14 เมษายน 2555 เวลา 09.05 น. ณ ชายหาดนามิโมริ
หลังจากที่เมื่อวานมีพิธีเปิด(แบบไม่เป็นทางการซักนิด) และแข่งกันสองแมทช์ อรุณและอัสนี ก็เป็นอันจบวันแค่นั้น ทุกคนต่างรับประทานมื้อเที่ยงกันอย่างสุขี บาเรียก็คลายออกทำให้คนพลุกพล่านอีกครั้ง ช่วงบ่ายก็พักผ่อนเที่ยวเล่นกันอย่างคนมาทะเล สานสัมพันธ์ระหว่างทีมนามิโมริกับทีมวาเรีย...ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะ? แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีใครต้องขึ้นรถฉุกเฉิน(ตามที่คาดเอาไว้แต่แรก)
หาดนามิโมริอยู่ใกล้ๆ ทุกคนจึงกลับไปพักผ่อนที่บ้าน โดยตามกำหนดการต้องกลับมารวมกันที่เดิมเวลาเดิมในวันถัดมา ซึ่งก็คือวันนี้ และขณะนี้ก็กำลังจะเริ่มศึกชิงแหวนสงกรานต์แมทช์ต่อไป ทุกคนต่างแต่งตัวในชุดชายหาด เพราะวันนี้...อากาศมันร้อน...
สึนะยืนมองขณะที่โกคุเดระกับเบลเฟกอลก้าวเข้าประจันหน้ากัน สายตาของเขาเลื่อนไปทางชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ บอสของวาเรีย
คนคนนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นตัวแทนแหวนเมฆาของฝั่งวาเรีย สึนะคิดในใจขณะมอง OC ของผมจากฟิค [สัปปะรดน้อยกับปีศาจ] ซึ่งจบไปแล้ว [อาร์เช่ ลูนาเอดจ์]
-ย้อนอดีตกันเล็กน้อย-
นาย...! มาที่นี่ได้ยังไง!? สึนะตกใจที่เห็นคนคุ้นเคย(คุ้นเคยในฐานะเป็นคนที่เคยจ้องจะฆ่าตัวเอง)
ฉันเรียกมาเองแหละ รีบอร์นตอบ นี่เป็นเรื่องภายในแฟมิลี่ แน่นอนว่าต้องมีเจ้าหน้าที่ของเซเดฟเข้ามาสังเกตการณ์
เซเดฟ?
ที่จริงอิเอมิทสึกับบาจิลต้องมา แต่เจ้าพวกนั้นไปเล่นสงกรานต์ที่ประเทศไทย ก็เลยส่งอาร์เช่มาแทน รีบอร์นอธิบาย แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในหน้าที่ของผู้นำองค์กร(อุตส่าห์สั่งลูกน้องให้มาดู)
แล้วโอกาสมันก็พอเหมาะ โกล่า มอสก้าเดี้ยงไปตั้งแต่ชาติที่แล้ว ตำแหน่งเมฆาของวาเรียว่าง ฉันก็เลยโยนหน้าที่นี้ให้เจ้าลูกชายซะเลย เพื่อความบันเทิง(ส่วนตัวคนเขียน) ผมอธิบายเสริมส่วนสำคัญ
หา!?
-กลับสู่ปัจจุบัน-
แมทช์ของแหวนวายุนี้จะต่างจากแมทช์อื่นนิดหน่อย ตัวแทนทั้งสองฝ่ายจะมีมิเตอร์ห้อยติดตัวคนละอัน เข็มมิเตอร์จะขยับตามปริมาณน้ำที่ถูกตัวผู้ถือ เข็มมิเตอร์ของใครเลื่อนไปจนสุดฝั่งก่อนจะถูกตัดสิทธิ์และเป็นฝ่ายแพ้ สำหรับอุปกรณ์ เพราะคอนเซปท์ของวายุคือ จู่โจมดั่งพายุที่โหมกระหน่ำ หรืออะไรประมาณนี้ เราจึงอนุญาตให้ใช้อาวุธตามถนัด เพียงแต่จางนีนิจะปรับปรุงให้เป็นเวอร์ชั่นสงกรานต์
โกคุเดระหยิบเฟลมแอโรว์(กะโหลกติดแขน)ซึ่งเป็นอาวุธกล่องชิ้นแรกของเขาขึ้นมาติดไว้กับแขนซ้าย ส่วนเบลเฟกอลถือมีดหลายเล่มเอาไว้ในสองมือพลางยิ้มน่าขนลุก แน่นอนว่าอาวุธทั้งสองต้องเป็นเวอร์ชั่นสงกรานต์
ไม่มีการออกนอกเขตสนาม ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งวายุ เริ่มได้!
เริ่มก่อนได้เปรียบ! รับไปซะไอ้เจ้าชายโรคจิต! โกคุเดระเปิดฉากด้วยการยิงกระสุนออกมาจากปากหัวกะโหลกเหมือนปกติ เพียงแต่เป็นสายน้ำแทนที่จะเป็นไฟดับเครื่องชน
เบลเฟกอลตอบโต้ด้วยการปามีดเลียดสายน้ำสวนกลับไป ตัวเองโดนกระสุนน้ำเข้าไปเต็มๆ ขณะที่มีดสงกรานต์(?)เฉือนโดนแขนขวาของอีกฝ่าย
มิเตอร์ของทั้งคู่ขยับพร้อมๆ กัน ของเบลเฟกอลเลื่อนไปถึงหนึ่งในสามขณะที่ของโกคุเดระเลื่อนไปเพียงหนึ่งในแปด
โอ๊ย! นี่มัน! โกคุเดระกุมแขนที่โดนบาด ฝ่ามือเขาเปื้อนเลือดจากบาดแผล
ชิชิชิ~ เลือดก็เป็นของเหลว ถ้างั้นเจ้าชายจะให้แกนอนอาบเลือดต่างน้ำหมดสภาพแล้วรับแหวนไปซะเลย~ เบลเฟกอลหัวเราะน่าขนลุกสมฉายา เจ้าชายนักเชือด
...เฮ้ย เบลเฟกอล ผมเรียกเสียงเขียวจากที่นั่งผู้ตัดสิน
จริงอยู่ที่มิเตอร์ขยับไม่ว่าของเหลวอะไรจะโดนตัวผู้ถือก็ตาม แต่ว่า... ผมหยิบ มิซไซล์ ลันเชอร์ ออกมาจากที่ไหนซักแห่งเหมือนกับทอนฟาของฮิบาริ เคียวยะ ก่อนจะยกขึ้นเล็ง
แต่เมื่อวานฉันบอกไปแล้วนะเฟ้ยว่าสำหรับสงกรานต์ ความรุนแรงเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่เข้าใจรึยังไง ไอ้องค์ชายสติแตก!!
ซูม ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! (ควันตลบ)
มิซไซล์ทั้งสี่นัดโดนเป้าหมาย มิชชั่นคอมพลีท!
มิชชั่นคอมพลีทกับผีอะไรเล่า! ไหนบอกว่าไม่เอาความรุนแรงไง! = =;!! สึนะโวย
มิซไซล์สงกรานต์หรอกเฟ้ย ไอ้ควันๆ น่ะไอน้ำ แล้วคนโดนก็ไม่เป็นอะไรมากกว่าเปียกม่อล่อกม่อแลก
ไอน้ำจางลง เบลเฟกอลยืนเปียกม่อล่อกม่อแลก สภาพไม่เหมือนเป็นเจ้าชายซักนิด
เอ้า เข็มมิเตอร์เลื่อนจนสุดแล้วแน่ะ ผมชี้ถึงผลที่ตามมา ซึ่งมันแหงอยู่แล้วถ้าโดนมิซไซล์น้ำเข้าไปขนาดนั้น
ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งวายุ ผู้ชนะคือโกคุเดระ ฮายาโตะ! ผมประกาศหน้าตายเหมือนทุกอย่างปกติดี
โว้ย!! โกงชัดๆ! เบลเปียกน้ำจากแกไม่ใช่รึไง! ผู้กองวาเรียพยายามเถียงแทนลูกน้อง
ก็ไม่เคยบอกนี่ว่าต้องเปียกน้ำจากฝีมือคู่แข่งเท่านั้น
...
>นามิโมริ 2 - 1 วาเรีย<
หลังจากการประกาศแบบเอาแต่ใจของคนเขียน(ผม) ก็ได้เวลาสำหรับแมทช์ต่อไป
ยอดฝีมือดาบจากสองฝั่งก้าวเข้าประจันหน้ากัน คนหนึ่งยิ้มเหมือนคนบ้าน ส่วนอีกคนหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนจะฟันทุกคนที่เข้าใกล้
แมทช์แหวนแห่งพิรุณนี้ ในเขตสนามจะเป็นแอ่งน้ำลึกแค่ข้อเท้า อนุญาตให้ใส่เครื่องป้องกันส่วนเท้าได้ตามสะดวก และการเปียกตั้งแต่ส่วนใต้เข่าลงไปจะไม่นับ ดาบน้ำที่ทั้งสองฝ่ายใช้นั้นส่วนใบดาบทำขึ้นพิเศษ(โดยจางนีนิ) ทำด้วยน้ำที่ขึ้นรูปดาบ ฟันสิ่งของต่างๆ ได้เหมือนดาบจริง ยกเว้นร่างกายของสิ่งมีชีวิต เมื่อสัมผัสจะกลับเป็นน้ำดังเดิม ฉะนั้นเล็งคอเล็งหัวกันให้เต็มที่
ยามาโมโตะกับสควอโล่ตั้งท่าของตัวเอง รอสัญญาณเริ่มการต่อสู้ และแล้วก็...
เริ่มได้!
ยามาโมโตะเปิดด้วยท่าพุ่งแทงจากระยะไกล เพลงดาบชิงุเระ โซเอน กงล้อพิรุณ
แน่นอนว่าสควอโล่ซึ่งเคยเห็นมาก่อนต้องหลบได้ ก้าวไปด้านข้างและฟันตัดลำตัวอีกฝ่ายซึ่งยังเหลือดีเลย์จากท่าพุ่งระยะไกล
ยามาโมโตะรู้ดีว่าจะต้องเป็นแบบนี้ พลิกดาบเข้ารับการโจมตีโดยไม่รอดีเลย์ร่างกายของตัวเอง เสียงดาบปะทะกันดังอื้ออึง เพราะเป็นแค่น้ำ (นึกถึงไลท์เซเบอร์ในสตารวอร์ส)
ทั้งสองรุกรับกันอยู่พักหนึ่ง สควอโล่เห็นเป็นจังหวะจึงเงื้อดาบขึ้นเหนือหัวและฟาดลงไปเต็มแรงในท่ากระแทกอาวุธ แอทแทคโก ดิ สควอโล่ ที่ใช้ส่งแรงสะเทือนทำให้กล้ามเนื้ออีกฝ่ายชา
...แต่เพราะมันเป็นน้ำ ไม่ใช่โลหะ ท่านี้จึงค่อนข้างไร้ค่า
เฮ้ย! อะไรฟะ!? สควอโล่ตกใจที่ไม่มีแรงกระแทกใดๆ ถูกส่งออกไปหาอีกฝ่าย
ยามาโมโตะเห็นช่องโหว่ชัดเจนก็จับดาบในท่ารุกท่าเดิมที่เคยใช้ได้ผลมาแล้วในศึกชิงแหวนครั้งก่อน กระบวนท่าที่แปด พิรุณกระหน่ำแทง ฟันต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงหลายครั้งรอบตัวผู้ใช้
สควอโล่ถีบเท้าถอยหลังสุดตัว มือขวายกดาบขึ้นกันส่วนใบหน้าเอาไว้ แต่เมื่อวางดาบลงตั้งหลักก็เห็นม่านน้ำที่อีกฝ่ายใช้ดาบยกสาดขึ้นมากั้นเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับเงาร่างของอีกฝ่ายอยู่บนผิวหน้า
ลูกไม้เดิมใช้กับฉันไม่ได้หรอกเฟ้ย! เงาสะท้อนของแกในกระบวนท่าที่เก้า ฝนสะท้อนเงา ตัวจริงแกอยู่ตรงนี้! สควอโล่หันกลับไปด้านหลังเพื่อตอบโต้...ความว่างเปล่า?
ฮะๆๆ เปล่าซะหน่อย ^ ^ ม่านน้ำตกลงสู่พื้นแต่ เงาสะท้อน เมื่อครู่ยังคงยืนยิ้ม ก่อนจะพุ่งเข้าใส่นักดาบผมยาวที่ไม่ทันระวังตัว และฟันตัดขวางเข้าใส่ลำตัวอีกฝ่ายอย่างจัง
เกิดรอยเปียกขึ้นเป็นแนวยาวบนเสื้อสายหาดสีฟ้าที่สควอโล่สวมอยู่ขณะที่เจ้าตัวทำหน้าเหวอ เป็นอันจบการแข่งขัน
ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งพิรุณ ผู้ชนะ ยามาโมโตะ ผมประกาศอย่างกระตือรือร้น...ในที่สุดก็มีแมทช์ที่ได้เรื่องได้ราวกับเขาซะที...
>นามิโมริ 3 - 1 วาเรีย<
แมทช์ต่อไป เป็นแมทช์ที่ควรจับตามองเป็นที่สุด ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งสายหมอก
ควันขาวเข้าโอบล้อมร่างกายของโคลม เมื่อจางหายไปก็ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินที่มีตาสองสีแทนที่
คุฟุฟุ กับอัลโกบาเลโน่คนนี้ผมขอเอง มุคุโร่หัวเราะน่าขนลุก
โรคุโด มุคุโร่ ถ้าชนะฉันจะทวงหนี้แค้นที่เจ้านั่นทำเอาไว้... รวมดอกด้วยก็สองแสนเยน มาม่อน หรืออัลโกบาเลโน่ไวเปอร์พูดขณะที่ฮู้ดปิดหน้าปิดตา แต่ดูยังไงก็ไม่น่าขนลุก
เดี๋ยวครับ อาร์เช่ที่ยืนเงียบอยู่ตั้งแต่ต้นเดินเข้ามาหาก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูอัลโกบาเลโน่แห่งสายหมอก
...หืม? ทำไมฉันต้องเชื่อแกด้วย ฉันจะสู้ตามวิธีของฉัน
งั้นก็ อาร์เช่ควักกระเป๋าเงินออกมาก่อนจะส่งธนบัตรให้สองใบ ค่าจ้างสองหมื่นเยนครับ ^ ^
งั้นก็ได้ ฉันจะทำตามวิธีของแก มาม่อนรับเงินมาเป็นอันเสร็จสิ้นการเจรจาธุรกิจ และทั้งสองฝ่ายก็เข้าประจันหน้ากันขณะที่คนเขียนอธิบายกฎ
การต่อสู้ระหว่างสายหมอก สร้างตัวตนขึ้นจากความว่างเปล่า สร้างความว่างเปล่าขึ้นจากตัวตน นอกจากกฎห้ามความรุนแรงแล้วก็ไม่มีอะไรอีก ใครเปียกน้ำก่อนหมดสิทธิ์เหมือนทุกครั้ง เริ่มได้!
เชิญเริ่มก่อนได้เลยครับ ถือว่าต่อให้ ในฐานะที่ครั้งที่แล้วผมเป็นฝ่ายชนะ คุฟุฟุฟุ~ มุคุโร่ยิ้มยียวนใส่อีกฝ่าย
สามหาวจริงนะ ลองดูซิว่าเจออย่างนี้แล้วจะยังปากดีอยู่อีกมั้ย
มาม่อนเปิดฉากด้วยการสร้างภาพมายาชนิดเห็นทุกคน ภาพมายาที่มุคุโร่สวมชุดนักเรียนญี่ปุ่น...เป็นชุดนักเรียนหญิงพร้อมกับโพสท่าถ่ายรูป(แน่นอนว่าเป็นท่าของผู้หญิง)พร้อมกับตัวหนังสือ ไอ้โรคจิต บนหัว
ทุกคนตะลึงงัน ยกเว้นคนสร้างกับผู้เสนอแผนการที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ข้างๆ บอสวาเรีย
ตามข้อมูลในช่วงสัมภาษณ์ฮารุฮารุของฮารุ นายชอบชุดนักเรียนญี่ปุ่นสินะ มาม่อนยิ้มชั่วร้าย ข้อมูลที่เขาได้มาจาก ผู้จ้างวาน
มุคุโร่ยังคงยิ้มโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน แต่แท้ที่จริงเขารู้สึกเหมือนระเบิดลงกลางหัว ยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก
ยังไม่หมดนะ มีแถมๆ
มุคุโร่อีกคนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆ คนเดิม คราวนี้ใส่ชุดมาสคอตสัปปะรดเต้นยักย้ายส่ายสะโพกแบบคาบาเร่ต์ ทำให้ทุกคนตะลึงงันอีกครั้ง (คราวนี้มีเสียงหัวเราะของเด็กห้าขวบลอดมาด้วยสองคน)
คอมโบๆ
มุคุโร่ทั้งสองคนหยุดยืนนิ่ง ก่อนจะชูแขนสองข้าง ขยับตัวทำท่าฟิวชั่น(ดูดราก้อนบอล) ซึ่งเป็นท่าที่...ถ้าพูดแบบสุภาพก็คืออุบาทว์สิ้นดี(สุภาพแล้วนะ)
มือขวาที่ถือสามง่ามเริ่มสั่น...สั่น...สั่น... แต่สีหน้ายังคงยิ้มไม่เปลี่ยน...หรือไม่ก็กล้ามเนื้อแข็งค้างจนขยับไม่ได้
และก่อนที่ใครจะทันรู้สึกตัว
ซ่า~
น้ำทะเลรดลงบนหัวของมุคุโร่ที่ยืนนิ่งเหมือนเป็นอัมพาต แฟนทาสมา สัตว์คู่หูของอัลโกบาเลโน่ไวเปอร์เป็นผู้อมน้ำและลอยขึ้นไปพ่นจากเหนือหัวของมุคุโร่ขณะที่ทุกคนถูกภาพลวงตาดึงความสนใจ(ได้ผลดีมาก)
ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งสายหมอก ผู้ชนะคือมาม่อน!! วะฮ่าๆๆ!! ผมประกาศด้วยอย่างตื่นเต้นพร้อมกับหัวเราะดังลั่น
>นามิโมริ 3 - 2 วาเรีย<
หลังจากที่ทำการสงบสติอารมณ์กันเรียบร้อย มุคุโร่ก็เข้าไปคุยกับสึนะ แม้ว่าอาการช็อกจะยังคงอยู่ก็ตาม ทุกคนก็พยายามทำเหมือนกับแมทช์เมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วองโกเล่ ผมคงต้องขอเตือนคุณเอาไว้ ถ้านี่เป็นการต่อสู้แบบมาเฟียก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าเป็นอีเวนท์พิเศษแบบนี้ ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่หัวหน้าของวาเรียแต่เป็น...ตัวละครของคนเขียนตรงนั้น มุคุโร่หันกลับไปมองอาร์เช่และมาม่อนจับมือแสดงความยินดีกัน
คนเขียนประกาศจบศึกชิงแหวนสงกรานต์สำหรับวันที่สิบสี่ และทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน รอเวลาตัดสินในวันต่อมา การต่อสู้ของผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดและการต่อสู้ระหว่างบอส...
--
R:ขออภัยด้วยถ้าเขียนไม่ดี เพราะต้องเร่งในวันเดียว นี่ก็เกินเวลามาจนถึงวันใหม่(หกทุ่มสิบกว่านาที) แต่ก็พยายามดำเนินตามพล็อตแต่แรกแล้ว ขอให้สนุก(ไม่สนุกก็ด่าคนเขียนเลย คนเขียนยังอยากด่าตัวเอง กระซิก กระซิก T^T)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
สงสารมุคุ 5555555
สึนะน่ารักนะ