ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : เรปลิลอยด์ของยัย 0 สนิท

    ลำดับตอนที่ #72 : Chapter 71 : ราชาผู้ว่างเปล่ากับสมองของพระเจ้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 413
      9
      25 ก.ค. 59

    ห้าชั่วโมงแล้วนับแต่หลุยส์ถูกลักพาตัวไป ตะวันลับขอบฟ้าไปเหลือแต่เพียงแสงจันทร์และแสงดาว บัดนี้บนน่านฟ้าเหนือชายแดนกาเลีย-โรมาเลีย กองเรือบินของทั้งสองฝ่ายเขม่นคุมเชิงกันโดยที่ไม่มีการเคลื่อนไหว

     

    ที่ระเบียงพระราชวังขององค์สันตะปาปา เอ็กซ์ ทาบาสะ และทิฟฟาเนียยืนดูสถานการณ์บนท้องฟ้าด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

     

    หลุยส์น่าจะอยู่บนเรือลำหลังสุด กับพระราชาของกาเลียและเชฟฟิลด์ แต่จะให้เขาบินฝ่าสนามรบเข้าไปโต้งๆ นั้นตัดออกไปได้เลย

     

    ตอนนั้นเองที่เกิดระเบิดขึ้นกลางสมรภูมิกลางเวหา คำว่าระเบิด อาจไม่เพียงพอจะบรรยายความรุนแรงของแสงสีแดงที่สว่างจ้าเหนือล้ำแสงยามเที่ยงวันกับแรงลมที่ราวกับพายุลูกใหญ่พัดมา สิ่งที่เหลืออยู่หลังภาพอันน่าสะพรึงกลัวก็คือเศษไม้จำนวนมากตกลงสู่พื้นดิน ไม่ใช่แค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งแต่เป็นทั้งสองฝั่งที่รับความเสียหายอันรุนแรงเข้าไป

     

    หลุยส์...!” เอ็กซ์ใจหายวาบ เรือลำหลังสุดยังปลอดภัย แต่ใจเขาก็ยังกลัวว่าหลุยส์จะโดนระเบิดเมื่อกี้นี้เข้าไปด้วย ในที่สุดเขาก็ทนอยู่เฉยไม่ได้

     

    คุณทาบาสะ!”

     

    ...

     

    เห็นการระเบิดเมื่อกี้เข้า กองเรือบินของโรมาเลียหันหัวร้อยแปดสิบองศาถอยทัพอย่างไม่อายใคร มังกรสีน้ำเงินบินผ่านเหนือกองเรือไปในทิศทางตรงกันข้าม

     

    ...ไปที่ไหน?...

     

    กองเรือของศัตรู เรือลำหลังสุด

     

    ผู้คนในเมืองเห็นกองทัพเรือของตัวเองถอยกลับก็เห็นท่าไม่ดีพากันวิ่งหนี

     

    เอ็กซ์กับทาบาสะล่ะ!” เสียงคิลเก้ดังขึ้นจากด้านหลังของฮาล์ฟเอลฟ์สาวในชุดนักบวช เพื่อนจากโรงเรียนทริสเทนของเธออยู่กันพร้อมหน้า

     

    โคลเบลท์มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ท่ามกลางกองเรือที่กำลังตรงเข้ามา เงาดำเคลื่อนไหวอยู่บนอากาศ

     

    นั่นมัน...การ์กอยล์? ในมือของอสูรเวทย์มนต์คือลูกแก้วสีแดง

     

    ตูม!!

     

    แสงและแสงแบบเดียวกันครั้งก่อนเกิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ใกล้ซะจนรู้สึกได้ถึงตรงที่พวกเขาอยู่ ซากเรือที่ลุกไหม้ตกลงในเมือง สร้างความเสียหายเป็นแถบๆ เสียงผู้คนร้องระงมได้ยินมาถึงด้านในพระราชวัง

     

    เราต้องไปช่วยชาวเมือง!” กีซออกคำสั่งในฐานะหัวหน้ากองอัศวินอองดีน และทุกคนก็พากันตามลงไปช่วย

     

    ภายในเรือเหาะลำหนึ่งห่างออกไปยังแนวหลังสุดของกองเรือกาเลีย เด็กสาวผมสีชมพูมองภาพฝันร้ายดำเนินต่อหน้าตัวเองด้วยดวงตาที่ชื้นแฉะ

     

    แก...! ทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน?!” เธอตวัดสายตามองชายผมสีฟ้าอย่างโกรธเกรี้ยว

     

    ฉันต้องการโศกนาฎกรรม ความโหดร้ายที่สามารถจะเคลื่อนหัวใจที่เป็นน้ำแข็งของฉันนี้ เพื่อให้สามารถหลั่งน้ำตาได้อย่างเธอยังไงล่ะ ราชาโจเซฟมองหลุยส์ด้วยดวงตาสีฟ้าที่ไร้ความรู้สึกต่อชีวิตที่ดับสูญ ราวกับภายในดวงตานั้นเป็นความว่างเปล่าที่ไร้ก้น

     

    เจ้านี่...!’ หลุยส์รู้สึกกลัว ชายคนนี้ที่ห่างไกลความเป็นมนุษย์ไปแล้ว

     

    เชฟฟิลด์

     

    ค่ะ

     

    ศิลาเพลิงลูกสุดท้าย ทำให้มันจบไปซะที

     

    หญิงสาวผมสีดำส่งลูกแก้วที่เปล่งแสงสีแดงให้กับการ์กอยล์ที่อยู่หน้าประตู อสูรเวทย์มนต์กำมันไว้ในมือ ทว่าแรงกระแทกจากด้านข้างทำให้มันเลื่อนหลุดออกไป

     

    หลุยส์แอบใช้เศษกระจกซึ่งแตกจากการระเบิดครั้งแรกตัดเชือกปล่อยตัวเองเป็นอิสระ รอจังหวะที่จะชิงลูกแก้วสีแดงที่โจเซฟเรียกว่า ศิลาเพลิง มา เธอรีบคว้ามันกลางอากาศ อาศัยความสับสนวิ่งออกไปที่ดาดฟ้าเรือ และกระโดดออกไป

     

    เธอร่วงหล่นจากความสูงนับร้อยเมตร เบื้องล่างเป็นมหาสมุทร แต่ถ้ากระทบกับผิวน้ำเธอไม่รอดแน่ ชุดนักบวชที่เธอสวมอยู่ไม่มีพลังเวทย์คุ้มครองใดๆ คทาก็ไม่อยู่กับตัว ตอนนี้ที่เธอทำได้มีเพียงภาวนา

     

    เอ็กซ์...เอ็กซ์...!’

     

    ร่างหนึ่งร่อนลงมาหาเธอ ไม่ใช่เจ้าของชื่อที่เธอคะนึงหาแต่เป็นอสูรเวทย์มนต์ตัวสีดำ อุ้งมือของมันเอื้อมมาที่เธอ เพียงการตวัดแค่ครั้งเดียว ลูกแก้วสีแดงก็หลุดไปจากสองมือของเธอ

     

    ไม่นะ...

     

    ร่างของเธอยังคงร่วงหล่น ไร้ซึ่งหนทางที่จะป้องกันตัวเอง ขุมนรกสีน้ำเงินครึ้มที่ดูราวกับไร้ก้นอยู่เบื้องหลังเธอ ความสิ้นหวังเข้าโอบล้อม และในวินาทีนั้นเอง อย่างกับวางคิวเอาไว้ มือที่ยื่นออกไปอย่างหมดหนทางของเธอถูกคว้าเอาไว้

     

    หลุยส์!”

     

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามดึงตัวเธอขึ้นหลังมังกร ทันทีที่เท้าเธอเหยียบได้ หลุยส์ก็ซุกใบหน้านองน้ำตาของเธอเข้ากับแจ็คเก็ตสีดำพร้อมกับร้องเรียกชื่อของผู้ที่กอดเธอเอาไว้หลวมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    ทาบาสะเหลือบมองสองคนด้านหลังด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกเหมือนทุกครั้ง แต่ดวงตาของเธอฉายแววเจ็บปวดแม้จะเล็กน้อยจนยากจะสังเกตเห็น

     

    มังกรสีน้ำเงินบินวกกลับขึ้นฟ้า ตรงไปยังเรือที่เป็นเป้าหมายเดิม

     

    ได้ศิลาเพลิงคืนมาแล้วค่ะ เชฟฟิลด์หันไปมองทางที่การ์กอยล์บินไป เมืองบนฝั่ง

     

    แต่ว่าต้องทิ้งชีวิตของผู้ใช้เวทย์ว่างเปล่าไป

     

    มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ โจเซฟยิ้มที่มุมปาก พอดีกับที่มังกรสีน้ำเงินบินผ่านหน้าต่างห้องบังคับการไป เขาไม่ตกใจแม้แต่น้อย

     

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามกระโดดลงที่ดาดฟ้าเรือ เผชิญหน้ากับอสูรรับใช้แห่งความว่างเปล่าของราชาแห่งกาเลีย

     

    มังกรสีน้ำเงินบินกลับไปทางแผ่นดิน หลุยส์มองเรือเหาะที่ไกลออกไปเรื่อยๆ

     

    เอ็กซ์...นายต้องปลอดภัยกลับมานะ

     

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามจ้องมองคู่ต่อสู้ตรงหน้าด้วยดวงตาที่ไม่หวั่นไหว

     

    อุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่เลยนะ ยินดีที่ได้พบคนที่เป็นอสูรรับใช้ในตำนานด้วยกัน กันดาล์ฟ หัตถ์ซ้ายแห่งพระเจ้า เชฟฟิลด์เอ่ยเสียงสูงอย่างปราศจากความกลัว ขณะที่เอ็กซ์ปิดปากนิ่ง

     

    ฉันคือเมียวซ์นิทนีล สมองของพระเจ้า พลังของฉัน... หญิงสาวโปรยเมล็ดบางอย่างลงกับพื้นดาดฟ้าเรือ อักขระที่หน้าผากของเธอส่องแสง ฝูงการ์กอยล์ปรากฏตัวขึ้น ทั้งหมดมีตัวอักษรตัวเดียวกันส่องแสงอยู่กลางอก

     

    อย่าหวังจะได้แตะต้องตัวท่านโจเซฟเลย!” เชฟฟิลด์สะบัดมือไปข้างหน้า และฝูงการ์กอยล์ก็ง้างเล็บเข้าจู่โจมเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินคราม

     

    ขณะเดียวกัน ท้องฟ้าเหนือเมืองอควีเลีย มังกรสีน้ำเงินกำลังไล่ตามการ์กอยล์ซึ่งถือลูกแก้วสีแดงเอาไว้ในมือ ถ้าคิดมากๆ หน่อยก็อาจจะนึกไปถึงแoรี่ oอตเตoร์ไล่ตามจับลูกโoลเด้oสนิo

     

    ...แอร์คัตเตอร์...!” ต่างกันที่มีเด็กสาวคนหนึ่งพยายามขยี้อสูรเวทย์มนต์ที่กำลังไล่จับอย่างสุดความสามารถ

     

    การ์กอยล์โชว์ทักษะที่ยิ่งกว่านักบินผาดโผนมืออาชีพด้วยการหลบใบมีดวายุสามเล่มอย่างง่ายดายโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองและโดยไม่เสียความเร็วเลย

     

    ...เร็ว...

     

    ตัดกลับไปที่บนเรือเหาะ การ์กอยล์ถูกดาบเหล็กฟันขาดเป็นสองท่อน สลายไปกับแสงและควัน

     

    เมล็ดปริศนาถูกโปรยลงมาอีก ฝูงโกเลมจำนวนไม่ต่างจากเดินปรากฏตัวขึ้นและเข้าโจมตีเด็กหนุ่มอย่างไร้ความปราณี

     

    คู่หู! แบบนี้ไม่จบแน่!” ดาบเหล็กพูดกับเจ้าของที่กำลังฟาดฟันกับฝูงอสูรเวทย์มนต์

     

    พลังของเมียวซ์นิทนีลคือการถ่ายพลังเวทย์มนต์ให้กับสิ่งของต่างๆ ได้เหมือนกับที่จอมเวทย์ทำ ต้องจัดการผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น!”

     

    เอ็กซ์เองก็คิด แต่เขาจะบุกเข้าไปตรงๆ แล้วหวังว่าจะไปถึงตัวของอีกฝ่ายได้โดยไม่บาดเจ็บหนักหรือตายไปท่ามกลางฝูงการ์กอยล์ซะก่อนนั้น โอกาสริบหรี่มาก

     

    ...ถ้าไม่เอาตัวเข้าไป ก็ต้อง... เขาเหลือบมองห่อผ้าที่ผูกอยู่ข้างเอวซ้ายใกล้กับฝักดาบ เป็นของที่จูลิโอให้ไว้กับเขาก่อนที่จะขึ้นหลังซิลฟีดออกมา

     

    ...ไม่มีทางเลือกแล้ว มันเป็นของอันตราย แต่... เขาเชื่อ...ในเป้าหมายของตัวเอง...และในเจ้าของเดิมของสิ่งสิ่งนี้

     

    ผ้าสีขาวถูกโยนไปในอากาศ เสียงสั้นๆ ดังขึ้นหนึ่งครั้ง จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง เว้นแต่เสียงของหญิงสาวผมสีดำล้มลงกับพื้น มือกุมต้นขาซ้ายที่เป็นแผลฉกรรจ์ เลือดสีแดงไหลออกมา

     

    นั่นมัน...!?”

     

    วัตถุปริศนาอยู่ในมือซ้ายที่ยื่นออกมาของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินคราม เป็นโลหะหนึ่งชิ้นที่หักงอคล้ายบูมเมอแรง ผิวมันเป็นสีน้ำเงินคล้ำ ส่วนหน้าเป็นสีขาว และตรงด้ามจับเป็นสีน้ำตาล

     

     
     

    ที่จริงแค่กระบอกเดียวก็พอ แต่ได้มาทั้งสองอันก็เหมือนเป็นโบนัส...แอ็กเซล... เขานึกถึงสหายเก่า เจ้าของปืนคู่สองกระบอกนี้ เป็นอาวุธที่ใช้ได้แม้กระทั่งพลเรือน ทว่าต้องอาศัยเวลาในการฟื้นพลังงาน โชคดีที่มันฟื้นได้เองแค่ต้องปล่อยไว้เฉยๆ แต่เมื่อต้องยิงก็ยิงออกมาเป็นลำแสงสีแดงได้โดยไม่ต้องเสียเวลาบรรจุะกระสุน

     

    สมองของพระเจ้านั่งกุมขาอยู่กับพื้น ความเจ็บปวดทำให้เธอเสียเสียสมาธิ การ์กอยล์ทั้งหมดจึงหยุดนิ่ง

     

    ขอโทษด้วย แต่ผมไม่มีเวลาให้เสียทิ้งไปเฉยๆ หลุยส์บอกเขาว่าโจเซฟใช้กระจกที่ขโมยไปทำอะไรบางอย่างซึ่งทำให้ได้เวทย์มนต์จากหลุยส์ไป เอ็กซ์โพลชั่น บวกกับลูกแก้วสีแดงทำให้เกิดหายนะเหมือนอย่างสองครั้งก่อน และเขาจะปล่อยให้หลุยส์กับทาบาสะพยายามอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ เขาก็ต้องพยายามหยุดทางคนร่ายด้วยเช่นกัน

     

    กลับไปทางน่านฟ้าเหนือเมืองอควีเลีย การเล่นไล่จับยังดำเนินต่อไป เพราะโจเซฟยังสนุกอยู่กับกันดาล์ฟ ทำให้การระเบิดถูกเลื่อนออกไป

     

    แบบนี้ตามไม่ทันแน่ ทำยังไงดีทาบาสะ?!”

     

    ที่ระเบียงพระราชวัง นักบวชอีกหนึ่งคนยืนอยู่ ทิฟฟาเนียยกคทาในมือเธอขึ้นพร้อมกับพึมพำคาถาเพียงบทเดียวที่เธอใช้ได้ เวทย์ หลงลืม

     

    สายลมเข้าล้อมการ์กอยล์ที่บินอยู่ในอากาศ ผลของเวทย์หลงลืมแสดงเมื่อมันหยุดนิ่ง ลืมคำสั่งที่ได้รับไปสนิท มังกรที่บินตามหลังมาชนมันเข้าอย่างจัง ลูกแก้วสีแดงลอยขึ้นกลางอากาศ และถูกเด็กสาวสวมแว่นคว้าไว้ได้ ขณะที่ร่างของมันตกลงสู่พื้นดินโดยไม่มีคิดแม้แต่จะขยับตัว

     

    ...ฉันจะไปกลับไปที่เรือ...

     

    ฉันก็จะไปด้วย!”


    มังกรสีน้ำเงินบินกลับไปทางที่มา


    บนเรือเหาะ เอ็กซ์ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องบังคับการ ปืนในมือเล็งไปที่ราชาของกาเลียซึ่งยืนอยู่นิ่งราวกับไม่กลัวที่ของอันตรายถูกเล็งมาใส่ตัวเองเลย


    “ทุกอย่างจบลงที่นี่ล่ะ ยอมแพ้แล้วมากับผมซะแต่โดยดี เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก” เอ็กซ์เปิดเผยชัดว่าไม่คิดจะฆ่าอีกฝ่าย เขาพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า


    “กันดาล์ฟ ดวงตาของแกมันอะไรกัน ดวงตาอันลึกล้ำที่มนุษย์ไม่อาจหยั่งถึง มีทั้งความว่างเปล่าและความมุ่งมั่น ฉันเองก็อยากจะรู้จักแกให้มากกว่านี้ แต่ว่า...” โจเซฟยกคทาในมือขึ้น และพึมพำร่ายคาถา


    เอ็กซ์ตัดสินใจลั่นไกลอย่างไม่ลังเล แม้ไม่คิดจะฆ่า แต่ยิงขาซักนัดสองนัดก็คงไม่ตาย


    ควันลอยขึ้นจากพื้นไม้ที่เป็นรู ลำแสงสีแดงที่มีความร้อนสูงเจาะมันอย่างง่ายดาย แต่ว่าร่างของราชาแห่งกาเลียไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว


    “ไอ้นั่นน่ะทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”


    เอ็กซ์หันไปทางด้านซ้ายของเขา โจเซฟยืนพิงข้างประตู ห่างจากเขาไม่ถึงเมตร


    ‘อะไรกัน ความเร็วนี้...’ เขาตวัดดาบเข้าใส่อีกฝ่ายซึ่งอยู่ในระยะ ร่างของโจเซฟหายไป คราวนี้ปรากฏตัวขึ้นที่กลางห้องเหมือนแต่แรก


    “เวทมนตร์แห่งความว่างเปล่าของฉันเป็นเวทมนตร์ง่ายๆ แต่ก็ทำให้ฉันสงสัย ว่าพระเจ้ามอบมนตร์บทนี้ให้กับฉันเพื่ออะไรกัน”


    “เวทเร่งความเร็วงั้นเหรอ...ไม่ใช่ร่างกาย แม้แต่ประสาทสัมผัสเองก็ด้วยสินะ” เอ็กซ์สรุปได้ในเวลาอันสั้น แม้แต่ความเร็วที่เขาได้จากรูนของกันดาล์ฟ เขาก็มองเห็นการเคลื่อนไหวเพียงแค่ลางๆ


    “เอาล่ะ ฉันมีมนตร์ที่ต้องร่าย มนตร์ที่ได้มาจากผู้ใช้เวทว่างเปล่าของทริสเทนยังไงล่ะ คงจะเสียเวลาเล่นกับแกไปมากกว่านี้ไม่ได้” โจเซฟเปลี่ยนท่าที มองตรงมาที่เขา เอ็กซ์รู้สึกเย็นสันหลัง


    ‘มาแล้ว!’ สัญชาตญาณเขาบอกให้หันหลัง ทว่าถ้าเคลื่อนไหวได้ไม่เร็วพอก็ไร้ความหมาย ปืนที่อยู่ในมือของเขาถูกแย่งไป และจ่ออยู่ตรงหน้าผากของเขาแทน


    “ฉันปล่อยให้แกโจมตีก็เพราะอยากรู้วิธีใช้สิ่งนี้เท่านั้น ดูเหมือนว่าแกจะยังมีอีกอันสินะ” โจเซฟเหลือบมองปืนสั้นอีกกระบอกที่เอวขวาของอีกฝ่าย


    “แต่กว่าจะหยิบมันขึ้นมา เจ้านี่คงจบชีวิตแกไปแล้ว”


    เอ็กซ์ได้แต่กัดฟัน ความเร็วที่ต่างกันจนเทียบไม่ติด เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว


    “ลาก่อน กันดาล์ฟ...”


    ตูม!


    ห้องบังคับการเกิดระเบิด ทั้งสองปลิวกันไปคนละทาง หลังโจเซฟชนเข้ากับกำแพง ปืนหลุดจากมือ แต่เขายังยืนได้อยู่


    มังกรสีน้ำเงินอยู่ด้านนอก หลุยส์เพิ่งจะร่ายคาถาจบไป คราวนี้เป็นตาของทาบาสะยิงพายุแท่งน้ำแข็งเข้ามา


    โจเซฟยกแขนขึ้นกำบังตัว แต่ที่ขาสองข้างก็บาดเจ็บเป็นแผลใหญ่ ราชาแห่งกาเลียล้มลง ไม่เหลือแรงที่จะลุกขึ้นยืน


    “เอ็กซ์!” เด็กสาวผมสีชมพูวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามที่นอนอยู่กับพื้น โชคดีที่เขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย(จากระเบิดฝีมือเธอเอง)


    “สุดท้าย คนเดียวที่ทำอะไรผมได้ก็มีแต่หลุยส์เท่านั้นนะครับ ผมไม่น่าตีโพยตีพายไปแต่แรก หลุยส์ออกจะเข้มแข็งตั้งขนาดนี้” เขายังมีอารมณ์ยิ้มได้ก็ถือว่าสบายดี


    “ไม่หรอก ฉันเองก็ผิดที่ไม่คิดจะเข้าใจความรู้สึกของนาย”


    ขณะที่ทั้งสองปรับความเข้าใจกัน เด็กสาวสวมแว่นก็เดินเข้าไปหาราชากาเลีย ชายผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเธอเอง


    “ชาร์ล็อต...” เสียงที่อ่อนแรงเรียกชื่อจริงของเธอ “รับสืบทอดพลังเวทมนตร์มาจากพ่อของเจ้าล่ะสินะ...”


    “...แกฆ่าท่านพ่อและทำลายหัวใจของท่านแม่...ฉันไม่ยกโทษให้เด็ดขาด...!” แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ความโกรธของแสดงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ


    “...ก็คงจะเป็นอย่างนั้น...ตามสบายเลย...” โจเซฟหลับตาลง


    แสงสีฟ้าสว่างขึ้นที่หัวไม้เท้าในมือของทาบาสะ


    “ทาบาสะ อย่านะ!” หลุยส์ร้องห้ามตามสัญชาตญาณ “เอ็กซ์! ช่วยห้ามทาบาสะด้วยสิ!”


    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามสบตากับเด็กสาวที่ยืนอยู่ เขามองเห็นความลังเลอยู่ในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น ความลังเลที่เกิดจากความแค้นและมโนธรรมต่อสู้กันอยู่ภายใน


    “คุณทาบาสะครับ ถ้าคุณยกโทษให้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ ล่ะก็...” เอ็กซ์ลุกขึ้นยืน มือขวาหยิบปืนกระบอกที่สองขึ้นเล็งไปที่ราชาของกาเลีย


    “ให้ผมเป็นคนทำแทนเถอะครับ”


    สายตาสามคู่มองเขาอย่างตกใจ แววตาที่เขาใช้มองชายผมสีฟ้าที่หมดสภาพอยู่บนพื้นนั้นนิ่งสงบอย่างประหลาด


    “...แต่ว่า...ฉันให้อภัย...เจ้านี่ไม่ได้...!” แสงที่ไม้เท้าสว่างยิ่งขึ้น ราวกับมีดวงอาทิตย์อยู่ในห้อง แต่แล้วมันก็ดับวูบลง ทาบาสะปล่อยไม้เท้าลงข้างตัว


    “...ส่งตัวเจ้านี่ให้โรมาเลีย...” เธอตัดสินใจโดยที่ยังก้มหน้าอยู่ เอ็กซ์เห็นดังนั้นก็เก็บปืนลง หลุยส์ยิ้มด้วยความโล่งใจ


    “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็รีบพาเขานี่ไปรักษาก่อนเถอะครับ” เอ็กซ์ก้มลงเก็บปืนอีกกระบอกที่ตกอยู่ไม่ไกล จากนั้นจึงเข้าไปพยุงราชาของกาเลีย


    ร่างของเขาถูกผลักกระเด็นออกมา ไม่ใช่แรงของราชาที่ใกล้ตาย แต่เป็นหญิงสาวผมดำ สมองของพระเจ้า


    “ฉันไม่ให้ท่านโจเซฟกับใครทั้งนั้น!” เธอยกลูกแก้วสีแดงที่แย่งไปจากทาบาสะขึ้น “ถ้าอยู่แค่ในมือล่ะก็ พลังของฉันคนเดียวก็ทำให้มันระเบิดได้!”


    ทั้งสามถอยกลับหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณ แต่เสียงของเชฟฟิลด์กับแผ่วลง


    “ชีวิตของท่านโจเซฟเหลืออีกไม่มาก ขอให้พวกเราได้อยู่ตามลำพังเถอะ...” หญิงสาวหลับตาลง ทั้งสามเข้าใจความหมายได้ตื้นลึกต่างกันไป


    เอ็กซ์เป็นคนหลังสุดที่เดินออกจากห้อง แต่ก่อนจะไปเขาหยุดอยู่ที่หน้าประตูและหันหลังกลับไปถามผู้ใช้เวทแห่งความว่างเปล่าที่กำลังจะตายกับอสูรรับใช้


    “ผมมีคำถามอยากจะถามเพียงข้อเดียว...” เขาไม่อยากรบกวนเวลาของทั้งคู่ไปมากกว่านี้ แต่นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก


    “คนที่มอบกองทัพจากต่างโลกให้กับพวกคุณ คนที่สร้างร่างที่อยู่ในชุดเกราะของจอร์มุนกันด์ เขาเป็นใคร และตอนนี้อยู่ที่ไหน?”


    โจเซฟยิ้มที่มุมปาก


    “อ้อ ‘ศาสตราจารย์’ น่ะตอนนี้คงยังอยู่ที่กาเลีย แต่ถ้าข่าวการตายของฉันไปถึง...ก็คงจะกลับไปที่ห้องทดลองลับของตัวเองนั่นล่ะ ‘ลับ’ หมายความว่าไม่มีใครรู้ที่อยู่ของมัน แม้แต่ฉัน...”


    เอ็กซ์พยักหน้า จากนั้นจึงก้าวออกไปขึ้นหลังมังกร


    ...


    บนท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิด มังกรสีน้ำเงินบินหันหลังให้กับสีแดงและแรงระเบิด


    ...


    เช้าวันต่อมา


    “นำกลับมาแล้วเพคะ” หลุยส์คุกเข่าอยู่บนพรมแดง สองมือยกถวายกระจกกลมของศาสดาแก่องค์สันตะปาปา


    วิตโตริโอเอ่ยขอบคุณกับทั้งสามคนที่ปฏิบัติภารกิจสำคัญได้สำเร็จ แต่เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามจ้องมองนักบวชหนุ่มผมทองด้วยใบหน้าเคร่งขรึม


    “คุณจูลิโอ...สิ่งที่คุณให้ผมมาช่วยให้ผมชนะราชาโจเซฟได้...ตามแผนที่คุณวางเอาไว้”


    คนที่อยู่ในห้องมองเขาอย่างตกใจ แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับนิ่งเงียบ เอ็กซ์จึงหันไปทางชายผมทองบนบัลลังก์แทน


    “เขาเป็นอสูรรับใช้ของคุณนี่ คุณวิตโตริโอ...” เอ็กซ์ไม่เรียกชื่อตำแหน่งเหมือนที่เขาเคยแสดงความเคารพกับอันเรียตต้าในทีแรก ใบหน้าของเขาบอกว่าเขาไม่ชอบใจเลยซักนิด


    หลุยส์ดุเขาที่เสียมารยาทกับองค์สันตะปาปา แต่เขายกมือให้เธอหยุดพูด


    “ป่าวประกาศออกไปว่าผู้ใช้เวทแห่งความว่างเปล่าได้เป็นนักบวชของคุณ จงใจให้ราชาแห่งกาเลียรู้ เพื่อที่ให้เขาเคลื่อนไหว แล้วก็จะได้ใช้เป็นข้ออ้างกำจัดเขาอย่างชอบธรรม เป็นอย่างนั้นใช่รึเปล่า?” เอ็กซ์ไม่สนใจแม้แต่จะลงหางเสียง


    วิตโตริโอหลับตาลง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลสมกับตำแหน่งองค์สันตะปาปา


    “เป็นความจริง แต่เราหวังว่าพวกท่านจะอภัยให้เรา เราไม่เคยหวังให้มิสวาลิเอลต้องตกอยู่ในอันตราย ไม่เคยหวังให้ผู้คนต้องเดือดร้อนล้มตายถึงเพียงนี้ เราขอโทษจากใจจริง”


    เอ็กซ์จ้องมองชายบนบัลลังก์ด้วยดวงตาที่หรี่ลง หากมองผิวเผินอาจคิดว่าเขาไม่เชื่อในคำกล่าวของอีกฝ่าย ทว่าหากผ่านโลกมามากเช่นเดียวกับเขา จะมองเห็นความสงสารอยู่ในแววตานั้น


    ...


    เด็กสาวผมสีชมพูเดินผ่านทางเดินหลักในพระราชวัง สีหน้าของเธอดูเคร่งขรึม เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ หรือบางทีอาจจะรวมถึงเหตุการณ์ตั้งแต่บนเรือ


    “...นี่ เอ็กซ์...” เธอเรียกอสูรรับใช้ที่เดินอยู่ด้านหลัง เขานิ่งฟังคำถามของเธอ


    “ตอนที่อยู่บนเรือน่ะ นายคิดจะฆ่าโจเซฟจริงๆ เหรอ?”


    “...ถ้าคุณทาบาสะไม่ไว้ชีวิตของเขา ผมก็จะชิงลงมือก่อน ถ้าคุณทาบาสะฆ่าเขา และล้างแค้นได้สำเร็จจริง มันจะกลายเป็นตราแห่งฝันร้ายไปชั่วชีวิต ผมเองก็อยากจะให้จบอย่างมีความสุขโดยที่ไม่มีใครต้องตาย แต่ว่า...ชายคนนั้น โจเซฟ ผมช่วยเขาจากก้นบึ้งของความว่างเปล่านั้นไม่ได้...” เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามเอ่ยด้วยใบหน้าที่หดหู่


    ทั้งสองไม่พูดอะไรอีก เดินอยู่ท่ามกลางความเงียบ จนกระทั่งเมื่อออกมาด้านนอก จึงได้พบกับภาพที่ไม่คาดฝัน


    เสียงร้องดังสนั่น แห่งความชื่นชมยินดี ของฝูงชนนับร้อยที่รอดชีวิตจากการโจมตีของกาเลียในคืนอันหวาดผวา


    “นักบวชแห่งอควีเลีย!” “วีรบุรุษ!”


    ผู้หญิงสามคนเข้ามาจับหลุยส์ยกขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนด้านเอ็กซ์นั้นเป็นเพื่อนร่วมกองอัศวิน


    “ทุกคนอยากจะสรรเสริญนักบวชแห่งอควีเลียแล้วก็วีรบุรุษน่ะ” กีซยิ้มอย่างภูมิใจให้กับรองหัวหน้าฯของเขา


    เอ็กซ์มองผู้คนที่มารวมตัวกันจากมุมสูง ได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของทั้งชายและหญิงไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่แล้วยิ้มออกมา

     

    จะเป็นแผนการของใครหรืออะไรก็ตาม ถ้าได้เห็นใบหน้ามีความสุขของผู้คนอีกครั้ง...ก็เพียงพอแล้ว เขาหลับตาลง รำลึกภาพแห่งสันติสุขของเนโออาร์คาเดีย

     

    ความสงบสุขเนี่ย...ดีจริงๆ เลยนะ...

     

    --

     

    R:”ช้าแฮะ สงสัยเพราะติดใจโปรเจครีไรท์เลยแทบไม่ได้เขียนตอนนี้ แต่ก็ทุ่มกำลังเขียนยาว สองวันเสร็จตอนนี้

     

    DX:”อาจจะดูรีบไปในบางจุด ขอโทษแทนคนเขียนด้วยละกันนะครับ

     

    S:”อะนะ แล้วก็—“

     

    R:”พอแล้ว ขี้เกียจพิมพ์

     

    S:”อ้าวเฮ้ย!?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×