คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : Chapter 53 : จับตัว
“ทำอะไรของเธอน่ะ!?” เด็กสาวผมสีชมพูตวาดที่ผู้ที่ยิงแท่งน้ำแข็งใส่อสูรรับใช้ของเธอ
เด็กสาวสวมแว่นจ้องมองเด็กสาวผมสีชมพูด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะคุกเข่าลงข้างๆ ร่างในชุดคลุมที่แน่นิ่งอยู่บนพื้น สายลมหมุนวนเข้าห้อมล้อม
“หยุดนะ!!” หลุยส์ชี้คทาไปที่อีกฝ่าย แต่ก่อนที่ได้ร่ายคาถา ทาบาสะและเอ็กซ์ก็หายไปกับสายลม(จริงๆ)
อย่างกับวางคิวเอาไว้ ฝูงการ์กอยล์นับสิบปรากฏตัวขึ้นเหนือน่านฟ้า
“ชิ!” อาเนียสชักดาบออกมาเตรียมรับมือศัตรู แต่ในใจก็รู้ว่าจำนวนต่างกันเกินไป แล้วก็ยังร้อนใจเรื่ององค์ราชินีอีก
ฝูงการ์กอยล์โฉบลงมา เป้าหมายคือเด็กสาวและอัศวินบนพื้นที่เตรียมรับการจู่โจมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนนั้นเองที่เกิดแสงสว่างวาบขึ้น เปลวไฟขนาดยักษ์กลืนกินกองทัพอสูรเวทย์มนต์จนทั้งหมดสลายหายไป
“น—นั่นมันอะไรน่ะ!?” หลุยส์มองดูเงาขนาดใหญ่บนท้องฟ้าด้วยความตื่นตกใจ
วัตถุลอยฟ้าที่มีรูปร่างไม่เหมือนกับอะไรที่เธอเคยเห็นมาก่อน มันทั้งใหญ่โตมโหฬาร ปีกที่กว้างเท่ากับทางเดินหลักในหอคอยกลางเหยียดยาวออกไปสองข้างหลายสิบเมตร แล้วยังกังหันลมขนาดยักษ์ที่ส่วนท้ายและด้านหลังปีกทั้งสองข้างนั้นอีก
เงาคนสองคนโบกมือให้พวกเธอจากบนนั้น และเสียงตะโกนลงมาได้ยินแว่วๆ
“เฮ้~! พวกเธอไม่เป็นไรนะ~!”
หลุยส์ตาโต “เสียงนี้มัน...!”
อาเนียสถึงกับขนลุกชันเมื่อเมฆเคลื่อนออกจากดวงจันทร์และเธอได้เห็นใบหน้านั้นถนัดตา
...
ห่างออกไปบนท้องฟ้า
มังกรสีน้ำเงินบินฝ่าหมู่เมฆใต้แสงจันทร์แดงฟ้า เด็กสาวสวมแว่นขี่อยู่บนคอ เด็กหนุ่มในชุดคลุมถูกมัดด้วยเชือกติดกับหลัง
นาฬิกาที่เด็กสาวพกติดตัวบอกเวลาสี่ทุ่ม เป็นเวลาสามชั่วโมงแล้วนับแต่การหลบหนีจากโรงเรียนเวทย์มนต์ มือเล็กลูบต้นแขนที่เย็นเฉียบจากการตากลมยามดึกเป็นเวลานาน
“หาที่พักก่อนไม่ดีกว่าเหรอครับ?”
เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังกลับไป ร่างในชุดคลุมซึ่งถูกมัดในท่านอนหงายหันศีรษะมาทางที่เธออยู่ จากมุมนั้นไม่มีทางมองเห็นเธอได้ แต่นั่นเพราะเธอไม่รู้ว่าเขามีระบบตรวจจับความร้อน(ไม่รู้ด้วยว่าระบบนี้คืออะไร) ทาบาสะหันกลับมามองทางดังเดิมแล้วจึงตอบ
“...จะลองหาดู...”
เขตรอบนอกโรงเรียนทริสเทน
เรือเหาะทำด้วยไม้ลำใหญ่จอดอยู่บนทุ่งหญ้าไม่ห่างจากโรงเรียนมาก คนสี่คนยืนอยู่บนพื้นหญ้าข้างตัวเรือ
“นี่แกยังอยู่อีกเหรอ!?” อาเนียสคำราม มือซ้ายกระชากคอเสื้อของอีกฝ่าย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะอาเนียส!” หลุยส์ร้องห้ามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่กลับยิ่งเป็นการกระตุ้นให้อัศวินหญิงชักดาบออกมาจ่อที่คอของชายผมบางที่เก็บความกลัวและจ้องตอบกลับตรงๆ
“นี่เธอคิดจะฆ่าคนที่ช่วยตัวเองเอาไว้เหรอ!?” คิลเก้พยายามคุยด้วยเหตุผล
อาเนียสกัดฟันกรอด ยิ่งลังเลนานเข้าก็ยิ่งหมดกำลังใจที่จะแทง
“อาเนียส เชวาลิเยร์ เดอ มิลาน” เสียงดังขึ้นเหนือหัวเธอ อัศวินหญิงแหงนหน้ามองบนฟ้า
เด็กหนุ่มผมเทาเกาะแขนของเรปลิลอยด์สีเขียวลอยอยู่ที่ระดับความสูงชั้นสองอาคาร อดีตจตุรเทพเงาทิ้งตัวหล่นลงข้างๆ อัศวินหญิงที่ยังลังเลกับดาบในมือ จอมปราชญ์แห่งเวหาค่อยๆ ลดระดับลงจนกระทั่งยืนบนพื้นเต็มสองเท้า
“เจ้าคิดจะปล่อยให้อารมณ์ส่วนตัวอยู่เหนือเกียรติและหน้าที่ของอัศวินงั้นรึ”
เจอเข้ากับคำพูดที่ไม่อ้อมค้อมแล้วคนพูดยังทำหน้าตรงสนิท อาเนียสถึงกับพูดไม่ออก
“ชิ!” เธอผลักโคลเบลท์ออกไปอย่างหงุดหงิดแล้วจึงเก็บดาบคืนฝักที่เอวซ้าย
“เพราะมีเหตุฉุกเฉินหรอกนะ ถ้าองค์ราชินีกับเอ็กซ์ปลอดภัยเมื่อไรฉันจะคิดบัญชีกับแกทีหลัง!” เธอเตือนเสียงเกรี้ยว
“องค์ราชินีกับมาสเตอร์เอ็กซ์?” แฟนธอมตกใจแต่ไม่แสดงออก “เกิดอะไรขึ้น?”
ปราสาทอัลฮัมบรา อาณาจักรกาเลีย
“ข้าทำงานไม่สำเร็จ ขอประทานอภัยเพคะ!” หญิงสาวผมยาวสีดำคุกเข่าต่อหน้าชายผู้หนึ่ง
“ไม่เป็นไร เมียวซ์ของฉัน ถ้าองค์ราชินีของทริสเทนอยู่กับเรายังไงผู้ใช้เวทย์ว่างเปล่ากับพรรคพวกก็จะต้องมาที่นี่แน่นอน แล้วอีกอย่างนึง...แผนที่สร้างความขัดแย้งระหว่างอัลเบี้ยนกับทริสเทนก็จะยิ่งได้ผลดีขึ้นไม่ใช่รึไง”
“หมายถึงที่ลักพาตัวองค์ราชาเวลส์เพื่อให้ทริสเทนถูกทางอัลเบี้ยนสงสัยสินะเพคะ เข้าใจแล้วล่ะเพคะ”
“แล้วก็ ถึงเธอจะไม่รู้ว่าผู้ใช้เวทย์ว่างเปล่าที่พาตัวมาเป็นตัวปลอม แต่หลานสาวที่น่ารักของฉันคงจะใช้ข้อแก้ตัวเดียวกันนี้ไม่ได้”
“ท่านหมายความว่า...”
ชายปริศนาแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เวลาของเธอมาถึงแล้ว ชาร์ล็อตเอ๋ย”
...
แสงสว่างลอดออกมาทางหน้าต่างของอาคารสร้างด้วยปูนสองชั้นกลางเก่ากลางใหม่ขนาดไม่ใหญ่มาก พอเหมาะสำหรับโรงแรมปลายหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่รวมกันอย่างหลวมๆ บนทุ่งหญ้า ใกล้กันเป็นภาพที่ผู้คนอาจไม่ค่อยได้เห็น มังกรสีน้ำเงินนั่งอยู่หน้าโรงแรม ร่างในชุดคลุมถูกมัดนอนหงายติดกับหลัง
เด็กสาวสวมแว่นเดินกลับออกมา เรปลิลอยด์หนุ่มหันหน้าไปถามแม้ว่าในสภาพนี้จะขยับคอได้ไม่ค่อยถนัดนักก็ตาม
“...คืนละสิบห้าเอคิว...”
“ก็ถูกดีนะครับ” ยังไงก็ใช้ไม่เกินหนึ่งห้องหรอก
“...ลืมเงินไว้ที่โรงเรียน...” ในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะที่สุด
“งั้นใช้ของผมก็ได้ครับ”
ทาบาสะมองเขานิ่ง ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ
“ผมได้เบี้ยหวัดประจำตำแหน่งเชวาลิเยร์มายังไม่ได้ใช้ อยู่ในเสื้อคลุมผมนี่เองครับ”
ทาบาสะนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ
“แต่มันอยู่ใต้เชือกที่มัดอยู่พอดี คลายเชือกออกหน่อยได้รึเปล่าครับ?”
ทาบาสะจ้องเขานิ่ง
“หรือแค่เลื่อนขึ้นมามัดแถวๆ ไหล่ก็ได้ ผมหนีไม่ได้หรอกครับ” เอ็กซ์เสนออีกทางเลือก
ทาบาสะพยักหน้า ก่อนจะสะบัดไม้เท้า เชือกที่มัดเอ็กซ์ติดกับตัวมังกรคลายออกพร้อมกับที่ร่างของเขาลอยขึ้น เชือกเลื่อนขยับขึ้นไปมัดที่บริเวณต้นแขนและหัวไหล่ของเขาตามที่ตกลงกันไว้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล
หลังจากให้ซิลฟีดบินออกไปหาที่นอนตามใจชอบ ทาบาสะก็กลับเข้าไปในโรงแรม มือซ้ายจับปลายเชือกที่เชื่อมกับพันธนาการของนักโทษหนุ่มเอาไว้เหมือนจูงสัตว์เลี้ยง(?)
เจ้าของโรงแรมวัยสามสิบต้องยอมรับว่าภาพแบบนี้ไม่ใช่จะเห็นกันได้ทุกวัน ถึงจะรู้สึกพิลึกพิลั่นแต่เขาก็เลือกธุรกิจมากกว่าความสงสัย รับเงินแล้วก็ส่งกุญแจห้องหนึ่งดอกให้เด็กสาวผู้เงียบงันโดยไม่ปริปากอะไร
...
แสงจันทร์ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง นาฬิกาในร่างกายของเขาบอกเวลา 11.00PM เขาอยู่ในห้องนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว นอนอยู่บนเตียงแคบๆ ให้เด็กสาวสวมแว่นกอดทั้งๆ ที่ยังถูกมัดอยู่(ทำอย่างกับเขาเป็นหมอนข้าง)
‘คงได้เวลาแล้วล่ะ’ เขาทำการแสกนระบบอย่างคร่าวๆ พบว่าทุกส่วนไฟเขียว ฟื้นตัวเต็มที่จากการพักผ่อนนานสามชั่วโมง ถึงเวลาลองระบบนั่นดู ถ้าสำเร็จก็ง่ายขึ้นเยอะ แต่ถ้าไม่ก็ว่ากันอีกที
ปราสาททริสเทน ห้องประชุม
“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว!” เด็กสาวผมสีชมพูลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างทนไม่ได้
“เข้าใจผิดตรงไหนกัน? ศัตรูที่จะลักพาตัวฝ่าบาทไปก็มีแต่อัลเบี้ยนที่แพ้สงครามเราเท่านั้นล่ะ!” ขุนนางฝ่ายทหารยังยืนยันคำเดิม
“ที่พูดมาก็ไม่มีหลักฐานไม่ใช่รึไง!?” หลุยส์แย้ง
“พอแค่นั้นล่ะ หลุยส์” ชายวัยกลางคนสวมแว่นข้างเดียวที่ตาซ้ายและมีผมหนวดเคราเป็นสีทองหยุดลูกสาวเอาไว้ แววตาจริงจัง แยกชัดเจนระหว่างครอบครัวกับงาน
“ท่านดยุคลา วาลิเอลควรจะสั่งสอนบุตรสาวของท่านให้มีมารยาทกว่านี้นะ” ขุนนางคนเดิมวางท่าพูดเสียงตำหนิปนยิ้มเยาะ
หลุยส์กำหมัดแน่นที่ใต้โต๊ะ ชั่วโมงหนึ่งเข้าไปแล้วตั้งแต่เริ่มประชุม พวกขุนนางในที่ประชุมก็เอาแต่พูดว่าเป็นฝีมือของกษัตริย์แห่งอัลเบี้ยน ไม่ยอมฟังความเห็นคนอื่น กระทั่งเธอที่อยู่ในเหตุการณ์ยังเหมือนไม่มีตัวตน อาเนียสและคนส่งสารก็มีตำแหน่งต่ำกว่า ไม่ต้องพูดถึงอัศวินสีเขียวคนนั้นที่เป็นคนของอัลเบี้ยนต้องหลบไปอยู่ไกลๆ สายตา ขนาดพ่อของเธอเองยังเห็นด้วยกับขุนนางคนอื่นๆ
“ข้าคิดว่าเราควรจะแจ้งเรื่องนี้ให้ทางพันธมิตรเยอร์มาเนียทราบพร้อมกับส่งสารเจรจาคืนตัวองค์ราชินีไปที่อัลเบี้ยน” ขุนนางคนหนึ่งเสนอ
“แล้วถ้าอัลเบี้ยนไม่คืนตัวฝ่าบาทมาให้พวกเราล่ะ?”
“ก็ดีน่ะสิ เราจะได้ใช้เป็นข้ออ้างยกทัพบุกอัลเบี้ยนอีกที คราวนี้ไปให้ถึงเมืองหลวงเลย ถ้าบอกไปว่าจะแบ่งอัลเบี้ยนกันคนละครึ่งเยอร์มาเนียต้องยอมร่วมมือด้วยอยู่แล้ว” ขุนนางคนเดิมแสยะยิ้ม
“แบบนั้นมันป่าเถื่อนเกินไปแล้วนะ!” หลุยส์ค้านอย่างอดรนทนไม่ได้ “องค์ราชินีไม่มีทางคาดหวังเช่นนั้นหรอก!”
“ถ้าเช่นนั้นท่านคงมีวิธีอื่นอยู่ในใจ ใคร่จะชี้แจงให้ที่ประชุมได้ทราบรึไม่ ท่านหลุยส์ ฟรังซัวร์ เลอ บลังค์ เดอ ลา วาลิเอล~” ขุนนางคนเดิมแสยะยิ้มค้อมตัวทำประชด คนอื่นๆ ก็หัวเราะเบาๆ เด็กสาวโกรธจนแดงไปถึงหู มือที่กุมชายกระโปรงสั่นระริก มันอยากจะกำคทาที่เหน็บกระโปรงอยู่เต็มที
ใครคนหนึ่งยกมือขึ้นขัดจังหวะห้องประชุม สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เด็กหนุ่มผมเทาที่ยืนพิงผนังอยู่ข้างประตูทางเข้าที่ปิดอยู่
“ขออภัยที่ขัดจังหวะ มีข่าวจะแจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบ” แฟนธอมเดินไปที่ด้านหลังที่นั่งของหลุยส์ วางหมวกที่ถอดไว้ลงบนโต๊ะตรงหน้าเด็กสาว ผลึกสีแดงที่กลางหมวกส่องแสงและภาพโฮโลแกรมขนาดครึ่งตัวของใครคนหนึ่งก็ฉายขึ้นที่กลางโต๊ะประชุม ทำเอาเหล่าขุนนางตกใจกันยกใหญ่
#ขออภัยที่ทำให้ตกใจนะครับ คณะขุนนางทุกท่าน# เด็กหนุ่มสวมหมวกกลมในชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มรูปกางเขนสีฟ้ามีเชือกพันตั้งแต่ไหล่ลงไปส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร
ห้องพักชั่วคราวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
เอ็กซ์นอนหงายอยู่บนเตียง ทาบาสะหลับอุตุอยู่ข้างๆ ตรงหน้าเขาเป็นหน้าต่างโฮโลแกรมที่เขาสามารถมองเห็นอีกฝั่งของการสนทนาได้ เหล่าขุนนางทำหน้าเหมือนเห็นผี อาเนียสกับหลุยส์ก็ตกใจที่เห็นเขา
“ครับ ผมปลอดภัยดี” เขาตอบคำถามของเด็กสาวขี้เป็นห่วงด้วยรอยยิ้ม และบอกให้จตุรเทพหนุ่มที่อยู่ตรงนั้นไปเรียกอีกคนมา
ห้องประชุม
เด็กหนุ่มผมเทารับคำและเดินออกจากห้องไป เด็กหนุ่มบนภาพโฮโลแกรมจึงเริ่มเข้าประเด็น
#ระหว่างนี้ผมจะอธิบายสถานการณ์ให้ได้ฟังกันคร่าวๆ นะครับ—#
“แกเป็นใคร!?” ขุนนางคนหนึ่งแทรกขึ้นด้วยความฉุนเฉียว
#ขออภัยที่ไม่ได้แนะนำตัว ชื่อของผมคือเซเวียร์ เชวาลิเยร์ เดอ ไลท์ เป็นอัศวินของทริสเทนและอสูรรับใช้ของหลุยส์ เดอ ลา วาลิเอลครับ# เด็กหนุ่มในชุดคลุมแนะนำตัวเต็มยศ แต่ขุนนางคนที่แลกคำด่ากับหลุยส์ก่อนหน้านี้แสยะยิ้มอย่างดูแคลนและกล่าวเสียงสูงอย่างยียวน
“เฮอะ ออกหน้าแทนเด็กผู้หญิงน่าสมเพชพรรค์นี้น่ะเหรอ คิดว่าใช้เวทย์มนต์หลอกตาเรานิดหน่อยแล้วเราจะเชื่อรึไง~?”
เด็กหนุ่มยิ้มหวานและกล่าวด้วยเสียงที่หวานหยดย้อยไม่แพ้กัน
#ช่วยกรุณาให้โอกาสผมได้พูดด้วยเถอะนะครับ ^ ^#
ถึงจะเป็นภาพโฮโลแกรม แต่แรงกดดันที่ส่งออกมาทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือก เป็นสิ่งที่ถ้าเหล่าจตุรเทพได้มาเห็นต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘นี่สิมาสเตอร์เอ็กซ์ของเรา’
#ฟังก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย จริงมั้ยครับ ^ ^# เหล่าขุนนางในที่ประชุมต่างหนาวไปจนถึงกระดูกสันหลัง หลายคนที่เป็นขุนนางเก่าแก่จำความรู้สึกที่คล้ายกับสมัยที่อยู่ต่อหน้าราชาองค์ก่อนได้
ที่จริงเขาก็ไม่อยากใช้ความกลัวเข้าปกครองหรอก แต่นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนจะมามัวตะล่อมไม่ได้ เมื่อเห็นว่าที่ประชุมสงบปากสงบคำกันดีแล้วเขาจึงพูดต่อ
#ขณะนี้ผมอยู่ระหว่างการถูกจับตัวไปที่ปราสาทกาเลีย อาศัยจังหวะติดต่อกับพวกคุณอย่างที่เห็น นอกจากผมแล้วองค์ราชินีอันเรียตต้าเองก็กำลังไปที่นั่นเช่นกัน และจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ องค์ราชาเวลส์ได้ถูกพาตัวไปที่นั่นก่อนแล้ว#
เกิดเสียงฮือฮาภายในห้องประชุม เรื่องจะเชื่อหรือไม่เชื่อคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าแถมยังไม่ได้คุยกันแบบหน้าต่อหน้า ตอนนั้นเองที่ประตูห้องเปิดออกและเด็กหนุ่มผมเทาก็เดินเข้ามาพร้อมกับอัศวินสีเขียว
“พวกเรามาแล้วครับ” แฟนธอมบอกกับภาพโฮโลแกรมซึ่งพยักหน้ารับ ก่อนจะเริ่มพูดต่อ
#ความจริงแล้วผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า ‘ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะพาทั้งองค์ราชาและองค์ราชินีกลับไปเอง’ แต่ผมแค่คนเดียวคงยืนยันไม่ได้ว่าทั้งสองคนจะไม่เป็นอันตราย เพราะฉะนั้นผมอยากให้ส่งคนมาที่ปราสาทกาเลียซักหนึ่งหน่วย เพื่อมาช่วยคุ้มครององค์ราชาและองค์ราชินีอีกแรง#
ขุนนางในที่ประชุมต่างพากันซุบซิบ หัวข้อเดิมคือจะเชื่อหรือไม่เชื่อดี แต่เอ็กซ์ไม่ได้สนใจพวกมนุษย์ที่สูงแต่ตำแหน่งแต่แรกแล้ว(ยังไงซะก็คงเหมือนกับสภาที่เนโออาร์คาเดียนั่นล่ะ) เขารอว่า ‘เมื่อไร’ และ ‘ใคร’ จะพูดขึ้นมาก่อน มีอยู่ไม่กี่คนหรอกที่เขาคิดเอาไว้
“ได้!” อัศวินหญิงผมบลอนด์ก้าวออกมาข้างหน้า “ในฐานะหัวหน้าองครักษ์ ฉันจะนำทีมไปเอง”
ภาพโฮโลแกรมยิ้ม เขาคิดไว้ว่าต้องเป็นเธอ แล้วก็ชื่นชมในความกล้าหาญ สองจตุรเทพเขาไม่สงสัยอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องของการบอกตกลงหรือไม่ตกลง เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตของมนุษย์แล้วทั้งสองจะต้องมาอย่างแน่นอน เหมือนกับกฎที่ไม่ได้บัญญัติไว้แต่รู้โดยทั่วกัน
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปด้วย!” และก็นี่อีกคน นายหญิงของเขาเอง แต่รายนี้เขาอยากจะถอนใจซะมากกว่า
“ไม่ได้! พ่อไม่อนุญาต!” ดยุควาลิเอลค้านเสียงแข็ง แต่แทนที่จะได้เห็นลูกสาวหงอลงและผงกหัวฟังคำสั่งแต่โดยดี เขากลับถูกขัดโดยขุนนางด้วยกัน
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ดยุคลา วาลิเอล ก็แต่เด็กๆ ไปเที่ยวกัน” ขุนนางคนเดิมที่พูดเสียดสีมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้กลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง
“หรือจะให้พวกนั้นไปด้วยก็ได้นะ กองอัศวินอองดีนอะไรนั่นน่ะ เด็กๆ จะได้ไปเที่ยวด้วยกันไง ฮะๆๆ!~” คำพูดยิ้มเยาะยังเรียกเสียงขบขันอย่างดูแคลนจากที่ประชุมได้ แม้จะมีบางส่วนที่เงียบลงเพราะเป็นห่วงองค์ราชินีและยังขยาดรอยยิ้มของเด็กหนุ่มโฮโลแกรมก็ตามก็ตาม
เอ็กซ์ชำเลืองดูหลุยส์กำหมัดแน่น สีหน้าโกรธจัด เธอคงจะตวาดกลับไปแล้วถ้าไม่ถูกมือของอาเนียสขวางเอาไว้
“เข้าใจแล้วค่ะ เราจะปฏิบัติภารกิจที่ท่านมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง” อัศวินหญิงยืนตรงอย่างเป็นการเป็นงาน ทำให้ได้สายตาไม่พอใจอย่างลับๆ จากพวกขุนนางที่ถูกขัดความสุข
“พวกเราขอตัว” อาเนียสหันหลังเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับดึงข้อมือให้หลุยส์ตามออกไปด้วย
ภาพโฮโลแกรมหันไปทางชายวัยกลางคนสวมแว่นตาข้างเดียวพร้อมกับยิ้มให้ความสบายใจ
#คุณพ่อของหลุยส์ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ หลุยส์เข้มแข็งกว่าที่คุณคิดนะครับ ^ ^# เอ็กซ์หันไปพยักหน้าให้แฟนธอมตัดการติดต่อได้
เด็กหนุ่มผมเทาหยุดการฉายภาพและหยิบหมวกขึ้นมา เตรียมจะออกไปจากห้อง เสียงตะโกนไล่หลังมา
“อย่าพูดบ้าๆ นะ!” ดยุควาลิเอลเดือดดาล “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลุยส์ล่ะก็ พวกแกทุกคนจะต้องเสียใจ!”
อัศวินสีเขียวสบตากับดยุคด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องปกป้องผู้ที่เคารพจากความเข้าใจผิด
“หากมาสเตอร์เอ็กซ์บอกว่าไม่เป็นไร ก็ไม่เป็นไร” อัศวินสีเขียวเอ่ยอย่างหนักแน่น มือของคนส่งสารสัมผัสไหล่ ทั้งสองสบตากัน ฮาลเปียจึงหยุดพูดแค่นั้น
ดยุควาลิเอลตกใจกับความจริงจังและความมั่นใจของอัศวินสีเขียวจนได้แต่เงียบมองทั้งสองเดินออกจากห้องประชุมไปอย่างสง่า
เช้าวันรุ่งขึ้น
มังกรสีน้ำเงินนั่งอยู่บนภูเขาสูง เด็กสาวสวมแว่นและเด็กหนุ่มในชุดคลุมเชือกพันรอบตัวเจ็ดแปดรอบยืนอยู่ข้างๆ ด้านหลังเป็นเชิงผาสูง ด้านล่างเป็นอาคารบ้านเรือน ตรงหน้าคือ...ปราสาทหลังใหญ่
เด็กสาวกระตุกเชือกในมือเธอ และทั้งคู่ก็เดินตรงไปยังประตูหน้าที่มีทหารยามสี่คนเฝ้าอยู่
--
~ลงรูปเล่นๆ คุยกันขำๆ~
R:”ตอนอาเนียสเห็นว่าอาจารย์โคลเบลท์ยังมีชีวิตอยู่ ท่าทางจะตกใจน่าดู”
DX:”ชั่วพริบตานึงที่แสงเงาทำให้เหมือนการ์ตูนสยองเลือดสาดซะมากกว่าจะเป็นเลิฟโคเมดี้/แฟนตาซี”
Agnès:”หวา—เอารูปคนอื่นมาวิจารณ์แบบนี้มันละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดๆ!!”
R:”เฮ่ย ถ้าโลกเธอสิทธิมนุษยชนเหมือนกับโลกฉันล่ะก็คงไม่มีการเหยียดชนชั้นแล้วล่ะเฟ้ย”
DX:”พูดถึงรูป ท่าน PKman ประทานรูปเจ๋งๆ มาให้อีกแล้ว คราวนี้มีทั้งหลุยส์และเอ็กซ์ในรูปเดียวกัน อย่างเป็นทางการแล้วไม่มีทางหาได้(ถ้าจะหวังพึ่งฝีดินสอคนเขียนแล้วยิ่งไม่มีทาง)
R:”ไม่ได้อัพซะนาน เพราะยุ่งอยู่กับเตรียมการสอบปลายภาคของโรงเรียน(ต้องรีบจัดการงานคั่งค้างให้เสร็จ อ่านหนังสือช่างหัวมัน) แต่อีกเดี๋ยวก็จะต้องลุยแกะ/แพะอีกแล้ว หนังสือไม่ต้องอ่าน ช่างหัวมัน เอาสมองตัวเองจริงๆ เข้ามหา’ลัยที่เข้าได้ดีกว่า(ตามความเห็นคนเขียนเท่านั้น เด็กรักดีรักความก้าวหน้าอย่าลอกเลียนแบบ)”
ความคิดเห็น