ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : เรปลิลอยด์ของยัย 0 สนิท

    ลำดับตอนที่ #58 : Chapter 57 : จอร์มุนกันด์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 510
      10
      25 ก.ค. 59

     

    ท่ามกลางความมืดมิดที่เหยียดยาวออกไปจนสุดสายตา ไม่อาจมองเห็นแม้แต่พื้นใต้ตัว หลุยส์ลืมตาขึ้นและสงสัยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

     

    อะไรกัน ทำไมมืดอย่างนี้ล่ะ? ที่แปลกกว่าคือเธอสามารถมองเห็นมือและส่วนต่างๆ ของร่างกายตัวเองได้อย่างชัดเจน ขณะที่อย่างอื่นล้วนเป็นสีดำสนิท

     

    แสงอ่อนๆ สว่างขึ้นทที่ด้านหลัง เธอหันกลับไปพบว่าแสงนั้นเปล่งออกมาจากร่างในชุดคลุมสีน้ำเงินที่ยืนส่งยิ้มมาให้เธอ ขาก้าวออกไปก่อนสมองจะทันได้คิด เธอวิ่งเข้าไปหาเขา มือเอื้อมเข้าไปคว้าสัมผัสที่คุ้นเคยยังชายผ้าอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวของเธอมาหลายต่อหลายครั้ง

     

    แต่แทนที่เธอจะได้เข้าหาอ้อมกอดไออุ่นที่โหยหาย เลือดสีแดงกระเซ็นเปรอะใบหน้าของเธอที่ขาวซีดและดวงตาที่เบิกโพลง กรงเล็บสีขาวขนาดใหญ่ฉีกผ่านลำตัวของร่างตรงหน้าเธอจนขาดกลางลำตัว ของเหลวสีสดเจิ่งนองพื้น เศษผ้าสีน้ำเงินถูกย้อมจนเป็นสีแดง

     

    ดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเธอจากในความมืด ส่องแสงสีแดงสดและแฝงด้วยความตื่นเต้นราวกับนักล่ามองเหยื่อ เด็กสาวกรีดร้องออกมาสุดเสียง

     

    กรี๊ด!!~”

     

    ร่างของเธอถูกเขย่าอย่างแรง

     

    หลุยส์! หลุยส์!”

     

    เด็กสาวรู้สึกตัวพบว่าตัวเองอยู่บนรถม้ากระบะมุงหลังคาผ้าใบโค้ง เพื่อนร่วมโรงเรียนของเธอกับราชาแห่งอัลเบี้ยนและราชินีแห่งทริสเทนมองมาที่เธอด้วยแววตาสงสัยและเป็นห่วง แม้แต่อัศวินหญิงที่กุมบังเหียนอยู่ที่ด้านหน้ากระบะก็ยังเหลียวหลังกลับมา

     

    รอบตัวเธอปราศจากความมืด อันที่จริงตะวันขึ้นฟ้าสายโด่งแล้ว

     

    แค่ฝันหรอกเหรอ?... เป็นฝันที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับความจริงมากซะจนเธอสับสน ...แต่พอมานึกดูดีๆ แล้ว ที่ๆ มืดสนิทแต่มองเห็นเฉพาะบางอย่างชัดแจ๋วแบบนั้นจะไปมีอยู่ในโลกได้ยังไง

     

    เมื่อกี้เธอเป็นอะไร ร้องซะเสียงดังเชียว ฝันร้ายเหรอ? เด็กสาวผมแดงซึ่งเป็นผู้เขย่าปลุกเธอเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเธอสงบลงแล้ว

     

    ก็...ประมาณนั้น เธอนึกถึงเนื้อหาของฝันแล้วก็นึกขึ้นมาได้รีบถามหาใครคนหนึ่งทันที แล้วเอ็กซ์ล่ะ?!”

     

    ...ยังไม่มา... เด็กสาวผมฟ้าสวมแว่นนั่งชันเข่าพิงผนังไม้ตอบโดยไม่ละสายตาจากหนังสือในมือ เธอกำลังพยายามทำความเข้าใจการออกเสียงและความหมายของคำบางคำอยู่ และท่าทางไม่แยแสของเธอก็ทำให้เด็กสาวผมสีชมพูเกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน

     

    เธอเป็นคนจับเอ็กซ์ไปที่นั่นไม่ใช่รึไง! ทำไมถึงได้ทำสบายใจเฉิบแบบนี้!?”

     

    ใจเย็นๆ ก่อนสิ!” คิลเก้พยายามห้าม ทาบาสะจ้องหนังสือไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่ในใจร้อนเป็นไฟ เธออยากจะกระโจนขึ้นหลังซิลฟีดแล้วทะยานกลับไปที่ปราสาทเดี๋ยวนี้เลย แต่ไม้เท้าก็ยังอยู่กับเอลฟ์นั่น แล้วยังแม่ของเธอ...นอนขดตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้แล้ว...เธอจะกล้าละสายตาไปได้ยังไง

     

    ...แล้วป่านนี้ทางด้านโน้นเป็นไงบ้างนะ...

     

    ลานหน้าปราสาทอัลฮัมบรา

     

    ตูม!

     

    แรงระเบิดทำให้พื้นเป็นหลุม เหมือนกับจุดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง หรือแม้แต่บางส่วนของตัววังที่ผนังพังลงมา

     

    ร่างสามร่างเคลื่อนไหวไปตามจุดต่างๆ อย่างว่องไวด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ เข้าปะทะกันเป็นครั้งคราว เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ยังไม่เที่ยงคืนจนบัดนี้ตะวันโด่งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง

     

    ฮึ่ย!” ร่างในชุดเกราะสีแดงชมพูชี้ปืนใหญ่แขนซ้ายไปข้างหน้าแล้วยิงกระสุนไฟลูกใหญ่ออกไปนัดหนึ่ง ซึ่งถูกร่างในชุดเกราะสีน้ำเงินหลบได้อย่างง่ายดาย ตามด้วยกระสุนพลังงานสวนกลับมาหนึ่งชุดสามนัด

     

    แต่ก่อนที่กระสุนพลังแสงอาทิตย์จะถึงตัวอดีตผู้บัญชาการเพลิง มันก็ชนเข้ากับกำแพงล่องหนที่กั้นอยู่จนสลายไป โดยไม่ใช่ฝีมือใครอื่นนอกจากเอลฟ์ผู้ชำนาญเวทย์มนต์โบราณที่ยืนสนับสนุนอยู่ด้านหลังห่างออกไปราวยี่สิบเมตร

     

    บาร์เรียร์นั่นอีกแล้ว... สามารถรบกวนกระแสการไหลเวียนของอิเล็กตรอนในกระสุนของเราทำให้เกิดความไม่เสถียรและสลายไปได้ กับอาวุธอื่นๆ ไม่ว่าของเหลวหรือของแข็งก็จะถูกแยกโครงสร้างของกลุ่มอะตอมโดยตรง เอ็กซ์สรุปตามที่สังเกตมาตลอด

     

    บาร์เรียร์ที่สามารถสลายสสารได้โดยไม่เกี่ยวกับปริมาณพลังงานสถิต เทียบกับเวทย์มนต์ที่เคยเห็นมาแล้วนับว่าทรงพลังมาก แต่ว่า... เมื่อมองใบหน้าของเอลฟ์หนุ่มชัดๆ แล้ว จะพบอาการเหนื่อยล้าปรากฏอยู่อย่างชัดเจน ต้องคอยสนับสนุนเรปลิลอยด์ประสิทธิภาพสูงสองตัวในการต่อสู้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยไม่มีโอกาสได้พัก ต่อให้เป็นนักรบเจนสมรภูมิก็ต้องหมดเรี่ยวแรงอย่างไม่ต้องสงสัย

     

    เรปลิลอยด์หนุ่มยืนนิ่งทำให้กระแสของการต่อสู้หยุดชะงัก เขามองไปทางคู่ต่อสู้ทั้งสามและพูดกับทั้งหมดโดยภาพรวม

     

    จนถึงตอนนี่ยังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ แต่มันไม่เป็นแบบนี้ตลอดไปหรอกนะ แฟ็บนีล เลเวียธาน ประโยคนี้ทางการสื่อสารแล้วอาจไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าไปได้สวยการต่อสู้อาจจะหยุดลงและทั้งสองฝ่ายก็ต่างรามือกันไปเพียงเท่านี้ แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่เขาคิด

     

    เป็นห่วงมนุษย์พวกนั้นสิท่า คุณฮีโร่กำมะลอ~” เรปลิลอยด์สาวแสยะยิ้ม ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงมองมาที่เขาอย่างบอกว่า รู้นะว่าคิดอะไร

     

    ถึงจะถูกรู้เข้าแต่เรปลิลอยด์หนุ่มก็ไม่แสดงอาการตกใจ เพราะอย่างไรก็ตามที่เขาพูดก็เป็นความจริง ถ้าหากบิดาชาลหมดแรงเมื่อไรสมดุลของการต่อสู้ครั้งนี้ก็จะทลายลง

     

    คงคิดว่าถ้าเจ้าหูยาวนั่นหมดสภาพเมื่อไหร่ก็จะใช้วิธีไหนซักวิธีทำให้พวกข้าไปไหนไม่ได้แล้วตามไปสมทบกับพวกที่หนีไปแล้วล่ะสิท่า แผนตื้นๆ นึกว่าจะฉลาดกว่านี้ซะอีก เรปลิลอยด์สาวสีฟ้ายิ้มเย้ย

     

    แต่ถึงรู้ก็ทำอะไรไม่ได้ เอ็กซ์ตอบหน้าตรง แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าท้อถอยแม้แต่น้อย

     

    จริงว่าแค่พวกข้าสองคนหยุดเจ้าไม่ได้แน่ แต่ว่า...จะมีเวลาขนาดนั้นแน่เร้อ~?”

     

    เอ็กซ์หรี่ตาลง หมายความว่ายังไง

     

    เลเวียธานแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย ป่านนี้คงจะไปถึงแล้วล่ะ เพชฌฆาตน่ะ

     

    เรปลิลอยด์หนุ่มเกร็งตัวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่าเพชฌฆาต ความกลัวว่าจะมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเป็นจริงซะแล้ว

     

    แล้วยังเป็นเพชฌฆาตที่แข็งแกร่งและไร้ความปราณีมากซะด้วยนะ... เลเวียธานฉีกรอยยิ้มขี้เล่น เหมือนคนมีความสุขที่เห็นความทุกข์ของผู้อื่น

     

    ...

     

    เกวียนเทียมม้าเคลื่อนอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปบนทุ่งรกร้างที่มีเขาหินสูงชันรายรอบ บรรยากาศระหว่างเหล่าผู้โดยสารและคนขับเงียบอึมครึม ต่างรู้ว่าไม่ใช่เวลาจะมาฉลองชัยที่หนีมาจากปราสาทได้สำเร็จ เมื่อต้องทิ้งคนหนึ่งเอาไว้

     

    เด็กสาวผมสีชมพูนั่งอยู่ที่ท้ายเกวียนแหงนหน้ามองฟ้า เงาของหลังคาผ้าโค้งที่ทอดลงบนใบหน้าแทนใจที่เป็นกังวลของเธอได้เป็นอย่างดี

     

    ดวงตาที่เหม่อลอยของเธอ จู่ๆ ก็เบิกกว้างขึ้น ก่อนจะกระพริบสองสามทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดไป สายตาของเธอจดจ้องที่วัตถุบนฟ้าที่ลอยสูงเทียมเมฆเคลื่อนตามหลังเกวียนของพวกเธอมา มันอยู่สูงมากจนมองแทบไม่ออก แต่หลังจากคิดคำนวณในหัวอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ได้ขนาดของมัน

     

    เธอตะลีตะลานตะโกนบอกอัศวินหญิงผู้กุมบังเหียนให้หยุดรถในทันที อาเนียสชะลอลงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองอย่างงงๆ

     

    เอาเถอะน่า!! รีบหยุด—!!”

     

    ตูม!!

     

    เสียงดังสนั่น พื้นดินสะเทือน ฝุ่นดินคลุ้งตลบ ราวกับอุกกาบาตตกลงมา

     

    แม้สารถีไม่สั่งแต่ม้าลากรถก็ตกใจจนหยุดชะงักยกขาหน้าขึ้น คนในรถเทกระจาดกันไปข้างหน้าจนเกือบตกเพราะเสียงดังและแรงเบรค

     

    เมื่อกี้มันอะไรน่ะ!?” กีซชะโกงหน้าออกไปดูม่านฝุนข้างหน้ารถม้า การฟุ้งกระจายกว้างขนาดนี้ อะไรกันแน่ที่อยู่ใจกลาง? เงาดำทะมึนนั่นคิดอะไร? คำตอบปรากฏเมื่อฝุ่นที่คละคลุ้งค่อยๆ จางลง

     

    นอกจากหญิงสาวผมยาวสีฟ้าที่นอนหลับอยู่ ทุกคนบนเกวียนต่างจ้องมองไปข้างหน้าด้วยใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างราวกับเห็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดในโลกอยู่ตรงหน้า และยังเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอีกด้วย

     

    เจ้านั่นมันตัวอะไรน่ะ?!” สหายอ้วนมาลิคอร์นร้องออกมาก่อนใคร

     

    สูงยี่สิบห้าเมตร ชุดเกราะสีดำทะมึนยืนตระหง่านราวกับยักษาอสุรกาย

     

    สายตาของหลุยส์สังเกตเห็นร่างหนึ่งบนไหล่ซ้ายของหุ่นเหล็กยักษ์ ทาบาสะเองก็ไม่พลาด

     

    นั่นมัน...

     

    ...เชฟฟิลด์...

     

    หญิงสาวผมดำแสยะยิ้มมองลงมาที่รถม้า ทาบาสะเปลี่ยนร่างอิริคุคุกลับเป็นมังกรแล้วบินขึ้นฟ้าไป เพื่อเผชิญหน้ากับหนึ่งในศัตรูคู่แค้น ทั้งที่ไม่มีไม้เท้า

     

    ทาบาสะ เชวาลิเยร์ เดอ นอร์ปาลเทล ไม่สิ [ชาร์ล็อต เฮเลน ออร์เลียนส์ เดอ กาเลีย] ฉันไม่มีธุระกับเธอหรอกนะ~” เชฟฟิลด์เอ่ยทั้งแสยะยิ้ม

     

    คิลเก้ที่อยู่ด้านล่างชิงจังหวะร่ายเวทย์โจมตี ลูกไฟพุ่งตรงไปที่หญิงสาวบนไหล่ซ้ายของหุ่นเหล็กอย่างแม่นยำแม้จะอยู่ไกลมาก แต่ลูกไฟกลับแตกสลายไปต่อหน้าหุ่นเหล็ก บาร์เรียร์ที่ล่องหนอยู่ปรากฏขึ้นให้เห็นในพริบตาของการปะทะ

     

    ไม่มีประโยชน์หรอก ชุดเกราะของจอร์มุนกันด์น่ะลงอาคมที่ทรงพลังเอาไว้ ไม่ว่าจะดาบหรือเวทย์มนต์ก็ไม่มีทางได้สะกิด เชฟฟิลด์ยิ้มอย่างได้ใจ

     

    ทีนี้จะถอยไปได้รึยังล่ะ ธุระของฉันมีกับผู้ใช้เวทย์แห่งความว่างเปล่าเท่านั้น

     

    หลุยส์ที่ฟังอยู่ด้านล่างผงะตกใจ ฉันเหรอ!?”

     

    ใช่แล้ว ถ้าไม่ยอมมากับเราแต่โดยดีล่ะก็... อักขระที่หน้าผากของเชฟฟิลด์เปล่งแสง และหุ่นเหล็กก็ขยับตัว ยกดาบเล่มมหึมาที่ใหญ่พอๆ กับเขาหินลูกใกล้ๆ ขึ้นเหนือหัว

     

    ...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น~” เชฟฟิลด์แสยะยิ้ม เธอกุมชะตากรรมของคนทุกคนที่นี่ไว้ในกำมือ

     

    หลุยส์เม้มปากแน่น ก้าวขาลงจากทางหน้ารถม้า อาเนียสมองเธออย่างตื่นตระหนกเช่นเดียวกับคนอื่นๆ

     

    เธอลงไปยืนที่พื้นด้วยสีหน้าแน่วแน่ เท้าขวาก้าวออกไปอย่างมั่นคง

     

    ผลัก!

     

    เธอล้มหน้าฟาดพื้น เด็กสาวอีกคนในกระโปรงสีขาวยาวรุ่มร่ามเกาะขาเธอล้มอยู่ในท่าเดียวกัน

     

    ...ทำอะไรเพคะองค์หญิง =.,=?” หลุยส์เงยหน้าขึ้นกุมจมูกที่แดงแจ๋แต่ยังลุกไม่ได้เพราะขาไม่ว่าง

     

    เธอจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะหลุยส์! ฉันไม่ยอมให้เธอที่มาช่วยฉันถูกจับไปซะเองเด็ดขาด!” อันเรียตต้าประกาศอย่างเด็ดขาด ก่อนจะลุกขึ้นยืน หลุยส์ลุกขึ้นได้ก็ค้านทันที

     

    ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปองค์หญิงกับทุกคนก็จะตกอยู่ในอันตราย—“

     

    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งง่ายๆ แบบนี้! ถ้าคุณเอ็กซ์อยู่ที่นี่จะพูดว่ายังไง!”

     

    หลุยส์ชะงัก เอ็กซ์เหรอ?เด็กหนุ่มในชุดคลุมที่ชอบทำหน้าลำบากใจเวลาที่เธออาสาภารกิจเสี่ยงๆ ครั้งเหล่านั้นเธอคิดเพียงแค่ว่าเขาเป็นพวกใจเสาะที่ไม่รู้จักเกียรติและหน้าที่ แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจะได้สัมผัสด้วยตัวเอง ถึงความรู้สึกของคนที่เห็นคนสำคัญออกไปเสี่ยงชีวิต ถึงกระทั่งความรู้สึกตอนที่ในหัวคิดว่าคนสำคัญคนนั้นไม่อยู่แล้ว

     

    ...มันก็แหงอยู่แล้ว ทั้งที่บอกไปแล้วว่า จะไม่ยอมให้เป็นอะไรแม้ร่างกายนี้จะต้องแตกสลาย แต่คนที่บอกไว้ก็ยังเอาชีวิตไปทิ้งง่ายๆ ถ้าเราเป็นหมอนั่นก็คงจะทำหน้าแบบนั้นเหมือนกัน...

     

    แต่หน้าที่ในฐานะชนชั้นสูง หน้าที่ในการปกป้องราชินีก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเพคะ

     

    หลุยส์...

     

    เด็กสาวชักคทาออกมาโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง

     

    ตูม!

     

    เชฟฟิลด์ยกแขนขึ้นบังแรงระเบิด แม้ไม่ถึงตัวเธอแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเวทย์มนต์เคาน์เตอร์ที่อวดสรรพคุณไปซะดิบดีป้องกันเวทย์ที่หลายคนเรียกว่าศูนย์สนิทบทนี้ไม่ได้เลย

     

    นี่มัน...พลังของเวทย์ว่างเปล่า...!’

     

    เด็กสาวผมสีชมพูยืนอยู่ที่ข้างล่าง ชี้คทาขึ้นมาที่เธอบนไหล่ของหุ่นเหล็ก ใบหน้าปราศจากความลังเล

     

    ชื่อเชฟฟิลด์สินะ! ถ้าอยากได้ตัวฉันก็ใช้กำลังพาไปเองสิ!”

     

    เชฟฟิลด์ยิ้มเย้ยหยัน อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ!”

     

    อักษรรูนที่หน้าผากของหญิงสาวส่องแสง ดาบยักษ์ที่เงื้อค้างเอาไว้เริ่มขยับ หลุยส์ไม่รอดูว่าจะเกิดอะไรต่อไป

     

    อาเนียส! เกียร์ถอยหลัง!”

     

    รถม้านะคะไม่ใช่รถยนต์!”

     

    ตูม!!

     

    ฝุ่นดินฟุ้งตลบจากแรงกระแทกมหาศาล รถม้าแล่นฝ่าม่านควันออกมา หญิงสาวบนไหล่หุ่นเหล็กสะบัดหน้ามองตาม คาดไม่ถึงว่าจะเห็นเด็กสาวผมสีชมพูกำลังสะบัดคทาอยู่ในรถม้า

     

    ตูม!

     

    ถูกระเบิดโจมตีเข้าอีกครั้ง คราวนี้เป็นที่หุ่นเหล็กบริเวณไหล่ซ้ายใต้จุดที่เธอยืนลงไปไม่กี่เมตร เชฟฟิลด์ตกใจแต่ยังรักษาสมดุลไว้ได้

     

    เคาน์เตอร์ป้องกันไม่ได้เลย สมแล้วที่เป็นเวทย์แห่งความว่างเปล่า...!’

     

    หลุยส์นิ่วหน้าที่เวทย์ของเธอพลาดเป้า ระยะไกลขนาดนี้จะให้แม่นคงยาก ถ้าอย่างนั้น...

     

    ทาบาสะ!!”

     

    เด็กสาวสวมแว่นบนฟ้าพยักหน้า ร่อนมังกรลงมารับเด็กสาวผมสีชมพูที่หลังรถม้าซึ่งกำลังวิ่ง

     

    หลุยส์!” อันเรียตต้าเรียกเพื่อนของเธอที่กำลังจะก้าวขึ้นหลังมังกร เด็กสาวผมสีชมพูหันกลับมายิ้มให้ แต่ไม่ใช่รอยยิ้มขมขื่นเหมือนอย่างทุกครั้งที่บอกว่า แม้ชีวิตนี้ก็ยอมถวาย แต่เป็นรอยยิ้มที่บอกว่า

     

    ไม่ต้องห่วงหรอกเพคะ พวกเราจะต้องกลับไปด้วยกันทุกคน

     

    ...สู้เค้านะ!” อันเรียตต้าสลัดความเป็นห่วงและส่งเพื่อนของเธอด้วยท่าทางเข้มแข็งที่สุดเท่าที่ทำได้

     

    มังกรสีน้ำเงินกระพือปีกทะยานขึ้นฟ้าไป

     

    เข้าไปใกล้ๆ เจ้านั่นเลย หลุยส์บอก ทาบาสะพยักหน้าและทำตามโดยไม่ขัด

     

    เชฟฟิลด์มองมังกรที่บินวนไปมารอบๆ หุ่นเหล็กของเธออย่างไม่เข้าใจ

     

    คิดจะทำอะไร?

     

    ก็จัดการเธอไงล่ะ!” หลุยส์ตอบอย่างมั่นใจ

     

    เชฟฟิลด์แสยะยิ้ม งั้นก็มาลองดูกันซักตั้งเป็นยังไง!”

     

    ห่างออกไปราวสิบกิโลเมตร บนยอดเขาหินลูกหนึ่ง ราชาแห่งกาเลียยืนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านทางกล้องส่องทางไกลแบบตาเดียวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    ขอดูพลังของเวทย์ว่างเปล่าให้เห็นกับตาหน่อยเถอะ

     

    ปราสาทอัลฮัมบรา ลานหน้าปราสาท

     

    เป็นอะไรไป พูดไม่ออกเลยรึไง~” เรปลิลอยด์สาวเย้ยอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งมาเกือบนาทีตั้งแต่รู้ว่ากลุ่มที่หนีไปก่อนถูกไล่ตาม

     

    เรปลิลอยด์สีแดงชมพูรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศสะกิดไหล่เพื่อน

     

    เฮ้ เลเวียธาน

     

    ข้ารู้แล้วล่ะน่า... เลเวียธานแทรกเสียงดุ รอยยิ้มดูมั่นใจแต่แท้ที่จริงแฝงความตื่นตระหนกเอาไว้

     

    จะว่าสมเป็นคู่หูกันก็คงไม่ผิด...แต่แทนที่เลือดจะพลุ่งพล่าน กลับรู้สึกหนาวจนเลือดจะเป็นน้ำแข็ง... ถึงในตัวเธอจะเป็นของเหลวอย่างอื่นแทนเลือดก็เถอะ

     

    เรปลิลอยด์หนุ่มสีฟ้าที่ยืนนิ่งอยู่เริ่มขยับตัวก้าวขาขวาออกมาข้างหน้า สลับเป็นขาซ้าย และเดินตรงเข้ามาหาสองอดีตผู้บัญชาการ

     

    เวลาไม่มีแล้ว เตรียมตัวให้ดี แฟ็บนีล เลเวียธาน... ร่างสีฟ้าส่องแสง เลเวียธานจ้องอีกฝ่ายไม่วางตา สีหน้าแสดงออกถึงความร้อนรนที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่

     

    ...ถึงจะไม่อยากยอมรับก็เถอะ แต่ว่า...ถ้าเจ้าที่อยู่โลกนั้นได้ยินล่ะก็นะ...

     

    แสงดับลง และร่างของนักรบสีฟ้าก็อยู่ในชุดเกราะที่เปลี่ยนไปพร้อมทั้งดวงตาที่ร้อนดั่งไฟและเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง

     

    ...เจ้าน่ากลัวไม่เท่าที่อยู่ต่อหน้าข้าตอนนี้เลย...!’

     

    --

     

    แนะนำตัวละคร

     

    จอร์มุนกันด์

     

    ข้อมูล : ชุดเกราะโลหะไซส์บิ๊กเบิ้มที่ขยับได้ด้วยพลังเวทย์ ควบคุมโดยเชฟฟิลด์ที่ใช้พลังของอักขระเมียวซ์นิทนีลที่หน้าผาก มีพลังมหาศาลโดยไม่ต้องฝึกลมปราณหรือเดินกำลังภายใน(ใช้กำลังภายนอกล้วนๆ)

     

     

    อิรุคุคุ

     

    ข้อมูล : ซิลฟีดในร่างจำแลง ทำให้ได้รู้ว่าซิลฟีดยังเป็นแค่ลูกมังกร(นิสัยดูยังไงก็เด็กเต็มๆ)และมังกรแห่งบทกวี(มีคุณสมบัติทางเวทย์มนต์และสติปัญญามากกว่าสัตว์ธรรมดา) เรียกตัวเองว่าเป็นน้องสาวของทาบาสะ แต่ร่างกายเจริญเติบโตกว่าจมหู(โดยเฉพาะส่วนนั้น)

     

     

    โฟร์ธอาร์เมอร์

     

    ข้อมูล : มีอีกชื่อเรียกว่า [ฟอร์ซอาร์เมอร์] โดยแฟนๆ (ชุดเกราะตั้งแต่ชุดที่หนึ่งถึงชุดที่สี่ไม่มีชุดเป็นทางการ ชื่อ โฟร์ธอาร์เมอร์นี้อยู่ในคำอธิบายของตัวละคร [เอเลีย] ในออฟฟิเชียลไกด์บุ๊คของ Rockman X5)

     

    ชุดเกราะที่ได้มาจากสงครามอิเร็กกุล่าร์ครั้งที่ 4 เสริมพลังในทุกๆ ด้าน ทั้งการจู่โจม การป้องกัน คลังกระสุน และการเคลื่อนที่กลางอากาศ(ลอยตัวได้ชั่วขณะ) มี [โนว่า สไตรค์] เป็นท่าไม้ตายอำนาจทำลายล้างมหาศาลที่ใช้ปริมาณพลังงานมหาศาลพอๆ กัน

     

    --

     

    R:”หุ่นใหญ่บิ๊กเบิ้มอีกละ เหมือนโกเลมอัพเกรด จากรุ่นโคตรซูเปอร์เฮฟวี่เวท เป็นรุ่นอภิอัครมหาซูเปอร์เฮฟวี่เวท

     

    S:”นอกจากจะตัวเบิ้มกว่าแถมเหล็กยังหนักกว่าหินแล้ว มันยังอึดถึกกว่ากันจมหูเลย

     

    DX:”ว่าแต่มีใครสังเกตบ้างมั้ยว่าทำไมผู้หญิงฝ่ายร้ายมักจะคุมหุ่นเชิดตัวใหญ่ๆ เรื่องนี้ก็สองคนละ ยังไม่นับเรื่องอื่น

     

    S:”นั่นน่ะดิ สงสัยเหมือนกัน

     

    R:”ท่าจะเป็น GPAS (Giant Puppet Addict Syndrome)”

     

    Fouqet&Sheffield:”โรคแบบนั้นมีที่ไหนกัน!!”

    *Edit1(หลังจากแต่งจบแล้ว): ตัวหนังสือเอียงทั้งตอน > ปรับให้ถูกต้อง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×