ลำดับตอนที่ #35
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : ศึกเดือดกลางสี่แยก! สองผู้พิทักษ์ปะทะอสูรสาว!
Ch.32
ประกาศจากน.ส.น.
ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ตอนนี้ก็ขาดน้ำตาลจากคู่หลักอีกแล้ว
เพราะคนเขียนบ้าบทบู๊ไปหน่อย ฟิคนี้เลยกลายเป็นเจเนอรัลไปซะอย่างนั้น
แต่อีกไม่นานก็จะจบ และมีโปรเจคใหม่ของ 1896 ที่จะเขียนเน้นความโรมานซ์ล้วนๆ
เป็นพล็อตที่สนใจมาได้พักหนึ่งแล้ว แต่ความรับผิดชอบค้ำคอ
ดังนั้น อ่านกันไปก่อนนะครับทุกๆ คน
ขอทรินิเซตเต้จงสถิตอยู่กับทุกคน
--
ในค่ำคืนอันเงียบสงัดของเมืองนามิโมริอันสงบสุข ร่างสองร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงสลัวของหลอดไฟข้างทาง
เด็กหนุ่มในเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นกำลังต่อสู้กับเด็กสาวผมแดงในผ้าคลุมดำ
“ชิ ไวเป็นลิงเลยนะ” เสียงหวานของเด็กสาวบ่นด้วยความหงุดหงิด
“ฉันตัดสินใจแล้ว! จะต้องให้เธอเข้าชมรมมวยให้ได้!!” เสียงตะโกนอันดังลั่นเป็นของเด็กหนุ่มหัวสนามหญ้า
นักมวยหนุ่มพุ่งเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วพร้อมกับปล่อยหมัดออกไป
“ขวาตรงสุดหูรูด!!”
แทนที่จะหลบ เด็กสาวกลับยกมือซ้ายขึ้นรับหมัดที่แสนจะรุนแรงเอาไว้
ผัวะ!!
แน่นอนว่าผลที่ได้ผลกระดูกมือซ้ายของเธอร้าวและฝ่ามือบอบช้ำหนัก แต่เธอก็จงใจให้มันเป็นเช่นนั้น เพื่อที่จะจับตัวของนักมวยผู้มีฟุตเวิร์คอันรวดเร็วให้ได้
ปลายเล็บสีเลือดทั้งห้านิ้วจากมือซ้ายกดลงที่ข้อมือขวาของนักมวยหนุ่มอย่างแน่นหนาถึงแม้ว่ากล้ามเนื้อจะบอบช้ำเต็มทน
“ทีนี้ล่ะ ไม่รอดแน่”
ฉึก!
เล็บมือขวาจิกลงในแขนของอีกฝ่ายที่ยึดจับเอาไว้จนเลือดพรั่งพรูออกมาเป็นสาย ออร่าสีทองอร่ามของ ‘อรุณ’ ไหลจากบาดแผลเข้าไปในร่างของผู้จู่โจม รักษาแผลที่มือซ้ายจนกลับสู่สภาพเดิม
เรียวเฮตกที่นั่งลำบากเพราะเริ่มสูญเสียพละกำลังจนแทบจะสุดหูรูดไม่ไหว
แต่เราก็รู้ว่าวองโกเล่ไม่มีทางเสียท่าง่ายๆ อย่างนี้แน่นอน
จากทางหนึ่งของสี่แยก ร่างสูงปรากฏตัวขึ้น มือขวาแบก...กล่องซูชิ...
ยามาโมโตะ ทาเคชิกำลังจะไปส่งซูชิให้ลูกค้าบังเอิญเดินผ่านมา
“อ้าว รุ่นพี่ซาซางาวะนี่นา เล่นมาเฟียกันอีกแล้วเหรอ ^ ^!”
เด็กสาวผมแดงหันไปมองผู้มาใหม่ ความทรงจำในสมองของเธอดีดเป๊าะ เธอจำรอยยิ้มที่สดใสนั่นได้
“ผู้พิทักษ์แห่งพิรุณของวองโกเล่ ต่อไปเป็นแกเลยก็แล้วกัน”
ด้วยความเร็วที่ราวกับเสือชีต้าก็ไม่ปาน เด็กสาวใช้ไฟอรุณกระตุ้นกล้ามเนื้อขาและพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มผมดำอย่างรวดเร็ว
ฉัวะ!
ยามาโมโตะเอี้ยวตัวหลบทันอย่างหวุดหวิด กรงเล็บสีเลือดจึงเฉือนโดนเสื้อนักเรียนของเขาเป็นรอยยาวสี่รอยกับเลือดไหลซิบๆ เท่านั้น แต่เรื่องสำคัญก็คือ...
“ว้า~ ซูชิของพ่อหกหมดเลย ต้องไปขอโทษลูกค้าซะแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ยังพอมีเวลา จะเล่นมาเฟียกับเธอด้วยละกัน ^ ^”
ผู้พิทักษ์แห่งพิรุณเริ่มที่จะมีความเป็นมืออาชีพขึ้นมาตั้งแต่ได้ไปผจญศึกโลกอนาคต เขาจึงพกของสำคัญติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา
แหวนสีเงินสวมเข้าที่นิ้วกลางข้างขวาของเขาก่อนที่ไฟสีฟ้าใสจะลุกพรึ่บขึ้น ผู้พิทักษ์แห่งพิรุณชักดาบออกจากฝักที่ห้อยเอาไว้ด้านหลังออกมา ไฟสีเดียวกับที่ฉาบไปทั่วผิวของดาบญี่ปุ่นเล่มยาว
“น่าสนใจดีนี่ หน้าตาหล่อเหลาแล้วยังเป็นวิชาดาบอีก ชิ้นส่วนของนายขอเอาเป็นหัวก็แล้วกัน!”
เคร้ง!
กรงเล็บสีเลือดอันแข็งแกร่งปะทะเข้ากับดาบอันคมกริบ
แม้เด็กสาวจะมีแรงที่มือและเล็บเหนือสิ่งมีชีวิตทั่วไป แต่เธอกลับกำลังแพ้แรงของเด็กหนุ่ม เธอจึงได้สังเกตเห็นเปลวไฟสีฟ้าใสที่ฉาบอยู่บนผิวดาบบางๆ
เด็กสาวผมแดงฉีกยิ้มด้วยความตื่นเต้น
“ไฟชั้นเลิศอีกแล้ว ขอเลยก็แล้วกัน!”
แล้วเหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ไฟสีฟ้าใสบนดาบชิงุเระ คินโทคิถูกสูบหายไปจนเกลี้ยง นักดาบหนุ่มได้แต่มองด้วยความทึ่ง
“เห กลของเธอแปลกดีนี่ ถ้างั้นก็จะสู้ด้วยดาบล้วนๆ เลยก็แล้วกัน”
ยามาโมโตะออกตัวไปด้วยความรวดเร็วเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายในพริบตาก่อนที่มือขวาจะตวัดฟันดาบใส่ในแนวเฉียง
อีกฝ่ายยกกรงเล็บขึ้นป้องกัน แต่ก็มีแค่มือเปล่าๆ ที่วาดผ่านไป ส่วนดาบนั้นลอยอยู่กลางอากาศ รอให้มือซ้ายที่ตามมาทีหลังจับฟันใส่ในมุมที่ต่ำลง
-เพลงดาบชิงุเระ โซเอน กระบวนท่ารุก ท่าที่ห้า : ฝนเดือนห้า-
กิ๊ง!
แววตาของนักดาบลุกวาวด้วยความทึ่งและประหลาดใจ เพราะกรงเล็บในอีกมือหนึ่งของเด็กสาวจับเข้าที่ตัวดาบหยุดเขาเอาไว้ได้ ไฟธาตุอรุณกระตุ้นกล้ามเนื้อแขนและมือของเธอให้ขยับได้เร็วขึ้นหลายเท่า
“ว้าว! เธอเก่งเหมือนกันนะเนี่ย! งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ”
เด็กหนุ่มปล่อยมือจากดาบพร้อมทั้งหมุนตัวหนึ่งรอบและใช้แรงเหวี่ยงตัวบวกกับแรงสองแขนสะบัดดาบหลุดจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย พลิกแพลงเป็นท่าฟันต่อเนื่องระยะประชิดด้วยความเร็วสูง
-เพลงดาบชิงุเระ โซเอน กระบวนท่ารุก ท่าที่แปด : พิรุณกระหน่ำแทง-
เด็กสาวกรงเล็บกระเด็นล้มลง นักดาบคนหนึ่งที่เคยโดนท่านี้เข้าไปถึงกับจุกมาแล้ว แต่เธอกลับลุกขึ้นยืนได้อย่างหน้าตาเฉย จุดที่ถูกฟันมีประกายไฟสีเขียวแล่นเปรี๊ยะคล้ายกระแสไฟฟ้า
“เฮ้ๆ ไอ้นั่นน่ะ เหมือนเคยเห็นมาก่อนนะ” ยามาโมโตะจำได้ว่าเคยมีนักบิลเลียดคนหนึ่งป้องกันดาบเปล่าๆ ที่ไม่มีไฟดับเครื่องชนของเขาด้วยเกราะไฟธาตุอัสนีมาแล้ว
“หึ ไม่เลวนี่ แต่ไฟของพวกแกเอาชนะฉันไม่ได้หรอก” เด็กสาวแสยะยิ้มเยาะเย้ยอย่างได้ใจ ไม่ได้รู้เลยว่าร่างที่อ่อนแรงของนักมวยหนุ่มได้เข้ามาจากด้านข้างพร้อมทั้งตะโกนเสียงกึกก้อง
“หมัดรัวสุดหูรูด!!”
เรียวเฮกระหน่ำหมัดขวาที่บาดเจ็บจู่โจมเกราะอัสนีของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ แม้ว่าจะไม่เห็นผลเลยก็ตาม
“ทำอะไรไร้สาระกันจริงๆ” เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่รู้สึกตื่นตกใจแม้แต่น้อย และการประมาทถึงสองครั้งนี้ก็เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเธอ นักดาบหนุ่มจุดไฟที่ตัวดาบตั้งท่าหันปลายดาบมาทางเธอรออยู่แล้ว
“เพลงดาบชิงุเระ โซเอน กระบวนท่ารุกท่าที่หนึ่ง กงล้อพิรุณ!”
ดาบเล่มยาวแทงเข้าที่สีข้างของเธออย่างรวดเร็ว ทะลวงเกราะอัสนีของเธอเข้ามาได้เหมือนเป็นกระดาษบางๆ
ฉึก!
“อุ๊บ! แย่ล่ะ!” เด็กสาวเพิ่งจะรู้ถึงความผิดพลาดของตัวเอง แต่ก็สายไปซะแล้ว เพราะนักมวยหนุ่มทิ้งระยะห่างออกไปสามก้าว เงื้อมือซ้ายที่อุตส่าห์เก็บออมเอาไว้จนสุดตัวเพื่อที่จะปล่อยท่าไม้ตาย หมัดที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ
แม็กซิมั่ม แคนน่อน!
เปรี้ยง!
“สุดหูรูด!!”
ร่างของเด็กสาวลอยสูงขึ้นไปในอากาศ สติดับวูบไปเพราะหมัดที่เสยปลายคางของเธออย่างรุนแรง ก่อนจะตกลงกระแทกกับพื้น ไฟสีทองที่แขนและขาดับไป เล็บสีเลือดก็หดกลับไปเท่าเดิม กลายเป็นเด็กสาวผมยาวสีแดงในชุดผ้าขาวและผ้าคลุมดำปอนๆ คนหนึ่ง
--
R:”ตอนนี้เป็นช่วงต่อสู้ ที่จริงเป็นตอนเดียวกันกับตอนหน้า แต่แยกออกมาเพราะคนละอารมณ์กัน เชิญอ่านบทต่อไปได้ในทันที แล้วก็คอมเม้นท์บทบู๊ให้ด้วยว่าติดขัดหรือไม่เข้าใจตรงไหนรึเปล่า คนเขียนจะได้ปรับปรุง”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น