ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 : ดูเอล!(ผิดเรื่องแล้วมั้ง?)
ลานเวสทรี่
ผู้คนต่างมารวมตัวกันเพื่อดู ‘โชว์’ ชนชั้นสูงสั่งสอนสามัญชนต่ำต้อย ทุกคนต่างพากันตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ ยกเว้นสองคน แน่นอนว่าสองคนนั้นคือสามัญชนต่ำต้อยและผู้เป็นนาย
“รีบไปขอโทษกีซเร็วซี่! ถ้าเป็นตอนนี้หมอนั่นอาจจะยกโทษให้!” หลุยส์ตื๊อให้อสูรรับใช้ของเธอไปขอโทษ...ทั้งที่ต้นเหตุคือเธอเอง... เธอไม่อยากคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าอสูรรับใช้สามัญชนผู้ไร้พลังของเธอต้องเผชิญหน้ากับชนชั้นสูงผู้เปี่ยมด้วยพลังเวทย์มนต์
“...การประลองหมายถึงการท้าและตกลงต่อสู้กันอย่างยุติธรรม ถ้าถอนตัวตอนนี้ย่อมถือเป็นการเสียมารยาทอย่างร้ายแรง ใช่รึเปล่าล่ะครับ?” เอ็กซ์พูดอย่างสุภาพ แต่ประโยคนี้ขาดรอยยิ้มอย่างที่เขามีในครั้งก่อนๆ
“นายไม่รู้รึไงว่าสามัญชนอย่างนายถึงจะถูกอัดจนปางตายก็ไม่มีใครสนใจหรอกนะ!” หลุยส์ไม่ได้พูดเกินความจริงเลย แม้ว่าอาจารย์อาจจะไม่เห็นด้วย แต่ ‘ระบบชนชั้น’ นั้นเป็นอย่างนี้จริงๆ
“...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะครับ หลังจากที่โชว์ปาหี่นี่จบลง ผมหวังว่าคุณจะเห็นผมเป็นมนุษย์แทนที่จะเป็นสุนัข...” เอ็กซ์พูดจบก็เดินออกไปประจันหน้ากับคู่ประลอง
“เตรียมใจรับความอับอายไว้แล้วสินะ เจ้าสามัญชน แต่ถ้าอ้อนวอนล่ะก็ฉันจะออมมือให้หน่อยก็ได้นะ~” กีซกับคนดูบางส่วนหัวเราะอย่างขบขัน ขณะที่เอ็กซ์ไร้สีหน้าใดๆ
“ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะกีซ! กฎห้ามประลองก็มีอยู่ไม่ใช่เหรอ!?” เมื่อเห็นว่าอสูรรับใช้ของตัวเองดื้อเธอจึงเข้าทางอีกฝ่ายแทน
“กฎห้ามชนชั้นสูงไม่มีผลต่อการประลองกับสามัญชน อย่าบอกนะว่า หลุยส์...เธอตกหลุมรักเจ้าสามัญชนเข้าแล้วน่ะ?”
ผู้ถูกกล่าวหา(?)แก้มขึ้นสีระเรื่อทั้งเพราะความอายและความโกรธพร้อมกับทำท่าจะโวยวาย
“ไม่มีเรื่องอย่างนั้นหรอกครับ ถ้าคุณจะช่วยเร่งประลองให้มันจบๆ ไปจะเป็นพระคุณมากเลยครับ” เอ็กซ์พูดขึ้น เขาเริ่มจะทนแรงกดดันไม่ไหว ไม่ใช่จากคนรอบข้างแต่จากตัวเขาเอง
“ได้ยินแล้วนี่หลุยส์ คนไม่เกี่ยวถอยไปดีกว่านะ” กีซดันหลุยส์ออกไปก่อนจะชูกุหลาบแดงที่ถือติดตัวอยู่ตลอดไปข้างหน้า
“ฉัน โลหะสัมฤทธิ์ กีซ” กุหลาบกลีบหนึ่งร่วงลง เกิดแสงสว่างและรูปปั้นทองแดงปรากฏขึ้นจากพื้น มีลักษณะเป็นทหารหญิงสวมเกราะถือหอก
“บรอนซ์โกเลม วัลคีรี่จะเป็นคู่ต่อสู้ของนาย”
เอ็กซ์ไม่แสดงท่าทีตกใจใดๆ เขาพอจะรู้อยู่แล้วว่าที่นี่มีบางสิ่งที่โลกของเขาไม่มี และที่แน่ๆ คือพลังในการอัญเชิญอะไรบางอย่าง
“ไม่สู้กับผมด้วยตัวเอง คิดไว้ไม่ผิดจริงๆ...” เอ็กซ์พูดขึ้นแต่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ
“นี่ล่ะคือความแตกต่างระหว่างสามัญชนที่ไม่มีเวทย์มนต์อย่างนายกับชนชั้นสูงอย่างฉัน จัดการเลย!”
บรอนซ์โกเลมพุ่งตรงเข้ามาหาเอ็กซ์ราวกับมีชีวิต เป็นความเร็วที่ไม่ธรรมดาทีเดียว แต่น่าเสียดาย แม้จะอยู่ในชุดยาวรุ่มร่ามแต่สำหรับนักรบสีฟ้าแล้ว ความเร็วเท่านี้เขาเจอมาเกลื่อน
เปรี้ยง!
หมัดโลหะถูกรับเอาไว้ด้วยฝ่ามือที่ผิวทำจากยางสีขาวชนิดพิเศษ นักรบสีฟ้าไม่แสดงสีหน้าใดๆ ขณะที่เขาเดินหน้าดันตุ๊กตาโลหะสัมฤทธิ์เข้าไปหาผู้อัญเชิญ ใช้มืออีกข้างบีบท่อนแขนของโกเลมจนแหลกเป็นเศษโลหะท่ามกลางสายตาตกใจของนักเรียนรอบข้าง
เอ็กซ์ทำการพิสูจน์ความไร้ค่าของโกเลมต่อหน้าเขาในขั้นสุดท้ายด้วยการใช้มือเปล่าฉีกกลางลำตัวโกเลมจนขาดเป็นสองท่อน หลายคนร้องอย่างหวาดผวาขณะที่เอ็กซ์ยังคงเดินหน้าเข้าไปหากีซซึ่งหน้าซีดตัวสั่น ถ้ามองในแง่ของนามธรรม คนรอบข้างคงจะเห็นตาสองข้างของเอ็กซ์ส่องแสงสีแดงราวกับเครื่องจักรไล่ล่าสังหาร
“ย—ยอมแพ้!” กีซเข่าอ่อนล้มหงายหลังลงหลังจากพูดจบ
เอ็กซ์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มผมทองพร้อมกับจ้องมองเขาด้วยแววตาที่แฝงด้วยความโกรธ เขาไม่เข้าใจเลยซักนิดว่าทำไมมนุษย์ถึงได้ชื่นชอบการต่อสู้ที่สร้างความสูญเสียนัก ความทรงจำของสงคราม สิ่งที่เขาได้เจอมาจากในโลกของเขาเริ่มจะปนกับที่นี่
“ทีนี้เห็นรึยัง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ว่าการต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้อวดความสามารถของตัวเองหรือเอาไว้ดูแคลนผู้อื่น อย่าได้หยิ่งทะนงในพลังอำนาจที่ตัวเองมีนัก คนที่แข็งแกร่งกว่ายังมีอยู่เสมอ การใช้พลังในทางที่ไม่ถูกต้องจะทำให้เสียใจภายหลัง”
เอ็กซ์เทศนาแม้เขาจะไม่รู้สึกอยากอะไรนัก จิตใจที่แตกหักของเขาบอกว่าชีวิตมนุษย์พวกนี้จะเป็นยังไงก็ช่างด้วยซ้ำ แต่มันคงเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว และเขาไม่ได้พูดขึ้นลอยๆ ที่โลกของเขาตัวอย่างมีให้เห็นเกลื่อนกลาด เขาไม่ภูมิใจแม้แต่น้อยที่จะบอกว่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่ด้วยมือของเขา...
กีซนั่งนิ่งมองชายผู้เอาชนะเขาในการประลองด้วยตาที่เบิกกว้าง เอ็กซ์พูดจบก็นิ่งไปครู่หนึ่งราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาหลุยส์ที่ยังตกใจไม่หาย และกึ่งบังคับดึงแขนให้เธอเดินตามไป และเปลี่ยนเป็นอุ้มเมื่อเห็นว่าขาของอีกฝ่ายสั่นจนแค่ยืนยังไม่ไหว ทั้งหมดอยู่ในสายตาของกีซ ความชื่นชมเอ่อล้นขึ้นมาในใจของเขา
จากมุมมองของกีซผู้มีอารมณ์สุนทรีย์ เหตุการณ์ทั้งหมดราวกับว่าเอ็กซ์เพิ่งจะรับบทอัศวินผู้กล้าหาญช่วยเหลือหญิงสาวผู้เลอโฉมให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน
‘ถ้าเปลี่ยนจากชุดนักบวชเป็นเกราะและผ้าคลุม แล้วมีฉากหลังเป็นดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าล่ะก็คงจะเป็นซีนที่เพอร์เฟ็คที่สุด!’
(S: เอิ่ม...เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย?] R:บอกตามตรง ไม่รู้เหมือนกัน เขียนตามเขา)
หลายนาทีต่อมา ห้องของหลุยส์
“เจ้าอสูร—เอ่อ...นายชื่ออะไร?” หลุยส์ก้มหน้ามองพื้น สีชมพูระเรื่อขึ้นที่แก้มของเธอ ความอายที่จนป่านนี้เธอก็ยังไม่รู้ชื่อของเด็กหนุ่มตรงหน้า ยังดีที่เขากลับมามีท่าทางเป็นมิตรอีกครั้ง แม้จะยังหลงเหลือบรรยากาศหนักอึ้งอยู่บ้าง แต่เธอก็กล้าพูดกับเขาแล้ว
“ผมชื่อ [เอ็กซ์] ครับ”
“เอ็กซ์? ตัวอักษรน่ะเหรอ?”
“แค่นี้ก็พอแล้วครับ ชื่อที่พ่อของผมตั้งให้” เอ็กซ์มีแววตาเลื่อนลอยขึ้นมา เป็นครู่หนึ่งที่ความทรงจำในอดีตที่แสนจะยาวนานกลับคืนมา
“แต่ถ้าต้องการชื่อยาวๆ ก็คงจะเป็น [เซเวียร์ ไลท์] ล่ะมั้งครับ” นามสกุล แน่นอนว่าเป็นนามสกุลของผู้เป็น ‘พ่อ’ แต่ Xavier ข้างหน้าเขานำมาจากสิ่งที่คนรอบข้างมักจะเรียกเขาอยู่เสมอว่าเป็นผู้กอบกู้(Savior)
“เซเวียร์ ไลท์?”
“คุณสงสัยทุกอย่างที่ผมพูดเลยเหรอครับ?” เอ็กซ์ยิ้มขณะที่สีชมพูบนแก้มของหลุยส์เข้มขึ้นด้วยความเขินอาย
“เอ็กซ์ก็ได้...แต่ฉันอยากจะถามว่า...ทำไมนายถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น” เธอถามและรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ความกังวลใจฉายบนใบหน้าของเธอ
เอ็กซ์เข้าใจ ในโลกของเธอชนชั้นสูงที่มีพลังเวทย์คงจะแข็งแกร่งมากซะจนการพ่ายแพ้อย่างง่ายๆ กับคู่ต่อสู้ที่เป็น ‘สามัญชน’ ซึ่งพวกเธอต่างดูแคลนคงจะแปลกประหลาดมาก
“มันก็มีเหตุผลหลายอย่างนะครับ แต่ถ้าจะให้คุณเข้าใจง่ายๆ ก็คงเป็น ‘เพราะผมไม่ใช่มนุษย์ และไม่ได้มีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้’ ให้เปรียบเทียบก็คงจะเป็น...เผ่าพันธุ์ที่เหมือนกับโกเลมตัวนั้นบวกด้วยความสามารถในการตัดสินใจและมีจิตใจเป็นของตัวเองเหมือนกับมนุษย์ล่ะมั้งครับ”
หลุยส์มีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัด เรื่องพรรค์นี้เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน (R:แหงสิ ซีรี่ส์นี้ไม่ใช่ของแคปคอมนี่นา)
“ถ้าอย่างนั้น พวกนาย...แข็งแกร่งแบบนี้ทั้งหมดเลยเหรอ?” หลุยส์ถาม เธอยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง โดยเฉพาะส่วน ‘ไม่ได้อยู่ที่โลกนี้’
“ไม่หรอกครับ ผมเป็นกรณีพิเศษ ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดีเหมือนกัน พ่อของผม...และศัตรูของผมต่างก็บอกว่าผมมี [ศักยภาพไร้ขอบเขต] แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่มีทางเข้าใจหรอกครับ”
หลุยส์อารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อเด็กหนุ่มตรงหน้าบอกว่าเธอไม่มีทางเข้าใจ มันจี้ใจดำของเธอ
“หมายความว่ายังไง? นายคิดว่าฉันโง่มากใช่มั้ย!?” เอ็กซ์เห็นท่าทางก็รู้ว่าเด็กสาวตรงหน้าเขาเกลียดการถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคนที่ไม่รู้อะไร
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ คุณอาจจะเป็นนักเรียนดีเด่นของที่นี่ก็ได้ผมไม่รู้ แต่คนที่ทุ่มเทชีวิตศึกษาผมก็ยังไม่เข้าใจว่าพ่อของผมสร้างอะไรขึ้นมา ดังนั้นคนที่อยู่ที่นี่จะเป็นใครก็คงไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งนั้นล่ะครับ” เอ็กซ์ชี้แจงเหตุผล จริงแท้แน่นอน เพราะที่นี่ไม่คุ้นเคยกับวิทยาศาสตร์เลย
หลุยส์มองหน้าเอ็กซ์นิ่ง น้ำเสียงตอนที่บอกว่าใครก็ไม่มีทางเข้าใจเขาได้นั้นจริงจังมาก ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ อสูรรับใช้ของเธอไม่ได้คิดว่าเธอเป็นพวก ‘ไม่ได้เรื่อง’ เหมือนที่คนอื่นคิด
“งั้นผมขอถามบ้างได้รึเปล่าครับ?” เอ็กซ์ถาม หลุยส์พยักหน้า
“นักเรียนคนอื่นเรียกคุณว่า [หลุยส์ศูนย์สนิท] หมายความว่ายังไงเหรอครับ?” เอ็กซ์ถามอย่างสงสัย แต่เด็กสาวดูเหมือนจะตัวลีบลงและลีบลง
‘ถ้าเขารู้ว่าเราใช้เวทย์มนต์จุดเทียนยังไม่ได้ก็ต้องคิดว่าเรามันศูนย์สนิทเหมือนทุกคนน่ะสิ!’ หลุยส์ไม่รู้ตัวเลยว่าขณะที่เธอกังวลอยู่นี้ ตัวเธอก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแบบในอนิเมะเบาสมอง
“ผมถามเพราะเด็กหนุ่มที่ชื่อกีซคนนั้นแนะนำตัวว่าเป็น ‘โลหะสัมฤทธิ์’ ผมก็เลยคิดว่าศูนย์สนิทของคุณอาจจะหมายความว่าคุณใช้เวทย์มนต์ทำลายล้างเป็นหลัก” เอ็กซ์อธิบายข้อสันนิษฐานจบก็ตกใจที่หลุยส์ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“ค—คนอื่นเรียกฉันว่าศูนย์เพราะ...ฉันมันห่วย...ทำอะไรก็ไม่เคยถูก ร่ายเวทย์ก็ไม่เคยสำเร็จซักครั้ง...” ใบหน้าหลุยส์แดงก่ำขณะที่น้ำใสเริ่มจะปริ่มที่ขอบตา
“ไม่จริงหรอกครับ เพราะที่แน่ๆ คุณใช้เวทย์มนต์ที่น่าทึ่งที่สุดได้สำเร็จ คือการอัญเชิญผมมาที่นี่” เอ็กซ์ยิ้มเมื่อเห็นหลุยส์ดูสดใสขึ้นนิดหน่อย
“หลายคนที่นี่พูดกรอกหูผมว่าอสูรอัญเชิญจะเหมาะสมกับผู้ที่อัญเชิญมาอย่างนั้นสินะครับ?” หลุยส์พยักหน้า
“ผมมี [ศักยภาพไร้ขอบเขต] ถ้าอย่างนั้นคุณเองก็คงต้องเหมือนกัน”
หลุยส์แทบจะยิ้มแก้มปริเมื่อเอ็กซ์ดูมีความเชื่อมั่นในตัวเธอมากมายเหลือเกิน ทั้งที่ตั้งแต่เขาถูกอัญเชิญมาก็ยังไม่เคยแสดงท่าทีว่าชอบหรือเคารพเธอในทางไหนเลย แต่ความเครียดที่เธอสะสมมาเป็นแรมปีย่อมไม่หายไปง่ายๆ เพียงแค่นี้
“แต่ฉันไม่เคยร่ายเวทย์มนต์สำเร็จเลยซักครั้งนะ...”
“แรกสุดผมก็เป็นแค่คนอ่อนแอ แค่คนไม่ได้เรื่องในสายตาของคนรอบข้าง แต่จู่ๆ วันหนึ่งผมก็กลายเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้โลกได้ คุณเองก็เช่นเดียวกัน”
หลุยส์รู้สึกอบอุ่นที่ภายในจนไม่ทันได้สนใจส่วน ‘วีรบุรุษผู้กอบกู้โลก’ แต่ก็ดีแล้ว เอ็กซ์ก็ไม่อยากจะพูดถึงนักหรอก
“ร่าเริงไว้นะครับ ‘นายหญิง’ ”
หลุยส์จ้องหน้าเอ็กซ์เหมือนเขาเพิ่งพูดภาษาต่างดาว
“ในฐานะอสูรรับใช้ผมอยากจะขออะไรคุณอย่างนึง” เอ็กซ์รอคำอนุญาต และหลุยส์ก็พยักหน้า
“ผมจะพยายามทำหน้าที่ในฐานะอสูรรับใช้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่...หลังจากวันนี้ไปแล้ว ผมจะต่อสู้เพื่อปกป้องคุณเท่านั้น นอกจากนี้แล้วผมขอปฏิเสธ แม้จะเพื่อป้องกันตัวก็ตาม” เพราะเขาเคยเลือกที่จะตายมากกว่าจะต่อสู้ต่อไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาก็ยังไม่เปลี่ยนใจ ที่นี่ไม่มีอิเร็กกูล่าร์ แต่มนุษย์ก็ยังต่อสู้กันเอง ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจ
“ทำไมล่ะ?” หลุยส์สงสัยตรงส่วน ‘แม้จะเพื่อป้องกันตัว’
“...ซักวันผมจะบอกครับ...” ‘ถ้าถึงตอนนั้นแล้วผมยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็...’
“เข้าใจแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทนที่วันนี้อสูรรับใช้รักษาเกียรติของผู้เป็นนายเอาไว้ได้! ฉันจะใจดีทำตามคำขอร้องของนาย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หัดเรียกชื่อของผู้เป็นนายบ้าง เข้าใจนะ!?” หลุยส์รักษามาดเดิมกลับมาได้ ทำให้เอ็กซ์ยิ้มออกมา
“ครับ หลุยส์”
‘ถ้าชีวิตเราจะยังไม่จบลง อยู่ที่นี่อาจจะได้พบก็ได้...สันติสุขที่เราไล่ตามอยู่ในความมืดมาแสนนาน’
--
แนะนำตัวละคร
กีซ เดอ กรามองต์
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
เพศ : ชาย
อายุ : 17 ปี
ส่วนสูง : 175 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ไม่ทราบ
ชอบ : ซูเฟล(เป็นเค้กชนิดหนึ่ง), แฟชั่นที่สง่างาม(ในสายตาตัวเองคนเดียว), “หญิงสาวผู้เลอโฉม”
เกลียด : เมื่อโดนจับได้ว่าจับปลาหลายมือ
ข้อมูล : ลูกชายคนที่สามของนายพลกรามองต์ และหวังจะตามรอยเท้าพ่อ แม้ว่าความที่ขาดประสบการณ์ในการรบจริงจะทำให้ดูเหมือนขี้ขลาดก็ตามแต่ความจริงเขาก็มีความกล้าหาญที่น่าชื่นชมอยู่ ชอบสาวๆ น่ารัก แม้ว่าจะมีคนที่รักจริงอยู่ก็ตาม
ฉายา ‘โลหะสัมฤทธิ์’ วิชาหลักๆ คือสร้างโกเลมโลหะสัมฤทธิ์ ตามฉายา และโกเลมมักจะมีรูปร่างแบบที่เรียกว่า ‘วิจิตรงดงาม’ อะไรประมาณนั้น
อสูรรับใช้คือตุ่นยักษ์ เวอร์ดันดี้
--
R:”เป็นการต่อสู้ที่งดงาม...”
S:”เดี๋ยวสิ! ทำไมหมอนั่นทำลายบรอนซ์โกเลมได้ง่ายๆ เลย!? ในอนิเมะฉันถูกต่อยกระเด็นเชียวนะ!”
R:”พลังหมัดของมนุษย์ทั่วๆ ไป อย่างเก่งก็สองร้อยกิโลกรัม แต่พลังหมัดของเรปลิลอยด์น่ะเป็นตันนะเฟ้ย”
S:”แต่ไม่ค่อยมีคนคอมเม้นท์เลยนะ?”
R:”ธรรมดา ฉันอินดี้ขึ้นมาไม่สนใจคนอ่านนี่นา แถมยังไม่ใช่ซีรี่ส์ที่ดังอะไรนักหนาด้วย ฉันแค่แต่งให้ตัวเองอ่าน”
DX:”พูดได้ดี...ดีแต่พูด...”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น