คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : Chapter 40 : แค้นชำระ
ภาพของ...ใช่ หมู่บ้านที่เป็นทะเลเพลิง คราวนี้มีอัพเดทเพิ่มขึ้นมา ภาพของกลุ่มชายในผ้าคลุมสีหม่นยืนอยู่บนหน้าผามองดูทิวทัศน์ที่สว่างไสวเบื้องล่าง หนึ่งในนั้นจ้องมองชายที่ยืนอยู่หน้าสุดและเป็นผู้ลงมือคนแรกเขม็ง
“ในตอนนั้นข้าเป็นรองหัวหน้า” เมนวิล หัวหน้ากองทหารรับจ้างเล่าให้หญิงสาวผู้รอดมาจากเหตุการณ์ในตอนนั้นได้ฟัง
“หัวหน้าหน่วยคือ [อสรพิษอัคคี] ผู้ที่ถูกกล่าวขานว่ามีเปลวเพลิงของอสูรร้าย”
“ว่ายังไงนะ!” อาเนียสได้รู้เรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับศัตรูคู่แค้นของเธอ
“ข้าตะหากที่ตามหาชายคนนั้นมาตลอด! คนที่มอบรอยแผลนี้ให้กับข้า เพื่อที่จะได้เผาชายคนนั้น นั่นล่ะคือความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของข้า!!”
อาเนียสมองดูชายผู้บ้าคลั่งด้วยสีหน้าหวาดหวั่น ชายคนนี้ เกินสามัญสำนึกของมนุษย์ไปแล้ว
แล็บของโคลเบลท์
ชายผมบางในชุดคลุมอาจารย์กับเด็กหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินเหมือนบาทหลวงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทากาวที่ขอบเศษผ้าที่ตัดเป็นรูปรูปรักบี้ขนาดเท่าฝ่ามือและติดซ้อนเข้าด้วยกันเป็นภาชนะ จากนั้นก็เทผงดินประสิวลงไป ทำซ้ำๆ กันเป็นลัง
“ดินประสิวพวกนี้...ใช้เรียกความสนใจได้หลายแบบทีเดียวล่ะครับ แผนการพร้อมดีเลยนะครับ” เอ็กซ์เอ่ยถึงหน้าที่ส่วนที่พวกเขาแบ่งมา
“เจ้านี่อันตราย เวลาใช้ต้องใช้ให้ระวังหน่อยล่ะ” อาจารย์กำชับ
“ผมคิดว่าควรจะบอกคนที่จุดระเบิดกับจุดไฟได้มากกว่านะครับ ^ ^;” แล้วดันอารมณ์ร้อนทั้งคู่ซะด้วย
ห้องอาหาร
ชายผมตั้งหน้าแผลเป็นยังพล่ามอดีตไม่จบ
“ภาพที่หัวหน้าเปลี่ยนให้หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านกลายเป็นทะเลเพลิงในชั่วพริบตาเดียว มันสุดยอดจริงๆ! สุดยอดซะจนข้าสนใจอยากจะรู้ว่าถ้าต่อสู้เอาชีวิตกันจริงๆ แล้วจะเก่งแค่ไหน!” เมนวิลแสยะยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ข้าโจมตีใส่หัวหน้าจากด้านหลัง แบบที่เรียกว่าคนหนุ่มใจร้อนนั่นล่ะ! ความแข็งแกร่งของหัวหน้าจะเป็นของจริงซักแค่ไหน? ข้าอยากจะรู้! แล้วคำตอบก็ปรากฏแก่สายตาของข้า ทั้งข้าและเปลวไฟที่ข้าภาคภูมิใจถูกเพลิงสีฟ้าของหัวหน้ากลืนไปพร้อมๆ กันราวกับไม่ได้ออกแรงอะไร! มันช่างสุดยอดจริงๆ!!”
ยิ่งฟัง อาเนียสก็ยิ่งรู้สึกว่าชายตรงหน้าบ้ามากขึ้นทุกที
ที่สนามหญ้าด้านนอก
สามสาวหลบอยู่หลังพุ่มไม้ มองผ่านรอยแตกที่เกิดจากการระเบิดเข้าไปข้างใน คิลเก้เริ่มจะทนรอไม่ไหว
“ถึงแค่พวกเราก็จะบุกเข้าไปล่ะ!” มือเล็กของเด็กสาวสวมแว่นห้ามเธอเอาไว้ ทาบาสะส่ายหน้า คิลเก้อารมณ์ไม่จอย
“อ๊ะ พวกอาจารย์มาแล้ว!” หลุยส์เรียกให้ทั้งสองคนดูชายทั้งสองที่แบกลังกระดาษใส่วัถุทรงลูกรักบี้ทำด้วยผ้ามาเต็ม
“ใช้ทำอะไรเนี่ย?” คิลเก้รู้สึกสนใจ โคลเบลท์นั่งยองๆ ลงและอธิบายแผนการ
ห้องอาหาร
เมนวิล...เลิกพล่าม และหันไปทำงานที่ได้รับว่าจ้างมาต่อ ทิ้งอัศวินหญิงให้นั่งอยู่กับพื้น ไม่กล้าขยับตัวไปไหน
“ผ.อ. เขียนจดหมายไปหาอันเรียตต้าให้ลงนามสัญญาถอนทัพซะดีๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข”
“ม—ไม่ได้หรอก ฉันจะไปมีอำนาจขนาดนั้นได้ยังไง” ออสมันด์หลบสายตา
“ก็อ้างเหตุผลไปว่า ‘ถ้าไม่ทำเหล่านักเรียนที่น่ารักจะถูกเผาจนเป็นขี้เถ้า’ ซะสิ” เมนวิลเอ่ยอยางอำมหิต ผ.อ.ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ไร้สาระ” เสียงของเด็กหนุ่มพูดขึ้นอย่างตำหนิ
“ทำแบบนี้ไปก็มีแต่จะทำให้ทหารแนวหน้าโจมตีอย่างสุดกำลังเท่านั้น พวกอัลเบี้ยนนี่ไร้สมองกันจริงๆ” จูลิโอพูดอย่างไม่เกรงกลัว
“ไอ้หนูนี่อยากจะตายมากสินะ งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้เอง!” เมนวิลเงื้อตะบองขึ้นสุดแขน
เสียงร้องตกใจของสมาชิกหน่วยดึงความสนใจของเมนวิล วัตถุทรงกลมสีขาวจำนวนมากลอยเข้ามาทั่วทั้งห้อง
“นี่มันอะไรหว่า?” “นั่นน่ะดิ? แล้วมันลอยได้ไง?” “อร่อยรึเปล่าเนี่ย?”
ที่หน้ารูระเบิดของกำแพง คิลเก้และทาบาสะยืนอยู่ ลังไม้วางอยู่ตรงหน้า ‘อุปกรณ์’ ที่อาจารย์แบกมาพองขึ้นเป็นทรงกลมและลอยเข้าไปด้านในด้วยลมร้อนจากพลังที่ส่งผ่านปลายคทาในมือของเด็กสาวผมแดง เธอยกคทาขึ้น แล้วสะบัด
บอลลูนอากาศที่บรรจุดินประสิวไว้ระเบิดติดต่อกันเหมือนเสียงประทัด ส่องแสงจ้าทั่วทั้งบริเวณ แถมยังมีควันโขมง คนที่อยู่ข้างในต่างยกมือขึ้นกำบังตาที่พร่ามัวกันจ้าละหวั่น
“ตอนนี้ล่ะ!” เสียงสั่งการดังขึ้นที่ใต้บันไดกลาง โคลเบลท์ หลุยส์ และเอ็กซ์วิ่งออกมา ทาบาสะกับคิลเก้ก็วิ่งผ่านรอยแตกกำแพงเข้ามาเช่นกัน
“เป้าหมายของเราคือช่วยทุกคนออกมา! อย่าปะทะกับศัตรูเด็ดขาด!”
“ค่ะ!/ครับ!”
สองสาวคู่ดูโอ้ร่ายเวทย์ผสานพายุเพลิงดันทหารฝ่ายคนร้ายถ่วงเวลาเอาไว้ เรปลิลอยด์หนุ่มก็ทำหน้าที่ได้ดีทั้งในการเปิดทางและปกป้องนายหญิง
“เอ็กซ์!” เสียงอัศวินสาวเรียกเขา เรปลิลอยด์หนุ่มเตะดาบที่อยู่ปลายเท้าส่งให้อีกฝ่าย
“ปลอดภัยดีนะครับ คุณอาเนียส” เอ็กซ์ยิ้มโล่งอก อาเนียสรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้ม
‘อีกแล้ว ความรู้สึกบ้านี่...!’ เธออยากจะกรีดเอาหัวใจที่เต้นแรงขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผลนี่ขว้างทิ้ง ถ้าทำได้น่ะนะ
เอ็กซ์ชะงัก เซนเซอร์จับความร้อนของเขาเพิ่งจะตรวจจับอุณหภูมิสูง และมันก็กำลังพุ่งไปที่...
“คุณอาเนียส! หลบเร็ว!”
อัศวินหญิงเห็นเปลวไฟพุ่งฝ่าควันตรงเข้ามาหาตัวเอง ใกล้จนรู้สึกถึงความร้อนที่จะแผดเผาเธอให้มอดไหม้
เปลวเพลิงแยกออกเป็นสองสาย ตัวเธออยู่ตรงกลางรอดพ้นจากรัศมีการเผาผลาญมาได้ การโจมตีหยุดลง ร่างสีฟ้ายืนอยู่ต่อหน้าเธอ
‘ค—ใครกัน?’ เธอไม่เคยเห็นชุดเกราะแบบนี้มาก่อน แต่ว่าใบหน้ากับดวงตาสีเขียวมรกตที่ดูลึกราวกับไร้ที่สิ้นสุดนั่น...
‘เอ็กซ์เหรอ!?’
เจ้าของเปลวเพลิงเดินออกมาจากกลุ่มควัน ชายผมตั้งหน้าแผลเป็นยืนตัวตรงไม่สะทกสะท้านกับระเบิดแสงและควันแม้แต่น้อย
“อะไรกันน่ะ? อุณหภูมินั่น... แกไม่ใช่มนุษย์นี่นา?”
‘เอ๋?’ อาเนียสตกใจ ‘ไม่ใช่มนุษย์...?’
‘ชายคนนี้ตามองไม่เห็น แต่จับตำแหน่งด้วยอุณหภูมิร่างกาย วิธีเดียวกับสัตว์เลื้อยคลาน’ นักรบสีฟ้าประเมินจากคำพูดและการที่ไม่รู้สึกรู้สากับระเบิดแสง ถึงจะดูเกินความจริงแต่ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นแล้ว
“เฮอะ! จะเป็นตัวอะไรก็ช่าง ข้าจะเผาให้เป็นเถ้าถ่านเลย!”
“ห้ามทำอะไรนักเรียนของฉันนะ!” เสียงตะโกนดังขึ้น ชายผมบางเดินถือไม้เท้าเข้ามาเผชิญหน้ากับหัวหน้าทหารรับจ้าง
“หือ?...อุณหภูมินี้มัน...!!” ดวงตาที่มองไม่เห็นของเมนวิลเบิกกว้าง ก่อนที่จะหัวเราะราวกับเสียสติ
“ฮ่าๆๆๆ!! ในที่สุด! ในที่สุดก็ตามหาเจอซะที! ไม่นึกว่าจะมาเป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนเวทย์มนต์! อสรพิษอัคคี!!”
หลุยส์ คิลเก้ แม้แต่ทาบาสะและเอ็กซ์ต่างก็ตกใจจนเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่
“อาจารย์โคลเบลท์คืออสรพิษอัคคี!?”
แต่ที่ถึงขั้นร่างกายเย็นเฉียบขนลุกชันคืออัศวินหญิง หัวหน้าหน่วยองครักษ์ และ...ผู้รอดชีวิตจากดังเกิลเทล
‘โคลเบลท์...อสรพิษอัคคี?...ศัตรู...ของพ่อกับแม่ แล้วก็ทุกคน...!’
โคลเบลท์จ้องหน้าศัตรูนิ่ง เหลียวหลังกลับไปสั่งนั่งเรียน
“พวกเธอรีบช่วยตัวประกันออกจากที่นี่ซะ ที่นี่ให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”
“อาจารย์โคลเบลท์!” คิลเก้ท้วง แต่เพื่อนของเธอห้ามเอาไว้ สามสาวปฏิบัติตามคำสั่ง
“อาจารย์โคลเบลท์ ให้เป็นหน้าที่ของผมดีกว่าครับ” เอ็กซ์จะรับเรื่องเอาไว้เองเพื่อความปลอดภัย แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ
“ขอโทษด้วยนะ แต่ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นฉันเท่านั้น” คำพูดและสายตาที่แน่วแน่ เรปลิลอยด์หนุ่มยอมถอยออกมา แต่เตรียมตัวจะเข้าไปช่วยทุกเมื่อ
หลุยส์แสดงความสามารถด้วยการร่ายเวทย์ปลดพันธนาการช่วยพี่สาวสองคนและนักเรียนคนอื่นๆ ได้สำเร็จ ฉายา ‘ศูนย์สนิท’ ของเธอไม่ได้หมายถึงเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการร่ายเวทย์อีกต่อไป
โคลเบลท์และเมนวิลเริ่มดวลเวทย์ ไฟสีปกติปะทะกับไฟสีฟ้าและสลายไป ปะทะและสลายไป ไม่มีใครเสียเปรียบใคร
อาเนียสยืนตัวชาอยู่กับที่ ‘โคลเบลท์...คือศัตรูของดังเกิลเทล!!’
มือกำดาบแน่น เธอร้องตะโกนวิ่งเข้าไปหาคู่แค้น ตวัดปลายดาบเล็งที่ต้นคอของชายผมบางที่ไม่ทันระวังตัว
...
“...ทำอะไรของนาย!?!” อาเนียสคำรามใส่นักรีบสีฟ้าที่เข้ามาขวางเธอเอาไว้ มือซ้ายรับคมดาบแต่กลับไร้บาดแผล
“อย่านะครับ คุณอาเนียส ถึงจะฆ่าอาจารย์โคลเบลท์ไป หมู่บ้านของคุณก็ไม่กลับมาหรอกนะครับ” เอ็กซ์พูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“หนอย! ยังไงฉันก็ต้อง...แก้แค้น ให้กับหมู่บ้านของฉัน!!” อาเนียสไม่ยอมถอย แต่ไม่ว่าจะออกแรงซักเท่าไรก็ดึงดาบให้หลุดจากมือของอีกฝ่ายไม่ได้ ไม่แม้แต่จะขยับด้วยซ้ำ
“อาเนียสคุง...” โคลเบลท์พูดหน้าเศร้า เธอมีสิทธิ์ที่จะฆ่าเขา ด้วยความผิดที่เขาก่อ
...
“คุยกันต่อหน้าข้า จะประมาทเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!” เมนวิลแสยะยิ้ม เปลวไฟขนาดใหญ่จากปลายตะบองเหล็กโหมกลืนร่างของทั้งสาม อัศวินหญิงถูกผลักกระเด็นออกมา เหลือแต่เรปลิลอยด์หนุ่มกับอาจารย์
“ฮ่าๆๆ! เป็นยังไงล่ะหัวหน้า! ไฟของข้าที่ใช้เวลาขัดเกลาถึงยี่สิบปี! ก้าวล้ำหัวหน้าไปแล้ว!!” เมนวิลหัวเราะอย่างสะใจ แว้บหนึ่งที่คิดว่าตัวเองได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งสมใจปรารถนาแล้ว แต่แว้บหนึ่งต่อมากลับต้องเจอกับสีฟ้าแห่งความหวาดกลัว
“อ๊ากกกกกกก~!!!” เมนวิลร้องลั่น ความร้อนที่แผดเผาเขาอยู่นี้ไม่ต่างจากเมื่อยี่สิบปีก่อน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่พัดผ่าน เขากำลังจะกลายเป็น...เถ้าถ่าน...
“หนอย...อย่าคิดว่าข้าจะยอมแพ้แค่นี้นะ!!” เมนวิลสะบัดตะบอง เปลวเพลิงสีฟ้าที่แผดเผาเขาสลายหายไป เกิดสายเพลิงหมุนวนรอบหัวตะบองที่ชูขึ้นสูงกลายเป็นพายุเพลิงขนาดใหญ่
“ทาบาร่า บารู อิค วินเด้ ราเว่! เตรียมตัวให้ดีเถอะ ถึงเวลาตายของ—!”
ฉึก!
“ของแกน่ะสิ!”
ดาบเหล็กแทงทะลุร่างของเมนวิลจากด้านหลัง เลือดสีแดงเปรอะเปื้อนคมดาบเงาวับ ร่างของผู้ใช้เพลิงค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น ชีวิตดับหายไป อาเนียสดึงดาบออกจากร่างไร้วิญญาณและเดินเข้าไปหาชายสองคนที่ยืนอยู่
โคลเบลท์ในสภาพที่ชุดคลุมไหม้เป็นจุดๆ ทรุดลงกับพื้น เอ็กซ์ประคองเอาไว้ สามสาวที่ช่วยตัวประกันเสร็จรีบวิ่งเข้ามาดูอาการ
“อาจารย์โคลเบลท์!” ‘ไม่ได้การ ชีพจรเต้นช้าผิดปกติ ถ้าขืนเป็นแบบนี้...’ เรปลิลอยด์หนุ่มนึกหาทางแก้อย่างร้อนรน
อัศวินหญิง...ไม่ได้ทำอะไร เพราะมัวแต่ตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏใต้เสื้อคลุมที่ไหม้ รอยแผลเป็นที่ด้านหลังใต้คอซีกซ้าย
เด็กหญิงผมสีบลอนด์ทองลืมตาขึ้น ผู้ชายคนหนึ่งแบกเธอขึ้นหลังเดินผ่านทะเลเพลิงที่แผดเผาหมู่บ้านของเธอ มองเห็นแผลสดที่มีเลือดไหลอยู่ที่ใต้คอซีกซ้ายอยู่ต่อหน้าในระยะใกล้
“ม...ไม่จริง...” อาเนียสรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่มันยิ่งทำให้เธอสับสน “ทำไม...ทำไมแกถึงช่วยฉันไว้...!”
โคลเบลท์รู้มาตั้งแต่ต้นว่าอัศวินหญิงเป็นใคร เค้นเสียงตอบอย่างแหบแห้ง
“เพราะว่าฉัน...รู้สึกตัว...ไม่มีโรคระบาดอะไรทั้งนั้น...”
ชายหนุ่มยืนมองหมู่บ้านที่กลายเป็นทะเลเพลิงด้วยมือของตัวเอง สมาชิกหน่วยคนหนึ่งเข้ามารายงาน
“มันแปลกๆ นะครับ ไม่มีร่องรอยของโรคระบาดเลยซักนิด”
“ว่ายังไงนะ!?” ชายหนุ่มคนนั้นวิ่งฝ่าเปลวไฟเข้าไปโดยไม่ฟังคำทัดทานของลูกน้อง
เสียงร้องไห้...เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ นอนร้องไห้อยู่กลางวงล้อมเพลิง เขาตรงเข้าไปอุ้มเด็กคนนั้นขึ้นมา
“ฉันได้...รู้สึกถึงบาปเป็นครั้งแรก...เคยคิดว่าการทำตามคำสั่ง...เป็นเรื่องที่ถูกต้อง...แต่มันไม่ใช่...! จะคำสั่งหรือสงคราม...การฆ่าคนก็คือบาป...” ในแต่ละถ้อยคำที่เปล่งออกมา ชีพจรของโคลเบลท์ก็เต้นอ่อนลงทุกที และทำให้เอ็กซ์รู้สึก...รังเกียจ...รังเกียจที่เขาลืมความรู้สึกของ ‘บาป’ นั้นไปนานแล้ว...ไม่สิ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนั้น
‘ไม่มีเลยเหรอ!? สิ่งที่จะช่วยอาจารย์โคลเบลท์ได้น่ะ!’ เอ็กซ์ไล่ดูคลังข้อมูลจนละเอียดทุกบิท...แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้...
“อาเนียสคุง...เธอมีสิทธิ์ที่จะฆ่าฉัน แต่ว่า...ขอให้นี่เป็นครั้งสุดท้าย...แล้ว...อย่าฆ่าใครอีกเลย...นะ...” ชายผู้ลมหายใจริบหรี่หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“...คิดว่าพูดแบบนี้แล้ว...ฉันจะยกโทษให้ยังงั้นเหรอ!?!” อัศวินหญิงเอ่ยอย่างเคียดแค้น ยกดาบขึ้นสูง แต่ก่อนจะได้แทงลงมาก็ถูกนักรบสีฟ้าห้ามเอาไว้
“คุณอาเนียส ไม่ต้องแล้วล่ะครับ...” เสียงของเรปลิลอยด์หนุ่มเอ่ยอย่างเหนื่อยอ่อน
ชีพจร ความถี่ : 0; ความดันโลหิต : 0/0
น้ำตาของหลุยส์ไหลอาบแก้ม ขอบตาของคิลเก้มีน้ำคลอ ไม่นานก็ไหลตามออกมา ทาบาสะก้มหน้า เส้นผมบังดวงตาเอาไว้
อาเนียสกรีดร้องและปักดาบลงทะลุพื้นก่อนจะทรุดลงไปคุกเข่า กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ
เอ็กซ์มีสีหน้าสลดใจ แววตาเศร้าหมอง
‘อีกแล้ว...ปกป้องเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว...’ เอ็กซ์มองใบหน้าที่ดูสงบของชายผู้เป็นอาจารย์ที่แสนดีของนักเรียน
‘อาวุธและชุดเกราะที่มีอยู่มากมาย ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็สามารถกำจัดได้จนหมดสิ้น... แต่เวลาที่คนใกล้ตัวกำลังจะตาย กลับทำได้แค่มอง...’ มานึกดูแล้ว ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาปกป้องอะไรได้บ้าง? เพื่อนพ้องล้มหายตายจาก โลกถูกทำร้ายจนบอบช้ำ มนุษย์และเรปลิลอยด์เกือบจะสิ้นสูญ แม้แต่เพื่อนรักที่อยู่ใกล้ตัวเขาก็ปล่อยให้ตายไปถึงสองครั้ง แล้วยังต้องฝากสันติสุขของโลกที่ตัวเองไม่เคยรักษาได้สำเร็จให้กับเพื่อนคนนั้นอีก
‘ศักยภาพไร้ขอบเขตที่เรามี...เราใช้มันเพื่อทำลายมาโดยตลอด...และก็คงจะใช้ได้เพียงแค่ทำลายตลอดไป...’
ความคิดเห็น