ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KHR : Tale of Love – Reminiscence of the Olden Times [1896]

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 12 : *ไร้ชื่อตอน คนเขียนหนีไปแล้ว*

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 545
      4
      24 เม.ย. 55

    ถ้าหากบอกว่าวันนี้เป็นวันที่เท่าไหร่ ใครหลายคนจะร้องหือทันที
     
    วันที่ 4 พฤษภาคม 1878 ณ คฤหาสน์ฮิบาริ
     
    “พิธีบรรลุนิติภาวะ?”
     
    “ถูกต้องแล้วเคียวยะ พรุ่งนี้เป็นวันที่เจ้าจะมีอายุครบยี่สิบปี หมายความว่าจะบรรลุนิติภาวะ ตามประเพณีของตระกูลฮิบาริเรา คืนนี้คือเวลาที่จำเป็นจะต้องประกอบพิธีบรรลุนิติภาวะ” ชายสูงวัยเป็นผู้หัวหน้าตระกูลคนปัจจุบันเอ่ยต่อหน้าผู้ที่อยู่ในห้องทั้งหมด
     
    ลูกชายคนโตกับองครักษ์นั่งขนาบข้าง ตรงข้ามเป็นลูกชายคนเล็กและผู้ติดตามทั้งสอง(กับก้อนขนสีเหลืองอีกหนึ่งตัว) ที่นั่งอีกสองด้านคือเด็กสาวตระกูลซาซางาวะและวองโกเล่เดซิโม่ผู้มาเป็นสักขีพยานในพิธี
     
    “เป็นพิธีแบบไหนกัน?”
     
    “เป็นพิธีที่ผู้ชายในตระกูลฮิบาริจะต้องพิสูจน์ความเป็นชายของตัวเอง ในคืนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งจะถูกส่งไปที่ห้องของเจ้า โดยมากแล้วฝ่ายหญิงจะเป็นคู่หมั้น เจ้าคงรู้นะว่าข้าหมายความว่าอะไร” โกซาบุโร่จ้องหน้าผู้เป็นลูกชายเขม็ง
     
    หลายคนในห้องที่จับความหมายได้ก็เริ่มมีสีแดงขึ้นที่ใบหน้า แต่สึนะนั้นมีความกังวลปนอยู่เป็นพิเศษ
     
    ‘ค—เคียวโกะจังกับคุณฮิบาริ...’ ความคิดนั้นทั้งทำให้เขารู้สึกขัดเขินทั้งรู้สึกหวาดกลัว
     
    “ก่อนวันพิธีส่งมอบอำนาจ เป็นวิธีตัดกำลังรึยังไง?” ฮิบาริแสยะยิ้ม ความไร้ปฏิกิริยาของเขายิ่งทำให้สีแดงบนใบหน้าคนรอบข้างเข้มขึ้น
     
    “เจ้าต้องผ่านพิธีทั้งสองนี้เพื่อขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ ทั้งสองคน” โกซาบุโร่มองผู้เป็นลูกชายสลับกับเด็กสาวผมสีน้ำตาล จากนั้นก็ลุกออกไปจากห้อง สองคนที่ขนาบข้างก็ลุกขึ้นตาม แต่ก่อนไปชายหนุ่มผมสีเงินเดินผ่านไปข้างๆ วองโกเล่หนุ่มที่ลุกขึ้นยืนส่งและแอบกระซิบเบาๆ
     
    เตรียมตัวไว้นะครับ ตามที่ตกลงกัน รอรับซาซางาวะ เคียวโกะคืนนี้ได้เลย
     
    สึนะมองตามหลังนาโอกิที่ออกจากห้องไป ใจของเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นปนกังวล เขายังตัดสินใจไม่ได้เด็ดขาด
     
    แต่ที่เลวร้ายที่สุดยังคงเป็นสภาพจิตใจของเด็กสาวผมม่วง เพราะสำหรับเธอ จุดจบของทุกสิ่งกำลังจะมาถึง สายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชายหนุ่มผมดำกำลังจะหยุดไว้เช่นนี้ ด้ายที่ขาดออกจะไม่สามารถต่อติดได้ไปตลอดกาล แม้ว่าเดิมทีเขาจะมองเธอเป็นเพียงเครื่องมืออยู่แล้วก็ตาม
     
    ชายหนุ่มผมเงินที่กำลังเดินอยู่นอกห้องยังคงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้ไม่หุบ นั่นเพราะเขายังมีแผนการอีกแผนการหนึ่งอยู่ในใจ
     
    ‘เท่านี้ก็เป็นหมูในอวยแล้วนะ นางิจัง คืนนี้สนุกแน่~’ ลิ้นแพลมออกมาเลียริมฝีปากโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก เป็นนิสัยส่วนตัวเวลาที่เหยื่อกำลังจะตกถึงท้อง
     
    --
     
    นางิเดินทอดน่องอยู่ในคฤหาสน์ท่ามกลางแสงสลัวของดวงจันทร์ในยามค่ำคืน ห้องที่เธอเคยใช้หลับนอนมาตลอดคืนนี้กลายเป็นเขตหวงห้าม...ระหว่างชายหนุ่มกับเด็กสาวคู่หมั้นเท่านั้น ส่วนเธอ...ต้องไปที่ห้องซีกตรงข้ามของคฤหาสน์ ไกลจากทั้งสองคน
     
    ‘...เป็นแบบนี้แล้ว...เราจะทนอยู่กับท่านเคียวยะต่อไปได้ยังงั้นเหรอ...’
     
    ใจของเธอมันเจ็บจนเกินทน หากความเจ็บปวดทางใจสามารถคร่าชีวิตได้เช่นเดียวกับบาดแผลทางกาย เธอคงตายซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเหลือคณา
     
    ‘แต่ถ้าเป็นคุณเคียวโกะ ท่านเคียวยะคงจะมีความสุข...’ ความคิดนี้เท่านั้นที่ทำให้เธอยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ได้รู้ว่าชายที่เธอรักจะมีความสุข...
     
    --
     
    เด็กสาวผมสีน้ำตาลเดินทอดน่องอยู่ในคฤหาสน์ท่ามกลางแสงสลัวของดวงจันทร์ในยามค่ำคืน ห้องที่เธอจะใช้หลับนอนในคืนนี้คือห้องเดียวกับ ‘เคียวคุง’ เพื่อนวัยเด็กของเธอ ซ้ำยัง...ถูกคาดหวังให้ทำอะไรบางอย่าง...เธอรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
     
    ‘ห้องนี้สินะ...’
     
    เด็กสาวค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกและก้าวเท้าเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอนั่งคุกเข่าลงข้างๆ ชายหนุ่มบนที่นอนด้วยท่าทีกระสับกระส่าย
     
    “ค—เคียวคุง—“
     
    หมับ
     
    ปากของเธอถูกปิดด้วยมือของชายในความมืด ซึ่งเมื่อเธอได้เห็นใกล้ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่เธอคาดเอาไว้ แต่เป็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลในชุดยูคาตะหลวมโพรก นั่นเพราะชายหนุ่มผมเงินบางคนจงใจบอกห้องให้กับเธอผิด
     
    สึนะจ้องมองใบหน้าของเคียวโกะ แสงอ่อนๆ จากดวงจันทร์ที่ทะลุผ่านประตูกระดาษติดสวนทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายสว่างนวลใส ดึงดูดความรู้สึกบางอย่างในตัวของเขาจนสะกดเอาไว้ไม่อยู่
     
    “เคียวโกะจัง...ขอโทษนะ...”
     
    “ว้า—!” เด็กสาวร้องออกมาเมื่อร่างของเธอถูกกดลงบนที่นอนผืนขาว ดวงตาของเด็กหนุ่มที่คร่อมร่างเธออยู่นั้นปราศจากความลังเล
     
    ‘ซ—ซือคุง!?’
     
    (DX:แค่นี้พอแล้วมั้ง ไม่ใช่ 2795 ซะหน่อย?)
     
    --
     
    ชายหนุ่มผมเงินอยู่ในความมืด รอเหยื่ออันโอชะที่เขาจับตามาเจ็ดเดือนเต็มๆ ตั้งแต่เด็กสาวผมม่วงเข้ามาอาศัยในคฤหาสน์หลังนี้
     
    ‘อีกไม่นานแล้วนะ นางิจัง~’
     
    เด็กสาวผมม่วงยังคงอยู่บนทางเดินที่ขนาบข้างด้วยห้องเปล่านับสิบ แม้จะอยู่ในชายคาอาคารแต่ในยามค่ำคืนเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากซอยเปลี่ยว
     
    ‘อีกไม่นานแล้ว~’ นาโอกิส่องไฟดูเวลาก็รู้ว่าเด็กสาวกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ
     
    และในขณะที่นางิผ่านหน้าห้องห้องหนึ่งที่ควรจะเป็นห้องเปล่าๆ ประตูก็เปิดผึงออกและตัวเธอก็ถูกดึงเข้าไปด้านใน
     
    “อื้อ!~ ” ปากของเธอถูกปิดเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้อง และแขนที่ยึดตัวเธอเอาไว้ก็แข็งแรงเกินจะดื้นหลุด
     
    เพียงแววตาที่ไร้ความปราณีเท่านั้นจ้องมองเธอจากในความมืดก่อนที่เธอจะถูกเหวี่ยงลงบนกับที่นอน
     
    คฤหาสน์ฮิบาริในคืนที่เงียบสงบนี้ นอกเหนือไปจากลมที่พัดโชยและเสียงร้องของจักจั่นแล้ว ก็มีเพียงเสียงร้องแห่งความสุข ความปรารถนา และความเจ็บปวดทรมานที่เล็ดลอดออกมาจากห้องทั้งสอง
     
    --
     
    *คนเขียนกลัวโดนฆ่าจึงหนีไปแล้ว งดคุยตอนท้าย ทิ้งไว้เพียงจดหมายอันไร้ความรับผิดชอบที่บอกว่า {เหลือหนึ่งตอนกับบทส่งท้าย} *
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×