ดูนั่นสิครับ...”
เด็กหนุ่มชี้ให้มองดูเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่วิ่งวุ่นเตรียมการรับมือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังกว่าตัวเองหลายร้อยพันเท่า
“เขาเหล่านั้นก็ต้องสละชีวิตของตัวเองเช่นกัน ทำไมกัน ทุกคนต้องรักชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว? เป็นเพราะพวกเขามีคนอยู่เบื้องหลัง คนที่อยากจะปกป้อง อาจจะเพื่อนพ้อง อาจจะเป็นครอบครัว สำหรับผม ก็มีหลุยส์กับทุกๆ คนไงครับ” เอ็กซ์ยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ก็เป็นยิ้มที่เข้มแข็ง
หลุยส์มองอสูรรับใช้โดยที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ความมุ่งมั่นที่สะท้อนในดวงตาสีเขียวมรกตนั่นแรงกล้าจนเธอไม่อาจทำใจห้ามได้
“ถ้าอย่างนั้น...สัญญานะว่า...เราจะกลับไปด้วยกัน...ไปหาคนที่นายปกป้อง”
เอ็กซ์ยิ้มกว้าง ไม่มีสิ่งใดที่เขาปรารถนามากกว่านั้นอีกแล้ว
“ครับ!”
...
ฝูงมังกรบินเข้ามาพร้อมกับเงาสีดำทะมึนตามที่คาดการณ์เอาไว้ ทุกคนเข้าประจำที่ตัวเอง หน่วยอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทำตัวราบติดกับพื้นบนยอดหุบเขาขณะที่คณะมังกรเคลื่อนผ่าน จนเมื่อมังกรยักษ์อยู่ในตำแหน่งกลางหุบเขาตามที่ตกลงกันไว้
“โจมตี!!”
เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์เผยตัวและร่ายเวทโจมตีหน้าผาฝั่งตรงข้ามพร้อมๆ กัน
หน้าผาถูกแรงระเบิดทลายเป็นหินจำนวนมหาศาลหล่นทับแอนเชียนท์ดรากอนและลูกสมุน ขาทั้งสี่ของมังกรักษ์ถูกผนึกการเคลื่อนไหว แต่มันชูคอขึ้นส่งเสียงคำราม มังกรที่รายล้อมออกไปโจมตีอัศวินบนหน้าผา
เปลวเพลิงจากปากของมังกรยักษ์เผาผลาญอัศวินไปคราวเดียวหลายคน ที่เหลือก็ต้องเผชิญหน้ากับมังกรที่จำนวนพอๆ กับตัวเอง แต่เห็นได้ชัดว่ามนุษย์กับมังกรนั้นห่างชั้นกันแค่ไหน
ปลายคทาสะบัด แสงสว่างวาบ แล้วอาการดุร้ายของมังกรที่อาบแสงเข้าไป
ฮาล์ฟเอลฟ์สาวบนหลังมังกรสีน้ำเงินทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ เมื่อเห็นอัศวินที่ใดตกอยู่ในอันตราย เธอก็ใช้เวทลบความทรงจำลบอาคมที่ควบคุมมังกรที่ตรงนั้นและส่งมันกลับคืนสู่อิสระ
หลุยส์นั่งอยู่ด้านหน้าของทิฟฟาเนียมองดูมังกรสีขาวบินเข้าไปใกล้มังกรยักษ์ที่หมอบอยู่กับกองหิน
‘เอ็กซ์...ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ...’
...
“เอาล่ะ” วิตโตริโอลุกขึ้นยืนบนหลังมังกรหลังจากที่จูลิโอบังคับให้มันหยุดนิ่ง
ผู้ใช้เวทแห่งความว่างเปล่าท่องคาถา พลันปลายไม้เท้าก็เปล่งแสง เป็นแสงแบบเดียวกับเมื่อเด็กสาวผมสีชมพูร่ายเวทมนตร์ เป็นพลังแห่งความว่างเปล่า
“คุณเอ็กซ์ ช่วยทีนะครับ”
เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามพยักหน้า ก่อนจะทาบฝ่ามือลงบนหลังขององค์สันตะปาปา แสงสว่างบนหน้าอกของเขาทะลุผ่านเสื้อออกมาเป็นเป็นตัวอักษร
มังกรยักษ์ส่งเสียงครวญครางพร้อมทั้งสะบัดหน้าไปมา ฝูงมังกรที่รายล้อมก็บินหนีไปจนหมด
ไอดำทะมึนที่ปกคลุมร่างของแอนเชียนท์ดรากอนค่อยๆ หายไป แต่ก็เช่นเดียวกันกับเรี่ยวแรงของเอ็กซ์
“คู่หู เป็นอะไรมากรึเปล่า?” เดลฟลิงเกอร์โผล่ออกมาถาม
“ยัง...ผมยังไหว...” เอ็กซ์กัดฟันตอบ จริงอยู่ที่เขารู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง แต่ก็ไม่ถึงกับรู้สึกว่าจะตาย
“เอ็กซ์ ทนไว้นะ อีกแค่นิดเดียว” จูลิโอเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ขณะที่วิตโตริโอเร่งพลังของตัวเองขึ้นไปอีก
แต่เรื่องที่นอกเหนือการคาดเดาก็เกิดขึ้น หน้าผากของแอนเชียนท์ดราก้อนขยับ ตาที่สามเปิดขึ้น เป็นสีทองวาบไม่ต่างจากสองดวงแรก
จูลิโอรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าพวกเขากำลังขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“หยุดก่อน! เป็นอะไรไป?!” แต่มังกรไม่ฟังเขา มันค่อยเคลื่อนเข้าไปหามังกรยักษ์เหมือนกับตกอยู่ในภวังค์
มังกรยักษ์อ้าปาก เปลวไฟที่ร้อนระอุพุ่งออกมา โดยที่ทั้งสามไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เลย
“คู่หู! ใช้ฉันสิ!”
เอ็กซ์ไม่รอช้า ชักดาบเหล็กออกมาและไปยืนหน้านักบวชหนุ่ม เปลวไฟที่ทรงพลังปะทะและถูกดูดซับโดยดาบทรงปัญญา
“คึ...!”
“เดลฟลิงเกอร์?”
“โทษทีนะคู่หู...ดูเหมือนว่าฉัน...จะทำอะไรเกินตัวยิ่งกว่านายซะอีก”
“...อย่าบอกนะว่า...!”
“ทีแรกที่เจอกัน นายเป็นคนที่ตายไปกับสงคราม แต่ดูนายตอนนี้สิ สีหน้า...มีชีวิตชีวาซะจนฉันหมั่นไส้เลย”
“เดล—!” เปลวไฟโหมแรงจนเขาแทบจะยืนไม่ไหว
“ชั่วชีวิตนี้ได้นายเป็นคู่หู ฉันไม่เสียใจเลยจริงๆ”
รอยร้าวแล่นไปทั่วดาบเหล็ก เอ็กซ์เบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว
“แหม ถ้าเป็นดาบเรียกว่ามีชีวิตได้ล่ะก็นะ...!”
เปลวไฟหายไป เศษเหล็กปลิวว่อน ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินลอยข้ามนักบวชหนุ่มและองค์สันตะปาปาไปด้านหลัง มือสองข้างกำได้แต่เพียงอากาศตรงหน้า ร่างของเขาร่วงลงสู่เบื้องล่างหุบเขา
มังกรสีน้ำเงินดิ่งหัวลงตามไป ทว่าระยะห่างนั้นแม้มังกรแห่งบทกวีก็ไม่สามารถเอาชนะได้ ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามหายไปกับแม่น้ำที่เขี่ยวกราก ซิลฟีดหักหัวทันก่อนจะโหม่งโลก
“ไม่จริง...” หลุยส์ตัวชา อยากให้สิ่งที่เธอเป็นเป็นเพียงความฝัน แต่ความกลัวนี้ ความเย็นยะเยือกนี้ เป็นของจริง
“เอ็กซ์!!!~”
...
--
R:”จบมันดื้อๆ ยังงี้แหละ”
DX:”นี่มัน...ใกล้แล้วสินะ ตอนจบน่ะ...”
R:”อีกสามหรือสี่ตอน เป็นตอนจบที่ไม่มีใครคาดคิดแน่ เพราะมันหลุดโลกสุดๆ ไปเลย”
DX:”ยิ่งกว่าหุ่นยนต์กลายเป็นมนุษย์?”
R:”คนละระดับกันเลยละพวกเอ๋ย”
S:”ตอนจบไม่เหมือนฉันล่ะสิเนี่ย ยังงี้ก็ไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งน่ะดิ”
R:”ไม่รู้สินะ ก็ต้องคอยดูต่อไป แต่คนเขียนก็ไม่ใช่แฟนของแซดเอ็นดิ้งซะด้วย”
ความคิดเห็น