12 เมษายน พ.ศ.2555 เวลา 18.32 น. บนถนนสายหนึ่งในเมืองนามิโมริ
คัท!
ผมตะโกนผ่านโทรโข่งในมือขวา สวมเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงขาสั้นสีขาวขุ่น บนหัวมีหมวกแก๊ปสีขาว มือซ้ายถือกระดาษบท
ใช่แล้ว ผมคือผู้กำกับ ไม่ใช่แค่กำกับเท่านั้น แต่ยังเขียนบทเองด้วย
ชายหนุ่มสองคนกับเด็กสาวผมม่วงที่เพิ่งจะเดินผ่านแสงตะวันยามเย็นที่สาดส่องเดินกลับมารวมตัวกับคนอื่นๆ ที่แสตนด์บายอยู่บนม้านั่งด้านหลังผม นอกฉากถ่ายทำ
สองพี่น้องซาซางาวะนั่งพักอยู่บนม้านั่ง ยังคงสวมยูคาตะและกิโมโนที่ใช้ในฉาก คนอื่นๆ ที่ไม่มีคิวแสดงในวันนี้ก็แต่งตัวตามปกติของแต่ละคน
วันนี้พอแค่นี้ คนไหนยังอยู่ในร่างการแสดงก็ไปหาจางนีนิคืนสภาพให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็กลับบ้านกลับช่องของใครของมัน พรุ่งนี้สิบโมงไปเจอกันที่หาดนามิโมริ มาให้ครบทุกคนล่ะ
เอ๋? จะไปถ่ายทำที่ชายหาดเหรอ? สึนะถาม เห็นชัดเลยว่าแปลกใจ
ไม่ใช่ถ่ายทำ ไม่รู้รึไงว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร?
วันอะไรเหรอ?
...นั่นสินะ ก็ต้องไม่รู้อยู่แล้ว หมอนี่จะคุ้นได้ยังไง ไม่ใช่เทศกาลบ้านตัวเองนี่นา ผมก็ลืมไปสนิท
เอาเป็นว่าทำตามที่บอกก็แล้วกัน ทริปนี้สุมหัวคิดกับรีบอร์นเมื่อคืนนี้ทั้งคืน ยังไงก็ต้องมา ถ้าไม่อยากโดนเจี๋ยน
ทริปที่คนเขียนคิดกับรีบอร์น? ทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้แฮะ =_=; สึนะแสดงท่าทางสงสัยออกมาอย่างชัดเจน ก็พอเข้าใจหรอก...
เมื่อกี้ใครพูดว่าสุมหัว?
ผมกับสึนะหันไปมองคนพูด ฮิบาริแผ่ไอสังหารออกมาจางๆ ทำให้เราต้องรีบแยกย้ายกันกลับบ้านก่อนจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นทำให้ทริปล่ม (เช่นว่าทุกคนต้องเข้าโรงบาลหยอดน้ำข้าวต้มกันหมด)
13 เมษายน พ.ศ.2555 เวลา 10.07 น. ณ หาดนามิโมริ
วองโกเล่เดซิโม่และผู้พิทักษ์ เพื่อนของเขาอันประกอบด้วยสองสาวเคียวโกะฮารุ สมาชิกบ้านซาวาดะนอกจากหม่าม้าทุกคน และตัวแถมเป็นรองประธานคณะกรรมการรักษาระเบียบกับนกขมิ้นขนปุยตัวเหลือง แต่ละคนแต่งตัวออกแนวทะเล้ทะเลเต็มที่
เมื่อเห็นว่ามากันแล้ว รีบอร์นซึ่งกำลังคุยเรื่องกำหนดการในวันนี้กับผมก็กระโดดลงจากโต๊ะเพื่อไปทักทาย
ดีจ้า มากันครบดีนะ
เอ๋? ทำไมไม่มีใครเลย? สึนะถามถึงประชาชนคนอื่นๆ ที่ควรจะอยู่ในหาดด้วย
กางบาเรียธาตุหมอกไว้แล้ว ไม่มีใครเข้ามาได้หรอก รีบอร์นตอบตามความจริง แต่ยิ่งทำให้ลูกศิษย์เป็นกังวลหนักขึ้น
ถึงกับใช้ไฟดับเครื่องชนเลยเหรอ! นายคิดจะทำอะไรกันแน่!?
ผัวะ!
แอ้ก! บาทาพิฆาต
อย่าขี้สงสัยมาก พวกนั้นมารอตั้งแต่เช้าแล้ว รีบอร์นดุ
พวกนั้น?
สึนะมองมาทางคนเขียน ซึ่งก็คือผมยืนอยู่ ใกล้ๆ กันเป็นร่มผ้าใบชายหาดหลายคัน ใต้ร่มเป็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งนอนเอกเขนกอย่างสบายตัวอยู่บนผ้าที่ปูไว้ ชายผมยาวลุกขึ้นและตรงเข้าไปหาคณะวองโกเล่พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง
โว้ยยยยย~!! ทำไมพวกแกมาช้าอย่างนี้!?! สควอโล่แหกปากไม่เกรงใจคนรอบข้าง
โย่ สควอโล่ ท่าทางสบายดีนะ! ^ ^ ยามาโมโตะทักทายสหายเก่าเป็นคนแรก
วาเรีย! มาทำอะไรที่นี่!? สึนะก็ปอดแหกอย่างเดียว
ซันซัสนั่งอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบท่าเดียวกับบัลลังก์ที่ปราสาท สายตาที่ดุดันมองไปที่สึนะซึ่งยืนตกใจอยู่
ตำแหน่งวองโกเล่รุ่นที่สิบจะต้องเป็นฉัน สวะอย่างพวกแกไม่โชคดีเหมือนคราวก่อนแน่
หยึย! ใจสึนะตกไปที่ตาตุ่มเรียบร้อย รีบอร์น! นี่มันเรื่องอะไรกัน!?
สึนะ แล้วก็ผู้พิทักษ์ทุกคน จากวันนี้เป็นต้นไปเป็นเวลาสามวัน ที่นี่จะมีศึกระหว่างผู้ครองตำแหน่งบอสและผู้พิทักษ์กับผู้ท้าชิงขึ้น แน่นอนว่าทีมที่ชนะมากกว่าจะได้ตำแหน่งไปครอง รีบอร์นอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
ว่าไงนะ! ก็สู้กันรู้ผลไปตั้งแต่ศึกชิงแหวนแล้วนี่นา! สึนะค้าน
นายคงไม่รู้ แต่สามวันนี้จะเป็นวันที่มีพิธีสำคัญตั้งแต่สมัยวองโกเล่รุ่นที่หนึ่ง เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความสามารถของบอสและผู้พิทักษ์ อย่างที่นายว่า นี่ก็เป็นศึกชิงแหวนเช่นกัน แต่ไม่ใช่แหวนวองโกเล่
หา! แล้วมันยังไงกันแน่!?
พิธีที่วองโกเล่พรีโม่จัดขึ้นครั้งแรกได้ต้นแบบจากต่างแดน อาณาจักรซึ่งปัจจุบันมีชื่อว่าประเทศไทย จากนี้ไปจะเป็น [ศึกชิงแหวนสงกรานต์] ที่สืบต่อกันมาในวองโกเล่ รีบอร์นประกาศอย่างยิ่งใหญ่
ทุกคนต่างฮือฮากับความลับที่ถูกเปิดเผย มีเพียงคนเดียวที่มองออก นั่นก็คือผู้เป็นลูกศิษย์ และเป็นคนเดียวในซีรี่ส์รีบอร์นที่มีสามัญสำนึกของมนุษย์ธรรมดา
แหล! ตอแหลเห็นๆ! โมเมขึ้นมาชัดๆ! = =;
แต่เชลเวลโล่(เชลเบคโล)ไม่ว่าง ฉะนั้นผู้ตัดสินจะเป็นฉันกับคนเขียน รับรองว่ายุติธรรมร้อยเปอร์เซ็นต์
เชลเวลโล่ไม่มาก็เพราะศึกพรรค์นี้มันไม่มีไงเล่า! ยุติธรรมกะผีอะไร! ทุกคนรู้สึกตัวกันซะทีได้ม้ายยยย~! =[ ]= สึนะเครียดจนปวดตับ
จากนั้นก็ได้เวลาคนเขียนออกมาอธิบายกฎ
การต่อสู้จะแบ่งเหมือนกับศึกชิงแหวนวองโกเล่ ก่อนอื่นขอให้ทุกคนปลดแหวนและกล่องทุกชนิดที่มีอยู่ในตัวออกซะ อาวุธที่เป็นอันตรายอื่นๆ รวมถึงไม้เบสบอล ทอนฟา ไดนาไมต์ ส้อมด้ามยาว(?) ถุงมือไหมพรม ยาในขวดแก้ว บาซูก้าที่ส่งคนไปสิบปีข้างหน้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เต่าที่โดนน้ำแล้วขยายใหญ่ ถ้าใครเอามาขอให้ทุบกระดองแล้วตุ๋นยาจีนซะ
ถ้าคุณดีโน่ได้ยินเข้าคงช็อก =_=; สึนะคิดในใจ แต่ผมเป็นคนเขียนจึงรู้
กรุณาใช้อุปกรณ์ที่ทางเรามีให้ด้วย พัฒนาโดยจางนีนิ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
ยิ่งเป็นห่วงหนักกว่าเดิมล่ะไม่ว่า =_=;
เอาล่ะ! ศึกรอบที่หนึ่ง! ชิงแหวนสงกรานต์แห่งอรุณ ระหว่างลุสซูเรียจากวาเรีย และซาซางาวะ เรียวเฮจากนามิโมริ!
สองนักมวยยืนประจันหน้ากันบนผืนทรายที่ขาวสะอาดในเสื้อแขนสั้นและกางเกงชายหาด เป็นเวลานี้เองที่การใส่แว่นกันแดดของลุสซูเรียดูมีเหตุผลขึ้นมาบ้าง
การต่อสู้ชิงแหวนสงกรานต์นี้ความรุนแรงถือเป็นสิ่งต้องห้ามเพราะฉะนั้นขอให้ใช้อุปกรณ์ของเราเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต่อสู้ด้วยมือเท้า นี่เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะที่สุด มีให้อันเดียวนะ ห้ามแย่งของอีกฝ่ายด้วย มันเสียมารยาท
ผมชูอุปกรณ์ขึ้นสองชิ้นในมือ และโยนให้เรียวเฮกับลุสซูเรียคนละอัน
นี่อะไรเนี่ย? ลุสซูเรียมองไม่ออกเลยว่าภาชนะแบนขอบสูงทำด้วยโลหะนี้คืออะไร ผู้อธิบายคือรีบอร์น
มันเรียกว่า ขัน เป็นอาวุธโบราณที่มีพลังทำลายล้างสูงถึงขนาดใช้กันในกองทัพไทยยุคก่อตั้งอาณาจักร
หลายคนได้ฟังก็ส่งเสียง โห~ ทำให้สึนะเกือบเอามือตบหน้าผากตัวเอง
เชื่อเข้าไปได้ยังไง... =_=;
ว่ากันว่าคนที่มีฝีมือสามารถใช้ต่อสู้กับคนทั้งกองทัพได้ทีเดียว ที่เห็นนั่นแค่ของจำลอง ในสงกรานต์ใช้สำหรับตักน้ำสาดใส่กัน รีบอร์นยังไม่เลิก แต่ก็มีสะเก็ดความจริงบ้าง
กฎก็ง่ายๆ ผมอธิบายกฎต่อ ในระหว่างการแข่งขันทุกแมทช์ นอกจากสะเก็ดเล็กๆ แล้วใครตัวเปียกน้ำถือว่าหมดสิทธิ์
สำหรับรอบแหวนอรุณนี้จะต้องแข่งกลางแสงแดดที่เจิดจ้า มีเส้นแบ่งเขตสนามขีดเอาไว้บนพื้นทราย ถ้าออกนอกเขตก่อนการต่อสู้จบลงก็จะหมดสิทธิ์เช่นกัน และที่สองฝั่งสนามมี ตุ่ม หรืออยากจะเรียกว่าอะไรก็เชิญใส่น้ำเอาไว้ ตักได้ตามสบาย จะคอยสูบและกรองจากทะเลข้างๆ นี้แบบไม่มีวันหมด เอาล่ะ เริ่มได้!
ศึกชิงแหวนสงกรานต์แมทช์ที่หนึ่ง อรุณ เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ
ลุสซูเรียตักน้ำจากตุ่มที่อยู่ฝั่งตัวเองขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
วิชามวยของฉันก็มาจากประเทศไทย ถ้าเป็นวิธีใช้ขันล่ะก็ ประสบการณ์ฉันเหนือกว่ามาก เตรียมตัวให้ดีล่ะ!
โอ้!! ฉันน่ะสุดขั้วอยู่แล้ว! มาสู้กันเลย!! เรียวเฮร้องเสียงดังแบบสุดหูรูดพร้อมกับสลัดทุกอย่างในตัวนอกจากกางเกงมวยที่ใส่แทนบ็อกเซอร์ออกไปนอกสนาม...ทุกอย่างรวมทั้งขันด้วย...
อุปกรณ์อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถหยิบมาใช้ได้ ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งอรุณ ลุสซูเรียเป็นฝ่ายชนะ ผมประกาศเสียงหน่าย
>นามิโมริ 0 - 1 วาเรีย<
เจ้าหัวสนามหญ้า!! แกทำอะไรของแกฟะ!?! โกคุเดระโวยวายดุประธานชมรมมวยของโรงเรียนเสียงดังลั่น
เงียบไปเลย เจ้าหัวปลาหมึก! สาดน้ำใส่กันมันไม่สุดขั้วนี่หว่า!
โฮะๆๆ! บอส ฉันชนะแล้วเห็นมั้ย ง่ายมากๆ เลย! ขณะเดียวกันลุสซูเรียก็กำลังอวดชัยชนะกับผู้เป็นบอสของวาเรีย
ผมเมินเสียงจากทั้งสองฝั่งและเริ่มดำเนินการแข่งขันต่อไป
แมทช์ต่อไปเป็นศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งอัสนี ตัวแทนทั้งสองฝ่ายเข้าประจำที่ในพื้นที่ที่กำหนดด้วย ผมพูดผ่านโทรโข่ง
สนามต่อสู้ของอัสนี พื้นขุดแหวกทรายออกทำเป็นเป็นสระน้ำและมีคานโลหะพาดห่างๆ ขวางกันหลายคานเหนือผิวน้ำ ระหว่างคานมีช่องพอที่คนจะตกลงไปได้ สัญญาณไฟที่อยู่ปลายคานแต่ละคานนั้นจะสุ่มส่องแสงขึ้นทุกวินาที จากนั้นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ก็จะไหลผ่านคานที่มีสัญญาณไฟเตือน เห็นข้างล่างก็คงจะรู้ว่าใครตกลงไปก็ป๋อมแป๋มแพ้ลูกเดียว และกรุณาอย่าใส่อุปกรณ์รองเท้าใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงอย่าออกนอกสนามด้วย
บอสไม่ต้องห่วง เจ้าเด็กวัวนั่นเคยแพ้ผมมาแล้ว ยังไงชัยชนะก็จะต้องเป็นของผม เลวี่เอ่ยทิ้งท้ายกับบอสผู้รักและเคารพก่อนจะเข้าสู่สนามเพื่อประจันหน้ากับ...เด็กห้าขวบ?
เริ่มได้!
ไม่ถึงสิบวิหรอก! เลวี่วิ่งไปบนคานตรงเข้าหาแลมโบ้ที่ยืนไม่รู้เรื่องอยู่
แย่แล้ว! บาซูก้าทศวรรษใช้ไม่ได้! แบบนี้โดนผลักตกอย่างเดียวแน่!! สึนะหมดหวังแทบจะในทันที
สัญญาณไฟเตือนสว่างขึ้นที่ปลายคานด้านหลังแลมโบ้เป๊ะๆ และเป็นคานเดียวกับที่เลวี่กำลังวิ่งอยู่ เลวี่กระโดดหลบไปคานข้างๆ อย่างรวดเร็ว แต่แลมโบ้ไม่เห็น(และคงจะไม่เข้าใจกฎ)จึงโดนช็อตเข้าไปเต็มๆ จนสะดุ้งล้มลง โชคดีที่ยังไม่ตกจากคาน
หวานหมูล่ะ เลวี่เห็นว่าอีกฝ่ายไร้ทางสู้แล้วจึงตรงเข้าไป มือขวาเงื้อเตรียมจะผลักให้เด็กวัวตกลงไปนิ่มๆ
ตูมซ่า!
เลวี่ตกน้ำป๋อมแป๋ม
ศึกชิงแหวนสงกรานต์แห่งอัสนี ผู้ชนะคือแลมโบ้... ผมประกาศด้วยเสียงที่หน่ายกว่าเก่า
แล้วในวินาทีเป็นตายมันเกิดอะไรขึ้น? ต้องย้อนกลับไปดู
เลวี่ซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงก้าวเท้าขวาเหยียบลงไปที่คานตรงหน้าแลมโบ้ที่ล้มอยู่ มือขวายื่นออกไปเพื่อผลักแลมโบ้ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่เท้าขวาเหยียบลงไป มันมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ นั่นก็คือ...
ลูกอมรสองุ่น!? เลวี่ร้องเสียงดัง มือขวาถือลูกอมเล็กๆ ในซองพลาสติกสีม่วงซึ่งตกลงมาพร้อมกับเขาเมื่อกี้
ลูกอมนั้นหลุดออกมาจากหัวยุ่งๆ ของแลมโบ้ตอนที่โดนไฟช็อตจนสะดุ้งล้ม และเลวี่ก็เหยียบเข้าไปเต็ม Teen เขาถึงได้เสียศูนย์ และด้วยความชะล่าใจ ตกลงมาแบบเลี่ยงไม่ได้
เพราะฉะนั้นผลจึงออกมาว่า เลวี่...แพ้ลูกอมรสองุ่น
ผมขอโทษครับบอส!! เลวี่ขอโทษซันซัสเป็นการใหญ่ เขากลัวว่าจะโดนเป่ากระจุย แต่เรื่องนั้นวางใจได้ เพราะเราได้บอกให้ทุกคนปลดอาวุธจนหมดตั้งแต่ต้นแล้ว
ฉันก็ไม่ได้คิดว่าสวะอย่างแกจะชนะแต่แรกแล้ว ซันซัสเอ่ยอย่างหงุดหงิด
...ไม่ได้คิดว่าจะชนะแลมโบ้? เอ่อ...นั่นมันก็เกินไปหน่อย...
>นามิโมริ 1 - 1 วาเรีย<
เฮ้อ~ เอาล่ะ แมทช์ต่อไป
ฟึ่บๆๆๆ
เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินมาเหนือหัวเหล่าวองโกเล่และวาเรีย
รีบอร์น ถ้าพวกนั้นเห็นเรา
เจ้าห่วยสึนะ ฉันบอกแล้วไงว่ามีบาเรียหมอกอยู่ คนข้างนอกมองไม่เห็นพวกเรา และถ้าพยายามเข้ามาก็จะไปโผล่ที่อื่น
สิ้นคำอธิบาย ร่างหนึ่งก็กระโดดลงมากจากเฮลิคอปเตอร์ ทะลุผ่านบาเรียหมอกและลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
ใครน่ะ!? โกคุเดระเคลื่อนไหวตามสัญชาติญาณเข้าคุ้มกันผู้เป็นบอสทันที
ชายปริศนากวาดตามองดูรอบๆ ก่อนจะไปหยุดบนกระดานคะแนน
ดูเหมือนผมจะมาสายไป ไม่ทันดูสองแมทช์แรกนะครับเนี่ย ยังดีที่เสมอกันอยู่ ^ ^ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงปลายคางในเสื้อหนังสีน้ำตาลท่าทางอบอ้าวเอ่ยพลางยิ้มบางๆ
สายตาของสึนะจับจ้องที่แก้มซ้ายของชายปริศนา
นายคือ...!
โอ้ กะไว้แล้วว่าต้องมา แต่ไม่นึกว่าจะสายนะไอ้ลูกชาย ผมพูดกับเด็กหนุ่มปริศนา
--
*ต่อตอนหน้า*
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย