ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : เรปลิลอยด์ของยัย 0 สนิท

    ลำดับตอนที่ #68 : Chapter 67 : กลับบ้านของเรา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 527
      10
      25 ก.ค. 59

    ภายใต้ท้องฟ้าอันปลอดโปร่งในยามเช้า ที่หน้าคฤหาสน์ลา วาลิเอล ดยุคและดัชเชสแห่งคฤหาสน์กับลูกสาวคนโตและคนรองยืนส่งลูกสาวคนสุดท้องขึ้นรถม้าที่จะไปยังโรงเรียนเวทย์มนต์

     

    ดยุคลา วาลิเอลเดินเข้าไปหาลูกสาวคนสุดท้อง สองมือประคองใบหน้าที่เติบโตขึ้นนับแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้สัมผัสเช่นนี้

     

    หลุยส์ของพ่อ ลูกโตขึ้นแล้ว พ่อคิดไปเองว่าลูกจะเป็นหลุยส์ตัวน้อยของพ่อตลอดไป แต่ลูกมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว

     

    ท่านพ่อคะ...

     

    ถ้าลูกมีปัญหาอะไร จงอย่าลืมว่าที่นี่คือบ้านของลูกเสมอ

     

    ท่านดยุคค่อยๆ ปล่อยมือจากลูกสาวราวกับไม่อยากจะลาจาก

     

    ยัยเปี๊ยกหลุยส์ ไม่มีพี่อยู่ด้วยแล้วก็ทำตัวดีๆ อย่าให้มีปัญหาล่ะ เอเลโอนอลซึ่งได้รับคำเชิญให้ไปสอนวิชาเวทย์มนต์ในช่วงสงคราม เมื่อทริสเทนกลับคืนสู่ความสงบสุข เธอก็กลับไปที่ทำงานที่สถาบันเวทย์มนต์โอริซอีกครั้ง

     

    (*ขออภัยอย่างรุนแรงที่สุดในโลก ครั้งกระนู้นคนเขียนฟาย ไม่ศึกษาให้ดีทำให้แปลผิดเป็น โรงเรียนเวทย์มนต์โอริซ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย เป็นสถาบันตะหาก)

     

    คาเทอเลียยกมือขึ้นป้องปากซุบซิบกับหลุยส์ที่ข้างหู

     

    เรื่องคุณเอ็กซ์ พยายามเข้านะจ๊ะ

     

    หลุยส์หน้าร้อนฉ่า จะบอกปฏิเสธก็ไม่ทันเพราะพี่สาวของเธอถอยออกไปแล้ว ถ้าจะพูดให้ได้ยินก็คงได้ยินกันทุกคน

     

    ในช่วงที่ไม่มีใครมอง ท่านดยุคก็เข้าไปหาเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามผ้าพันคอฟ้า ยกมือขวาขึ้นวางบนไหล่ของเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่า

     

    ถ้าฉันรู้ว่าแกคิดไม่ดีกับลูกสาวของฉันล่ะก็ แกจะต้องเสียใจที่เกิดมา ท่านดยุคพูดเสียงต่ำ มือขวาบีบไหล่ของเด็กหนุ่มด้วยแรงที่ไม่น่าจะมีในคนอายุเท่านี้ แฟนธอมยืนมองอยู่ข้างหลังโดยไม่ทำอะไรเพราะไม่ถือว่าเป็นความประสงค์ร้ายต่อมาสเตอร์เอ็กซ์

     

    เอ็กซ์รู้สึกเจ็บแต่ก็ยิ้มแป้นรับคำไปโดยไม่แสดงสีหน้า ร่างกายมนุษย์ที่เปราะบางกว่าร่างเดิมของเขามากนี้เขายังไม่ชินซักเท่าไร

     

    หลังจากสามคนก้าวขึ้นแล้ว รถม้าก็วิ่งออกไป

     

    ท่านดยุคมองรถม้าที่ข้ามสะพานไปด้วยพลางครุ่นคิดถึงเรื่องที่คุยกันช่วงบ่ายเมื่อวาน

     

    ว่างเปล่า...เรื่องยังกับนิทานแบบนั้นทำใจให้เชื่อได้ยากจริงๆ ท่านดยุคพึมพำ ดัชเชสได้ยินจึงพูดตอบ

     

    แต่ก็คงจะเป็นความจริง เพราะเวทย์มนต์ของฉันถูกสลายด้วยเวทย์มนต์แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

     

    หลุยส์บอกว่านอกจากองค์ราชินีและคนใกล้ตัวแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ถ้าพวกขุนนางที่กระหายในอำนาจรู้เข้าล่ะก็ พลังของหลุยส์อาจจะถูกนำไปใช้ในสงคราม เมื่อถึงตอนนั้นแม้แต่องค์ราชินีเองก็อาจจะหยุดกระแสแห่งความโลภของคนหมู่มากไว้ไม่ได้

     

    ดัชเชสยืนดูรถม้าลับสายตาไป และกล่าวอย่างเยือกย็น

     

    หลุยส์โตพอจะตัดสินใจเองได้แล้ว เราที่เป็นครอบครัวก็ต้องคอยเฝ้าดูจากข้างหลัง

     

    ไม่มีใครพูดอะไรอีก ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน ความเงียบดำเนินต่อไปพักหนึ่ง ก่อนที่ลูกสาวคนโตจะเปิดปากขึ้น

     

    แต่ว่าตอนนี้มีปัญหาที่ใกล้ตัวมากๆ อยู่นะคะ

     

    อสูรรับใช้นั่นล่ะสินะ ดัชเชสเข้าใจตรงกัน

     

    อืม ไม่ต้องสงสัยเลย ดยุคเสริม

     

    ถ้าหลุยส์ต้องแปดเปื้อนเพราะเจ้านั่นล่ะก็... เอเลโอนอลดึงแส้หนามออกมาจากอากาศธาตุ ริมฝีปากเผยอขึ้นเหมือนปีศาจ ...หนูจะ จัดการ ให้เรียบร้อย

     

    ไม่ได้ ต้องให้พ่อเป็นคน เก็บ เจ้านั่นสิถึงจะถูก ดวงตาของท่านดยุคส่องแสงวาบ

     

    ควรจะให้แม่เป็นคน อบรม มากกว่านะ ดัชเชสตีหน้านิ่งแผ่ไอสังหาร

     

    คาเทอเลียยิ้มเจื่อนๆ ได้แต่อวยพรให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามรอดไปได้อย่างปลอดภัย

     

    บนรถม้า

     

    ไม่รู้?? หลุยส์เลิกเอ่ยเสียงสูงอย่างไม่เชื่อ เธอยังไม่ไว้ใจเจ้าโลหะพูดได้ที่เพิ่งจะเล็งของอันตรายมาทางเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน

     

    ขอโทษทีนะที่ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย เฉพาะเรื่องของ เจ้านั่น เรื่องเดียว โมเดลเอ็กซ์พูด น้ำเสียงรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ตัวเองจำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับ เจ้านั่น หรือก็คือ ท่านผู้นั้น (เปลี่ยนคำเรียกแล้ว)

     

    เอ็กซ์ยกมือขึ้นแตะปลายคาง สายตามองลงต่ำขณะที่ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เป็นไปได้

     

    บางที...คนคนนั้นอาจจะลบข้อมูลส่วนนั้นออกไปตอนที่เชื่อมเจ้าเข้ากับจอร์มุนกันด์ เป็นการป้องกันข้อมูลรั่วไหลเผื่อว่าเจ้าจะพูดอะไรออกมาระหว่างการต่อสู้

     

    ก็อาจจะอย่างนั้น โมเดลเอ็กซ์เห็นด้วยเนื่องจากหาคำอธิบายที่ดีกว่านี้ไม่ได้ แฟ็บนีลกับเลเวียธานก็แค่ทำตามฉัน ไม่รู้เรื่องเจ้านั่นเลยแม้แต่น้อย

     

    ทั้งสามตกอยู่ในความเงียบ กังวลกับศัตรูที่มองไม่เห็น

     

    ยังไงก็...กลับไปที่พระราชวังและรายงานให้คุณอันเรียตต้าทราบเรื่องหลุยส์ก่อนก็แล้วกันนะครับ เอ็กซ์เสนอให้ทำสิ่งที่เป็นปัจจุบันซะก่อน ซึ่งทั้งหมดก็ตกลงตามนั้น

     

    ตกเย็น ปราสาททริสทาเนีย

     

    อันเรียตต้านั่งตรวจเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่ว่างเปล่า การเงินในอาณาจักรเริ่มคงที่ อีกซักพักเธออาจได้เฟอร์นิเจอร์มาแทนตัวที่ขายไปก่อนหน้า

     

    ประตูเปิดผางออก หัวหน้าหน่วยปืนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

     

    องค์ราชินีเพคะ!” อาเนียสเข้าไปเอามือค้ำโต๊ะ(เธอคงตบมันเสียงดังไปแล้วถ้าไม่ติดว่าไหล่ซ้ายยังพันแผลอยู่) ทำเอาอันเรียตต้าตกใจโน้มตัวถอยไปข้างหลัง

     

    เอ็กซ์หายตัวไปเพคะ!”

     

    คุณเอ็กซ์? อันเรียตต้าเลิกคิ้วขึ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?

     

    เมื่อเช้าหม่อมฉันไปที่ห้องก็ไม่อยู่แล้ว!”

     

    เมื่อเช้า? อันเรียตต้าชำเลืองมองนาฬิกา อาเนียสมองตาม มันบอกเวลาหกโมงในตอนเย็น

     

    ... (พูดไม่ออก)

     

    อาเนียสถอยหลังกลับไปและก้มหน้าพูดอย่างอายๆ

     

    ขอ...ขออภัยเพคะ หม่อมฉันเผลอหลับไป เห็นบนเตียงไม่มีใครก็เลย... เพิ่งจะตื่น...เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนนี่เองเพคะ

     

    อันเรียตต้าทำเป็นไม่ได้ยินและถามต่อ ไม่ใช่ว่าคุณเอ็กซ์ตื่นและออกไปเดินเล่นหรอกเหรอ?

     

    หม่อมฉันได้สอบถามคนงานในส่วนนั้นแล้ว ตั้งแต่เช้ามีเพียงคนเดียวที่เข้าหรือออกห้องนั้น

     

    คนคนนั้นก็คือ?

     

    ...หม่อมฉันเองเพคะ...

     

    ... (บอกไม่ถูก)

     

    หม่อมฉันไม่ได้พาเอ็กซ์ออกไปจากห้องนั้นเลยนะเพคะ!” อาเนียสรีบแก้ตัวซึ่งอันเรียตต้าก็พึมพำ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย

     

    อาจเป็นไปได้ว่า เอ็กซ์... ประตูห้องเปิดออก อันเรียตต้าชะโงกหน้ามองคนสามคนที่เดินเข้ามา ...ถูกลักพาตัวเพคะ!”

     

    ผมถูกอะไรนะครับ?

     

    “#%$@&!?!?!” อาเนียสเกือบจะกรี๊ดออกมาแต่ห้ามตัวเองเอาไว้ทัน จู่ๆ ก็มีเสียงพูดขึ้นด้านหลังเธอ เธอหันกลับไป

     

    นาย...!?” อาเนียสช็อกจนพูดไม่ออก เอ็กซ์หันไปทักทายเด็กสาวผมม่วงแดงหลังโต๊ะทำงาน

     

    คุณอันเรียตต้า ขออภัยที่ออกไปโดยไม่บอกกล่าวนะครับ

     

    ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันก็เพิ่งจะทราบเมื่อครู่นี้เอง อาเนียสซะอีกท่าทางเป็นห่วงน่าดูเลยล่ะค่ะ อันเรียตต้าพูดยิ้มๆ ทุกสายตามองไปที่อัศวินหญิงซึ่งผงะตัวเกร็ง แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ

     

    ว่าแต่...หลุยส์ องค์ราชินีหันไปทางเพื่อนรักด้วยสีหน้าเป็นกังวล เป็นยังไงบ้างจ๊ะ?

     

    ...

     

    ยั้งงั้นเหรอ...ดีใจด้วยนะจ๊ะ อันเรียตต้ายินดีกับเพื่อนที่ไม่ถูกลงโทษเพราะไปช่วยเธอที่กาเลีย หลังจากนี้ต้องหาโอกาสมอบรางวัลอันสมควรให้ แต่ต้องหาทางหุบปากพวกขุนนางหัวดื้อซะก่อน ขณะเดียวกัน ปัจจุบันนี้ก็มีเรื่องน่าตกใจให้เป็นที่ฉงน

     

    นาย...เป็นมนุษย์...? อาเนียสไม่อยากจะเชื่อ เธอไม่เคยได้ยินเรื่องเครื่องจักรกลายเป็นมนุษย์มาก่อน...จริงๆ เธอก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเครื่องจักรที่พูดได้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นก็เลยพอจะปล่อยให้มันผ่านๆ ไปได้ด้วยข้ออ้าง ก็นะ...เดิมทีก็เหลือเชื่ออยู่แล้ว ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก

     

    ครับ แต่ถ้าผมดวลดาบกับคุณอาเนียสล่ะก็ คิดว่าคงชนะเหมือนเดิมครับ เอ็กซ์จงใจพูดความจริง

     

    ว...ว่าไงนะ!?”

     

    ในช่วงที่ผ่านมา ทุกครั้งที่รูนของกันดาล์ฟทำงาน ข้อมูลการต่อสู้ด้วยดาบที่ได้มาจะถูกบันทึกลงในฐานข้อมูล ทำให้ทักษะด้านดาบนั้นไม่หายไปแม้เขาจะปล่อยมือจากอาวุธไปแล้ว และตอนนี้ทักษะที่ว่าก็ดูเหมือนจะยังอยู่ในฐานข้อมูลอันใหม่ สมองของมนุษย์ อย่างไม่ตกหล่น บวกกับที่เขาเคยฝึกดาบไม้กับอัศวินหญิงเองเมื่อหนนั้น ทำให้ฝีมือเขาค่อนข้างดีทีเดียว

     

    ปากดีแบบนี้มาลองกันหน่อยมั้ย?!” อาเนียสทำท่าจะชักดาบ แต่ถูกองค์ราชินีห้ามเสียงดุ ทำให้เธอรู้สึกตัวและอายที่ทำอะไรไม่สมเป็นมืออาชีพลงไป

     

    ทำไมพอเป็นเจ้านี่ทีไรเราต้องเสียความเยือกเย็นไปซะทุกทีเลย...?!’ อาเนียสนึกสงสัยเรื่องที่มันชัดเจนมาตั้งแต่ปีมะโว้

     

    กลางดึกคืนนั้น ห้องของหลุยส์

     

    แสงสว่างจากตะเกียงทำให้ห้องมืดสลัวๆ

     

    แล้วทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ในห้องของฉันได้ล่ะ? เด็กสาวผมสีชมพูนิ่วหน้าใส่เพื่อนสาวสองคนที่มาหาไม่รู้เวล่ำเวลา ต้องนั่งรถม้าจากคฤหาสน์ไปที่ปราสาท และจากปราสาทกลับมาที่โรงเรียนในวันเดียว เธออุตส่าห์รีบอาบน้ำสวมชุดนอน เตรียมจะกระโดดขึ้นเตียงแสนนุ่ม แล้วดันต้องมาถ่างตาสู้แสงตะเกียงบนโต๊ะข้างผนังห้อง เมื่อไรเธอจะได้นอน?!

     

    ที่จริงก็ไม่อยากนอนดึกหรอก เพราะมันไม่ดีต่อผิว คิลเก้สยายผม...ไปทำไมก็ไม่รู้ แต่เห็นพวกเธอกลับมาก็เลยมาทักทายทาบาสะพยักหน้าเสริม

     

    จากคำบอกเล่าของทั้งสองคน ขณะนี้แม่ของทาบาสะพักอยู่ที่คฤหาสน์เซอร์บุสต์ และตามหาหมอเก่งๆ ในเยอร์มาเนียเพื่อที่จะมารักษาอาการป่วย ความก้าวหน้าที่น่าชื่นใจที่สุดก็คือแม่ของทาบาสะไม่หวาดระแวงเวลาที่ลูกสาวเข้าไปหาอีกแล้ว แถมยังพูดคุยด้วยอย่างเป็นมิตรอีก ถึงแม้ว่าจะยังจำไม่ได้ก็ตาม

     

    แล้วการสนทนาก็ย้ายประเด็นมาที่ผู้ชายคนเดียวในห้อง

     

    แล้ว...ไม่แต่งตัวเป็นบาทหลวงแล้วเหรอ? คิลเก้ถามคำถามที่เอ็กซ์กะไว้แล้วว่าต้องมีใครซักคนถาม

     

    คือว่า...

     

    ...

     

    หืม~ สรุปว่าเกิดปาฏิหาริย์ทำให้นายกลายเป็นมนุษย์? คิลเก้ทวน เอ็กซ์พยักหน้า

     

    แล้วก้อนเล็กสีฟ้านี่... เธอชี้โมเดลเอ็กซ์ที่ลอยนิ่งไม่พูดไม่จา ...ก็คือเจ้าตัวเสียสติที่เกือบจะทำให้เราได้ตายหมู่กันที่พรมแดนกาเลีย?

     

    โมเดลเอ็กซ์นิ่งเงียบ รู้สึกผิดจนไม่กล้าแม้แต่จะพูดขอโทษ เตรียมตัวสำหรับคำกล่าวหาและความหวาดระแวง แต่ประโยคต่อมาเหนือการคาดเดาของเขาไปมาก

     

    ช่างมันเถอะ คนที่บาดเจ็บก็มีแต่คุณหัวหน้าหน่วยปืนคนนั้น ถ้าจะต้องมีการลงโทษกันก็ต้องให้เขาคนนั้นเป็นคนทำ คิลเก้ดูจะไม่ติดใจอะไรจริงๆ ทาบาสะเองก็เช่นกัน

     

    ส่วนเรื่องการลงโทษจากอาเนียสนั้น ทันทีที่อัศวินหญิงรู้ตัวว่าดาบเธอไม่ระคายผิวของไลฟ์เมทัลสีฟ้า เธอก็เลิกล้มความตั้งใจไปอย่างง่ายดาย (บวกกับการที่ไหล่ซ้ายเธอเป็นแผล ทำให้งานอื่นนอกจากงานเอกสารเธอไม่ต้องทำจนกว่าแผลจะหาย เธอจึงไม่ติดใจอะไรมาก)

     

    ฉันขอโทษด้วยจริงๆ... เขาพูดออกมาแล้ว โมเดลเอ็กซ์รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    พูดก็พูดเถอะนะ จริงๆ ฉันก็รู้สึกอารมณ์เสียนิดหน่อยที่นายเอาแต่เรียก กระจ้อยร่อยๆ อยู่ได้ คิลเก้ทำหน้าบูด ก่อนจะสอดมือทั้งสองข้างไปใต้หน้าอกอันมหึมาแล้วแล้วเขย่าขึ้นลง

     

    ดูสิ มันกระจ้อยร่อยตรงไหนกัน?

     

    โมเดลเอ็กซ์พูดไม่ออก

     

    ถ้าเป็นหลุยส์ก็ว่าไปอย่าง หลุยส์หูผึ่ง นั่นน่ะกระจ้อยร่อย ของแท้~”

     

    และแล้วสงครามก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง...

     

    ท่ามกลางการสาดคำสบประมาทไปมาระหว่างทายาทวาลิเอลกับเซอร์บุสต์ เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินครามก็เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าชาร์ล็อต เดอ ออร์เลียนส์ หรือที่เรียกกันว่าทาบาสะ

     

    นี่ครับ เอ็กซ์ส่งไม้เท้าของเด็กสาวซึ่งถูกเอลฟ์หนุ่มยึดไปแต่หนหลังคืนให้ จริงๆ แล้วคนที่นำมันมาส่งคืนก็คือแฟนธอม และเขาก็นำมันจากปราสาทกลับมาที่นี่

     

    ทาบาสะรับมันมาถือไว้ด้วยสองมือ มองดูมันด้วยความคิดถึง ก่อนจะตั้งลงข้างตัวด้วยมือขวาและเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มตรงหน้า

     

    ...เป็นมนุษย์ หมายความว่าต่อสู้แบบวันนั้นไม่ได้อีกแล้ว?...

     

    ครับผม เอ็กซ์ตอบยิ้มๆ ใช่ ตอนนี้เขาคงแพ้แม้แต่เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้า อา ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ

     

    ...ถ้าอย่างนั้น...ฉันจะปกป้องเธอเอง...

     

    เอ๋?

     

    เอ็กซ์สับสน สองคนที่ทุ่มเถียงกันอยู่ก็หันมามอง แต่ก่อนที่ใครจะทันได้ทำอะไร สองมือของทาบาสะเอื้อมมาประคองใบหน้าของเด็กหนุ่มและดึงเขาลงไปหาเธอ...

     

    หลุยส์เบิกตากว้าง ปากเผยอขึ้น เธอรู้สึกราวกับโลกหยุดหมุน ในเสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากของทาบาสะสัมผัสกับเอ็กซ์

     

    ...

     

    เพล้ง!

     

    คนสองคนพุ่งทะลุกระจกออกมา เด็กสาวสวมแว่นขยับไม้เท้าดึงตัวเด็กหนุ่มบินตามเธอขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงระเบิดจะตามมา

     

    ตูม!!

     

    หน้าต่างที่ยังเหลืออยู่แตกกระจาย บานพับหลุดกระเด็นออกมาพร้อมกับเศษผ้าม่านปลิวว่อน เอ็กซ์ซึ่งรอดมาได้หวุดหวิดมองแล้วก็นึกหวั่นอยู่ในใจว่าเขาในสภาพที่เป็นมนุษย์(เกือบ)เต็มตัวนี้ถ้าโดนระเบิดนั่นของนายหญิงเข้าไปจะเป็นยังไง

     

    คุณทาบาสะครับ ปล่อยผมลงอย่างเดิมเถอะครับ ผมง่วงเต็มทนแล้ว เอ็กซ์ยิ้มเจื่อนๆ

     

    ...นอนที่ห้องฉัน...ยังเหลืออีกหนึ่งคืน... เอ็กซ์เข้าใจว่าเธอหมายถึงสัญญาตอบแทนห้าวันเมื่อก่อนจะไปกาเลีย

     

    ...หรือจะ...อยู่ตลอดไปเลยก็ได้... เด็กสาวซ่อนใบหน้าที่เป็นสีแดงระเรื่อขณะที่ทั้งคู่เหาะไปทางห้องของเธอ

     

    เอ็กซ์กลืนน้ำลาย...เปล่า ไม่ใช่เพราะเขามีความคิดอกุศลแบบนั้น แต่เป็นเพราะเขาเริ่มมองเห็นเค้าลางของความวุ่นวายในอนาคต และคนที่เป็นศูนย์กลาง คนที่รับเต็มๆ ก็ไม่พ้น...เขา

     

    --

     

    S:”เฮ้ย! ทาบาส่าาาาาาา~!!”

     

    R:”อ้าวไอ้นี่ โวยเพราะหลุยส์ยังพอทน แต่นี่ทาบาสะแกก็โวย ตกลงมันยังไงกันแน่ฟะ?

     

    S:”ก็ทาบาสะน่ะ...! เหมือน...เหมือนน้องสาวฉันเชียวนะ!!”

     

    R:”อันที่จริงเอ็กซ์มันก็มองผู้หญิงเกือบทุกคนเหมือนเป็นลูกสาวนั่นล่ะ(อายุมาก ช่วยไม่ได้)

     

    DX”แต่ตอนนี้เจ้าเอ็กซ์เป็นมนุษย์ไปแล้ว แถมยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอีก เรื่องพวกนี้จะประมาทไม่ได้เลยนะ

     

    R:”...นั่นสินะ...

     

    S:”เป็นคนเขียนแล้วไม่รู้ได้ไงกัน!?”

     

    DX:”ดูเหมือนคนอ่านจะเริ่มโครงการ ลูกของเอ็กซ์กับหลุยส์ แล้วนะ

     

    S:”เฮ้ย!!!~”

     

    R:”โห...คนเขียนยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นเลย...มีตั้งชื่อแล้วอีกตะหาก!?! =[ ]=”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×