ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KHR : Tale of Love – Reminiscence of the Olden Times [1896]

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 : เด็กหลงกับสองพี่น้องผู้เต็มไปด้วยปริศนา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 442
      6
      20 เม.ย. 55

    1 มกราคม วันปีใหม่สากลของทั่วโลก ประเทศญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน ในวันนี้ผู้คนก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ตามประเพณี ที่ทำกันเป็นประจำและเห็นได้ทั่วไปก็คือการแขวนเครื่องรางนำโชคชนิดต่างๆ ที่ประตูบ้านเพื่อนำโชคดีและขจัดปัดเป่าภัยร้าย
     
    แต่เรามาที่นี่ก็เพื่อรับรู้เรื่องราวของเด็กสาวผมม่วงกับตระกูลฮิบาริ ไม่ใช่สารคดีวันหยุด เพราะฉะนั้น เริ่มเรื่องกันเลย
     
    มันเป็นวันปีใหม่อีกวันหนึ่งเช่นเดียวกับที่ผ่านๆ มา เข้าเดือนที่สามตั้งแต่ฟูจิยูกิ นางิได้เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ฮิบาริ และวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ออกไปเดินเที่ยวในวันปีใหม่ ...เป็นเพราะในอดีตนั้นเธอถูกกักบริเวณไม่ให้ออกไปไหน แต่วันนี้เป็นวันดีเราไม่ควรพูดถึงเรื่องเลวร้ายในอดีต!
     
    ขณะนี้ใกล้จะถึงเวลาเที่ยงตรง หลังจากแต่งตัวในกิโมโนสีชมพูม่วง เธอพร้อมด้วยชายหนุ่มผมดำผู้เป็นนายและชายหนุ่มผมรีเจ้นท์องครักษ์ร่วมนายเดียวกัน ทั้งคู่สวมยูคาตะสีเทาพิมพ์เดียวกันเด๊ะ และพวกเธอก็กำลังจะออกไปที่วัดเพื่ออธิษฐานขอพรปีใหม่ตามประเพณีที่สืบต่อกันมา
     
    “คนเยอะแยะเลย...” นางิกวาดสายตามองดูฝูงชนที่หลั่งไหลกันมาที่วัด เธอไม่เคยเห็นภาพฝูงชนที่แออัดอย่างนี้มาก่อน
     
    “ฮึ มีแต่พวกสุมหัวน่ารำคาญ” ฮิบาริเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ เป็นคำพูดที่สมกับเป็นเขามาก แต่นางิก็ยิ้มหน้าบานเพราะรู้ว่าชายหนุ่มแค่บ่นไปอย่างนั้นเอง
     
    “คุณนางิระวังอย่าให้หลงล่ะครับ คนเยอะแบบนี้อันตราย” คุซาคาเบะเตือนขณะที่ทั้งสามเดินฝ่าฝูงชนเข้าไป
     
    นางิตั้งสติเตรียมระวังตัวเองไม่ให้หลง เธออุตส่าห์ได้ออกมาข้างนอกกับท่านเคียวยะ...และคุณคุซาคาเบะทั้งที ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกลูกชายคนโตของตระกูลฮิบาริชวนแกมบังคับให้ออกมากับเขา แต่นายของเธอเข้ามาขัดและลากเธอออกมาโท่งๆ เธออุตส่าห์สวมดอกกุหลายทัดหูที่เขาซื้อให้เธอมาในวันนี้ด้วย เรื่องอะไรเธอจะยอมเสียช่วงเวลาอันมีค่าไปด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าอย่างพลัดหลงกัน
     
    ...แล้วเธอก็หลง...
     
    ไม่เชิงว่าหลง แต่เธอที่พยายามตามหลังชายหนุ่มทั้งสองไปติดๆ ถูกฝูงชนบีบตัวและแยกเธอออกจากพวกเขา จากนั้นเมื่อเธอรู้ตัวอีกทีก็อยู่ตรงหน้าแท่นอธิษฐานโดยไม่เห็นพวกเขาที่ไหนเลย ได้แต่หันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูกเหมือนลูกแกะที่ร้องหาคนเลี้ยง
     
    “หลงกับคนอื่นเหรอคะ?”
     
    นางิหันหลังกลับไปตามเสียงเรียกด้วยความตกใจ และพบกับเด็กสาววัยใกล้เคียงกับเธอ ผมสีน้ำตาลอ่อนระต้นคอกับกิโมโนสีชมพูลายดอกไม้ทำให้ใบหน้าที่น่ารักอยู่แล้วของเธอดูสวยขึ้นไปอีก จนแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันอย่างนางิยังยอมซูฮกให้
     
    “ว่ายังไงคะ?” เด็กสาวปริศนาถามอีก นางิพยักหน้าตอบเบาๆ
     
    “ถ้าไม่รังเกียจฉันจะช่วยหาเองนะคะ แต่ตอนนี้อธิษฐานกันก่อนเถอะค่ะ” เธอชักชวน
     
    นางิกับเด็กสาวปริศนาหันหน้าเข้าหาแท่นบูชา หย่อนเหรียญบริจาคและประนมมืออธิษฐาน ใครจะคาดคิดว่าคำอธิษฐานแรกในปีใหม่ของเด็กสาวผมม่วงจะต้องเสียไปกับคำขอฉุกเฉิน ‘ขอให้เจอท่านเคียวยะด้วยเถอะค่ะ’
     
    เด็กสาวทั้งสองกลับออกมาจากฝูงชนได้และยืนคุยอยู่ที่หน้าซุ้มประตูวัด
     
    “คิดว่าเจ้านายกับเพื่อนผมทรงรีเจ้นท์ของคุณคงยังไม่ไปไหนไกลหรอกค่ะ ฉันจะช่วยหาเป็นเพื่อนนะคะ” เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อนเอ่ยพลางยิ้มอย่างมีเมตตา
     
    “ม—ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” นางิเป็นคนขี้เกรงใจก็พยายามปฏิเสธ
     
    “ฉันเองก็หลงกับพี่ชายเหมือนกัน ถ้าทางฉันเจอก่อนก็จะให้พี่ชายช่วยตามหานะ มาเถอะค่ะ! ^ ^”
     
    ยังไม่ทันที่สองสาวจะได้ออกผจญภัย(?) ชายฉกรรจ์ท่าทางไม่เป็นมิตรกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาในวัด โดยเฉพาะคนหน้าสุดถือดาบคาตานะไม้อยู่ในมือขวาด้วยท่าทางซ่าสุดขีด
     
    ไปกันเถอะค่ะ” เด็กสาวผมสีน้ำตาลกระตุกข้อมือนางิให้ตามเธอมาอย่างเงียบเชียบ แต่ด้วยความที่ทั้งคู่อยู่ติดซุ้มประตูวัด ห่างจากกลุ่มชายอันตรายไม่ถึงสองเมตร จึงเป็นไม่ได้ที่เด็กสาวสองคนอย่างเธอจะหลุดรอดจากสายตาไปได้
     
    แขนใหญ่หนาของผู้ใหญ่พาดไหล่ของนางิกะทันหันจากด้านหลัง ชายหน้าเหี้ยมคนหนึ่งกอดคอดึงเธอเข้าไปใกล้ เด็กสาวที่เดินนำหน้าเธอเองก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน
     
    “คุณหนูจะรีบหนีไปไหนล่ะจ๊ะ หน้าผิวพรรณดีทั้งคู่แบบนี้แสดงว่าเป็นลูกคนมีตังค์ จะเรียกค่าไถ่หรือขายลงตลาดก็คงได้เยอะ” ชายผู้เป็นหัวหน้าพ่นเจตนาชั่วร้ายออกมาแบบไม่แอบแฝง
     
    เด็กสาวทั้งสองถูกชายสูงใหญ่ถึงหกคนล้อมเอาไว้ก็ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความหวาดกลัว เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ้าปากจะตะโกนร้องให้คนช่วยก็ถูกมือปิดปากเอาไว้ก่อน
     
    “จุ๊ๆ อย่าส่งเสียงไปสิ ข้าไม่อยากมีปัญหา ตามพวกข้ามาเงียบๆ ก็แล้วกัน...ถ้าไม่อยากเป็นศพ!” ส่วนสุดท้ายของประโยคคนพูดถลึงตาใส่พวกเธออย่างน่ากลัว
     
    ชายร่างสูงใหญ่หกคนเดินบังเอาไว้ไม่ให้คนภายนอกเห็น เด็กสาวทั้งสองถูกพาไปที่ป่าไผ่ใกล้ๆ เพื่อรอตัดสินใจว่าจะทำยังไง
     
    “เฮ้ย เจ้าว่าระหว่างขายกับเรียกค่าไถ่ อันไหนเงินดีกว่ากัน?” มีการประชุมยุทธการทางเศรษฐกิจกันในกลุ่ม
     
    “ถ้าปกติก็ต้องขาย มันง่ายกว่า แต่ถ้าเป็นลูกคนมีตังค์ก็เรียกค่าไถ่ เพราะเราจะเรียกตังค์เท่าไรก็ได้” คนหนึ่งเสนอความคิด ที่เหลือก็เห็นดีด้วย
     
    “โอเคตามนั้น แต่ถ้าไหนๆ จะเป็นแหล่งเงินแหล่งทองให้แล้ว ก็ขอเล่นสนุกซะหน่อยละกัน” ผู้เป็นหัวหน้าปรายตามองดูเด็กสาวที่ถูกมัดอยู่ทั้งสองคนด้วยสายตาที่ส่อแววอันตรายต่อผู้หญิง(โดยเฉพาะที่หน้าตาดี)เป็นที่สุด
     
    คนอื่นรอบๆ ก็ยิ้มมีเลศนัยพร้อมทั้งขยับเข้ามาใกล้เด็กสาวทั้งสองอย่างช้าๆ ด้วยย่างก้าวที่ชวนให้เสียวสันหลัง
     
    เด็กสาวผมสีน้ำตาลเห็นว่าอันตรายอยู่แค่ปลายจมูกจึงเดิมพันกับความหวังสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่
     
    “พี่คะ!! ช่วยด้วย~!!”
     
    “ร้องไปเถอะคุณหนู ในป่าไผ่แบบนี้เสียงมันจะไปถึงไหนกันเชียว”
     
    สองมือหนาจับลงที่ไหล่ของนางิ ความกลัวของเธอพุ่งถึงขีดสุด และในตอนนั้นเอง...
     
    ขวาตรงสุดหูรูด!!
     
    ร่างของชายหน้าเหี้ยมปลิวกระแทกต้นไผ่หักไปเป็นแถบ ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอคือชายหนุ่มผมสั้นสีขาวในยูคาตะสีเทาและพลาสเตอร์ยาพาดปิดจมูกในแนวนอน
     
    “เจ้าเป็นใคร!?” คำถามเบสิคที่ตัวร้ายต้องถามพระเอกที่โผล่มาในเวลาคับขัน
     
    “พวกแกทำอะไรน้องสาวฉัน หา!?” ชายหนุ่มผู้รับบทพระเอก(ชั่วคราว)เอ่ยอย่างเดือดดาล
     
    “หุบปาก! เล่นมันเลย!?”
     
    การต่อสู้ของลูกผู้ชายแบบห้าต่อหนึ่งเริ่มขึ้น...
     
    “หมัดรัวสุดหูรูด!!”
     
    ผัวะ! ผัวะ! ผลัก! โครม! ตึง!
     
    ...แล้วก็จบลง
     
    ชายปริศนา(รึเปล่า?)แก้มัดให้เด็กสาวทั้งสองคน นางิจึงได้รู้ความจริงที่น่าตกใจ(ตรงไหน)ว่าทั้งเขากับเด็กสาวผมสีน้ำตาลเป็นพี่น้องกัน
     
    “ขอบคุณมากนะคะที่มาช่วย” นางิก้มหัวคำนับขอบคุณ
     
    “โอ๊ส! โดคุโร่มาทำอะไรที่นี่!?”
     
    ...
     
    ...เฮ้ยๆ...ลืม(สุดขั้ว!!)อีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย...คัตๆ...
     
    --
     
    เนื่องจากชายหนุ่มจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์และทำความเข้าใจใหม่โดยมีน้องสาวเป็นผู้ช่วย นางิจึงต้องกลับมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกครั้ง
     
    มือสัมผัสไหล่เธอจากด้านหลังอีกครั้ง เธอสะบัดหลุดและหันกลับไปมองด้วยความตกใจ
     
    “หายไปไหนมา” ฮิบาริพูดเสียงเรียบเป็นเชิงดุ ข้างๆ เขาคือคุซาคาเบะที่อยู่กันพร้อมหน้า
     
    “ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ทันระวังเองเจ้าค่ะ” เธอขอโทษแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความผิดของเธอทั้งหมด
     
    “ยังไงก็หาเจอแล้ว อย่าว่าคุณนางิเลยครับประธาน(ไม่เลิก) วันนี้คนเยอะจริงๆ”
     
    “แต่ก็ควรจะระวังตัวเอง ถ้าโดนพวกสัตว์กินพืชมันทำอะไรเอาจะว่ายังไง” ฮิบาริหรี่ตาลงดูน่ากลัว
     
    นางิเข้าใจในวินาทีนั้นเองว่าชายหนุ่มตรงหน้าก็แค่เป็นห่วงเธอแต่ไม่ยอมแสดงออก
     
    “ขอบคุณที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ เมื่อกี้ก็เกือบไปเหมือนกัน แต่มีคนใจดีช่วยเอาไว้เจ้าค่ะ”
     
    “ใคร?” ฮิบาริเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าพวกสัตว์กินพืชแถวนี้จะมีความกล้าพอ
     
    นางินึกได้ตอนนั้นเองว่าเธอไม่ได้ถามชื่อผู้มีพระคุณทั้งสองคนนั้นเลย
     
    “เอ่อ...คนนึงเป็นเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลอายุประมาณข้าน้อย ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายผมสั้นที่ชอบพูดคำว่า ‘สุดหูรูด’ เจ้าค่ะ”
     
    ฮิบาริได้ฟังก็เงียบไป ก่อนจะเอ่ยชวนเธอกลับคฤหาสน์
     
    “วันนี้พอแค่นี้ก่อน ได้เวลามื้อกลางวันแล้ว”
     
    เขาหันหลังออกเดิน เด็กสาวก็ตามไป
     
    หมับ
     
    นางิมองมือที่กุมมือของเธอ และเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม
     
    “แค่กันไม่ให้หลงอีก” ฮิบาริเอ่ยโดยไม่หันมาสบตา
     
    เด็กสาวยิ้ม อีกครั้งที่เขาไม่ยอมแสดงความอ่อนโยนออกมา แต่ถ้าเขาไม่อยากก็ไม่เป็นไร เพราะเธอรับรู้ได้ ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ
     
    ทั้งสามเดินกลับคฤหาสน์ไปด้วยกัน เด็กสาวและชายหนุ่มผมรีเจ้นท์ไม่รู้เลยว่านายของพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
     
    ‘ดูเหมือนว่าตัวแสดงใกล้จะมาครบแล้ว...เหลือแค่ต้องรอโอกาส...’
     
    --
     
    แนะนำตัวละคร
     
     
     
    ??? ???
    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
    เพศ : หญิง
    อายุ : 17 ปี
    ส่วนสูง : 160 เซนติเมตร
    น้ำหนัก : 46 กิโลกรัม
    ชอบ : ของหวานหลายชนิด,???
    เกลียด : การต่อสู้
     
    ข้อมูล : เพราะตัวจริงยังไม่ถูกเปิดเผย(เหรอ?) จึงไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มาก เป็นเด็กสาวที่จิตใจดี โกรธยากหายง่าย แต่ไม่ได้หัวทึบหัวทื่ออย่างที่ใครหลายคนเดา เธอค่อนข้างมีไหวพริบทีเดียว...
     
      
    ??? ???
    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
    เพศ : ชาย
    อายุ : 22 ปี
    ส่วนสูง : 186 เซนติเมตร
    น้ำหนัก : 72 กิโลกรัม
    ชอบ : “สุดหูรูด!”—เอ๊ะ ไม่ใช่สิ..., มวย, คนเก่งๆ
    เกลียด : เรื่องที่เข้าใจยากๆ (สำหรับไอคิวอย่างเขา ก็คงจะเป็นส่วนใหญ่), คนที่ทำให้น้องสาวต้องร้องไห้
     
    ข้อมูล : เช่นเดียวกับกรณีด้านบน เนื่องจากไม่เป็นตัวตนที่ปริศนา(ม้ากมาก~) จึงไม่อาจให้ข้อมูลเชิงลึกใดๆ ได้
     
    เป็นคนที่ “สุดขั้ว!” ตามที่เขาเรียกตัวเอง ทำอะไรก็เต็มร้อยเสมอ รักน้องสาวมาก แต่ชอบการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง ในขณะที่น้องสาวเกลียดการต่อสู้ มันก็เลยมีประเด็นนิดหน่อย ถึงอย่างนั้นก็เป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก
     
    (มีการผิดพลาดเล็กน้อยในตอน จำเป็นต้องอธิบายให้เขาเข้าใจใหม่ จะได้ไม่ต้องคัตบ่อยๆ เล่นสด ไม่มีตัดต่อซะด้วย)
     
    --
     
    R:”ก่อนอื่นก็ขอโทษเลยที่อัพช้า ความจริงจะเสร็จตั้งแต่เมื่อวานซืนแล้ว แต่พอดีติดหนังการ์ตูน(เพิ่งหาเจอ หาอยู่นานหลายเดือน) ตอนนี้ดูจบแล้ว(54 ตอน ดูจนตาแฉะ) จึง “แบ็คอินแอ็คชั่น” อีกครั้ง!”
     
    DX:”มันอู้น่ะแหละ”
     
    R:”ตัวแสดงใกล้ครบแล้ว อีกแค่คนเดียว จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงกลางของเรื่อง เป็นช่วงที่ความโรมานซ์จะผลิดอกระหว่างคู่หลัก”
     
    DX:”แต่ก่อนอื่น เนื่องจากตอนนี้เป็นวันปีใหม่ไทย ฟิคนี้จึงได้เวลา...”
     
    R&DX:”สงกรานต์สเปเชียล! รอดูตอนหน้านะคร้าบบบบ~!!”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×